อย่าคิดว่าศีล 227 นั้น ไม่มีใครประพฤติตามได้

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย peerakul, 19 เมษายน 2013.

  1. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อย่าคิดว่าศีล 227 นั้น ไม่มีใครประพฤติตามได้

    หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
    กวดขันเรื่องศีล 227ข้อของพระภิกษุว่า.


    อย่าได้มองเห็นไปว่า ศีลทั้ง 227 ข้อนั้น ในโลกนี้จะไม่มีผู้ที่ประพฤติตามได้ ผู้ที่กล่าวเช่นนั้น คือ ผู้ที่มีจิตไม่เอื้อเฟื้อต่อธรรมวินัย เป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง ที่ตกอยู่ภายใต้จิตใจทีฝ่ายต่ำที่ครอบงำ จึงตีความเอาว่า ไม่มีภิกษุรูปใดจะทำตามพุทธบัญญัตินั้นได้ เห็นไปว่า การปฏิบัติตามศีล 227 ข้อทั้งหมดนั้นตึงเกินไป ถึงกับสมณะบาวรูปบางสำนัก สอนกันว่า ศีลทั้งหมดรักษาไว้แต่ปาราชิก 4 ข้อก็พอ!!!

    โถ!!!....น่าสงสาร ก็เลยไม่ต้องเป็นพระกันเลย!!!

    หลวงปู่ฯย้ำว่า การเป็นพระ ไม่เว้นในศีลข้อใดข้อหนึ่ง แม้แต่มุสาวาท นี้ ยังเป็นศีลของคฤหัสถ์ด้วย เป็นแค่เบญจศีล ที่ทำให้มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ถือเพียงแต่ศีล 5ของคฤหัสถ์เท่านั้นก็ยังไม่ได้ จะเป็นศีล10ของสามเณรก็ยังไม่ได้เสียแล้ว!!!

    ถ้าภิกษุกล่าวมุสาวาท โกหกตอแหล แค่เป็นมนุษย์สมบูรณ์ยังเป็นไม่ได้ ประสาอะไรที่จะเป็นพระ!!!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2013
  2. สหพัฒน์

    สหพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +710
    จากประสบการณ์ที่พบมาและจากที่เคยบวชในสายปฏิบัติ พระที่ถือศีลครบ 227 ข้อ ก็ยังมีเยอะอยู่น่ะตามกำลังสติ+ปัญญาและระยะเวลาที่ดำรงสติในแต่ล่ะวัน บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำยังไงจะถือได้ครบและจำศีลได้หมด ก่อนบวชควรที่จะศึกษาศีลข้อวัตรปฏิบัติให้ถ่องแท้และลึกซึ้ง เพื่อป้องกันข้อที่เราคิดว่าไม่น่าจะมีข้อนั้นข้อนี้บัญญัติไว้แบบนั้นแบบนี้ แม้แต่เมื่อล่วงอาบัติแล้วอ้างว่าไม่รู้ว่ามีข้อห้ามนี้ แค่นี้ก็อาบัติ 1 ข้ออาบัติแล้ว บวกกับอาบัติที่ได้ล่วงไปแล้ว เมื่อมีความสำรวมระวังกลัวผิดศีล กลัวบาปต่างๆ จิตของเราก็จะมีความสำรวมระวังมากขึ้นตามลำดับ เมื่อกำลังสติเข้มข้นเมื่อไร ก็จะกลายเป็นถือศีลข้อเดียวเลย คือ ศีลสติ ก็จะมีความรู้สึกเหมือนว่าเราไม่ได้ถือศีล 227 ข้อ แต่ว่าศีล 227 ข้อยังครบบริบูรณ์อยู่ เมื่อใดที่เรากำลังจะต้องอาบัติที่ยังไม่มีอาบัติเกิดขึ้น สัมปชัญญะจะเกิดขึ้นคือความจำศีลข้อห้ามนี้จะผุดขึ้นมาเตือนเราทันทีเพื่อป้องกันอาบัตินี้ไม่ให้เกิดขึ้นและสำรวมระวังศีลข้ออื่นอีก ใหม่ๆจะรู้สึกกังวลและอึดอัดบ้างตามวิสัยพระผู้ใฝ่ดีหลังจากนั้นก็จะรู้สึกสบายๆขึ้น ไม่ใช่เพราะว่ามีการปฏิบัติที่หย่อนยานหรอกน่ะแต่เป็นเพราะว่าจิตเราเริ่มคุ้นเคยกับการปฏิบัติข้อวัตรต่างๆจิตมันได้เริ่มฝึก ความพยศมันจึงลดลง
    .......การรักษาศีล ก็คือ การรักษาจิต ของท่านนั่นเอง..






    ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...
     
  3. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    จริงๆ แล้วศีล 227 ข้อ นี่แค่ส่วนหนึ่งของพระวินัยเท่านั้น 227 ข้อนี่คือเฉพาะข้อที่ต้องสวดในปาฏิโมกข์ แต่จริงๆ แล้ว ยังมีพระวินัยข้อปฏิบัติอื่นๆมากกว่านั้น ที่ถ้าทำไม่ถูกแล้วเป็นอาบัติ เช่น เรื่องสีของรองเท้าที่ใส่ เป็นต้น

    แต่ 227 ข้อนี้ ก็มีหลายข้อซึ่งไม่เป็นเรื่องยากในการรักษาแล้ว เช่น ศีล ที่เกี่ยวข้องกับภิกษุณี เพราะในไทยเดี๋ยวนี้ แทบจะไม่มีภิกษุณีแล้ว นอกจากบางท่านที่บวชจากต่างประเทศ แล้วมาอยู่ในไทย

    แต่ข้อที่ มักล่วงอาบัติประจำคือ ข้อที่ว่า รับเงินหรือทอง
    พระบางรูปอ้างว่า เป็นมหานิกายรับเงินได้ แต่ลืมนึกไปว่า ไม่ว่าจะนิกายไหน ถ้าเป็นลูกศิษย์เป็นสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ก็ควรทำตามที่พระพุทธเจ้า
    บัญญัติไว้ โดยเฉพาะประเทศไทย ที่บอกว่า เป็นเถรวาท ซึ่งคำว่าเถรวาท นี้คือ ยอมรับวาทะของพระเถระอรหันต์ 500 รูป ที่ทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งแรก มีพระมหากัสสปะเป็นประธาน พระอุบาลี เป็นผู้กล่าวสรุปพระวินัย ซึ่งมติที่ประชุมพระเถระอรหันต์นั้นคือ จะไม่เพิ่มหรือลดหรือเปลี่ยนแปลงสิกขาบทใดๆก็ตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้แล้ว ซึ่งก็มีข้อที่ห้ามรับเงินทอง อยู่ด้วย

    ถ้าทำไม่ได้ หรือ ถ้าต้องการดัดแปลง โดยตัดข้อที่ห้ามรับเงินทองออกไป ก็ไม่ควรเรียกตนเองว่าเป็นเถรวาท เพราะก็มีบางกระแสเห็นว่า พระพุทธเจ้าให้ยกเลิกสิกขาบทเล็กน้อยได้ แต่พระอานนท์ไม่ได้ถามว่าแค่ไหนเรียกว่าเล็กน้อย ที่ประชุมสังคายนาเลยเห็นว่าไม่ยกเลิกเพราะไม่รู้ว่าแค่ไหนเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นพวกที่เห็นว่าควรยกเลิกสิกขาบทเล็กน้อยได้ ก็แยกตัวออกไปเป็นนิกายนึง แยกๆไปเรื่อยๆ จนบางที่ ตัดไปตัดมาจน พระมีลูกมีเมียเสพเมถุน ทำธุรกิจ เล่นการเมือง
    ได้ แทบจะไม่ต่างกับฆราวาส มีที่ต่างอย่างเดียวคือ ใส่ผ้าคลุมกายบางส่วนสีเหลืองเพื่อให้รู้ว่าเป็นนักบวชแค่นั้น
     
  4. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    มีพระไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วกล่าวว่า ศีล มากกว่า 150 ข้อนี้เยอะเกินรักษาไม่ไหว พระพุทธเจ้าตรัสว่า ศีลทั้งหมดนั้นรวมลงใน ศีลสิกขา จิตสิกขา ปัญญาสิกขา ถ้าปฏิบัติได้ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

    ส่วนหลวงปู่มั่น ท่านกล่าวว่า อาตมารักษาศีลข้อเดียว คือรักษาใจให้เป็นปกติ

    (ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเนื้อหาโดยสรุปความหมาย ไม่ได้คัดลอกถ้อยคำตามที่มาของต้นฉบับเดิมแบบเหมือนเป๊ะทุกประการ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...