อุทลุม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 14 ตุลาคม 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    คำว่า "อุทลุม" เป็นถ้อยคำที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ระบุว่า เป็นคำวิเศษณ์ หมายความว่า ผิดประเพณี ผิดธรรมะ

    <DD>นอกแบบนอกทาง เช่น "คดีอุทลุม" คือ คดีที่ลูกหลานฟ้องบุพการีของตนต่อศาล เรียกลูกหลานที่ฟ้องบุพการีของตนต่อศาลว่า "คนอุทลุม"
    <DD>สมัยก่อนมีกฎหมายลักษณะ รับฟ้อง บทที่ 21 บัญญัติว่า "อนึ่ง ในฟ้องนั้นเป็นคนอุทลุม มิได้รู้คุณพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย อันหาความแก่พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็ดี ให้ยกฟ้องเสีย"
    <DD>และข้อที่ 25 ยังบัญญัติว่า "ผู้ใดเป็นคนอุทลุมมิได้รู้คุณบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย แลมันมาฟ้องร้องให้เรียกบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยายมัน ท่านให้มีโทษทวนมันด้วยลวดหนังโดยฉกัน อย่าให้มันคนร้ายผู้นั้นดูเยี่ยงอย่างกันต่อไป แล้วอย่าให้บังคับบัญชาว่ากล่าวคดีของมันนั้นเลย"
    <DD>ต่อมาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 บัญญัติว่า "ผู้ใดจะฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญามิได้ แต่เมื่อผู้นั้นหรือญาติสนิทของผู้นั้นร้องขอ อัยการจะยกคดีขึ้นว่ากล่าวก็ได้"
    <DD>การตัดสิทธิไม่ให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดฟ้องบุพการีของตนเช่นนี้ ทำให้ศาลแปลความโดยเคร่งครัดว่า บุคคลดังกล่าวไม่รวมถึงบุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของบิดา ที่จะฟ้องบิดา ดังนั้นบุพการี ซึ่งหมายความว่า "ผู้ที่ทำการอุปการะมาก่อน ได้แก่ บิดามารดา เป็นต้น ซึ่งรวมถึงปู่ ย่า ตา ยาย และทวด จะต้องมีความสัมพันธ์ในฐานะนิตินัย ที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน" (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2548)
    <DD>ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ว่า ในการฟ้องบุพการีนั้น ถ้ามิได้ฟ้องให้รับผิดเป็นการส่วนตัวแล้ว บุคคลจะฟ้องบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ได้หรือไม่ มีคดีตัวอย่างดังนี้
    <DD>คุณเทิ่งเป็นปู่ของคุณแถม ทั้งสองคนต่างเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเดียวกัน โดยคุณเทิ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทคนหนึ่งด้วย เมื่อครบรอบปี คุณแถมตรวจดูบัญชีงบดุลของบริษัทพบว่า บริษัทมียอดเงินกำไรสุทธิจากการดำเนินกิจการ 64 ล้านบาทเศษ ซึ่งคุณเทิ่งกับกรรมการอีก 2 คน มีหน้าที่ต้องนำผลกำไรมาแจกเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น และจัดสรรเป็นทุนสำรองของบริษัท
    <DD>แต่ปรากฏว่า คุณเทิ่งกับกรรมการอีก 2 คน ทำหลักฐานว่าบริษัทได้กู้เงินจากกรรมการทั้งสามคนเท่ากับยอดเงินที่บริษัทมีผลกำไรอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของคุณเทิ่งและกรรมการอีก 2 คน ทำให้คุณแถมและผู้ถือหุ้นคนอื่นไม่ได้รับเงินปันผล ประกอบกับบริษัทก็มิได้ดำเนินการเรียกร้องหรือฟ้องกรรมการทั้งสามคนให้มอบเงินผลกำไรคืนแก่บริษัท
    <DD>คุณแถมจึงฟ้องคุณเทิ่งและกรรมการอีก 2 คน ให้ชำระเงิน 64 ล้านบาทเศษ คืนแก่บริษัทพร้อมทั้งดอกเบี้ย
    <DD>คุณเทิ่งให้การต่อสู้ว่า คุณเทิ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของคุณแถม ฟ้องของคุณแถมเฉพาะคุณเทิ่งจึงเป็นคดีอุทลุม ขอให้ยกฟ้อง
    <DD>ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องของคุณแถมสำหรับจำเลยที่ 1 คือ คุณเทิ่ง เป็นคดีอุทลุม พิพากษายกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1
    <DD>คุณแถมอุทธรณ์
    <DD>ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาระหว่างคุณแถมกับจำเลยทั้งสามต่อไป
    <DD>คุณเทิ่งฎีกา
    <DD>ศาลฎีกาตัดสินในปัญหาว่า โจทก์ (คุณแถม) ต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องจำเลยที่ 1 (คุณเทิ่ง) เป็นคดีนี้หรือไม่ ดังนี้
    <DD>ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 บัญญัติว่า "ผู้ใดจะฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญามิได้..." อันเป็นบทบัญญัติตัดสิทธิห้ามมิให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดฟ้องบุพการีของตน จึงต้องแปลความโดยเคร่งครัด
    <DD>เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 โดยระบุว่า โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท และจำเลยทั้งสามเป็นกรรมการของบริษัท จำเลยทั้งสามอาศัยตำแหน่งหน้าที่ในฐานะเป็นกรรมการของบริษัท ร่วมกันจงใจทำหลักฐานอันเป็นเท็จว่า บริษัทเป็นหนี้เงินกู้ยืมจากกรรมการ เพื่อนำเงินไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้เงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่บริษัท
    <DD>โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 1 ในฐานะที่โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท และจำเลยที่ 1 ในฐานะที่เป็นกรรมการของบริษัทดังกล่าวร่วมกับกรรมการอีก 2 คน คือ จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้ชดใช้เงินให้แก่บริษัท มิได้ให้ชดใช้เงินให้แก่โจทก์เป็นการส่วนตัว
    <DD>ทั้งจำนวนเงินตามฟ้อง หากรับฟังได้ตามที่โจทก์กล่าวหาก็เป็นเงินของบริษัทมิใช่เงินของจำเลยที่ 1 โจทก์จึงไม่ต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องจำเลยที่ 1 (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2550)
    <DD>คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้ จึงตอบปัญหาในข้อที่ว่า หากผู้ฟ้องบุพการีมิได้ฟ้องบุพการีในฐานะส่วนตัว แต่เป็นการฟ้องให้รับผิดเนื่องจากการปฏิบัติผิดต่อหน้าที่แล้ว ก็ไม่เป็นคดีอุทลุม.
    <DD>http://www.thaipost.net/index.asp?bk=tabloid&post_date=14/Oct/2550&news_id=149576&cat_id=220400
    </DD>
     
  2. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,183
    เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ
    คนไทยอ๊ะป่าวเรา
     

แชร์หน้านี้

Loading...