เรื่องเล่าของหลวงพ่อแดงวัดเขาบันไดอิฐจากความทรงจำของดร.สุเมธ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 13 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,445
    [​IMG]



    "เมื่อกลับมาจากต่างประเทศใหม่ๆ คุณแม่ก็บอกว่าจะพาไปให้พระรดน้ำมนต์ ให้เป็นศิริมงคลแก่ชีวิตยืนนาน ผมก็เป็นชาวพุทธคนหนึ่งซึ่งเลื่อมใสในหลักธรรม และปรัชญาของศาสนาพุทธ ดังนั้นผมจึงไม่ยอมขัดอัธยาศัยของคุณแม่ ไปก็ไป ... ไปหาพระหาเจ้านะย่อมเป็นของประเสริฐเสมอ มีแต่ความร่มเย็นเป็นนิจศีล แล้วเราทั้งสองคนก็ออกเดินทางไปยังวัด ที่เป็นสำนักของหลวงพ่อ ที่คุณแม่ชอบเรียกว่า "คุณพ่อ"

    วัดนั้นตั้งอยู่บนเขาเตี้ยๆ แต่เต็มไปด้วยความสะอาดร่มเย็น เมื่อผมกับคุณแม่ขึ้นไปถึงบริเวณนั้น ก็แลเห็นมีผู้คนจำนวนมากนั่งอยู่ก่อน ราวกับว่ามีงานบวชนาคก็ว่าได้ คุณแม่พาผมเลี่ยงไปทางด้านหลัง ที่มีประตูเหล็กแข็งแรงชนิดยืดได้แบบเดียวกับประตูของร้านค้าต่างๆ หลังจากล่วงพ้นประตูเหล็กเข้าไปแล้ว ก็ถึงซอกเล็กๆ ซึ่งค่อนข้างมืด จากนั้นยังจะต้องผ่านประตูไม้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะถอดสลักข้างในออกได้โดยช่องที่ทำซ่อนไว้ให้เร้นลับ ต่อจากนั้นก็ถึงประตูไม้แบบโบราณ ซึ่งปิดสนิทลั่นดานข้างใน

    คุณแม่เข้าไปเคาะแล้วเรียกค่อยๆ พร้อมกับบอกชื่อให้ทราบว่าเป็นใคร ข้างในประตูบังเกิดเสียงกุกกักอยู่เล็กน้อย ต่อมาสลักข้างในก็ถูกถอดออก พอประตูเปิดออก ผมแลเห็นพระภิกษุรูปหนึ่ง รู้สึกว่าชราภาพมาก ท่านหันหลังให้เดินกลับไปข้างใน พร้อมกับสั่งให้ปิดประตูลั่นดานเสีย พอพ้นจากประตูก็ถึงห้องยาวๆ แต่ดูจะแคบที่สุด ห้องกั้นเป็นห้องเล็กๆ ขนาดเมตรครึ่ง ยาวสองเมตร ทุกอย่างเก่าคร่ำ ทั้งประตู และหน้าต่างปิดหมด ในห้องเล็กๆ ห้องนั้น เป็นที่อยู่ของพระภิกษุชรารูปนั้น ส่วนห้องด้านใน มีเตียงไม้เก่าๆ พร้อมด้วยผ้านวมบางๆ ปูต่างที่นอน ที่หัวนอนมีหิ้งพระมีพระพุทธรูปอยู่ 2-3 องค์ ติดๆ กับเตียงใกล้ทางเข้า มีโต๊ะไม้สีดำ บนโต๊ะเต็มไปด้วยข้าวของหลายอย่าง นับตั้งแต่ถ้ำชา ไปจนถึงตะบันหมาก

    ขณะนั้น ภิกษุชรานั่งอยู่บนเก้าอี้แบบโยกได้ กำลังนั่งเคี้ยวหมากอยู่ พิจารณาโดยถ้วนทั่วแล้ว ทำให้รู้สึกว่าท่านเป็นคนใจดี ใบหูยานเป็นลักษณะของคนเปี่ยมไปด้วยบุญ มือหนึ่งพาดที่ท้าวแขน อีกมือหนึ่งวางบนตัก ด้วยสำเนียงสุ้มเสียงที่ระบุบ่งว่า เป็นผู้มีอารมณ์เย็น ท่านเปล่งเสียงทักทายว่ามาตั้งแต่เมื่อไร สบายดีหรือ พร้อมกับถามถึงญาติคนโน้นคนนี้หลายๆ คน และยังเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในสมัยท่านให้ฟัง รู้สึกว่าท่านคุยสนุก และสนิทสนมกับเรามาก ในที่สุดจึงทราบว่าท่านสนิทชิดชอบกับที่บ้านมาก ตั้งแต่สมัยทวด และย่าทวด
    ตอนหนึ่งคุณแม่ถามว่า "ทำไมคุณพ่อถึงชอบอยู่อุดอู้ปิดหมดอย่างนี้ ไม่ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง" ท่านก็ยื่นหน้าตอบว่า

    "นี่คุณ คุณได้ยินเสียงนกเสียงการ้องบ้างไหม ข้างนอกน่ะ สมัยก่อนส่งเสียงกันให้แซ่ดไปหมด นกหนูมันยังทนอยู่กันไม่ได้แล้ว จะให้ฉันออกไปได้อย่างไร"
    ผมต้องคิดมากในคำพูดของท่าน และเมื่อคิดโดยรอบคอบแล้ว ก็กระทำให้ผมเข้าใจได้ในบัดนั้นว่า พระภิกษุชราที่อยู่ข้างหน้าผมนี้ ท่านตัดแล้ว สละแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง ผมต้องคิดในเมื่อท่านเข้าใจพูด และโดยมากจะพูดแต่ถ้อยคำที่ล้วนแต่แหลมคมทั้งสิ้น

    ครั้งหนึ่งท่านถามว่า "เขาว่าหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดใช่ไหมวะ"
    ผมก็ตอบว่า "ใช่ครับ เขาว่ากันอย่างงั้น"

    หลวงพ่อจึงก้มลงมา บอกว่า "ฉันนี่เหยียบน้ำจืดเป็นน้ำทะเลได้" ผมฟังแล้วก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นของดี ท่านพูดต่อไปว่า

    "เหยียบที่ท่าน้ำในแม่น้ำนี้ แล้วก็เป็นน้ำทะเลที่ปากอ่าวโน่น" พูดจบท่านก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ที่หลอกพวกเราที่ไม่ทันท่าน
    ท่านพูดอีกว่า "ฉันน่ะ อายุ ๙๖ ก.ไก่ ก.กา ไม่เป็นสักตัวเดียว เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็รู้จักทั่วประเทศ ทีพวกคุณเรียนเมืองนอกเมืองนาเป็น ๑๐ ปี ปริญญา เอก โท พ่วงท้ายให้ยาวๆ แต่ก็ไม่เห็นมันดังเลย"

    ท่านพูดเตือนสติ เพื่อให้เรารู้จักประมาณตน ประมาณใจ ไม่ทระนง และไม่เห่อเหิม
    ครั้งหนึ่งเราบอกว่า "คุณพ่อจำวัดเถอะ เดี๋ยวจะเหนื่อย"

    ท่านกลับพูดว่า "ฉันอยู่วัดนี้มา ๗๐ กว่าปีแล้ว ฉันจำได้ย่ะวัดฉัน ทำไมฉันจะจำไม่ได้"

    ต่อๆ มาผมก็ได้ไปหาท่านเสมอ ซึ่งก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง พอผมก้าวล้ำเข้าประตูไป ก็มีพวกที่นั่งอยู่บนวัด ซึ่งเขาอยากจะกราบนมัสการคุณพ่อบ้าง บางคนมาเฝ้าเป็นวันๆ ก็มี เขาเหล่านั้นตามผมพรูเข้าไป

    พอท่านเข้าที่นั่งของท่านเรียบร้อยแล้ว ท่านถามว่า
     
  2. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,199
    หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี

    [​IMG]
    หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    [FONT=courier new, courier, mono] สวัสดีครับ แฟนรายการทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์นิวบางกอกทูเดย์ทุกท่าน วันนี้ขอนำเรื่องราวของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งจังหวัดเพชรบุรี วัตถุมงคลของท่าน โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกนั้นมีประสบการณ์ ปาฏิหาริย์ โดดเด่นเรื่องคงกระพันชาตรีมีราคาเช่าบูชากันหลักแสน และเป็นที่เสาะแสวงหาในหมู่ลูกศิษย์ ลูกหาและกับบุคคลทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
    “หลวงพ่อแดง” ก็คือ ท่านพระครูญาณวิลาศ เจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ท่านผู้นี้มีภูมิกำเนิดที่ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี บิดาชื่อนายแป้น มารดาชื่อนางนุ่ม นามสกุล อ้นแสง เป็นบุตรชายคนที่ 5 ของตระกูล ท่านเกิดเมื่อเดือนเมษายน ปีระกา พ.ศ.2421 แต่ยังเยาว์วัย บิดามารดาเรียกว่า “แดง” ก็เลยชื่อแดงมาจนโตมิได้ตั้งชื่อใหม่
    ท่านได้ช่วยบิดามารดาทำไร่ ทำนา ทำมาหากินจนกระทั่งเติบใหญ่ มิเคยได้เล่าเรียนหนังสือเหมือนเด็กสมัยใหม่นี้เลย จนอายุได้ 20 ปี บิดามารดาหวังจะให้บวชเรียนตามประเพณี จึงนำไปฝากกับท่านอาจารย์เปลี่ยน แห่งวัดเขาบันไดอิฐ เพื่อจะได้เล่าเรียนหนังสือไทย แล้วจะได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุต่อไป
    พระภิกษุแดง ประพฤติเคร่งครัดต่อพระวินัย และปฏิบัติต่อพระอาจารย์เปลี่ยนเป็นอันดี จึงเป็นที่สบอารมณ์ของอาจารย์ รักใคร่ยิ่งกว่าศิษย์อื่นใดทั้งสิ้น ท่านอาจารย์พยายามสั่งสอนวิชาการทางวิปัสสนา และวิธนั่งปลงกัมมัฏฐานในถ้ำอยู่เป็นนิจศีล ถ่ายทอดวิชากฤตยาคมให้อย่างไม่ปิดบังหวงแหน เหตุนี้จึทำให้พระภิกษุแดงเพลิดเพลินในการศึกษาวิชาความรู้ อันเป็นคุณวิเศษต่อพระอาจารย์เปลี่ยนจนลืมสึก และยิ่งวันก็ยิ่งสำนึกในรสพระธรรม สัมมาปฏิบัติ กำจัดกามกิเลสลงได้ทีละน้อย ๆ ก็เลยไม่อยากสึกเอาเสียเลย จึงกลายเป็นพระดี ปฏิบัติชอบ อาวุโสสูงในวัดนี้
    [/FONT]
    [FONT=courier new, courier, mono][​IMG][/FONT]​
    [FONT=courier new, courier, mono] ครั้นเมื่อท่านอาจารย์เปลี่ยน ถึงกาลมรณภาพลงเมื่อ พ.ศ.2461 พระภิกษุแดงจึงได้รับหน้าที่เป็นสมภารวัดเขาบันไดอิฐแทนเป็นหลวงพ่อแดง
    ถึงแม้หลวงพ่อแดงท่านเป็นสมภารแล้ว ซึ่งมีภารกิจมากขึ้นตามหน้าที่ก็ตาม ท่านก็ยังปฏิบัติฌานสมาธิโดยนั่งถ้ำแสวงหาวิมุติภาวนาทุกวันมิได้ขาด อันเป็นญาณทางจิตที่ทำให้เกิดสมาธิได้แน่วแน่ ที่จะนำสู่ทางเพ่งภาวนาให้เกิดฌานขึ้นได้ตามลำดับ ซึ่งทางพระพุทธศาสนาได้จัดไว้ 4 ระดับ ดังนี้ คือ
    1. ปฐมรูปฌาน 2. ทุติยรูปฌาน 3. ตติยรูปฌาน 4. วัตตถรูปฌาน
    กับอีก 4 อรูปฌาน คือ
    1. อากาสานัญจายตนฌาน พิจารณาเห็นปฏิภาคนิมิตของกสินเหล่านั้นจนเป็นของว่างเปล่า
    2. วิญญาณนัญจายตนฌาน ถือเอาวิญญาณเป็นอารมณ์
    3. อากิญจัญญายตนฌาน ไม่มีอะไรเป็นอารมณ์
    4. เนว สัญญนา สัฯฯยตนฌาน ไม่มีสัญญาหรืออารมณ์เลย
    เมื่อผู้ที่นั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน จึงถึงขั้น ฌาน หรือที่เรียกว่าญาณทางในดังกล่าวแล้ว ท่านผู้นั้นก็ย่อมมีจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่อง มีสมาธิจิตแน่วแน่ จนดวงหทัยรูปเกิดอิทธิฤทธิ์เป็นปาฏิหาริย์ได้ ดังนั้น เมื่อท่านเสกเป่า เพ่งเล็งอะไรขึ้นวัตถุสิ่งนั้น ๆ ก็จะผนึกอำนาจฤทธิ์เดชลงไว้ได้ศักดิ์สิทธิ์จริง ประกอบด้วยอานุภาพแห่งจิตของผู้เชื่อถือ นับถือมั่นคงเป็นกำลังภายในด้วย ดังนี้ย่อมเกิดประสิทธิ์ผลสมประสงค์
    [​IMG]
    หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    ถึงแม้หลวงพ่อแดงจะมิเคยอวดอ้างในความขลัง หรือในฌานสมาธิของท่านเลยก็ตาม แต่ผลของการศักดิ์สิทธิ์ในเลขยันต์ ปัดเป่ามนต์ของท่าน ก็ได้สำแดงออกมาแล้วเป็นอันมากว่า คุ้มครองป้องกันได้อย่างแน่แท้ ดังได้ยกตัวอย่างมาเป็นนิทัศน์อุทธาหรณ์ ต่อไปนี้
    ระหว่าง พ.ศ.2477 ถึง พ.ศ.2480 ในระหว่างนั้นเมื่อใดจำไม่ได้ เกิดโรคระบาดสัตว์ คือ วัว ควาย เป็นโรคติดต่ออย่างแรง ล้มตายเสียมากต่อมาก ขณะนั้นไม่มีสัตวแพทย์ ต้องขอมาจากกรมช่วยฉีดยา ราษฎรชาวนาก็พากันไปหาหลวงพ่อแดงให้ช่วยปัดเป่าป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้ด้วย หลวงพ่อแดงจึงปลุกเสกลงเลขยันต์ในผืนผ้า รูปสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เท่าผ้าเช็ดหน้าสีเหลือง แจกให้ราษฎรผู้เลี้ยงวัว ควายนำไปผูกปลายไม้ ปักไว้ที่คอกสัตว์ของตน ก็ปรกฏผลว่าคอกสัตว์ที่ปักผ้าประเจียดยันต์หลวงพ่อแดง สัตว์เลี้ยงไม่ตายเลย ทุกบ้านในตำบลใกล้เคียงวัดเขาบันไดอิฐ เมื่อกิตติศัพท์แพร่หลายไปดังว่า จึงมีราษฎรบ้านที่อยู่ไกล ๆ มาขอผ้ายันต์หลวงพ่อแดงกันทุกวันมิได้ขาด จนโรคระบาดระงับไป
    [/FONT]
     
  3. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,199
    [​IMG]
    เหรียญหลวงพ่อแดง รุ่นแรก
    ความลือชา ผ้ายันต์หลวงพ่อแดง จึงปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในความศักดิ์สิทธิ์ จำเดิมแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนก็เข้าหาหลวงพ่อแดงกันมาก เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ มหาสงครามเอเซียบูรพา ทหารญี่ปุ่นบุกขึ้นประจวบคีรีขันธ์ เกิดต่อสู้กันใหญ่กับทหารอากาศไทยที่นั่น ชาวเพชรบุรีก็ตระหนกตกใจ ต่างพากันหาเครื่องรางของขลังป้องกันตัวยามเมื่อยุทธภัยใกล้ตัวเข้ามาแล้ว ส่วนใหญ่ก็ไปหาหลวงพ่อแดง ท่านก็ลงผ้าประเจียดยันต์แจกให้คุ้มครองป้องกันตัว ต่อมามีความเห็นว่า การทำผ้ายันต์นั้น ทำลำบากเขียนได้ทีละน้อยผืนไม่พอแจก จึงคิดทำเหรียญทองแดง มีรูปหลวงพ่อแดงด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่ง มีอักขระยันต์ของท่าน เป็นเหรียญรูปไข่ กลมรี มีห่วง กระทำพิธีพุทธาภิเษก เมื่อ พ.ศ.2483 สงครามยังไม่เลิก และใครที่นับถือมาขอท่านก็แจกไป
    ต่อมา พ.ศ.2487 สัมพันธมิตรอันมีอเมริกาและอังกฤษกลับตีโต้ญี่ปุ่น เยอรมัน ได้นำเครื่องบินบี 25 มาทิ้งระเบิดจังหวัดเพชรบุรี บ่อยครั้ง ทำลายรถไฟ สถานีรถไฟ สะพานข้ามแม่น้ำรถไฟเสียหายใช้การไม่ได้อย่างราบคาบ ผู้คนแตกตื่นหนีภัยหรือลงหลุมหลบภัยกันอลหม่าน พวกผู้หญิง เด็ก และคนแก่อกสั่นขวัญหาย ภาวนาพุทธคุณจับต้นชนปลายไม่ถูก โรงเรียนปิด ศาลากลาง อำเภอ กองทหาร ต่างโยกย้าย เปิดไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ รวมความว่าเพชรบุรีก็ต้องยุทธภัยในครั้งนั้น แต่ปรากฏว่าตามบ้านเรือนคน ที่นับถือหลวงพ่อแดง มีผ้ายันต์แขวนไว้ในบ้านมากต่อมาก และผู้คนมีเหรียญหลวงพ่อแดงห้อยคอกันเกลื่อนกลาด อันเป็นที่อัศจรรย์ว่า บ้านหรือคนเหล่านั้นไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นแก่เขาเลย หลวงพ่อแดงจึงโด่งดังใหญ่ จนสิ้นสงครามโลกมหาเอเซียบูรพา ญี่ปุ่นยอมแพ้ โดยถูกระเบิดปรมาณู 2 ลูก
    [​IMG]
    กิตติคุณของหลวงพ่อในทางกฤตยาคม จึงปรากฏความศักดิ์สิทธิ์แพร่หลายยิ่งขึ้น ต่อมา พ.ศ.2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน สมณศักดิ์ที่พระครูญาณวิลาศ พร้อมด้วยสัญญาบัตรพัดยศแก่หลวงพ่อแดง ศิษยานุศิษย์จึงได้ทำการฉลองสมณศักดิ์ และทำเหรียญหลวงพ่อแดงขึ้นอีกเป็นรุ่นที่สองในรูปเดิม เมื่อ พ.ศ.2503 ท่านมีชนมายุได้ 82 ปีแล้วในเวลานั้น
    เมื่อเกิดคอมมูนิสต์ญวนเหนือบุกญวนใต้ ประเทศไทยต้องส่งกองทัพเสือดำออกไปช่วยพันธมิตรรบในญวนใต้ ก็ปรากฏว่าทหารไทยที่ไปปฏิบัติหน้าที่รบในเวียดนาม คนที่มีเหรียญหลวงพ่อแดงห้อยคออยู่ไม่เคยถูกอาวุธเป็นอันตรายแก่ชีวิตสักคน ทั้ง ๆ ที่เข้าประจัญบานอย่างน่าจะมีอันตรายทีเดียว จึงเป็นที่ฉงนสนเท่ห์แก่เพื่อนทหารไทยและฝรั่งต่างชาติพากันไต่ถามถึงว่าของดีศักดิ์สิทธิ์อะไร และได้รับคำตอบจากทหารไทยผู้กล้าหาญว่า “เหรียญหลวงพ่อแดง”
    [​IMG]
    ตามศรัทธาปสาทะที่เชื่อมั่นอันเป็นคุณวิเศษ คุ้มกันชีวิตคนได้ดังนี้ ท่านพลโทสำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ 1 ท่านก็เป็นลูกเพชรบุรีอยู่แล้ว จึงขอให้หลวงพ่อแดงทำเหรียญขึ้นอีกรุ่นหนึ่ง และทำบุญครบอายุท่านครบ 90 ปีด้วย เป็นงานใหญ่โตมาก เมื่อ พ.ศ.2511 เหรียญหลวงพ่อแดงที่ทำขึ้นคราวนี้มีจำนวนเหรียญทองแดง รูปอาร์ม 84,000 เหรียญ เท่าพระธรรมขันธ์ กับเหรียญเงินมีผู้จับจองมากเป็นอันดับที่ 2 และเหรียญทองคำแท้มีผู้สั่งจองมาเป็นอันดับที่ 3 มีสมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก มีมหรสพสมโภช 5 วัน 5 คืน จำหน่ายเหรียญได้แต่ทางกองทัพภาค 1 เท่านั้นเป็นเงินถึงหนึ่งล้านกว่าบาท และได้สร้างและซ่อมวัดอีกต่างหาก เป็นจำนวนมาก เหรียญเหล่านี้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังจัดทำให้เป็นกุศลพลี เท่าทุนโดยไม่คิดกำไรเลย
    [​IMG]
    ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2513 ทางราชการกองทัพบก อันมี จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ทำเหรียญหลวงพ่อแดง ขึ้นอีกจำนวนมากเพื่อมอบให้ทหารหาญ และตำรวจชายแดน ที่ไปประจำตามแนวต่อต้านข้าศึกศัตรู อันนับว่าเป็นเกียรติคุณของหลวงพ่อแดงอย่างโด่งดังเป็นทวีคูณ ซึ่งทำให้วัดเขาบันไดอิฐหัวบันไดกุฏิไม่แห้ง และวัดเจริญขึ้นมาก
    ความศักดิ์สิทธิ์ฤทธิเดชในเครื่องรางของขลัง หรือคาถาอาคมนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ ที่เป็นปัญหาของพวกปัญญาชนมาแทบทุสมัยก็ว่าได้ แม้แต่คน ๆ เดียวกัน ในวัยต้นก็เชื่ออย่างแข็งขันว่าจริง พวกวัยรุ่นได้เล่าเรียนวิทยาศาสตร์ขึ้นบ้างแล้ว ก็เกิดไม่เชื่ออาถรรพ์ต่าง ๆ หาว่าเป็นมายาสาไถย แต่พอตกวัยกลางคน ก็เกิดความสงสัยลังเลใจ ครั้นถึงวัยชราแล้วจึงกลับเชื่อถือหมดดังนี้ นั่นเป็นเพราะอะไร ก็เพราะมีประสบการณ์มากเข้า ได้เห็นได้ทดลองประจักษ์แก่ตาตนเองมาแล้ว จึงเชื่อนี้อย่างหนึ่ง
    อีกประการหนึ่งในพระสูตรที่กล่างถึงอิทธิปาฏิหาริย์ และพระสูตรนั้นเวลานี้ยังใช้อยู่ เชื่อถือกันอยู่ตลอดมา 2514 ปีแล้ว คนทุกศตวรรษที่เขาเชื่อถือต่อทอดกันมาอย่างมั่นคง ไม่เสื่อมคลายทุกสมัยนั้นเป็นคนอย่างไร
    ถ้าผู้ใดไม่เชื่อก็ไม่พ้นการสบประมาท ท่านนักปราชญ์ดึกดำบรรพ์ไปได้ เพราะท่านโบราณาจารย์เหล่านั้นรวมถึง 2515 ปีมาแล้ว ถ้าท่านไม่เชื่อเมื่อทำสังคายนาแต่ละครั้ง ท่านคงตัดคัดอิทธิปาฏิหาริย์ออกไปแล้ว ท่านไม่เขลาพอที่จะทรงพระธรรมข้อนี้ไว้หลอกลวงคนทั้งโลกอยู่ได้นานแสนนานฉะนี้
    สรุปได้ว่าหลวงพ่อแดง หรือท่านพระครูญาณวิลาศ วัดเขาบันไดอิฐ ท่านเป็นวิสุทธิสงฆ์ที่มีญาณสมาธิอย่างแก่กล้าและมีอาสวักขยญาณซึ่งรู้จักทำอาสวะกิเลสให้สิ้นไปอยู่ทุกเมื่อ ก็ย่อมมีจิตตานุภาพ เพ่งปฏิภาคนิมิตให้ขลังได้ ฉะนั้น จึงมีผู้เคารพนับถือ และเชื่อถือต่อเครื่องรางของขลัง เช่น ผ้ายันต์ ตะกรุด รูปถ่าย และเหรียญรูปเหมือน รุ่นแรก และต่าง ๆ สร้างในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มีพุทธานุภาพคลาดแคล้ว ปลอดภัยจากภยันตรายต่าง ๆ ป้องกันภูตผีปีศาจสิ่งที่ไม่ดี เสนียดจัญไรใดใดทั้งปวง มีคนเขาพูดกันว่า มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อแดง พกพา อาราธนาติดตัว รับรองไม่ตายโหงแน่นอน
    ขอเตือนสำหรับท่านที่กำลังเสาะแสวงหาเหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ รุ่นแรก เพื่อนำมาบูชา โปรดระวังของเก๊เลียนแบบเยอะแยะมากมาย การจะเช่าหาบูชาโปรดปรึกษาผู้ที่รอบรู้และชำนาญ แล้วท่านจะไม่พบกับความผิดหวังขอให้ทุกท่านเป็นผู้ที่โชคดี ในเรื่องของพระบูชา พระเครื่อง เหรียญคณาจารย์ เครื่องรางของขลัง ตลอดกาลนาน
     
  4. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] อนุโมทนาบุญด้วยครับ.^./|\.^. [​IMG]
     
  5. aek_nida7

    aek_nida7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +699
    ขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ ผมเองเคยบวชที่เมืองเพชรฯ ทราบดีว่าท่านเป็นที่เคารพของคนเพชรบุรีมาก

    มีเหรียญท่านเหมือนกัน ตั้งแต่ยังไม่รู้จักท่าน ยิ่งได้อ่านเรื่องท่าน ยิ่งศรัทธาครับ
     
  6. กองทัพเทพ

    กองทัพเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +2,629
    เพ่งรูปท่านแล้ว
    ขนลุก

    รู้ถึง ปิติ รู้ถึง พลัง

    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  7. Satanina

    Satanina สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +11
    ขออนุโมธนา ณ ที่นี้ด้วยคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...