เปิดตัว นักบุญนิรนาม แจกทานสานหวังเพื่อนมนุษย์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 26 พฤศจิกายน 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    เปิดตัว 'นักบุญนิรนาม' แจกทานสานหวังเพื่อนมนุษย์

    เป็นเวลา 26 ปีแล้วที่บุรุษซึ่งถูกเรียกขานว่า "ซานตาลึกลับ" ออกตระเวนไปตามถนนสายต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนธันวาคม พร้อมกับหยิบยื่นเงิน 100 ดอลลาร์หรือมูลค่ามากกว่านั้น ใส่มือของคน

    <DD>แปลกหน้าโดยไม่พูดพร่ำอธิบายหรือกระทั่งบอกชื่อเสียงเรียงนามของตน
    <DD>ผู้ที่เคยได้รับทานน้ำใจจากบุรุษผมขาวในเสื้อเชิ้ตผ้าสักหลาดสีแดงผู้นี้ มีทั้งหญิงเร่ร่อนที่เคยได้เงินไป 200 ดอลลาร์ คุณแม่ลูกสองที่ติดแหง็กอยู่ที่สถานีรถโดยสารซึ่งได้เงินมากกว่าเล็กน้อย ชายชราสวมเสื้อขาดรุ่งริ่งที่รับเงินไป 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือกระทั่งหญิงหม้ายที่สูญเสียสามีนักผจญเพลิงไปในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเขามอบเงินช่วยเหลือไปถึง 5,000 เหรียญฯ
    <DD>ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นการต่อยอดจากของขวัญชิ้นเล็กที่สุดชิ้นแรกที่เขาเคยมอบให้คนแปลกหน้าเมื่อ 26 ปีก่อน นั่นคือ ธนบัตร 5 ดอลลาร์ โดยของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดนั้นคือเงินจำนวน 10,000 เหรียญฯ ที่เขาจ่ายไปในปี 2542 รวมๆ แล้วนักบุญนิรนามผู้นี้สละทรัพย์ส่วนตัวแก่คนที่ตนไม่รู้จักมักคุ้นไปแล้วประมาณ 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 48 ล้านบาท
    <DD>เรื่องราวของเขากลายเป็นเหตุการณ์ลึกลับในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของชาวอเมริกันที่ถูกเล่าขานมาเนิ่นนาน "ใครคือซานตาลึกลับ?" คนจำนวนมากตั้งคำถาม
    <DD>มาบัดนี้ ซานตาลึกลับตัดสินใจว่าถึงเวลาที่เขาต้องเปิดเผยตัวตนของเขาแล้ว นั่นเป็นเพราะเขาเหลือเวลาในชีวิตอีกไม่มาก เพราะมะเร็งกำลังจ่อคร่าชีวิตที่กำลังอ่อนแรงจากการทำเคมีบำบัดของเขา และเขาปรารถนาให้แรงศรัทธาของตนถูกถ่ายทอดเพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น สุ่มทำดีมีเมตตากับคนที่พานพบ
    <DD>"เราทุกคนควรจะได้ร่วมแบ่งปันพรด้วยกัน สิ่งนี้เป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง" ลาร์รี สทวร์ต บุรุษวัย 58 ซึ่งออกแจกจ่ายเงินตามปณิธานที่เขาตั้งไว้กับตัวเองเมื่อปี 2514 ครั้งที่เขาอดอยากหิวโหยและไร้ที่อยู่ และมีคนแปลกหน้ารายหนึ่งยื่นเงินมาให้ 20 เหรียญฯ เป็นกำลังใจต่อยอดให้เขามีชีวิตถึงทุกวันนี้
    <DD>ปัจจุบัน สทวร์ตเป็นเศรษฐีเงินล้านจากการลงทุนในธุรกิจเคเบิลทีวีและโทรคมนาคม แต่เขาบอกว่าทุกวันนี้เขาไม่เคยลืม "รสชาติของความสิ้นหวัง" สทวร์ตต้องการเห็นการให้ทานของเขาช่วยทั้งผู้คนที่น่าจะต้องการเงิน และช่วยเผยแพร่ความรู้สึกแห่งความหวังและศรัทธาในมนุษยชาติ
    <DD>หลายปีแล้ว ที่เขาออกให้ทานโดยอำพรางตัว ใส่ชุดสีขาว-แดง สวมหมวกแก๊ปสีแดงบนศีรษะผมขาวโพลน ออกกวาดตามองหาสิ่งที่เขาเรียกว่า "เป้าหมาย" ตามเมืองต่างๆ ทั่วอเมริกา เขาเคยไปนิวยอร์กภายหลังวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 ไปยังวอชิงตัน ภายหลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายสุ่มยิงคนตายไปหลายรายเมื่อปี 2545 และไปยังกัล์ฟพอร์ต รัฐมิสซิสซิปปี ภายหลังเฮอริเคนแคทรีนาพัดถล่มเมื่อปีที่แล้ว
    <DD>ตลอดหลายปีมานี้ สทวร์ตมีเพื่อนหลายคนมาช่วยภารกิจของเขาด้วย คนเหล่านี้ช่วยขับรถพาเขาไปตามถนนสายต่างๆ ไปยังสถานีรถประจำทาง ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ และร้านขายสินค้าราคาถูก แล้วก็ช่วยให้เขาสามารถปลีกตัวจากมาได้อย่างรวดเร็ว
    <DD>สทวร์ตกล่าวว่า เขาหวังจะปิดบังตัวตนต่อไปอีก ถ้าไม่เป็นเพราะตรวจพบโรคมะเร็งลามที่หลอดอาหารและตับเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ เขาจึงตัดสินใจเริ่มบอกเล่าเรื่องราวของตนและหวังว่าจะมีคนอื่นๆ มาสานต่องานนี้เมื่อเขาเองต้องเริ่มกลับไปทำเคมีบำบัดรอบที่ 13 ในเดือนมกราคมปีหน้า
    <DD>ตอนนี้สทวร์ตมี "ซานตาฝึกหัด" แล้ว 4 คนที่จะช่วยเขาออกแจกจ่าย "ของขวัญ" 165,000 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยจะตั้งต้นที่ชิคาโกเป็นเมืองแรก
    <DD>เขายังจัดตั้ง "สมาคมซานตาลับ" มีเว็บไซต์ของตัวเองชื่อ www.secretsantausa.com สมาชิกของสมาคมนี้จะต้องปฏิญาณตนว่าจะ "สุ่มทำดีมีเมตตา" อย่างน้อย 1 ครั้ง และเพียง 2 วันภายหลังเขาประกาศเจตจำนงว่าอยากกระตุ้นให้คนอื่นรู้จักการให้ทาน ก็มีผู้คนสมัครเข้าร่วมมากกว่า 2,700 คน
    <DD>ทอม ฟิลลิปส์ นายอำเภอแจ็กสันเคาน์ตี รัฐมิสซูรี เป็นผู้หนึ่งที่เริ่มติดตามสทวร์ตออกปฏิบัติภารกิจซานตาลับเมื่อหลายปีก่อน
    <DD>"ตอนแรกๆ ผมจะรู้สึกแบบ..'อา ใช่แล้ว หมอนี่ต้องบ้าแน่'" ฟิลลิปส์หวนถึงอดีต "แต่พอถึงตอนท้ายของวันนั้น ผมเกือบจะร้องไห้เอา"
    <DD>สทวร์ตโตมาในเมืองบรูซ รัฐมิสซิสซิปปี โดยมีตายายเลี้ยงดูด้วยเงินยังชีพจากสวัสดิการสังคมและเงินการกุศลที่ได้รับบริจาคเดือนละ 33 เหรียญฯ ชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้มากทีเดียวกว่าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาเคยทำงานเป็นเซลส์แมนและต้องวิ่งรอกทำงานตามเมืองต่างๆ
    <DD>ในปี 2514 สทวร์ตตกงานและต้องอาศัยนอนในรถ วันหนึ่งเขาทนหิวไม่ไหวจึงไปสั่งอาหารและนั่งทานมื้อเช้าที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเล็กๆ ของมิสซิสซิปปี ทั้งที่รู้ตัวว่าไม่มีเงินจ่าย เขาแกล้งทำเป็นกระเป๋าสตางค์หาย แต่แล้วสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เจ้าของร้านเดินมาจากเคาน์เตอร์ แต่แทนที่จะตะคอกใส่สทวร์ต เขากลับก้มลงที่พื้น จากนั้นก็โน้มตัวมาหาพร้อมกับยื่นเงิน 20 ดอลลาร์ให้
    <DD>"เขาพูดว่า คุณทำมันตกไว้แน่เลย" สทวร์ตเล่าความหลัง "นั่นเป็นเหมือนใบเบิกทาง ผมสวดมนต์และสัญญากับพระเจ้าว่าจะหาทางชดใช้คืน"
    <DD>ซูซาน ทเวดเทน หญิงหม้ายจากแคนซัสซิตี ได้พบกับสทวร์ตครั้งแรกในวันคริสต์มาสอีฟปี 2542 เพียงไม่กี่วันภายหลัง จอห์น สามีซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยดับเพลิงแคนซัสซิตี เสียชีวิตขณะดับเพลิง ทิ้งให้เธอต้องอยู่กับลูกตามลำพัง สทวร์ตซึ่งมีตำแหน่งในคณะกรรมการอาชญากรรมแคนซัสซิตี ได้ยินได้ฟังโศกนาฏกรรมที่เกิดกับครอบครัวนี้ เขาเดินทางจากบ้านที่ลีส์สัมมิต ชานเมืองแคนซัส ไปเคาะประตูบ้านของเธอ กล่าวแสดงความเสียใจพร้อมกับมอบเงินให้ 5,000 ดอลลาร์
    <DD>"เขาเป็นคนพิเศษมากค่ะ" ทเวดเทนกล่าว "เขาต้องการช่วยคน นั่นเป็นข้อแตกต่าง ฉันเองก็หวังเช่นกันว่า ถึงจุดหนึ่งฉันจะสามารถถ่ายทอดมันต่อไป ส่งมันต่อไปยังคนอื่นๆ"
    <DD>และสำหรับสทวร์ตแล้ว การส่งต่อนี่แหละถือเป็นประเด็นสำคัญ
    <DD>"นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับตัวผมเลยนะครับ" เขาว่า "มันเป็นเรื่องของการให้การสุ่มเลือกและปราศจากการคาดหวังสิ่งใดตอบแทน...นั่นน่ะสามารถเปลี่ยนแปลงคนคนหนึ่งได้เลยครับ".
    </DD>
     

แชร์หน้านี้

Loading...