อดีตชาติ หลวงปู่วัดปากน้ำ อานุภาพ วิชชาธรรมกาย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มาแบบแรงๆ, 21 กันยายน 2008.

  1. มาแบบแรงๆ

    มาแบบแรงๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +36
    <TABLE borderColor=#0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 align=center border=0><TBODY><TR><TH scope=col><TABLE id=Table_01 height=167 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=797 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=133>[​IMG]</TD><TD width=133>[​IMG]</TD><TD width=134>[​IMG]</TD><TD width=133>[​IMG]</TD><TD width=133>[​IMG]</TD><TD width=131>[​IMG]</TD></TR><TR><TD colSpan=6>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TH></TR><TR><TD scope=col><TABLE borderColor=#f57365 cellSpacing=10 cellPadding=10 width=800 align=center border=2><TBODY><TR><TD class=pair20 scope=col bgColor=#fce0dc height=1750><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=740 align=center border=0><TBODY><TR><TH scope=col width=323 bgColor=#ffffff height=172>[​IMG]</TH><TH scope=col width=327 bgColor=#ffffff><TABLE width=300 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>(วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘) </TH></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=750 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=1616>กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
    ที่เคารพอย่างสูงค่ะ

    ลูกคือลูกหลานหลวงปู่ ที่ขอส่งเรื่องราว อันทรงคุณค่าอันไม่รู้จบของท่านมาอีกแม้ครั้งที่ ๕ ค่ะ ซึ่งเรื่องราวในตอนนี้ จะทำให้เรารู้ถึงคุณค่าและ รักวิชชาธรรมกายมากขึ้น เพราะกว่าจะได้วิชชาธรรมกายและสามารถทำให้คนเข้าใจได้ถึงขนาดนี้นั้น ต้องฟันฝ่าอุปสรรคอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันจริงๆ ดังเรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ
    เท่าที่ลูกได้ศึกษาค้นคว้ามา จนทราบว่าวิชชาธรรมกาย เป็นวิชชาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่หายสาบสูญ ไปหลังจากพุทธปรินิพพานประมาณ ๕๐๐ ปี ซึ่งหลวงปู่ท่านได้ปฏิบัติธรรมอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน และค้นพบวิชชาธรรมกายขึ้นมาใหม่ วิชชานี้มีคุณวิเศษอันไม่มีประมาณ และสร้างความอัศจรรย์ให้กับวงการ พระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก หากคนไม่ได้มาปฏิบัติ หรือเห็นอานุภาพกับตาตัวเอง จริงๆ ก็เชื่อได้ยาก เช่น
    วิชชาการระลึกชาติ การรู้วาระจิต การดับเดือนดับดาว การปัดลูกระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ การรักษาโรค ฯลฯ ความมหัศจรรย์อย่างไม่มีประมาณนี้ทำให้คนที่ไม่ได้ศึกษาก็มักจะกล่าวหาว่าหลวงปู่อวดอุตริ ทั้งๆ ที่คำว่าธรรมกายนี้ ก็มียืนยันไว้ในพระไตรปิฎกอย่างชัดเจน หลายแห่ง แต่ท่านก็ไม่หวาดหวั่น ทำการสอนและเผยแผ่จนเป็นที่ยอมรับ และมีคนหันมานับถือศรัทธาท่านเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกไม่พอใจ พูดเหยียดหยามรุนแรงถึงขั้นว่า
    "ใครอยากเป็นอสุรกาย จงไปเรียนธรรมกายที่วัดปากน้ำ" ซึ่งข่าวนี้ก็ทราบถึงหลวงปู่วัดปากน้ำเหมือนกัน และท่านได้พูดว่า คนเช่นเราไม่ใช่ไร้ปัญญา ชั่วก็รู้ ดีก็เห็น เราจะฆ่าตัวเราเองเพราะความปรารถนาทำไม ที่เขาพูดหาว่าเราอย่างนั้น บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า "ธรรมกาย" มีอยู่ที่ไหน หมายเอาใคร เขาอาศัยความไม่รู้มาว่าเราผู้ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่อผู้ไม่รู้มาติเตียนเรา ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรม ของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ถ้าจะกลบก็กลบได้เพียงชั่วคราว ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะเปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง...

    ด้วยความที่มีคนไม่เข้าใจท่านหลายอย่าง ทำให้เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดขึ้น คือ เกิดอาชญากรรมขึ้นในวัด วันนั้นพระกมล ศิษย์ที่ถูกใจของหลวงปู่ในด้านเทศนาใช้ปฏิภาณและด้านปฏิบัติชั้นดี ได้เทศนาหัวข้อธรรมเกี่ยวกับ พระกรรมฐาน และหลวงปู่ก็ฟังอยู่ด้วย เมื่อเสร็จการอบรมแล้วประมาณเวลา ๒๐.๐๐ น. ต่างก็แยกย้ายกลับที่พักของตน ทันใดนั้น
    มีผู้ร้ายเข้ามาลอบสังหารหลวงปู่วัดปากน้ำที่หน้าศาลาการเปรียญ ขณะที่ท่านออกมาจากศาลาและจะกลับกุฏิ ผู้ร้ายได้ใช้ปืนยิงท่านถูกจีวร ท่านทะลุ ๒ รู ยิงนายพร้อม อุปัฏฐากผู้ติดตาม ถูกที่ปากทะลุแก้มเป็นบาดแผลสาหัส แต่ไม่ถึงแก่กรรม ภายหลังจับผู้ยิงได้ ชื่อนายรอด ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ เมตตาไม่ถือโทษ ไม่เอาเรื่องเอาความอะไรเลย
    แต่เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีด้านกฎหมายเขาไม่ยอม กราบเรียนหลวงปู่ว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะหากไม่ทำตามอีกหน่อย กฎหมายจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนายรอดคนยิงก็ติดคุกอยู่นาน จนกระทั่งถึงวันที่นายรอดออกจากคุก หลวงปู่ท่านเห็นในที่ และทักขึ้นว่า "วันนี้นายรอดออกจากคุก แต่จะไม่รอด" ซึ่งก็จริงๆ ค่ะ ตารอดออกจากคุกเสร็จ ก็โดนยิงตายทันที

    นับจากนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่ก็โด่งดังขึ้นอีก มีศิษยานุศิษย์หันมานับถือท่านอย่างล้นหลาม แต่คนไม่ชอบก็ยังมีอยู่
    จึงทำให้มีคนลอบวางยาพิษใส่ในภัตตาหาร ซึ่งหลวงปู่ท่านจะรู้ก่อนในญาณทุกครั้ง หากสำรับไหนมียาพิษ ท่านก็จะเอาช้อนเงินจุ่มลงไปให้ดู ซึ่งช้อนเงินก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำทันทีซึ่งปู่ผง เคยเล่าให้ลูกฟังว่า มีครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านไม่ยอมบอก อยู่ๆ ก็สั่งว่า..ให้เอาอาหารในสำรับไปทิ้ง แต่อุปัฏฐากรู้สึกเสียดาย จึงไม่ยอมทิ้ง เอาไปวางไว้ก่อน พอดีหมาแมวมากิน ปรากฏว่าหมาแมวตายทันที หลวงปู่จึงตำหนิ...แล้วพูดว่า..ก็ในสำรับมันมียาพิษ แต่หลวงปู่ท่านก็ไม่เคยเป็นอะไรเลย ไม่มีใครทำอะไรท่านได้ จนท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือขึ้นไปอีก ..ทีนี้ท่านดังใหญ่.. ดังอย่างไม่ต้องโหมโรง ลูกศิษย์ลูกหาท่านก็มากขึ้นทับทวี จนมีแต่คนบอกว่าหลวงปู่ท่านศักดิ์สิทธิ์จริง แต่ท่านบอกว่า
    ธรรมกายต่างหากล่ะที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถ้าพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวิชชานี้แล้ว ทำให้ลูกนึกถึงเรื่องที่ปู่ผงเล่าให้ฟัง ในช่วงที่หลวงปู่ทำวิชชาเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ ๒ ว่า อยู่ๆก็มีลูกระเบิดตกลงกลางวงฉัน ซึ่งทุกคนต่างตระหนกตกใจกันมาก แต่หลวงปู่ท่านนิ่งๆ แล้วบอกว่า ไหนลองเอาระเบิดลูกนี้ไปพิสูจน์ดูสิว่ามันด้านหรือเปล่า..? ปรากฏว่าไม่ด้าน..!! ซึ่งสร้างความฮือฮาและแปลกใจกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชว่า แล้วทำไมไม่ระเบิด ซึ่งปู่ผงก็พูดว่า.. ก็บุญและอานุภาพวิชชาธรรมกายล่ะสิ..จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ หลังจากนั้นวิชชาธรรมกายก็ได้เผยแผ่ไป มีผู้มาปฏิบัติและเข้าถึงกันมาก และมีพยานทางศาสนาเกิดขึ้นอย่างมากมาย และกลายเป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนาน...
    ซึ่งก็เป็นที่สังเกตว่า หากวิชชาธรรมกายของหลวงปู่เป็นของเทียม มิใช่ของแท้ ไม่ประกอบด้วยเหตุและผล ไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติแล้ว ถึงแม้จะโด่งดัง ก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ก็จะดับไป
    แต่ตรงกันข้ามวิชชานี้กลับสืบทอดกันมาเป็นมรดก รุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ มีผู้สนใจและปฏิบัติกันยาวนานกว่า ๘๘ ปี แล้ว
    ลูกจะขอกล่าวถึงแม่ครัวของวัดปากน้ำอีกคนหนึ่งค่ะ
    คุณแม่ท้วม หุตานุกรม ท่านเกิดที่ประเทศจีน และได้เดินทางมาประเทศไทย มาประกอบอาชีพค้าขายอยู่ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านเป็นผู้ใฝ่ธรรมะมากมาตั้งแต่เล็กๆพออายุได้ ๒๐ ปี ก็หนีบิดามารดามาบวชชี และออกจาริกธรรมไปปฏิบัติตามวัดต่างๆ ซึ่งท่านมีความตั้งใจเข้มข้นถึงขนาดบางพรรษาถือธุดงควัตรแบบเนสัชชิกังคัง คือ
    ถือไม่นอนเลยตลอด ๓ เดือน เพื่อหวังจะบรรลุธรรมให้ได้ ท่านมีความสันโดษมักน้อย และมีความกตัญญูกับพ่อแม่สูงมาก
    ท่านไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับพ่อจนพ่อท่านได้มาบวชและศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า และหลังจากที่พ่อท่านได้บวชแล้ว ท่านก็ยอมสึกจากแม่ชี เพื่อมาทำงานหาเงินมาเลี้ยงแม่อยู่ระยะหนึ่ง และสร้างความเข้าใจในพุทธศาสนาให้กับแม่ไปด้วย และหลังจากที่ทุกอย่างลงตัว ท่านก็ได้กลับเข้าไปบวชชีอีกครั้งที่วัดปากน้ำ ซึ่งท่านได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญจากหลวงปู่ คือ ให้ดูแลเรื่องอาหารการกินของวัดปากน้ำทั้งหมด และเป็นหัวหน้าโรงครัวจัดการทำอาหารเลี้ยงพระประมาณ ๕๐๐ รูป แม่ชี อุบาสก อุบาสิกาอีก ๓๐๐ ท่าน รวมแล้วประมาณ ๘๐๐ ชีวิต ด้วยกัน และหลวงปู่ยังมอบหมายให้ท่านเป็นผู้ดูแลแม่ชีอีกด้วย ซึ่งในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ ๒ อาหารขาดแคลนมาก ท่านก็ได้แก้ปัญหาโดยปลูกต้นมะละกอ และทำอาหารที่เป็นผลิตผล จากมะละกอทุกอย่างอยู่นานหลายปี ซึ่งท่านก็รับบุญอาหารนี้ด้วยความตั้งใจ ท่านต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปซื้อกับข้าวมาปรุง ซึ่งทั้งหนักและเหนื่อยมาก แต่ท่านก็ไม่เคยย่อท้อ หรือหมดกำลังใจเลย ท่านทำหน้าที่นี้ด้วยความปีติในบุญทั้งชีวิต จนกระทั่งอายุ ได้ ๗๐ ปี จึงได้พัก เพราะชรามากแล้ว แต่ท่านก็ยังอยู่คอยดูแลงานที่วัดปากน้ำ จนกระทั่งเสียชีวิต ด้วยวัย ๙๗ ปี
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=700 align=center border=0><TBODY><TR><TH scope=col bgColor=#ffffff>
    [​IMG]
    </TH></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD width=250>[​IMG] </TD><TD width=514>๑. หลวงปู่ถูกลอบยิงแต่ไม่เป็นไร เพราะในอดีตชาติ ชาติหนึ่งในช่วงที่เป็นเจ้าชายก่อนเป็นพระราชา แต่คนละชาติกับตอนเป็นพระราชา บริจาคทาน ท่านมีความสามารถในการยิงธนูได้แม่นยำในระยะต่างๆ
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๒. ได้มีน้องชายต่างมารดาที่คอยชิงดีชิงเด่นกับท่าน ได้เคยประลองฝีมือในการยิงธน ูโดยการขี่ม้าดวลยิงกัน แล้วผลัดกันยิงธนูคนละดอก ตอนแรกน้องชาย ต่างมารดายิงก่อนแต่ไม่ถูก ต่อมาท่านก็ยิงบ้างแต่ไม่ตั้งใจยิงให้ถูก แค่ยิงสั่งสอนเฉียดกายจนเป็นแผล จึงทำให้น้องชายผูกโกรธ จึงเป็นเหตุให้ชาติ นี้ท่านถูกลอบยิง
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๓. ซึ่งท่านก็ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าท่านด้วย ญาณทัสสนะ แต่ที่ถูกยิงแล้วไม่เป็นไรเพราะอานุภาพแห่งธรรมที่ทำมานับภพนับชาติไม่ถ้วน
    รวมทั้งชาติปัจจุบันที่มีวิชชาธรรมกายคุ้มครองท่าน

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center border=1><TBODY><TR><TD width=514 height=201>๔. อุปัฏฐากถูกยิงเพราะเคยเป็นทหารของเจ้าชาย แต่มีนิสัยชอบล่าสัตว์ วิบากกรรมนี้มาส่งผล
    </TD><TD width=250>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=201>๕. คนที่มาลอบยิงท่านก็เคยมีบุพกรรมกับท่านมาในอดีต คือ คนนี้เคยอยู่ในกลุ่มกบฏที่คิดโค่นราชบัลลังก์ ในช่วงที่ท่านได้ขึ้นครองราชย์แล้ว
    แต่กบฏไม่สำเร็จ ถูกจับได้ ถูกลงโทษโดยโดนเนรเทศไปอยู่ชายแดน เลยผูกโกรธพยาบาทข้ามชาติมา
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>๖. คนที่มาลอบยิงหลวงปู่ เมื่อออกมาจากคุกแล้วถูกคู่อริยิงตายทันที เพราะเป็นวิบากกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบันที่เคยฆ่าคน กับวิบากกรรมที่ทำกับ
    หลวงปู่ผู้มีคุณธรรม คุณวิเศษ และมีพระคุณต่อ มวลมนุษยชาติ
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD width=250>[​IMG] </TD><TD width=514>๗. ตายแล้วก็ไปทุกข์ทรมานอยู่ในภพภูมิพิเศษ ซึ่งมีความทุกข์ทรมานมากๆๆๆ อีกยาวนานมากๆๆๆ จนกำหนดเวลายังไม่ได้ว่าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเมื่อไร
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>
    ๘. พ่อแม่ก็มีความทุกข์ร้อนใจกับการกระทำของลูกชายในปัจจุบัน แต่ไม่มีวิบากกรรม อะไรติดไป แม้เป็นผู้ให้กำเนิดก็ตาม เพราะเป็นกรรมส่วนตัว ของลูกชายเอง
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๙. ช่วงแรกมีคนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจวิชชาธรรมกายและหลวงปู่ เพราะไม่ได้ปฏิบัติธรรม มัวแต่คิดกับคุย กับพวกที่ปฏิบัติธรรมแล้วแต่ยังไปไม่ถึงจุดของวิชชาเนื่องจาก กิเลสมารขวางกันบดบัง เอาไว้ จึงไม่อาจเข้าใจ วิชชาธรรมกายและหลวงปู่ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center border=1><TBODY><TR><TD width=514 height=201>๑๐. ต่อมามีคนมานับถือหลวงปู่ล้นหลาม ทำให้มีการสืบทอดวิชชาธรรมกายมายาวนาน เพราะของจริงมีอยู่แล้วในตัวมนุษย์ทุกคน เมื่อผู้มีบุญบารมีเหล่านั้นปฏิบัติธรรม ตามคำสอนของท่านก็ได้บรรลุธรรมกายที่มีอยู่แล้วในตัว จึงเป็นพยานในการ บรรลุธรรมของท่าน ทำให้มีการสืบทอดวิชชาธรรมกาย ต่อมายาวนาน
    </TD><TD width=250>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=202>๑๑. พวกที่เข้าใจผิดว่าร้ายหลวงปู่ต่างๆ นานานั้น บางคนก็เป็นกรรมเก่า บางคนก็เป็นกรรมใหม่ กรรมเก่าก็คือพวกที่เคยว่าร้ายหลวงปู่มาในอดีตชาติ ตอนก่อนท่านบวช เมื่อตายจากชาตินั้นก็ไปตกมหานรกยาวนาน เมื่อกาลผ่านไปวงจรในวัฏฏะมาเจอกันอีก กิเลสมารก็บังคับ ตามผังเก่า ให้มาว่าร้ายท่านอีก
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=193>๑๒. ส่วนพวกที่ว่าร้ายท่านตอนที่ท่านบรรลุวิชชาธรรมกายแล้ว เมื่อตายไป ก็จะไปทุกข์ทรมานอยู่ในภพภูมิ พิเศษดังกล่าวที่ยาวนานมากๆๆ
    จนกำหนดเวลา ยังไม่ได้ว่าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเมื่อไร ส่วนที่ยังมีชีวิตอยู่วิบากกรรมนี้ก็จะบันดาลให้วิบัติด้วยภัยต่างๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD width=250>[​IMG] </TD><TD width=514>๑๓. หลวงปู่โดนลอบวางยาพิษ เพราะในปัจจุบันพวกเหล่านี้อิจฉาหมั่นไส้ท่าน ไม่อยากให้ท่านเป็นสมภาร เพราะถูกกิเลสมารบังคับไว้ให้ทำดังนั้น ส่วนกรรมในอดีต กลุ่มคนชุดนี้ก็คือกลุ่มคนที่เคยกบฏ ในชาติที่ท่านเป็นพระราชาแล้วโดนเนรเทศ ไปอยู่ชายแดนได้ผูกพยาบาทอาฆาตท่านไว้
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๑๔. ท่านรู้ล่วงหน้าได้ทุกครั้งเพราะญาณทัสสนะของธรรมกายที่ท่านบรรลุ จึงทำให้ท่านเอาตัวรอดได้
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๑๕. คนวางยาจะได้รับวิบากกรรม คือ เมื่อมีชีวิตอยู่ก็จะวิบัติด้วยภัยต่างๆ นานา และเมื่อตายไปแล้วก็จะไปอยู่ในภพภูมิพิเศษที่มีความทุกข์ทรมานมากๆๆๆ
    อย่างยาวนานจนกำหนดกาลเวลายังไม่ได้ว่าจะกลับมาเกิดใหม่เมื่อใด
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center border=1><TBODY><TR><TD width=514 height=203>๑๖. ชาติก่อนๆ ที่ผ่านมาการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย บางชาติก็ยาก บางชาติก็ง่าย ชาติที่ง่าย เช่นในพุทธันดรที่ผ่านมาก็เป็นไปตามผังเดิม คือได้เผยแผ่วิชชา ธรรมกายไปทั่วโลก คนทั่วโลกก็ได้นับถือวิชชาธรรมกาย
    </TD><TD width=250>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=196>๑๗. โดยฝ่ายอาณาจักรก็จะมีจักรพรรดิที่มาจาก วงบุญพิเศษมาเกิด และด้วยบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ องค์นี้จึงทำให้การเผยแผ่เป็นได้สะดวก
    เพราะได้ปกครองไปทั่วโลก จึงทำให้หลวงปู่และหม ู่คณะซึ่งเป็นฝ่ายพุทธ จักรขยายธรรมะได้ง่าย
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=195>๑๘. ส่วนบางชาติที่เผยแผ่ได้ยาก เพราะพญามารทำให้ผังเดิมคลาดเคลื่อน คือทำให้หมู่คณะมาเกิด ไม่พร้อมกัน ไม่รวมกัน ไม่คิดพูดทำ ไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งทำให้คนอื่นไม่เข้าใจเรื่องวิชชา ธรรมกายและไม่เข้าใจหลวงปู่
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=782 align=center bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD width=250>[​IMG] </TD><TD width=516>๑๙. วิชชาธรรมกายสูญหายไปภายหลังจาก พุทธปรินิพพาน ๕๐๐ ปี เพราะมารได้พยายามลบล้างคำว่าธรรมกายให้สูญสิ้นไป เพราะกลัวว่าถ้า เข้าถึงธรรมกายแล้ว ก็จะทำให้รู้เรื่องราวไปตามความเป็นจริง แล้วก็จะแก้ไขตัวเอง ให้พ้นจากกิเลสมาร
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๒๐. ซึ่งจะทำให้มารบังคับบัญชาไม่ได้ จึงเอากิเลสมารมาบังคับให้พุทธบริษัท ๔ ไม่สนใจในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างจริงจัง เช่น ไม่มี คารวะ ๖ เป็นต้น
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๒๑. ชาติที่ผ่านๆ มา วิชชาธรรมกายภายหลังจากพุทธปรินิพพาน ก็จะสูญหายคล้ายกับยุคปัจจุบัน จึงเป็นหน้าที่ของหมู่คณะ ที่จะลงมากอบกู้เอาคำว่า ธรรมกายหวนคืนมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นดังนี้ทุกยุค
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center border=1><TBODY><TR><TD width=514 height=198>๒๒. การค้นพบวิชชาธรรมกายในชาติก่อนๆ ที่ผ่านมาภายหลัง จากพุทธปรินิพพานดังกล่าว พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่าน ก็จะเป็นผู้ค้นพบวิชชา ธรรมกายและฟื้นฟูธรรมกายขึ้นมาใหม่ทุกครั้งไป
    </TD><TD width=250>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=202>๒๓. ที่ท่านทำได้อย่างนี้เพราะท่านมีธาตุธรรมพิเศษที่จะต้องมาทำภารกิจตรงนี้
    ในทุกๆ ครั้ง โดยมี เป้าหมายจะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=204>๒๔. หลวงปู่มีศิษยานุศิษย์มากมายล้นหลามมาร่วมใจหล่อรูปเหมือนท่าน
    เป็นทองคำขนาดเท่าองค์จริงถึง ๕ องค์ เพราะเป็นเศษเสี้ยวบุญที่ท่านสั่งสมมาทุก
    อย่างซึ่งที่จริงจะ ต้องมากกว่า นี้อีกเยอะแยะ เมื่อเทียบกับคุณธรรม
    คุณวิเศษอันแท้จริงของท่าน

    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=782 align=center bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD width=250>[​IMG] </TD><TD width=516>๒๕. รวมกับการที่ท่านมีพระคุณต่อมวลมนุษยชาติในการ ที่ท่านสละชีวิตเพื่อฟื้นฟ ูคำสอนเรื่องมรรคผล นิพพานให้กลับคืนมา
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๒๖. ในชาติก่อนๆ ก็ได้ทำมาดังชาตินี้ แต่ก็ไม่ทุกชาติ เช่น พุทธันดรที่ผ่านมาไม่มีการหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ ใครที่ได้ทำบุญ นี้ด้วยจิตที่ เลื่อมใสในองค์ท่าน ก็จะทำให้มีสายบุญเชื่อมโยงกับท่านและวิชชาธรรมกายตลอดไป
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๒๗. ลูกระเบิดถูกขว้างมาตกกลางวงฉัน เพราะกลุ่มเดิมที่ไม่ปรารถนาดีต่อท่าน ได้ขว้างระเบิดมา แต่ระเบิดไม่ระเบิดทั้งๆ ที่ไม่ด้านเพราะสัมมาปฏิบัติ ที่ท่านได้บำเพ็ญ อีกทั้งอานุภาพของวิชชาธรรมกายได้คุ้มครองและบันดาลให้เป็นดังนั้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center border=1><TBODY><TR><TD width=514 height=200>๒๘. สงครามโลกมาเกิดในช่วงหลวงปู่ เพราะมารสอดสายให้มนุษย์มารบราฆ่าฟันกันเอง เพื่อจะได้เดือดร้อนไม่มีเวลาทำมาหากินและสั่งสมบุญโดยมีเป้าหมาย มุ่งมา ทำลายวิชชาธรรมกายโดยตรงด้วย
    </TD><TD width=250>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=206>๒๙. หลวงปู่ท่านใช้วิชชาธรรมกายแก้ไขโดยไปเก็บผังละเอียดในเหตุ ที่พญามารส่ง มาบังคับให้มนุษย์ รบราฆ่าฟันกันเองให้หมดไป เมื่อเก็บในเหตุได้หมด ผลก็จะหมด ตามไปด้วย
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=60>๓๐. คุณแม่ท้วมมีอัธยาศัยฝักใฝ่ธรรมะตั้งแต่เด็ก ชอบบวชชีและอายุยืน เพราะท่านก็ได้สร้างบารมีกับ หมู่คณะมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นหญิง หรือเป็นชายท่านก็จะออกบวช ที่อายุยืนเพราะท่านเลี้ยงภัตตาหาร พระเณรทุกวัน ที่ท่านเป็นหัวหน้าโรงครัว เพราะท่านอธิษฐานจิตมาว่าอยากทำหน้าที่นี้

    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=782 align=center bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD width=250>[​IMG] </TD><TD width=516>๓๑. คนจะทำหน้าที่นี้จะต้องมีใจรัก และได้ทำดังนี้อย่างต่อเนื่อง หลายชาติจนเป็นผังสำเร็จติดในกลางตัว เมื่อตั้งความปรารถนาซ้ำอีกก็จะเป็นไปได้
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๓๒. ตายแล้วก็ไปอยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษเขตใน ขณะนี้เป็นเทพบุตรสุด หล่อกำลัง ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วิมาน ของมหาสมณเทวบุตร เพื่อสะสาง ธาตุธรรม ของตนให้สะอาด
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG] </TD><TD>๓๓. การเป็นหัวหน้าแม่ครัวหรือเป็นฝ่ายจัดเลี้ยง พระภิกษุ สามเณร จะได้รับบุญแตกต่างจากเจ้าภาพ คือ ฝ่ายหัวหน้าแม่ครัวจะได้ทั้งทานมัย คือ
    บุญที่เกิดจากการทำทาน และไวยาวัจมัยบุญที่เกิดจากการขวนขวาย ช่วยเหลือกิจการงานกุศล และเป็นบุญต่อเนื่องทุกวันไม่ขาด
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=780 align=center border=1><TBODY><TR><TD width=514 height=201>๓๔. ส่วนเจ้าภาพก็ไม่ได้ทำสม่ำเสมอ จึงได้แค่ ส่วนเดียวเป็นครั้งคราว คือ ทานมัยบุญที่สำเร็จ ด้วยการให้ทาน เมื่อบุญส่งผลผู้เป็นหัวหน้าแม่ครัว จึงได้บุญมากกว่าในทุกด้าน
    </TD><TD width=250>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=200>๓๕. คุณแม่ท้วมมีความกตัญญูกตเวทีสูงโดยการไปโปรดโยมพ่อโยมแม่ ของท่านให้มีความศรัทธาในศาสนา
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=204>๓๖. การที่ลูกอยากปลูกศรัทธากับพ่อแม่ในชาตินี้แต่ไม่สำเร็จ แต่อยากจะมีพ่อแม่เป็นสัมมาทิฐิในภพชาติเบื้องหน้า ลูกจะต้องหมั่น ทำหน้าที่ กัลยาณมิตร ชวนคนทำความดีให้มากๆ

    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffcccc width=782 align=center bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD width=250>[​IMG] </TD><TD width=516>๓๗. และทำบุญใดก็ตามทุกครั้งให้อธิษฐานจิตให้เกิดในครอบครัวที่ดี พ่อแม่มีสัมมาทิฐิและมีศรัทธา ในพระพุทธศาสนา ให้อธิษฐานดังนี้บ่อยๆ ก็จะสำเร็จได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    www.dmc.tv
     
  2. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    ??? ระวังนะครับ เรื่องเคสสตาร์ดีเนี่ยะ ยิ่งไปดูเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ถ้าผิดจากความจริงแล้วนำมาเผยแพร่ บาปกรรมหนักนะครับ แล้วใครจะรับรองได้ว่าที่เสนอนะถูกต้องจริง หลวงพ่อวัดปากน้ำองค์จริงอยู่ที่ไหน มีหน้าที่อะไร ทางวัดยังไม่รู้เลย อันตรายนะครับ อย่านำหลวงพ่อมาโฆษณาเกินจริงอีกเลยครับ บาปกรรม บาปกรรม ???
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2008
  3. มาแบบแรงๆ

    มาแบบแรงๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +36
    ไม่บาปหรอกครับ เพราะทุกอย่างที่ออก case study ล้วนเป็นความจริงทั้งหมดครับ นี่ออกมาเพื่อเป็นกรณีศึกษาครับ และออกมาจากลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำเองครับ ตอนนี้หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านอยู่ ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตใน ครับ
     
  4. มาแบบแรงๆ

    มาแบบแรงๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +36
    <OBJECT id=MediaPlayer type=application/x-oleobject height=275 standby="Loading Windows Media Player components..." width=320 classid=CLSID:22D6F312-B0F6-11D0-94AB-0080C74C7E95><embed type="application/x-mplayer2" src="http://203.147.62.17/MV1/SummanaLuangPu.wmv" name="MediaPlayer"width="320" height="275" ShowControls="1" ShowStatusBar="0" ShowDisplay="0" autostart="0"> </embed></OBJECT>
    <!--coloro:#696969--><!--/coloro-->(vdo ให้คลิกปุ่ม play แล้วรอโหลดช้าหน่อยนะคะขออภัย)<!--colorc--><!--/colorc-->


    <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->เนื้อเพลง<!--sizec--><!--/sizec-->

    ทุกจักรวาลทั้งนิพพานถอดกาย
    ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องการปราบมาร
    เป็นเรื่องง่ายดาย ที่ท่าน...
    จะไป <!--sizeo:5--><!--/sizeo--><!--coloro:#0000ff--><!--/coloro-->นิพพาน<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->
    แต่ท่านขออยุ่<!--sizeo:5--><!--/sizeo--> <!--coloro:#ff0000--><!--/coloro-->ปราบมาร<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->
    ไปจนถึง...<!--sizeo:5--><!--/sizeo--><!--coloro:#800080--><!--/coloro-->ที่สุดแห่งธรรม<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->


    ท่านสอนให้เรา
    เข้าถึงธรรมกาย
    พระคุณมากมายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ
    ตลอดชีวิตทั้งคืนวันท่านตรากตรำ
    กรำศึกพิชิตมาร
    อบรมพร่ำสอน
    แก้ทุกข์โรคภัย


    ท่านละสังขารกลับคืนไปดุสิตบุรี
    มาถึงวันนี้อยากให้ท่านหวนคืนมาใหม่
    ด้วยรูปทองคำงดงามสดใสอำไพ
    เหมือนมีชีวิตใหม่
    ให้ลูกหลานกราบไหว้บูชา
    ในวันเดียวกัน
    วันที่ท่านเกิดมาโลกนี้
    ลูกหลานเปรมปรีดิ์ จึงได้มาร่วมสัมมนา
    เพื่อรวมกองทองของผู้มีบุญญา
    อัญเชิญท่านคืนชีวา
    หวนกลับมาด้วยรูปทองคำ
     
  5. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    นั่นแหละครับ คือ สิ่งที่ต้องพิสูจน์ เพราะอะไร เพราะผู้ฝึกสมาธิวิชชาธรรมกายสายอื่นๆ เขาเห็นว่าไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ผู้ทำวิชชาในโรงงานเขาทราบกันดีว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นใคร และหลวงพ่อไม่มีทางจะไปอยู่เพียงแค่สวรรค์ชั้นดุสิตดอกครับ พูดมากเดี๋ยวก็จะว่าเป็นการกระทบกระเทือนกัน เมื่อวัดนี้บอกเช่นนี้ คนที่เขารู้เห็นว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นใครและอยู่ที่ไหน มาตั้งแต่รุ่นสมัยหลวงพ่อมีชีวิตอยู่แมจนถึงรุ่นปัจจุบันเขาได้ยินข้อมูลเช่นนี้เขาก็ส่ายหน้ากันหมดแล้วว่านั่นเป็นเรื่องของการโฆษณาโดยนำหลวงพ่อวัดปากน้ำขึ้นอ้าง


    ผมเองมีวิธีการพิสูจน์ ท่านที่เป็นธรรมกาย พิสูจน์ได้ทุกท่าน พิสูจน์กันมาแล้วมากต่อมากก็เห็นตรงกันว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำไม่ได้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิต โดยเฉพาะสมณเทพบุตรอะไรนั่นกล่าวตู่หลวงพ่ออย่างร้ายแรงนะครับ


    แล้วที่เที่ยวไปอธิบายอดีตชาติหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น ถามว่าใครเป็นคนไปเห็นมาครับ ใครรับรองครับ ท่านรู้ได้อย่างไร รบกวนช่วยบอกวิธีเดินวิชชาด้วยครับ เรื่องนี้สำคัญมากนะครับ การโฆษณาชวนเชื่อนั้นผมไม่เห็นด้วยที่นำหลวงพ่อวัดปากน้ำไปอ้างเช่นนั้นนะครับ ถ้าท่านเป็นธรรมกายผมจะบอกวิธีเดินวิชชาไปตรวจสอบให้ แต่เท่าที่รู้เดินวิชชามาอย่างไรก็สอนไม่ได้สอนไม่ถูก แล้วข้อมูลจากเคสตัสดีนะเอามาจากไหนยังไงครับ...



    ขอได้โปรดระมัดระวังด้วย นำหลวงพ่อมาโฆษณาได้เงินเข้าวัดเยอะแล้ว หยุดเถิดครับ หยุดเป็นตัวสำเร็จนะครับ จะสร้างหลวงพ่อทองคำสักกี่พันองค์ ไม่สู้เรียนวิชชาธรรมกายให้ถึงวิชชาตามที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสอนมาดอกครับ พระพุทธรูปต่อให้ทำด้วยเพชรทั้งองค์ ก็ไม่สู้สร้างพระในใจคน สร้างพระเป็นคือเป็นธรรมกาย ดีกว่าสร้างพระอิญ หิน ดิน ทราย ทอง เงิน เสียอีกนะครับ ถ้าเคารพหลวงพ่อจริง สอนวิชชาธรรมกายให้ตรงความรู้หลวงพ่อกันเถิดครับ แล้วเราจะได้พบหลวงพ่อวัดปากน้ำต้นธาตุองค์จริง...


     
  6. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    เราต้องคุยกันตามหลักวิชชาธรรมกายนะครับ จะรู้จะเห็น จะตรวจสอบอย่างไรก็ต้องว่ากันตามหลักวิชชาธรรมกาย อย่าเพิ่งเห็นแก่ความเชื่อถือตามๆกันมาจากอาจาริยวาท วิธีพิสูจน์รู้ญาณทัสสนะหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านก็บอกวิธีเดินวิชชาให้แล้ว ไม่ยากเลย


    โปรดจำไว้ว่า ให้เอาความรู้ออกหน้า อย่าเอาความเชื่อออกหน้า และใช้หลักกาลามสูตรด้วยใจเป็นกุศลและมีใจใฝ่รู้ใฝ่เรียนในวิชชาธรรมกายด้วย ท่านก็จะพิสูจน์ความจริงได้ตามสมควรแห่งการรู้เห็นแนวเดินวิชชานะครับ


    ผมเองต้องขออภัยด้วยที่กล่าวตรงๆ เช่นนี้ เพราะเห็นแก่หลักวิชชาจึงต้องกล่าวเช่นนี้นะครับ ในประเด็นนี้ถ้าเราจะคุยกันให้วางเรื่องสำนักนั้นสำนักนี้ อาจารย์นั้นอาจารย์นี้ลงก่อน เหลือแต่ความรู้ความเข้าใจในเนื้อวิชชาธรรมกาย แล้วเราจึงจะคุยกันรู้เรื่อง หลักวิชชาธรรมกายภาคปฏิบัติที่คุยกันด้วยหลักปริยัติได้นะครับ และถ้าเราคุยกันในประเด็นนี้ เราจะไม่ถือฝักถือฝ่าย เพราะเราเห็นแก่พระธรรมเห็นแก่วิชชาความรู้ที่ถูกต้องตรงกัน คุยกันฉันมิตร ค่อยๆ ทำความเข้าใจกัน เราจะได้รู้เห็นอะไรได้ตรงตามความเป็นจริง แล้วเราจะได้ปฏิบัติตัวตามหลักที่ธาตุธรรมภาคขาวท่านต้องการจริงๆ นะครับ


    หวังว่าคงเข้าใจที่ผมกล่าวนะครับ...
     
  7. มาแบบแรงๆ

    มาแบบแรงๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +36
    สวรรค์ชั้นดุสิต เป้นชั้นของนักสร้างบารมีนะครับ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายก็อยู่ชั้นนี้นะครับ ทำไมถึงบอกว่า ไม่มีทางไปอยู่เพียงแค่ชั้นดุสิตละครับ
     
  8. nongfarang

    nongfarang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +11
    ไปนั่งหลับตา หาธรรมะภายในกันดีกว่า
    จะ่เกิดประโยชน์มากกว่ามานั่งเถียงกัน เพราะต่างคนต่างก็ยังไม่มีธรรมะอะไรเลย อ่านไว้ ฟังไว้ ก็ฟังหูไว้หู เรื่องจริง ไม่จริง ใครจะไปรู้ได้ นอกจากผู้รู้ ที่เขาไปรู้ไปเห็นมาบอกต่อ เป็นธรรมทาน

    ไม่เชื่อ ก้อไม่ต้องเชื่อ การกล่าวว่าบุคคลอื่น ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด สู้เอาเวลาเถียงกัน ไปทำใจให้หยุดนิ่ง เสียดีกว่า
     
  9. aero1

    aero1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +54
    เฮ่ออออ ....... เบื่อ พุทธองค์ไม่ทรงสรรเสริญเรื่องการแสดงธรรมโดยฤทธิ์ ก็เพราะเหตุนี้แหละ กลุ่มอื่นเขาไม่เห็นมีปัญหา วิชานี้ถกเถียงกันไม่จบ เข้า web ไหนก็เถียงกัน web นั้น

    ที่ว่าเป็นวิชาที่หายไป 500 ปีเนี่ย ตำราอื่นต้องเผาไฟหมดดิ

    ว่ากันไปตาม อนุสาสนียปาฎิหารย์ ดีกว่าไหมครับ พระพุทธองค์ก็ทรงสรรเสริญเปรียบดั่ง หงายของที่คว่ำ

    ฤทธิ์เดชเนี่ย ผมก็มี อย่าเอามาคุย ดีกว่า เดี่ยวเสกให้เป็น super star ซะนี่
     
  10. มาแบบแรงๆ

    มาแบบแรงๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +36
    อภินิหารหลวงพ่อวัดปากน้ำ

    ยิ่งกว่าตาเห็น

    หลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) มีวาทะตรงกับใจ
    เมื่อจะพูดอะไรก็พูดโดยไม่สะทกสะท้านและไม่กลัวคำติเตียนด้วย เช่นครั้งหนึ่ง อาตมา(สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ปุ่น ปุณฺณสิริ) เองนี้ได้มาฉันเพลที่วัดปากน้ำ วันนั้นมีประชาชนมาก ร่วมใจบริจาคทานแก่ภิกษุสามเณรทั้งวัดเป็นกรณีพิเศษ

    เมื่อทายกประเคนอาหารเรียบร้อยแล้ว มีพ่อค้าตลาดสำเพ็ง ผู้มั่งคั่งคนหนึ่งไปกราบและถมหลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ว่า
    “หลวงพ่อขอรับวันนี้จะมีผู้บริจาคสร้างกุฏิเพื่อเจริญพระกัมมัฏฐานบ้างไหม”

    ชาวบ้านไม่น้อยกว่า 20 คน ที่นั่งใกล้ ๆ
    ได้ยินคำถามนั้นคิดว่าคงตั้งใจฟังคำตอบของหลวงพ่อต่างทอดสายตามามองหลวงพ่อเพื่อฟังคำตอบ

    เวลานั้นอาตมามีทั้งโกรธผู้ถาม ทั้งหนักใจแทนหลวงพ่อ และได้มองดูหน้าผู้ตอบ

    หลวงพ่อมีดวงหน้ายิ้มแย้งแจ่มใส หลับตาสัก 5 นาที ครั้นแล้วตอบทันทีว่า “มี”
    ผู้ถามได้ถามย้ำต่อไปว่ากี่หลัง หลวงพ่อวัดปากน้ำตอบว่า 2-3 หลัง และย้ำอีกว่าต้องได้แน่

    เวลานั้นอาตมาฉันภัตตาหารไม่มีรส โกรธผู้ถามว่าช่างไม่มีอัธยาศัย คำถามเช่นนั้นเท่ากับเอาโคลนมาสาดรดหลวงพ่อ
    เมื่อต้องการทราบ ควรถามเฉพาะสองต่อสอง และโกรธหลวงพ่อว่า ช่างไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    คิดว่าทำไมนะหลวงพ่อจึงไม่พูดว่า เวลานี้ยังไม่เป็นโอกาสที่จะพยากรณ์คำถามนั้น

    ที่ตอบออกไปว่าจะมีผู้บริจาค 2-3 หลังนั้น หมิ่นต่ออันตรายมากนัก อาจเป็นคำพูดที่ฆ่าตนเองด้วยดาบของตนฆ่าตนเอง
    เวลานั้นก็เอาใจช่วยหลวงพ่อขอให้มีผู้บริจาคจริง ๆ เถิด เสร็จการฉันของหวานแล้ว

    คำพยากรณ์ของหลวงพ่อก็ยังไม่ปรากฏเป็นความจริงขึ้น อาตมานั่งอยู่ด้วยความอึดอัดใจ นึกตำหนิท่านว่าไม่รอบครอบ
    พอได้เวลาอนุโมทนา มีคณะอุบาสกอุบาสิกากลุ่มหนึ่งเข้ามากราบหลวงพ่อ
    บอกว่าศรัทธาจะสร้างกุฏิเล็ก ๆ อย่างที่หลวงพ่อสร้างไว้แล้วสัก 2-3 หลัง
    ประมาณราคา 3-4 ร้อยบาทต่อหนึ่งหลังขอให้หลวงพ่อช่วยจัดการให้ด้วย

    ตอนนี้หลวงพ่อไม่หัวเราะ ยิ้มน้อย ๆ พอสมควรแก่กาละ ครั้นแล้วหลวงพ่อเรียกตัวผู้ถามมาบอกว่า
    “ได้แล้วกุฏิกัมมัฏฐาน 3 หลัง เจ้าของนั่งอยู่นี่”
    แล้วท่านชี้มือไปยังเจ้าภาพผู้บริจาค
    ผู้ถามได้กระโดยเข้าไปกราบที่ตักหลวงพ่อพูดว่า “ยิ่งกว่าตาเห็น”

    อาตมาดีใจจนเหงื่อตก ที่ความจริงมากู้เกียรติของหลวงพ่อไว้ได้ เกรงจะเป็นลูกไม้
    จึงหาโอกาสสนทนากับผู้บริจาคว่า นัดกับหลวงพ่อวัดปากน้ำไว้หรือว่าจะสร้างกุฏิถวาย ได้รับคำตอบว่า
    พึ่งคิดเมื่อมาทำบุญวันนี้เอง เดินมาเห็นกุฏิเล็ก ๆ สวยดีอยากจะสร้างบ้าง แต่ทุนไม่พอ
    จึงปรึกษากับพวกพ้องที่บังเอิญมาพบกันวันนี้เห็นดีร่วมกัน

    จึงได้มอบเงินแก่หลวงพ่อให้จัดการสร้างต่อไป นี่เป็นเรื่องก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ร่วมหลายสิบปีมาแล้ว


    สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช
    (ปุ่น ปุณณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

    ******************

    มะรืนนี้พ่อเอ็งก็จะมา

    เมื่อข้าพเจ้า (คุณครูตรีธา เนียมขำ) มีอายุประมาณ 15-16 คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่พี่น้องมากอยากขออนุญาตหลวงพ่อขอกลับไปเยี่ยมบ้าน แต่หลวงพ่อท่าน ไม่ให้ไป
    ท่านบอกว่า “มะรืนนี้พ่อเอ็งก็จะมา”

    ข้าพเจ้าไม่แน่ใจ คิดว่าหลวงพ่อท่านต้องหลอกข้าพเจ้าแน่ ๆ จึงย้อนถามท่านเพื่อความแน่ใจ
    ว่าหลวงพ่อพูดเอาเองหรือพ่อข้าพเจ้าได้กราบเรียนท่านไว้แล้ว
    “พ่อบอกหลวงพ่อไว้หรือเจ้าคะว่าพ่อจะมามะรืนนี้”

    หลวงพ่อท่านตอบว่า “พ่อเอ็งไม่ได้บอกหรอก แต่เอ็งคอยดูซีน่า มะรืนนี้พ่อเอ็งต้องมา”

    ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กยังไม่มีความคิด ข้าพเจ้าก็คิดว่าถ้ามะรืนนี้พ่อไม่มาจะต้องต่อว่าหลวงพ่อ

    แต่พอถึงวันนั้น พ่อข้าพเจ้าก็มาเยี่ยมจริง ๆ ข้าพเจ้ารีบถามพ่อว่า

    “พ่อได้บอกหลวงพ่อไว้หรือเปล่าว่าพ่อจะมาในวันนี้”
    พ่อข้าพเจ้าตอบว่า “เปล่า”


    คุณครูตรีธา เนียมขำ

    ********************

    มีแม่ชีที่อยู่วัดปากน้ำคนหนึ่ง ลูกชายจะไปฆ่าเขา หลวงพ่อรู้ว่า ถ้าคนนี้เราไม่โปรด
    มันจะติดคุกติดตะราง ตกนรกหมกไหม้

    หลวงพ่อวัดปากน้ำเรียกแม่ชีคนนี้มา แล้วบอกว่า
    “ลูกเอ็งจะแจวเรือผ่านมานะ ผ่านมา…เอ็งเรียกขึ้นมาหาหลวงพ่อหน่อย”

    แม่ชีก็นั่งคอย ลูกผ่านมาจริง ๆ ก็เลยเรียกลูกว่า “ลูก…เอ็งผ่านมา หลวงพ่อท่านสั่งไว้ให้ขึ้นไปหาหน่อย หลวงพ่อท่านบอกว่าไอ้ที่คิดไว้เลิกล้มเสียนะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร การฆ่าเป็นบาปติดไปหลายชาติ จะตกนรกหมกไหม้”

    มันบอกว่าหลวงพ่อทำไมรู้ มันเตรียมปืนใส่ท้องเรือไว้แล้ว มันโกงไร่ โกงนา โกงสวน เอาไว้ไม่ได้

    แต่พอหลวงพ่อทัก ต้องเลิกล้มเลย ถ้าหลวงพ่อไม่โปรด มันต้องติดคุกติดตะราง


    พระครูภาวนากิตติคุณ
    วัดเกษมจิตตาราม
    จ.อุตรดิตถ์


    ****************

    ตาทิพย์…เห็นพระพุทธรูปใต้ดิน

    อาตมา (พระครูปรีชาปริยัติกิจ พระมหาเฉลียว กัลยาโน) อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

    แต่เดิมมีหลวงพ่อองค์หนึ่ง ชื่อหลวงพ่อโพธิ์ (ปัจจุบันมรณภาพไปแล้ว อายุ 90 กว่า ๆ)

    ท่านเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หลวงพ่อโพธิ์ท่านเคยเจอหลวงพ่อสด(วัดปากน้ำ) ตอนมาสอนภาวนาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
    ช่วงแรกที่หลวงพ่อสดมา ท่านเห็นเด็กเอาวัวมาเลี้ยงที่บริเวณวัด ซึ่งใต้พื้นดินนั้น หลวงพ่อสดเห็นมีพระพุทธรูปอยู่ จึงบอกเด็ก ๆ ว่า

    “อย่าเอาวัวไปเลี้ยงตรงนั้น เพราะมีพระพุทธรูปอยู่เดี๋ยวจะเป็นบาป”

    คนแถวนั้นไม่เชื่อ พอขุดลงไปเจอพระพุทธรูปจริง ๆ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อสดเป็นอันมาก

    ช่วงที่กำลังมีสงคราม เวลามีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดก็จะเห็นเครื่องบิน บินอยู่เต็มท้องฟ้า

    ผู้คนหลบมาพึ่งบารมีของหลวงพ่อเต็มวัดปากน้ำ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน คนจะหลบภัยกันมาก หลวงพ่อบอกว่า

    “ระเบิดไม่ลงหรอกที่นี่ ไม่ทิ้งหรอก ระเบิดจะไปทิ้งที่ฝั่งพระนคร”

    มี 2 ครั้ง ที่ระเบิดสะเทือนมาถึงวัดปากน้ำ คืนตอนที่เครื่องบินทิ้งระเบิดที่วัดประยูร
    และทิ้งแถวตลาดพลู แต่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ไม่มีอะไรเสียหาย


    พระครูปรีชาปริยัติกิจ
    พระมหาเฉลียว กัลยาโณ ป.ธ.4


    ********************************
    ป้าฉลวย สมบัติสุข

    หลวงพ่อท่านบอกว่าต้องการช่วยคนให้พ้นทุกข์ทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำจะว่าใจดีก็ใจดี จะว่าดุก็ดุและท่านเป็นคนตรง ถ้าเห็นว่าเป็นอย่างนี้ก็ต้องเป็นอย่างนี้ ขนาดสมเด็จวัดโพธิ์เป็นหลานของท่าน ท่านบอก "เฮ้ย ของเรามันถูกอยู่แล้วแน่นอนอยู่แล้วจะไปกลัวอะไร"

    อย่างท่านบอกว่าสมเด็จวัดโพธิ์จะได้เป็นสังฆราช ไม่น่าเชื่อไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นจริง เพราะว่าคนที่รอจะขึ้นเป็นสังฆราชมีอยู่อีกองค์คือพระพิมลธรรม วัดมหาธาตุ ถ้าสังฆราชองค์เก่าสิ้น พระวัดมหาธาตุต้องได้ขึ้นแน่นอนแต่พอดีมีเรื่องเกิดขึ้น ก็มาเป็นวัดโพธิ์ ท่านจะพูดเฉพาะเรื่องที่จำเป็น คิดไม่ถึง ถึงเวลาจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้

    สมัยตอนหลวงพ่อมาอยู่วัดปากน้ำแรกๆ หลวงพ่อมาอยู้ท่านก็ทำตามความถูกต้อง ไม่มีอะไรกับใคร แต่คนที่มาอยู่รุ่นเก่า ที่เขาอยู่แถวนั้นก็มีบารมีเป็นที่นับถือ อาจจะไม่ชอบใจ เวลาหลวงพ่อท่านทำอะไรลงไปก็จะเป็นข่าวโจมตี แต่ยิ่งว่าไม่ดียิ่งดัง ของเรามันดีอยู่แล้วไม่ได้ไปทำความเสียหายอะไร คล้ายๆ กลองยิ่งตีมันยิ่งดัง แทนที่คนเขาว่าจะทำให้เสื่อมเสียหาย แต่กลับเป็นตรงกันข้าม


    ********************************


    แม่ชีรัมภา โพธิ์คำฉาย

    วิชชาในโรงงาน หลวงพ่อจะเป็นคนสั่งวิชชา พูดผ่านฝากระดานที่กั้นไว้ ชีแถบหนึ่ง พระอยู่อีกแถบหนึ่ง มีที่กั้นแยกกันชัดเจน หลวงพ่อสอนทุกๆ คนเหมือนกัน ไม่มีใครพิเศษกว่าใคร
    มีครั้งหนึ่งตอนท่านป่วยหนักเป็นปีที่ ๑๓ ที่ฉันมาอยู่กับหลวงพ่อ วันนั้นท่านให้คนมาเรียก ท่านถามว่า
    "เอ้าสั่นหายหรือยัง" สั่นก็คือไม่สบาย
    ฉันก็ตอบว่าค่อยยังชั่วแล้ว ท่านบอกว่า
    "ทำวิชชาไว้นะ ทำได้เป็นของเรา ถ้าเราไม่ทำ เราจะไม่ได้" สั่งคำนี้

    ท่านสั่งไว้ ชีวิตจิตใจของหลวงพ่อไม่มีอะไรมากไปกว่าวิชชา ๒๔ ชั่วโมง หลวงพ่อไม่เคยห่าง ทำวิชชาตลอด หลวงพ่อจะทดลองวิชชาอยู่เรื่อย มีครั้งหนึ่งมีญาติโยมมานั่งกันเต็ม ช่วงกลางคืน คืนนั้นดาวเต็มท้องฟ้า ท่านก็ให้เณรที่อยู่ใกล้ๆ ท่าน(หลวงพ่อเล็ก) ดับดาวบนท้องฟ้า จะเห็นดาวดับเป็นแถบๆ เลย เพื่อให้รู้ว่าวิชชาธรรมกายสามารถทำได้ ไม่ใช่เพื่อเหตุผลอย่างอื่น


    ****************************************


    ลุงประคอง ทับจ้อย

    วิชชาของหลวงพ่อวัดปากน้ำนี่ท่านดีจริง ถ้าวิชชาของหลวงพ่อไม่แน่ ตอนนี้วัดปากน้ำเหลือแต่ดุ้นฟืน เพราะตามหลักจริงๆ แล้ววัดปากน้ำเป็นจุดระเบิด ที่ระเบิดลงเลยแหละ ธรรมดาตามหลักประตูน้ำ บางคลองนี้ไม่มีเหลือ ตั้งแต่ประตูน้ำบางนกแสก ประตูน้ำอ่างทอง ประตูบางยาง เหลือแต่ประตูน้ำภาษีเจริญที่ไม่เป็นอะไรเลย ไปถามเลยวัดวาอารามอยู่ที่ไหนไม่มีเหลือ ถูกทิ้งระเบิดหมดเลย ช่วงนั้นหลวงพ่ออยู่ในโบสถ์ ไม่ออกจากโบสถ์เลย นั่งทำวิชชาของท่านอย่างเดียว นั่งปัดลูกระเบิดอย่างเดียว แล้วบางคนก็จะวิ่งมาอยู่ที่วัดปากน้ำ เพราะมั่นใจว่ายังไงก็ปลอดภัยที่สุด สงครามเกิดขึ้นปี ๒๔๘๕ (สงครามโลกครั้งที่ ๒)



    ************************************


    พระอาจารย์สุวิชา เปสโล คณะเนกขัมม์ วัดปากน้ำ

    หลวงพ่อมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ สมัยนั้นพระเณรหลวงพ่อไม่ให้มีวิทยุ โทรทัศน์ ไม่ให้จับเงิน จับทอง แต่ก่อนพระเณรที่มาอยู่กับหลวงพ่อให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหาร หลวงพ่อมีโรงครัวเลี้ยง มีพระจบเปรียญกันมากมายจากวัดปากน้ำ หลวงพ่อสด ท่านสอนว่าใครจะโจมตีเรายังไงก็แล้วแต่ ท่านให้เราเป็นเสาหิน เรียกว่าจะมีพายุทั้ง ๔ ด้านมาเราก็เฉย

    มีครั้งหนึ่งมีคนมาด่าหลวงพ่อที่หน้าโบสถ์ ขณะหลวงพ่อกำลังเทศน์อยู่ หรือมีคนเอาปืนมาลอบยิงท่าน ท่านก็ไม่ว่าอะไร อยากจะทำก็ทำไป เพราะเขาอิจฉาหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านบอกว่า เราหยุด หยุดเป็นพระ ชนะเป็นมาร เราไม่หนี เราไม่สู้ แต่เราปฏิบัติ เราก็ทำความดีของเราเรื่อย เดี๋ยวไอ้พวกมาร พวกอิจฉาก็หายไปเอง เรานั่งเฉย ไม่ต้องไปโต้ตอบอะไร เขาด่าเราภายใน ๗ วัน เหนื่อยมันก็หยุดไปเอง ไม่โต้ตอบ ชนะด้วยความดี

    ในการมาเรียนพระปริยัติธรรม แต่ก่อนมีพระเณรมาเรียนกันมาก มีถึง ๖๐๐ กว่าองค์ หลวงพ่อบอกว่าเลี้ยงไหว ท่านบอกว่าเมื่อจั้งใจมาเรียนแล้ว แม้จะคับที่ก็ขอให้อยู่ได้ อัศจรรย์อย่างหนึ่ง คือหลวงพ่อเลี้ยงอาหารไหวตลอด เดี๋ยวก็มีคนเอาข้าว เอาอะไรต่ออะไรมาถวายทีหนึ่งก็เป็นลำเรือ



    **********************************


    คุณครูตรีธา เนียมขำ

    การเผยแผ่วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อในสมัยก่อนนั้น ท่านถูกคัดค้านต่อต้านมากมายเพราะในสมัยนั้นไม่มีผู้ใดสั่งสอนการปฏิบัติแบบนี้ การส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์ก็เน้นในก้านปริยัติเพียงด้านเดียว พระที่สนใจการปฏิบัติก็มักจะหลีกเร้นไปแสวงหาที่สงบสงัดเพื่อบำเพ็ญเพียรตามป่าเขาลำเนาไพร หลวงพ่อของเราจึงเป็นพระสงฆ์องค์แรกที่กล้าสอยการปฏิบัติธรรมอย่างเปิดเผย ท่านจึงเป็นที่เพ่งเล็งและเป็นเป้าให้คนโจมตี ผู้ที่คัดค้านการปฏิบัติของท่านนั้นมีทั้งฆราวาสและพระภิกษุ แต่หลวงพ่อท่านก็มิได้ครั่นคร้าม หรือย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ท่านยึดถือพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างและเดินตามรอยบาทของพระพุทธองค์อย่างไม่ย่อท้อ ท่านจึงพยายามฟันฝ่าอุปสรรคอย่างองอาจกล้าหาญ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้รู้แจ้งในหลักการของพระพุทธศาสนา ท่านต้องการเชิดชูธงธรรมกายของท่านให้ปลิวไสวไปทั่วทุกพื้นปฐพีหลวงพ่อท่านมีคติพจน์ของท่านว่า

    "ดอกไม้ที่หอมไม่ต้องเอาน้ำหอมมาพรมก็หอมเอง ใครจะห้ามไม่ได้ ซากศพไม่ต้องเอาของเหม็นมาละเลงใส่ซากศพก็ต้องแสดงกลิ่นศพให้ปรากฏ ปิดกันไม่ได้"
     
  11. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    ข้อมูลที่คุณมาแบบแรงๆ โพสต์ไว้ข้างบนนั้นเป็นข้อมูลที่ผมพิมพ์เผยแพร่ในเว็ปนี้เอง คงจะนำมาจากเว็ป DMC อีกที แต่ผมเป็นคนพิมพ์ลงกระทู้ในห้องพันธุ์ทิพย์ เกี่ยวกับอภินิหารหลวงพ่อวัดปากน้ำ อ้อ...กระทู้ในพลังจิตนี่ผมก็นำมาลง ดูตามนี้นะครับ http://palungjit.org/showthread.php?t=42356


    ประเด็นอาจอยู่ที่คุณมาแบบเรงๆ ไม่มีความรู้ทางวิชชาธรรมกายเลย และอาจมีข้อมูลบางส่วนซึ่งอาจไม่เต็มใบในเรื่องประวัติศาสตร์ทางวิชชาธรรมกาย ผมเองตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อยู่เนืองๆ นะครับ ผมเตือนมานานแล้วเรื่องดุสิตบุรีนี่นะ ไม่ใช่เพิ่งพูดนะครับ ผมเองก็ฝึกปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกายมาพอสมควร ทราบความชัดเจนในประเด็นนี้ดี ดังนี้ถ้าเจ้าของกระทู้ไม่มีความรู้มาคุยกัน ผมก็ขอเสนอว่า เรื่องการทำนายแบบนี้อย่าเพิ่งเชื่อ และอย่าได้นำเสนอในทางโฆษณา เพราะลูกศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำมีมากมาย ท่านที่รู้ดีกว่าเรายังมี ข้อมูลที่บิดเบือนบางเรื่องอาจสร้างความเสียหายได้ถ้าเราไม่รู้ที่มาที่ไป ประวัติที่ชัดเจนของหลวงพ่อวัดปากน้ำมีอยู่แล้ว อย่าได้นำสิ่งแปลกปลอมมาใส่เพิ่มเติม โดยเฉพาะการอ้างอดีตชาติ อดีตกรรมของหลวงพ่อนี่ไม่บังควรเลย


    เคสสตาสดี ถ้าพิจารณาให้ละเอียดนั้นดูเหมือนเป็นการอวดอุตริหรือไม่ ท่านต้องพิจารณา พระสงฆ์สมควรอ้างเรื่องแบบนี้หรือไม่ ถึงจะอ้างว่าใช้ให้คนอื่นไปดู แต่คนพูดก็คือพระสงฆ์ ผมดู DMC แล้ว เห็นว่าการเที่ยวทำนายบุพกรรมคนอื่นโดยพระสงฆ์แล้วออกสื่อก็ดูว่ามีเงื่อนงำ เพราะสิ่งเหล่านี้พิสูจน์ไม่ได้ ถ้าคุยกันเป็นการส่วนตัวก็ยังต้องระวังเรื่องวินัยสงฆ์เลย แต่นี่ท่านพูดออกสื่อจานดาวธรรม โดยท่านเองเป็นคนพูด อันตรายต่อพระธรรมวินัยนะครับ ถ้ามีข้อมูลที่ไม่จริงแม้เพียงเล็กน้อย ศีลก็มัวหมองได้แล้ว ถามว่ามีประโยชน์อะไรที่ต้องมานั่งทำนายบุพกรรมคนอื่น แต่ถ้าเป็นการเรียกคะแนนนิยมนะก็คงใช่เลย


    ท่านต้องชั่งใจให้มากในการรับข้อมูลข่าวสารนะครับท่านผู้อ่าน วิชชาธรรมกายเราคุยกันตามหลักวิชชาได้ แต่ถ้าท่านไม่คุยกันโดยมีหลักวิชชาอ้างอิง ก็แปลว่าข้อมูลนั้นไม่มีที่มาที่ไปขาดความน่าเชื่อถือ สอนเบื้องต้นให้ชัดเจนก่อนเถิดครับ เดินวิชชาเบื้องต้นตามฐานทางเดินของใจทั้ง ๗ ฐาน สอนไหม...? ทำอย่างไรให้เขาเห็นดวงปฐมมรรคได้ในช่วงเวลาที่เราสอน...? เขาเห็นดวงปฐมมรรคแล้วต่อวิชชาเขาได้ไหม...? ต่อวิชชา ๑๘ กายได้ไหม...? เข้านิพพานไปพบพระบรมศาสดาได้ไหม...? หลวงพ่อวัดปากน้ำคือต้นธาตุทำหน้าที่ปกครองอยู่ไม่ใช่เป็นเทพบุตรท่านทราบไหม...? ผมแนะนำให้ท่านหาความรู้จากตำราของหลวงพ่อวัดปากน้ำทุกเล่มก่อน แล้วเราค่อยๆ คุยกัน ความรู้มีอยู่แล้ว ใครก็หลอกเราไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราเข้าถึงความรู้จริงได้หรือเปล่า เท่านั้นเอง...


    หวังว่าคงเข้าในนะครับ ว่าผมต้องการให้ท่านมีหลักมีเกณฑ์ในการศึกษาวิชชาธรรมกาย "จงเอาความรู้ออกหน้า อย่าได้เอาความเชื่อออกหน้า" แล้วท่านจะพบความรู้จริงนะครับ
     
  12. มาแบบแรงๆ

    มาแบบแรงๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +36
    case study ไม่ได้เที่ยวทำนายบุพกรรมคนอื่นนะครับ แต่บุคคลจะส่งเรื่องราวต่างๆมาถามท่านนะครับ วันละเรื่องนะครับ เป็นความต้องการของบุคคลนั้นเองนะครับ หลวงพ่อก็มีเมตตาตอบให้ เรื่องทุกเรื่อง มีที่มา มีบุคคล มีตัวตนจริงนะครับ ถ้าอยู่ดีๆไปทักคนอื่นเค้าว่า มีบุพกรรมอย่างนี้ อย่างนี้เรียกว่า อวด ครับ แต่นี่เป็นความต้องการของคนที่อยากรู้เลยส่งเรื่องราว พร้อม คำถาม นะครับ เข้าใจ เคส ใหม่ด้วยนะครับ
    ผมว่าคุณก็รุ้เรื่องหลวงปู่วัดปากน้ำเยอะนะครับ วัดปากน้ำกับวัดนี้ก็สายเดียวกันนะครับ คนที่สร้างวัดนี้ก็เป้น ศิษย์เอกหลวงพ่อที่ทำวิชชานะครับ เป็นแม่ชี หลวงพ่อก็บอกแม่ชีว่า เป็นหนึ่งไม่มีสอง ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพ ท่านก็บอกแม่ชีนี้ว่า ให้เผยแผ่ วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก นะครับ ผมว่าคุณ แอนตี้ วัดนี้เองหรือเปล่าครับ
     
  13. มาแบบแรงๆ

    มาแบบแรงๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +36
    ปู่ผง มีแก้วน้อย เป็นหนึ่งในอุปัฏฐากใกล้ชิดหลวงปุ่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และมีศักดิ์เป็นน้องชายหลวงปู่ เพราะพ่อปู่ผง เป้นโยมน้าของหลวงปุ่

    น้าองุ่น สุขเจริญ มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปุ่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพราะทวดของน้าองุ่นเป็นพี่สาวของแม่หลวงปู่ อายุ 63 ปี อยู่ อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี

    ปู่ผงมักพูดอยู่เสมอว่า หลวงปุ่ท่านเป็นคนจริง อย่างพี่หลวงปุ่เคยพูดให้ฟังว่า ถ้าไม่ชนะมารจะไม่ไปไหน ยอมตายอยู่ที่วัดปากน้ำ ถ้าสู้ไม่ได้ท่าไม่ยอม ท่านตายแล้วเกิดใหม่ ท่านต้องปราบมารให้สิ้นเชื้อ ตอนที่หลวงปู่สู้กับมาร มารถามว่าจะปราบหรือจะโปรด หลวงปุ่บอกปราบ มารบอกว่ามีแต่เขาจะโปรด หลวงปุ่เก่งขนาดไหนจะปราบ หลวงปุ่บอกปราบอย่างเดียวไม่โปรด

    ด้วยความที่เราเป็นลูกหลานแท้ๆของหลวงปู่ เรากลัววิชชาธรรมกายที่หลวงปุ่อุตส่าห์ค้นพบจะไม่มีผุ้สืบทอด เรื่องนี้น้าเคยได้ยินปู่ผงคุยกับปุ่ใส(หลานหลวงปุ่) คุยเรื่องนี้เป้นปี ปู่ใสพูดกับปุ่ผงว่า ถ้าหลวงพี่เป้นอะไรไปก็ห่วงแต่วัดปากน้ำพระเณรชีจะพากันอด ปู่ผงก็ตอบว่า..หลวงพี่ไม่ห่วงหรอกวัดปากน้ำ ท่านห่วงวิชชาธรรมกายของท่านแต่ในช่วงหลังปุ่ผงก็มาบอกปู่ใสว่า ตอนนี้หลวงพี่ท่านไม่ห่วงแล้วนะ ปู่ใสถามว่าทำไม

    ปู่ผงก็ตอบอีกว่า หลวงพี่ท่านบอกว่าผุ้สืบทอดวิชชา..นะเกิดแล้ว

    ปู่ใสก็ถามว่า ใช่ญาติเราหรือคนในวงศ์วานของเราหรือเปล่า
    ปู่ผงก็ตอบว่า เปล่า เป็นคน สิงห์บุรี

    จนกระทั่งน้าได้มีโอกาสมาทราบประวัติหลวงพ่อธัมมชโยจากหนังสือโลกทิพย์เมื่อ20กว่าปีก่อนพออ่านเสร็จ ก็จ้างรถชวนญาติมา วัดพระธรรมกาย มากราบหลวงพ่อ 10 กว่าคน พอเจอท่านเท่านั้นแหละ หลานสาวแท้ๆของหลวงปู่ก็ปล่อยโฮร้องไห้ใหญ่ บอกพวกเรามาถูกทางแล้ว เพราะหลวงปู่เคยบอกไว้ว่า คนได้ธรรมกายจะสว่างแบบนี้ และนับจากนั้นน้าเองก็ได้มาวัดสร้างบารมี จนได้ย้อนกลับไปหาปู่ผงใหม่ให้ท่านช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้สืบทอดให้น้าฟัง แกบอกเคยถามหลวงปู่เรื่องนี้หลายครั้งแล้วและท่านก็ย้ำอีกในครั้งล่าสุดว่า

    " หลวงพี่เคยบอกอีกในช่วงที่อาพาธมากๆ ใกล้มรณภาพว่า คนดีเขามาแล้ว จะมาแทน มาจากทางสิงห์บุรี คนนั้นเขาดี เขามีวิชชาธรรมกายเด่นมาก บุญบารมีของเขามาก เขาจะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก "
    ทีนี้ก็เลิกสงสัยในตัวหลวงพ่อได้แล้วนะครับ คุณสมถะ หลวงปู่เป็นคนพูดเองเลยนะครับ
    แนะนำให้ลิงค์เข้าไปดูนะครับ เสียสละเวลาสักนิด แล้วจะเข้าใจ http://www.dmc.tv/programs/Phramongkolthepmuni/files/PooPong.wmv
     
  14. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    ทำใจนิ่งๆ แล้วทบทวนสิ่งที่ผมกล่าวให้ดีนะครับ ผมไม่ต้องการกล่าวว่าใคร แต่ผมเพียงท้วงติงเท่านั้น ถ้าจะทำนายเพราะมีคนส่งเรื่องมาให้ ก็ให้เป็นเรื่องส่วนตัวซีครับ จะมาทำเป็นรายการให้โลกติเตียนไปทำไม ต่อไปใครเขาขออะไรก็ต้องทำตามเขา พระธรรมวินัยจะไปเหลืออะไรล่ะครับ เรายอมหักไม่ยอมงอได้ไหม


    สิ่งที่กล่าวเพื่อให้เครดิตกับตนเองนั้นผมว่าอย่าเพิ่งไปเชื่อ เราวัดกันที่ความรู้ ถ้าวันนี้ยังไม่แสดงความรู้ทางวิชชาธรรมกายให้ชัดเจนได้เลย จะสมกับการสืบต่อได้หรือ สืบต่อทางวิชชาไม่ใช่สืบต่อทางสร้างชื่อด้วยวัตถุและพิธีกรรมนะครับ ต้องขออภัยด้วย เดี๋ยวจะว่าผมอคติอีก ผมเองถึงจะยังไม่หมดกิเลสแต่ผมเองก็เป็นคนชอบหาความจริงครับ ในประเด็นที่คุณกล่าวผมทราบดีว่าความจริงเป็นเช่นไร และมีวิธีตรวจสอบด้วยตนเอง แปลว่าผมฟังหูไว้หูทุกเรื่องทุกข้อมูล แต่ผมมุ่งที่ความจริงเป็นหลัก ผมไม่จำเป็นต้องอคติดอกครับ ผมต้องการให้เราหันมาสนใจเนื้อความรู้ทางวิชชาธรรมกายให้ถูกต้อง จะสืบต่อไม่ใช่หรือ จะสืบต่อก็หมั่นเรียนหมั่นใฝ่รู้ในวิชชาธรรมกายซีครับ อย่าหลงประเด็นซีครับ ความรู้ไม่มีหรือมีไม่จริงแล้วจะสืบต่อยังไงล่ะครับ


    เอาเป็นว่าผมกล่าวตรงๆ เช่นนี้ไม่ต้องการให้เราโกรธเกลียดกัน แต่ผมเพียงต้องการให้รู้จักกลับลำ กลับตัว ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ยังไม่สายสำหรับท่านที่สนใจในวิชชาธรรมกาย ผมกล่าวฝากไปถึงทุกคนนะครับ ไม่ใช่มุ่งที่คนใดคนหนึ่ง....


    อ่านเรื่องเต็มทั้งหมด ภิกษุดุจนักรบ...เรื่องเล่าฝ่ายพระภิกษุในสมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำ


    ห้องสนทนาวิชชาธรรมกาย
    http://forums.212cafe.com/samatha/


    ความรู้ทั่วไป
    http://www.khunsamatha.com/
    <!-- / message -->

    พระธรรมเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ(รวบรวมไว้มากที่สุด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2009
  15. dhammashare

    dhammashare เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +189
    จากพันทิพครับ

    [SIZE=-1]Y6927126[/SIZE] ข้อเท็จจริงกรณีวัดพระธรรมกาย อ่านแล้วตาสว่าง เรื่องที่หลายๆท่านอาจยังไม่ทราบ <!-- [15] --> [​IMG]
    [SIZE=-1]Y6942447[/SIZE] หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ความเคารพต่อหลวงพ่อสดมาก แต่ไม่เคยกล่าวถึง “วัดพระธรรมกายเลย” ยกเว้นข้อความต่อไปนี้ <!-- [14] --> [​IMG]
    [SIZE=-1]Y5779543[/SIZE] ธรรม(กลาย) เพื่อ(มอมเมา)ประชาชน ฉบับพระรัตนตรัย(เป็นอัตตา) <!-- [12] --> [​IMG]
    [SIZE=-1]Y6632829[/SIZE] แท้จริงแล้ว “มหาลดาปสาธน์” ก็คือชุดเจ้าสาวของมหาอุบาสิกาวิสาขา <!-- [5] --> [​IMG]
    [SIZE=-1]Y5804013[/SIZE] เครื่องประดับชาวสวรรค์......เห็นแล้วต้องติดใจครับ<!-- [5] --> [​IMG]
    [SIZE=-1]Y6999073[/SIZE] สินเชื่อเพื่อการทำบุญ “ หล่อทองคำรูปเหมือนหลวงปู่ - พ ร ะ ม ง ค ล เ ท พ มุ นี ”[​IMG]
    [SIZE=-1]X5729877[/SIZE] มาพิสูจน์ทฤษฎีปัดระเบิด ด้วยหลักฟิสิกข์กันเถอะ{แตกประเด็นจาก X5726802}[​IMG]

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านบอกไว้ชัดเจนครับ ว่าเจ้้าสำนักเป็นยังไง
    โหลดฟังได้เลยครับ ลิงค์นี้

    ถ้าฟังเนื้อๆ เริ่มที่ นาที่ที่ 3:50 นะครับ

    http://www.luangpor.com/audio/SaveTh...B_Pakinaka.mp3

    สำรอง 1 ถ้าโหลดไม่เป็น คลิ๊กอ่านวิธีโหลด วิธีโหลด kewlshare
    KewlShare : Upload, Share & Earn Money with Your Files

    สำรอง 2 ถ้าโหลดไม่เป็น คลิ๊กอ่านวิธีโหลด วิธีโหลด rapidshare
    RapidShare: 1-CLICK Web hosting - Easy Filehosting

    สำรอง 3
    http://palungjit.org/attachments/a.678972/


    ใครใคร่ศึกษา การปฎิบัติธรรมจริงๆ
    ผมสนับสนุนให้ ศึกษาของจริงที่
    "วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ" นะครับ
     
  16. มหนฺตยศฺ

    มหนฺตยศฺ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +112
    สาธุ ครับ
    รักหลวงพ่อเช่นกัน
    อยากเรียนวิชานี้จากตัวพระคุณเจ้าจริงๆ
     
  17. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,649
    ศึกษาธรรมสายวิชชาธรรมกายได้อีกที่ จากวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ราชบุรี ครับ

    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม : สำนักปฏิบัติธรรมและโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ประจำจังหว


    บูรพาจารย์




    [​IMG]
    พระราชพรหมเถร (วีระ คณุตฺตโม)
    พระวิปัสสนาจารย์ของหลวงพ่อพระราชญาณวิสิฐ
    [​IMG]
    [​IMG]
    พระราชญาณวิสิฐ วิ. (เสริมชัย ชยมงฺคโล ป.ธ.๖)
    ผู้ก่อกำเนิดวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม​

    *************************************

    หลวงพ่อ พระราชพรหมเถร (วีระ คณุตฺตโม) เป็นศิษย์ หลวงปู่สด ที่หลวงปู่ได้บวชให้ ด้วยตนเอง

    ปัจจุบัน เป็นผู้สืบทอดวิชชาธรรมกายโดยตรงจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านได้ทำหน้าที่เผยแพร่พระสัทธรรมวิชชาธรรมกายของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเต็มที่ ทั้งในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่หอสังเวชนียมงคลเทพนิรมิต ในโครงการธรรมปฏิบัติเพื่อประชาชน วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี


    ***********************************

    ลูกศิษย์สายวิชชาธรรมกาย อย่างน้อยควรได้ศึกษาพระธรรมเทศนาของหลวงปู่โดยตรงบ้างนะครับ....จะได้ทราบว่าท่านเทศว่าอย่างไร...และทราบความหมายอย่างแท้จริง...เพื่อจะได้ไม่ผิดทางในจุดประสงค์ของวิชชาธรรมกายดั้งเดิมที่ศึกษากันสมัยนั้น...และอาจเป็นบันทัดฐานได้ว่าสำนักใดในศิษย์ของท่านได้สืบทอดเจตนารมณ์ของท่านไว้ได้มากที่สุด...เข้าศึกษาได้ตามลิงค์ข้างบนครับ....

    ;welcome3​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2009
  18. belives

    belives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +234
    สับสนแล้วเนี่ย


    แล้วทำไม คุณไประลึกชาติไปดูประวัติของหลวงพ่อธัมมชโยเลย ละ
    หรือไม่ ก็ไปถามหลวงปู่สดเลย ว่า หลวงพ่อธัมมชโย เป็นใคร เกิดมาทำไม

    นะๆๆ ไหนๆ ใครเข้าถึงแล้วไปดูให้หน่อย สิ
     
  19. Peace in mind

    Peace in mind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +370
    รับไม่ได้มาก ๆ ที่ชวนทำบุญ จองดุสิตบุรี ...แล้วยังจะต้องให้คนเป็น ห่วงคนตาย ให้ใครมาหลับ ๆ ฝัน ๆ เพ้อ ๆ ว่าตายแล้วไปอยู่ไหน กรรมใครกรรมมัน ตายอย่าถาม แม้แต่พระพุทธเจ้า ยังทรงตรัสถึงการเกาะเกี่ยวของจิตกับความดีหรือความชั่ว แม้เพียงชั่วขณะจิตก่อนตาย ทำให้ไม่อาจทำนายได้ว่าใครจะไปอยู่ไหน ผู้ทำดีเป็นนิจมีความเป็นไปได้ที่ต้องได้ไปอยู่ในที่ดี แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงส่งเสริมให้ใครทำนายที่ไปของใคร แม้ท่านจะมีความสามารถหยั่งรู้ได้ก็ตาม สรุปได้ว่า ตอนอยู่ ทำใ้ห้ดี ก็น่าพอใจแล้ว การทำบุญมีปัจจัยถึงพร้อม ทั้งความพร้อมด้านปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำ รวมถึงการมีใจเป็นบุญ เป็นกุศล การทำบุญ เพื่อสืบต่อให้เกิดบุญ อนุเคราะห์ผู้ยากไร้ให้ได้รับความช่วยเหลือ ผู้ทำบุญได้สละแล้วซึ่งความอยากสะสม ความเมตตา กรุณา ปราณี ยินดีให้ แม้จะด้วยทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของเพียงน้อยนิด ก็ย่อมเกิดมหากุศลยิ่งใหญ่กว่าการทำบุญเพื่อสะสมเป็นบุญส่วนตัว เหมือนคนขาดน้ำกลางทะเลทราย ต่อให้มีทองมากมายกองตรงหน้า เค้าก็ไม่ต้องการ แต่มีน้ำเพียงไม่กี่หยดให้เขาได้ดื่มกินเป็นการต่อชีวิต ย่อมทำให้ผู้รับและผู้ให้เกิดความรู้สึกในบุญและคุณที่ได้ทำต่อกันอย่างยิ่งใหญ่ .... ไม่เข้าใจว่า จะสอนให้สละหรือจะสอนให้มักอยาก มักได้ในผลบุญ ดังว่าบุญทำแล้วย่อมเกิดบุญกุศล ความดี ทำแล้วย่อมดี ทำไมต้องไปคาดคะเน หวังในลาภผลจากการตั้งปริมาณการทำบุญ...มันเพี้ยนไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างมากเลยนะ DMซี้ เนี่ยะ...กรรมหนักมากกว่ามั๊ยที่สอนอะไรให้คนทั่วโลกเค้าแบบผิด ๆ เพี้ยน ๆ
     
  20. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +1,036
    ต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องทำต่างกันไป

    มาคุยฟุ้งกันอยู่ได้ ไปทำหน้าที่ได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...