อภินิหารพระแม่กวนอิม

อภินิหารพระแม่กวนอิม เมื่อคราวตรุษจีน ปีพุทธศักราช 2520 ครอบครัวของข้าพเจ้าได้ไปนมัสการพระตามวัดต่าง ๆ ทั่วเกาะไตัหวัน พร้อมกับท่องเที่ยวไปด้วย ระหว่างเส้นทางจากกรุงเข้าไปเมืองไถหนานทิวทัศน์ตลอดเส้นทางทั้งสองข้าง ทำให้ใจอันว้าวุ่นมาตลอดปีได้สงบลง เช้าวันชิวสี่ (วันที่ 4 ของตรุษจีน) พวกเราจะเดินทางต่อไปเมืองฮัวเหลียน รถออกวิ่งไปไม่นาน หน้าตาของคุณปู่เริ่มกระตุก คล้ายกับเป็นลางสังหรณ์ว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
รถได้ผ่านถนนซุฮัวไฮเวย์ วิวทั้งสองข้างสวยงามมากด้านขวามือเป็นมหาสมุทรแปซิฟิก จะเห็นท้องทะเลจรดกับขอบฟ้ากว้างใหญ่สุดหูสุดตา ส่วนด้านซ้ายเป็นภูเขาสูงชัน ถนนจะไต่ทอดไปตามไหล่เขา ขณะที่พวกเรากำลังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ตระการตาอยู่นั้น ฉับพลันนั้นมีสุภาพสตรีในชุดสีขาวเรือนร่างมีประกายแวววาวดังรัศมีสีทอง กำลังเดินทอดน่องอยู่ข้างหน้าพวกเรา คุณปู่จึงเอ่ยขึ้นว่า

 

นำมอไต่ชื้อไต่ปุย กวงสี่อิม ผ่อสัก

 

คาถามนตร์มหากรุณา เป็นมนตร์คาถาอันกำเนิดจากความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ รวมทั้งความโปรดโลก โปรดสัตว์ ปฏิบัติธรรมบรรลุพระพุทธภูมิที่สำคัญอย่างยิ่งยวด ซึ่งเป็นของพระอวโลกิเตศวโพธิสัตว์ อักษรหนึ่งและประโยคหนึ่งในธารณีนี้ ล้วนเป็นสัจธรรมมที่จะเข้าถึงสัมมาพุทธญาณ
ธารณีนี้ เป็นส่วนสำคัญของ "มหากรุณาจิตธารณีสูตร" รวมมี 84 ประโยค ชื่อเต็มว่า "สหัสภุชสหัสเนตรอวโลกิเตศวโพธิสัตว์ไพบูลย์สมบูรณ์อกิญจนมหากรุณาจิตธารณีสูตรมหากรุณามนตร์" ที่ได้ชื่อดังนี้ มีที่มาว่า สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสต่อพระอานนท์ว่า "ธารณีนี้ มีชื่อต่าง ๆ เช่น มหาไพบูลย์สมบูรณ์หนึ่ง อกิญจนมหากรุณาหนึ่ง ปลดทุกข์ธารณีหนึ่ง อายุวัฒนธารณีหนึ่ง ดับทุกข์คติธารณีหนึ่ง กำจัดกิญจนบาปหนึ่ง สมบูรณ์ปณิธานหนึ่ง มโนมัยอิศวรหนึ่ง วิกรมอุตตรภูมิธารณีหนึ่ง"
พระโพธิ์สัตว์องค์นี้ที่มีนามว่า "สหัสภุชสหัสเนตรอวโลกิเตศวรโพธิ์สัตว์" นั้น ก็เนื่องจากในพุทธกาล พระสหัสประภาศานติสถิตยตถาคตพุทธเจ้านั้น พระพุทธเจ้าองค์นี้ได้ตรัส "มหาไพบูลย์สมบูรณ์อกิญจนมหากรุณารณีแก่ท่านโพธิสัตว์ และตรัสต่อไปว่า "สาธุบุรุษ เมื่อเธอได้หฤทัยธารณีนี้ จงสร้างประโยชน์สุขสำราญแก่สัตว์ทั้งหลายในกษายกัลปแห่งอนาคตกาลโดยทั่วถึง" " ตามพระสูตรได้กล่าวไว้ว่า ในขณะนั้น เมื่อพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ได้ฟังมนตร์ถาคานี้แล้ว ก็ได้จากปฐมภูมิของโพธิสัตว์ บรรลุถึงภูมิที่ 8 คือ อจลภูมิ จึงได้ตั้งปณิธานว่า "ในอนาคตกาล ถ้าเราสามารถสร้างประโยชน์สุขแก่สรรพสัตว์ได้ ขอให้ข้าพเจ้าได้มีพันเนตรพันกรในทันที" เมื่อท่านได้ตั้งปณิธานนี้แล้ว ได้เกิดมีพันเนตรพันกรในบัดดล เกิดแผ่นดินไหวทั่วทั้ง 10 ทิศ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็ต่างส่องอมตาภา ส่องทั่วไป ทั่วทศทิศอันไม่มีขอบเขต ส่วนมนตร์คาถานี้ มีหลายชื่อนั้น ก็เนื่องจาก พระศากยมุนีได้เคยตรัสแก่พระอานนท์ว่า "เนื่องจากปณิธานอันใหญ่ยิ่งโดยพระโพธิสัตว์กล่าวว่า "หากว่าเหล่ามนุษย์และทวยเทพตั้งจิตสวดนามเรา พร้อมด้วยสวดนามพระพุทธอมิตาพุทธเจ้าแล้วสวดพระธารณีนี้ คืนละ5 จบ ก็จะดับมหันตโทษจำนวนร้อยพันหมื่นล้านกัลปได้ หากเหล่ามนุษย์ทวยเทพสวดคาถามหากรุณานี้ เมื่อใกล้ชีวิตดับ พระพุทธเจ้าทั้ง 10 ทิศจะมายื่นพระกรมารับ แล้วให้ไปจุติในพุทธเกษตรทุกแห่ง ถ้ามนุษย์ทวยเทพสวดมนตร์มหากรุณานี้ จะเกิดโดยประกอบด้วยกุศล 15 ประการ และไม่ต้องด้วยทุมรณะ 15 ประการ คือ
1 ที่ที่เกิด จะพบแต่กุศล 5
2 เกิดในประเทศกุศล
3 พบแต่ยามดี
4 พบแต่มิตรดี
5 ร่างกายประกอบด้วยอินทรีย์พร้อมมูล
6 จิตเป็นธรรมโดยสมบูรณ์
7 ไม่ผิดศีล
8 ญาติบริวารมีความกตัญญู ปรองดองกัน มีสามัคคีกัน
9 ทรัพย์สมบัติ โภคทรัพย์ มีสมบูรณ์ครบถ้วน
10 มีผู้เคารพและให้ความช่วยเหลือเสมอ
11 ทรัพย์สินที่มีอยู่ไม่มีใครมาปล้นชิง
12 คิดต้องการอะไร จะได้สมความปรารถนา
13 ทวยเทพ นาค ให้ความปกปักษ์รักษาอยู่เสมอ
14 เกิดในที่ที่ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจากพระ พุทธองค์
15 พระธรรมที่ได้ฟัง สามารถเข้าถึงแก่นสาร ไม่ต้องด้วยทุมรณะ 15 ประการ ดังนี้
1 ไม่ต้องมรณะด้วยความอดอยากข้นแค้น
2 ไม่ต้องมรณะด้วยการใส่ขื่อ กักขังและเฆี่ยนโบย
3 ไม่ต้องมรณะด้วยศัตรูจองเวร
4 ไม่ต้องมรณะด้วยศึกศงคราม
5 ไม่ต้องมรณะด้วยสัตว์ขบกิน
6 ไม่ต้องมรณะด้วยงูพิษ แมลงป่อง
7 ไม่ต้องมรณะด้วยจมน้ำ ไฟไหม้
8 ไม่ต้องมรณะด้วยยาพิษ
9 ไม่ต้องมรณะด้วยแมลงร้ายขบกัน
10 ไม่ต้องมรณะด้วยจิตใจว้าวุ่นเป็นบ้า
11 ไม่ต้องมรณะด้วยตกจากภูเขาต้นไม้และหน้าผาสูง
13 ไม่ต้องมรณะด้วยเทพร้ายผีสาง
14 ไม่ต้องมรณะด้วยโรคร้ายเรื้อรัง
15 ไม่ต้องมรณะด้วยความไม่ประมาณตนจนเกินฐานะ
เสมอ ไม่เพียงแต่จะรักษาโรคทางใจและทางกายได้ ยังสามารถให้หลุดพ้นจาการเวียนว่ายตายเกิด เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้จากประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น

##บทความจากหนังศสือ"โพธิสักการ"ที่ระลึกในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานเททองหล่อ พระอวโลกิเตศวร กวนอิม ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พุทธศักราช 2536##