โลกหมุนรอบตัวเอง ช้าลงหรือเร็วขึ้น

โลกหมุนรอบตัวเอง ช้าลงครับ และที่สำคัญกว่านั้นมาก คือ
แกนโลก เอียงเข้าหาดวงอาทิตย์มากขึ้น ขณะนี้แกนโลก เอียงผิด
ไปจากเดิม จาก 23 1/2 องศาตามแนวดิ่ง ไปมากกว่า 3 องศาแล้ว
และกำลังเอียงมากขึ้น เพราะระบบรวมของโลกทั้งใบกำลังเสียสมดุลย์ทางพลังงาน
อย่างหนัก

Effect ของการหมุนช้าลง และ แกนโลกที่เอียงมากขึ้น ส่งผลให้
เกิดการแกว่งของแนวแกนโลก (เช่นเดียวกับ ลูกข่างที่หมุนช้าลง
จะเห็นได้ว่าแกนจะเริ่มแกว่ง เพราะเริ่มเสียสมดุลย์ของแรงเหวี่ยง
หนีศูนย์)
โดยจะสังเกตได้ง่ายๆ จาก ในช่วง
สัปดาห์เดียวกันจะเห็นได้ว่า ความยาวของช่วงเวลา กลางวัน
และ กลางคืน แตกต่างกัน จะเห็นว่า บางวัน
มืด ค่ำเร็ว บางวันก็ช้า บางครั้งต่างกันเกือบ 1 ชั่วโมง ทั้งๆที่อยู่
ในสัปดาห์เดียวกัน

สิ่งที่ตามมาคือ ทั้งส่วนที่เป็นขั้วโลก และ ส่วนที่ป่องของโลก
จะเปิดรับแสงอาทิตย์มากขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกทั้งใบ
สูงกว่าในอดีต ธารน้ำแข็งละลาย ส่งผลให้ปริมาณน้ำในมหาสมุทร
เพิ่มมากขึ้น ความแตกต่างของอุณหภูมิของกระแสน้ำอุ่น และ กระ
แสน้ำเย็นในมหาสมุทรเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความรุนแรงของ
สภาวะ ลานินญา และ เอลนินโญ รุนแรงขึ้น

ความถี่่ของการเกิดไฟป่าจะเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากสภาวะความแห้ง
แล้ง กระทบต่อระบบนิเวศน์ทั้งหมด พื้นที่ที่เคยเพาะปลูกได้
ก็จะกลับกลายเป็นไม่ได้ผลดังเดิม เกิดสภาวะขาดแคลนน้ำและ
อาหารที่จะใช้เลี้ยงประชากรโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้เกิดความเหมาะสมใหม่ทำให้
เชื้อโรคบางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ดีขึ้น และเกิดเชื้อโรคชนิด
ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคทั้งในระบบปศุสัตว์
และพืชผลการเกษตร จะเสียหายมากขึ้น
และในเวลาไม่นาน เมื่อ demand สูงกว่า supply จะยิ่งก่อให้เกิด
การแก่งแย่งอาหาร และ น้ำสะอาดมากขึ้น จากการที่แต่ละประเทศ
พยายามเตรียมสิ่งเหล่านี้เลี้ยงประชากรของตน การเอารัดเอา
เปรียบกันในสังคมโลกจะยิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้น

ผู้คนจะมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อความเครียด
มีสูงขึ้น อัตราการฆ่าตัวตายสูงขึ้น ผู้คนจะมองโลกอย่างบิดเบือน
ความอยุติธรรมจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และ คนส่วนใหญ่จะเริ่มละทิ้ง
คุณธรรมพื้นฐาน การเข่นฆ่า โจรผู้ร้าย อันเกิดจากความบีบคั้นจะ
ก่อตัวขึ้นในทุกสังคมที่ขาดคุณธรรมค้ำจุน

ความขัดแย้งเกิดขึ้นง่ายแต่ดับได้ยากเพราะความยึดมั่นถือมั่นเป็น
ทุนเดิม บวก กับการที่ต้องเอาตัวรอดให้ได้ แม้แต่ในครอบครัวเดียว
กันก็หาความรักใคร่ กลมเกลียวกันได้ยาก ครอบครัวจึงร้อนเป็นไฟ
และไม่ใช่ที่ๆเคยเป็นที่พักใจได้อย่างเคย

นี่คือ ข้อพิสูจน์ความจริงแห่งคำตรัสสอนของพระพุทธองค์ ว่า
"เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก" เพราะเมื่อใดที่มนุษย์ขาด เมตตาธรรม
เมื่อนั้น โลกก็เสียสมดุลย์ตามไปด้วย
โลกน่ะไม่แตกหรอก แต่ คนเท่านั้นที่จะสติแตกไปซะก่อน

 

เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองในแต่ละรอบ สิ่งมีชีวิตล้วนมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย และถ้าโลกหมุนรอบ ตัวเองช้าลงหรือเร็วขึ้นก็ย่อมส่งผลต่อโลกทั้งใบ

ในอดีตเมื่อกว่า 4,000 ล้านปีก่อน นักธรณีวิทยามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าโลกเต็มไปด้วยน้ำทะเล และหินชั้น(Sedimentary Rock) ที่ถือกำเนิดอยู่ภายใต้น้ำตั้งแต่ยุคนั้น ซึ่งหลักฐานนี้ได้ขัดแย้ง กับความเชื่อของนักดาราศาสตร์ที่กล่าวไว้ว่าดวงอาทิตย์ในโลกดึกดำบรรพ์มีความสว่างเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ของดวงอาทิตย์ในปัจจุบันเท่านั้น แต่มันกลับมีขนาดที่ใหญ่กว่า สาเหตุที่ทำให้เป็นเช่น นั้นก็เพราะว่าแรงดึงดูดในตัวมันทำให้ขนาดของมันค่อยๆลดลงในขณะที่อุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่าง ช้าๆโลกจึงปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งไม่ใช่น้ำทะเล

จากข้อถกเถียงนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์พากันหาคำตอบถึงความเป็นจริง โดยการตั้งสมมติฐานว่า ภูเขาไฟที่มีอยู่มากมายในอดีตได้ระเบิดพ่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมายังอากาศ ซึ่งก๊าซเหล่า นั้นมีปริมาณมากกว่าปัจจุบันกว่า 1,000 เท่า โลกจึงเกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกและมีอากาศ อบอ้าว อากาศที่อบอุ่นขึ้นนี้ทำให้น้ำแข็งค่อยๆละลาย และกลายเป็นน้ำดังที่นักธรณีวิทยากล่าวไว้

ถึงแม้ว่าสมมติฐานนี้จะค่อนข้างลงรอยกันได้ระหว่างนักดาราศาสตร์ และนักธรณีวิทยา แต่ว่าใน ส่วน ความเข้มข้นของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นอาจจะมากเกินไป ดังนั้น G. Jenkins แห่ง National Center for Atmospheric Research รัฐโคโลลาโด ผู้ที่เสนอว่าปริมาณ ของก๊าซดังกล่าวน่าจะมากเกินจริง เขาจึงเสนอทฤษฎีใหม่ ว่า อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นมาจากโลก ในอดีตหมุนเร็วกว่าโลกในปัจจุบันและเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำแข็งละลาย

ตามแบบจำลองของ G. Jenkins โลกในอดีตหมุนรอบตัวเองประมาณ 14 ชั่วโมงต่อ 1 วัน แต่ปัจจุบันโลกใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิม คือ 24 ชั่วโมง โดยการหมุนรอบตัวเองของโลกนั้น เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างดวงจันทร์และน้ำในมหาสมุทร จึงเกิดแรงต้านการหมุนของโลก

วงโคจรของโลกจะยืดออกมีความรีมากขึ้น และกลับมารีน้อยลงในทุกๆ รอบระยะเวลา 95,000 ปี ช่วงที่วงโคจรของโลกรีมากขึ้นอุณหภูมิของโลกค่อยๆ ลดลงจนก่อให้เกิดปรากฏการณ์ธารน้ำแข็งขยายตัว

หมายเหตุ ความเร็วในการโคจรและการหมุนรอบตัวเองของโลกจะผันแปรเป็นปฏิภาคผกผันกับระยะทางระว่างโลกกับดวงอาทิตย์ เมื่อโลกอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ความเร็วในการโคจรและหมุนรอบตัวเองจะเร็วขึ้น และจะช้าลงเมื่อโลกอยู่ไกลดวงอาทิตย์ในส่วนของนิวตันอธิบายการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ ตามกฎของเคปเลอร์นิวตันพบว่า “ขนาดของแรง จะแปรผกผันกับ ค่ากำลังสองของระยะห่างระหว่างวัตถุ” หรือกฎการแปรผกผันยกกำลังสอง” (Inverse square law)

เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงการหมุนรอบตัวเอง ผลกระทบต่อสภาวะอากาศจึงตามมา ถ้าหากว่าโลก เมื่ออดีต ปกคลุมไปด้วยน้ำทะเลและไม่มีแผ่นดินเลย อีกทั้งน้ำที่มีอยู่ยังสามารถสะท้อนแสงจาก ดวงอาทิตย์ได้น้อยกว่าแผ่นดิน การดูดกลืนจึงทำได้ดีกว่า ส่งผลให้มันเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ์สะสมไว้มาก อุณหภูมิของโลกจึงอยู่ในระดับอบอุ่น เพราะพลังงานที่ตัวมันสะสมมีมาก มันก็ย่อม จะแผ่รังสีออกไปยังชั้นบรรยากาศมากเช่นกัน

ดังนั้นโลกในยุค 4,000 ล้านปีก่อนตามทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์อย่าง G. Jenkins จึงไม่ได้มี น้ำแข็งปกคลุม ด้วยเหตุที่ว่าโลกหมุนรอบตัวเองเร็วมาก และการหมุนตัวอย่างเร็วนี้ทําให้นํ้าทะเล มีอุณหภูมิสูงกว่าน้ำทะเลในปัจจุบันถึง 10 องศาเซลเซียส เมื่ออากาศบริเวณด้านบนสูงก็ย่อมไม่ สามารถทำให้น้ำแข็งตัวได้

อาการเอียงของแกนการหมุนรอบตัวเองของโลก ซึ่งปัจจุบันทำให้แสงอาทิตย์ส่องตั้งฉากระหว่างละติจูด 23 องศา 30 ลิปดาใต้ ถึง 23 องศา 30 ลิปดาเหนือ แต่ในความเป็นจริงอาการเอียงของแกนโลกจะผันแปรอยู่ระหว่าง 21 องศา 30 ลิปดา ถึง 24 องศา 30 ลิปดา จะเห็นได้ชัดเจนในรอบ 42,000 ปี แกนโลกเอียงมากขึ้นฤดูร้อนจะร้อนมากขึ้นฤดูหนาวก็จะหนาวมากขึ้น แกนโลกเอียงน้อยลงฤดูร้อนจะร้อนน้อยลงฤดูหนาวจะหนาวน้อยลง

ดังนั้น เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้นน้ำแข็งที่ขั้วโลกจะละลาย เพราะโลกอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ความเร็วในการโคจรและหมุนรอบตัวเองจะเร็วขึ้น และจะช้าลงเมื่อโลกอยู่ไกลดวงอาทิตย์

• <ABBR title="2007-12-19 06:18:29">6 เดือน ผ่านไป</ABBR>

ที่มา:

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=702852
http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=34050

 

เดี๋ยวผมจะลองทดสอบดู นั่งจับเวลาเลยว่าไฟหลวงเปิดเมื่อไร = มืด
แล้วจะเอาผลทดสอบมาให้ดูเลย อยากรู้ว่ามันจิงป่าวที่ว่าห่างกันเป็นชั่วโมง

 

[music]http://203.130.131.118/sound/Untitle3.mp3[/music]

 

ช้าลงครับ โลกมีอายุไขวันนึงมันก็ต้องดับไป รวมถึง จักวาลนี้ก็มีอายุของมัน เกิด-ดับ ๆๆ.........

 

ขอบคุณมากนะคะ หนูกำลังจะเขียนเรียงความพอดีเลย[MUSIC][/MUSIC]

 

เร็วขึ้นและแกว่งด้วย

แต่มนุษย์อยู่ใต้อำนาจแม่เหล็กโลก รับรู้ด้วยระบบประสาทสัมผัสทางกายทั้งห้าไม่ได้


ชั้นเปลือกมวลน้อยลง แต่ของเหลวร้อนที่อยู่ใต้เปลือกยังเท่าเดิม
แรงขับเท่าเดิม แต่น้ำหนักที่เป็นภาระขับเคลื่อนลดน้อยลง เราก็เลยไม่เห็นว่ามันจะมีเหตุผลให้หมุนช้าลง
จุดศุนย์ถ่วงเดิม... ถูกเปลี่ยนแปลงปริมาตรและน้ำหนัก
กะทะล้อทั้งเบี้ยวและบิ่น แล้วล้อมันจะไม่แกว่งยังไงได้

อย่างนี้ต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อสถานเดียวครับ

 

ได้สาระความรู้ครบครันเลย