สูตรอาหารชีวจิตค่ะ..น่าหม่ำๆ.....ยำหัวปลี...กะหรี่ปั๊บโฮลวีทไส้กุ้ง...น้ำพริกกุ้งย่าง

ยำหัวปลี


วันก่อนอาจารย์สาทิสทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน จึงเสนอหน้าเข้าไปช่วยในครัว ซึ่งครั้งนี้อาจารย์ลงมือทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่จ่ายตลาด ตลอดจนขั้นตอนในการทำ วันนั้นอาจารย์ทำกับข้าวหลายอย่าง แต่ที่เตะตาโดนใจมากที่สุดคือ “ยำหัวปลี” เลยแอบจำสูตรมาบอกต่อ ขอบอกว่าอร่อยมาก..กก
ความพิเศษของยำหัวปลีสูตรอาจารย์สาทิสอยู่ที่การนำหัวปลีไปเผาในเตาถ่าน เพราะความร้อนจะได้ทั่วถึง และทำให้หัวปลีมีกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหล อาจารย์กระซิบด้วยว่า แต่ละครั้งสูตรอาจจะเปลี่ยนไปตามอารมณ์ หรือส่วนผสมที่มีอยู่ในครัว แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือ รสชาติช่างอร่อยทุกครั้งค่ะ ถ้าไม่ลงมือทำแล้วคุณจะรู้ได้อย่างไร ว่าสมราคาคุยหรือเปล่า

ส่วนผสม

• หัวปลีสด 1 หัว (แนะนำให้ใช้หัวปลีกล้วยน้ำว้า เพราะไม่มีรสฝาด)
• กุ้งสดลวก 10 ตัว
• กุ้งแห้งทอด 1/2 ถ้วย
• ถั่วลิสงโขลกละเอียด 1 ถ้วย
• น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเต้าหู้ 1/2 ถ้วย
• น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำพริกเผา 4 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

1. ล้างหัวปลีให้สะอาด ผ่าครึ่งแล้วนำไป ปิ้งบนไฟจนเปลือกข้างนอกไหม้นิดหน่อย พักไว้ให้เย็น
2. ลอกเปลือกหัวปลีที่ไหม้ออก ซอยตามขวางบางๆ
3. ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำเต้าหู้ น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว และน้ำพริกเผาให้เข้ากันเพื่อทำเป็นน้ำยำ
4. คลุกเคล้ากุ้งลวกในน้ำยำ เพื่อให้ซึมเข้าไปในตัวกุ้ง
5. ราดน้ำยำลงไปคลุกเคล้ากับหัวปลี กุ้งแห้ง ถั่วลิสง เมื่อเข้ากันดีแล้ว ตักใส่จานโรยหน้าด้วยผักชี

​

Tip
หัวปลี มีรสฝาดมัน ช่วยบำรุงน้ำนม ป้องกันโรคลำไส้ ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยสมานแผล แต่ถ้ากินมากเกินไปจะทำให้ฝืดคอ และท้องเฟ้อ





กะหรี่ปั๊บโฮลวีทไส้กุ้ง


ถึงวันหยุดทีไร ใครที่ชอบไปเที่ยว หรือปิ๊กนิค แล้วพกอาหารหรือของว่างไปกินด้วย ฟังทางนี้ เพราะเรามี “กะหรี่ปั๊บโฮลวีทไส้กุ้ง” มาฝาก มีเคล็ดมาบอกด้วยว่า ถ้าใครไม่ชอบกุ้ง แพ้กุ้ง หรือกลัวคอเลสเตอรอลพุ่ง จะใส่อย่างอื่นแทนก็ได้ เช่น มันเทศอย่างเดียว เต้าหู้ เห็ด ปลา ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของใครของมัน ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
อ้อ...อย่าลืมนะว่า อาหารของเราไม่ใส่สารกันบูด เพราะฉะนั้นอย่าเก็บไว้นาน ให้เก็บไว้ในตู้เย็น อยากกินเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมาอุ่นในไมโครเวฟ โดยไม่ต้องทอดอีกแล้วนะคะ กินเป็นของว่างเปล่าๆ หรือจะกินกับน้ำเต้าหู้ตอนเช้าแทนปาท่องโก๋ก็ได้

ส่วนผสมแป้ง

• แป้งสาลี 750 กรัม
• แป้งสาลีโฮลวีท 250 กรัม
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 1 ถ้วยครึ่ง
• น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย

ส่วนผสมไส้

• เนื้อกุ้งหั่นเป็นชิ้น 2 ถ้วย
• มันเทศ หั่นต้มสุก 2 ถ้วย
• หอมใหญ่หั่น 2 ถ้วย
• สามเกลอ (กระเทียม พริกไทย รากผักชี) 2 ช้อนโต๊ะ
• ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา

วิธีทำไส้

1. เจียวสามเกลอในน้ำมันจนหอม แล้วใส่เนื้อกุ้งลงไปผัด
2. ตามด้วยหอมใหญ่ มันเทศ และผงกะหรี่ ผัดจนนุ่ม แล้วปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำตาลทรายแดง ผัดให้เข้ากันจนสุก พักไว้

วิธีผสมแป้ง

1. ผสมแป้งในน้ำเกลือ (แป้งชั้นนอก) นวดจนเป็นก้อน พักไว้
2. ผสมแป้งในน้ำมัน (แป้งชั้นใน) นวดจนเป็นก้อน พักไว้
3. แผ่ก้อนแป้งที่ผสมน้ำเกลือออก จากนั้นแผ่ก้อนแป้งที่ผสมฝนน้ำมันทับลงไปให้เป็นเนื้อเดียวกัน ม้วนหุ้มให้มิด แล้วค่อยๆคลึงให้เป็นท่อนยาว
4. หั่นตามขวางให้เป็นก้อนกลม นำแป้งที่หั่นวางตามหน้าตัด
5. ค่อยๆคลึงเป็นแผ่นกลม ตรงกลางนูนออก (คล้ายถ้วย)
6. ตักไส้ใส่ แล้วขลิบขอบ
7. ทอดไฟปานกลาง จนเหลืองกรอบ

Tip
มันเทศ อุดมไปด้วยโปแตสเซียม วิตามินซี และแคลเซียม นอกจากนี้มันเทศยังมีเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี และยังช่วยป้องกันผิวที่อาจเกิดจากอันตรายของ รังสีอัลตราไวโอเลต ที่มากับแสงแดดได้ จึงทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี ไม่มีริ้วรอย หรือแก่ก่อนวัย


น้ำพริกกุ้งย่าง


จำได้ว่าเมื่อสมัยเด็กๆ แม่ตั้งสำรับอาหารทีไร มักจะมีน้ำพริกเป็นเมนูพระเอกเกือบทุกมื้อ ทำให้กลายเป็นคนติดน้ำพริกไปโดยปริยาย พอเริ่มทำอาหารกินเอง จึงลองพลิกแพลงเป็น “น้ำพริกกุ้งย่าง” ให้ที่บ้านลองชิมดู เมื่อมีน้ำพริกแล้ว แน่นอนว่าสารพัดผักจะเรียงหน้ามาอวดโฉมบนโต๊ะอาหาร ต้องยกให้น้ำพริกเป็นเมนูกุศโลบายให้คนที่บ้านกินผักได้โดยไม่รู้สึกฝืน เพราะทั้งผักสด ผักต้มล้วนอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามินที่มีประโยชน์ทั้งนั้นเลย แล้วอย่างนี้สุขภาพดีจะไปไหนเสีย จริงไหมเอ่ย

• กุ้งย่าง (ฉีกเป็นชิ้น) 10 ตัว
• หอมแดงซอย 10 หัว
• ตะไคร้หั่นฝอย 1/2 ถ้วย
• ขิงสดหั่นฝอย 1/2 ถ้วย
• ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกแดงหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ

1. ย่างกุ้งทั้งเปลือกจนเหลืองสุก แกะเปลือก และฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ พักไว้ (สาเหตุที่ต้องย่างกุ้งทั้งเปลือก เพราะจะทำให้มีกลิ่นหอม)
2. เคี่ยวน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บในกระทะจนงวด ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น ใส่น้ำมะนาว ลงผสม
3. คลุกเคล้าเนื้อกุ้ง น้ำมะขามเปียก หอมแดง ตะไคร้ ขิงสด พริกแดง และใบมะกรูด เข้าด้วยกัน โรยหน้าด้วยใบมะกรูด เป็นอันว่าเสร็จ

Tip
ขิงสด รสหวานเผ็ดร้อน แก้ลมจุกเสียด แก้เสมหะ บำรุงธาตุ แก้คลื่นไส้อาเจียน ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ระบบประสาท ช่วยระบบย่อยอาหาร ระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยลดคอเลสเตอรอล