สัตว์เดรัจฉานสร้างบุญไม่ได้เลย จริงหรือ ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 2 พฤศจิกายน 2008.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,260
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,025
    ผมได้อ่านจากหนังสือธรรมะ เขาบอกว่า ดวงวิญญาณที่ได้เกิดมาในร่างสัตว์เดรัจฉานนั้น หมดสิทธิ์ที่จะสร้างบุญได้ มีเเต่จะสร้างกรรมเพิ่ม อันนี้จริงหรือครับ ? เเล้วพวกหมาเล็กน่ารักๆที่ทําให้เจ้าของไม่เหงายามอยู่ด้วย หรือทําให้เจ้าของที่เลี้ยงมีความสุข ยิ้มได้ยามเล่นกับมันนี่ ถือว่ามันได้บุญที่ทําให้เรามีความสุขได้ไหมครับ ? ผมสงสัยตรงนี้เหมือนกัน ขอบคุณครับสําหรับคําสั่งสอน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • J7101315-81.jpg
      J7101315-81.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.5 KB
      เปิดดู:
      114
  2. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    สัตว์เดรัจฉานมีสิทธิ์ทำบุญได้ครับ..แต่ไม่มีวิสัยที่จะบรรลุมรรคผล...(จะอยู่ในขั้นการบำเพ็ญบารมี...เหมือนพระพุทธองค์ก็เคยเสวยชาติเ้ป็นสัตว์เดรัจฉาน...ซึ่งก็ได้บำเพ็ญบารมีมายาวนาน)..
    การที่จะบรรลุมรรคผลได้ต้องอยู่ในอัตภาพมนุษย์เท่านั้นครับ...
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    เรื่องที่ ๑๔๔

    สุนัขที่วัดท่าซุงตายแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ฟังเทศน์แล้วเลื่อนไปอยู่สวรรค์ชั้นยามา



    "..วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๓๕ ตอนเช้าเวลาประมาณ ๘ นาฬิกาเศษๆ ท่านพระยายมราชมาบอกอาตมาว่า "เทวดา ๒ องค์เพิ่งเกิดใหม่ครับ คือเพิ่งเป็นเทวดาวันนี้ เมื่อวานนี้พระพุทธเจ้าเทศน์จึงไม่ได้ฟัง" และ ได้มีเทวดาอีก ๒๐ กว่าองค์เข้ามาใกล้ๆ อาตมาบอกว่า "ผมเคยเป็นสุนัขที่วัดของท่านครับ" ท่านพระยายมราชท่านบอกว่า "ทั้งหมดนี้เป็นเทวดาชั้นยามา แต่งชุดสีขาว"มีสุนัขอีกตัวหนึ่งตายทีหลังสุดบอกว่า "ผมเพิ่งตายเมื่อวานซืนนี้ครับ เมื่อวานนี้ได้ฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้า เดิมทีเดียวผมอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พอฟังเทศน์จบจิตสะอาดขึ้น ได้เลื่อนไปอยู่สวรรค์ชั้นยามา"<O:p></O:p>
    ก็เป็นอันว่าอาตมาได้บอกกับบรรดาเทวดาที่มาหาอาตมาว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ การถวายสังฆทานก็ดี บวชพระก็ดี มีอานิสงส์มากแต่ว่าอานิสงส์ก็แค่กามาวจรสวรรค์ ฟังเทศน์ดีกว่า ถ้าฟังเทศน์แล้วเธอสามารถปฏิบัติได้ เธอก็มีโอกาสได้เป็นพระโสดาบันเป็นอย่างน้อยหรือมิฉะนั้นก็เป็นพระอรหันต์..."<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p>http://www.thaisquare.com/Dhamma/aft...chapter144.htm</O:p>
     
  4. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ตายจากสุนัขไปเกิดเป็นเทวดา

    พอถึงเวลาเข้าพรรษาพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านต้องกลับภูเขาคันธมาทน์ ท่านก็ลาท่านคหบดี อาจจะบอกลาเจ้าสุนัขด้วยก็ได้ หลังจากนั้นท่านก็เหาะไป เจ้าสุนัขตัวนี้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าเหาะไปมันก็คิดถึง จึงเห่าบ้างหอนบ้างแสดงความอาลัย เมื่อท่านลับไปเจ้าสุนัขตัวนี้ก็ขาดใจตายทันที อาศัยที่มีความเคารพและรักในพระปัจเจกพุทธเจ้ามาหลายเดือน เมื่อตายจากสุนัขก็ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลกมีนามว่า "โฆษกเทพบุตร" (โฆษกะแปลว่ากึกก้อง) แปลว่า "เทวดาที่มีเสียงดัง"พูดตามปกติธรรมดาเสียงเบาๆ ดังไปไกล ๖๐ โยชน์ ถ้าพูดเต็มเสียงจะดังก้องทั่วดาวดึงส์และมีเสียงเพราะด้วย เป็นผลของการส่งเสียงนิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าและส่งเสียงขับไล่สัตว์ร้ายที่จะมีระหว่างทาง และก็ส่งเสียงแสดงความรักความอาลัยในพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เหาะไป <O:p></O:p>

    เจริญพุทธานุสสติกรรมฐาน

    การที่เจ้าสุนัขตัวนี้เห่าหอนจนขาดใจตายทันทีเมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าเหาะลับไป ก็เพราะมีความเคารพรักและอาลัยในท่านมาก ความรู้สึกอย่างนี้ในพระพุทธศาสนาเรียกว่า "พุทธานุสสติกรรมฐาน"ถ้าจะถามว่าสัตว์เจริญกรรมฐานได้หรือ ก็ขอตอบว่า "เจ้าสุนัขตัวนี้นั้นเจริญพระกรรมฐาน" ถ้าจะถามอีกว่า "ถ้าเจริญพระกรรมฐานมันนั่งสมาธิไม่ได้" <O:p></O:p>
    ก็ต้องตอบว่า "กรรมฐานไม่จำเป็นต้องนั่งขัดสมาธิ กรรมฐานอยู่ที่อารมณ์ของใจหรือสมาธิเป็นอารมณ์ของใจ และวิปัสสนาเป็นอารมณ์ของใจ ร่างกายจะอยู่ท่าไหนนั้นไม่มีความสำคัญ จะนั่งก็ได้ จะยืนก็ได้ จะเดินก็ได้ จะนอนก็ได้ ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าให้จิตจับอยู่กับอารมณ์กรรมฐานที่เราต้องการ"<O:p></O:p>
    อย่างเจ้าสุนัขตัวนี้จิตใจจับอยู่ในพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นปกติ ถ้าจะถามว่า "พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่ใช่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำไมจึงเรียกว่าพุทธานุสสติ" ก็ต้องตอบว่า "ปัจเจกพุทธะคือ พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งที่บรรลุเองโดยไม่ต้องมีครูสอนเหมือนพระพุทธเจ้า แต่ทว่าไม่มีหน้าที่สอนโดยตรงกับบรรดาท่านพุทธบริษัท ใครสนใจธรรมไปหาท่านก็ช่วยแต่ท่านไม่เดินไปสอนเป็นสาธารณะทั่วไปเหมือนพระพุทธเจ้า แต่ถ้ามีความจำเป็นท่านก็ไปหาเหมือนกันเป็นบางรายเท่านั้น<O:p></O:p>
    ฉะนั้น การที่สุนัขตัวนี้นึกถึงพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงเป็น "พุทธานุสสติ" <O:p></O:p>
    ต่อมาเกิดใหม่ภายหลังกรรมที่ทิ้งลูกให้ตายในป่า กรรมนี้เข้ามาสนองให้ท่าน ถูกทอดทิ้งให้ตายถึง ๗ ครั้ง <O:p></O:p>


    http://palungjit.org/showthread.php?t=120507

     
  5. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ข้อสงสัยต่างๆ อยู่ที่จิตเราครับ
    ทำจิตให้แจ้ง ข้อสงสัยต่างๆจะยุติลง
    อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านสอน

    จำได้ว่าเคยมีกระทู้แบบนี้ถามไปแล้วครั้งหนึ่ง
    (สงสัยเยอะจัง อิอิ..)

    http://palungjit.org/search.php?searchid=1609987
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2008
  6. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ตรงนี้ยังเป็นการเข้าใจผิดครับ ซึ่งยังจำกัดเฉพาะ
    ลองศึกษาดูที่ ท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 ,พระอินทร์, พระพรหม(โสดาบันก็มีครับ และสุทธาวาสพรหมก็มีครับ)
    ผู้ได้สดับฟังธรรมจากพระพุทธองค์ และได้บรรลุมรรคผลในกาลนั้นก็มีอยู่ครับ
     
  7. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    พอดีลืมนึกถึงจุดนี้ครับ...ขออภัยครับ..
    ที่คุณลีลาดี...เอ้ย..ลีลาวดีกล่าวถูกต้องครับ...(มีแซวนินะครับ)
     
  8. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    สัตว์ไม่รู้จักคำว่าบุญ บาป

    ในพระไตรปิฎก มีสัตว์อย่หลายชนิดเลยนะครับที่ไม่รู้หรอกครับ

    ว่าอะไรเรียกว่าบุญและบาป แต่การกระทำของมันเองนั้นละเป็นบุญและบาปสะสมเอาไว้ที่การกระทำ

    ฝากเชื้อเอาไว้ที่จิตสะสมที่ภวังค์จิตเช่นกัน

    ม้า ช้าง ลิง กลายเป็นเทวดาเพราะผลแห่งการกระทำ ที่ได้อุปัฎฐากพระพุทธองค์

    ค้างคาวมีจริตนิสัยเคยฟังธรรมมาก่อนและฟังเสียงสวดมนต์ แต่ไม่เข้าใจ

    เพียงแต่มีสุข มีความชื่นใจ สัตว์ที่สิ้นไป เป็นเทพ เป็นพรหม ได้เช่นกัน

    ไปอบายหรือเป็นเปรต อสูรกาย และมนุษย์ก็ไ้ด้เช่นกัน

    อยู่ที่คตินิมิต ที่กรรมที่ฝากเชื้อเอาไว้ที่จิต

    หมาที่ใกล้มนุษย์มีโอกาสเป็นมนุษย์ ถ้าใจมันปรารถนา และมีกุศลมาหนุนนำ

    ในศีลที่เคยรักษามาก่อน หมาบางตัว ปกป้องเจ้านายแลกด้วยชีวิต

    หมาบางตัวกู้ชีวิต มุดตึกถล่ม หาวัตถุระเบิดจนตัวตาย

    หมาบางตัวยอมเลี้ยงลูกตัวอื่น ยอมกินข้าวตัวสุดท้าย มีใจเสียสละ

    ใครสอนมัน ก็มีแต่อนุสัยสันดานที่ดีที่มันสะสมแสดงออกมา

    หมาแมวที่ยอมแม้แต่ให้ลูกสัตว์อื่นมาดูดนมมัน ใจมันอนุญาตด้วยเต็มใจ

    ก็ล้วนมาจากการกระทำของมันเองทั้งสิ้น

    มนุษย์ถูกสอนให้รู้ในสิ่งสมมุติว่านี่คือ บุญ นี่คือบาป

    สัตว์มันไม่รู้เรื่องหรอกครับ แต่มันทำตามใจ

    จิตที่เอื้อเฟื้อ เสียสละ จิตที่สละออก กล้าให้ กล้าทำ บุญที่เิกิดจากใจบริสุทธิ์

    ของสัตว์ยังดีกว่ามนุษย์ที่ติดบุญ เพียงแต่มันไม่รู้ มันทำเพราะสละออกด้วยใจ

    บุญชนิดนี้จึงมีผลคือแก่นบุญ ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังในผลแห่งบุญ

    สัตว์มีน้อยนะครับ ที่มีสามัญสำนึก การเสียสละ การให้ ถ้าเห็นหรือมีสัตว์ที่เลี้ยง

    มีจิตใจที่ดีก็ดูเอาไว้มันอาจจะเกิดชาติหน้าดีกว่าคุณ

    พวกเราที่ทำกริยาท่าทางเหมือนมันนั่นละจะไปเป็นมัน

    มนุษย์สู้หมาไม่ได้ตรงเรื่องการให้อภัยทาน

    หมาที่รักเจ้าของ ต่อให้ตี ทำร้ายมันขนาดไหน มันก็หมอบไม่สู้ ไม่แสดงอาการโกรธ มีแต่กลัว คุณทำร้ายมันเสร็จ คุณลองเรียกมันซิ

    มันจะสั่นหางวิ่งเข้ามาหาคุณทันทีด้้วยความดีใจที่เจ้านายไม่โกรธมันแล้ว

    สัตว์อย่างหมาก็รู้จักการให้อภัย ไม่ผูกโกรธคนที่มันรักอย่างสุดชีวิต

    แต่ขอโทษ ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของมัน ลองตีมันซิ มันจะจำคุณจนวันตาย

    และคอยจ้องอาฆาตคุณไปตลอดชีวิตทีเดียว

    ทำไมม้าหมา แมว หมู ค้างคาว ช้าง อื่นๆกลายเป็นพรหม เป็นเทวดาไปแล้ว
    พอจุติจิตดับและปฎิสนธิเป็นเทวดา เป็นพรหม ผุดขึ้นมาด้วยบุญ

    ทำไมถึงไม่แสดงอาการของสัตว์ออกมา

    พรหม เทวดา นางฟ้า ที่กลายมาเป็นสัตว์ก็เช่นกัน ทำไมพอเป็นสัตว์ ไม่วางตนให้คนมาเคารพมันเสียละ

    สัตว์ที่เกิดมาเป็นคน เช่นหมามาเป็นคน พอคลอดออกมาทำไมไม่ร้องหรือหอน
    เสียละ

    นี่ก็เพราะจิตที่สะสมภพมาอย่างหาไม่ได้ว่ามากมายขนาดไหน มันสะสมเชื้อเอาไว้อย่างมากมาย พอเกิดเป็นสิ่งไหนก็จะระลึกได้ด้วยผลแห่งภพ

    นั้นๆเป็นไปตามกรรมที่แสดงเหตุและผลในภพเดิมที่เคยจดจำอนุสัยสันดานที่มีมา

    ท่านคงจะเห็นแล้วนะครับว่า สังสารวัฎที่ไม่มีสิ้นสุด เราเกิดมาแหลกลาญ

    จนกระดูกกองไปทั่วจักรวาลไม่รู้กี่กองภูเขา สายน้ำตาที่หลั่งไหลยิ่งกว่ามหาสมุทรใดๆ

    ภพชาติไม่น่ากลัวเท่ากับความไม่รู้ความจริงของธรรมชาติ
    ที่มันหลอกเราให้จมอยู่กับมันชั่วนิจนิรันดร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2008
  9. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    นิทานแฝงคติธรรม
    หลวงตาพระมหาบัวฯ เล่าเรื่อง "ค้างคาวฟังธรรม"
    ….แม้แต่สัตว์เดรัจฉานตายแล้วเขายังไปสวรรค์ได้ ดังนิทานที่ท่านแสดงไว้ว่า พระกำลังสวดมนต์อยู่ในถ้ำ เพดานถ้ำนั้นพวกค้างคาวเข้ามาเกาะเต็มอยู่บนเพดานถ้ำ เวลาพระสวดมนต์ไป พวกค้างคาวทั้งหลายเหล่านั้นฟังธรรมท่านสวดมนต์ เกิดความปีติยินดีเคลิบเคลิ้มไปตาม สุดท้ายตีนของค้าวคาวนั้นหลุดจากเพดานถ้ำ หลุดตกลงมาถึงพื้นถ้ำตายเลย แล้วไม่มีจำนวนน้อยนะ ท่านกล่าวไว้ในนั้นค้างคาวตั้ง ๓๐ ตัวเวลาฟังเทศน์ ฟังซิเขาเป็นค้างคาว เจียดังวีกนั่นน่ะรู้ไหม คือค้างคาว นั่นแหละเวลาจิตเขาเป็นกุศล เขาฟังธรรมท่านสวดมนต์เขาเคลิ้มไปตามยินดีไปตาม เคลิ้มไปตาม จนกระทั่งตีนเขาหลุดจากเพดานถ้ำตกลงมาพื้นถ้ำนี้แล้วตายไปด้วยกัน ค้างคาวเหล่านี้ไปสวรรค์ได้ด้วยกัน นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแสดงไว้…
    เสียงธรรมเป็นของง่ายเหรอ มันเกาะผนังถ้ำฟังธรรมท่านสวดอยู่เลยเพลินๆ ตกลงมาหัวมาถูกพื้นแข็งๆ เลยตาย แล้วได้ไปสวรรค์หมด นั่นฟังซิ จิตเป็นจิตอย่างเดียวกัน จ่ออยู่กับธรรมอันเดียวกัน เวลาตกลงมาตายก็ไปสวรรค์ คัมภีร์ท่านบอกไว้ชัดเจนมาก ท่านบอกว่าเสียงธรรมนี่เข้าที่ไหนเป็นคุณทั้งนั้น ท่านว่าอย่างนั้น ไม่เป็นโทษกับผู้ใด เสียงธรรมเข้าที่ไหนเป็นคุณๆ
    สัตว์ก็ตาม คนก็ตาม ถ้ามีบุญแล้วไปสวรรค์ได้ทั้งนั้น สวรรค์ไม่ได้กีดกันว่าเป็นชาติชั้นวรรณะใด ขอให้มีบุญมีกุศลสมควรแก่สวรรค์ชั้นนั้น ๆ แล้วเราก็จะได้ไปสวรรค์ชั้นนั้น ๆ ตามอำนาจแห่งบุญกรรมของเราที่สร้างมามากน้อย แต่คนสร้างบาปสร้างกรรมก็เหมือนกัน ไม่มีชาติชั้นวรรณะ ตายแล้วลงนรกได้ด้วยกัน ลงได้ที่ความชั่วกดดันพาให้ลงไป ให้พากันจำ….

    ที่มา : http://www.tigertemple.org/dhamma_story1.htm
     
  10. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,260
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,025
    ผมชอบที่พี่ ชัชวาล เพ่งวรรธนะ วิเคราะห์ออกมาจังครับ ได้ประโยชน์มาก มีเหตุมีผลดีครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชี้เเนะทางสว่างให้ผมนะครับ ขอบคุณจากใจจริง /\
     
  11. kacher

    kacher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +235
    เข้ามาเก็บข้อมูลค่ะ
    รักน้องหมาเหมือนกันค่ะ อิอิ
     
  12. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,260
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,025
    กลับมาอ่านกระทู้นี้อีกรอบครับ ผมมีหนูเเกสบี้ตัวหนึ่งเป็นเพศเมียครับพี่ ชัชวาล เพ่งวรรธนะ ผมเห็นความมีนํ้าใจของเขา ( ข้าวผัด ) เเล้วอึ้้งไปเลยครับ เป็นหนูเเกสบี้จริง เเต่เขามีนํ้าใจประเสริฐมากๆเช่น เวลาเขากินนํ้าที่ผมป้อนอยู่ ถ้าอยู่ดีๆ มีตัวอื่นวิ่งมาเเย่ง เขาก็หลีกทางให้เฉยๆเลย คือเขายอมเป็นผู้ให้ ไม่ต้องเเย่งกับชาวบ้านทั้งๆที่ตัวเองมาก่อน ผมเห็นเเล้ว ผมกราบมันอย่างไม่อายเลยครับ อีกอย่างคือ พอตัวอื่นมีลูกเเล้วไม่ยอมป้อนนมให้ ข้าวผัดก็รับอาสาป้อนให้ซะอย่างนั้น สุดยอดครับ ผมคิดว่าชาติหน้าข้าวผัดต้องเกิดมาเป็นคนที่สวยมากเเน่ๆถ้าเป็นผู้หญิง เป็นผู้ชายก็คงจะต้องหล่อมากๆ ที่พิมพ์อยู่ตอนนี้ ข้าวผัดก็กําลังเดินหาอะไรกินอยู่ครับ หิๆๆ ผมรักเขามากจริงๆ จิตใจเขาสูงกว่ามนุษย์มาก เวลานั่งสมาธิเเผ่เมตตาเเล้ว ผมจะเเผ่ให้เขาทุกวัน ขอให้ชาติหน้าเขาเป็นคน เพราะผมเชื่อว่าเขาต้องเป็นคนที่ดีได้อย่างเเน่นอน
     

แชร์หน้านี้

Loading...