เส้นทาง"ตามรอยไดโนเสาร์"

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 20 กันยายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    โลกของไดโนเสาร์ในอดีต คงไม่อาจย้อนกลับมาเกิดขึ้นแบบนั้นได้อีก แต่ใช่ว่าจะไม่มีร่องรอยของสัตว์โลกดึกดำบรรพ์เหล่านี้ปรากฏให้เห็นซากฟอสซิลไดโนเสาร์ ฟอสซิลสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แม้กระทั่งรอยเท้าที่ฝากเอาไว้เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน สามารถพบเจอได้ในดินแดนอีสานของประเทศไทยของเรานี่เอง ซึ่งร่องรอยที่ปรากฏนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ไขความลับในอดีต เป็นโอกาสที่นักเดินทางทุกคนสามารถกลับไปค้นหาคำตอบการเกิดของสัตว์โลกล้านปี
    เรานำร่องพาเที่ยว "เส้นทางตามรอยไดโนเสาร์" ที่พร้อมจะแบ่งปันความรู้ ความสนุกสนานให้กับทุกคน และเพื่อเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเอง กาฬสินธุ์-ขอนแก่น จึงเป็นจุดหมายของการไปเยือน เพราะเป็นดินแดนที่พบซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย จากกรุงเทพฯ เราใช้การเดินทางโดยรถยนต์ สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จ.นครราชสีมา คือจุดเริ่มต้นของการสำรวจซากไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ดีๆ อีกแห่งที่ไม่น่าพลาดชม
    โชคดีที่ไปคราวนี้ได้พบนักวิจัยหญิง ดร.ปุ๊-รัตนาภรณ์ หันตา ผู้ทำงานวิจัยที่สถาบันแห่งนี้มาแต่ต้น เธอเล่าถึงที่มาของการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาว่า พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินเกิดจากวิกฤติซากดึกดำบรรพ์ที่ถูกนำออกจากแหล่งกำเนิด เพื่อครอบครองและเป็นเจ้าของส่วนตัว สถานการณ์วิกฤติดังกล่าวทางมหาวิทยาลัยจึงเสนอโครงการในการอนุรักษ์ในรูปอุทยานและพิพิธภัณฑ์ แนวคิดที่ดีจึงได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ทำให้พิพิธภัณฑ์ก่อตัวขึ้น ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในทวีปเอเชีย เป็นพิพิธภัณฑ์ฟอสซิล 1 ใน 7 แห่งของโลก
    ที่นี่มีไม้กลายเป็นหินที่พบในโคราช อย่างไม้มะค่าโมงกลายเป็นหินอัญมณี อายุประมาณ 8 แสนปีก่อน ไปจนถึงพันธุ์ไม้อย่าง เต็ง กระโดน ตะแบก รวมถึงพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ จัดวางไว้ให้ชมพร้อมคำบรรยาย สีสันของหินอัญมณีสวยงามจริงๆ นอกจากไม้กลายเป็นหิน โคราชยังมีศักยภาพโดดเด่น พบชิ้นส่วนกระดูกไดโนเสาร์นับพันชิ้นและจำแนกชนิดพันธุ์ได้ นักท่องเที่ยวมาย้อนอดีตได้ด้วยการชมในพิพิธภัณฑ์
    ไดโนเสาร์โคราชมีจริงหรือ เป็นคำถามที่เร่งเร้าให้เรารีบเดินเข้าสู่ห้องนิทรรศการซากดึกดำบรรพ์ในพิพิธภัณฑ์ และเพิ่งมาได้ความรู้ว่า ที่โคราชขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ 4 พวก เช่น อิกัวโนกอนต์ อัลโลซอร์ ฯลฯ ที่นี่จำลองฟอสซิลไดโนเสาร์ไว้ เราตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้ฟัง ดร.ปุ๊ เล่าย้อนกลับไปยังโคราช ดินแดนแห่งช้างดึกดำบรรพ์ หลายพันปีก่อนพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำมูล โคราชเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของช้าง เพราะพบซากกระดูกจำนวนมาก ยืนยันว่าพวกมันเคยอาศัยอยู่ที่นี่
    "เราพบซากช้างดึกดำบรรพ์ 8 สกุล จาก 42 สกุลที่พบทั่วโลก ที่นี่ถือว่ามีความหลากหลายของพันธุ์ช้างโบราณ ที่เฉลิมพระเกียรติ พิมาย เนินสูงก็พบ จากการศึกษาพื้นที่พบกว้างขวาง ถือเป็นสุสานช้างที่สำคัญอีกแห่งของโลก"
    สารภาพเลยว่าเกิดมาไม่เคยเห็นฟอสซิลฟันช้าง ไปจนถึงสัตว์อื่นๆ ทั้งเต่ายักษ์ ตะโขง ม้าโบราณ ยีราฟคอสั้น เสือเขี้ยวดาบ แรดโบราณ และฟอสซิลบรรพบุรุษอุรังอุตัง อย่าง เอป ลิงใหญ่ไม่มีหาง การมาพิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็นความบันเทิงที่ควบคู่ไปกับกระบวนการเรียนรู้โลกทางหนึ่ง ปีนี้เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก แหล่งเรียนรู้นี้ร่วมหนุนคนไทยเที่ยวชม มีอัตราค่าเข้าชมพิเศษตลอดปี
    ออกจากโคราช เรามุ่งหน้าสู่เมืองน้ำดำกาฬสินธุ์ เช้าวันรุ่งขึ้นตามไปดูรอยเท้าคาร์โนซอร์ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุด และแสดงแนวทางการเดินที่ชัดเจนที่สุดแห่งหนึ่งของไทย อายุประมาณ 140 ล้านปี บริเวณลานหินลำห้วยเหง้าดู่ เชิงเขาภูแฝก ในวนอุทยานภูแฝก อ.นาคู ใครจะไปรู้ว่ารอยเท้าไดโนเสาร์ทั้ง 7 รอยนี้ พบโดยเด็กผู้หญิงสองคนที่มาเที่ยวป่ากับครอบครัว เหตุการณ์ในวันนั้นทั้งสองวิ่งเล่นตามสายน้ำ พลันได้พบกับรอยประหลาดเข้า เห็นตรงกันว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์แน่ๆ จากประสบการณ์ที่เรียนในโรงเรียนมาและพบเห็นตามสื่อต่างๆ จึงวิ่งไปบอกผู้ปกครอง ซึ่งทนเสียงรบเร้าของลูกๆ ไม่ไหว ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง แต่พอมาดูด้วยตาแล้วก็คิดว่าต้องใช่แน่ๆ นำมาสู่การพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญ ก่อนจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ไดโนเสาร์กลางแจ้งในวันนี้
    และถ้าจะเพิ่มสีสันในการตามรอยให้สนุกสนานและเพลิดเพลินธรรมชาติมากขึ้น จะใช้เดินเท้าศึกษาธรรมชาติมีให้เลือก จะเป็นระยะสั้นประมาณ 30 นาที ระยะยาว 2-3 ชั่วโมง ดูรอยเท้าไดโนเสาร์ รอยหอยดึกดำบรรพ์ เล่นน้ำแก่งวังมน และขึ้นผากกน่องชมทิวทัศน์เทือกเขาภูพาน ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจทีเดียว
    ช่วงบ่ายเราไปสำรวจไดโนเสาร์กันต่อที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเยี่ยมชม แต่ก็ยังตื่นเต้นกับความยิ่งใหญ่ ทันสมัย และสมบูรณ์แบบ ที่นี่เปิดให้บริการเมื่อปี 2550 ถือเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้เรื่องซากดึกดำบรรพ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ล่าสุดของกาฬสินธุ์ แล้วยังมีห้องวิจัยและห้องเก็บตัวอย่างให้นักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกมาศึกษาค้นคว้า ที่นี่ได้ศึกษาเรื่องการเกิด จนถึงไดโนเสาร์ครองโลก แล้วสูญพันธุ์ไป จากนั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเข้ามาแทนที่ จนเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ที่ครองโลกมาจนทุกวันนี้
    จากห้องจัดแสดงอันตื่นตาในพิพิธภัณฑ์ เราเดินออกไปเยี่ยมชมแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ที่นี่พบกระดูกไดโนเสาร์หลายร้อยชิ้น แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ มีซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ "ภูเวียงโกซอรัสสิรินธรเน" ตัวหนึ่ง กระดูกเรียงรายกันอยู่ในท่านอนคว่ำในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบในบ้านเรา ภูกุ้มข้าวจึงกลายเป็นแหล่งที่มีกระดูกไดโนเสาร์มากสุดให้คนเข้ามาเยี่ยมชม
    วันที่สามของการตามรอยสัตว์โลกล้านปี เราไปเที่ยวกันต่อที่ จ.ขอนแก่น เยี่ยมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง สถานที่แห่งนี้จัดแสดงตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ อุปกรณ์ที่นักธรณีวิทยาใช้ค้นคว้าและสำรวจไดโนเสาร์ มีรูปปั้นไดโนเสาร์ที่เราคุ้นเคย อย่างทีเร็กซ์ ไปจนถึงซอโรพอด ฯลฯ จัดวางไว้ในบรรยากาศใกล้เคียงกับเมื่อโลก 250 ล้านปีก่อน จากนั้นก่อนกลับบ้านแวะอุทยานแห่งชาติภูเวียง ชมหลุมขุดค้นที่ 3 จาก 9 หลุม ที่พบซากไดโนเสาร์กินเนื้อและกินพืชมากมาย
    ปิดท้ายที่นี่ด้วยเป็นแห่งแรกที่ขุดพบกระดูกไดโนเสาร์ของไทย ผลศึกษาเป็นพันธุ์ใหม่ของโลกอยู่ในกลุ่มกินพืช เรียกว่า ซอโรพอด กรมทรัพยากรธรณีจึงขอพระราชทานพระราชานุญาตสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อัญเชิญพระนาม "สิรินธร" มาตั้งเป็นชื่อของไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ที่พบนี้ว่า "ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน" เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ที่ทรงสนพระทัยงานด้านโบราณชีววิทยา
    การเดินทางสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้หมายความว่า เรื่องราวการตามรอยไดโนเสาร์ในบ้านเราจะจบเพียงแค่นี้ ทุกแหล่งเรียนรู้ที่ได้ไปเยี่ยมชมยังเดินหน้าค้นคว้าฟอสซิลที่พบเพิ่มเติม ในอนาคตอันใกล้เชื่อว่าคงมีข้อมูลความรู้ใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บเกี่ยวเนื้อหาสาระเป็นกำไรชีวิต.
    ////////////////////
    Trip&Trick
    สนใจเที่ยวตามรอยไดโนเสาร์ ในโครงการ "อีสาน แหล่งเรียนรู้...อู่อารยธรรม" ททท. ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จัดทำเส้นทางให้เลือกได้หลายทางตามแต่สะดวก จะเป็นเที่ยววันเดียวจนถึงสามวันสองคืน เดินทางโดยรถยนต์และเครื่องบินขึ้นอยู่กับว่าต้องการแบบไหน สอบถามได้ที่ ททท.Call Center 1672 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ โทร. 0-2270-1505-8 สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย โทร. 0-2393-5855 สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย โทร. 0-2918-6067 และสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย โทร. 0-2998-0744

    เส้นทาง"ตามรอยไดโนเสาร์" | ไทยโพสต์
     

แชร์หน้านี้

Loading...