อันตรายภัยจากการเที่ยวผู้หญิง++++++ "โรคหูดหงอนไก่"

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 พฤศจิกายน 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    [​IMG]

    <!--images-->
    ...เมื่อเดือนที่แล้ว ผมได้ไปเที่ยวสถานอาบอบนวดแล้วมีอะไรกับสาวในอาบอบนวด แต่ผมใส่ถุงยางอนามัย 2 ชั้น ใช้เวลาไม่นานนักประมาณ 5 นาที และผมแทบจะไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย เช่น การใช้ปากหรือมือ ผมไม่รู้ว่าผมมีโอกาสจะติดโรคเอดส์มากสักเท่าไร กี่เปอร์เซ็นต์ แล้วนานเท่าไร ผมถึงสามารถไปตรวจเลือดเพื่อตรวจหาโรคนี้ได้ ผมกังวลใจมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมไปเที่ยว และมีอะไรกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนผม และผมยังเมาอีกด้วย ถ้าช่วงนี้ผมมีอะไรกับแฟน ผมจะปลอดภัยสำหรับเธอหรือไม่เพียงใด และการใช้ถุงยางอนามัยจะปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนครับ?????

    การติดเชื้อกามโรคทางเพศสัมพันธ์ ในสมัยก่อนจะมีโรคหูดหงอนไก่ โรคตับอักเสบ โรคซิฟิลิส โรคหนองในแท้-หนองในเทียม อาการที่เป็นเร็วที่สุดคือ ปัสสาวะแสบทันทีในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ไปเที่ยวผู้หญิงบริการแล้วได้รับเชื้อกามโรคต่างๆ มา พร้อมกับมีหนองขาวเหลืองไหลออกทางท่อปัสสาวะ หรือติดเปื้อนกางเกงในทั้งชายและหญิง หากได้รับการฉีดยาหรือทานยาฆ่าเชื้อทันทีอาการก็จะหายไปภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าไม่ได้รับยา เชื้อหนองในเทียมก็จะสร้างปัญหาเรื้อรัง ไม่หยุดหย่อน ทานเหล้าทานเบียร์หน่อยก็มีหนองไหลอีก หายหรือแห้งไป 4-5 เดือน ถ้ากินเหล้าเบียร์ก็จะไหลออกมาอีก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปเที่ยวมานานแล้วก็ตาม การเป็นหนองในเทียมไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวผู้หญิงก็สามารถเป็นขึ้นมาเองได้ โดยรวมๆ แล้วสาเหตุเกิดจากการอักเสบที่บริเวณอวัยวะเพศ โดยการช่วยตัวเองอย่างรุนแรงหรือนอนทับบดขยี้อย่างแรง หรือได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง เหล่านี้สามารถทำให้เกิดการเป็นโรคหนองในเทียมได้
    หนองในแท้ คือ การได้รับเชื้อจากฝ่ายตรงข้ามที่เราไปมีเพศสัมพันธ์และได้รับเชื้อติดตัวมา พวกนี้จะเป็นเชื้อไวรัสโดยตรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ก็จะแพร่เชื้อติดต่อไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นการเที่ยวกับคนแปลกหน้าควรรู้จักป้องกันตนเอง โดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
    โรคหูดหงอนไก่ มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อคล้ายหูดสีแดงตะปุ่มตะป่ำ จะโผล่ขึ้นที่อวัยวะเพศของชายและหญิง เป็นไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก้อนเนื้อจะโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้รับการรักษา ถ้าฝ่ายชายเป็นหูดหงอนไก่จะมองเห็นได้ชัดเจน เมื่อรู้ว่าเป็นหูดหงอนไก่ห้ามไปยุ่งกับผู้หญิงเด็ดขาด เพราะจะทำให้ฝ่ายหญิงมีโอกาสเป็นเนื้องอกที่ปากมดลูกได้สูง และฝ่ายหญิงจะมองไม่เห็นเพราะเชื้ออยู่ด้านใน กว่าจะรู้ว่าก้อนเนื้อก็โตมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีอาการผิดปกติต่างๆ ให้เห็น เพราะฉะนั้นทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงควรต้องรู้จักป้องกันตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ การที่จะมั่วเซ็กซ์กันไม่ใช่ของเล่นที่สนุก ถ้าไม่รู้จักการป้องกันตัวเองก็จะทำให้มีทุกข์ตามมา
    ทุกโรคที่กล่าวมารวมทั้งโรคที่ทันสมัยที่สุดคือ โรคไวรัสเอดส์ เกิดจากการละเลย เมาไม่ได้สติและทำด้วยความประมาท ไม่สวมถุงยาง เวลามีเพศสัมพันธ์ก็ทำด้วยความคึกคะนอง กระแทกรุนแรงมากเกินไปจนทำให้ถุงยางฉีกขาดได้ และความที่ไม่ลืมหูลืมตาดูบ้างว่าถุงยางยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือเปล่า หรือบางคนก็รู้ก็เห็นแต่ไม่สนใจลืมตัวไปชั่วขณะ สิ่งเหล่านี้พอหายหน้ามืดตามัว ตั้งสติได้ก็จะมานั่งกลุ้มใจเป็นทุกข์เป็นกังวลต่างๆ หรือบางคนก็คิดมากไม่ยอมทานอาหาร ไม่ยอมออกกำลังกายเหมือนเช่นเคย เก็บตัวเงียบ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ติดโรคอะไรเลย ก็จะทำให้ป่วยได้ เพราะการไม่ยอมทานอาหารเหมือนเช่นเคยก็จะมีโรคต่างๆ แทรกซ้อนเข้ามาในร่างกายเราได้ ขอให้คุณและคนอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาเช่นนี้ใจเย็นๆ อย่าตีโพยตีพายให้มากเกินไป
    เชื้อไวรัสเอดส์ จริงๆ สามารถติดต่อได้โดยตรงคือ การมีเพศสัมพันธ์กันโดยสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปที่ช่องคลอด โดยไม่ได้สวมถุงยาง และบริเวณอวัยวะเพศนั้นมีบาดแผล เชื้อจึงจะซึมเข้าทางบาดแผลนั้นๆ และคนที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เช่น คนที่ติดเฮโรอีน คนพวกนี้จะประมาทและมองข้ามความปลอดภัยอยู่เสมอ และก่อนสมัยนี้การเที่ยวผู้หญิงบริการ ก็ไม่เหมือนสมัย 30-40 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนพวกอาโก อาเฮีย ทั้งหลายที่จัดหาผู้หญิงมาให้บริการกับพวกผู้ชาย บางคนก็หาผู้หญิงมาแบบังคับหรือไม่ก็ซื้อขายกันมา เพราะฉะนั้นผู้หญิงพวกนี้จึงต้องโดนบังคับให้ตามใจแขกที่มาเที่ยว แขกไม่ต้องการสวมถุงยางก็ต้องตามใจ เพราะเมื่อสมัยก่อนๆ พวกผู้ชายจะไม่ค่อยกลัวเรื่องกามโรคกันสักเท่าไร ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด ผู้หญิงสมัยก่อนมีมากมายที่ต้องติดเชื้อโรคหนองใน จนทำให้เด็กในท้องพิการ คือตาบอด และเชื้อลุกลามเข้าไปในมดลูกและปีกมดลูกทำให้เป็นหมันได้ แต่เดี๋ยวนี้ผู้หญิงที่ขายบริการส่วนมากจะเต็มใจ และสมัครใจมากกว่า สามารถเลือกแขกที่มาเที่ยวบริการได้ ผู้ชายไม่สวมถุงยางหรือเมามายไม่ได้สติ ผู้หญิงพวกนี้เขาก็จะไม่ให้บริการ ขนาดผู้หญิงที่ทำงานขายบริการยังรู้จักป้องกันตัวเอง คุณนักเที่ยวทั้งหลายที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน สำส่อนทางเพศ ก็พึงระวังไว้ให้ดีๆ ก่อนที่จะสายเกินแก้ เพราะโรคเอดส์ไม่เหมือนกับเชื้อกามโรคต่างๆ อันตรายอย่างมากและที่สำคัญคือ ยังไม่มียาตัวไหนรักษาได้เลย ถ้าพลาดพลั้งไปก็ต้องมาทนทุกข์ทรมาน จนกว่าจะสิ้นบุญสิ้นกรรม
    การที่คุณไปเที่ยวผู้หญิงบริการมา (ตามที่คุณเล่า) กรณีเช่นนี้ถือว่าคุณป้องกันตัวเองได้ดีแล้ว ถึงขนาดยอมลดความสุขลงมาอีกนิดด้วยการสวมถุงยางถึง 2 ชั้น การที่ผู้ชายไม่ชอบสวมถุงยางอนามัย เพียงเพราะถ้าใส่แล้วจะทำให้ความรู้สึกเสียวดลดน้อยลงไปเท่านั้นเอง ไม่เหมือนกับที่เคยได้แนบเนื้อ โดยไม่มีอะไรสวมใส่ เมื่อใส่แล้วจึงไม่ชอบเท่าที่ควร อย่าตามใจตัวเองมากเกินไป มันอันตรายจริงๆ เสียวสนุกแค่แป๊บเดียว แต่เป็นทุกข์ทรมานจนวันตาย
    กรณีที่คุณเขียนมาถามอาการเช่นนี้ โอกาสปลอดภัยมากที่สุดแล้ว เพราะคุณได้ระวังเต็มที่ การติดเอดส์ไม่ได้เกิดจากสัมผัสเนื้อตัวส่วนอื่นตามตัวตามหน้าอก หรือการจูบลูบไล้ แต่มีข้อห้ามคือ ไม่ให้ใช้ลิ้นไปสัมผัสบริเวณอวัยวะเพศส่วนนั้นของผู้หญิง เพราะการที่เราจะทำออรัลเซ็กซ์ให้กันและกันนั้น ต้องเป็นสามีภรรยาหรือคู่ใจ ที่เราสามารถไว้วางใจได้มากที่สุด แต่ถ้าจะทำเพื่อดึงดูดหรือเร้าอารมณ์ให้อีกฝ่ายพึงพอใจ เลิกคิดเสียดีกว่า เสี่ยงอันตรายโดยใช่เหตุ ขอให้คุณสบายใจได้ปลอดภัยเกินร้อยละ 90 แล้ว
    ขอให้โชคดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...