พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษในมุมมองของผมในฐานะช่างผู้สร้างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษ

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย glassbuddha2009, 15 ธันวาคม 2018.

  1. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    1.5L-kitchenaid-blender-glass-jar-blender-cup-blender-Spare-Parts-soda-lime-glass-material.jpg
    สมัยอดีตที่ผ่านมา การสร้างโถปั่นน้ำผลไม้ในไทยที่สร้างจากแก้วจริงแก้วแท้นั้น ถ้าสร้างให้มีคุณภาพดีกลับทำได้ยากยิ่งกว่าการสร้างพระแก้ว แต่ช่างแก้วไทยกลับทุ่มเทจนกระทั่งสำเร็จ ไม่เคยมีโถปั่นน้ำผลไม้ไทยแตก ร้าว บิ่น กระเทาะหลังการสร้างเลย ทั้งนี้เพราะช่างแก้วไทยทุ่มเทแก่สินค้าอุตสาหกรรมมากกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก นี่ก็เป็นอีกเหตุที่ทำให้ผมกลับมาสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วที่สวยสมใจ และมีการสร้างในระบบอุตสาหกรรมที่โรงงานแก้วเจษฏาก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างให้สำเร็จครับ
     
  2. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    23232.jpg ภาพนี้แสดงให้เห็นว่า พระแก้วองค์นี้ นอกจากสร้างตอนแม่พิมพ์เหล็กเย็น หรือ ร้อนไม่พอ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุที่ทำให้พระเกศแตกหลุด ที่พระเกตุแตกหลุดนั้น เพราะการอบที่ไม่ดี คือแทนที่จะอบนาน 4 วัน 4 คืน ก็น่าจะเป็นการอบเพียง 10 ชั่วโมง ซึ่งนั่นเป็นการอบที่ทำให้พระแก้วไม่แตกในทันที แต่จะไปแตก ร้าว บิ่น กระเทาะ ภายหลัง อาจจะ 3 ปี หรืออาจจะหลายสิบปี

    ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากผู้สร้างในสมัยหน้า สมัยต่อไป ไม่ลักไก่ในจุดต่างๆเหล่านี้ นอกจากจะได้พระแก้วที่ผิวเรียบเนียนตึงแล้ว ก็จะไม่แตกอีกนานนับหมื่นปี
     
  3. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    U16202926355336135172412691.jpg U16202926355336140119181382.jpg
    อดีตพระแก้วที่สร้างในอินเดีย หรือ ญี่ปุ่น หรือในอิตาลีก็ตาม รวมทั้งในพี่ไทยด้วย สมัยนั้น น่าจะถือว่าเป็นจุดที่ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการอบลดอุณหภูมิในเนื้อแก้วอย่างถ่องแท้ จึงทำให้พระแก้วที่สร้างในสมัยนั้น มีอาการแตก ร้าว ร้าววิ่ง บิ่น กระเทาะ หรืออื่นๆอันสาเหตุเรื่องนี้ ก็มาจาก Stress ในเนื้อแก้วที่ยังคงเหลืออยู่ และรอวันที่จะระเบิด หรือทำปฏิกิริยาร้าว หรือกระเทาะออก ซึ่งเราไม่ทราบว่า จะใช้เวลากี่สิบหรือกี่ร้อยปี

    เอาไว้จะโพสต์เรื่องเครื่องดู Stress ในแก้ว แต่ก็ยังกลัวว่า สีอันเข้มมาก น่าจะดูไม่ได้จากเครื่องมอง Glass Stress Viewer
     
  4. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    PET-Preform-Viewer---QCI-1-90.jpg
    การใช้เครื่องดูความเครียดหรือ Glass Stress Viewer สามารถใช้ได้เฉพาะสีใส เพราะฉะนั้น การสร้างพระแก้วในสมัยนั้น การที่ช่างแก้วเลือกใช้สีเข้มมากๆนั้น สีเข้มมันปกปิดความผิดพลาดไปหมด แถมยังมีการบรรจุแป้งในองค์พระ กลายเป็นปิดทางการใช้เครื่องตรวจสอบไปเลย
     
  5. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    48412823_2006784012703296_4487665178443251712_ngg.jpg
    ภาพนี้ถ่ายจากด้านใต้ของพระแก้วหน้าตัก 7 นิ้วที่เคยมีคนบอกว่า สร้างในรัชกาลที่ 7 สร้างจากต่างประเทศ น่าจะเป็นอิตาลีหรือไม่ ? จากการไปเห็นภาพด้านหน้า ด้านหน้าซูม และด้านล่างแล้ว ผมบอกได้เลยว่า ข้อคาดเดาที่ผมคาดเดาไว้ว่า พระแก้วที่แม้แต่สร้างในต่างประเทศเมื่อนับร้อยปีก่อน สมัยนั้น น่าจะความรู้เรื่องการอบลดอุณหภูมิยังไม่กระจ่างแจ้ง เพราะดูมีรอยบิ่นกระเทาะ นั่นคือการอบที่ยังไม่ดี ซึ่งสมัยร้อยปีก่อนนั้น ยังไม่มีช่างแก้วในต่างประเทศคนไหนเคยอบชิ้นงานขนาดเท่านี้ด้วยเวลา 4 วัน 4 คืนกว่าๆ อย่างมากในอิตาลีในสมัยร้อยปีก่อนก็คงประมาณ 1 วัน 1 คืน ซึ่งนั่นก็คือสูตรเต็มของเขาในสมัยนั้นแล้ว

    ต่อมาวิทยาถึงยุคที่นำมาขายเป็นความรู้ ขายเป็นก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อเพื่อให้คนนำไปสร้างชิ้นงานกันเอง จึงต้องมีสูตรมาตราฐานให้คนที่ซื้อก้อนแก้วด้วย ( ซึ่งสูตรนี้คือพระแก้วขนาดประมาณนี้ หลังจากขึ้นรูปเสร็จแล้ว ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 วัน 4 คืนในการอบครับ )

    การที่ทำองค์พระสีเข้มขนาดนั้น ทำให้มองไม่เห็น Stress ในเนื้อแก้ว แต่นานนับร้อยปีก็ยังคงกระเทาะต่อไปอีก วันดีคืนดีตัวความเครียดอาจร้าวขึ้นมาเองเมื่อไร คงบอกได้ยากครับ
     
  6. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    49158379_2006783932703304_4404635639476125696_ngg.jpg
    ภาพนี้คือภาพตรงด้านหน้าของพระแก้วหน้าตัก 7 นิ้ว รุ่นที่ข่าวว่าสร้างสมัย ร. 7 น่าจะสร้างในต่างประเทศแน่นอน เพราะสมัย ร. 7 ในประเทศไทยน่าจะยังไม่มีโรงงานหลอมแก้วเลยแม้แต่โรงเดียว

    แค่เห็นรอยย่นที่หน้าผากและรอยย่นบนพระพักตร์ แค่นี้ก็ทราบได้แล้วว่า เป็นรอยที่เกิดขึ้นเพราะเหล็กแม่พิมพ์ร้อนต่ำกว่าน้ำแก้วมากเกินไป ทำให้เมื่อช่างแก้วเทหยอดน้ำแก้วลงในแม่พิมพ์เหล็ก แล้วกดปั๊มขึ้นรูป ส่วนที่เป็นเหล็กยืดตัวขยายตัวออก ทำให้เกิดรอยเช่นนี้

    และที่ใต้ฐาน ( ภาพบน ) เกิดการกระเทาะผิวแก้ว ซึ่งแน่นอน เกิดจากการอบลดอุณหภูมิที่ยังไม่เต็มที่ เพราะสมัยนั้นต่อให้ช่างแก้วที่ชำนาญการแค่ไหน ก็ยังไม่รู้ว่าที่แท้จริงต้องอบนานกี่วันกี่คืนกันแน่ จึงทำการอบแค่ประมาณ 1 วัน 1 คืน ซึ่งยังไม่เพียงพอ ทำให้แม้นานนับร้อยปีแล้ว ก็ยังบิ่นต่อไป กระเทาะต่อไป และวันดีคืนดี ก็อาจร้าว หรือ ร้าววิ่ง หรือแตกออกได้ครับ
     
  7. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    33471942_217437708847847_9069922265642041344_ngg.jpg
    ส่วนภาพนี้ผมใช้สีดำปกปิดหน้าคนที่อยู่ในฉากหลังออก ให้เห็นแต่พระแก้วก็พอ พระแก้วองค์นี้สร้างปี พ.ศ. 2475 ในอิตาลี สร้างแบบ 3 ถอด คือที่พระเกศามวยผมถอดออกได้ องค์พระแยกออกจากฐาน

    ภาพนี้แสดงให้เห็นชัดว่า ช่างแก้วในอิตาลีสมัยนั้น ใช้วิธีม้วนน้ำแก้วหยอดน้ำแก้วลงในแม่พิมพ์เหล็กด้วยวิธีใช้ทีมช่างหลายคน คนที่ 1 เทหยอดน้ำแก้วได้แค่จากยอดพระเศียร ( ส่วนในที่ไม่มีพระเกศา ) พอหยอดมาถึงบ่าไหล่ก็มีช่างอีกคนใช้กรรไกรตัดน้ำแก้วนั้นก่อน เรียกว่าหยอดที่ 1 ส่วนหยอดที่ 2 คือจากบ่าไหล่เทหยอดไปถึงทับเสร็จ ( ก้นพระ )

    ภาพนี้เห็นชัดว่า น้ำแก้วสีเขียวในสมัยนั้น ถึงแม้จะเป็นเบ้าเดียวกัน น้ำแก้วสีเขียวนมก็มีความไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปกติของน้ำแก้วสีนม โดยเฉพาะเขียวนม ชานม หรือแม้แต่นมเฉยๆก็มีการแยกชั้นตัวออกของน้ำแก้วตั้งแต่อยู่ในเบ้าหลอมด้วยซ้ำไป เพียงแต่เรามองไม่ค่อยจะออกกันเอง

    น้ำแก้วที่มีสีนมแบบนี้ ก็เช่นกัน คือเกิดการกระเทาะ การแยกตัวออกของเนื้อแก้ว อันนี้ไม่ใช่สาเหตุของการอบ แต่กลับเป็นสาเหตุจากสูตรของเคมีในน้ำแก้วสมัยนั้นและยังต่อเนื่องมาถึงสมัยนี้ในโรงงานหลอมแก้วบางโรง บางคนบอกว่า ชอบ การแยกตัวคล้ายหยก คล้ายหินอ่อนอิตาลี ความจริงเป็นข้อด้อยเพราะเนื้อกินกันไม่สนิท

    ต่อมามีโรงงานหลอมแก้วที่เก่งแก้วชนิดนี้โดยเฉพาะในอเมริกา จึงทำให้แก้วหยกของโรงงานหลอมแก้วรุ่นใหม่ที่เขาสร้างเป็นก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อมีคุณภาพดีเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ แก้วลายหยกที่คุณภาพดีที่ว่านี้ เพิ่งสำเร็จไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง
     
  8. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ด้านล่างต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างสีของก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากบริษัทที่สร้างก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อส่งออกของอเมริกาบางบริษัทที่เขาทำได้ดี ไม่เหมือนยุคก่อนปี 2000 ที่สีหยกทุกสี ไม่ว่าจะเป็นเขียวนมหยกหรือชานมหรืออื่นๆนมหรือจะเรียกว่าหยกก็หลอมได้ไม่เอาไหนกันทั้งนั้น นอกจากไม่เอาไหนทางด้านสีแล้ว ด้านคุณภาพก็แย่มาก
    03.jpg
    001.jpg
    002.jpg
    ไม่เคยมียุคไหนในประวัติศาสตร์การสร้างชิ้นงานแก้วที่ก้าวล้ำนำสมัย และง่ายต่อการสร้างขนาดนี้ มีโรงงานหลอมแก้วที่สร้างก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อที่สามารถระบุสีที่จะสร้างได้ทุกสี โดยที่พวกเราชาวโรงงานหลอมแก้วไม่ต้องหลอมแก้วเองเลย เพียงซื้อก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อมาหลอมขึ้นชิ้นงานเท่านั้น

    คนที่ไม่เคยรู้จะได้รู้ว่า บัดนี้ หมดยุคที่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคเองแล้ว มีคนต่อยอดทุกอย่างทุกเรื่องมาเป็นสินค้าสำเร็จรูป รอเพียงเรามาขึ้นรูปชิ้นงานของแต่ละคนเองเท่านั้น
     
  9. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    231112.png
    เมื่อซื้อก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อมาแล้ว ไม่ว่าเราจะนำมาสร้างชิ้นงานแก้วด้วยเทคนิควิธีอะไร เช่นในรูปนี้ หลอมก้อนแก้วในเบ้าหลอมด้านหลัง แล้วตักด้วยช้อนตักน้ำแก้วมาหยอดลงแม่พิมพ์เหล็ก ทำการขึ้นรูปด้วยการกดปั๊มก็ได้ หรือจะนำไปเป่าด้วยปอด หรืออื่นๆก็ได้ทั้งสิ้น
     
  10. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    steklo_viduvanie2.jpg
    หรือจะเป่าด้วยปอด ก็คล้ายกันคือต้องหลอมในเบ้าหลอม แล้วให้ช่างเป่าแก้วด้วยปอดม้วนน้ำแก้วมาเป่าเป็นลูกโป่ง จากนั้นจึงนำลูกโป่งเป่าลงแม่พิมพ์เหล็กเพื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นงานแก้ว
     
  11. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    งานศิลปะแก้ว002.jpg
    งานศิลปะแก้ว003.jpg
    หรือจะขึ้นรูปชิ้นงานด้วยวิธีปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์ม คนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกถ้าได้รับการฝึกทักษะ
     
  12. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    erwin_timmers.JPG
    หรือจะวางก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อในกระถางดิน แล้วหลอมให้น้ำแก้วไหลลงแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ทนไฟก็ได้ชิ้นงานแก้วที่ดี และไม่ต้องมีฝีมือเชิงช่างเป่าหรือเชิงช่างปั๊ม หรือเชิงช่างปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์ม

    ดังนั้นวิธีหลังสุดนี้ ไม่ต้องอาศัยฝีมือใดๆ
     
  13. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    maxresdefault00001.jpg
    วิชาปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์มนั้น พอเก่งถึงระดับหนึ่งก็สามารถปั้นพระพุทธรูปได้ดี เพียงแต่ขนาดนั้นประมาณหน้าตัก 10 นิ้วนั้นไม่ยากเกินไป แต่ถ้าขนาดใหญ่มากๆ เป็นศอกคงทำได้ยากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่จะทำไม่ได้ ถ้าคนไทยได้รับการฝึกฝนดีเพียงพอ
     
  14. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    วันนี้ผมมีธุระไปหมู่บ้านเมืองเอก ขณะที่ขับรถผ่านบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ผมมองแวบๆเห็นโคมไฟหัวเสาทำจากแก้วที่ทีมช่างเป่าแก้วด้วยปอดของผมในอดีตเคยเป่าเอาไว้ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2516 - 2520 และหลังจากนั้น ยังไม่เคยได้ยินว่า ช่างเป่าแก้วด้วยปอดของไทยคนใดสามารถเป่าได้อีกเลย สินค้ารุ่นและขนาดนี้นั้น ได้มีคนขายส่งโคมไฟคนหนึ่งซื้อไปทำการขายส่งให้ร้านโคมไฟในไทย และร้านค้าโคมไฟในไทยนำออกมาขาย นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า สินค้าที่โรงงานแก้วผมเคยผลิตนั้น นับจากวันผลิตมาถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 40 กว่าปี ทนแดดทนฝน โป๊ะแก้วใบนี้มีขนาดใหญ่เกือบที่สุดเท่าที่ช่างเป่าแก้วด้วยปอดของไทยทีมนั้นสร้างได้อยู่นานหลายปี
    IMG_25611230_114424a.jpg IMG_25611230_114424.jpg
    ถึงแม้ว่าช่างเป่าแก้วด้วยปอดคนไทยทีมอื่นๆก็อาจสามารถเป่าได้ ( หากได้รับการฝึกทักษะดีพอ แต่นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 มาถึงปัจจุบัน ผมยังไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีช่างเป่าแก้วด้วยปอดของไทยคนใดเป่าได้ถึงขนาดนี้อีกเลย )

    นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงว่า แก้วโซดาไลม์ซิลิก้าธรรมดาๆที่ไม่แพงเลย เป็นแบบที่ถูกที่สุด ยังทนแดดทนฝนทนความร้อนได้หลายสิบปีโดยไม่มีผลเสียใดๆเลย
     
  15. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    a003.jpg
    โคมไฟแก้วรุ่นยานบินอวกาศรุ่นนี้ มีหลายขนาดตั้งแต่กลางๆไปถึงใหญ่มากๆ และมีการเล่นลูกเล่นมากมายหลายรูปแบบ ในภาพนี้เป็นการเล่นลูกเล่นทำแก้วผิวแตกร้าวด้านนอก แต่ผิวด้านในยังเป็นเนื้อเดียวกัน ผิวภายในยังเชื่อมติดกันเป็นผิวเรียบลื่น ทำให้แก้วลายผิวแตกนี้ ดูสวย แต่คุณสมบัติความคงทนถาวรนั้น ช่างออกแบบการเป่าแก้วไม่ได้หวังว่าจะทนถึง 5 ปี แต่ความจริงก็พบเห็นบ่อยๆที่ทนเกิน 40 กว่าปีมาแล้ว

    นั่นหมายความว่า แม้แต่ชิ้นงานแก้วที่ช่างออกแบบการเป่าการปั๊มแก้วให้มีข้อด้อย ยังคงทนมากกว่างานการสร้างพระแก้วในสมัยอดีตเสียอีก

    ควรแล้วที่โลกสมัยใหม่จะกล้าเปลี่ยนให้พระแก้วที่สร้างจากนี้ต่อไป เป็นสิ่งล้ำค่าที่เราตั้งใจสร้างจริง เหมือนอย่างลาลีคฝรั่งเศส
     
  16. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    DSC08764_zps8cea8d0a.jpg แก้วลายผิวแตกนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในผิวแก้วที่ไม่สมควรนำมาสร้างเป็นพระพุทธรูป เพราะจะกลายเป็นผิวพระไม่สวยและมีคุณสมบัติด้อยกว่าแก้วผิวเรียบที่ทนกว่าแน่นอน
     
  17. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    Screenshot_2018-04-15-22-21-27.png
    ผมขอโพสต์ภาพพระแก้วของลาลีคฝรั่งเศสรุ่น Lalique Grand Buddha Amber หน้าตัก 8 นิ้วองค์นี้มาสวัสดีปีใหม่ เพื่อให้คนไทยได้เริ่มมีแนวการสร้างพระแก้วที่ดีกว่ายุคที่ผ่านมาครับ
     
  18. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    Screenshot_2018-02-01-19-55-01.png
    ส่วนองค์สีขาวฝ้านี้ หน้าตัก 9 นิ้วที่ผมสร้าง
     
  19. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    Screenshot_2018-02-01-19-57-36.png
    องค์นี้ก็รุ่นเดียวกันกับองค์บนที่ผมสร้าง แต่องค์ที่มีพระธรรมจักรในฝ่ามือผมเลือกใช้แก้วคริสตัล 30% PbO

    สวัสดีปีใหม่ 2562 ครับ
     
  20. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    เทศกาลปีใหม่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่กี่วัน คุณทนงศักดิ์ โบจรัสได้ตอบคนที่โพสต์รูปนี้ในเฟสของคุณทนงศักดิ์ว่า พระผิดพิมพ์ ซึ่งผมจะได้อธิบายต่อไปว่า ความจริงไม่ใช่พระผิดพิมพ์ แต่เป็นอะไร โปรดอ่านต่อไปด้านล่างครับ
    ทนงศักดิ์บอกพระผิดพิมพ์001.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...