หลวงพ่อปิยปกาศิต วัดกองดิน

วัดกองดินfficeffice" /><O></O>
ตำบลกองดิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ๒๒๑๖๐<O></O>
<O></O>
ไหว้พระวัดดี<O></O>
ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์<O></O>
ขอเชิญนมัสการ<O></O>
หลวงพ่อปิยปกาศิต<O></O>
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์<O></O>
คู่บ้านคู่เมืองภาคตะวันออก<O></O>
<O></O>
ขอเชิญนมัสการพระพุทธภัทรปิยปกาศิต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต้นแบบเชียงแสน คงคาจืดแดนโบราณเส้นทางผ่านพระเจ้าตาก โครงการอุทยานประวัติศาสตร์กองดินปืน<O></O>
<O></O>
พระพุทธภัทรประกาศิต มีพระนามเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อปิยปกาศิต เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ในโบสถของวัดกองดิน ในประวัติศาสตร์ของวัด<O></O>
มีบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ไว้ว่า “หลวงพ่อปิยปกาศิต เป็นพระพุทธรูปที่ขยายส่วนสร้างมาจากพระพุทธรูปบูชาปางมารวิชัย<O></O>
องค์หนึ่ง ซึ่งมีขนาดหน้าตัก ๑ ศอกเต็ม สำเร็จด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์พระนามว่า พระพุทธปกาศิต มีความเชื่อสืบกันมาว่า พระเจ้าพรหมมหาราช แห่งอาณาจักรโยนกเชียงแสน<O></O>
ได้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้น เมื่อปี ๑๖๘๒ คราวมีพระชนม์มายุครบ ๔ รอบ ที่เมืองไชยปราการราชธานี ประกอบพิธีเชิญญาณบารมีของเทพยาดาชั้นสูง ๙ พระองค์ เพื่อสถิตย์<O></O>
ปกป้องคุ้มครองรักษา” ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ผ่านแผ่นดินมาหลายยุคหลายสมัยทั้งเชียงแสน ล้านนา สุโขทัย อยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ปัจจุบัน<O></O>
<O></O>
สืบสานตำนานประวัติความเป็นมาของ พระพุทธปกาศิต อีกส่วนหนึ่งมีความเชื่อกันว่า “...พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อีกองค์หนึ่ง “ที่ถูกลืม” ไปจากความทรงจำ<O></O>
ของชนชาวไทยมาโดยตลอด และเชื่อว่า !!! มีชาวพุทธอีกมาก ที่อาจจะไม่เคยได้ยินพระนามของพระพุทธรูปองค์นี้มาก่อน อีกทั้งอาจจะไม่เคยทราบว่า ครั้งหนึ่งในอดีต ถอย<O></O>
ย้อนไปราว ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์หนึ่งได้รับการอาราธนาอัญเชิญนำไปในสมรภูมิสนามรบเคียงคู่บารมีของวีรกษัตราธิราช ผู้ซึ่งมีน้ำพระทัยกล้าแกร่ง<O></O>
ไม่ย่อท้อในการทำสงครามนั่นก็คือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระผู้เป็นมิ่งขวัญกำลังใจของทหารหาญในการกอบชาติกู้เมืองกู้เอกราชชาติไทยให้เป็นไท คืนกลับมาจากพวก<O></O>
พม่าที่เข้ามายึดครองผืนแผ่นดินไทย<O></O>
<O></O>
เชื่อกันว่าพระพุทธรูปองค์นั้นก็คือ พระพุทธปกาศิต นี้นั่นเอง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาแต่สมัยที่ท่านยังทรงผนวชเป็นพระภิกษุ และได้พระพุทธรูป<O></O>
องค์นี้มาแต่หัวเมืองพิษณุโลก แถบเมืองกำแพงเพชร ภายหลังเข้ารับราชการ ไปรบทัพจับศึกที่ไหน ก็จะอาราธนาอัญเชิญนำไปด้วย เป็นพระพุทธรูปคู่บุญบารมีประจำพระองค์<O></O>
และมักได้ชัยชนะทุกครั้ง จึงมีพระนามอีกอย่างหนึ่งว่า “ พระพุทธนำชัย”<O></O>
<O></O>
วัดกองดินเป็นวัดสุดท้ายของจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของภูมิภาค ๔ จังหวัด สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๔ ปราจีนบุรี ร่วมกับศูนย์วัฒนธรรม<O></O>
ท้องถิ่น อำเภอแกลง และสำนักงานเทศบาลตำบลกองดิน (ใช้ตราสัญลักษณ์ เป็นพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงม้าและสั่งการให้ทหารตำดินปืน) ได้มาสำรวจเส้นทาง<O></O>
รอยเกวียนโบราณและได้ให้วัดกองดินแห่งนี้เป็นลำดับที่ ๒๖ สุดท้ายของเส้นทางสายเอกราชการเดินทัพ(ในเขตจังหวัดระยอง) คราวยกทัพเพื่อไปตีเมืองจันทบูรณ์เมื่อปี ๒๓๑๐<O></O>
<O></O>
เทศบาลตำบลกองดิน ได้บันทึกประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ไว้ว่า “...เมื่อครั้งที่กรุงศรีอยุธยามีข้าศึกพม่า ยกทัพมาประชิดพระนคร บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายระส่ำระสาย<O></O>
ไม่มีใครคิดที่จะต่อสู้กับข้าศึกพม่า ต่างพยายามที่จะหนีเอาตัวรอดกัน ครั้งนั้นพระยาวชิรปราการ เห็นว่า พม่ามีกำลังเสริมเพิ่มขึ้น และล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ทุกด้าน เห็นทีจะเสียกรุง<O></O>
แก่พม่าเป็นแน่แท้... “หากเราขืนชักช้า...อยู่ช่วยรบทำการป้องกันพระนคร ก็อาจจะพ่ายแพ้แก่ข้าศึกศัตรูพวกพม่าได้” จนลุถึงวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น ๔ ค่ำ พุทธศักราช ๒๓๐๙ ปีจอ<O></O>
อัฐศก พระยาวชิรปราการ จึงได้ตัดสินใจรวบรวมไพร่พลราว ๕๐๐ คน ตีฝ่าวงล้อมพวกพม่าไปทางค่ายวัดพิชัย บ้านโพธิ์สังหาร แล้วมุ่งตรงไปยังหัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก<O></O>
เพื่อรวบรวมกำลังไพร่พล โดยมีจุดหมายปลายทางที่เมืองจันทบูรณ์ ในระหว่างการเดินทัพ ได้ผ่านเมืองระยองบ้านไร่ บ้านกร่ำ เมืองแกลง ประแส เพื่อมุ่งไปสู่จันทบูรณ์นั้น กอง<O></O>
ทัพของพระยาตากฯ ได้มาตั้งค่ายหยุดพักทัพม้าทัพช้างและไพร่พลอยู่ที่บริเวณวัดแห่งหนึ่ง และใช้สถานที่ดังกล่าวในการตำดินปืนเพื่อเตรียมไว้ใช้ในการออกศึกสงคราม...” สถานที่<O></O>
ตำดินปืนในครั้งนั้นจึงถูกเรียกว่า “กองดินปืน” เป็นเหตุที่มาของชื่อหมู่บ้านหรือตำบลนานเข้าก็เรียกกันสั้น ๆว่า “ตำบลกองดิน” สืบมาจนถึงปัจจุบัน<O></O>
<O></O>
นับเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ ของศรัทธาสาธุชนที่อยู่ในภาคพื้นตะวันออกที่ได้ พระพุทธนำชัย หรือ พระพุทธปกาศิต กลับคืนมาสู่พื้นที่ภูมิภาค<O></O>
นี้อีกครั้ง หลังกาลล่วงแล้วนับได้ ๒๓๙ ปี นับแต่คราวที่พระยาตาก(สิน) ได้เคลื่อนกำลังพลเพื่อยกทัพไปตีเมืองจันทบูรณ์ได้มาหยุดพัก<O></O>
ทัพที่หมู่บ้านแห่งนี้ ได้ทราบเรื่องราวจากผู้มีญาณสมาธิหลายท่าน เล่าให้ฟังว่า “ได้นิมิตรเห็นพระเจ้าตาก(สิน) ยกพระพุทธรูปบูชาองค์<O></O>
หนึ่ง ปางมารวิชัย หน้าตักประมาณ ๑ ศอกเต็ม เข้าไปในวิหารของวัดคงคาจืด และให้ทหารหาญที่มาด้วยอธิฐานจิตขอพรเป็นมงคลชัย<O></O>
ให้มีชัยชนะในการทำศึกสงครามที่เมืองจันทบูรณ์” พระพุทธนำชัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนี้ ทางวัดได้อัญเชิญประดิษฐานไว้<O></O>
ณ ภายในองค์หลวงพ่อปิยปกาศิตเมื่อวันวิสาขบูชา ปี ๒๕๔๖ โดยได้บรรจุพระผงสมเด็จองค์ปฐมจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ ทุกองค์ล้วนมี<O></O>
พระบรมสารีริกธาตุบรรจุล้อมรอบองค์พระพุทธนำชัยไว้ด้วยอีกชั้นหนึ่ง<O></O>
<O></O>
ปัจจุบันวัดกองดินได้รับความสนับสนุนในด้านต่าง ๆ จากสำนักงานเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบลและจังหวัด เพื่อพัฒนาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ เป็นโครงการพัฒนาในประเภทอุทยานการศึกษาอนุรักษ์ฟื้นฟูวัฒนธรรมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น<O></O>
เชื่อว่าในอนาคต สถานที่แห่งนี้ จักเป็นพุทธศาสนสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่ง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในภาคตะวันออกและศรัทธา<O></O>
สาธุชนทุกถิ่นสถานทั่วเมืองไทย ที่เดินทางมาสู่ภาคตะวันออก ให้ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตตลอดกาลนาน<O></O>
<O></O>
ไม่ว่าท่านจะอยู่ในสถานที่แห่งใดก็ตาม ในหรือนอกประเทศทุกครั้งที่ท่านเดินทางมาสู่ภาคตะวันออก ขอเชิญร่วมสืบสานตำนานย้อนยุค<O></O>
ไหว้พระวัดดี ไหว้พระศํกดิ์สิทธิ์ อธิษฐานจิตขอพรจาก “หลวงพ่อปิยปกาศิต” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ที่ขยายส่วนสร้าง<O></O>
จากพระพุทธนำชัยพระพุทธรูปคู่บารมีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลสมบูรณ์พูนผล โชคดีมีชัย ตลอดทิวาราตรีกาลนานเทอญฯ<O></O>
<O></O>
อิติ ปิยปกาศิต อิติ ปิยปกาศิต อิติ ปิยปกาศิต<O></O>
พุทโธ คุณัง อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ<O></O>
<O></O>
กำหนดงานบวงสรวงนมัสการหลวงพ่อปิยปกาศิต ตรงกับวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ของทุกปี<O></O>