เกจิผู้น่ากราบในโคราชครับ........

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย บอยโคราช, 7 เมษายน 2010.

  1. บอยโคราช

    บอยโคราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2009
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +373
    อยากทราบว่าในโคราชมีเกจิท่านใดที่น่ากราบ ณ ตอนนี้

    (เว้นหลวงพ่อคุณไว้รูปนะคร้าบบบ)

    ขอบคุณครับบ
     
  2. lady_crazy

    lady_crazy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +123
    แล้วเราจะทราบได้ไงล่ะคะ ว่าท่านเป็นพระเกจิหรือไม่
    ที่เราคิดนะ กราบไหว้พระสงฆ์ด้วยศรัทธาก็น่าจะได้กุศลเหมือนกันนะคะ

    แต่ขอแนะนำหลวงตาที่ธุดงคสถานแถวสนามกีฬา 80 พรรษา (หลวงตาท่านใจดี)
    และก็วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี (ที่วัดกำลังสร้างหลวงปู่ทวด ขนาดหน้าตักประมาณ 12 เมตร ร่วมทำบุญได้นะคะ)
     
  3. พงศ์830

    พงศ์830 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,172
    ค่าพลัง:
    +1,196
    <TABLE class=norbig borderColor=#93d3ff height="100%" cellSpacing=2 cellPadding=7 width="100%" bgColor=#93d3ff border=0><TBODY><TR vAlign=center align=middle bgColor=#93d3ff><TD class=big colSpan=2 height=10><TABLE width=400 border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#c78b2b>
    ประวัติครูบากฤษณะ อิณทวัณโณ สำนักสงฆ์เวฬุวัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#93d3ff><TD width="41%" height=4>
    [​IMG]

    </TD><TD vAlign=top width="59%" rowSpan=2>
    ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 2497 ที่บ้านโตนด
    อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยเป็นบุตรคนที่ 9 ของครอบครัว
    เดิมชื่อ สรุเดช ตับกลาง บิดา-มารดาของท่านเป็นแพทย์แผนโบราณ
    เป็นหมอยากลางบ้าน สืบต่อกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ ดังนั้นท่านจึงได้เรียนรู้วิชา
    หมอยา การแพทย์แผนโบราณ พืชสมุนไพร คาถาอาคม มาแต่เยาว์วัย
    ครั้งเติบโตเป็นหนุ่ม ท่านได้ถือบวชเป็นโยคีผ้าขาว ออกเดินทางไปยังภูเขาควาย
    ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมสรรพวิชาต่าง ๆ ทางไสยเวทย์
    และคาถาอาคม ณ ภูเขาควายนี้เอง ท่านได้ศึกษา ไสยเวทย์ คาถาอาคม กับทางปู่ฤาษี
    โดยที่ท่าน ถือบวชเป็นโยคีพราหมณ์ หลังจากอยู่รับใช้ครูบาอาจารย ์ และ ศึกษาวิชาคาถาอาคม
    ได้รับความรู้พอประมาณแล้วท่านจึงได้เดินทางกลับ ประเทศไทย และ ใช้ชีวิตในเพศฆราวาส
    ได้ระยะเวลาหนึ่งท่านเกิด ความเบื่อหน่ายทางโลก จึงดำริที่จะละจากเพศฆราวาส
    เข้าอุปสมบทในพระพุทธศาสนา จึงนำความเข้าปรึกษาคุณสุรพันธ์ และคุณมาลี งามจิตรสุขศรี
    เจ้าของบริษัท รุ่งสินก่อสร้าง จำกัด ซึ่งก็ได้ รับการสนับสนุนจากท่านทั้งสองเป็นอย่างดี
    ครูบากฤษณะ อุปสมบทเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2522 ณ พัทธสีมา วัดโคกอู่ทอง
    ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุร ี โดยมีพระครูธรรมรงโพธิเขต เจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง
    เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฝั้น ชุตินทโรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์
    กลมวิมโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "อินทวัณโณ"
    ภายหลังที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ด้วยอุปนิสัยที่รักการศึกษาหาความรู้
    ท่านได้สนใจศึกษาพระปริยัตธรรม ทั้งจากพระไตรปิฏก และจากครูบาอาจารย์ ผู้เป็นปราชญ์ทรงคุณธรรมหลายท่าน
    จนจิตใจมั่นคงด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ท่านจึงได้จาริกธุดงค ์
    ไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อเจริญจิตบำเพ็ญภาวนาโดยถือุดงควัตรอย่างเคร่งครัด
    ยอมมอบกายถวายชีวิตแด่ พระพุทธศาสนาตลอดมา
    ครูบากฤษณะได้จาริกไปตามลำพังในป่าเขาดงดิบ เทือกเขาใหญ่ตลอดแนวภาคอีสานได้ข้ามกลับไปยัง
    ภูเขาควาย สาธารณรัฐประชาธิปไตย
    ประชาชนลาว เพื่อศึกษาเพิ่มเติมวิชาอาคมต่างๆ ต่อจากนั้น จึงได้ผ่านไปยังประเทศเขมร และ
    กลับเข้าประเทศไทย ทางด้านจังหวัดจันทบุรี
    ต่อมาในปีพ.ศ. 2532 ครูบากฤษณะได้ธุดงค์มาบำเพ็ญสมณธรรมบริเวณเทือกเขาจอมทอง
    เหนือเขื่อนมูลบน อ.ครบุรี ชาวบ้านเมื่อทราบข่าวว่า มีพระภิกษุมาเจริญสมณธรรมในป่าเขา เกิดความศรัทธาพากันขึ้นไปทำบุญ
    และรับการอบรมสั่งสอนจาก ท่านเป็นประจำ จนในที่สุดชาวบ้านคลองยางจึงพร้อมใจกันนิมนต์
    ท่านครูบากฤษณะ
    เป็นประธานในการก่อสร้างสำนักสงฆ์ ป่ามหาวัน ขึ้นเพื่อเป็นดินแดนแห่งร่มเงาของพระพุทธศาสนาเพื่อชาวบ้านเหนือเขื่อนมูลบน
    จะได้มีสถานที่ประกอบศาสนกิจทางพุทธศาสนา สืบต่อไป
    สำนักสงฆ์ป่ามหาวันได้รับการประกาศยกขึ้นเป็นวัดป่ามหาวันอย่างสมบูรณ์ตามกฏระเบียบ
    ของคณะสงฆ์ไทยเมื่อปี
    พ.ศ. 2536
    </TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#93d3ff><TD height=4>[​IMG]</TD></TR><TR vAlign=center align=middle bgColor=#93d3ff><TD class=big colSpan=2 height=10>
    สำนักสงฆ์เวฬุวัน หมู่ที่1 บ้านคลองกระทิง ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    ในปีพ.ศ. 2539 ครูบากฤษณะได้รับถวาย ที่ดินบริเวณ บ้านคลองกระทิง ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จากผู้ศรัทธา
    เป็นจำนวนประมาณ 5 ไร่ เป็นที่รกร้างว่างเปล่า ที่ห่างจากหมู่บ้านลึกเข้าไป และปกคลุมด้วยป่าไผ่ ท่านได้พิจารณาแล้วเป็นว่า พื้นที่แห่งนี้
    เหมาะแก่การปฏิติธรรมเจริญภาวนาเป็นอย่างยิ่ง
    ดังนั้นในปี พ.ศ. 2545 ครูบากฤษณะจึงได้เริ่มเข้ามาพัฒนาพื้นที่ และก่อสร้างสำนักสงฆ์เวฬุวันขึ้น พร้อมทั้งซื้อที่ดินเพิ่มเติม จนปัจจุบัน
    สำนักสงฆ์เวฬุวันมีพื้นที่ประมาณ 46 ไร่ และเป็นศูนย์ปฏิธรรม กรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. พงศ์830

    พงศ์830 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,172
    ค่าพลัง:
    +1,196
    <TABLE class=nor height="100%" cellSpacing=2 cellPadding=7 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=center align=middle><TD width="100%" bgColor=#ffcc99 height=77><TABLE width=750><TBODY><TR><TD width=250 bgColor=#076010>[​IMG]

    </TD><TD width=494 bgColor=#ffcc99 colSpan=2>
    <TABLE width=215><TBODY><TR bgColor=#107321><TD colSpan=2>
    ประวัติครูบาแบ่ง ฐามุตตโม
    </TD></TR><TR><TD colSpan=2>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width=128>
    [​IMG][​IMG]
    </TD><TD vAlign=top width=119>[​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD><TD width=233><TABLE width=215><TBODY><TR><TD width=102>
    [​IMG]
    </TD><TD width=374>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR vAlign=center align=middle><TD height=94>
    ครูบาแบ่ง ฐามุตตโม เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2496 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเส็ง ที่หมู่บ้านโตนด ตำบลโตนด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา จึงถือได้ว่าเป็นชาวโคราชโดยกำเนิด ชื่อเดิมของท่าน นายเสมา จุ่มกลาง เป็นบุตรของนายมาก จุ่มกลาง กับนางอ่อง จุ่มกลาง มีพี่น้องชายหญิงรวมกัน 7 คน โดยท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ด้วยความที่ครอบครัวของท่านเป็นแพทย์แผนโบราณและเป็นหมออาคมไสยเวทย์ ที่ถ่ายทอดวิชาสืบต่อกันมาแต่ครั้งปู่ย่าตายาย ทำการรักษาผู้คนในหมู่บ้านและละแวกใกล้เคียงที่เจ็บป่วย ครั้นเมื่อท่านอายุได้ 12 ปีก็เรียนจบระดับประถมต้นจากโรงเรียนวัดบ้านโตนด จากนั้นท่านก็ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น แต่ท่านได้เริ่มศึกษาสรรพวิชาแพทย์แผนโบราณ การรักษาโรคภัยด้วยยาหม้อและสมุนไพร ท่านมีโอกาสได้ศึกษาอ่านเขียนอักขระขอมตามหลักคัมภีร์โบราณ และได้รับการถ่ายทอดเวทย์มนต์คาถามหาบทต่างๆจากนายมากผู้เป็นบิดา จากการที่ท่านตั้งใจรับการถ่ายทอดวิชาความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณเป็นอย่างดี เมื่อท่านอายุได้ 14 ปีก็สามารถรักษาชาวบ้านให้หายจากอาการเจ็บป่วยได้ บิดาจึงไว้วางใจให้ช่วยรักษาชาวบ้านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหมอน้อย ที่ได้รับการนับถือจากชาวบ้านโตนดตั้งแต่เยาว์วัย เมื่ออายุย่างเข้าวัยหนุ่มชีวิตในวัยนี้ของท่านได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เมื่อในหมู่บ้านโตนดของท่านมีชีปะขาวผู้หนึ่ง ซึ่งมีร่างกายสูงใหญ่ผิดจากคนธรรมดา เดินธุดงค์จาริกแสวงบุญมาปักกลดอยู่ที่ชายป่าท้ายหมู่บ้าน สอบถามได้ความว่าท่านเดินทางข้ามแม่น้ำโขงมาจากฝั่งประเทศลาว มีอาศรมถิ่นที่พำนักอยู่ภูเขาควาย ดินแดนที่มีความลี้ลับอาถรรพ์ เป็นป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยถ้ำและหุบเขาสูงชันที่ทอดตัวอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ที่ภูเขาควายแห่งนี้คือสถานที่ที่พระเกจิอาจารย์ของไทยหลายรูปได้ธุดงค์ไปถึงมาแล้ว และที่ภูเขาควายแห่งนี้ก็เป็นตักศิลาวิชาอาคมไสยเวทย์ของชีปะขาวผู้นี้ ท่านมีชื่อว่า”ครูบาสีหราช” ผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมสาย พลต้อง เณรคำ และท่านหมอเทพจากสาย”สำเร็จลุน” ซึ่งเป็นพระเกจิระดับปรมาจารย์ของประเทศลาว เมื่อท่านทราบดังนี้จึงเกิดความเลื่อมใส ท่านจึงได้ฝากตัวขอเป็นศิษย์ ออกติดตามรับใช้ครูบาสีหราชในระหว่างที่เดินธุดงค์ในไทย ทั้งๆที่ท่านยังเป็นเพศฆราวาส จากนั้นก็เดินทางข้ามฝั่งไทยไปจนถึงอาศรมที่พำนักภูเขาควาย ท่านได้คอยรับใช้และได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากครูบาสีหราชจนสำเร็จในระดับหนึ่ง ท่านจึงกราบลาครูบาเพื่อเดินทางกลับมายังบ้านโตนดอีกครั้ง พอถึง พ.ศ.2521 มีอายุได้ 25 ปี ถึงเกณฑ์บวชเรียนศึกษาพระธรรม ท่านได้กราบลาอุปสมบทที่วัดบ้านโตนด โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ “พระครูวัชรญาณวิสุทธิ์” เจ้าอาวาสวัดด่านทองหลาง เจ้าคณะอำเภอโนนสูงในขณะนั้น ท่านได้รับฉายาทางธรรมว่า “ฐามุตตโม” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้มีฐานะอันอุดม” เมื่อบวชได้ 4 เดือน หลังจากออกพรรษาในปีนั้น ท่านได้ปลีกวิเวกเริ่มออกเดินธุดงค์โดยทันที ด้วยความมีมานะเป็นมุ่งมั่นและมีจิตใจที่แน่แน่ว ประกอบกับเป็นผู้มีวิชาอาคมติดตัว หลังจากที่ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆเป็นเวลา 1 ปี ท่านมีโอกาสได้พบกับครูบาสีหราชที่อาศรมภูเขาควายอีกครั้งหนึ่ง จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจนสำเร็จถึงขั้นสูงสุด จากนั้นท่านได้เดินธุดงค์ข้ามฝั่งลาวกลับมายังวัดโตนดอีกครั้งหนึ่ง แต่พอถึง พ.ศ.2523 ครูบาสีหราชได้ละสังขาร ท่านจึงเดินทางกลับไปยังภูเขาควายและอยู่จัดการศพจนเรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ท่านเสียใจมากจนต้องลาสิกขาบทกลับมาเป็นฆราวาส จากนั้นท่านได้เดินทางไปที่ต่างๆเพื่อค้นหาสัจจะธรรมบางสิ่งให้กับตัวเอง จนกระทั่ง พ.ศ.2536 ท่านได้รับข่าวบิดาล้มป่วยด้วยอาการอัมพฤกษ์ ท่านได้ทำการรักษาโดยใช้วิชาความรู้ที่มีแต่ก็ไม่สามารถรักษาบิดาให้หายได้ ท่านจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอบวชแก้บนให้บิดาโดยตั้งใจจะบวชเป็นเวลา 15 วัน แต่ในระหว่างที่บวชแก้บนอยู่นี้ ท่านได้เห็นความเจ็บป่วยของบิดา เห็นการเจ็บป่วยล้มตายของชาวบ้าน และเห็นความทุกข์ยากลำบากของชาวบ้าน ทำให้ท่านได้มีโอกาสได้เข้าใจถึงหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงเกิดคิดเปลี่ยนใจขออยู่ในร่มกาสาวพักตร์ต่อไป เพื่อคอยช่วยเหลือญาติพี่น้องและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ให้ได้นำหลักธรรมะมาใช้ในการนำพาชีวิตให้กลับมาดีขึ้นได้ ท่านได้รับการเรียกขานชาวบ้านและลูกศิษย์ว่า “ครูบาแบ่ง” ด้วยเพราะความใจดี เมื่อชาวบ้านขออะไรท่านก็ให้โดยไม่หวงหรือยึดติด จากนั้นท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ตามป่าเขาในประเทศไทยเรื่อยมา และได้มีโอกาสจำพรรษาร่วมกับครูบากฤษณะซึ่งเป็นศิษย์ของครูบาสีหราชอีกผู้หนึ่ง จนกระทั่งประมาณปี พ.ศ.2544 ท่านจึงได้ยุติการออกเดินธุดงค์และจำพรรษาอยู่ที่วัดโตนดตั้งแต่นั้นมา เนื่องจากปัญหาสุขภาพร่างกายและอายุที่มากขึ้น และในปี พ.ศ.2550 ท่านได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระครูสังฆารักษ์”
    การที่ชาวบ้านเรียกขานพระเสมาว่า”ครูบา”นั้น เป็นเพราะท่านได้ศึกษาธรรมะและวิชาอาคมอยู่ที่ประเทศลาวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งชาวลาวและชาวไทยล้านนาจะใช้ภาษาถิ่นเรียกพระภิกษุที่มีความรู้ และสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นให้กับผู้รับการศึกษาจนเข้าใจและสามารถนำไปถ่ายทอดต่อไปได้อีก ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์ของอาจารย์อีกผู้หนึ่ง
    สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านครูบาแบ่งได้เริ่มสร้างเป็นครั้งแรกนั้น เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2537 โดยสร้างวัตถุมงคลชุดแรกขึ้นมาเป็นจำนวน 3 พิมพ์ด้วยกัน คือ
    1.พระพิมพ์สมเด็จสามชั้นเนื้อว่านแก้ยาสั่ง เนื้อขาวผงพุทธคุณ และเนื้อดำผงใบลานเผา
    2.พิมพ์เทพสาลิกาเดี่ยว (หรือที่ลูกศิษย์นิยมเรียกกันว่า”ม้าน้ำ”) สร้างไว้ 3 สี ได้แก่ สีขาวเนื้อผงพุทธคุณ ผงสมเด็จ สีน้ำตาลเนื้อว่านเสน่ห์ ว่านมงคล และเนื้อสีแดงว่านสบู่เลือด โดยสร้างครั้งเดียวและวันเดียวกัน รวมแล้วประมาณ 140 องค์
    3.พิมพ์ขุนแผนเนื้อสุริยะคลาส สร้างประมาณ 300 องค์
    วัตถุมงคลชุดแรกที่ครูบาแบ่งสร้าง ปัจจุบันหาได้ยากมาก เพราะหมดไปจากวัดนานแล้ว สำหรับการสร้างวัตถุมงคลในแต่ละรุ่นนั้น ครูบาแบ่งจะเป็นผู้กดพิมพ์ ผสมส่วนประกอบมวลสารด้วยตัวของท่านเอง ในการสร้างแต่ละครั้งก็มีจำนวนน้อยตามสูตรผสมมวลสารและฤกษ์ยามโบราณที่ได้ศึกษามา โดยท่านจะพิจารณามอบให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหรือผู้ที่ศรัทธาเป็นรายๆไป
    [​IMG]
    ครูบาแบ่ง ฐามุตตโม
    เรียบเรียงโดย
    นายวันเรืองเดช เนาว์ประเสริฐ (เสี่ยหนึ่ง)
    [​IMG] [​IMG][​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. Dragon_king

    Dragon_king เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2009
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +1,392
    [​IMG]

    องค์นี้ เลย ครับ พระชินวงศาจารย์ ที่ปักธงชัย

    วาระจิตท่านสูงมาก ประวัติดี เป็นพระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่นอีกองค์ครับ ท่านมีแต่ธรรม และ ธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2011
  6. suchato

    suchato เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,155
    เกจิมีเยอะครับในโคราช แต่ถ้าเป็นพระอริยสงฆ์ 4 คู่ 8 บุรุษ ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าละก้อนับองค์ได้ครับขอแนะนำให้ไปกราบและฟังธรรม หรือจะสร้างกุศลเพื่อให้ได้เนื้อนาบุญสำหรับตนเองก็ได้
    1. หลวงปู่สมบุญ ปริปุณณสีโล วัดปอแดง หมู่ที่ 4 บ้านปอแดง ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
    2.หลวงพ่อโสภา อุตตโม วัดเขาวันชัย(สาขาที่ 82 วัดหนองป่าพง) ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    3.หลวงพ่อสมบูรณ์ จิตฺตปญฺโญ อายุ 59 ปี พรรษา 38 วัดพระธาตุศรีสุมังคล์นววนาราม(ธุดงค์สถานโนนศรีสุข) หมู่ที่ 4 บ้านโนนหลักกี่ ต.ธารละหลอด อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
     
  7. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,949
    หลวงปู่นิยม วัดแจ้งนอก อำเภอเมือง
    หลวงปู่สมบุญ วัดปอแดง อำเภอปักธงชัย
    หลวงปู่เที่ยง วัดวังผาแดง อำเภอด่านขุนทด
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,211
    ค่าพลัง:
    +21,388
    หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย

    หลวงพ่อจอน วัดบุญฤทธิ์

    พระอาจารย์อุทัย วัดป่าเขาใหญ่เจริญธรรม

    พระอาจารย์ทอง ศิษย์หลวงพ่อคูณ

    ยังมีอีกเยอะครับสายวัดหนองป่าพง สายวัดป่าสาละวัน

    โคราชนี้เยอะจริงๆครับท่านที่เปิดเผยรู้จักในคนหมู่มากและเฉพาะศิษย์
     
  9. kawpunt

    kawpunt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +3,087
    ถาม
    หน่อยนะครับมีพี่คนนึงเล่าให้ฟังว่ามีพระที่โคราชองค์นึงเสกปลัดวิ่งวนในบาตร พอมีใครรู้มั้ยว่าวัดไหนครับ คนที่เล่าเค้าลืมวัดครับ
     
  10. ura

    ura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    4,438
    ค่าพลัง:
    +4,818
    หลวงปู่ช้าง สำนักสงฆ์วัดหนองยายเม้าเก่งด้านหุ่นพยนต์ และเป็นพระที่มีเมตตาจิตดีมากด้วย
     
  11. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,979
    ครูบากฤษระ ครูบาแบ่ง วัดท่านใกล้กัน ถ้าจะไปกราบ ก็ไปครั้งเดียวเลยครับ

    หลวงพ่อสมชาย วัดด่านเกวียน น่ากราบมากครับ :cool:
     
  12. Hercules

    Hercules เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +2,125
    หลวงพ่อสมบุญ ปอแดง อำเภอปักธงชัย นครราชสีมา
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติ และเรียนรู้แก่นพระศาสนาโดยแท้
    ไม่เน้นวัตถุนิยม เน้นเชื่อตนเองกับการเรียนรู้ภายในของ
    ตนเอง
     
  13. teerjarun

    teerjarun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +272
    ส่วนตัวก้อมีหลวงปู่ใหญ่ วัดสุทธจินดา อ.เมือง โคราช เปนพระเกจิอีกรูปที่น่ากราบครับ:cool:
     
  14. Jintamuttha

    Jintamuttha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    986
    ค่าพลัง:
    +1,956
    แนะนำพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ(เพิ่มเติมจากท่านอื่นๆ) หลวงพ่อทองใส จันทโสภโณ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม(วัดพระขาว) อ.ปากช่องครับ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เมตตาหลวง สายหลวงปู่มั่นครับ ^^
     
  15. pattcmt

    pattcmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +202
    หลวงพ่อคูณถ้าท่านยังฝังตะกรุดอยู่ผมว่าน่าไปที่สุดละ นะ
    ผมอยูไกลเป็น 1000 กม.ยังไปมา 2 รอบแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...