อยากทราบว่าการนั่งสมาธิเพชร

การนั่งสมาธิเพชรนั้นมีผลอะไรอย่างไรกับการทำสมาธิวิปัสนาหรือเปล่าแล้วพระพุทธเจ้าท่านนั่งสมาธเพชรหรือไม่ ถ้านั่งมีเหตุผลอะไรหรือเปล่าครับ

 

เคยโหลดฟังธรรมเทศนาจากหลวงพ่อจรัญ ท่านก็ว่าอย่างนี้ล่ะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าไฟล์ไหน

ได้ข้อมูลมาตรงกันครับ

และอีกท่านหนึ่งหลวงปู่สิมท่านชอบให้นั่งสมาธิเพชร

 

ส่วนเรื่องเหตุผล การนั่งสมาธิเพชร ถือว่าได้ฝึกจิต ให้มีขันติต่อทุกขเวทนา ได้เป็นอย่างดี

การนั่งชั้นเดียว พอนั่งนานๆไป จะทำให้หลังห่อ ต่างจากท่าสมาธิเพชร ซึ่งจะทำให้หลังตรง

ไม่ลองไม่รู้ กินยาถูกกับโรค ก็รักษาโรคให้หายได้

แต่หากหิวข้าว แล้วจะไปอาบน้ำ คงไม่หายหิวแน่นอนครับ

อยู่ที่การสร้างเหตุ ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ลองฝึกพิจารณาดู

ขอบคุณครับ

 

ขัดสมาธิเพชร ฐานมั่นคงแข็งแรง ลองจัดท่าทางนั่งดูก็จะเห็นได้เองครับ
แต่ไม่แนะนำ สำหรับมือใหม่
เริ่มจาก ขาเรียง แล้วก็ ขาซ้อน เสียก่อน ไปเรื่อยๆ ครับ

 

ตอนนั่่งไม่เท่าไหร่ แต่ตอนที่จะเลิกนั่ง เอาขาที่ไขว้กัน ออกจากท่านั่นแหละ

ตรงนี้อย่าพลีพลาม จากที่นั่งมาหลายๆนาที หรือเป็นชั่วโมงๆ เพราะจะอาจทำให้เส้นเสียได้

เอาขาข้างที่ทับอยู่บน ค่อยๆเอาลงมาทาบกับพื้นก่อนสักครู่ เพื่อคลายเส้น

แล้วค่อยเอาอีกข้างสอดลงไป ก็จะอยู่ในลักษณะท่านั่งธรรมดา

เป็นเคล็ดลับ ส่วนเรื่องจะพิจารณาเป็นสมถะวิปัสนา ก็แล้วแต่ว่าจะพิจารณาอย่างไร

 

นั่งปุ๊บได้กำหนด เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานปั๊บ pig_cryy2

แต่พอทำได้แล้ว ร่างกายจะมั่นคง กระดูกสันหลังตั้งตรง ไหล่ผึ่ง ทิ้งน้ำหนักทรงตัวได้ดีขึ้นเหมือนฐานพีรามิด และช่วยให้นั่งสมาธิได้นานขึ้นโดยไม่ปวดหลัง ขาทั้งสองข้างล็อคเกี่ยวกันแน่นหนาไม่มีหลุด แต่อาจเกร็งจนสั่นผับๆ ตอนเริ่มฝึกใหม่ๆ rabbit_scary
ค่อยๆฝึกแบบใจเย็นๆครับ ค่อยๆฝึกไปแบบโยคะ ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อเท้า-หัวเข่า สะโพกไปด้วย

ช่วงแรกๆผมฝึกท่านี้โดยการนั่งและนอนครับ catt25 ใครอยากลองทำตามเชิญเลยครับไม่สงวนลิขสิทธ์

ท่านั่ง
1.พับขาข้างซ้ายขึ้นมาพาดตักข้างขวาไว้ ส่วนขาขวาวางราบไปปกติให้ฝ่าเท้าขวาจรดหน้าแข้งซ้าย (ขาเราจะเป็นรูปสามเหลี่ยม) เน้นยืดหยุ่นข้อเท้าข้างซ้าย...นั่งสมาธิไปตามปกติ นานเท่าไหร่ก็ได้
2.ทำสลับข้างเหมือนข้อแรก เพื่อยืดหยุ่นข้อเท้าขวา...นั่งสมาธิไปตามปกติ
3.ฝึกจนข้อเท้าสองข้างมีความยืดหยุ่นและคุ้นเคยแล้ว ทีนี้นั่งให้เต็มรูปแบบ...จัดระเบียบอย่าให้กระดูกตาตุ่มทับขาอีกข้าง นั่งหลังให้ตรง

ท่านอน
1.นอนหงายแล้วพับขาข้างซ้ายขึ้นมาพาดหน้าตักขวา มือจับอุ้งเท้าไว้ พยายามกดหัวเข่าแนบกับพื้นค้างไว้สักพักนานเท่าที่ต้องการ แล้วทำสลับข้าง...(ผมค้างไว้จนหลับไปเลย)
2.นอนหงายแล้วพับขาทั้งสองข้างขึ้นมาทำขัดสมาธิเพชร แล้วหลับไปเลย...(อิ อิ) ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังช่วงสะโพก
3.นอนหงายทำเหมือนข้อสอง แล้วยกตัวขึ้นนั่ง...มาอยู่ในท่าปกติ

ฝึกตอนนอนดูทีวีก็ได้

ลองทำกันดูครับ จะรู้ว่าไม่ยาก แต่หลักๆก็คือ นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น... (สำนวนท่านพุทธทาส)

อย่าหักโหม ไม่พัก ไม่เพียร ประเดี๋ยวก็ทำได้ครับ

 

นั่งพับเพียบก็ได้
นั่งแบบไหนก็ได้
มันสำคัญที่จิต
นั่งแบบไหนมันก็มีเวทนาทั้งนั้น
นอนยังไม่ถึงห้านาทียังเมื่อยเลย

นั่งแบบสบายใจของเรา ชอบแบบไหนเอาแบบนั้น
จิตจะได้ไม่กังวล

ปล. ถ้ามีผลจริง คนอ้วนหมดสิทธิ์เข้ากรรมฐานเลยนะ
เพราะคนอ้วนขาใหญ่นี่เขานั่งขัดสมาธิเพชรไม่ได้

 

พระพุทธเจ้าสอนแค่..."นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ ตั้งกายตรงดำรงสติมั่นเฉพาะหน้า"
การวางมือแบบไหนท่านก็ไม่ได้สอนไว้

 

ยี่สิบนิ้วพิมพ์ ไม่เท่า ตาเห็น

ยี่สิบตาเห็นไม่เท่าลงมือทำ

ลองเลย

 

............ยังมีอานิสงค์ ของการเดิน จงกรมด้วย ดีเหมือนกัน

 

สำหรับคนอ้วนลองฝึกนั่งแบบท่าแรกก็ได้ครับ เป็นท่าที่มีความมั่นคงและนั่งสบายพอสมควร เพราะเข่าทั้งสองข้างจะแนบติดกับพื้น ไม่ยกลอย ฐานมีความมั่นคง แถมขาทั้งสองข้างยังไม่มีส่วนไหนที่ทับกันให้เกิดความปวดเมื่อย นอกจากข้อเท้าข้างที่ยกขึ้นมาพาดอาจจะปวดเมื่อยบ้าง แต่นานๆไปจะเกิดความยืดหยุ่น
ท่านั่งอาจดูแปลกตาไม่เหมือนชาวบ้านบ้างถ้าไม่ซีเรียส ถือว่าเป็นการฝึกครับ ได้สร้างวิริยะบารมีไปในตัวด้วย

ลองหาจุดสมดุลที่เหมาะสมของแต่ละคนดูครับ อย่าถึงกับบำเพ็ญทุกรกิริยาก็พอแล้ว
ให้ความมั่งคงทางกายนำไปสู่ความมั่นคงทางจิต
ได้ผลอย่างไรมาบอกกันด้วยนะครับ :love:

 

ไม่เคยนั่งสมาธิเพชรได้เลยค่ะ
ทั้งที่เคยพยายามหัดทำหลายครั้ง

 

เพราะอินทรีย์ในการปฎิบัติของแต่ละบุคคลยิ่งย่อนต่างกัน

พระพุทธองค์ท่านจึงให้อุบายการปฎิบัติที่ถูกจริตแก่เวนัยสัตว์ โดยแบบมาตรฐานก็มีดังกล่าว ที่ต่ำกว่ามาตรฐานก็มีแต่สามารถบรรลุธรรมได้ ดังเราจะเห็นในครั้งพระพุทธกาลปรากฎว่า บรรลุธรรมได้หลากหลายอิริยาบถ...แต่หากวาสนาเคยได้สั่งสมอบรมณ์มาดี การนั่งแบบพระมหาบุรุษ คงมิใช่เรื่องยากครับ!

หากท่านใดจะฝึกนั่งสมาธิเพชร ก็ขออนุโมทนาครับ เป็นท่านั่งที่สมดุลและสง่างามมาก

 

ตอนนั่งสมาธิครั้งแรกน้ำหนัก 120กิโล อย่าว่าแต่เพชรเลยครับ พลอยยังไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ลดเหลือ80กว่าๆโลแล้ว ต้้งใจจะให้เหลือสัก 80 โล ก็น่าจะดี ตอนนี้ฝึกนั่งแบบเพชรอยู่ครับได้สัก50นาทีแล้วยังไม่ถึงชั่วโมงเลย ให้ความรู้สึกว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นอย่างไรไม่รู้นะครับ

 

ได้ 50 นาที ก็แจ๋วมากแล้วครับ
แล้วพิจารณาอย่างไรครับ

 

ผมวางเฉยกับเวทนาที่รุนแรงเ่ท่าที่จะวางได้ครับไม่เข้าไปยินร้ายในเวทนานั้นเป็นการฝึกอุเบกขากับสิ่งที่ไม่น่ายินดีครับ

 

สาธุๆๆ ชอบแล้ว.....
เห็นเวทนาดับแล้วใช่ไหมครับ

 

เคยสองครั้งในท่าขัดสมาธิราบ แต่ท่าสมาธิเพชรยังไม่เคยครับ

 

ดีแล้วครับ

ถ้านั่งในท่าราบ เวลาเกิดเวทนาขึ้นมา ลองกำหนดจิต เข้าไปตรงกลางของเวทนานั้นเลย พิจารณามันไปเรื่อยๆ ดูมันไว้อย่าให้คลาดสายตา แล้วลองทดลองเล่นกับมันดู โดยการเพิ่มกำลังการเพ่งขึ้นนิดนึง หาจุดตรงกลางที่สุด ที่เป็นจุดกำเนิดของความเจ็บนั้นเลย มันอยู่ที่กล้ามเนื้อมัดใด เนื้อส่วนใด ลึกจากผิวหนังเข้าไปกี่เซน เพ่งดูไปเรื่อยๆ จนมันหดเล็กเหลือเท่าปลายเข็ม เพ่งดูไปเรื่อยๆ

แต่อย่าใช้ภวตัณหาในการเพ่ง อย่าคิดว่าอยากให้มันดับไปนะครับ ดูให้เห็นมันเป็นปรมัตถ์ธรรม คือ สภาวะความเจ็บ โดยไม่ปรุงแต่ง ไม่เอาอุปาทานไปครอบมัน เพ่งดูโดยไม่คิดอะไรเพิ่มเติม เห็นความเจ็บ เป็นแค่สภาวะ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับใจเรา ลองดูครับ ว่าทำวิธีนี้ แล้วเกิดอะไรแปลกๆ ขึ้นไหม

 

การนั่งสมาธินั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของสรีระร่างกายแห่งบุคคลนั้นๆ จะนั่งแบบไหนก็ได้ ถ้านั่งแล้วสบายไม่มีอาการปวด ไม่ขัดคือ ไม่เป็นอุปสรรค ต่อการปฏิบัติ ก็ย่อมนั่งได้ทั้งนั้น
การนั่งขัดสมาธิเพชรนั้น เป็นเพียงอิริยาบถหนึ่งที่มองดูแล้วสวยงาม น่าเคารพนับถือ ในอดีต มีพระอรหันต์หลายองค์ ที่ไม่นั่งขัดสมาธิเพชร แต่จะนั่งตามถนัด ตามแต่สภาพสรีระร่างกายจะอำนวย ขอรับ