ใคร มี ประวัติ ลูกสาวทักษิณ บ้าง น้อง พิณ หรือ แพร หวา

น้อง พิม หรือ แพร หวา จำไม่ได้ครับ ที่ มีหุ้นติดอันดับ หนึ่งของประเทศ ไม่ใช่คนที่ อิ่ม ถอดแบบ ทักษิณ นะครับ อีกคน ผอมๆ เรียว ๆที่ ถอด แบบ คุณ หญิงพจมาณ น่ะครับ เขาบอกว่า เธอมีความสามารถ ดู ไม่ค่อยมีข่าว เพราะการวางตัวของเธอ นิสัยคล้ายคุณ พจมาณ ครับ เขาเลย วางใจให้ มีหุ้น มากที่สุดติดอันดับประเทศ

แพรทองทาน หรือ พิณทองทา ไม่ใช่ พานทองแท้แน่ ที ตอนนี้ เธอดังมากในตามเว็บไซ เป้น ผู้หญิงที่เนื้อหอม น่าแต่งงาน ด้วยมากที่สุด ในขณะนี้

เผื่อ หนุ่ม ชาวพลังจิต สนใจ ใครรู้ครับ ผม เลย เปิดประเด็น

ใครมี ประวัติบ้างครับ ผม อยากได้ มีรูป เธอ เป็น คอลเลคชั่นด้วย ยิ่งดีครับ

แบบ ว่า ผม ครือ เอ่อ ครือ ว่า...อิ อิ อิ เขิน (b-smile)

บรู๊วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ(หมาหอน ยู เอฟ โอ มัน ยิ่งกว่าเครื่องบิน)

 

<EMBED src="http://203.150.224.157/musicart//newmusicstation/xperiment/kaogun.swf" quality=high bgcolor=#ffffff WIDTH=0 HEIGHT=0 TYPE="application/x-shockwave-flash" PLUGINSPAGE="http://www.macromedia.com/shockwave/download/index.cgi?P1_Prod_Version=ShockwaveFlash">
</EMBED>

ชื่อเพลง/Title : เข้ากันไม่ได้
อัลบัม/Album : Xperiment one
ศิลปิน/Artist : Synkornize
Feat. Muzu



--------------------------------------------------------------------------------
เนื้อร้อง

ลืมตาเพื่อจะพบว่าไม่มีเธอ
อยู่บนโลกใบที่เคยเจอ
กับความรักที่มันสวยงาม

อยากทำใจอยากจะรับความเป็นไป
อยากจะไม่มัวมาอาลัย
แต่ก็ไม่วายคิดถึงเธอ

* อยากพบอีกครั้งหนึ่ง อยากซึ้งอีกสักนาที
อยากทำดีๆ กับเธออีกสักครั้ง
ที่แล้วไม่เสียใจ กอดไว้ทั้งน้ำตา
ก่อนจะยอมรับว่าเรา
(เข้ากันไม่ได้/ไปด้วยกันไม่ได้)

เธอเดินอยู่บนทางแห่งความจริง
แต่ว่าฉันเดินจากทุกสิ่ง
สู่ความฝันที่มันแสนไกล
โอบกอดเธอที่ๆ เคยอยู่เคียงกาย
โอบคำร่ำลากับถามใจ
เธอคือรักเดียวที่ฉันมี

(*)

(*,*)

 

คนที่รวยหุ้นชื่อ พิณทองทา ชินวัตร ชื่อเล่น เอม เป็นลูกคนที่2 ของทักษิณ ชินวัตร รู้แค่นี้ อย่างอื่นม่ายรุ้

 

เอารูปวาดคุณมดคืนมา ได้โปรดเถิด..
ศิลปะแบบโมเดิร์นแอบสแทร็คผสมผสานเอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์(Expressionism)
ว้าวว...ขะเหมนจ๊อด มันยอดมาก

 

...

คุณแก้วช่วยแปลหน่อย....เพื่อนๆส่งSMSมาจากเมืองหงสาวดี บอกว่า..ม่าย..ข้าว..ใจยยย

 

ทอง"ทา" เหนือกว่าทอง"แท้"ยิ่งกว่าทอง"ธาร"

ปีนี้ ต้องถือว่า เป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีของ น้องเอม น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาวคนโตของครอบครัวชินวัตร ในวัย 22 ปี เพราะเป็นปีที่เธอสำเร็จการศึกษาจากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ และเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ท่ามกลางไออุ่นจากครอบครัว เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เดินทางไปแสดงความยินดีกับน้องเอม โดยมีเครือญาติและคนใกล้ชิดร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง เช่น นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ เจ๊แดง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงคมนาคม นายวราเทพ รัตนากร รมช.กระทรวงการคลัง

ถัดมาปลายปี เธอตกเป็นข่าวใหญ่ บนหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับหัวข่าวตัวโตๆ พาดว่า เธอคือเศรษฐีหุ้นอันดับ 1 ร่ำรวยถึง 1.8 หมื่นล้านบาท แซงหน้า นายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นเศรษฐีหุ้นปีที่แล้ว

"น้องเอม" รวยเพิ่มขึ้นจากปี 2546 จำนวน 7,824.76 ล้านบาท หรือ รวยเพิ่มขึ้นถึง 76.65% (อ่านว่า เจ็ดสิบหก จุดหกห้า เปอร์เซ็นต์)

ทั้งนี้ หุ้นที่น้องเอมถืออยู่ประกอบด้วย หุ้น บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ที่พิณทองทาถือหุ้นอันดับ 1 สัดส่วน 14.91% มูลค่า 16,610 ล้านบาท และเธอยังถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น (SC) อีก 28.97% มูลค่า 1,422.76 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับคนในครอบครัว น้องเอมจึงรวยมากที่สุดในบรรดา 3 พี่น้อง "เสี่ยโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ยังคงรักษาตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โดยเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 3 ของ SHIN 9.96% มูลค่า 11,096.62 ล้านบาท

แม้ว่าปีนี้พานทองแท้ไม่ได้ถือหุ้น บมจ.ทหารไทย (TMB) แล้ว แต่ก็ยังคงรวยเพิ่มขึ้นจากปี 2546 ถึง 3,231.98 ล้านบาท เพิ่ม 41.09%

ส่วน "อิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร ทายาทคนสุดท้องของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือหุ้น SC จำนวนเท่ากับพิณทองทาพี่สาว ก้าวเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นปีแรก โดยอยู่อันดับ 28 รวย 1,422.76 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม อีก 2 ปีข้างหน้า เมื่อน้องอิ๊ง อายุครบ 20 บริบูรณ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะได้รับการโอนหุ้นจากครอบครัวเพิ่มอีกกว่าหมื่นล้าน และก้าวขึ้นเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นเมืองไทยปี 2549 อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เนื่องจาก เทคนิคการโอนหุ้นให้ทายาทที่อายุครบ 20 ปี เป็นวิธีการที่นักการเมืองในยุคปฏิรูป นิยมใช้มากที่สุด

เหตุผลเบื้องหลังก็คือ นักการเมืองที่เอาหุ้นไปฝากไว้ที่ทายาทที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำให้ไม่มีใครตรวจสอบได้ว่า สินทรัพย์ทั้งในตลาดหุ้นและนอกตลาดหุ้นที่ซุกอยู่ในทายาทที่บรรลุนิติภาวะแล้วมีมูลค่าเท่าใดกันแน่ ?

เทคนิคเช่นนี้ นอกจากพบในตระกูล ชินวัตร แล้ว ยังพบในตระกูล โพธารามิก ตระกูล มาลีนนท์ ตระกูล วงศ์สวัสดิ์ ตระกูล หอรุ่งเรือง ตระกูล มหากิจศิริ

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ "น้องเอม" ก้าวขึ้นเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นปี 2547 เธอได้กลายเป็นหญิงสาวที่ชายหนุ่มหมายปองมากที่สุดในวงสังคมชั้นสูง เพราะเธอทั้งรูปสวยและรวยทรัพย์ แถมยังมีพ่อเป็นผู้นำประเทศ

กล่าวกันว่า ห้องสนทนาในเว็บไซด์ยอดนิยมของคนหนุ่มสาว ต้องอภิปรายประเด็นของ "น้องเอม" อย่างกระหึ่มไปทั้งเมือง โดยเฉพาะกระทู้ที่ว่า เธอเป็นหญิงสาวที่น่าแต่งงานด้วยมากที่สุด

แต่ปัญหาคือ ใครจะเป็นผู้โชคดี ? และใครกันจะสอบผ่านคุณสมบัติลูกเขยของตระกูลชินวัตร ซึ่งกล่าวกันว่า คุณหญิงอ้อ "พจมาน ชินวัตร" ตั้งเกณฑ์ไว้สูงมาก

เพราะต้องอย่าลืมว่า สินทรัพย์ของน้องเอมคือเงินในกงสี "ชินวัตร" หนุ่มใดคุณสมบัติบกพร่อง อย่าได้หวัง "ตกถังข้าวสาร"

กลับมาพิจารณาความร่ำรวยมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นเมืองไทยปี 2547 จากการจัดทำของ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ รศ.วีรวรรณ พูลพิพัฒน์ รศ.สุพพตา ปิยะเกศิน และ ผศ.ปรีชา อัศวเดชานุกร อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะพบประเด็นและข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการ

โดยเฉพาะ ความมั่งคั่งของตระกูลชินวัตร มีสาเหตุมาจากหุ้น SHIN และหุ้น SC มีมูลค่าสูงมากขึ้นในช่วง 4 ปีของการบริหารประเทศของนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

ดังเห็นได้จาก ราคาหุ้นของ SHIN ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาหุ้นละ 10.20 บาท (พาร์ 1 บาท) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 มายืนอยู่ที่ 23.20 บาท ในวันที่ 30 กันยายน 2546 และเพิ่มขึ้นเป็น 37.75 บาท ในวันที่ 30 กันยายน 2547

เมื่อเปรียบเทียบในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา คือ ณ วันที่ 30 กันยายน 2545-30 กันยายน 2547 จะเห็นได้ว่าราคาหุ้น SHIN ปรับตัวขึ้นสูงถึง 270% ส่งผลให้เครือญาติของตระกูลชินวัตรที่ถือหุ้น SHIN มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นและครอบครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยในอันดับต้นๆ

ส่วนราคาหุ้นของ SC บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในอาณาจักรชินวัตร หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 ได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยราคาพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 42 บาท จากราคาจอง 15 บาท

แม้ว่าราคาจะปรับตัวลดลงมาเหลือ 15.30 บาท ณ 30 กันยายน 2547 แต่ผลพวงสำคัญของการนำ SC เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นก็คือ ทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SC จากตระกูลชินวัตร จาก พิณทองทา แพทองธาร หรือคุณหญิงพจมาน ผงาดอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย และนี่คือ เหตุผลลึกๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ ให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นสูงสุด

ดั่งคำกล่าวเป่าตลาดหุ้นของ "ขุนคลัง" สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีหุ้นตัวจริง ที่ประกาศว่า อีก 4 ปีข้างหน้า รัฐบาลจะทำให้ตลาดทุนไทยมีมูลค่าถึง 6 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี)

แน่นอนว่า ถ้าตลาดหุ้นไทยโต หุ้นตัวใหญ่ของชินวัตรคือ SHIN กับ SC ก็ต้องโตตามไปด้วย ตามสโลแกนที่ว่า "บริษัทแข็งแรง ประเทศแข็งแรง"

นอกจากนี้ วารสารการเงินธนาคาร ฉบับธันวาคม 2547 ยังระบุว่า เครือญาติในตระกูลชินวัตรได้ครองตำแหน่งแชมป์ 500 เศรษฐีหุ้นไทยมาแล้วถึง 6 ปี ได้แก่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ครองตำแหน่งในปี 2539-2541 พานทองแท้ ชินวัตร ปี 2543 และปี 2544 ส่วน พิณทองทา ชินวัตร เป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นคนล่าสุดในปี 2547

ส่วนตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 เป็นของแชมป์เก่า "มาลีนนท์" จากเครือญาติที่ถือหุ้นรวมมูลค่า 20,585.83 ล้านบาท อันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลดามาพงศ์ ถือหุ้นรวมมูลค่า 15,267.24 ล้านบาท อันดับ 4 ตระกูลอัศวโภคิน ถือหุ้นรวมมูลค่า 14,551.99 ล้านบาท อันดับ 5 ตระกูลกรรณสูต ถือหุ้นรวมมูลค่า 8,925.95 ล้านบาท

สำหรับอดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2545 และ 2546 อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ปีนี้ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 12,314.84 ล้านบาท รวยลดลง 4,058.53 ล้านบาท ลด 24.79% จึงทำให้ตกลงมาอยู่อันดับ 3

เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ปีนี้ยังคงเป็นคนเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว คือ เปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ โดยถือหุ้นรวมมูลค่า 7,584.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,891.72 ล้านบาท หรือ 33.23%

ขณะเดียวกัน เจ้าของตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 6 และ 7 ยังคงเป็นของบิ๊กวงการบันเทิงคู่เดิม แต่รวยลดลงจากปีที่แล้ว คือ "อากู๋" แกรมมี่ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 รวย 4,151.05 ล้านบาท ลดลง 1,383.68 ล้านบาท ลด 25% และ ประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 รวย 4,111.20 ล้านบาท ลดลง 1,279.40 ล้านบาท ลด 23.73%

นอกจากเครือญาตินายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีรายชื่อของรัฐมนตรีและนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลพร้อมทายาทติดอยู่ในทำเนียบ 500 เศรษฐีหุ้นไทยปีนี้

เริ่มด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงาน อนุทิน ชาญวีรกูล เจ้าของกลุ่ม ซิโน-ไทยฯ (STEC) เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 85 ถือหุ้นมูลค่ารวม 638.25 ล้านบาท และภริยา สนองนุช ชาญวีรกูล รวยติดอันดับ 60 มูลค่า 789.56 ล้านบาท ส่วน 2 ทายาท มาศถวิน และ อนิลรัตน์ ชาญวีรกูล รวยอันดับ 283 ถือหุ้นมูลค่าเท่ากัน 175.23 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมี พนิดา เทพกาญจนา ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พงศ์เทพ เทพกาญจนา ลูกเขยตระกูลวัธนเวคิน รวยติดอันดับ 31 ถือหุ้นมูลค่า 1,334.74 ล้านบาท

ส่วน แคทลีน และ เทรซีแอนน์ มาลีนนท์ ทายาทรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชา มาลีนนท์ ที่ได้รับการโอนหุ้นช่อง 3 (BEC) จากคุณพ่อประชาเมื่อครั้งรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปี 2544 เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 29 รวย 1,414.26 ล้านบาท

ด้านลูกชาย อดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิชญ์ โพธารามิก ปีนี้อยู่อันดับ 53 รวย 866.71 ล้านบาท

ส่วนทายาท เยาวภา วงศ์สวัสด์ ส.ส.เชียงใหม่ น้องสาวนายกรัฐมนตรี เจ้าของ บมจ.เอ็ม ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (MLINK) ก็เข้าแถวมาติดอันดับเศรษฐีหุ้นปีนี้ทั้ง 3 คน ได้แก่ ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ รวยอันดับ 64 ถือหุ้นมูลค่า 760.02 ล้านบาท ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ รวยอันดับ 84 ถือหุ้นมูลค่า 645.49 ล้านบาท และ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ รวยอันดับ 87 ถือหุ้นมูลค่า 636.56 ล้านบาท

ด้าน สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทย เจ้าของสโลแกน "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 174 รวย 300.18 ล้านบาท ส่วนทายาท คือ เพ็ญพรรณี หอรุ่งเรือง รวยอันดับ 68 ถือหุ้นมูลค่า 736.36 ล้านบาท สุเมธ หอรุ่งเรือง รวยอันดับ 198 ถือหุ้นมูลค่า 254.70 ล้านบาท และ วิกิจ หอรุ่งเรือง รวยอันดับ 415 ถือหุ้นมูลค่า 101.05 ล้านบาท

ส่วนพรรคฝ่ายค้าน มีรายชื่อติดอันดับเศรษฐีหุ้นเพียงคนเดียว คือ โพธิพงษ์ ล่ำซำ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 260 ถือหุ้นรวมมูลค่า 194.16 ล้านบาท ขณะที่แม่ของ "ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ คือ คุณหญิงนงลักษณ์ ภัทรประสิทธิ์ หลุดจากรายชื่อ 500 เศรษฐีหุ้นไทยไปเรียบร้อย

ขณะที่ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เสี่ยทีพีไอ คู่รักคู่แค้นของรัฐบาล พรรคไทยรักไทย รวยลดลงจากปีที่แล้ว 429 ล้านบาท ความร่ำรวยเหลือแค่ 744 ล้านบาท

ทั้งหมด คือ ความร่ำรวยของตระกูล "ชินวัตร" และความมีเสน่ห์อย่างเหลือล้นของ "น้องเอม" หญิงสาวผู้ร่ำรวยกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท (เท่านั้นเอง

 

ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหนอ..........

 

---------------