อ่านเล่มนี้หรือยัง ฮิสทีเรีย( สาวๆควรอ่านไว้นะคะ)

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ไฟฝัน..ควันรัก, 21 ตุลาคม 2006.

  1. ไฟฝัน..ควันรัก

    ไฟฝัน..ควันรัก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +16
    อ่านเล่มนี้หรือยัง ฮิสทีเรีย
    >
    >
    >
    >
    >
    >
    >ฮิสทีเรีย....แล้วจะอยากหามาอ่าน
    >
    >(ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่านะ แต่ความรู้สึกบอกว่า 75 %) น่าจะจริง
    >วันนี้ ( 17/4/05 ) ไปทำธุระที่ฟิวเจอร์ รังสิต
    >ได้แวะเข้าไปในร้านหนังสือนายอินทร์ เลือกซื้อหนังสือได้มา 2 เล่ม
    >ระหว่างรอจ่ายเงิน
    >บังเอิ­เห็นพนักงานเข็­หนังสือใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเอาออกมาวาง(บางส่วนยังอยู่ในรถเ
    >ข็­อยู่เลย) และไปสะดุดตากับ หนังสือ เล่มหนึ่งพอดี
    >
    >ดูจากหน้าปกแล้วเป็นรูปผู้ห­ิงแก้ผ้า(แต่เขาถ่ายออกมาแนวอารมณ์ศิลป์ )
    >ชื่อเรื่องว่า ฮิสทีเรีย เลยหยิบมา
    >อ่านดู ความยาวประมาณ 250 หน้า เลยหยิบไปอ่านในร้านกาแฟที่อยู่ในร้านหนังสือ
    >แกล้งสั่งกาแฟมาดื่มแล้วเริ่มต้นอ่านใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
    >(แต่ไม่ได้ซื้อเพราะตังค์หมดจาก 2 เล่มที่จ่ายไปแล้ว) เรื่องมีอยู่ว่า....
    >
    >มีเด็กผู้ห­ิงคนหนึ่ง ชื่อว่า หลิว เป็นเด็กที่ทางบ้านถานะดีพ่อทำธุรกิจ real
    >estate (บ้านจัดสรรค์) แม่เป็นแม่บ้าน มีพี่ชาย 1 คนชื่อ ไผ่
    >เรียนจบและทำงานแล้วอยู่ที่สิงคโปร์ ทางบ้านฐานะดีมาก ๆ
    >
    >(เล่าย่อ ๆ นะ ใครสนใจหาซื้ออ่านได้ คิดว่าต่อไปต้องเป็น best seller
    >อีกเล่มแน่)
    >
    >พ่อแม่ส่ง หลิว เข้าเรียนโรงเรียนประจำ เป็นโรงเรียนห­ิงล้วน ที่นั่นหลิว
    >ได้รู้จัก รุ่นพี่ชื่อ โอ๋ เป็นทอมและขาให­่ประจำโรงเรียน หลิว
    >เป็นเด็กหน้าตาดีและอ่อนต่อโลกมาก (คุณหนู) เลยโดน โอ๋ ได้เป็นแฟน
    >และมีอะไรกัน ทำให้คนอื่นในโรงเรียนรังเกียจหลิว โดยเฉพาะคนที่ โอ๋ทิ้งมา
    >ที่นั่นทำให้หลิว เสียความบริสุทธิ์ ครั้งแรก และ หลิวมักจะมีอะไรกับ โอ๋
    >บ่อยมากทั้งในห้องน้ำโรงเรียน ( เรตเอ็กซ์ มาก ๆ เล่าไม่ถูกอ่ะ
    >มันอุบาทว์ด้วย) แต่หลังจากโอ๋ เรียนจบไปก่อน หลิว ก็ได้สู­เสีย โอ๋ไป
    >(โอ๋มีแฟนใหม่ในมหาลัย )
    >
    >เหมือนกับ โอ๋ได้ก่อเชื้อไฟไว้ให้ หลิว และทำให้หลิวรู้จักความรัก และ เซ็กซ์
    >เร็วเกินไป และอ่อนหัดต่อโลก ไม่เข้าใจ และไม่รู้
    >จะจัดการกับชีวิตต่อไปอย่างไรดี ทำให้หลิวเป็นคนที่โหยหาความรัก และ
    >เซ็กซ์ตลอดเวลา
    >
    >พอหลิวเรียนจบ ก็สอบเข้ามหาลัย เอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งรวมของลูกคนรวย
    >และ หน้าตาดี ตอนที่หลิวเข้าปี หนึ่งรุ่นพี่ได้ชักชวนให้สมัคร ประกวด
    >ดาวมหาลัย (freshy night) และ หลิวก็ได้รางวัลนั้นมา ทำให้หลิวไม่มีใครคบ
    >(เพราะเด่นเกินไป หรือเปล่าไม่แน่ใจ) ลยมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เข้ามาคุยด้วย ชื่อ
    >นนท์ แรก ๆ อาสาขับรถไปส่งที่บ้าน และต่อมาก็ หลิว ก็พาไปแนะนำตัวกับพ่อแม่
    >ซึ่งเขาก็รับรู้ หลังจากนั้น มีการเลี้ยงรับน้องกันนอกสถานที่
    >ระบุว่าเป็นหัวหิน ไปกันทั้งคณะรวมทั้งหลิวและนนท์ด้วย
    >
    >บังเอิ­ว่าห้องที่จองไว้ไม่พอ ก็เลยต้องหาที่พักใหม่ ในกลุ่มเพื่อนนนท์
    >มีคนหนึ่งชื่อ เกมส์ ที่มีคอนโดที่นั่นเกมส์ก็เลยชวน นนท์ ไปนอน ที่นั่น
    >นนท์ก็เลยพาหลิวไปด้วย ซึ่งก่อนหน้านั้นเกมส์พยายามจีบ หลิวตลอด (หมาหยอกไก่)
    >ซึ่งหลิวก็รู้สึกแปลก ๆ และสับสน เหมือนกัน พอถึงคอนโด นนท์หลับไปเพราะเมา
    >เกมส์เลยชวนหลิวมาคุยด้วย และเหมือนกับตอนแรกที่หลิวมีอะไรกับโอ๋ เกมส์ ก็ทำ
    >เช่นเดียวกัน
    >คืนนั้นหลิวบอกว่าได้รู้ครั้งแรกว่าผู้ชายเป็นยังไง
    >
    >หลังกลับมาจากรับน้อง หลิวและเกมส์ยังนัดเจอกันบ่อยๆ ทุกครั้งจะจบลงที่โรงแรม
    >หรือไม่ก็ม่านรูด
    >แล้วความก็แตก เมื่อ เพื่อนใน กลุ่ม เกมส์ และนนท์
    >เจอเกมส์กับหลิวออกมาจากม่านรูดพอดี ข่าวก็กระจายทั่วมหาลัย
    >สุดท้ายหลิวก็เลยเลิกกับเกมส์ หลังจากนั้นนนท์ ก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ
    >
    >และโชคชะตาก็เล่นงานหลิวเข้าอย่างจัง เมื่อเกิดเศรษฐกิจฟองสบู่แตก พ่อล้มละลาย
    >ต้องขายบ้านขายรถและหนีไปอยู่ต่างจังหวัดกับแม่ (หนีเจ้าหนี้)โดยเช่าคอนโด และ
    >ฝากเงินไว้ให้หลิวใช้สำหรับการเรียนก้อนนึง แรก ๆ หลิวรู้สึกกลัว เหงา สับสน
    >ว้าเหว่ มาก ๆ และยังคิดถึงเกมส์อยู่ ทำให้หลิวเริ่มออกเที่ยวกลางคืน
    >โดยไปคนเดียวที่ผับแถวซอยทองหล่อ (แต่งตัวสวย เพื่อหาผู้ชาย โดยเฉพาะ)
    >คนไหนที่หลิวพอใจก็จะหนีบมานอนที่คอนโดด้วย จนการเรียนตกลง
    >และขาดสอบไปวิชาหนึ่ง อาจารย์ประจำวิชาเลย เรียกไปพบ และถามว่า
    >ไม่รู้หรือว่าสอบ สงสัยไปเที่ยวกลางคืนบ่อยสิ เธอไม่สงสัยเลยหรือว่าทำไมถึงรู้
    >ก็ผู้ชายที่เธอหนีบมานอน
    >
    >ด้วย บังเอิ­เป็นเพื่อนฉัน หลิวตกใจมาก สุดท้ายอาจารย์คนนี้เลยบอกหลิว
    >ไปว่าจะเอามั้ยไปกินข้าวกับเขา เพื่อแลกกับเกรด A ลงท้ายแล้วหลิวก็ไป
    >และก็ตกเป็นเมียของอาจารย์ (เรตเอ็กซ์ มาก ๆ อีกตอน) อาจารย์หึงหลิวมาก ๆ
    >แสดงความเป็นเจ้าของ และเอาบ่อยด้วย
    >หลิวก็บอกว่าเธอก็ไม่รู้ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนั้น
    >
    >และแล้ววันหนึ่ง หลิวไม่สบายไปหาหมอและเจอเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุราว 18 ปี (
    >หลิวแก่กว่า 2 ปี) ชื่อว่า ปิง แรก ๆ ก็คุย โทรศัพท์กัน หนักเข้า
    >ปิงก็มาหาที่ห้อง และมีอะไรกัน หลิวหลงปิง มาก ชวนมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดเลย
    >และปิงคนนี้ก็ชอบไถเงิน หลินใช้อยู่เรื่อย จนเงินที่พ่อฝากไว้ให้
    >(เลขเจ็ดหลัก) เหลือแค่ประมาณ 2 หมื่น และต้องลงทะเบียนเรียน จนหลิวตกใจ
    >เลยโทรหาพ่อ พ่อบอกว่า ธุรกิจร้านอาหารกำลังแย่ให้จ่ายประหยัด ๆ หน่อย
    >โทรหาพี่ชาย พี่ชายก็รับโทรศัพท์แบบเมาแอ๋ คุยไม่รู้เรื่อง หลิวหมดที่พึ่ง
    >เลยโทรหานนท์ นนท์รักและไว้ใจหลิวมาก
    >เลยโอนเงินค่าลงทะเบียนและค่าใช้บางส่วนให้หลิว แต่ปิงก็ยังคงไถเงิน
    >หลิวใช้อยู่ หลัง ๆ ไม่ค่อยมีปิงก็เลยกลับไปอยู่กับน้าอย่างเคย และวันหนึ่ง
    >อาจารย์ก็มาหาหลิวที่ห้อง และกำลังมีอะไรกันและปิงเข้ามาพอดี
    >ทำให้อาจารย์ด่าหลิวว่า ร่านผู้ชาย (หยาบๆ มาก ยาวอ่ะ) และขู่เรื่อง เกรด
    >หลิวเลยโต้กลับว่าจะฟ้องเมีย อาจารย์เลยเลิกด่า ปิงก็กลับบ้านไป
    >หลิวโทรไปง้อนะ แต่ปิงไม่โกรธ (แต่ไม่ค่อยมาหา กับปิงนี่มีสวิงกิ้งกันด้วยอ่ะ)
    >หลิวก็เลย เกิดอาการเดิมคือ ต้องไปเที่ยวและดื่ม
    >เพื่อหาผู้ชายมาค้างด้วยบังเอิ­หลิวได้รู้จักกับหนุ่มไฮโซคนนึงชื่อ คุณรติ
    >รวยมาก (เลิกกับเมียมาแล้ว) และหลิวก็มีอะไรกับคุณรติคุณรติรักหลิวมาก
    >ให้ทุกอย่างทั้งบัตรเครดิตและคอนโดให้อยู่ และซื้อรถราคาแพงมากให้ 1
    >คัน(นับจำนวนคันได้ในประเทศไทย) (แต่คุณรติ แกมีข้อด้อยอยู่อย่างคือ
    >แกต้องพึ่งไวอากร้าอ่ะ)
    >
    >
    >และแล้วชีวิตที่เหมือนเจ้าห­ิง ก็ทำให้หลิวเริ่มเบื่อ หลิวเลยติดต่อกับปิง
    >อีกและให้รถยืมใช้ด้วย ต่อมาหลิวจับได้ว่าปิง
    >เอารถของเธอไปพาผู้ห­ิงเข้าม่านรูด หลิวแค้นมาก เลยเมค เรื่องบอกคุณรติว่า
    >เธอโดนมอมยาในผับและมันก็ขโมยรถไป เป็นผลทำให้ ปิง โดนลูกน้องคุณรติ ยำตีน
    >อาการสาหัสต้องเข้าโรงบาล หลิวสะใจมาก
    >
    >และเมื่อเรียนจบปี 4 หลิวขอต่อโท คุณรติเลยชวนหลิวไปต่อโทด้วยกันที่อเมริกา
    >โดยค่าใช้จ่ายคุณรติ ออกทั้งหมด และ ยังเอา พ่อกับแม่ของหลิว
    >ไปทำธุรกิจที่นั่นด้วย หลิวมีความสุขมาก แต่ก็ยังคิดถึงนนท์อยู่เสมอ
    >และแล้วความลับก็ไม่มีในโลก เมื่อ ปิง กลาย เป็นงูเห่า แว้งกัดหลิวเข้าให้
    >โดยแฉ เรื่องของหลิวทั้งหมด ผ่านทางแม่ของคุณรติ
    >(ก็เขารวยนี่ก็เลยสืบประวัติว่าที่สะใภ้ซะละเอียดยิบ)
    >
    >สุดท้ายเลยโทรหาลูกชายเล่าเรื่องทั้งหมดและบินไปอเมริกา (พักผ่อน) พร้อม­าติ
    >.....คุณรติ โกรธหลิวมากเมื่อรู้ความ จริง จึงถามหลิวว่า
    >เคยนอนกับผู้ชายมาแล้วกี่คน และถามเรื่องปิงด้วย หลิวเสียใจมากเอาแต่ร้องไห้
    >คุณรติเลยเขียนจดหมายให้ หลิว
    >ใจความว่าไม่ว่าคุยกันโดยตรงเพราะกลัวหลิวร้องไห้อีก
    >เลยบอกว่าหลิวจะอยู่ที่อเมริกา ไม่ได้อีกแล้วนะ เพราะคนไทยที่นี่ทุก
    >คนรู้เรื่องหลิวหมดแล้ว( แม่เขานั่นแหละแฉ)
    >ให้หลิวกลับไปอยู่เมืองไทยซะ
    >โดยแม่เขาจะให้เงินหลิวก้อนหนึ่งไปเป็นทุนสำหรับทำอะไรก็ได้
    >
    >....หลิวกลับมาเมืองไทยมาอยู่บ้านเพื่อนสมัยมัธยมชื่อ ปอ พอมีสามีชื่อ ชา
    >และมีลูก 1 คนชื่อน้องป่าน
    >ระหว่างอยู่ที่นี่ปอก็หางาน ไปด้วย
    >แต่ก็ไม่ได้เพราะที่ที่เธอไปสมัครงานส่วนให­่ เขาจะรู้จักกับคุณรติ ทั้งนั้น
    >และทุกที่ทีไปสมัคร ฝ่ายบุคคล และ ผู้จัดการแต่ ละคน ก็มุ่งที่จะเอาเธอทำเมีย
    >และแล้ววันหนึ่ง ปอ ก็บอก ชาว่าให้พาปอไปสมัครงานที่ ตึกที่ชาทำงานอยู่ด้วย
    >เพราะมีอยู่หลายบริษัทอยู่ หลิวก็ ไปกับ ชา ระหว่างนั่งอยู่ในรถชาแต๋ะอั๋ง
    >หลิวตลอดเวลา ทั้งมองขาอ่อน ฯลฯ สุดท้าย หลิวก็มีอะไรกับชา และมีบ่อยมากขึ้น
    >เพราะหลิวก็โหยหาตลอดเวลา พักหลัง แม่ของหลิวเริ่มระแวง
    >ทำให้หลิวอยู่ที่นั่นไม่ได้ เลยติดต่อไปหางานทำและอยู่ กับพี่ชายที่สิงคโปร์
    >ที่นั่นหลิวมีชีวิตใหม่ที่น่าจะไปได้ดีแล้ว จู่ ๆ ก็มีจดหมายจากปอ
    >บอกว่ามีเจ้านายใหม่ จบโทมาจากอเมริกา หล่อมาก ชื่อชานนท์
    >ไม่รู้ว่าจะเป็นคนเดียวกับ พี่นนท์ของหลิวหรือเปล่า ถ้าไงให้ลองโทรติดต่อดู
    >หลิวโทรหา ชานนท์ ปรากฏว่าใช่ จริง ๆ
    >และเขาสองคนก็เริ่มสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง
    >หลิวถามชานนท์ว่ารู้เรื่องเธอจากคนไทยในอเมริกาหรือไม่
    >ชานนท์บอกว่ารู้แต่ไม่แคร์และไม่เชื่อด้วย ทำให้หลิวดีใจมาก
    >เลยลาพักร้อนมาเที่ยวเชียงใหม่ กับชานนท์ ที่นั่น
    >ทำให้ทั้งสองเป็นของกันและกันหลิวมีความสุขมากและคิดว่าจะเป็นไปได้ด้วยดีชานนท์ขอหล
    >ิวแต่งงานและนัดวันแต่ง
    >
    >หลิวกลับมาสิงคโปร์ แต่ก็ยังติดต่อกับนนท์อยู่เหมือนเดิม
    >และแล้วเรื่องเลวร้ายในชีวิตเธอก็เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อวัน
    >หนึ่งพี่ชายเธอทะเลาะกับแฟน(ลูกสาวเจ้าของธุรกิจค้าน้ำมันในสิงคโปร์)
    >เขาเมาไม่ได้สติกลับมาที่ห้องและพยายามปลุกปล้ำน้องสาวตัวเอง
    >และเขาก็ได้น้องสาวตัวเองเป็นเมียโดยไม่รู้สึกตัว หลิวเอาแต่ร้องไห้
    >แล้วก็มองหน้าพี่ชายไม่ติด แล้ววันหนึ่งหลิวไม่สบายไปหาหมอ หมอบอกว่า
    >หลิวกำลังจะมีลูก หลิวตกใจมาก เลยโทรหานนท์
    >นนท์ก็เข้าใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขา เลยขอหลิวแต่งงานทันที
    >
    >แต่หลิวปฏิเสธและบอกว่าจะเลิกติดต่อกับนนท์สักพักรอคลอดก่อนแล้วนนท์ค่อยมาเยี่ยมลูก
    >พอถึงวันคลอด หลิวคลอดลูกออกมาเป็นผู้ห­ิง หน้าตาน่ารักมาก
    >พอหลิวฟื้นก็ถามหาลูก หมอบอกว่าลูกเธอปลอดภัย แต่เด็กไม่ร้องตอนคลอด
    >และบอกว่าไม่แน่ใจเหมือนกันแต่หมอจะตรวจสอบอีกทีว่าทำไม
    >และจะช่วยหาทางแก้ไขให้ หลิวตั้งชื่อลูกว่า น้องไซน์ (sign)
    >เพื่อบอกว่าลูกเป็นสั­ลักษณ์แทนความรักของพ่อกับแม่
    >...นนท์บินมาสิงคโปร์เพื่อมาดูลูกและเมีย หมอจึงขอคุยกับนนท์ และบอกว่าลูก
    >ของนนท์เป็นเด็กดาวน์ สาเหตุเนื่องมาจาก ได้รับยีนส์ที่มีลักษณะ
    >ของพ่อกับแม่ที่ใกล้เคียงกันมาก ทำให้ยีนส์ด้อยปรากฏออกมา
    >นนท์บอกว่าเป็นไปไม่ได้ หมอเลยแนะนำให้นนท์ ตรวจ DNA นนท์ตกลง
    >หลังจากนั้นหมอก็เรียกนนท์ไปพบ และคุยกันนานมาก นนท์ออกมา หาหลิวในห้องพัก
    >และบอกหลิวว่า เขาคงต้องไปแล้วฝากหลิวดูแลหลานเขาให้ดีด้วย ยินดีกับพี่ไผ่ และ
    >หลิว ขอให้ทั้งสองเลี้ยงลูก ให้ดีด้วย (พ่อของเด็กคือพี่ชายของหลิวเอง )
    >หลิวได้แต่เสียใจ แต่ก็รักลูกมาก ต้องแบ่งเวลาทำงาน เลี้ยงลูกคนเดียว
    >ในขณะที่พี่ชายได้แต่งงานกับแฟนลูกเจ้าของธุรกิจน้ำมัน
    >และแม่กับพ่อก็มางานแต่งพี่ชาย พร้อมกับถามหลิวว่า น้อง ไซน์ เป็นใคร หลิวต้อง
    >โกหก แม่กับพ่อ ว่าเป็นลูกของเพื่อน สงสารเลยขอมาเลี้ยง(น่าสงสารมาก
    >อ่านมาถึงตรงนี้น้ำตาคลออ่ะ) หลิวเลี้ยงลูกมา 3 ปี ลูกเธอเพิ่งจะเริ่มหัดเดิน
    >เวลาพาลูกไปไหนคนมักจะมองเธอแปลก ๆ ว่าทำไมผู้ห­ิงหน้าตาดี การงานดี แต่งตัวดี
    >ถึงมีลูกปั­­าอ่อน เธอบอกว่าคงเป็นเวรกรรมของตัวเอง .....
    >หลังจากนั้นหลิวก็พาลูกมาเที่ยวเมืองไทยช่วงวันหยุด
    >เธอดีใจมากที่ได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งแต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่งในขณะที่
    >เธอพาลูกไปช้อปปิ้งซื้อของในห้างอยู่นั้น เธอเกิดหน้ามืด เป็นลมหมดสติไป
    >ฟื้นอีกทีนอนอยู่โรงบาล หมอให้แอดมิท รอดูอาการก่อน เธอกับลูกเลยต้องนอนโรงบาล
    >แทนโรงแรมหรู ๆ และหมอก็มาบอกเธอว่า เธอเป็นมะเร็งปากมดลูก ระยะที่ 3
    >(ไม่อาจจะ รักษาได้อีกแล้ว) เธอตกใจมาก ร้องไห้...................
    >
    >หลิวบอกว่า ทุกวันนี้เธออ่านหนังสือธรรมะ เพื่อลดความฟุ้งซ่าน
    >แต่เธอห่วงก็แต่ลูกสาวของเธอ ถ้าเธอตายไปแล้วใครจะดูแลให้ เพราะทุกวันนี้
    >ไม่ว่าเธอไปไหนก็จะมีลูกไปด้วยไม่เคยห่างกาย
    >แล้วถ้าเธอไม่อยู่ใครจะทำหน้าที่แทนเธอ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าดาวมหาลัย
    >ตอนนี้จะกลายเป็นผู้ห­ิงที่ผอมเหลือแต่กระดูก
    >และกำลังจะตายเพราะมะเร็งปากมดลูก และเรื่องก็จบแค่นี้
    >
    >
    >*******หลังปกหนังสือเขียนว่า
    >ตอนที่เราอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่เธออาจจะตายไปแล้วก็ได้
    >แต่นี่เป็นเรื่องจริง อ่านแล้วคิดอย่างไรกันบ้างอ่ะ แสดงความคิดเห็นมาหน่อย
    >แต่เราสงสารมากเลยอ่ะ
    >ไม่คิดเลยนะว่าผู้ห­ิงคนหนึ่งทำไมต้องเผชิ­เรื่องเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้
    >แล้วจะโทษใครว่าผิดดี
    >แต่หลิวเขาบอกว่าไม่โกรธหรอกถ้าใครจะด่าว่าเธอว่าเลวทรามต่ำช้าอย่างไร
    >แต่เธออยากให้คนที่อ่าน รับรู้และเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าทำไม
    >อะไรเป็นต้นตอให้เธอเป็นเช่นนี้
    >
    >
    >
     
  2. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ความจริง ต้องโทษตัวเอง ไม่ใช่ ตอนจบมาบอกว่า
    เพราะ คนนั้น คนนี้ ทำให้ฉันเป็นแบบนี้
    เราก็เรียน ม. ไฮโซ อยู่ บ้านเช่า อิสระด้วย
    ไม่เห็น จะหมกหมุ่นเรื่อง เซ็กส์ ขนาดน้านเลย
    บางคน อยู่ที่บ้านกับพ่อ แม่ แท้- พ่อแม่คุม หวงจะตาย
    แต่ก็ ร่านซะ ไม่มี เราว่า ( ตอนเรียนแอบทำแท้ง ไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้)
    สงสารนะ แต่ เราเจอแบบนี้ เห็นมาแล้ว แบบว่า ปลงหว่ะ
     
  3. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,175
    เพื่อนที่อยู่ หอเดียวกับเรา ส่วนใหญ่จะเด็ก ตจว ที่มาเรียน ปทุม
    พอว่าง ก็จะออกไปทำงานพิเศษ หาเงิน แล้วก็ ไม่เคยมั่วผู้ชายจนเรียนจบ ( มันอยู่ที่ความรักดี ของแต่หล่ะคนมากกว่า)

    บางคนอยู่บ้านกับ พ่อแม่ แท้ๆ ทำแท้ง ไม่รู้กี่รอบ
    อายุ ไม่ถึง 25 ก็ เป็น มะเร็งปากมดลูก สาเหตุเพราะทำแท้งบ่อย ไม่ใช่เพราะ
    เป็น ฮิสทีเรีย พวกนี้มดลูก มันไม่ดี บางทีก็ ติดเชื้อ มีลูกก็ ปัญญาอ่อนได้
     
  4. phs7749

    phs7749 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +10
    อืม....

    อืม... ขออภัยนิดนึงนะคะ พอดีเท่าที่รู้มาเกี่ยวกับฮิสทีเรียมีข้อเท็จจริงบางประการที่อาจจะแตกต่างไปจากเนื้อหาในหนังสือพอสมควร อย่างไรก็ดี อยากจะปรับความเข้าใจเกี่ยวกับฮิสทีเรียสักนิดน่ะค่ะ ตามข้างล่าง

    ********************************************

    ฮิสทีเรีย
    อมรากุล อินโอชานนท์
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    เราคงเคยคุ้นหูกับคำว่า ฮิสทีเรียมาบ้างนะคะ แต่ยังมีหลายคนที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่มาก โดยเข้าใจกันว่า คนที่เป็นฮิสทีเรียคือ คนที่มีความต้องการทางเพศสูง
    แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยค่ะ เรามาเข้าใจคนพวกนี้ให้ถูกต้องดีกว่า
    พูดง่าย ๆ เลยนะคะ คำว่า ฮิสทีเรียมีอยู่สองแบบค่ะ แบบหนึ่งเป็น โรคประสาทฮิสทีเรีย อีกแบบหนึ่ง คือ บุคลิกภาพแบบฮิสทีเรีย ซึ่งอาจพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
    จะพูดถึงคนที่มีบุคลิกภาพแบบฮิสทีเรียก่อนนะคะ คนพวกนี้จะเป็นคนที่มีลีลา ท่าทางและมีการแสดงออกมากจนเหมือนเล่นละคร อาจมีทีท่าชายหูชายตา เชิญชวนรวยจริตและยั่วยวน เป็นลักษณะที่แสดงออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจ เหมือนจะเชิญชวนทอดสะพาน ให้เพศตรงข้าม ทำให้มักเข้าใจผิดว่า มีความปรารถนาทางเพศสูง ทั้ง ๆ ที่อาจมีความบกพร่องในด้าน ความรู้สึกทางเพศด้วยซ้ำ คนที่มีบุคลิกภาพแบบนี้จะมีความเป็นเด็กสูง ชอบเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อย ๆ จึงมีการแสดงออกทางอารมณ์ค่อนข้างมาก
    ที่จริงคนเหล่านี้เป็นคนที่น่าเห็นอกเห็นใจค่ะ ที่เขาเป็นแบบนี้เพราะขาดความรักในช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงที่เขาต้องการอย่างมากจึงทำให้โหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีความรักก็จะไม่รู้จักพอเหมือนกับถมเท่าไรก็ไม่เต็มสักที แต่เป็นความต้องการในเรื่องความรักนะคะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของความใคร่อย่างที่ใคร ๆ คิดกัน
    ดังนั้น ถ้าเจอใครสักคนที่มีท่าทางรวยจริต เสมือนจะเชิญชวนก็อย่าไปเอาเปรียบเขานะคะ ให้ความเมตตาและเห็นอกเห็นใจเขาดีกว่า และปฏิบัติกับเขาเหมือนกับที่ทำกับคนอื่นๆ

    ทั่ว ๆ ไปค่ะ
    ส่วนโรคประสาทฮิสทีเรียมีอยู่สองแบบ
    แบบแรก เรียกว่า คอนเวอร์ชัน รีแอคชั่น (conversion reaction) คนที่เป็นเวลามีความเครียด กังวลใจ หรือเกิดความขัดแย้งในจิตใจมาก ๆ จะเกิดอาการผิดปกติที่ระบบการเคลื่อนไหวหรือการรับรู้ เช่น เป็นอัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนกำลัง ชาที่แขนและขา พูดไม่มีเสียง พูดไม่ได้ ตามองไม่เห็น กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ซึ่งเป็นอาการที่ตรวจไม่พบความผิดปกติทางร่างกาย หรือทางระบบประสาทแต่อย่างใด
    แบบที่สอง เรียกว่า ดีสโซซิเอทีฟ (dissociative type) เช่น สูญเสียความจำในบางเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจจนไม่ต้องการรับรู้ จำชื่อตัวเองไม่ได้ จำเวลา สถานที่ บุคคลไม่ได้ โดยไม่ได้เกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง หรือมีบุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม
    <o:p></o:p>
    ยกตัวอย่าง จากคนสุภาพเรียบร้อยก็กลายเป็นคนชอบ เฟลี้ด หรือดุดันเหี้ยมเกรียม พวกที่มีอาการผีเข้า ทรงเจ้าเข้าทรง ก็จัดเป็นโรคประสาทฮิสทีเรียประเภทนี้เช่นกัน แต่พวกที่แกล้งทำ ไม่ว่าจะแกล้งทำเพื่อจุดมุ่งหมายใดก็ตาม ไม่เกี่ยวกับโรคประสาทฮิสทีเรียนะคะ
    ก็ทราบเกี่ยวกับเรื่องฮิสทีเรียกันพอสมควร ต่อจากนี้ไปเราคงไม่เข้าใจผิด และไม่เหมารวมว่าคนที่เป็นฮิสทีเรีย คือ คนที่มีความต้องการทางเพศสูง หรือหาว่าเป็นคนที่มักมากในกามอีกแล้วนะคะ และก็อย่าลืมให้ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจพวกเขาด้วยค่ะ

    อมรากุล อินโอชานนท์
    กรมสุขภาพจิต
    <o:p></o:p>

    ที่มา : http://www.elib-online.com/doctors/mental-histeria.html
    presented by : เฉลิมศรี บุญอาจ
     
  5. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ชอบคุณคนนี้ที่สุดในโลก:cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
     
  6. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ใช่ๆๆจริงๆด้วย เคยได้ยินบ่อยมากๆ
     
  7. aonwit01

    aonwit01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +1,025
    ง่า เศร้าจัง แต่ชีวิตคงสนุกมากเลยนะ ผู้ชายทั้งน้าน
     
  8. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ผู้หญิงที่ทำแท้ง - ผู้ชายก็จะได้ บาปกรรม ด้วย คนหล่ะครึ่ง
    ผู้หญิง 50 %- ผู้ชาย 50 % (คนที่มีส่วนร่วมให้คำแนะนำที่ไม่ดี หมอทำแท้ง คนพาไปทำแท้ง คนให้เงินยืมไปทำแท้ง คนที่สนับสนุนการทำแท้ง - รับไป 30 %- 50%)

    เรารู้จักคนที่เอา ลูกออก เพราะ ไม่รู้ว่าท้องแล้วทานยาคุมเข้าไปเยอะ
    เลยตัดสินใจ ไปให้หมอทำแท้ง เพราะกลัวเด็กจะเกิดมาไม่สมประกอบ
    - วิญญาณเด็กอาฆาตมาก ทำเอาชีวิตมีแต่ความวิบัติไปเลย
    เลิกกับสามี มีแต่เรื่องเสียเงินเสียทอง ชีวิตมีแต่อุปสรรค
    แต่พอทำบุญให้ เด็กถึงจะยอมปล่อยเลิกอาฆาตนะคะ
    จะบอกว่า เขาเป็นซีลส์(มะเร็ง ที่ไม่อันตราย)
    ที่รังไข่ ข้างขวา ลูกใหญ่ก้อนเท่ามะนาวเลย หมอเลยตัด รังไข่ ข้างที่เสียไป (เหลือ 1 ข้าง ก็ยัง สามารถมีลูกได้)

    คนที่เรารู้จักที่เป็นมะเร็งปากมดลูก

    1. อายุเยอะแล้ว + กรรม ที่เป็นพยาบาล ต้องช่วยหมอทำแท้ง อยู่บ่อยๆ - ทำงานอยู่รพ.ใหญ่มาก ใน กทม ของรัฐบาล อยู่ แผนกทำคลอด
    มีคนมาทำแท้งที่ รพ. เยอะมาก เพราะเป็น รพ.ใหญ่ มีทั้งแม่พอมาทำเพราะ
    ยังเรียนอยู่ กับ ทารก มีปัญหาเลยต้องเอาออก (เดือนหล่ะ 10 -30 ราย)
    แล้ว จะบอกว่า พยาบาล แผนกนี้ เป็นมะเร็งที่มดลูกกันหลายคน
    เพราะแม่เราก็เป็น มะเร็งมดลูก ตรวจเจอแต่แรก เลยรักษาจนหาย แต่ต้องตัดมดลูกทิ้ง ตอนอายุ 50 กว่า เห็นแม่บอกว่า ที่แผนกสูติ มีพยาบาล กับ หมอ เป็นมะเร็งมดลูกกันเยอะมาก ไม่รู้เพราะอะไร แม่สงสัย เลยมาตรวจเรื่อยๆ พอเจอเลยต้องผ่าไปเลย
    คนที่ทำแท้ง หน่ะหมอ แม่เราแค่พยาบาล (ยังต้องมาเป็น มะเร็งเอาตอนแก่เลย จะบอกว่า หมอ ที่ รพ ขี้โรคกันเยอะนะคะ จะบอกว่าหมอแผนกสูติ น่าสงสารที่สุด ) คนมาทำแท้ง อาจจะเยอะ กว่า รพ.เถือนด้วยมั๊ง เพราะ มันปลอดภัย ดีนะแม่เราทำงานครบ 25 ปี ลาออกเลย เพราะ อายุงานครบแล้ว
    กินบำนาญ สบายไปเลย ตอนลาออกมา ก็ได้เงินสมทบ เป็นเงิน 30 เดือนย้อนหลังก่อนลาออก ได้ มา 4 แสนกว่าบาท ( ถ้าเป็นพวกหมอ ก็ เป็น ล้านนะ)


    2. เพื่อนเราที่ทำแท้ง บ่อย ก็เป็น มะเร็งมดลูกนะ ( ตรวจเจอระยะแรกด้วย)
    หลังจากนั้น มันก็หายไปเลย ไม่ยอมติดต่อใครในกลุ่มเพื่อนเลย
    เพราะ โดนไล่ออกจาก ม.เพราะ เรื่องนินทา ฉาวโฉ่ ต่างๆ แล้วก็ มีปหเสียเงินตลอด ฆ่าตัวตายหลายรอบ
    มีผัวเยอะ แต่ก็ ต้องเปลื่ยนไปเรื่อยๆ ( ชีวิต รันทด แบบ อีหลิวเลย )
    แต่ อีหลิว มันสำส่อนเกินเหตุ (เพื่อนเรามันคบเป็น คนๆ ไมได้ มั่ว) แต่พวกนี้มักดวงซวย ไม่สมหวังในความรัก แถมขี้โรค อีกต่างหาก เราเจอกุมารผีมากวนบ่อยๆ เพราะ ดันไป มีความเห็นว่า เอาออก ก็ดี ถึงเราจะไม่เกื่ยวด้วย
    แต่ วิญญาณเด็ก เขาก็มากวนเราเหมือนกันนะเพราะเหมือนเรา ไม่เห็นใจเขา
    ไม่ยอมช่วยเหลือเขา ไม่ยอมห้ามแม่ของน้องเขาเลยสักนิด - บาปนะ แต่น้อยเราก็ทำบุญให้นะ เพราะ พอสัมผัสได้ ก็สงสารอ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2006
  9. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +1,411
    ความจริงก้อคือความจริงนั้นแหละ ..เด็กด้อยประสบการณ์บวกกับคบเพื่อนไม่ดีเลยไปไกลเลย น่าสงสารก้อสงสารเหมือนกัน จะโทษเวรกรรมดีหรือว่าจะโทษที่ตัวเองดีนะ สุดท้ายจากคนเคยเป็นดาวมหาลัย หน้าตาดี แล้วเหลืออะไร ...
     
  10. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    เพราะถูกตามใจแต่เด็กหรือเปล่า?
     

แชร์หน้านี้

Loading...