หลวงพ่อเพชรมีชัย และพระพุทธมหาธรรมราชา องค์จริง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย นิลศิลป์, 4 มิถุนายน 2008.

  1. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    ได้ไปช่วยงานสำคัญเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา ที่จังหวัดเพชรบูรณ์มาเมื่อเดือนที่แล้ว ร่วมกับพี่ๆจากแดนใต้ผู้ใจอารีทั้งหลาย ทำให้ผมได้มีบุญร่วมสร้างบารมีกับเขาไปด้วย ได้มีโอกาส ไปร่วมงานบวชพระที่วัดมหาธาตุที่เก่าแก่ และสำคัญ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับสักการะ พระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์ คู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ จึงได้ถ่ายภาพมาให้เหล่าท่านพุทธบริษัท ได้สักการะกัน เพราะบางท่านอาจยังมิเคยไป แต่ทว่าถ้าได้ชมภาพพระพุทธรูปสำคัญๆนี้แล้ว คงอดไม่ได้ที่จะหาโอกาสไปนมัสการกันนะครับ โดยเฉพาะ "พระพุทธมหาธรรมราชา" แห่งวัดไตรภูมิ จ.เพชรบูรณ์ องค์นี้นั้นมีความสำคัญมาก เพราะเป็นพระพุทธรูปที่องค์เหนือหัวรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย ได้นำทองคำเปลวจากองค์พระพุทธท่าน มาเป็นส่วนผสมของพระกำลังแผ่นดิน หรือพระผงจิตรลดา ซึ่งพระผงจิตรลดาเป็นของของมงคลสุดยอดปรารถนาของปวงชนชาวไทยทุกท่าน

    ความจริงวัดไตรภูมินี้ ตั้งอยู่ติดแม่น้ำป่าสักเลย แต่วัดจะเงียบมากครับ ไม่ค่อยมีคนเดินทางเข้ามานัก ทั้งๆที่มีองค์พระพุทธรูปที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์ และทรงกฤษดาภินิหารเช่นนี้

    ภายในบริเวณวัดด้านใน จะมีศาลาคล้ายจตุรมุข ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธมหาธรรมราชาจำลอง ส่วนองค์จริงนั้นหลายท่านอาจจะไม่เคนเห็น เพราะเก็บไว้บนศาลา โดยมีพระภิกษุสงค์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ผมขึ้นไปขอพระภิกษุสงฆ์ท่านถ่ายภาพกับพี่ที่ผมเคารพอีกท่าน วันที่ไปนั้น ทั้งวัดก็มีคณะของผมคณะเดียวครับ วัดเงียบมาก ถาวรวัตถุก็ดูเก่าไปตามกาลเวลา ถ้าพวกเราแวะไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เชิญร่วมบริจาคทำบุญต่างๆตามกำลังศรัทธา ครับ วัดไม่ค่อยมีรายได้มากนัก ประกอบกับตอนนี้กำลังมีการสร้างศาลาทรงไทย เพื่อไว้ประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชาองค์จริง องค์นี้ครับ เพื่อความเป็นศรีแก่ชาวเพชรบูรณ์ และชาวไทยสืบต่อไป โดยผมได้ถ่ายภาพมาให้นมัสการทั้ง 2 องค์ครับ

    ปล.พยายามลงภาพใหญ่ๆแล้วลงยังไม่ได้ ต้องรอถามผู้รู้ก่อน


    หลวงพ่อเพชรมีชัย องค์จริง พร้อมประวัติ.....

    วัดมหาธาตุ เป็นวัดสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี อยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง ฯ เป็นวัดที่มีหลักฐานการก่อสร้างปรากฎอยู่ ในลานทองคำ ที่พบจากกรุใต้ฐานเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ที่มีการขุดแต่งเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๐ สรุปได้ว่าวัดมหาธาตุ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๙๒๖

    ภายในวัดมีโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่น่าสนใจหลายอย่าง ได้แก่ เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เจดีย์อิทธิพลศิลปะอยุธยา สององค์ และฐานเจดีย์ศิลาแลง ใบเสมาสกัดจากหินทรายทั้งแท่ง จารึกด้วยอักษรโบราณ เป็นต้น

    พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวัดมีสององค์คือ หลวงพ่องาม ด้วยเหตุที่งามด้วยพระพุทธลักษณะ สร้างด้วยทองสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น สมัยอู่ทองรุ่นสาม หน้าตักกว้าง ๓๖ นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ส่วนอีกองค์หนึ่งคือ หลวงพ่อเพชรมีชัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อทองสำริด หน้าตักกว้าง ๓๖ นิ้ว เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อวัดมหาธาตุ สันนิษฐานว่า สร้างพร้อมกับวัด ในปี พ.ศ.๑๙๒๖ ต่อมาเปลี่ยนเป็นเรียกว่า หลวงพ่อเพชรมีชัย เพราะถือเอาคำพูดของเจ้าพระยาจักรี แม่ทัพไทยที่ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่า ที่ยกมาล้อมเมืองพิษณุโลก มาอยู่ที่เมืองเพชรบูรณ์ แล้วยกกองทัพกลับไปตีเมืองพิษณุโลกกลับคืน ขณะเดินทัพผ่านวัดมหาธาตุ ได้พาทหารไปนมัสการพระพุทธรูป เสร็จแล้วเปล่งเสียงอันดังว่า มีชัย ทั่วทั้งกองทัพ จึงได้ชื่อต่อมาว่า หลวงพ่อเพชรมีชัย

    วัดมหาธาตุ เป็นวัดที่เจ้าเมืองเพชรบูรณ์เป็นผู้สร้าง ต่อมากลายสภาพเป็นวัดร้าง จนถึงปี พ.ศ.๒๔๔๗ สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีรับสั่งให้พระยาเพชรรัตน์ (เฟื่อง) เจ้าเมืองเพชรบูรณ์ เกณฑ์คนมาบูรณะวัดมหาธาตุครั้งใหญ่ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๕๓ มีพระราชพิธีราชาภิเษก ทรงรับน้ำอภิเษกจากเจ้าเมืองต่าง ๆ เจ้าเมืองเพชรบูรณ์ได้นำน้ำจากสระบน ในวัดมหาธาตุไปร่วมพิธีด้วย

    วัดมหาธาตุ ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖


    พระพุทธมหาธรรมราชา องค์จริง พร้อมประวัติ
    (ข้อมูลจากเว็ป สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์)


    ประวัติความเป็นมา

    งานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ เป็นงานประเพณีเก่าแก่ของ ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่สืบทอด กันมายาวนานชั่วอายุคน เป็นประเพณี ที่แปลกไม่มีปรากฎในที่อื่น ๆ ในวันสารทไทยของทุกปี ชาวเพชรบูรณ์จะเดินทาง ไปร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ เมื่อก่อนมีการ เรียกชื่อแตกต่างกันไป เช่น อุ้มพระดำน้ำ อุ้มพระสรงน้ำ บางคนก็เรียกว่างานประเพณีสารทไทย วัดไตรภูมิ หรือ ประเพณีอัญเชิญ พระพุทธรูปสรงน้ำก็มี จนกระทั่งเดือนตุลาคม 2528 ทางคณะกรรมการได้ร่วม ประชุมกันอย่างกว้างขวาง เพื่อหารือเกี่ยวกับ การจัดงานเป็นทางการ และมีมติให้ใช้ชื่องานว่า งานประเพณี “อุ้มพระดำน้ำ”

    งานประเพณีดังกล่าวนี้ ทุกปีจะจัดที่บริเวณวัดไตรภูมิ ถนนเพชรรัตน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ พระพุทธรูปองค์นี้ ที่อัญเชิญไปดำน้ำ มีนามว่า พระพุทธมหาธรรมราชา เป็นพระพุทธรูป คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ ปางสมาธิ ศิลปะสมัยลพบุรี หล่อด้วยเนื้อทองสัมฤทธิ์ หน้าตัก กว้าง 13 นิ้ว สูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน พุทธลักษณะ เป็นทรงเทริด พระพักตร์กว้าง พระโอษฐ์แบะ พระหนุป้าน พระกรรณยาวย้อย จนจรดพระอังสา ที่พระเศียร ทรงเครื่องชฎาเทริด มีกระบังหน้า ทรงสร้อยพระศอ พาหุรัดและ ประคตเป็นลวดลายงดงามยิ่ง

    ตามประวัติเล่าสืบกันต่อมาหลายชั่วอายุคนแล้ว เมื่อประมาณ 400 ปีที่ผ่านมา มีชาวเพชรบูรณ์ กลุ่มหนึ่งมีอาชีพ ในการจับสัตว์น้ำ อยู่ในลำน้ำป่าสัก อยู่มาวันหนึ่งชาวประมงกลุ่มนี้ได้ออกหาปลาตามปกติ เช่นทุกวัน เผอิญวันนั้นเกิดเหตุการณ์ประหลาดตั้งแต่เช้าถึงบ่าย ไม่มีใครจับปลา ได้เลยสักตัวคล้ายดังกับว่าใต้พื้นน้ำ ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย สร้างความงุนงงแก่พวกเขาเป็นอย่างมาก ต่างพากันนั่ง ปรึกษาว่าจะทำประการใดดี

    บริเวณที่ชายเหล่านั้นนั่งปรึกษากันอยู่นั้น ปัจจุบันคือ บริเวณ วังมะขาม แฟบ คำว่า มะขามแฟบ นั้น หมายถึง ไม้ระกำนั่นเอง บริเวณดังกล่าว อยู่ทางทิศเหนือของ เมืองเพชรบูรณ์ ทันใดนั้น กระแสน้ำ ในแม่น้ำแห่งนั้น หยุดไหลนิ่งอยู่กับที่ แล้วค่อย ๆ มีพราย น้ำผุดขึ้นมาที ละฟอง ทวีมากขึ้น มองดูคล้ายกันน้ำกำลังเดือดอยู่บนเตาไฟ ไม่นานก ็เปลี่ยนเป็นวังน้ำวนใหญ่และลึกมาก ณ ที่แห่งนั้นทุกคน ต่างมองด ูด้วยความมึนงง ไม่สามารถหาคำตอบว่าเกิดขึ้นจากอะไร เหตุการณ์ ดำเนินต่อไป จนกระทั่ง กระแสวังวนแห่งนั้น ได้เริ่มคืนสู่สภาพเดิม และดูดเอา พระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมา จากใต้พื้นน้ำแห่งนั้น ลอยขึ้นมาอยู่ เหนือผิวนั้น มีการดำผุดดำว่ายอยู่ตลอดเวลา เหมือนอาการของ เด็กเล็ก ที่กำลังเล่นน้ำ เป็นที่แน่นอนว่าชาวประมง กลุ่มนั้นได้ประจักษ์ ถึงความ ศักดิ์สิทธิ์ จึงได้ลงไปอัญเชิญ ขึ้นมาประดิษฐาน บนบกให้ผู้คนทั้งหลาย ได้กราบไหว้สักการะบูชา และพร้อมใจกันอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ วัดไตรภูมิ ในปัจจุบัน

    ในปีต่อมา ครั้นถึงเทศกาลสารทไทย พระพุทธรูปที่ถูกอัญเชิญขึ้นมา จากน้ำได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ชาวบ้านชาวเมือง ก็ออกตามหากันจ้าละหวั่น ในที่สุดก็ไปพบพระพุทธรูปองค์ นี้ตรงบริเวณที่พบครั้งแรกและกำลังดำผุดดำว่ายอยู่พอดี จึงได้อัญเชิญ มาอีกครั้งหนึ่ง

    นับตั้งแต่บัดนั้นมา เมื่อถึงเทศกาลสารทไทย คือ ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบของทุกปีภายหลังจาก ถวายภัตตาหารเช้า แด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว เจ้าเมืองเพชรบูรณ์ สมัยนั้นพร้อมด้วยข้าราชการ ตลอดจนประชาชนในเมืองเพชรบูรณ์ จึงร่วมกันอัญเชิญ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ ได้ทำพิธีสรงน้ำ ที่วังมะขามแฟบ ตรงที่พบครั้งแรกเป็นประจำทุกปี หากปีใดน้ำน้อยเข้าไป ไม่ได้ก็อัญเชิญไปสรงน้ำที่วัดโบสถ์ชนะมาร ทางเหนือเมืองเพชรบูรณ์ แล้วถวายนามท่านว่า “พระพุทธมหาธรรมราชา”

    ส่วนความเชื่อถือในอีกทางหนึ่งนั้นเชื่อว่า เทพเจ้าผู้สิงสถิตย์ในองค์ พระพุทธมหาธรรมราชา เป็นพระภิกษุโบราณ 2 รูป ได้สร้างพระพุทธองค์นี้ ตั้งแต่ครั้งเป็นมนุษย์ ในสมัยลพบุรี ต่อมากรุงสุโขทัยได้แผ่อำนาจขยายอาณาเขต พระพุทธมหาธรรมราชา ได้ถูกเชิญไปประดิษฐานไว้ที่กรุงสุโขทัย จนมาถึงสมัยพระยาลิไทย กษัตริย์องค์ที่ 6 ในราชวงศ์พระร่วง ประจวบกับเพชรบูรณ์ ไว้ว่างกษัตริย์ผู้ครองนคร ได้โปรดให้ ออกญา ศรีเพชรรัตนานัคราภาบาล นามเดิมว่าเรือง ไปเป็นเจ้าครองเมืองเพชรบูรณ์ โดยขึ้นตรงต่อกรุงสุโขทัย พร้อมกันนี้ได้พระราชทานพระพุทธรูป “พระพุทธมหาธรรมราชา” มาด้วย สำหรับพระพระคู่บ้านคู่เมือง โดยมีกระแส รับสั่งให้มาทางลำน้ำ หากแวะที่ใดก็ให้สร้างวัดใหม่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้

    สำหรับการเดินทางมาในสมัยก่อน ล่องมาตามลำน้ำยมจากสุโขทัยผ่านพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา แล้ววกเข้าลำน้ำป่าสักที่อยุธยา ผ่านสระบุรี แล้วสู่จุดหมายปลายทางที่เพชรบูรณ์ รวมระยะเวลาการเดินทางหนึ่งปีเต็ม เมื่อแรกมาถึงดำริ จะนำพระพุทธมหาธรรมราชาไปประดิษฐานไว้ที่วัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ แต่เป็นการขัดพระบรมราชโองการ จึงสร้างวัดขึ้นมาใหม่ให้ชื่อว่า วัดไตรภูมิ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแก่พระร่วง ซึ่งเป็นผู้พระราชนิพนธ์เรื่อง ไตรภูมิพระร่วง

    ในวันสารทไทยของทุกปี ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อัญเชิญ พระพุทธมหาธรรมราชา ประดิษฐานบนบุษบก แห่จาก วัดไตรภูม ิไปตาม เส้นทางในเขตเทศบาล เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา และอัญเชิญ มาเฉลิมฉลองที่วัดไตรภูมิ ในวันสารทไทย ซึ่งเป็น วันที่สามของงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะอัญเชิญ พระพุทธมหา ธรรมราชาประดิษฐาน บนเรือที่ท่าน้ำหน้าวัดไตรภูมิ ทวน กระแสน้ำ ในแม่น้ำป่าสัก ไปทำพิธีดำน้ำ ที่ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร ซึ่งเป็นวังน้ำลึก เมื่อถึงบริเวณพิธี ผู้ว่าราชการ จังหวัดเพชรบูรณ์ จะอัญเชิญ พระพุทธมหาธรรมราชา เทิดไว้เหนือ หัวดำน้ำลง ไปพร้อมกัน โดยหันหน้าไปทางเหนือสามครั้ง หันหน้าลง ทางใต้สามครั้ง ตามความเชื่อที่ว่า จะทำให้น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข

    ความเชื่อในการอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาดำน้ำ ผู้ที่ทำการอัญเชิญจะต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น ทั้งนี้เพราะ ตำแหน่งเทียบ ได้กับเจ้าเมืองในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นใหญ่ที่สุดในเมือง ความเสียสละของผู้เป็นใหญ่ ในนครที่มีความห่วงใย ในความทุกข์สุข ของราษฎรและได้ชื่อว่า เป็นผู้ทะนุบำรุงพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ จะให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ เจ้าเมืองอัญเชิญไปดำน้ำแทนไม่ได้ หากปีใดไม่มีการอัญเชิญ พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวไปดำน้ำ ชาวเพชรบูรณ์ เชื่อกันว่าปีนั้นบ้านเมือง จะเกิดความแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง และพระพุทธรูปองค์นี้จะหายไป

    ความเชื่อในการอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาดำน้ำ ผู้ที่ทำการอัญเชิญจะต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น ทั้งนี้เพราะ ตำแหน่งเทียบ ได้กับเจ้าเมืองในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นใหญ่ที่สุดในเมือง ความเสียสละของผู้เป็นใหญ่ ในนครที่มีความห่วงใย ในความทุกข์สุข ของราษฎรและได้ชื่อว่า เป็นผู้ทะนุบำรุงพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ จะให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ เจ้าเมืองอัญเชิญไปดำน้ำแทนไม่ได้ หากปีใดไม่มีการอัญเชิญ พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวไปดำน้ำ ชาวเพชรบูรณ์ เชื่อกันว่าปีนั้นบ้านเมือง จะเกิดความแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง และพระพุทธรูปองค์นี้จะหายไป

    งานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก จะเป็นประเพณีที่สืบทอด กันไว้เป็นมรดก ให้ลูกหลานได้ชื่นชม อีกตราบนานเท่านาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S4022275.JPG
      S4022275.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.5 KB
      เปิดดู:
      754
    • S4022276.JPG
      S4022276.JPG
      ขนาดไฟล์:
      93.3 KB
      เปิดดู:
      616
    • S4022287.JPG
      S4022287.JPG
      ขนาดไฟล์:
      125 KB
      เปิดดู:
      1,066
    • S4022289.JPG
      S4022289.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96.4 KB
      เปิดดู:
      585
    • S4022283.JPG
      S4022283.JPG
      ขนาดไฟล์:
      104.6 KB
      เปิดดู:
      427
    • S4022278.JPG
      S4022278.JPG
      ขนาดไฟล์:
      102.8 KB
      เปิดดู:
      409
    • S4022285.JPG
      S4022285.JPG
      ขนาดไฟล์:
      94.8 KB
      เปิดดู:
      359
    • S4022288.JPG
      S4022288.JPG
      ขนาดไฟล์:
      101.6 KB
      เปิดดู:
      406
    • S4022290.JPG
      S4022290.JPG
      ขนาดไฟล์:
      139.1 KB
      เปิดดู:
      518
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2008
  2. ligore

    ligore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +5,807
    ....................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3026.jpg
      IMG_3026.jpg
      ขนาดไฟล์:
      641.4 KB
      เปิดดู:
      2,043
  3. ligore

    ligore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +5,807
    พระพุทธมหาธรรมราชา องค์จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3027.jpg
      IMG_3027.jpg
      ขนาดไฟล์:
      944.9 KB
      เปิดดู:
      257
    • a17.jpg
      a17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      933.8 KB
      เปิดดู:
      536
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2008
  4. ligore

    ligore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +5,807
    วัดไตรภูมิและวิหารพระพุทธมหาธรรมราชา องค์จำลอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a01.jpg
      a01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      675.1 KB
      เปิดดู:
      197
    • a02.jpg
      a02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      666.3 KB
      เปิดดู:
      197
    • a03.jpg
      a03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      897.4 KB
      เปิดดู:
      215
    • a04.jpg
      a04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      807.5 KB
      เปิดดู:
      264
  5. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    ขอบคุณมากครับพี่อภิชาติ
     
  6. ligore

    ligore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +5,807
    วิหารหลวงพ่อเพชรมีชัยและ หลวงพ่อเพชรมีชัย
    วัดพระมหาธาตุ จ.เพชรบูรณ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a3004.jpg
      a3004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      520.2 KB
      เปิดดู:
      269
    • a2991.jpg
      a2991.jpg
      ขนาดไฟล์:
      766.5 KB
      เปิดดู:
      215
    • a2990.jpg
      a2990.jpg
      ขนาดไฟล์:
      832.9 KB
      เปิดดู:
      180
  7. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,190
    งดงามมากเลยครับ ถ้ามีโอกาศจะไปกราบท่านครับ ขออนุโมทนาสำหรับกระทู้ดีๆสร้างสรรครับ
     
  8. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    *-* วัดนี้เคยมีโอกาศได้ไปกราบครั้งนึงครับ หลวงพ่อท่านศักดิ์สิทธิ์มากครับ ขอบคุณมากๆครับที่นำรูปสวยและบทความดีๆๆมาให้อ่านกันครับ *-* thaiput007@hotmail.com
     
  9. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุ สุดธุ

    เรื่องเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

    ผมเคยได้ยินผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่าผู้ที่ทำพิธีอุ้มพระดำน้ำตัวจะเบาเหมือนจะลอยน้ำได้
    หรือพูดง่ายๆว่าถ้ามีองค์ท่านไว้บูชาหรืออยู่ใกล้องค์ท่าน ภัยทางน้ำจะทุเราเบาบาง ไม่กล้ารับรองว่าไม่มี เพราะฟังเขามาอีกทีครับ เป็นความเชื่อนะครับ

    แถมอีกนิดครับ องค์พ่อขุนผาเมือง และข้าวสารดำ
    ลองอ่านดูนะครับเป็นประวัติศาสตร์สร้างชาติ โดยเฉพาะข้าวสารดำที่เป็นของอาถรรพณ์มากจนทุกวันนี้ยังมีเรื่องเล่าไม่ซ้ำกัน แต่ออกทางน่ากลัวถ้าได้มาแบบไม่ถูกต้อง

    http://school.obec.go.th/banhinging/pokunpamaing.htm
     
  10. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    ขอบคุณทุกท่าน ที่ชอบ และมาเยี่ยมชมครับ มีโอกาสไปไหว้พระกันได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...