เรื่องเล่าหลวงปู่ชอบกับสมญานามพระเทวานัมปิยเถระ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 15 พฤษภาคม 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    พระเทวานัมปิยเถระ
    [​IMG]
    ชีวประวัติและปฏิปทาของ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ได้ดำเนินมาแต่เมื่อเริ่มกำเนิด วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๔ ...จนกระทั่งวันสุดท้าย คือวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๓๘ ได้ดำเนินมาเป็นมิ่งขวัญของประเทศ เป็นที่พึ่งทางจิตใจให้แก่ปวงศิษย์ ทั้งบรรพชิต และฆราวาส และประชาชนทั่วไปอีกนานเท่านาน
    ยามเมื่อดำรงชนม์ชีพอยู่ องค์ท่านเจ้าของประวัติเอง...มิได้สนใจกับ “อดีต” ที่ผ่านมาแล้วของท่าน...ท่านมิได้สนใจกับ “อนาคต” ที่จะเป็นไป ซึ่งหากเป็นปุถุชนคนธรรมดาย่อมไขว่คว้าปรารถนาหาเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรัพย์ศฤงคาร แม้กระทั่งปรารถนาแดนพ้นทุกข์ ท่านก็มิได้สนใจแล้ว...ท่านมิได้สนใจแม้แต่ “ปัจจุบัน” ซึ่งก็อีกน่ะแหละ หากเป็นบุคคลธรรมดา ย่อมเร่งประกอบการงาน เร่งหาเลี้ยงชีพ หาชื่อเสียง ยศศักดิ์ เป็นนักบวช ก็เร่งทำความเพียร เร่งทำกิจอันควรกระทำ...ทำปัจจุบัน ให้สร้างอนาคต
    ท่านมิได้ต้องสนใจ ทั้งอดีต ทั้งอนาคต และทั้งปัจจุบัน
    ท่าน “วาง” แล้ว ดังที่ท่านกำลังสอนอยู่ ให้เรา “วาง” บ้าง
    กิจอันควรกระทำของท่านคงจะได้เสร็จสิ้นแล้ว
    ท่านดำรงธาตุขันธ์อยู่ ท่านก็มีเมตตาธรรมเป็นเครื่องอยู่...โปรดศรัทธาญาติโยมตามกาละอันควร ตามเทศะอันควร จากเหนือจดใต้ จากตะวันออกสู่ตะวันตก ...ทั่วประเทศเขตแคว้น ทั้งต่างแดนใกล้และไกล ที่เมตตาของท่านประพรมโสรจสรงจิตใจคน
    “เรา” ต่างหากที่เมื่อกราบองค์ท่านแล้ว ด้วยความเคารพรัก เลื่อมใส ศรัทธา อย่างสุดซึ้งแล้ว ก็ยังมิได้พอใจเพียงนั้น ยังอาจเอื้อมขอความเมตตามากขึ้นไปอีก ขออนุญาตให้ได้นำ “อดีต” ของท่าน ที่ท่านทิ้งร่องรอยไว้ในความทรงจำของศิษย์ทุกคน นำมารวบรวมเรียบเรียงเป็นชีวประวัติ อ้างด้วยว่า เพื่อเป็นประโยชน์แก่อนุชนคนไทยรุ่นหลัง เพื่อเป็นตัวอย่างให้ผู้สนใจได้ศึกษา เพื่อให้ผู้เคารพรักได้เทิดทูน เพื่อเป็นกำลังใจ เป็นแนวทางให้ผู้ใคร่ในธรรมเร่งปฏิบัติทำความเพียร
    สารพัดจะอ้าง...
    ท่านก็เมตตา...
    แต่แรกผู้เขียนก็ตื่นเต้น ดีใจ ตามประสากบในกะลาครอบ...เราเคยกราบท่าน เคยเรียนถามท่าน ท่านเมตตาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม...คงเขียนได้...คิดดูไม่ยากเลย
    แต่เมื่อเริ่มรวบรวมข้อความ เริ่มลงมือเขียน จึงได้รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ไม่ง่ายเลย
    เป็นการยากที่จะนำ “อดีต” อันยาวนาน ผ่านมาตลอดเวลากว่า ๙๐ ปีนี้ มาบันทึกไว้ให้ได้ทุกบททุกตอน แม้จะให้เลือกเฉพาะที่ควรบันทึก ควรสนใจก็เถอะ...!
    “อดีต” ที่ดำเนินมาของท่าน....
    ...แต่วัยเด็ก ที่โลดเต้นไปตามประสาเด็ก แต่ก็มีความกตัญญูรู้คิด ทำหน้าที่ลูกที่ดี พี่ที่ดีของครอบครัว รู้คิด...เริ่มคำนึงหาทางออกจากทุกข์ จนออกบวช เป็นผ้าขาวน้อย เป็นสามเณร
    ...ผ่านวัยหนุ่ม ที่บวชเป็นภิกษุ แล้วก็ออกธุดงค์ บำเพ็ญความเพียรอย่างมอบกายถวายชีวิตให้ธรรม พยายามห้ำหั่นฟันกิเลสด้วยอุบายวิธีนานา...ทั้งที่ได้รับแนวทางคำสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ และที่เกิดปัญญาคิดค้นขึ้นมาได้เอง ผ่านสัตว์ร้ายในป่าลึก พบช้าง ผจญเสือ ทรมานงูพิษ พญานาค พบสิ่งลึกลับอันเกินสายตามนุษย์ธรรมดาจะพึงพบ พึงเห็น พึงรู้จัก....
    ...ผ่านวัยกลาง ที่เปรียบประดุจพญาราชสีห์กำลังทรงพลังอันแข็งแกร่ง เมื่อถึงเวลา...ก็บันลือสีหนาทก้อง...สยบป่าให้สิโรราบลง ท่านได้นำความองอาจ เด็ดเดี่ยว ความรู้ ความสงบ และดวงปัญญาที่สะสมดำเนินมาเป็นลำดับ ๆ ออกใช้เป็นดาบเพชร สยบตัดกิเลสอาสวะ ให้ขาดกระเด็นสิโรราบลงโดยราบคาบ
    ...สู่วัยปลาย ที่ท่านดำรงอยู่ด้วยทิฏฐธรรม วิหารธรรม เป็นที่ยกย่องสรรเสริญของหมู่เทวดา และมวลมนุษย์ เป็นที่เคารพรัก สักการะของปวงชนชาวไทย
    จริงแท้ เป็นการยากอย่างยิ่ง ที่จะสามารถบันทึก “อดีต” อันยาวนาน ที่งดงามน่าเลื่อมใส น่าเรียนรู้ น่าถือเป็นครู ให้ได้เทิดทูนบูชา ถือเป็นแบบอย่าง ให้เป็นกำลังใจ ได้มุ่งบำเพ็ญตาม...เหล่านี้มาบันทึกให้เป็นภาพประวัติที่งดงาม น่าเลื่อมใส น่าเรียนรู้ น่าถือเป็นครู ให้ได้เทิดทูนบูชา ถือเป็นแบบอย่าง ให้เป็นกำลังใจ ได้มุ่งปฏิบัติบำเพ็ญตาม...เช่นดั่งความจริงที่ผ่านมา
    ยังมี “อดีต” ที่ไม่ได้ทราบ...ที่ ทราบแล้ว แต่ไม่ได้เขียน...ที่ เขียนแล้ว แต่คนเขียนไม่มีความสามารถจะถ่ายทอดความจริงได้
    ประดุจใบไม้อันเขียวขจีจับตาในป่า ยากอย่างยิ่งที่จะนำมาจัดลงประดับในแจกันเล็ก ๆ เพียงแจกันเดียว ใบไม้มาจนลานตาประการหนึ่ง เก็บที่สวยมาไม่ได้หมดประการหนึ่ง ผู้จัดไม่ได้มีสุนทรียจิตพออีกประการหนึ่ง ฉันใด แจกันเล็กใบนั้น...ก็ฉันนั้น หนังสือเล็ก ๆ เล่มนี้ จะเก็บ คัด อย่างไรก็ไม่อาจเป็นตัวแทน “อดีต” อันงดงามของท่านได้
    จึงขอประทานอภัย ท่านผู้รู้ทุกท่านไว้ ณ ที่นี้
    โดยเฉพาะองค์ท่านเจ้าของประวัติเอง
    ที่มา http://ecurriculum.mv.ac.th/dhamma/dharma-gateway/www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-chob/lp-chob-hist-40.htm
     
  2. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    คิดถึงอาจารย์.............จัง ดูเหมือนกร้ายไกลแต่ อาจารย์อยู่ใกล้นนิดเดียว.................คิดฮอดหลายเด้........งูขาว
     

แชร์หน้านี้

Loading...