อาการ "เบื่อโลก" แบบ "นิพพิทา" กับ "อรติ" / ปฏิบัติธรรมแล้วเบื่อโลกจริงหรือ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ง้วนดิน, 4 ธันวาคม 2006.

  1. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,048
    เบื่อโลก...!
    .........................................................
    ที่มา : "ภูเตศวร" กับ " ธรรมะ ๕ นาที"

    จาก : www.dhamma5minutes.com
    ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๙

    .........................................................


    ที่ต้องจั่วหัวว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2006
  2. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    อาการเบื่อโลก เราเคยตกในสภาวะนั้น ทั้ง 2 แบบ จึงเรียกได้ว่ามีประสบการณ์และทราบความแตกต่างของทั้ง2แบบนี้ดี คิดว่าถ้าสมาชิกคนอื่นเข้ามาอ่านแล้วเคยผ่านมาจะเข้าใจทันทีโดยไม่ต้องอ่านกระทู้ของ เราเลย

    อาการเบื่อโลก แบบทางโลก ในหัวสมองจะมีแต่เรื่องน้อยอกน้อยใจในโชคชะตา วาศนา และบ่อยครั้งจะมีความคิดว่าคนอื่นเขาดีกว่าทำให้ตัวเองด้อยค่า แทบจะว่าไม่มีค่าพอที่จะอยู่ต่อเลยหละ ซ้ำยังมีความคิดว่า เป็นเพราะคนนั้น คนนี้ ทำแบบนั้นแบบนี้ จนทำให้เราต้องมาตกในสภาพแบบนี้ เรียกง่ายเริ่มดึงเอาความทรงจำที่คนอื่นเคยทำไม่ดีตามที่เราต้องการขึ้นมาจากก้นบึ้ง เรียกง่ายๆ ว่า อาการแบกโลก เมื่อความคิดของคนประเภทแบกโลกมากๆ เข้าก้รู้สึกว่า เรานี้โดนแต่คนอื่นรังแก อยากจะทำให้คนพวกนั้นรู้สึกผิดที่ทำกับเราอย่างนี้ๆ จนมีใจพยาบาท อยากเอาคืนให้สาสม เรียกได้ว่า ถ้าเป็นไปได้ จะเอาคืนทั้งตระกูล อยากให้เขาทรมานเหมือนเรา แต่ก็ไม่รู้จะเอาคืนยังไง ไม่มีปัญญา เลยคิดอยากจะหลุดพ้นจากโลกเส็งเคร็งใบนี้

    สำหรับบางคนถ้าปล่อยไว้นาน อาจเป็นประสาท และเครียดแล้วล้มป่วย
    สำหรับบางคนอาจฆ่าตัวตายไปเลยก็มี
    สำหรับบางคนเริ่มดำรงชีวิตอย่างประมาท เช่น หันหน้าเข้าหา สิ่งเสพย์ติด ของมึนเมา และทำตัวเสเพล
    สำหรับบางคนอาจทำการแก้แค้น เพราะไม่คิดว่าบุญกรรมมีจริง คือ ขาดศรัทธาในเรื่องเวรกรรม จึงคิดที่จะแก้แค้นเองสะเลย
    สำหรับบางคน อย่างดิฉันโชคดี คือ ปลีกเข้าวัด หาพระหาเจ้า ( อกหัก ค่ะ ) ขอแนะนำนะค่ะ

    ใครที่อกหัก อย่าคิดว่าเพื่อนที่นั่งข้างๆ หรือไว้ใจ ได้นั้นไม่ต้องไปพูดเรื่องนี้ให้เขาฟัง เขาลำคาญคุณต่อให้เขาบอกว่ารับได้ แต่ไอ้คำว่ารับได้นั้น มันหมายถึง รับได้แค่ ครั้ง 2 ครั้งเท่านั้นแหละค่ะ
     
  3. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    อีกอย่าง อาการเบื่อโลกมันจะมีอาการที่เรียกว่า อารมณ์นรก แถมมาด้วย สังเกตุได้ว่า คุณจะรู้สึกหวิวๆ รู้สึกไม่อิ่ม รู้สึกเหนื่อย หดหู่ ตรงบริเวณที่อยู่เหนือสะดือคุณหนึ่งนิ้วชี้ แล้วคุณก็ต้องระบายมันด้วยน้ำตา ความคิด คำพูด การกระทำ นั้นถึงจุดเสี่ยงที่จะได้นรกของจริงๆ มากำไว้ในมือ และในช่วงนี้หัวใจคุณก็เริ่มเต้นไม่ส่ำแล้วค่ะ
     
  4. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    ตำแหน่งเหนือสะดือ 1 นิ้วชี้ เป้นตำแหน่งที่นักนั่งสมาธิ เพ่งจิตเขาไปเพ่งกันตรงนั้นค่ะ
     
  5. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    เอาหละ แต่สำหรับดิฉันโชคดี เพราะไม่หวังพึ่งเพื่อน พึ่งพระดีกว่า และก็ดีกว่าจริงๆ เพราะเมื่อถามถึงทางแก้ท่านก็บอกวิธีแก้ที่ พอปฏิบัติตาม อาการก็หาย และไม่ต้องกังวลว่าจะไปเล่าต่อเหมือนเพื่อนเรามั้ย

    ดิฉันแก้ด้วย สังเกตุจิต ดูใจ เฝ้าระวังความคิด ค่ะ
    พอเราหยุดดูจิต ไม่ว่ากำลังโกรธอยู่ เสียใจอยู่ พอดูมันปุ้บ อาการน่าเวทนาเหล่านั้นก็หยุดปั้บ ดูปุ้บหยุดปั้บ
    เมื่ออารมณ์นิ่ง ที่เหลือก็ดูใจ ตอนนี้มันหยุดตามหรือยัง เพราะอารมณ์เหมือนความเร็ว พออารมณ์ที่รุนแรงมันหยุด แต่มันก็ยังมีแรงเฉื่อย แรงเฉื่อยที่ว่ามันก็ตกค้างไปที่ร่างกายเรา ความคิดของเรา(สมองเรา) บางคนหัวใจจะเต้นเร็ว หายใจเร็ว เหงื่อออกมาก สะอึกสะอื้น มีวิธีแก้คือ
    เมื่อหยุดอารมร์ได้จากสังเกตจิต แล้ว ก็ดูแหล่งที่แสดงอาการและให้จิตรู้ตัวว่าสะอีกให้นึกเห็นตัวเองกำลังสะอีก เมื่อมันเห็นสภาพการหายใจแรง หัวใจเต้นเร็ว สะอีกสะอื้น อาการเหล่านี้อาจหายทันที่ หรือ ค่อยหายไปภายในเวลาที่เรานับในใจ 1 2 3 4 5 6
    เมื่อหยุดแรงเฉื่อยจากอาการที่แสดงให้ผู้อื่นเห็นได้ ที่เหลือก็เชื้อราของอารมณ์นั้น มันอยู่ในความคิดเรา มันจะผุดขึ้นมาอีกในอีกไม่กี่นาทีหลังจากที่เราเผลอ หรือเจอสิ่งกระตุ้นมันทางสัมผัสทั้ง 5 ของเรา วิธีคือ หาหนังสือธรรมมะมาอ่าน ที่เกี่ยวกับความว่างเปล่า แล้วก็ให้หาหนังสือเกี่ยวกับนรกมาอ่าน รับรอง
    ว่าอารมณ์นั้นจะไม่กลับ มา มิหน่ำซ้ำคุณจะได้เบื่อโลกแบบทางธรรม

    เดี่ยวคราวหน้าจะมาเล่าว่าเบื่อโลกแบบทางธรรมเป็นอย่างไร
     
  6. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,048
    มารออ่าน "เบื่อโลกแบบทางธรรม" ของคุณ bridge จ้า
     
  7. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    <!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>mead, jasminine+ </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->

    ตามกันมาอ่านครับ..
    ขอบคุณครับป้าง้วน..มีอะไรก็ส่งมานะครับ
     
  8. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,386
    ค่าพลัง:
    +22,313
    อนุโมทนาสาธุค่ะ ... :)

    เบื่อหรือไม่เบื่อ ล้วนเกิดขึ้นในใจของเราเองทั้งนั้น...

    เราปรุงเอง เราแต่งเองขึ้นมาทั้งสิ้น...


    ฉะนั้น! เวลาดับก็ต้องดับที่ตัวเองเหมือนกัน

    ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงสอนเราให้พิจารณาที่ตัวเอง กำหนดรู้ที่ตัวเอง รู้ให้ลึกลงในจิตของตัวเราเอง เพื่อให้เกิดปัญญาภายในขึ้น

    ปัญญาภายในเท่านั้นจึงแก้ทุกข์ได้...
     
  9. jasminine

    jasminine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    5,386
    ค่าพลัง:
    +22,313
    เมื่อก่อน ก็เคย มีอาการ เบื่อโลก แบบปุถุชน
    เบื่อแล้วทุกข์ หาทางออกก็ไม่ได้
    แต่พอหันมาอ่าน มาฟังธรรมะ ก็เริ่มค่อยๆ เข้าใจ
    เบื่อโลกแบบเก่าจึงน้อยลง ทุกข์ก็น้อยลง...

    วันนี้ ถ้าจะ เบื่อโลก ก็คงเป็นแบบที่ถูกทางแล้วล่ะจ๊ะ
    แบบที่ไม่ทุกข์ อยากทำให้ได้แบบนั้นสักวันล่ะค่ะ

    โมทนาสาธุอีกทีจ๊ะป้าฯ ดีมากๆ เลย เดี๋ยวตามอ่านเรื่องอื่นด้วยค่ะ

    ---------------------------------------------------------------

    พี่ mead มาเร็วดีจัง อิอิ สาธุด้วยจ๊ะ
     
  10. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,048
    ปฏิบัติธรรมแล้วเบื่อโลกจริงหรือ ?

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2006
  11. sutthida

    sutthida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +3,388
    เบื่อๆอยากๆเหมือนกันค่ะ แต่ส่วนมากจะอยากมากกว่าเบื่อค่ะ ชีวิตปุถุชนก็อย่างเนี้ย พอพบเจอสิ่งที่พอใจเราก็คิดว่าเป็นความสุข แต่ที่จริงมันก็คือรูปแบบหนึ่งของความทุกข์ค่ะ มีอุปาทานก็ย่อมมีความเศร้าโศก ถ้าไม่มีอุปาทานก็ไม่มีความเศร้าโศกเลยค่ะ พระธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงอย่างที่สุดแล้วค่ะ
     
  12. angus

    angus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +2,725
    อารมณ์เบื่อเนี่ย....ดิฉันเกิดเป็นประจำ ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง
    เดินไปทำไรไปใจคิดแต่คนเรามันต้องตาย ไม่สามารถเลี่ยงได้
    เราต้องตาย เขาต้องตาย....เกิดอาการเบื่อไปหมด บางครั้ง
    ฝึกมโนมเนี่ย ไม่ได้ไปไหนเลย ไปที่นิพพานที่เดียวเท่านั้น ส่วน
    ที่อื่นไม่อยากไปจริงๆๆ....เกิดอาการเบื่ออย่างหนัก ....
    แต่เรื่องทางโลกเนี่ยยังปฎิบัตหน้าที่ตามปกติไง ทำหน้าที่ที่
    เราต้องทำ ทำจนกว่าชีวิตจะหาไม่ไง
     
  13. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    เข้ามาอ่านต่อ ก็ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรู้เรื่องของความเบื่อ ไม่ว่าจะเบื่ออะไรแบบ ไหนอยู่ มันก็ล้วนเป็นอารมณ์หนึ่ง ถ้าเรารู้เท่าทันอารมณ์เราก็จะไม่ตกเป็นทาสมัน

    ดิฉันเคยสัญญาว่าจะมาเล่าเรื่องเบื่อแบบทางธรรมต่อ แต่พอเห็นว่าคุณง้วนดิน เอามาลงก็ถือว่าถูกอยู่เหมือนกัน ก็เลยอ่านลงมาเห็นข้อความของคุณ Angus เข้าก็อืม อันนี้กำลังตามอารมณ์ยังไม่เท่าไหร่ ถ้าจับไปนั่งกสินสี เป็นได้รู้เท่าทันตามจริงในสิ่งที่เห็น แต่ก่อนจะได้สิ่งนั้น คุณคงต้องเจอนิมิตในสมาธิหลอกคุณจนไขว้เขวแน่ นอน การเกิดนิมิตในสมาธิไม่ใช่สิ่งดี แต่ถ้าสมาธิของใครไม่เคยเจอก็ถือว่าจิตยังไม่เป็นอิสระ พูดง่ายคือ ท่านใดที่นั่งสมาธิจนถึง ฌาน 4 ครั้งแรก หรือ อาจถึง 2 ครั้งจะต้องเจอนิมิต แล้วถ้าครั้ง 3 ที่เข้า ฌาน 4 แล้วยังปรากฏอยู่แสดงว่า จิตคุณยังไม่รู้เท่าทันกิเลศ หรือ สติตามไม่ทันจิต จิตไม่ทันอารมณ์ ตรงจุดนี้แพททางจิตท่านจะเตือนให้หยุดนั่งสักพัก เพราะอาจจะมีสภาวะการรู้ผิดได้ หรือเรียกว่า "ธรรมแตก"

    ในที่นี้จะยกตัวอย่างง่ายที่ทุกคนเคยเจอ ไม่ต้องพูดถึงสมาธิ เอาสิ่งที่ทุกึคนเจอทุกวันแต่นึกไม่ถึง นั้นก็ การนอนหลับแล้วฝัน
     
  14. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    การนอนหลับของคนคือการพักผ่อน ทางร่างกายในเรื่องของหยุดอริยาบท แต่การทำงานขอบระบบอื่นยังคงอยู่ อารมณ์ก็หยุด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า คนที่ไม่เคยฝึกสมาธิ หรือไม่ได้ฝึกปล่อยปละละเลยไว้นานแล้ว จิตย่อมเสวยอารมณ์เป็นอาหาร จิตจะยึดติดกับอารมณ์ เมื่อไม่มีอารมณ์ จิตที่เป็นทาสมันก็จะปลุงแต่งขึ้นมาเองในช่วงที่เรานอนหลับ ซึ่งก็เหมือนคนที่นั่งสมาธิที่คุมอารมณ์ได้ คือดับได้หมดแล้ว แต่คุมจิตไม่ได้ จิตก็จะสร้างนิมิตมาหลอกเรา นี้แหละ

    ดังนั้นในช่วงที่เราถูกจิตปลุงแต่งภาพต่างๆ ขึ้นในช่วงที่เรานอนหลับเราเรียกมันว่าฝัน ที่เรียกว่าฝัน เพราะเมื่อเรานอนเราไม่มีสติ ใครจะจับเรา สกิตเราเราก็ไม่ตื่นหละ แต่การนั่งสมาธิ เรามีสติ แต่ถ้าเราเน้นสมาธิ คือความแน่วแน่ สติก็ไม่เกิด ในเมื่อจิตไม่มีสติมาคุม มันจึงยังเป็นทาสอารมณ์เช่นเดิม เมื่อเราไม่มีอารมณ์ มันจึงสร้างภาพขึ้นแล้วแสวงหาอารมณ์จากภาพนั้น เราเรียกเหตุการนี้ว่า ได้นิมิต และ นิมิตที่ขาดสติ ก็เรียกอีกอย่างว่า ติดในนิมิต

    ต่อไปจะเป็น ตัวอย่างจริงๆ หละไม่อารัมภบทหละนะ
     
  15. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    คุณเคยสังเกตุมั้ยว่าวันไหนวุ้นวาย ถ้าคุณจำฝันได้ คุณจะจำได้ว่าคืนนั้นฝันสะเปะสปะ ฝันได้เพี้ยนๆ

    ถ้าวันไหน สงบไม่ค่อยมีเรื่องให้กลุ้มใจ คุณจะฝันแค่ครั้งเดียวเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องแล้วจบ

    วันไหน มีอารมณ์รุนแรง มาก ๆ เศร้ามากๆ โมโหมากๆ คุณจะฝันจนเหนื่อยเมื่อตื่น แต่พอตื่นคุณจำฝันได้แค่เรื่องเดียวทั้งๆ ที่รู้ว่าฝันมาแล้วหลายเรื่อง

    และที่พิเศษ คือ คนที่เคยนั่งสมาธิ อ่านหนังสือกระตุ้นธรรม ความรู้ ให้สมองให้ใจ ให้อารมณ์สงบนั้น เมื่อหลับฝันสามารถควบคุมได้เช่น ถ้าคุณฝันว่าจะต้องเดินทาง ในฝันคุณรู้ตัวขึ้นมาทันทีนี้คือฝัน คุณไม่ต้องการเดิน คุณก็เหาะ เหาะไป จนเมื่อเกิดความลังเล ( มักเกิดกับสมาธิที่ขาดความเชื่อมั่น สมาธิที่มีความวิตก สงสัย หรืออ่านตำราแล้วมีเรื่องสงสัย คัดค้าน ) ว่าบินได้จริงเหรอ , มันจะบินได้ต่ำหรือสูง , ปุ้บทันทีที่เกิดอารมณ์นี้ คุณก็จะเริ่มบินต่ำ รู้สึกต้องใช้กำลังมากขึ้น หรือไม่ก็เริ่มมีสิ่งกีดขวาง มีอะไรมาดึง นั้นแหละความรู้เดิมมาขัดไว้ ทำให้เกิดความลังเลไม่แน่ใจ ดังนั้น คุณจะเห็นว่าในตำราทางธรรมท่านมักมีส่วนที่บอกว่า การจะเข้าถึงฌาน 5 และ 6 จิตจะต้องไม่มีความลังเลสงสัย จึงจำเป็นต้องมีครูมาคอยกำกับ
     
  16. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    ตัวอย่างแค่นี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ ต่อผู้ที่กำลังฝึกอารมณ์และสติอยู่ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีเวลานั่นสมาธิ แต่สิ่งสำคัญ คือรู้เท่าทันอารมณ์ และหมั่นจิตบ่อย ๆ

    จิตเป็นตัวรู้ที่แปลกและดื้อที่สุด ส่วนสังขารเป็นสัตว์เลียงที่ไม่เคยซื่อสัตย์เลย
    เลี้ยงหมายังดีกว่าเลี้ยงสังขาร

    สังเกตุได้ว่า เมื่อคุณเกิดอารมณ์ ถ้าเราดูอารมณ์ก่อนไม่ดูจิต อารมณ์ก็คงอยู่เพราะไอ้จิตเนี้ยมันยังนั่งเพ้ออยู่ เพราะเราดูจิต จิตมันก็หันมาดูเรา เหมือนนักเรียนในห้องเรียน ยังไงยังงั้น ถ้าอาจารย์ไม่สบตาจ้างให้นักเรียนก็ไม่สนใจในสิ่งที่พูด ปล่อยความคิดไปกับอารมณ์ นักเรียน(จิต) เลยโง่

    ส่วนสังขารเลี้ยงมันดีกว่าหมา มันยังป่วย พากินยาแล้วยังไม่หาย พาวิ่งก็ไม่แข็งแรง ได้เท่านี้จะเอาเท่านั้น สอนให้มันทำอะไรมันไม่เคยจำต้องคอยให้เราสั่งอยู่เลื่อย สังเกตุได้เวลาเราเดิน ถ้าเราไม่สั่งว่าเดินมันจะเดินมั้ย มันน่าจะรู้หน้าที่ดีแต่มันไม่ทำเองชอบให้สั่ง นอกจากนี้ ร่างกายเป็นระบบที่ทำงานสามัคคีในเรื่องขี้เกี่ยจ และไม่สามัคคีในเรื่องอื่นเลย ตัวอย่างเช่น ถ้าไอ้ม้าม ไม่ทำงาน ไอ้กระเพาะก็ไม่หลังสารย่อย โยนงานไปให้ลำใส้ ลำใส้เจอกากหารย่อยไม่หมด มันก็ไม่ทำมันว่าไม่ใช่หน้าที่มัน แถมเห็นคนอื่นขี้เกี่ยจมันก็เลยขี้เกียจดูดซึมอาหาร ละลายไขมัน ปล่อยให้ไขมันเขรอะอีก พอไม่มีสารอาหาร ระบบสร้างเม็ดเลือดเลยไม่มีวัตถุดิบมันเลยถือโอกาศเอามาเป็นข้ออ้าง ปิดโรงงานสะงั้น
    พอระบบอื่น เห็นคนอื่นอู้ เราก็อู้กันทุกระบบ เย้ๆ
     
  17. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ........รู้ เท่าทัน แล้ว จึงเห็นว่า ไม่มีอะไร น่าสนใจ อีก........(ร่างกาย)

    ....เมื่อไม่สนใจ ในร่างกายเสียแล้ว....ปัญญาในธรรมล้วนๆจะเกิด(โปรดพิจารณา การไม่สนใจในร่างกาย มิได้หมายความว่าจะปล่อยปละ ยังคงทำหน้าที่ตามอัตภาพตามหน้าที่ที่พึงกระทำ แต่จะไม่ผูกพันธ์อีกต่อไป แค่ไหนแค่นั้น ..เพราะมันไม่น่าสนใจ)
     
  18. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    สุดท้ายสังขารเลยขี้โรค เรียกง่ายๆ มันอยากปิดระบบถาวร มันไม่เคยสนใจว่าเงินลงทุนเรายังมีเยอะ หรือเรากำลังจะได้กำไร ( หมายถึง บุญ ) เลยนะ เมื่อรู้ตามจริงดังนี้แล้ว ก็ช่างหัวมัน ทำอะไรให้พอดั้มพอดีดีกว่า ถ้าไอ้พวกระบบนี้อู้จะได้ไม่ต้องคิดมาก ถือว่าทำดีแล้ว มันบ่อนทำลายตัวตนของมันเอง

    เนี้ยเขาเรียกว่า จิตรู้ตัว สติเท่าทันจิต ปัญญารู้ตามจริง และสามารถเลื่อกเส้นทางได้ ไม่หมกหมุ้นมากเกินไป เมื่อเกิดปัญญานี้แล้ว เซลล์ขายตรงที่ไหนก็มาหลอกขายยาครอบจักรวาลคุณได้ยาก
     
  19. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    ถามว่าถ้าโรงงานปิดจริง(สังขารตาย) แล้วนักลงทุนจะทำไ ง ก็ตอบได้ว่า ง่ายมากถ้ามีเงินพอ(บุญ)ก้หาบริษัทเล็กๆ ตามกำลังเงินที่หาซื้อได้ มาลงทุนสร้างกันใหม่

    แต่ถ้านักลงทุนนั้น รวยมากแล้วและรู้ทันวงจรธุรกิจ ทุกตัวแล้ว เขาก็จะหยุดเพราะยิ่งลงทุนเงินก็ยิ่งหมดและไม่แน่ว่าต่อไปจะตัดสินใจถูกผิด มีความเห็น
    เป็นจริงเหมือนเดิมหรือเปล่าเมื่อมีโรงงานที่อยู้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป มองเห็นแล้วว่าทุกก้าวย้างในธุรกิจในคือความเสี่ยง
     
  20. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    เดี่ยวคราวหน้าจะมาเล่าอารมณ์สงบ ให้ฟังกันจริง วันนี้เอาตัวอย่างเรื่อง สติทันจิต และตัวอย่างธุรกิจโรงงานสังขาร กันไปก่อน ให้รู้เริ่มเข้าใจกันเล่น ๆ อ้ออย่าลืมว่า นักลงทุนจะเลิกลงทุนกับธุรกิจโรงงาน จริง ๆ ก็ต่อเมื่อ โรงงานปิด หรือ รวยแล้วอยากหยุด นะจ๊ะ ดังเกจิอาจารย์หลายท่าน ที่ได้ละสังขารไปด้วยเหตุผลที่ว่า โรงงานมันปิดเอง หรือ เลิกลงทุนดีกว่าโรงงานมันทำงานไม่ได้แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...