สายสัญญาบารมีการปฏิบัติธรรมแนวใหม่ ลำปลายมาศ บุรีรัมย์

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sysunya, 12 มีนาคม 2010.

  1. sysunya

    sysunya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +6
    การปฏิบัติธรรมแนวใหม่สายสัญญาบารมีจุดมุ่งหมายของพระองค์ต้นซึ่งท่านได้วางแนวทางการปฏิบัติธรรมเพื่อเสริมสร้างบารมีให้มากพอจะไปเกิดในศาสนาของพระศรีอาริยะเมตตรัย สายยตรง โดยมีวิธีการดับล้างอวิชชา มลทินทุกข์ ความมืดมนของสังขารวิญญาณ การลงองค์พระธรรมเพื่อเสริมบารมีของเราจากองค์พระซึ่งท่านสำเร็จแล้วถ้าบารมีเรามีพอที่จะรองรับองค์พระธรรมก็จะออกเหตุตามหน้าที่ของท่านทำให้เราสว่างใวขึ้น สร้างสังฆทานเพื่อสร้างบารมีอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรโดยให้มีอุปสรรคน้อยที่สุด การปฏิบัติ ซึ่งไม่มีอะไรยากเพียงต้องมีความวิริยะ อุตสาหะ ในการปฏิบัติแล้วก็พิจารณาตามทำนองคลองธรรม ตามกฎแห่งกรรมซึ่งพระองค์ต้นท่านได้วางไว้เท่านั้นทุกอย่างก็จะไปได้ดี มีข้อควรพิจารณาคือเราอย่าไปหลงฤทธิ์หรือแนวทางต่างๆ ที่ไม่ใช่ศีลละมัย จะต่างก็แต่เพียงการพิจารณาว่าทุกอย่างเกิดแต่กรรมเราจะทำอย่างไรกรรมที่ไม่ดีที่เราเคยทำไว้จะตามไม่ทันเรา โดยเราต้องสร้างบุญญาบารมีให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อหนีกรรม <O:phttp://www.sysunya.com/</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111.gif
      111.gif
      ขนาดไฟล์:
      10.9 KB
      เปิดดู:
      1,773
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2010
  2. sysunya

    sysunya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +6
    ที่มาของการสร้างบารมีแนวใหม่"สายสัญญาบารมี"

    เนื่องจาก พระไตรปิฎก มีมากถึงแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ซึ่งความจริงแล้ว พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ตั้งแต่ในอดีตทรงแสดงพระธรรมแปดหมื่นสี่พันเท่ากัน และเหมือนกันทุกพระองค์
    ในช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าล่วง เข้ามาได้ ๒ พันปีเศษนี้ การนับถือ การเข้าใจ การเข้าถึงความรู้ ความจริง และแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาจากประชาชนชาวโลกคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเป็นอันมาก
    สภาวะ สถานะ ของความเป็นมนุษย์ก็มีความวิปริตผิดพลาดไปและมีความวิปลาส คลาดเคลื่อนไป ไม่คงสถานะของความเป็น "มนุษย์" ที่แปลว่า "ผู้มีใจสูง" ละทิ้งความเป็นปกติของมนุษย์(ผู้มีใจสูง)ไป กระทำในสิ่งที่ ปกติมนุษย์เขาไม่กระทำกัน คือ ทิ้งศีล ละเมิดศีล ๕ ข้อ ที่ทำให้มนุษย์เป็นผู้ได้ชื่อว่ามีใจสูง
    สถาวะ สถานะ ทางพระพุทธศาสนา ก็วิปริต วิปลาส คือผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปเป็นส่วนใหญ่
    สำนักปฏิบัติธรรมต่างๆ พากันผุดขึ้นมามากมายเหมือนดอกเห็ด แต่ละสำนักก็สอนผิดแผกแตกต่างกันออกไป ผิดบ้างถูกบ้าง เอาสีข้างเข้าถูบ้าง เอาตามความเห็นความเข้าใจของตน ผู้เป็น เจ้าสำนัก ต่างยกเอาอ้างเอาคำสอนเอาพระไตรปิฎกอิงเข้าข้างฝ่ายตน เพื่อลาภ เพื่อประโยชน์แห่งตนหรือสำนักของตน เอาคำสอนต่างศาสนา เอาลัทธิอื่น นอกศาสนามาหลอมรวมกันมั่วไปหมด หนำซ้ำยังโจมตีท่านผู้ที่สอนถูกต้องตามพุทธ บัญญัติ ว่าหลอกลวงบ้างอวดอุตริบ้าง ซึ่งมีอยู่มากมาย เป็นเหตุให้ ประชาชนชาวพุทธ เข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนกันไม่น้อย
    โดยเจ้าสำนักทั้งหลายเหล่านั้น ท่านพากันลืมหรือไม่ใส่ใจในพุทธพจน์ขององค์ สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ทราบว่าการปฏิบัติธรรมนั้นต้องมี "ปุพเพกตปุญญตา" ตามที่ได้เคยสร้างความดีมาแต่ในอดีตเป็นพื้นฐาน
    หากบุคคลใดไม่เคย ได้สร้าง ได้กระทำ ได้สะสมมา แต่อดีตชาติมาสร้างใหม่ ฝึกใหม่ เรียนใหม่ ไม่ว่าวิธีใด แบบไหน แนวไหน ตั้งแต่เกิดจน ตาย ถ้วนสามชาติหรือสามครั้ง สามหนก็ไม่สำเร็จ
    ส่วนหลักสูตรพระพุทธเจ้าท่านก็วางไว้ ๔ หลักสูตร ซึ่งเป็นไปตามอัธยาศัยของแต่ละบุคคล
    ๑.สุขวิปัสสโก สำหรับผู้ที่ต้องการเรียบๆ ไม่ต้องการฤทธิ์เดช ทำแบบสบายๆ ไม่ชอบจุกจิก ได้แต่สมาธิเฉยๆ มี่จิตเป็นสุข จิตมีกำลังตัดกิเลสได้
    ๒.เตวิชโช หรือ วิชชาสาม มีญาณ ๘ อย่าง คือ
    ทิพจักขุญาณ เห็นผี เห็นนรก เห็นสวรรค์ได้
    จุตูปปาตญาณ รู้ว่าคนที่มาเกิดก่อนเกิดมาจากไหน และตายแล้วไปไหน
    เจโตปริยญาณ รู้และเห็นจิตของคนได้ คนไหนจิตดี คนไหนจิตเลว
    ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติได้ ไม่จำกัด
    อตีตังสญาณ รู้เรื่องภาวะในอดีตได้
    อนาคตังสญาณ รู้เรื่องภาวะในอนาคตได้
    ปัจจุปันนังสญาณ ในปัจจุบันใครทำอะไรที่ไหนรู้ได้
    สถานะและสภาวะทางสังคม บ้านเมืองเปลี่ยนผู้นำ เปลี่ยนการปกครองบ่อย เกิดสงครามภายนอกภายในประเทศ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนความเป็นอยู่ฝืดเคืองแร้นแค้น ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยังถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้นำเป็นสมาชิกของลัทธิการปกครองอื่น พระราชาที่ปกครองแผ่นดินก็ถูกริดรอนพระราชอำนาจ ประชาชนถูกสั่งให้ทำตามความต้องการของผู้นำถูกจำกัด สิทธิ์ ระส่ำระสายหนัก ซึ่งเป็นเวลาที่ดวงวิญญาณจากชั้นอบายภูมิทั้ง ๔ ขึ้นมาเกิดบนโลกเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นไปตามกาลและกรรมของประเทศสยามดินแดนแห่งพุทธภูมิแผ่นดินที่พระโพธิสัตว์จุติลงมาอุบัติบังเกิดเพื่อสร้างสมพระบารมี ให้สำเร็จเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากมายหลายพระองค์สุดจะนับได้ตั้งแต่อดีตกาล
    ด้วยเหตุนี้จึงมีดวงพระวิญญาณ ระดับพระโพธิสัตว์จากสวรรค์ชั้นดุสิตพระองค์หนึ่งได้จุติลงมาอุบัติบังเกิด บนโลกมนุษย์ บนแผ่นดินสยามประเทศในเขตภาคอีสาน มีพระนามตามสถานะของคนใน ประเทศว่า ทองพูน เสาโร ทรงศึกษาพระพุทธศาสนา ทรงเล็งแลเห็นว่า วิชชา ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงวางไว้ทั้งสี่วิชชา และมีความละเอียดถึงแปดหมื่นสี่พันพระธรรมนั้น ยากที่ประชาชนชาวบ้านที่ประกอบเกษตรกรรม กสิกรรม และประชาชนทั่วไปจักเข้าใจ ปฏิบัติได้ถูกต้องตรงตามวิถีจนถึงจุดหมายที่ตนปรารถนาหรือพ้นทุกข์ได้โดยง่าย
    จึงทรงดำริว่า ถ้านำวิชชาทั้งสี่มารวมกัน ให้ผู้ที่มีปุพเพกตปุญญตา คือ กุศลเดิมทั้งสี่สายวิชชา มาปฏิบัติร่วมกันในแนวทางเดียวกัน วิธีเดียวกัน แล้วให้ได้รับเหตุผลได้รับการปฏิบัติตามกุศลมูลเดิมของแต่ละบุคคล ตามสายกุศลมูลเดิมจัดได้หรือไม่
    อีกทั้งปรารถนาที่จะทรงสงเคราะห์ กอบกู้ชาวไร่ชาวนาที่ขัดสนจนยากเลี้ยงชีพด้วยการเกษตร ฉีดยาฆ่าแมลง จับสัตว์น้ำขาย เลี้ยงสัตว์เป็นขาย ให้พ่อค้านำไปฆ่าเพื่อเป็นอาหาร ด้วยความจำเป็นเพราะต้องเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว ได้มีโอกาสประพฤติปฏิบัติธรรม มีความหวังที่จะได้ไปเกิด ในสมัยที่พระองค์ได้เสด็จตรัสรู้เป็นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าบ้าง
    ด้วยเหตุและปัจจัยที่ท่านได้ทรงสร้างสมบารมีมาถึงสิบหกอสงขัยยิ่งด้วยสองแสนกัปตามวิถีแห่งพุทธภูมิผู้ปรารถนาพระโพธิญาณเพื่อกอบกู้สัตว์โลกทั้งหลายให้ข้ามพ้นวัฎฎสงสาร ท่านจึงได้รับพระพุทธานุญาตจากองค์ปฐมบรมศาสนาสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสิกขีที่หนึ่งผู้ก่อกำเนิดและเป็นเจ้าของพระพุทธศาสนาพระองค์แรกและพุทธานุญาตจากองค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นเจ้าของเขตพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน แต่โดยวิสัยพระองค์ไม่สามารถสอนวิชชาเดียวกับพระพุทธเจ้าได้ ต้องตั้งวิชชาและทฤษฏีใหม่ตามที่ทรงดำริไว้แต่แรก เรียกว่า วิชชาสายสัญญาบารมีธรรม ได้รับพระนามใหม่ว่า "พระองค์ต้น" ต้องสร้างตัวใหม่เพื่อทรงเป็นผู้นำสายสัญญาเต็มตัว</STRONG>
    โดยมีองค์พระบารมีทรงเป็นผู้แนะนำในการสร้าง ทั้งองค์ดับล้าง ตั้งองค์พระธรรม ลงหลักแก้ปัญหา รับรองสังฆทาน จนท่านสำเร็จเป็นองค์พระผู้นำสร้างองค์ต้นบ่อเกิดแห่งธรรม บ่อเกิดกุศล ต้นบวรพระพุทธศาสนาของพระศรีอริยะเมตตรัย ท่านสามารถออกเหตุออกผลรับรองการประพฤติปฏิบัติธรรมได้ตามเหตุตามผล ตามกุศลมูลเดิมของศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรมกับพระองค์ท่านทั้งสี่สายวิชชา ตรงตามดำริตรงตามความปรารถนาของพระองค์ท่านแต่แรก
    วิชชา ๔ ของพระองค์ต้น ทองพูน เสาโร จากที่พระองค์ท่านทรงได้รับ การชี้นำ การนำสร้าง การประคับประคอง ในการสร้างตัวเพื่อให้สำเร็จวิชชา สัญญา จากองค์พระบารมีเบื้องบนนั้น ทำให้เกิดวิธีปฏิบัติในการสร้างตัว ของสายสัญญา ๔ วิธี
    ๑. การดับล้าง
    ๒. การลงองค์พระธรรม
    ๓. การลงหลักธรรม
    ๔. การสร้างทานบารมี
    ทั้ง ๔ วิธีนี้ เป็นการ คัด ตัด ย่อ ขยาย รวบรวม และปรับแต่ง การปฏิบัติ ทั้ง ๔ วิชชาของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก ยกเอามาเป็นวิชชาใหม่ เรียกว่าทฤษฎีใหม่ ที่เป็นทฤษฎีใหม่ เพราะมีการบัญญัติศัพท์ขึ้นมาใหม่ ไม่ยกเอาศัพท์เก่ามาทั้งหมด ในการดับล้าง ท่านได้บัญญัติ องค์ดับองค์ล้างขึ้นมาใหม่ ได้ตั้งรูปองค์พระธรรม ขึ้นมาใหม่ การสร้างทานแบบใหม่(ดูรายละเอียดในหลัก ๔ ของ วิชชาสัญญา) ซึ่งไม่ว่าประชาชนคนชั้นใด ทำอาชีพใด เอาตั้งแต่แค่อ่านภาษาไทยได้ เขียนอักษรไทยได้ ไปจนถึงคนจบปริญญา จบดอกเตอร์ มีสิทธิ์มีโอกาสศึกษา เล่าเรียน และปฏิบัติธรรม สายสัญญาเท่าเทียมกัน หมดทุกคน ทุกชนชั้น เพราะต้องมาเริ่มหัดอ่าน องค์ดับล้าง หัดเขียนองค์พระธรรม ของพระองค์ต้น กันใหม่หมดทุกคน ไม่เว้นแม้ว่า บุคคลเหล่านั้น จะมีสถานะทางอาชีพการงาน หรือทางสังคมสูง-ต่ำเพียงใด และต้องเรียนให้ครบทั้งหมด ทั้ง ๔ วิธี หรือ ๔ วิชชา ๔ หลักของสายสัญญา จะเลือกเรียนเลือกปฏิบัติเพียง ๑ วิชชา ๒ หรือ ๓ วิชชา หาได้ไม่ แต่ในการเรียนการศึกษาและปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติจะมีความรู้ความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญ ในแต่ละวิชชาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความวิริยะ ความสนใจใคร่รู้ ท้ายสุดขึ้นอยู่กับกุศลมูลเดิม สายเดิมของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ
    หลัก ๔ ของวิชชาสัญญา (วิธี ๔, วิชชา ๔ ) พอสังเขป


    ๑. การดับล้าง

    ด้วยองค์ดับล้างเนื่องจากมนุษย์ ทุกรูปทุกนาม ที่อุบัติบังเกิดมาบนโลกใบนี้ ล้วนแต่ได้ผ่านการเกิดดับ ล้วนแต่ได้ผ่านาการเกิดดับๆ มาแล้ว นับภพนับชาติไม่ได้ ที่ต้องวนเวียนอยู่ใน สังสาราวัฎนี้ เพราะได้กระทำกรรมชั่วกันไว้ มากบ้างน้อยบ้างตามเหตุตามปัจจัยของแต่ละคน ทำให้ทุกคนที่เกิดมา มีมลทิน ของความเลว ชั่ว ติดตัว คือ สังขาร ติดวิญญาณ มาเกิดด้วยทุกคน ยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งสะสมไว้หลายภพ หลายชาติ มลทินนั้นยิ่งสกปรก ยิ่งเกาะแน่น ยิ่งดำเปื้อนมากยิ่งขึ้น คอยกั้นขวาง สังขาร ทำให้สังขารตกไปในทางที่เสื่อมลงเรื่อยๆ คอยชักจูงปรุงแต่งเหตุและผล ให้สังขารให้จิตวิญญาณไม่มีความละอายหรือเกรงกลัว ที่จะละเมิดคุณธรรม ศีลธรรม อันดีงาม เมื่อละเมิดคุณธรรม ศีลธรรมกันได้ง่ายๆ สังขาร จิตวิญญาณที่ทำก็ตกต่ำ สังคมโลก ก็เดือดร้อนวุ่นวาย
    องค์ดับองค์ล้าง ของพระองค์ต้น จึงเกิดขึ้นจากการนำสร้างนำปฏิบัติขององค์พระบารมี เพื่อใช้ดับใช้ล้าง มลทิน ทั้งหลายที่ติดสังขารวิญญาณ ของบุคคลมาตั้งแต่อดีต ที่ทำให้สังขารเจ็บป่วยทุกข์ทรมานด้วยโรคพยาธิ ทำให้จิตวิญญาณหดหู่ห่อเหี่ยวระทมทุกข์ เรียกว่าทุกข์กายทุกข์ใจ
    องค์ดับ ใช้ดับตัวต้นเหตุที่คอยชักจูง ปรุงแต่งให้สังขารวิญญาณกระทำความชั่ว ให้สิ้นฤทธิ์ ให้ดับ ให้ตายลงไป
    องค์ล้าง ใช้ล้าง คราบมลทิน ที่เกิดจากการกระทำความผิด ความชั่ว มาตั้งแต่อดีต ออกจากสังขาร ออกจากจิต และวิญญาณ ทำให้สังขาร จิต และวิญญาณสะอาดขึ้น ใสขึ้น วิญญาณสวยงาม สว่างขึ้น
    องค์ดับและองค์ล้างทั้งสององค์นี้ ความจริงมีมากมายหลายองค์ ถ้านับจำนวนก็เป็นหมื่นองค์ ซึ่งแต่ละองค์ก็ทำหน้าที่ดับหน้าที่ล้างตามเหตุตามกรณี ที่ทำให้มลทิน แต่ละมลทินเกิดขึ้น
    ซึ่งพระองค์บารมี ท่านคัดมาจาก การดับกิเลสได้สำเร็จ ของพระอริยะเจ้าชั้นโสดาปัตติผลขึ้นไป ถึงพระอรหันต์ผล ทั้ง ๔ สาย รวมกับของพระองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน และในอดีตอีกหลายพระองค์ โดยใช้เตโชธาตุซึ่งเป็นธาตุประจำพระองค์ของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่สาม ท่านอนุญาตให้ใช้เป็น “ไฟทิพย์” และองค์สมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันอนุญาตให้ใช้ "วาโยธาตุ" ซึ่งเป็นธาตุประจำพระองค์ท่านใช้ในการดับล้างสังขารวิญญาณให้สะอาดได้ เมื่อทำการดับล้างตามวิธีการเสร็จแล้ว ต้องกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และอธิฐานจิตเข้าสู่พระศาสนาขององค์ ๕ เป็นอันจบวิธีการดับล้าง
    หมายเหตุ กรรมหนักที่เกิดจากการทำอนันตริยะกรรม ไม่สามารถดับล้างออกได้ เช่น ฆ่าบิดา มารดา ฆ่าพระอรหันต์ กระทำสงฆ์ ให้แตกกัน เป็นต้น


    ๒. การลงองค์พระธรรม

    พระองค์ต้นท่านตรัสว่า เมื่อดับล้าง สังขาร – วิญญาณสะอาดแล้ว เปรียบได้กับเรา ได้ทำการกวาดถูบ้านเรือน ของเราสะอาดแล้ว เราควรเอาสิ่งของที่ดี ที่สะอาด เข้ามาไว้ในบ้านเรือนของเรา ท่านยังเปรียบเทียบสังขารของคนเราเช่น กายนคร เมื่อกายนครสะอาดแล้ว ควรเอาสิ่งดี สิ่งเป็นมงคล สิ่งที่สะอาด เข้ามาแล้วไว้ในกายนคร เพื่อความเจริญรุ่งเรือง นั่นคือ เมื่อดับล้างเสร็จแล้ว ท่านให้จารึก หรือ เขียนองค์พระธรรมสำเร็จ ใส่ไว้ในตัวหรือสังขารของเรา
    ลำดับแรกพระองค์ท่านทรงให้ลงองค์นะธรรมธาตุ เป็นองค์ธาตุสี่ สำเร็จที่องค์พระบารมีท่านส่งลงมาให้ ผู้ปฎิบัติธรรมสายสัญญา ใช้ปรับธาตุในกายนคร ในกองสังขาร ให้บริสุทธิ์ขึ้น สะอาดและสมบูรณ์ขึ้น ให้ธาตุในกองสังขารละเอียดขึ้น แน่นขึ้น เพื่อเป็นฐานรองรับองค์พระธรรมชั้นสูงองค์ต่อๆไป


    ๓.การลงหลักธรรม


    - ตีหลักยั้งเพื่อคัดเอาองค์พระธรรมสำเร็จ มาไว้ในพระศาสนา ในสายสัญญาของพระองค์ต้น วิธีนี้มีพระองค์ต้นทรงทำได้เพียงพระองค์เดียว
    - ตีหลักอำนวยการ เป็นการลงหลัก ตีหลักเพื่อยั้งให้องค์พระบารมีท่านช่วยอำนวยการ ให้กับผู้ปฎิบัติธรรม มีความคล่องตัวในการปฏิบัติธรรม
    - ตีหลักแก้ไขปัญญา เป็นการลงหลัก ตีหลัก แก้ไขปัญหาในการดำเนินชีวิต ในธุรกิจหน้าที่การงาน ให้กับผู้ปฎิบัติธรรม
    - ตีหลักปราบมาร เป็นการลงหลัก ตีหลัก ปราบอวิชชา วิญญาณอุบาทว์ วิญญาณที่ก่อกำเนิดจากอวิชชา วิญญาณฝ่ายอกุศลที่ไม่มีศีลธรรมทั้งหลายทั้งปวง ที่คอย ขัดขวาง ฉุดดึง เหนียวรั้ง มิให้ผู้ปฏิบัติธรรม ได้ประพฤติปฏิบัติสัญญาธรรมได้คล่องตัวตามที่ตนปรารถนา
    - ตีหลักยั้งทรัพย์รับรอง เป็นการลงหลัก ตีหลัก เพื่อให้องค์พระธรรมท่านทรงช่วยเหลืออำนวยการ ให้ผู้ปฎิบัติ สัญญาธรรมมีความคล่องตัว ทั้งเรื่องอริยะทรัพย์และโภคทรัพย์ ให้มีมารับรองผู้ปฎิบัติ ตามกุศลมูลเดิม
    - การลงหลักตีหลักมักกระทำควบคู่กับการทำสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรด้วยเสมอบางปัญหาอาจต้องอาบน้ำมนต์ด้วย


    ๔. การสร้างทานบารมี

    เป็นการสร้างบารมี-กุศลบารมี เพื่อต่อจุนอายุสังขารให้ได้ไปยั้ง(เกิด)ในพระพุทธศาสนาขององค์พระศรีอริยะเมตตรัย ช่วยแก้ไขปัญหาที่ติดขัดในการดำเนินชีวิต-ในการปฏิบัติธรรมได้และเป็นการเพิ่มพูนบารมีของผู้ปฏิบัติสัญญาธรรม ให้สูงยิ่งๆขึ้นไป จนสามารถถึงขั้นลุเวรลุกรรม พ้นจากอบายภูมิ และให้สำเร็จการสร้างทานบารมีในที่สุด ในการสร้างทานบารมี นั้นมีหลายอย่าง
    ๑. ทาสทาน การเอาของที่เลวกว่าของที่เรากินเราใช้ ให้เป็นทาน
    ๒. สหายทาน การเอาของที่เสมอกันกับของที่เรากินเราใช้ให้เป็นทาน
    ๓. สามีทาน การเอาของที่ดีกว่าของที่เรากินเราใช้ ให้เป็นทาน
    ๔. สังฆทาน มีทั้งกับข้าวอาหารคาวหวานที่ปรุงสุกสำเร็จแล้วและข้าวสารอาหารแห้ง ผักสด ผลไม้ นำ้ดื่ม ตลอดทั้งสิ่งของที่เก็บได้นาน
    ๕. ธรรมทาน เช่น การบอกเล่าถึงการปฏิบัติ ถึงอานิสงส์ของการปฏิบัติธรรมสายสัญญาที่ถูกต้องตามความเป็นจริง การลงองค์พระธรรมโปรดญาติ
    สำหรับการรับ-รวบทานต่างๆไปจนถึงสังฆทานนั้น พระองค์ต้น ท่านทรงได้รับพุทธานุญาตให้ท่านรับ-รวบทาน ได้ทุกอย่างและท่านยังได้เป็นองค์บัญญัติอนุญาตให้ศิษย์ของท่านที่ปฏิบัติสัญญาธรรมจนบรรลุธรรมระดับหนึ่ง สามารถรับ-รวบทาน และสังฆทานให้ญาติได้โดยในปัจจุบันมีดวงพระวิญญาณของพระองค์ต้น และองค์พระบารมีขององค์พระผู้สำเร็จทุกพระองค์ ทุกกระทรวง คอยรับรองอำนวยการทุกคราวไป
    อานิสงส์ และผลของการสร้างบารมีแบบสายสัญญา(สัญญาธรรม)
    ผลของอนิสงส์ ของการดับล้างและลงองค์พระธรรมไว้ในสังขาร ทำให้สังขารสะอาด วิญญาณสวยงามสว่างไสว มีรัศมีกว้างไกล ชั้นสูง ดวงวิญญาณเป็นพระสวยงามมาก สังขารไม่เจ็บป่วยจากโรคร้าย มีอายุ ยืนนานขึ้น
    ผลและอานิสงส์ของการ ลงหลักธรรม และสร้างสังฆทานบารมี ทำให้สังขาร-วิญญาณมีบารมีธรรมสูงขึ้น จนหลุดพ้นจากปัญหานานา ประการ ลุเวรลุกรรม พ้นอบายภูมิ
    เมื่อผู้ใดบุคคลใด สร้างถึงจุดที่พระองค์ต้นท่านกำหนดไว้ ก็จะได้ไปสถิตย์ที่ทิพย์วิมานสถาน ชั้นดาวดึงสเทวโลก เมื่อถึงยุคสมัยจักไปอุบัติบังเกิดในเขตพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระศรีอริยะเมตตรัยสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ปวงชนในสมัยนั้นมีอายุขัยประมาณแปดหมื่นปี ตามพระดำริที่พระองค์ต้นท่านทรงตั้งไว้แต่แรก
    ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดพิจารณา ถึงสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ว่ามีความเป็นไปได้เพียงใด ถ้าท่านเห็นว่าเป็นความจริง จงเร่งเริ่มศึกษาเล่าเรียน ประพฤติปฏิบัติ กันโดยเร็วเถิด(ท่านที่ได้มโนมยิทธิ กับวิชชาสามขึ้นไป และมีทิพจักขุญาณแจ่มใสทุกท่าน สามารถตรวจสอบความเป็นจริงของเรื่องนี้ได้)

    ทุกท่านที่ได้พบเจอ ได้อ่าน บทความนี้ จงมีความสุข ความเจริญ ทั้งในหน้าที่การงาน การดำเนินชีวิต และเจริญในธรรม ยิ่งๆขึ้นไปเทอญ.

    สาธุ สาธุ สัญญานะ
    http://www.sysunya.com/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...