อุปกรณ์ฝึกกสินไฟโดยใช้หลอด LED ได้ปะครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย gumarntong, 8 มีนาคม 2006.

  1. gumarntong

    gumarntong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +163
    ผมสนใจฝึกกสินไฟครับ
    ลองด้วยเปลวเทียนตรงๆ แต่มันไหว และอีกอย่างต้องจุดไฟ กลัวไฟใหม้

    จะใช้หลอดไฟเล็กๆ ที่เห็นหลอดไฟฉาย แล้วก็ต่อถ่านอันเดียว แบบง่ายๆ ก็รู้สึกว่ามันแรงไปครับ จะต่อแบบให้มีปรับความสว่างได้ก็ทำไม่เป็นต้องใช้วงจรอิเล้กทรอนิกส์

    แต่มีอีกอัน คือหลอด LED เป็นหลอดไฟอิเล็กทรอนิกส์ อันเดียวกะที่ใช้เป็นปุ่มไฟแสดง ในเครื่องใช้ไฟฟ้า วิทยุ หรืออื่นๆ นะแหละครับ

    มันจะใช้ได้ปะครับ แต่สีของมันไม่ขาวครับ มันมีสีแดง สีเีขียว สีส้ม สีเหลือ ไม่รู้ว่าจะใช้ได้ปะครับ
    เพราะหลอด LED มัน มน และไม่จ้าแสบตาเหมือนหลอดไฟฉายครับ
     
  2. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    ผมคิดว่า น่าจะทำได้ครับ

    แต่ว่า จริงๆแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่า ฮ่า

    ...ถ้ามีแสงสว่างก็จับความสว่างมัน ลองดูๆๆ ไม่เคยได้ยินกรณีนี้ครับ ตอบมากก็กลัวผิด แหะๆ
     
  3. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    ได้แหละครับ
    ถ้าจะให้ดี ปิดไฟห้องให้มืดหมด เปิดแต่ LED น่าจะได้ Feel ดี อิ อิ
     
  4. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,059
    ถ้าจุดเทียนในหม้อนึ่งข้าวที่ตัวมันยาว ๆ โดยตะแครงหม้อนอนลง จะดีไหมครับ....พอจะกันลมได้ หมดปัญหาเรื่องไฟไหม้ได้ด้วย.
     
  5. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    เออ กันลมได้

    คิดได้ไง คิกคิก

    โมทนาสาธุ ผมหนิกันไฟไหม้ได้ แต่กันลมไม่ได้ .. เอาวางไว้บนแก้วน้ำอ่ะครับ ..ลองดูๆ คว่ำแก้ว เอาก้นมันตั้ง แล้วเอาเทียนวางไว้บนนั้นครับ .. ลมนี่ก็ต้อง ใช้หม้อนึ่งข้าวครับ หุหุ
     
  6. gumarntong

    gumarntong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +163
    หลอด LED ประหลัดไปด้วยครับ ประยัดกว่า หลอดไฟฉายเล็กๆ อันนั้นกินไฟครับ แล้วไส้หลอดที่มันใหม้ หรือสว่างจะแสบตาด้วย ถ้าไปแรง และถ่ายก็หมดเร็ว

    ที่สำคัญ อุปกรณืไฟฟ้า พกพาไปที่ใหนได้ด้วย
    และก็ ไม่มีใครรู้ว่าเรานั่ง ทำไร เพราะว่าจุดเทียน คนอาจจะถามจุดเทียนทำไม

    แต่หลอด LED ต่อไฟ น่าจะสะดวก มักๆ อะ คับ

    อุปกรณื อีกหน่อยคงมีคนทำขาย เอากระดาน มา 1 แผ่น ทาสีีขาวซะ แล้วเาจาะรูตรงกลง เอาหลอด LED ยัดตรงกลางโพล่มา ข้างหังก็เป็ฯกระเปาะถ่านไฟฉาย อันสองอัน แล้วก็สวิทธ์ศ
    ใช้นาน ประหยัด ปลอดภัย สะดวก


    อิอิ
     
  7. gumarntong

    gumarntong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +163
    ทำเป็นกล่อง LED ไฟเล็กๆๆ คนจะไ้ด้เข้าใจว่า เป็นปุกรณืไฟฟ้าชนิดหนึ่ง

    ดีกว่า
    จุดเทียน แล้วมีคนเก็นเทีนอยู่ในหน้องนนอน เอ้ยเมื่อคืนไฟดับเหรอ หรือ เอ้ยจุดเทียนทำอะไร
    หรือบางที่แต่ไม่ถาม แต่คิดไปต่างๆนานา เอ้ย ไอ้หมอนี่ สงสัยเล่นของ ทำคุณไสย์แน่ๆๆ เลยอะ (ทั้งๆที่นั่งสมาธิ เพ่งกสินไฟ) หรือกลัวเราว่าเรากำลังเล่นของอยู่
     
  8. Candle

    Candle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +909
    แล้วถ้าใช้หลอดแบบเสียบปลั๊กแบบนี้ จะเป็นกสิณไฟหรือกสิณแสงสว่างครับ ผมรู้สึกว่ามันใกล้เคียงกัน
     
  9. อภิเดช

    อภิเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +910
    ตามที่ผมเข้าใจนะครับ การฝึกกสิณไฟ เป็นการเพ่งไฟ เพ่งเพื่อจับอารมณ์ความรู้สึกของไฟว่าไฟที่เพ่งอยู่นั้นมีความร้อน รู้สึกถึงความร้อนของไฟที่เราเพ่งอยู่ หากเพียงแต่เพ่งหรือจับภาพเฉพาะความสว่างของแสงไฟ ก็จะได้เพียงกสิณแสงสว่างเท่านั้นครับ ส่วนการเพ่งพวกหลอด LED ผมก็รู้สึกว่าง่ายดีนะครับเพราะตอนนอนมักจะเห็นหลอดพวกนี้ติดอยู่ แต่ถ้าจะฝึกกสิณไฟก็น่าจะได้นะครับ แต่ต้องจับอารมณ์ความรู้สึกของไฟหรือหลอดไฟที่เพ่งว่ามันร้อน แต่หลอดพวก LED เราจับมันแทบจะไม่รู้สึกเลยใช่มั้ยครับว่ามันร้อน แต่จริงๆมันก็ร้อนนะ แต่ร้อนน้อยหน่อยเท่านั้นเอง ถ้าจะฝึกก็คงยากหน่อยเพราะมันอาจจะฝืนกับความรู้สึกเดิมคือ แสงไฟจากเปลวเทียนเรารู้สึกหรือรู้อยู่ว่าถ้าไปจับมันมันต้องร้อนแน่ๆ แต่ หลอด LED จับหรือสัมผัสคงยากที่จะรู้สึกว่ามันร้อน ถ้าจะเพ่งกสิณไฟจริงๆก็คงจะต้องพิจารณาหรือเพ่งเข้าไปถึงข้างในของหลอดเลยกระมังครับ
    ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย เพราะเขียนตามความเข้าใจของผม ถ้าผมเข้าใจผิดพลาด วานผู้รู้ท่านอื่นๆมาแนะนำด้วยนะครับ [b-wai]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2006
  10. AA_TT_NN

    AA_TT_NN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +254
    อุปกรณ์ เพ่ง กสิณแสงสว่าง ที่ ลองทำดู .....ง่าย ๆ

    ใช้ ไม้อัดเหลือใช้ ทำเป็นกล่อง สี่เหลี่ยม ขนาด 10 คูณ 8 นิ้ว หนา 4 นิ้ว ด้านหลัง ใส่บานพับ เพื่อเปิด ปิด ได้ ใส่หลอดไฟ นีออน หลอดประหยัด อ่อน ๆ ส่วนรูที่เจาะเป็นวงกลม ขนาด 1 นิ้ว พับกระดาษ ขาวเป็น 2 ทบ ทากาวติดปิดรูไว้ แล้วใช้สติกเก้อร์ สีดำปิดอีกรอบ และเจาะรูให้ตรงกับรูไม้ ติดทับกระดาษ อีก ที ผมใช้เพ่งในห้องมืด ดี ครับ ไม่แสบตาด้วย เพราะใช้กระดาษ ขาวรองก่อน ผมมีรูปให้ดูด้วย นะครับ .... ลองทำดูครับ ถ้าทำไม่อยาก น่าจะป็นกสิณ แสงสว่าง ครับ ถ้าทำแล้ว ไม่ ดี ก็ ขออภัยครับ ......แต่ผมเพิ่งทดลอง ใช้ได้ดีดรับ โดบเฉพาะ ไม่แสบตา ............ ขออนุโมทนา แด่นัก ปฏิบัติ ทุกท่าน ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PIC_0001.JPG
      PIC_0001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      58.9 KB
      เปิดดู:
      2,197
  11. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    .....ความคิดสร้างสรรค์ดีจริงๆครับ ผมเองใช้แต่วิธีโบราณพอมาเห็นในเวปนี้รู้สึกดีแฮะ คงไม่มีอะไรจะแนะนำอ่ะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนขอรับ
     
  12. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    พวกคุณสับสนไปกันใหญ่แล้ว กสิณไฟ กับ กสิณแสงสว่าง ดูเหมือนคล้ายๆ กัน แต่ความจริงแล้วต่างกันโดยสิ้นเชิง (คนละอันจ้า)

    กลับไปศึกษาใหม่นะ อันนี้เตือนด้วยความหวังดี ประเดี๋ยวสติแตกตายก่อน ไม่รู้ด้วยนะเอ้อ ดีไม่ดีเดี๋ยวเพี้ยนสุดขอบโลก (พอมีประสบการณ์นิดหน่อย) เป็นเพราะฝึกแบบผิดๆ นี่แหล่ะทำให้ ###อ่อน### เพี้ยนอยู่ทุกวันนี้ ... อิอิ !!!

    ปล. มีใครตั้งชื่อตัวเองว่า อ่อน บ้างหล่ะ ... ?
     
  13. พุทธธรรมจักร

    พุทธธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +159
    กสินไฟ...โดยหลอดไฟ....เปลวเทียนไหว......(จุดไฟ...กลัวไฟไหม้)....หลอดไฟฉาย....แล้วก็....หลอด LED ........มีสีแดง...สีเขียว....สีส้ม...แล้วก็สีเหลือง....ใช้ได้หมด...แต่สีแดง เขียว ส้ม เหลือง ไม่ใช่ กสินไฟแล้ว เป็นกสินเหมือนกัน...แต่เป็นกสินอื่น.....ถ้าเพ่งเปลวเทียนให้เพ่งดูที่มีแสงทึบ...แล้วอย่าเพ่งเปลวไฟที่เคลื่อนไหว...(กำหนดจิต..เพ่งหมายเอา)...เพ่งจนติดตาติดใจ....เพ่งจนหลับตาก็เห็น....จะลืมตาก็เห็น...ประเภทไปไหนข้าไปด้วย(แม้ในขณะอยู่ในสถานที่อื่น...นอกเหนือจากที่ฝึก)...ฝึกเอาจนนึกก็เห็น...(ลืมตาข้างเดียวก็เห็นได้.....อันนี้พูดเล่น ที่จริงถ้าเพ่งจนชำนาญแล้ว...มัน..นึก..คิด.หรือมันอยู่ไหนหว่า...มันก็เห็นแล้ว)กำหนด...จิต...เอานิมิตนั้นไว้ในตัวเรา...(ไม่ส่งจิต ออกนอก)ไม่ว่าจะหน้าอก.....หน้าผาก.....ศรีษะ....หรือศูนย์กลางกาย....ตอนแรกมันจะเป็นดวงออกสีค่อนข้างแดงก่อน.....ต่อมาสีมันจะเปลี่ยน.....ก็อย่าตกอกตกใจเข้าล่ะ.....ประคองนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น....ไม่ต้องไปอยากเห็น อยากรู้อะไร หรือไปสงสัยมันเข้า มันอาจจะกัดเอาได้...พูดเล่นอีกแล้ว....ให้นิ่ง...เฉย...ไว้...ให้มันเป็นไปของมันเอง....กำหนดจิต..รู้อยู่ที่เรา...ไม่ใช่ไปอยู่ที่นิมิตที่เห็น....เพ่งฝึกไปเรื่อยๆ...สำคัญ..นิ่งเฉยเข้าไว้...เพ่งนิมิตแบบสบายๆๆ...(สำคัญต้องสบาย...สบายอย่างไร......อันนี้ไม่อธิบายแล้ว....เพราะว่ามันสบาย) ทำตามหน้าที่..คือ...มีหน้าที่เพ่ง...กำหนด...นิมิตก็เพ่ง..ฝึกไปเรื่อยๆ...ส่วนคำบริกรรมภาวนาก็ว่าไปเรื่อยๆ..ๆ.....เตโชกสินัง.....เตโชกสินัง....ฯ (ถ้าคำภาวนามันหายไปก็ช่างมันปล่อยให้มันหายไป...อย่าไปตามมันกลับมาเข้าล่ะ...นิ่งเฉยเข้าไว้...ปล่อยให้เป็นไปของมันเอง.....) นิมิตหรือดวงที่เห็นก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว......จากขาวก็ค่อยๆ ใสขึ้นเรื่อยๆ....ใสจนไม่มีอะไรเจือปน......ก็...ฝึกไปเรื่อยๆ...จากใสก็มีประกาย....พรึก.........เอาเป็นว่าแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน.....การเพ่งเทียนนิมิตที่เห็นจะไม่ค่อยกลม...เออ...จะเป็นวงรี.....ต้องค่อยฝึก....ตอนอุคหนิมิต....หรือตอนไหนผู้ฝึก...กำหนดหมายเอาเอง...ให้เห็นเป็นดวงกลม...ซึ่งก็ต้องลำบาก...ลำบน..พอสมควร...ส่วนการเพ่งกสินไฟโดยใช้หลอดไฟฟ้านั้น...(สะดวกดี.....และก็การฝึกก็เหมือนเพ่งเทียน)..ในเว๊ปก็เห็นมีคนกล่าวถึงไว้แล้ว....และก็ประสพพบเห็นก็มากมาย.....แม้กระทั้งตัวผู้เขียนเองก็ยังใช้เลย.......(โลกมันเปลี่ยนไป....ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปแล้ว....เอาเป็นว่า...คำนึงถึงผลที่เกิด..ที่ได้ดีกว่า)...ก็...ขอเกริ่นเอาไว้เปรียบเทียบ...ไว้คิด....พิจารณา....ลองไปปฏิบัติใช้....ดู...หรือศึกษาไว้เป็นข้อมูลก่อนก็ได้....(ส่วนตัวผู้เขียน....ล่อ...ลอง...ปฏิบัติ...ไป.....ไม่...หมด....เพราะฝึกทุกอย่างไปเรื่อยๆไม่เห็นหมดสักที...มีมาให้ฝึกเรื่อยๆทั้งสมถกับวิปัสสนากรรมฐาน...รวมถึงทั้งมารมาทดสอบ...ทำบททดสอบให้)หลอดไฟที่จะใช้..ก็น่าจะเป็นหลอดกลม....(ประเภทหลอดปิงปอง) ทึบ...หรือหลอดฝ้าสีขาว...ถ้าเป็นไปได้อย่าเอาที่มีพิมพ์ยี่ห้อ...ติดกับหลอดไฟ...เพราะนิมิตที่เห็นมันจะติดไปด้วย(เนื่องจากมีคนฝึก...แล้วนิมิตที่เห็นติดยี่ห้อไปด้วย......อันนี้ไม่ใช่ผู้เขียนนา....คนอื่น....ผู้เขียนรู้และระวังไว้ก่อนแล้ว)ไม่ควรใช้หลอดใส....วัตต์ก็ใช้วัตต์น้อยๆ....ผู้เขียนถ้าจำไม่ผิดล่อ...100...แล้วลดลงมาเรื่อยๆ 60 แล้วก็ 40 วัตต์.....แล้วก็ 25 วัตต์....ก็แสบตาน่าดู....(เมื่อก่อน..นานมา....ก็เป็นสิบกว่าปีแล้ว....ก็เพ่งเทียน........มาเรื่อยๆ....ประเภทฝึกบ้าง.... ไม่ฝึกบ้าง...เหมือนกัน.......แล้วก็หลอดไฟ....แล้วก็ดวงอาทิตย์...แล้วก็หลอดไฟ..ฯลฯ..หลังๆใช้นึกกำหนดเห็นเอา....)ที่สำคัญเพ่งพอประมาณ....ก็หลับตาลง......ให้เห็นนิมิต...ถ้าหายไปก็เพ่งใหม่.....จนติดตา..ติดใจ...รู้สึกแสบตาหรือไม่ไหวแล้วก็หยุดเสีย...(ให้รู้ว่าตามันรับได้แต่ไหน....ไม่ใช่ยายน่ะ) สำหรับดวงอาทิตย์นั้นอย่าเพ่งตอนกลางวันให้เพ่งตอนเช้า...พระอาทิตย์กำลังขึ้นหรือกำลังตกดิน...เพราะแสงไม่สว่างจ้าจนเกินไป....และให้เพ่งระยะเวลาอันสั้น....แล้วค่อยเริ่มพรุ่งนี้ใหม่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ...(ให้ระมัด...ระวังด้วยเดี๋ยวตาจะบอด....ไม่ใช่ยายบอด...เพราะยายแกไม่รู้เรื่องด้วย)......กสินไฟก็มีประโยชน์และโทษเหมือนกัน...ลองฟังความคิดเห็นของผู้เขียนดู...การฝึกกสินไฟนั้นถ้าเป็นคนอารมณ์ร้อน...หรือประเภทขี้โมโห..หรือหงุดหงิดง่าย..หรือหุนหันพลันแล่น ก็จะเพิ่มดีกรี หรือความรุนแรงเพิ่มขึ้น ต้องระวังควบคุมอารมณ์ไว้ให้ดี...(สำคัญอย่าประมาท.....หรือทะนงตน)...ต้องหรือใช้กรรมฐานอื่นแก้เพื่อบรรเทาให้สงบระงับ...เช่นพรหมวิหารสี่ซึ่งเป็นกรรมฐานเย็น...ต้องคอยฝึกกำกับไว้ให้..ได้ตลอดเวลาก็จะเป็นการดี...หรือการฝึกกสินน้ำ...ไว้....ลด..บรรเทาอาการความลุ่มร้อน..ให้สงบระงับ(อันนี้ไม่ค่อยอยากจะแนะนำ ควรที่จะฝึกให้ได้เป็นอย่างๆไปจะดีกว่า ซึ่งจะสำเร็จได้ง่ายและเร็ว....ซึ่งต้องใช้การวางจิต...กำหนดจิตที่ดี ถึงจะเป็นผล) อีกอย่างหนึ่งก็คือความร้อนที่จะเกิดขึ้นกับตัวเรา.....การฝึกกสินไฟพอฝึกไปได้สักระยะ....พอมีผล...ก็จะเกิดอาการปวดแสบ...ปวดร้อน...ตามร่างกาย....หรือบางทีพอนึกกำหนดเท่านั้น ก็ร้อนขึ้นมาทันที...(ร้อนมาก ร้อนน้อยก็คงแล้วแต่สมาธิที่กำหนด)บางทีหน้าแดง...ตัวร้อนเหมือนจะเป็นไข้....ร้อนตามเนื้อตามตัว...ต้องกำหนดจิต...ไว้ว่าร้อนคือเรา..เราคือร้อน...หรือเป็นส่วนหนึ่งของเรา อะไรทำนองนี้แหละก็จะบรรเทา..ไปได้...บ้าง...บางทีอาจ....ก่อนเพ่งให้หาน้ำใส่ขวดแบน.....มองผ่านซะก่อน...ไปที่ดวงไฟที่เพ่ง...ก็จะพอลด...บรรเทาอาการร้อนไปได้บ้างเหมือนกัน(หาวิธีเอาเอง..ตามถนัด...ไว้บ้างก็จะดี)......ถ้าอยู่ในฤดูหนาวฝึกเพ่งกสินไฟ...ก็ลดภาระของความร้อนไปได้บ้าง...แถมอบ...อุ่น...อีกต่างหาก.....(เนื่องจากผู้เขียนอยู่ภาคเหนือ)ที่สำคัญอย่าอยากได้...อยากมี...อยากจะเป็น...ที่กำหนดจะให้ร้อนน่ะ.....มันจะหายไป...ฝึกไปเรื่อยๆก็จะรู้เอง(เป็นปัจจัตตัง.....ไม่ใช่สตางค์เที่ยวไปจ่ายแจกใครได้)........อึม...ชักจะนอกเรื่องไปกันทั้งใหญ่และเล็ก....เพราะถามเรื่องหลอดไฟ.....เลยเป็นไฟลามทุ่งไปเสีย......เขียนและพิมพ์มาเป็นคุ้งเป็นแควเลย......เอาเป็นว่าอย่าเชื่อ..คนที่จะต้องแก่เลย.....ศึกษาไว้เป็นข้อมูล...สำหรับเตรียม...สำหรับเปรียบเทียบ...หรืออ่านเล่นเอาดีกว่า......แบบเพลินๆสบายๆ...(แต่ถ้าจะฝึกตามนี้ก็ไม่ว่ากัน) เนื่องจากผู้เขียนก็ยังจะต้องฝึกตน...เอง....อีกมาก....ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยเป็นเรื่อง....เป็นราวเหมือนกัน.......กิเลสมันไม่ยอมหด...ไม่ยอมหาย...หมด...ไปเสียที....ผุดๆ...โผล่....อยู่อย่างนั้น.....ก็เลยเบื่อ.....โลกมนุษย์......ไม่อยากจะมาเกิด....มาทุกข์......ทรมานอีก......แต่.....ก็ต้องสู้...และทน...(วิริยบารมี...ขันติบารมี) เพื่อตนเองและผู้อื่นต่อไป
    สุดท้ายฝากสุภาษิตไว้คิดไว้อ่านดังนี้<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    สีลสมาธิคุณานํ ขนฺติ ปธานการณํ<O:p></O:p>
    สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา ขนฺตฺยาเยว วฑฺฒนฺติ เต.<O:p></O:p>
    ขันติเป็นประธาน เป็นเหตุแห่งคุณศีลและสมาธิ กุศลธรรมทั้งปวง ย่อมเจริญ เพราะขันติเท่านั้น<O:p></O:p>
    ................................ขอโมทนาสาธุ..............นิพพานัง...ปรมังสุขขัง<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2006
  14. AA_TT_NN

    AA_TT_NN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +254
    ขอรบกวนสอบถามอีกว่า การเพ่งหลอดไฟ สีขาว เป็นกสิณไฟหรือ แสงสว่างกันแน่ ครับผม !!!!! ขออนุโมทนา แด่นักปฏิบัติ เพื่อหนทางสว่างทุก ๆ ท่าน ครับ
     
  15. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    .....ขึ้นอยู่กับตัวผู้ฝึกเองครับ ว่าจะไปจำเอาอารมณ์ไหน ถ้ามองดูแสงสว่างของหลอดก็เป็นกสินแสงสว่าง ถ้าจิตสัมผัสถึงความร้อน การปะทุจากภายในก็เป็นอารมณ์ของกสินไฟ ถ้ามองดูที่หลอดแล้วสัมผัสว่าหลอดนี้มันเป็นของแข็ง ก็เป็นกสินดิน ถ้าจิตเข้าถึงที่ว่างระหว่างตัวเรากับหลอดไฟก็เป็นกสินอากาศ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ จริงๆทำได้มากกว่านี้อีก เพียงแต่ว่าเรามักไม่ได้เพ่งตรงจุดเหล่านี้ครับ ส่วนผมเองเวลาฝึกก็ใช้แบบโบราณคือเพ่งไฟจริงๆครับ
     
  16. ผู้เดินทาง

    ผู้เดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +407
    เทคนิคส่วนตัวในการฝึกกสินไฟครับ

    สร้างนิมิตในใจนึกถึงภาพไอพ่นของเครื่องยนต์เครื่องบินเจ็ตที่กำลังเร่งเครื่องเพื่อจะทะยานขึ้นอย่างที่เห็นในภาพยนต์เรื่อง Top Gun แล้วทำความรู้สึกในใจว่าเป็นไอพ่นของเปลวไฟที่ทรงพลังจริงๆ

    - ถ้าน้อมนึกในความเป็นไอที่ถูกพ่นออกมาอย่างรุนแรง จะได้กสินลม
    - ถ้าน้อมนึกในความเป็นไอร้อนของเปลวไฟที่ทรงพลัง จะได้กสินไฟ
     
  17. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    6. กสิณไฟ ให้หาผ้ามาเจาะรูกลม ขึงขวางเปลวไฟ ให้มองเห็นเปลวไฟลอดช่องได้ แล้วเพ่งไฟนั้นจนติดตา แล้วหลับตา เพ่งนิมิตในมโนคำนึง ปรับสภาวะจิตให้ประณีตและสบายจนเห็นไฟเป็นดวงกลมใส แล้วขยายให้ใหญ่ขึ้น ทำให้เล็กลง จนชำนาญ

    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=9919
     
  18. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    คุณลักษณะเฉพาะ ของกสิณแต่ละกอง

    1.ปฐวีกสิณ มีลักษณะแข็ง+ภาพ (ความแข็งของดิน+ภาพสีดินที่เปลี่ยน)

    2.อาโปกสิณ มีลักษณะอ่อน เย็น +ภาพ(ความอ่อนนุ่มเย็นของน้ำ+ภาพสีของน้ำที่เปลี่ยนไป)

    3.วาโกสิณ มีลักษณะ เคลื่อนไหว เบา+ภาพ(ความเคลื่อนไหวความเบาของลม+ภาพสีของลมที่เปลี่ยนไป)

    4.เตโชกสิณ มีลักษณะร้อน เผาไหม้ +ภาพ(ความร้อนของไฟ+ภาพสีของไฟที่เปลี่ยนแปลงไป)

    5.อากาศกสิณ มีลักษณะว่าง โปร่งใส+ภาพ(ความว่างและโปร่งใสของอากาศ+ภาพสีของอากาศที่เปลี่ยนแปลไป)

    6.อาโลกสิณ มีลักษณะแสงสว่าง+ภาพ(ความสว่างของแสง+ภาพสีที่เปลี่ยนแปลงไป)

    7.ปีตกสิณ มีลักษณะตั้งต้นที่สีเหลือง+ภาพ(สีเหลือง+ภาพสีที่เปลี่ยนแปลงไป)

    8.โลหิตกสิณ มีลักษณะตั้งต้นที่สีแดง+ภาพ(สีแดง+ภาพสีที่เปลี่ยนแปลงไป)

    9.นีลกสิณ มีลักษณะตั้งต้นที่สีเขียว หรือสีมืดๆ+ภาพ(ความมืด+ภาพสีที่เปลี่ยนแปลงไป)

    10.โอทากสิณ มีลักษณะตั้งต้นที่สีขาว สว่าง +ภาพ(สีขาวความสว่าง+ภาพสีที่เปลี่ยนแปลงไป)

    จากทั้งหมด ภาพแห่งองค์กสิณจะเปลี่ยนแปลงไปตามกำลังสมาธิ แต่คุณลักษณะ หรือคุณสมบัติเบื้องต้นจะไม่เปลี่ยน ฉะนั้นจะทำกสิณกองใดต้องรู้และเข้าใจ จดจำคุณลักษณะ และคุณสมบัติของกองนั้นๆ

    ภาพสุดท้าย คือ ประกายพรึก แต่คุณสมบัติต่างกัน ตามคุณลักษณะของแต่ละกอง
     
  19. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    ผมชอบที่คุณโพสจังครับ ... มีอะไรบางอย่างทำให้ผมเคารพ
     
  20. attasaro

    attasaro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +140
    แล้วถ้าเพ่งเทียนได้ไหมครับ ไฟที่จุดจากเทียน ต้องทำวงกลมด้วยเหรอ ครับ ต้องใส่หม้อไรนั่ด้วยเหรอ ครับ
    คือผมเคยฝึกตอนไม่รู้ ก็นั่งมองไปที่เทียน จนรู้สึกว่า หลับตาก็เห็นเหมือนเปลวเทียนเป็นรูป รี ๆ เหมือนเปลวเทียน สีม่วง ๆ อะคับ ตกลงว่าอันนี้ถูกไหม

    พอเริ่มหาอ่านข้อมูล แล้วมันหาอุปกรณ์ทำยากอะนะครับ เลย ไม่ค่อยได้ฝึกเลย

    ปล. อยากให้มีจำหน่ายอุปกรณ์ฝึกที่ถูกต้อง จริง ๆ ซักหน่อย เวบพลังจิต หรือวัดท่าซุง หรือบ้านสายลม มีทำจำหน่ายไหมครับ ได้เอามาไว้ฝึกอย่างถูกต้อง
     

แชร์หน้านี้

Loading...