...อยากเรียนเป็นสัปเหร่อ...หาครูที่ไหนช่วยบอกที...

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ธรรมชาติพยากรณ์, 26 มีนาคม 2008.

  1. ธรรมชาติพยากรณ์

    ธรรมชาติพยากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +203
    (good) ...ขอความกรุณาท่านที่ทราบ หรือต้องการแนะนำสถานที่จะเรียนเป็นสัปเหร่อ ...

    ...ข้าพเจ้าปราถนาที่จะทำงานด้านนี้ และต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกในวาระสุดท้ายก่อนสะลายธาตุ มีงานประจำอยู่แล้วปัจจุบัน แต่อยากทำงานด้านนี้ควบคู่กันไป หรือจะทำประจำในอนาคต ฐานะการเงินมั่นคงแล้ว เพียงแต่ต้องการทำเพื่อเอาบุญ จึงขอความกรุณาท่านที่ประกอบอาชีพนี้ หรือมีสถานที่แนะนำให้ไปเรียนรู้ช่วยแจ้งข่าวให้ข้าพเจ้าทราบด้วย จะเป็นพระคุณมากๆ หรือให้เรียนรู้งานต้องการลูกมือยินดีครับ ไม่คิดค่าแรงครับเพราะข้าพเจ้ามีเงินพอแล้ว
    แต่ต้องการช่วย และอยากให้มีอาชีพนี้ดำรงอยู่...

    (tm-love) ...ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับชีวิต ความเป็นความตายอยู่แล้ว จึงไม่กลัว และมีพื้นฐานความรู้ทางการแพทย์ดี ...ทางธรรมก็ถือศีล ห้าประจำ
    มีข้อแนะนำติดต่อ โทร.085-199-2265 หรือ e-mail :tammahorasatthai@hotmail.com
    ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
     
  2. ซุปเปอร์แมน

    ซุปเปอร์แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +195
    บ้านอยู่ไหนใกล้วัดอะไร ก็ขอเรียนกับสัปเหร่อวัดนั้นล่ะครับ
    ผมก็เคยไปช่วยทำโน้นนี่เล็กๆน้อยๆอยู่บ่อยๆ
     
  3. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,169
    อาชีพใกล้วัดเจ้าหน้าที่ ส.ป.ร.(สัปเหร่อ)

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อาจารย์ใหญ่สัปเหร่อใจคุณธรรม
    นายไหล ตะเพียนทอง อายุ 72 ปี สัปเหร่อแห่งพระนครศรีอยุธยา เปิดบ้านโชว์เงินปากผี ที่ตัวเองเก็บสะสมจากศพผู้ตายก่อนขึ้นเมรุเผา นำมาหุ้มพลาสติกแล้วติดเต็มผนังบ้าน รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 2 หมื่นบาท ตามข่าว

    เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 4/1 ม.9 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ของนายไหล ตะเพียนทอง อายุ 72 ปี สัปเหร่อประจำชุมชน พบว่าที่ฝาบ้านไม้ชั้นบนตรงระเบียงหน้าบ้านขนาดสูง 2.5 เมตร ยาว 6 เมตร มีธนบัตรไทยหลายชนิดทั้งใบละหนึ่งร้อยบาท,ห้าสิบบาทและยี่สิบบาท จำนวนมากห่อด้วยพลาสติกอย่างดี ถูกตีตะปูยึดมุมสี่ด้านกับฝาผนังจนแน่นเต็มพื้นที่ฝาผนังรวมแล้วเกือบ 20,000 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดเป็นเงินปากผีที่เอามาจากศพซึ่งนายไหล ทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อเผาศพให้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"ทำบุญให้ผู้ตายเสมอ เงินปากผีก็นำไปทำบุญ"

    เมื่อได้เงินมาหากเป็นเหรียญเก็บใส่กระป๋อง แต่ส่วนใหญ่เป็นธนบัตร จะนำมาหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี และนำตะปูมาตอกที่มุมธนบัตรยึดแน่นติดข้างฝา แต่ละศพจะได้เงินไม่เท่ากันแล้วแต่ฐานะของผู้ตาย ส่วนใหญ่จะเป็นธนบัตรชนิดหนึ่งร้อย ห้าสิบ และยี่สิบ ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา ฝาผนังบ้านของตนเองเต็มแน่นไปด้วยธนบัตรหลายรอบแล้ว เมื่อเงินเต็มฝาก็จะแกะเงินออกมาและรวบรวมไปทำบุญที่วัด ซื้อผ้าประดับเมรุ ซื้ออิฐ ซื้อปูนถวายวัดทั้งหมดและอุทิศส่วนกุศลให้คนตายเจ้าของเงิน

    ตนเองไม่เคยนำเงินปากผีมาใช้ และเงินทองค่าแรงที่ได้จากการเป็นสัปเหร่อ ก็นำสมทบทุนทำบุญกับเงินปากผีด้วยเช่นกัน ทำมานานลูกหลานไม่ได้ว่าอะไร ทุกวันนี้อยู่กับภรรยา ชื่อนางเล็กเพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนลูกๆมีครอบครัวทำงานดีทั้งหมด ลูกหลานส่งเสียเลี้ยงดูตนเป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเอาเงินปากผีไปใช้จ่ายอะไร เงินปากผีจำนวนมากติดข้างฝาหน้าบ้านยังไม่เห็นมีคนร้ายเข้ามาขโมย สงสัยมันจะกลัว ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันรู้ดีว่าตนเป็นคนอย่างไร ก่อนนอนทุกวันตนได้สวดมนต์ทุกคืน และทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ตายเสมอ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

    ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่า ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรฯเตรียมจัดทำเวิร์กช็อป หรือจัดระเบียบผู้ที่มีหน้าที่จัดการฌาปนกิจศพหรือสัปเหร่อทั่วประเทศ ที่มีประมาณเกือบ 8 หมื่นคน จาก 34,000 วัดทั่วประเทศ เนื่องจากมลพิษที่เกิดจากการเผาศพมีสารไดออกซินและฟิวแรน ซึ่งเป็นสารเคมีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อสารพิษตกค้าง และเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในคน

    ดังนั้น ถ้าสามารถสร้างความเข้าใจกับกลุ่มสัปเหร่อในฐานะผู้ปฏิบัติงานให้มีส่วนร่วม และรับทราบถึงวิธีการลดมลพิษสารไดออกซินและฟิวแรนจากการเผาศพได้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง โดยตนได้สั่งการให้นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เตรียมประสานกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทส.จ.) ให้เชิญสัปเหร่อจากวัดทั่วประเทศประมาณ 7-8 หมื่นคน มาพูดคุยทำความเข้าใจกัน อย่างช้าภายในเดือน ส.ค.นี้




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2008
  4. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,373
    แจ่มจริง ขอโมทนา (||)
     
  5. khongbeng

    khongbeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +657
    ชีวิตการเป็น ส.ป.ร. ก็น่าศึกษา

    ได้เจริญวิปัสสนาทุกวัน....สาธุ..สาธุ..สาธุ...
     
  6. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,169
    ประเพณีที่เกี่ยวกับความตายชาวไทยโดยสังเขป

    1 อาบน้ำศพ
    ต้มน้ำร้อนในหม้อดิน(ตามแบบโบราณ) เอาใบไม้(ใบอะไรก็ได้)ใส่ลงไปต้มด้วย ต้องอาบน้ำด้วยน้ำร้อนก่อนแล้วจึงอาบด้วยน้ำเย็น ฟอกด้วยส้มมะกรูด ชำระล้างให้สะอาดหมดจด แล้วเอาผิวมะกรูดตำกับขมิ้นทาให้ทั่วร่างกายอีกหนึ่งครั้ง ถ้าเป็นศพของผู้ที่เคารพนับถือให้เอาผ้าขาวมาซับที่เท้า ฝ่ามือ และลูบหน้า เพื่อให้ลูกหลาน เก็บไว้สักการะบูชา

    2 การแต่งกายศพ
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]มักนิยมใช้ผ้าขาวสำหรับนุ่งห่ม 2 ชิ้น กรณีผู้ตายมียศ หรือรับราชการ ก็ต้องแต่งตัวให้เต็มยศของผู้ตาย[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]3 พิธีรดน้ำศพ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]จัดการยกศพขึ้นบนเตียงนอนที่จัดเตรียมไว้ คลุมด้วยผ้าแพรและผ้าสวยๆ อีกชิ้นหนึ่งตั้งโต๊ะ วางขวดน้ำอบให้ใกล้เตียงศพ แล้วแบมือศพข้างขวาออกพ้นนอกเตียง ใช้หมอนงามๆและขันรองรับน้ำ รองรับมือไว้ ขณะที่รดน้ำศพควรนึกขอขมาโทษศพในใจว่า "อิทัง มะตะสะรีรัง อุทะกัง วิยะ อะโหสิกัมมัง" (ความหมายว่า เป็นการขอขมาโทษ อโหสิกรรมจากความเป็นเวรต่อกัน)[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]4 เงินใส่ปากศพ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]นำเงินเหรียญบาท หรือ สลึง 2 สลึง (ไม่ระบุว่าเท่าไหร่)ใช้ผ้าขาวห่อเงิน แล้วเอาเชือกผูกแล้วให้ห้อยออกมานอกปากเพื่อเวลาจะเผาจะได้เก็บมาได้ เพื่อเก็บไว้เป็นที่บูชา เหตุที่เอาเงินใส่ปากศพเพื่อเป็นการพิจารณาว่าทรัพย์สินมีเท่าไหร่ก็เอาไปด้วยไม่ได้ จะมีให้ปรากฏก็เฉพาะคุณงานความดีเท่านั้น[/FONT][FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]5 การปิดหน้าศพ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]คือการเอาขี้ผึ้งหนาครึ่งนิ้ว กว้างยาวขนาดครึ่งหน้าศพ แผ่ปิดหน้า บางทีก็ปิดเฉพาะตา และปาก ถ้าผู้มีทรัพย์ จะใช้ทองคำ ปิดที่หน้าศพ[/FONT]

    6 กรวยดอกไม้ธูปเทียน
    ใช้ดอกไม้ 1 ดอก เทียน 1 เล่มบางแห่งก็มีหมากพลูด้วย ให้ศพพนมมือไว้แล้วนำกรวยจัดใส่มือศพขณะที่ตายใหม่ ๆ ตามประเพณีเชื่อว่าเพื่อให้ผู้ตายไปไหว้พระจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    7 การมัดศพ
    หลังจากแต่งตัวศพเรียบร้อยแล้ว ถึงขั้นตอนการมัดศพ หรือเรียกว่าตราสัง เครื่องตราสังใช้ด้ายดิบมาจัดเป็นเส้นขนาด3 หุน เพื่อให้ดึงไม่ขาด ทำเป็นห่วงคล้องคอก่อน แล้วเดินคาถา "ปุตฺโต คีวํ" (ความหมายคือ ห่วงลูกผูกคอ รัดตรึงหัวใจเราอยู่เสมอ) แล้วโยงเชือกมากลางตัว ทำห่วงกระตุกเบ็ด ผูกหัวแม่มือ แล้วรวบรัดผูกข้อมือทั้ง 2 ข้าง ให้พนมไว้ที่หน้าอกเดินคาถาว่า "ธนํ หตฺเถ" (ความหมายถึงห่วงทรัพย์ ผูกข้อมือ แปลว่าทรัพย์กุศล และอกุศลเป็นเงาตามตัวของผู้นั้น) จากนั้นจะเป็นคาถารัดประคดเอว เป็นห่วงที่ 2 แล้วโยงเชือกมาที่เท้าทำห่วงผูกหัวแม่เท้าทั้ง 2 ข้าง แล้วรวบรัดหัวแม่เท้าทั้ง 2 ข้างติดกัน แล้วเดินคาถาว่า "ภริยา ปาเท" (ความหมายถึง ห่วงภรรยาผูกติด) เสร็จแล้วใช้ผ้าขาวห่อศพให้มิดตัว ชายผ้าขมวดอยู่ทางศีรษะ แล้วเอาด้ายดิบขนาดนิ้วมือมัดเป็นเปลาะ ๆ 5 เปลาะ บางตำราว่า 8เปลาะ ทั่วตัว
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]8 การบรรจุศพลงโลง[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]ต้องทำพิธีเบิกโลงเสียก่อนโดยสัปเหร่อ เป็นคนจัดการโดยเอาไม้ไผ่ มาจักเป็นซี่เล็กๆ ทำเป็นบันได 4ขั้นความกว้างเท่ากับความกว้างของโลงศพ สำหรับวางไว้บนปากโลงเอาเฝือกผืนหนึ่งทำด้วยไม้ไผ่ 8 ซี่ ตัดติดกันเหมือน แล่งวางก้นโลงเอาผิวไม้ขึ้นวางระยะห่างพอสมควร สำหรับรองรับเสื่อ นำไม้ไผ่มาผ่าเพื่อที่ใช้สำหรับคีบสายสิญจน์ไม้นี้เรียกว่าไม้ปากกาจับโลงเอาเทียน 8 เล่ม ติดคาบที่ปากโลงระหว่างไม้ปากกาที่วาง 8 ช่องมีกระทงใบตองขนาดเล็กใส่อาหารวางไว้บนปากโลง 8 ช่อง ใกล้ๆ กับเทียนเป็นเครื่องสังเวยเทพทั้ง 8 ทิศ ส่วนฝาโลงนั้นให้ทิ้งไว้ข้างโลง เตรียมขันไว้สำหรับทำน้ำมนต์ แล้วทำน้ำมนต์ แล้วว่าคาถาว่า "สิโรเม พุทฺธเทวญฺจ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]นลาเฏพฺรหฺมเทวตา หทยํ นรายกญฺเจว เทวหตฺเถ ปรเม [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]สุราฯ ปาเท วิสฺสณุกญฺเจว สพฺพกมฺมา ปสิทฺธิ เม สิทฺธิกิจฺจิ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]สิทฺธิกมฺมํ สิทฺธิเตโช ชโย นิจจํ แล้วนำน้ำมนต์พรมที่โลง-ศพ 3 หน ใช้มีดหมอสับปากโลง 3 ที สับกลางโลงสลับซ้ายขวารอยสับนี้ เป็นเครื่องบอกว่า ศีรษะอยู่ทางนี้ แล้วผลักเครื่องเซ่นทั้งหมด พร้อมด้วยไม้ปากกาที่ทำไว้ลงไปในโลงทั้งหมด เป็นอันเสร็จพิธีเบิกโลง นำศพบรรจุล[/FONT][FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]งโลง[/FONT]​

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]9 การตั้งศพ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]เมื่อบรรจุศพเรียบร้อยแล้ว จะตั้งศพไว้ที่บ้านหรือที่วัดก็ได้โดยให้หัวโลงหันไปทางทิศตะวันตกเสมอ [/FONT]​

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]10 การสวดศพ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]ระหว่างการตั้งศพก็จะนิมนต์พระสวดอภิธรรม 4 รูป เจ้าภาพจุดธูปเทียน เครื่องสักการะ แส้วอาราธนาศิลแล้วเคาะข้างโลงบอกให้ศพรับศีล พระสงฆ์จะสวดพระอภิธรรมทั้งหมด4 บท(ทั้ง 4 บทนี้อาจจะสวดตั้งแต่ค่ำถึงเช้าก็ได้) การนิมนต์พระสวดศพ อาจจะทำ 3 วันหรือ 7 วันก็ได้ [/FONT]​

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]11 การเซ่นไหว้ศพ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]ในระหว่าง 3 วันหรือ 7 วันที่ทำพิธีศพจะต้องจัดหาอาหาร, น้ำใส่สำรับ ตั้งไว้ข้างโลงวันละ 2 เวลา คือเช้าและเย็นเป็นการเซ่นไหว้ศพ เวลาเซ่นไหว้ให้ทำการเคาะโลง 3 ครั้ง แล้วบอกให้ผู้ตายรับประทานอาหาร [/FONT]​

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]12 การเผาศพหรือปลงศพ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]หลังจากที่ทำพิธีศพ เรียบร้อยแล้ว ก็จะนำศพขึ้นสู่เมรุเพื่อเผาศพ โดยแบกโลงให้เอาหัวโลงไปก่อนโดยจัดให้มีพระสงฆ์ถือสายสิญจน์นำหน้าโลงศพ และนำศพวนด้านซ้ายของเมรุ 3 รอบ แล้วนำขึ้นตั้งบนเมรุ โดยหันศีรษะศพไปทางทิศตะวันตก ต่อจากนั้นให้ต่อยมะพร้าวให้แตกแล้วล้างหน้าศพ[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]13 การบวชหน้าศพ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]มักจะเป็นลูกหลานของผู้ตายบวชเป็นเณรหรือภิกษุในวันเผา หรือจะบวชมาตั้งแต่เริ่มจัดพิธีศพก็ได้ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]14 การสวดพระอภิธรรมหน้าไฟ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]เวลาเผาศพต้องนิมนต์พระมาสวดพระอภิธรรม 4 รูป เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนสติแก่ผู้ที่ยังอยู่ว่า เกิดแล้วต้องตาย ข้อห้ามวันเผาศพ การเผาศพถ้าเป็นข้างขึ้นห้ามเผาวันคู่ ข้างแรมห้ามเผาวันคี่บางทีอาจจะมีคติถือว่าห้ามเผาวันศุกร์ เพราะถือว่าจะนำความทุกข์มาให้แก่ญาติ ใครตายวันเสาร์ห้ามเผาวันอังคารห้ามเผาวันพระ เพราะไม่ควรมีศพที่ต้องเผาในวันพระ ห้ามเผาวันพฤหัสบดีเพราะถือเป็นวันครู[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]15 การเก็บอัฐิ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]ปกติหลังจากเผาศพเรียบร้อยแล้ว จะเก็บอัฐิในวันรุ่งขึ้นการเก็บอัฐิในกองฟอน ให้เรียงอัฐิเป็นรูปคนโดยเก็บกระดูกเท่าที่จะทำได้ แล้วให้หันหัวของกระดูกไปทางทิศตะวันตกเป็นการสมมติว่าตายแล้วนิมนต์พระมาบังสุกุลตาย เสร็จแล้วให้[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]เกลี่ยกระดูกแล้วทำเป็นรูปคนใหม่ ให้หันหัวไปทางทิศตะวันออก สมมติว่าเกิดแล้วเอาเงินวางไว้บนอัฐิด้วย ใช้ดอกไม้เงิน ทอง ของหอมโปรยไว้บนอัฐิ แล้วนิมนต์พระมาบังสุกุลอีกครั้งหนึ่ง แล้วเก็บอัฐิและเถ้าถ่านไว้ในที่อันควร ส่วนอัฐิที่เป็นโครงร่างที่ ทำเป็นรูปคนให้เก็บใส่โกศไว้แล้วเก็บรวบรวมเพื่อบรรจุในเจดีย์ต่อไปภายหลัง[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]16 การเก็บอัฐิ[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]เมื่อเชิญกระดูกกลับบ้านให้เตรียมตั้งโต๊ะบูชา บางทีอาจจะโปรยสตางค์ทิ้งเป็นทางเรื่อยไป จนถึงโต๊ะบูชาแล้วเริ่มทำบุญนิมนต์พระสงฆ์มาเทศนาบังสุกุล 5 รูปหรือ 7 รูป แต่การทำบุญนี้ถือว่าเป็นงานมงคลที่บูชาพระให้ตั้งบาตน้ำมนต์ [/FONT]
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,375
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,025
    ดีครับ ขอเป็นกําลังใจใ้ห้ คุณเสียสละอย่างมากเลยครับ จขกท โมทนาครับ /\
     
  8. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ
     
  9. -iofeast

    -iofeast บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอเป็นกําลังใจใ้ห้ค่ะ:love:
     

แชร์หน้านี้

Loading...