ให้บูชาวัตถุมงคลเพื่อสร้างกุฏิ ปิดทองพระ ยอดฉัตร (ปิดกระทู้)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ลูกพ่อลิงดำ, 11 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    [​IMG]

    ภาพ ครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชัยโย บูรพาอาจารย์ ครูบาอภิชัยขาวปี ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิชัย และศิษยานุศิษย์ครูบาศรีวิชัย

    [​IMG]

    ครูบาอภิชัยขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิชัย มหาโพธิสัตว์เจ้า ที่ครูบาเจ้าไว้วางใจมากที่สุด ให้เป็นตัวตายตัวแทน และกล่าวว่า ตุ๋ปี๋มีฤทธิ์มาก ไม่มีใครเอาลงนอกจากกู พระอาจารย์ครูบาบุญเป็ง

    [​IMG]

    ครูบาบุญเป็ง คัมภีโร ศิษย์เอกครูบาอภิชัยขาวปี พระสุปฏิปันโนผู้ดำเนินรอยตามครูบาอภิชัยขาวปี มีจริยาวัตรงดงาม มักน้อย สันโดษ ชอบปลิกวิเวก ทำกรรมฐาน

    ให้บูชาวัตถุมงคลเพื่อบูรณะปฏิสังขรกุฏิที่ถูกไฟไหม้ ยอดฉัตรพระพุทธรูป ศาลา และถมที่ดิน วัดทุ่งปูน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ (ครูบาบุญเป็ง คัมภีโร ศิษย์เอกครูบาอภิชัยขาวปี)
    เนื่องจากวัดทุ่งปูน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กุฏิถูกไฟไหม้ พระ-เณร ต้องอยู่กระต็อบ ทางวัดกำลังบูรณะศาลา และยอดฉัตรพระพุทธรูป อันมี ครูบาบุญเป็ง คัมภีโร เป็นพระสุปฏิปันโน ดำเนินรอยตามครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี เป็นเจ้าอาวาสและประธานสงฆ์ จึงขออนุญาตเปิดให้บูชาวัตถุมงคลส่วนตัวและของทางวัด เพื่อบูรณะปฏิสังขรกุฏิที่ถูกไฟไหม้ ยอดฉัตรพระพุทธรูป ศาลา และถมที่ดิน เนื่องจากทางวัดยังขาดปัจจัยอีกมาก และครูบาเป็นพระป่า พระปฏิบัติ จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เนื่องจากท่านเป็นพระที่เก็บตัว และ ท่านยังเป็นพระนักพัฒนา สร้างโรงเรียน ช่วยสร้างศาลา โบสถ์ แจกทุนการศึกษา โดยไม่สะสมปัจจัย ผมและคณะศิษยานุศิษย์จึงนำวัตถุมงคลออกมาให้บูชาเพื่อช่วยครูบาครับ

    ข้อ 1 วัตถุมงคลส่วนใหญ่จะถวายปัจจัยทั้งหมด ทั้งนึ้มีทั้งวัตถุมงคลของทางวัดและศิษยานุศิษย์ มีบางส่วนที่หักถวาย และจะบอกทุกครั้ง
    ข้อ 2 ปัจจัยที่ได้จากวัตถุมงคลจะรวมยอดถวายครูบาบุญเป็ง คัมภีโรและจะถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐานให้ทราบว่า ได้ถวายปัจจัยจริง
    ข้อ 3 ขอค่าจัดส่ง 50 บาท(EMS) ทุกครั้งในการส่งของจะได้ถึงมือท่านอย่างรวดเร็วครับ
    ข้อ 4 สามารถสอบถามวัดทุ่งปูนได้โดยตรงเพราะได้รับอนุญาตแล้ว
    เบอร์ 0821827815
    ข้อ 5 ให้โอนเงินมาที่ นายธนกร เตมียบุตร สาขา คาร์ฟูร์ ลาดพร้าว บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขที่บัญชี 928-2017-487 ปัจจัยที่ได้จากวัตถุมงคลจะรวมยอดถวายครูบาบุญเป็ง คัมภีโรและจะถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐานให้ทราบว่า ได้ถวายปัจจัยจริง

    ข้อ6 เบอร์ติดต่อผม 0810173129 ครับ นายธนกร เตมียบุตร


    ประวัติ ครูบาบุญเป็ง คัมภีโร โดยย่อ

    ครูบาบุญเป็ง คัมภีโร เจ้าอาวาสวัดทุ่งปูน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นพระสุปฏิปันโน จริยวัตร ข้อวัตรไม่เคยด่างพรอย อายุ 60 กว่า ปี พรรษา 40 กว่า บวชตั้งแต่อายุ 20 ปี อยู่กับครูบาเจ้าขาวปี โดยเป็นพระที่ใกล้ชิด ดูแลครูบาเจ้าจนมรณภาพ จนครูบาเจ้ามรณภาพ ท่านเป็นศิษย์เอกที่ไดรับสืบทอดวิชาและกรรมฐานมากที่สุดองค์หนึ่ง นอกจากนั้นท่านยังเป็นพระที่ครูบาเจ้าให้ความไว้วางใจมากที่สุด หลังจากครูบาเจ้ามรณภาพ ท่านอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทผาหนามพักหนึ่ง มีจิตคิดอยากจะวิเวก ออกกรรมฐาน จึงสละตำแหน่งเจ้าอาวาส และย้ายมาอยู่วัดทุ่งปูน ซึ่งเป้นสถานที่วิเวก สัปปายะ อยู่บนเขา เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนา จนถึงปัจจุบัน

    จนถึงปัจจุบัน

    ข้อวัตร จริยาวัตร

    ท่านเป็นผู้ชอบสวดมนต์และนั่งกรรรมฐาน โดยจะสวดมนต์วันล่ะ 4 รอบ รอบล่ะไม่ต่ำกว่าชั่วโมง ชอบนั่งกรรมฐานเป็นนิจ มีปฏิปทาเยือกเย็น พูดน้อย ไม่ดุไม่ด่าใคร ชอบทำจริงมากกว่าพูด เป็นผู้มีข้อวัตรและปฏิทาข้อวัตรเคร่งคัด ในการปฏิบัติท่านเป็นผู้ที่มากไปด้วยความเพียรองค์หนึ่ง

    ปฏิปทา

    เป็นพระนักพัฒนาชอบสร้างวัด ชอบบริจาคเงิน-สิ่งของ ให้ทุนการศึกษา และเป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยง ท่านต้องต่อสู้กับศาสนาคริต์ ที่จะส่งนักบุญของเขาไปในหมู่บ้านกะเหรี่ยงต่างๆโดยต้องการจะกลืนกินศาสนาพุทธ(ใช้เงินจ้างคนให้มาร่วมศาสนา จ้างทีไม่ต่ำกว่าหมื่น) มีหลายหมู่บ้านที่ถูกกลืนกิน ก็ได้มีท่านที่เป็นหลักธรรม หลักใหญ่ ทำให้หมู่บ้านกะเหรี่ยงหลายบ้านกลับมานับถือศาสนาพุทธและผู้ที่นับถืออยู่แล้วก็มีศรัทธามากขึ้น

    รู้วาระจิต

    พระอาจารย์ท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่า ท่านทดสอบครูบาเป็น 10 ครั้ง จนมั่นใจว่า ท่านเป็นผู้มีทางสุคโตอันเป็นที่ไป เป็นพระอริยสงฆ์องค์หนึ่งที่ตั้งมั่นในพระศาสนา
    และมีมรรคปฏิปทาเสมอต้นเสมอปลาย ไม่หวนกลับในกองกิเลศ ท่านได้เล่าเหตุการณ์ยกตัวอย่างในการทดสอบว่า มีครั้งหนึ่งท่านคิดในใจว่า "อยากจะสวดปาฏิโมกข์" ครูบาจึงพูดออกมาว่า "ท่าน สวดปาฏิโมกข์กัน" และอีกครั้งหนึ่ง ท่านคิดในใจว่าอยากจะออกมาดูศาลา รุ่งเช้า ครูบา พูดว่า ท่าน"ไป ดูศาลากัน " ครูบาท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่ปิดตัว เปรียบประดุจพญาราชสีห์ที่อยู่ตามป่าเขา ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนองค์หนึ่งที่วาระจิตไวมาก

    พระสุปฏิปันโนที่น่ากราบไหว้

    สุดท้ายนึ้อยากจะเชิญชวน ให้นักบุญทุกท่านได้มากราบไหว้สา ครูบาบุญเป็ง คัมภีโร พระสุปฏิปันโนที่ปิดตัว ท่านจะมีความสุขใจ และข้อคิดคติธรรม ในการภาวนา ที่ท่านปฏิบัติด้วยความเพียร เป็นข้อคิดในการปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผลนิพพานและการใช้ชีวิตประจำวัน กลับไป รวมถึงจะมีความเจริญ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เนื่องจากการทำบุญกับพระอริยสงฆ์นั้นจะได้บุญมหาศาล และร่วมสร้างเสนาสนะ กุฏิ พระ-เณร ที่ถูกไฟไหม้ รวมถึงพระพุทธรูปที่กำลังก่อสร้างอยู่ การสร้างเสนาสนะ พระพุทธรูป นั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “พุทธบูชา มหาเตชะวันโต” “การบูชาพระพุทธเจ้าทำให้มีเดชมีอำนาจมาก”

    บอกได้คำเดี่ยวว่าประทับใจ ครับ

    ปล. ภาพถ่ายศาลากุฏิ บรรยากาศวัดจะนำมาให้ชมวันอาทิตย์
    เนื่องจากทางวัดไม่มีอินเตอร์เน็ต และจะนำภาพมามอบให้ผมวันาอาทิตย์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มีนาคม 2011
  2. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    รายการที่ 1 พระเสด็จกลับ วัดสารอด หลวงปู่สุภา ปี 2506 อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์ในสายเขาอ้อ ศิษย์อาจารย์เอียด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เนื้อผงสีเหลือง(หายากที่สุดในบรรดาสี) 3000 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ พระมหัศจรรย์นำลงทะเลไปแล้วกลับเรียกเสด็จกลับมาได้ ปิดรายการแล้วครับ

    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="728"><tbody><tr><td>

    </td></tr></tbody></table>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03984.jpg
      DSC03984.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.2 KB
      เปิดดู:
      477
    • DSC03985.jpg
      DSC03985.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.9 KB
      เปิดดู:
      313
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2011
  3. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    1. ว่านหนุมานเดินดง
    2. ว่านแมวซาง
    3. ว่านตาลปัตรฤาษี
    4. ว่านเพชรน้อย
    5. ว่าเพชรหึง
    6. ว่านหนังแห้งตัวเมีย
    7. ว่านเขียวมรกต
    8. ว่านปราบพระนคร
    9. ว่านคันทมาลา
    10. ว่านขามเครือ
    11. ว่านพระยาลิ้นดำ
    12. ว่านหอกหัก
    13. ว่านขุนแผนสะกดทัพ
    14. ว่านสมเด็จนางพญา
    15. ว่านมหาเสน่ห์
    16. ว่านหนังแห้ง
    17. ว่านนางคุ้ม
    18. ว่านแสงอาทิตย์
    19. ว่านนิลพัตร
    20. ว่านพระจันทร์
    21. ว่านกระชายดำ
    22. ว่านชัยมงคล
    23. ว่านคางคกเหล็ก
    24. ว่านหน้าทั่งตัวเมีย
    25. ว่านรางจืด
    26. ว่านขาใหญ่
    27. ว่านหนังเหนียว
    28. ว่านพนักทอง
    29. ว่านไพลดำ
    30. ว่านหัวเดียว
    31. ว่านลิ้นมังกร
    32. ว่านสบู่ตัน
    33. ว่านกงจักรพระอินทร์
    34. ว่านนางรำ

    ดอกไม้ต่างชื่อ ต่างสี 108 ชนิด
    1. ดอกว่านขันหมากเงิน
    2. ดอกว่านขันหมากทอง
    3. ดอกปทุมบัวหลวง
    4. ดอกชัยพฤกษ์
    5. ดอกพิกุล
    6. ดอกบุญนาค
    7. ดอกสาระภี
    8. ดอกกาหลง
    9. ดอกหญ้าเจ้าชู้
    10. ดอกจำปา
    11. ดอกจำปี
    12. ดอกบัวสวรรค์
    13. ดอกเสือหมอบ
    14. ดอกยูงทอง
    15. ดอกราชาวดี
    16. ดอกราตรี
    17. ดอกพิกุลทอง
    18. ดอกยี่โถ
    19. ดอกทองกวาว
    20. ดอกมะลิวัลย์
    21. ดอกผกามาส
    22. ดอกซ่อนกลิ่น
    23. ดอกว่านลิ้นมังกร
    24. ดอกลั่นทม
    25. ดอกชงโค
    26. ดอกเบญจมาส
    27. ดอกทรงบาดาล
    28. ดอกกระดังงา
    29. ดอกพุทธรักษา
    30. ดอกเข็มเหลือง
    31. ดอกบานไม่รู้โรย
    32. ดอกชบา
    33. ดอกแก้ว
    34. ดอกคัดเค้า
    35. ดอกสาวหยุด
    36. ดอกพุทธชาติ
    37. ดอกพุดซ้อน
    38. ดอกหงอนไก่
    39. ดอกรัก
    40. ดอกรักซ้อน
    41. ดอกว่านเสี่ยงโชค
    42. ดอกกล้วยไม้เขา
    43. ดอกปทุมบัวขาว
    44. ดอกยูงเล็ก
    45. ดอกชำมนาด
    46. ดอกสร้อยทอง
    47. ดอกมะลิลา
    48. ดอกมหาวงษ์
    49. ดอกชวนชม
    50. ดอกว่านงาช้าง
    51. ดอกกุหลาบ
    52. ดอกกินติ
    53. ดอกเขี้ยวแตก
    54. ดอกแคฝรั่ง
    55. ดอกเฟื่องฟ้า
    56. ดอกเสี่ยงทาย
    57. ดอกแจ่มจันทร์
    58. ดอกมะเขือพวง
    59. ดอกกะถินพิมาน
    60. ดอกแจง
    61. ดอกทุ้งฟ้า
    62. ดอกจานแดง
    63. ดอกบานบุรี
    64. ดอกแพงพวยฝรั่ง
    65. ดอกกล้วยไม้ดิน
    66. ดอกเฟื่องชมภู
    67. ดอกรักแดง
    68. ดอกว่านหางกระรอก
    69. ดอกทองอุไร
    70. ดอกเข็มขาว
    71. ดอกสุคนธรส
    72. ดอกเข็มแดง
    73. ดอกรักเร่
    74. ดอกดาวเรือง
    75. ดอกบานชื่น
    76. ดอกดาวกระจาย
    77. ดอกเข็มชมภู
    78. ดอกนางแย้ม
    79. ดอกเการัก
    80. ดอกแพงพวยบก
    81. ดอกอโศก
    82. ดอกแคทราย
    83. ดอกคณฑีสอ
    84. ดอกผกากรอง
    85. ดอกทองพันชั่ง
    86. ดอกมะลิซ้อน
    87. ดอกพุทราซ้อน
    88. ดอกการะเกด
    89. ดอกชุมเรียง
    90. ดอกทับทิมทอง
    91. ดอกถั่วหนัง
    92. ดอกกรรณิกา
    93. ดอกว่านเศรษฐี
    94. ดอกฝ้าย
    95. ดอกดาบนารายณ์
    96. ดอกลำเจียก
    97. ดอกทองหลางน้ำ
    98. ดอกปีกนกกระทา
    99. ดอกฤาษีผสม
    100. ดอกฉัตรมงคล
    101. ดอกทานตะวัน
    102. ดอกกระถินบ้าน
    103. ดอกอินทนิล
    104. ดอกเข็มเศรษฐี
    105. ดอกราชพฤกษ์
    106. ดอกนางตามชู้
    107. ดอกอย่าลืมฉัน
    108. ดอกรักไม่ลืม

    ดอกไม้ วันจตุรงคสันนิบาต 108 วัด
    1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    2. วัดบวรนิเวศวิหาร
    3. วัดราชบพิธ
    4. วัดมกุฏกษัตริย์
    5. วัดเบญจมบพิตร
    6. วัดพระเชตุพน
    7. วัดสระเกศ
    8. วัดโสมนัสวิหาร
    9. วัดราษร์บูรณะ
    10. วัดบพิธภิมุข
    11. วัดชัยชนะสงคราม
    12. วัดสัตตาราม
    13. วัดปรินายก
    14. วัดสุนทรธรรมทาน
    15. วัดตรีทศเทพ
    16. วัดราชนัดดา
    17. วัดเทพธิดา
    18. วัดมหรรณ์
    19. วัดบูรณะศิริ
    20. วัดสุทัศน์
    21. วัดราชประดิษฐ์
     
  4. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    1. วัดราชผาติการาม
    2. วัดบรมนิวาส
    3. วัดปทุมคงคา
    4. วัดสัมพันธ์วงศ์
    5. วัดกันมาตุยาราม
    6. วัดไตรมิตร
    7. วัดดวงแข
    8. วัดชัยมงคล
    9. วัดชำนิหัตการ
    10. วัดสระบัว
    11. วัดราชาธิวาส
    12. วัดนรนารถ
    13. วัดเทวราชกุญชร
    14. วัดสังเวช
    15. วัดพลับพลาไชย
    16. วัดคณิกาผล
    17. วัดมหาพฤฒาราม
    18. วัดแก้วฟ้าล่าง
    19. วัดหัวลำโพง
    20. วัดสามพระยา
    21. วัดอนงคาราม
    22. วัดปุบผาราม
    23. วัดพิชัยยาติการาม
    24. วัดหิรัญรูจีวรวิหาร
    25. วัดทองนพคุณ
    26. วัดทองธรรมชาติ
    27. วัดขุนจันทร์
    28. วัดนวลนรดิษฐ์
    29. วัดปาน้ำภาษีเจริญ
    30. วัดเวฬุราชิน
    31. วัดราชคฤห์
    32. วัดเสวตฉัตร
    33. วัดโพธิ์นิมิตร
    34. วัดราชโอรส
    35. วัดนางรอง
    36. วัดหนัง
    37. วัดอัปสรสวรรค์
    38. วัดจันทาราม
    39. วัดสุขาราม
    40. วัดใหญ่ศรีสุพรรณ
    41. วัดอินทาราม
    42. วัดบางไส้ไก่
    43. วัดสังข์กระจาย
    44. วัดราชสิทธิราม
    45. วัดหงษ์
    46. วัดอรุณ
    47. วัดเครือวัลย์
    48. วัดนาคกลาง
    49. วัดพระยาทำ
    50. วัดอัมรินทร์
    51. วัดฉิม
    52. วัดวิเศษการ
    53. วัดระฆังโฆสิตาราม
    54. วัดช่องลม
    55. วัดละครทำ
    56. วัดชิโนรส
    57. วัดชนะสงคราม
    58. วัดอินทรวิหาร
    59. วัดมหาธาตุ
    60. วัดประยุรวงศาวาส
    61. วัดกัลยาณมิตร
    62. วัดดงมูลเหล็ก
    63. วัดเสน่หา นครปฐม
    64. วัดพระปฐมเจดีย์
    65. วัดไผ่ล้อม
    66. วัดพระงาม
    67. วัดท่าตำหนัก
    68. วัดทัพหลวง
    69. วัดธรรมศาลา
    70. วัดกลางบางแก้ว
    71. วัดพระประโทน
    72. วัดสรรเพชร
    73. วัดพระทรง เพชรบุรี
    74. วัดมหาสมณาราม
    75. วัดสนามพรหมณ์
    76. วัดลาด
    77. วัดคงคาราม
    78. วัดป้อม
    79. วัดยาง
    80. วัดข่อย
    81. วัดสัตตนาถปริวัติ
    82. วัดสีชมภู
    83. วัดพลับ เพชรบุรี
    84. วัดห้วยจระเข้
    85. วัดตุ๊กตา
    86. วัดชีประเสริฐ
    87. วัดศรีสุริวงศ์

    น้ำในมหานที 9 สาย
    1. แม่น้ำโขง
    2. แม่น้ำปิง
    3. แม่น้ำวัง
    4. แม่น้ำยม
    5. แม่น้ำน่าน
    6. แม่น้ำมูล
    7. แม่น้ำเจ้าพระยา
    8. แม่น้ำท่าจีน
    9. แม่น้ำตานี

    ตะใคร่น้ำ ที่พระบรมมหาเจดีย์ 9 แห่ง
    1. พระบรมธาตุ นครปฐม
    2. พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    3. พระบรมธาตุ นครพนม
    4. พระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่
    5. พระบรมธาตุ ลำปาง
    6. พระบรมธาตุ สุโขทัย
    7. พระบรมธาตุ จอมทองลำพูน
    8. พระบรมธาตุชะเวดากอง ประเทศพม่า
    9. พระบรมธาตุหงษารามัญ

    ดินโป่ง 9 แห่ง
    1. ดินโป่งรางกระถิน
    2. ดินโป่งหน้าเขาพิศดง
    3. ดินโป่งมักเม้า
    4. ดินโป่งใหญ่ในป่าลึก จังหวัดกาญจนบุรี
    5. ดินโป่งพุล้อ
    6. ดินโป่งหลังเขาพิศดง
    7. ดินโป่งทำโข่ง
    8. ดินไมยราพ
    9. ดินโป่งชุมนุมตาโหงพราย

    น้ำพระพุทธมนต์ และน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่านยา
    1. น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จ.ชุมพร
    2. น้ำมนต์พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    3. น้ำมนต์หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    4. น้ำมนต์บนเขา สมเด็จปู่เจ้าเกาะไชโย สงขลา
    5. น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี
    6. น้ำมนต์ในสระศักดิ์สิทธิ์ เพชรบุรี
    7. น้ำพระพุทธมนต์ 25 ศตวรรษ ท้องสนามหลวง
    8. น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี ของวัดบวรนิเวศวิหาร
    9. น้ำพระพุทธมนต์ ที่พระบรมธาตุนครพนม
    10. น้ำพระพุทธมนต์ ในพระอุโบสถ วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่
    11. น้ำในสระศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั่วประเทศ มี สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกศ สระพังเงิน สระพังทอง สุพรรณบุรี สระน้ำจันทร์นครปฐม เป็นต้น
    12. น้ำพระพุทธมนต์ ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    13. น้ำพระพุทธมนต์ในวังหลวง 170 ปี
    14. น้ำพระพุทธมนต์ในวันทำสังคายนาประเทศพม่า ซึ่งพระเถระทั่วโลก 2,500 องค์ ประชุมกัน

    ขี้เถ้าธูปศักดิ์สิทธิ์
    1. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์หินช้าง จ.ชุมพร
    2. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์เข้าพับผ้า พัทลุง
    3. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์ หลักเมืองสงขลา
    4. ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์ หลักเมืองปัตตานี
    5. ขี้เถ้าธูปศาลสมเด็จปู่เจ้า เกาะไชโย (เกาะยอ) สงขลา
    6. ขี้เถ้าธูปสมเด็จหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ปัตตานี
    7. ขี้เถ้าธูปที่บูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
    8. ขี้ธูปศาลเจ้าพ่อประสาททอง องค์พระปฐมเจดีย์
    9. ขี้ธูปศาลเจ้าพ่อเขางู ราชบุรี (พระฤาษีสมาธิคุปต์)
     
  5. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    ผงวิเศษ ได้จากที่ต่างๆ
    1. ผงว่านวิเศษของหลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จ.ชุมพร
    2. ผงของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง โฆสิตาราม ผงพระพุทธคุณ 1 ผงอิทธเจ ผงปถมัง 1 ผงมหาราช 1 ผงตรีนิสังเห 1
    3. ผงว่านวิเศษของท่านพระครูรักขิตวันมุนี วัดป่าเลไลย์ ให้มา
    4. ผงวิเศษในถ้ำพระยาแร้งสมัยศรีวิชัย ท่านเจ้าคุณพระศีลศารโสภณ จ.ตรัง ให้มา
    5. ผงพระป่นสมัยทวาราวดีที่องค์พระประโทน
    6. สะเก็ดพระบรมธาตุนครพนม ท่านเจ้าคุณพระเทพรัตนโมฬี ให้มา
    7. ผงพระหักป่นสมัยทวาราวดี นายณรงค์ สุปัญญรักษ์ ให้มา
    8. ผงพระกันกรุ สมัยทวาราวดี นายอุทัย ให้มา
    9. ผงผสมของอาจารย์ 108 องค์ ของ พระครูรักขิตวันมุนี ให้มา
    10. ผงพระธราราชกับผงพระคาถาชินบัญชร ของ พระเทพ ปียวฑโณ ให้มา
    11. ผงผสมของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี ท่านเจ้าคุณวรพรต คณาจารย์ ให้มา

    ดินที่สังเวชนีย์สถาน 4 ตำบล
    1. ที่ประสูติ
    2. ที่ตรัสรู้
    3. ที่แสดงพระธรรมจักร
    4. ที่นิพพาน
    จากท่านอาจารย์คง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง ไปนำมาจากประเทศอินเดีย
    ผงวิเศษ 108 กรุ ที่อาจารย์ชุม ไชยคีรี จัดหาด้วยตัวท่านเอง
    1. ผงกระดูกอาจารย์เกตุ วัดขวิด
    2. ผงอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน วัดตาลฯ
    3. ผงแดงหุ่นพยนต์ อาจารย์เกตุ วัดขวิด
    4. ผงดำหุ่นยนต์ อาจารย์เกตุวัดขวิด
    5. ผงเขียวเนื้อชิน อาจารย์เกตุ วัดขวิด
    6. ผงผสมแร่ธาตุก้นกรุอาจารย์เกตุ วัดขวิด
    7. ผงพระประธานอาจารย์คลิ้ง วัดโสภา
    8. ผงพระมหานิยมในเจดีย์วัดโลกา
    9. ผงยาวัดดอนไก่เตี้ย
    10. ผงพระเนื้อชิน วัดกุฏิสงฆ์
    11. ผงขุนแผน เนื้อดินเผา วัดบ้านกร่าง
    12. ผงพระพลายเพชร พลายบัว วัดบ้านกร่าง
    13. ผงขุนแผนไข่ผ่าซีก วัดสุวรรณภูมิ
    14. ผงเนื้อชิน วัดพระธาตุ
    15. ผงก้นกรุอาจารย์คง วัดตาล
    16. ผงกระดูกอาจารย์คง วัดตาล
    17. ผงไม้มะกอกอาจารย์คง วัดตาล
    18. ผงพระหักป่น วัดตาล
    19. ผงพระดินก้นกรุ วัดไทร
    20. ผงพระเนื้อชิน วัดมหาธาตุ
    21. ผงพระดินเผานาคปรก วัดมหาธาตุ
    22. ผงพระดินเผา แบบโมคคัล ลาสาริบุตร วัดมหาธาตุ
    23. ผงพระดินเผา แบบพระ 55 วัดมหาธาตุ
    24. ผงอิฐคนโบราณในเจดีย์วัดมหาธาตุ
    25. ผงพระหักป่น กรุวัดพายหลวง
    26. ผงพระหักป่น กรุวัดมังกร
    27. ผงพระหักป่น กรุวัดศรีชุม
    28. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดิน วัดหินทัง
    29. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินวัดปากทัง
    30. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินหลวงพ่อโตวัดป่าม่วง
    31. ผงพระเนื้อชินดิน วัดเขาตะพานหิน
    32. ผงพระเนื้อดินเผา วัดช้างล้อม
    33. ผงพระดินเผาวัดป่ากล้วย
    34. ผงพระดินเผาวัดป่ามะขาม
    35. ผงพระเนื้อชิน วัดป่าหญ้ากร่อน
    36. ผงพระอิฐพราหมณ์ วัดศรีสวาย ได้จาก จ.พิษณุโลก 17 กรุ
    37. ผงพระเนื้อชิ้น เนื้อดินวัดเชตุพน
    38. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดิน วัดดินดำ
    39. ผงพระดินเผา วัดดอนลาม
    40. ผงพระดินเผาชินราช วัดโบสถ์
    41. ผงพระดินเผา วัดโป่งพยอม
    42. ผงพระเนื้อชิน เผาแบบนางพญา วัดต้นจันทร์
    43. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินเผาเนื้อทองเหลือง วัดปากน้ำ
    44. ผงพระเนื้อดินเผา วัดสตือ
    45. ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี
    46. ผงพระเนื้อดินเผา วัดปราง
    47. ผงพระเนื้อดินเผา มีแร่ธาตุ วัดไก่เตี้ย
    48. ผงพระเนื้อชิน ดินเผา วัดปะขาวหาย
    49. ผงพระเนื้อดิน วัดวิหารทอง
    50. ผงพระเศียรหักพระหัก วัดพระพุทธชินราช
    51. ผงพระสมเด็จนางพญาสีขาว วัดนางพญา
    52. ผงพระเนื้อดินเผา วัดเจดีย์ทอง
    53. ผงพระเนื้อดินเผา วัดประตูชัย
    54. ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินเผาเนื้อว่าน วัดอรัญญิก
    55. ผงพระเนื้อชินอ่อน วัดหูช้าง
    56. ผงพระเนื้อชิน วัดคลองเป็ด
    57. ผงพระหักป่นวิหารพระร่วง
    58. ผงสมเด็จนางพญาสีดำ วัดนางงำระยา
    59. พระเนื้อดิน เนื้อชิน วัดลั่นทม ได้จาก จ.นครศรีธรรมราช 10 กรุ
    60. ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุ
    61. ผงพระพระพวย วัดพระมหาธาตุ
    62. ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ
    63. ผงตะไคร่พระด้านทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ
    64. ผงตะไคร่พระศรีมหาโพธิ์ วัดพระมหาธาตุ
    65. ผงพระหักป่น วัดท่าเรือ
    66. ผงพระดินเผา วัดนางตรา
    67. ผงอิฐพระเจดีย์ วัดท่าเรือ
    68. ผงวัดท้าวโคตร
    69. ผงว่าน 108 ของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้จากกรุจังหวัดเพชรบูรณ์ (7 กรุ)
    70. ผงดินพระหักป่นศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
    71. ผงดินพระหักป่น วัดเสือ
    72. ผงดินพระหักป่น วัดช้างเผือก
    73. ผงดินพระหักป่น วัดพระแก้ว
    74. ผงดินพระหักป่น วัดหลวงพ่อกบ
    75. ผงดินพระหักป่น วัดมหาธาตุ
    76. ผงดินพระหักป่น วัดสิงห์ ได้จากกรุ จ.พัทลุง 7 กรุ
    77. ผงดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์
    78. ผงอิทธิเจของท่านพระครูสิทธิยาถิรัตน์ วัดดอนศาลา อาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ
    79. ผงพระหักป่น วัดเขาเจียก
    80. ผงดินทองถ้ำ เขาไชยสน
    81. ผงกระดูกคนโบราณ ในถ้ำเขาไชยสน
    82. ผงดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำอกทะลุ
    83. ผงถ้ำยาหอม เขาไชยสน ได้จากกรุ จ.ลำพูน 5 กรุ
    84. ผงพระรอด วัดพระรอด
    85. ผงพระสิบสอง วัดพระธาตุ
    86. ผงพระสาม วัดพระธาตุ
    87. ผงพระเปิม วัดพระธาตุ
    88. ผงพระหักป่น วัดทับยั๋น และจังหวัดต่างๆ 18 กรุ รวม 108 กรุ
    89. ผงพระสมัยทวาราวดี วัดพระประโทน นครปฐม
    90. ผงเนื้อชิน วัดพระพิโทน
    91. ผงโทนพราหมณ์ สมัยทวาราวดี นครปฐม
    92. ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัย ถ้ำเขาสาย จังหวัดตรัง
    93. ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัยถ้ำคีรีวิหาร จังหวัดตรัง
    94. ผงสมเด็จวัดระฆัง ธนบุรี
    95. ผงอิทธิเจ วัดหิรัญรูจี ธนบุรี
    96. ผงเนื้อดิน เนื้อชิน วัดบึงสัมพันธ์ อุตรดิตถ์
    97. ผงทองแท่น วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์
    98. ผงในเจดีย์ ดอยสุเทพ เชียงใหม่
    99. ผงพระหักป่น วัดพระปรางสวรรคโลก
    100. ผงดินเผากำแพงเพชร
    101. ผงดินเนื้อชิน วัดมะละกอ พิจิตร
    102. ผงพระหูยานหน้ายักษ์ หลวงพ่อจุก ลพบุรี
    103. ผงสมเด็จวัดอินทร์ พระนคร
    104. ผงนะปถมัง วัดบางแพรกใต้ นนทบุรี
    105. ผงดอกไม้ 108 วัด
    106. ผงพญาว่านมหาว่าน ของอาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง
    107. ผงพระเทพนิมิต ของอาจารย์ชุม ไชยคีรี

    สิ่งของที่ต้องเตรียมพร้อม เมื่อจะทำพิธีบวงสรวงสังเวย
    วันเริ่มต้นพิมพ์พระ และวันเริ่มต้นพุทธาภิเษก
    1. ราชวัตรแผงทาสีขาว ยาว 1-2 เมตร
    2. ฉัตรระบายขาว 9 ชั้น สูง 2 เมตรครึ่ง ส่วนล่างยาว 1 เมตร 20 เซ็นต์
    3. เทียนชัยขี้ผึ้งดี หนัก 80 บาท ไส้เทียน 80 เส้นสูงเสมอศรีษะประธาน
    4. เทียนขี้ผึ้งดีหนัก 1 บาท ยาว 1 คืบ 50 เล่ม
    5. ธูปหอม 1,000 ก้าน
    6. เทียนมงคลยาวรอบศรีษะ ไส้เท่าอายุประธาน 32 เล่ม ขี้ผึ้งหนัก 5 บาท
    7. เทียนเงิน เทียนทอง 4 คู่ ขี้ผึ้งหนัก 1 บาท ใส้ 16 เส้น ยาว 12 นิ้ว
    8. เทียนขี้ผึ้งธรรมดาขนาดเล็ก 220 เล่ม
    9. ผ้าขาวนุ่งห่ม 2 ชุด
    10. ตู้เทียนไชย 1 ตู้
    11. ผ้าขาวยาวประมาณ 2 ตารางเมตรครึ่ง 2 ผืนสำหรับปูโต๊ะ
     
  6. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    1. โต๊ะบูชา
    2. หัวหมู 2 หัว
    3. ไก่ 2 ตัว
    4. เป็ด 2 ตัว
    5. ปลาช่อนแป๊ะซะ 2 ตัว
    6. กล้วยน้ำไทย 4 หวี
    7. มะพร้าวอ่อน 2 ลูก
    8. ขนมต้มแดง ต้มขาว อย่างละชามใหญ่
    9. ไข่ไก่ต้ม 10 ฟอง
    10. ปูทะเล 2 ตัว
    11. อ้อยเอาทั้งใบ 12 ต้น
    12. ถั่วงาคั่วอย่างละจาน
    13. ข้าวปากหม้อ 1 ชามใหญ่
    14. ข้าวเหนียว 1 ชามใหญ่
    15. สมโอ 2 ผล
    16. สมเขียวหวาน 2 จาน
    17. น้ำจิ้มหัวหมู 1 ถ้วย
    18. น้ำพริกเผา 6 ถ้วย
    19. หมาก พลู บุหรี่ อย่างละ 9 รวม 2 พาน
    20. ต้นกล้วยต้นงามๆ สูงเสมอหัว ขุดทั้งหัว 12 ต้น
    21. หญ้าคา 3 กำ
    22. สายสิญจน์ซื้อใหม่ 2 กลุ่ม
    23. น้ำชาจีนอย่างดี 1 กาใหญ่
    24. น้ำดื่ม 2 ขวด ถ้วยแก้ว 2 ใบ ช้อนส้อม 1 คู่
    25. ดอกไม้ประดับแจกัน 8 คู่
    26. ดอกมะลิ 2 ลิตร
    27. บายศรีใหญ่ 5 ชั้น 1 คู่
    28. บายศรีกลาง 1 ชั้น 1 คู่
    29. บายศรีปากชาม 1 คู่
    สิ่งของทั้งหมดต้องนำมาส่งพร้อม และจัดเสร็จก่อนฤกษ์ประมาณ 30 นาที

    พระคาถาชุมนุมเทวดา ในพิธีพุทธาภิเษก วัดสารอด
    สาธุ สัคเค ข้าพเจ้าขออัญเชิญ มวลเทพเจ้าซึ่งสิงสถิตย์อยู่ในฉกามาพจรสวรรค์ กาเม อยู่ในกามภพอนันต์จังหวัดวง จะรูเป เทพเจ้าดำรงอยู่ในห้วงมหรรณพสิงพรเขตยุคนธร จันตะลิกเข เทพเจ้าอันแน่นแนว อยู่ในอากาศ วิมาน อยู่ในวิมานมาศรัตมณเฑียร ทีเป เทพเจ้าอยู่ในเกาะเกียรน้อยและใหญ่ รัฏเจ ข้าขออัญเชิญเทพยาดาเจ้าที่อยู่ ในแว่นแคว้นทั่วประเทศทั้งท้าวสยามเทวราชอันเรืองฤทัย ทั้งพระจันทร์ พระอาทิตย์ ผู้ดำรงค์โลกราศรี ตะรุวะนะคะหะเน เทพเจ้าอยู่ในหม่ไม้ไพรพฤกษาศาล เคหะวัต ถุมหิ เขตเต เทพเจ้าอยู่ที่บ้านเรือน และไร่นา และที่พระอุโบสถนี้
    ภุมมา ข้าขอเชิญเทพยดาเจ้าที่อยู่ในภูมิประเทศทั่วขอบเขตจักรวาลมีพระภูมิเจ้าที่ ที่ประจำวัดสารอดเป็นประธาน ชะละถะละวิสะเม เทพเจ้าที่อยู่ในน้ำและบนบกมิได้เสมอกัน ยักขะคันทัพนาคา ทั้งยักษาคนธรรพ์นาคราชผู้เป็นใหญ่ ที่ท้าวภุชงค์พระยานาคราชกรุงบาดาล เป็นประธาน ดิฏฐันตาสันติเกยัง เทพเจ้าอยู่ที่เกาะแก่งแห่งตำบล มุนิวะระวะจะนัง ข้าพเจ้าขออัญเชิญพระฤาษีทุกแห่งหนอันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยปรีชา มีพระฤาษีตาวัว พระฤาษีตาไฟ พระฤาษีนารอด พระฤาษีนาไลย พระฤาษีบัลลัยโกฏ พระฤาษีสิงหดาบส พระฤาษีสัจจะพันธ์คีรี พระฤาษีมุนิดาบส พร้อมด้วยคุณครู คุณอาจารย์ คุณบิดา มารดา คุณครูปัติยาย หลวงปู่คง หลวงปู่ทวด หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า วัดเขาอ้อจังหวัดพัทลุง และหลวงพ่อรอดในพระอุโบสถ เจ้าพ่อแผนเป็นประธาน สาธะโวเมสุณันตุ ข้าขอเชิญเทพยดาอันเรืองเดช ซึ่งสิงสถิตย์อยู่ในอมรพิมานเมศเมืองฟ้า ธัมมัสสะวะนะกาโ,อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโ,อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโลอะยัมภะทันตา ข้าพเจ้าขออัญเชิญท้าวเทเวศน์สิ้นขอบเขตจักรวาลจงมาสโมสรรับเครื่องบวงสรวงสังเวย อันข้าพเจ้าได้จัดไว้พร้อมเสร็จอย่างบรรจง แล้วขอเทพยดาพร้อมด้วยคุณครูคุณอาจารย์ที่ได้อัญเชิญมารับเครื่องสังเวยทุกองค์ จงกรุณาประจำอยู่ในพิธีทำการปลุกเสกพิทักษ์รักษา ป้องกันภัยอันตรายกันศัตรูหมู่มารภายนอก มารภายใน ช่วยดลบันดาลของจิตใจ ของข้าพเจ้าทั้งสามให้มีปัญญาสามารถ เฉลียวฉลาดในการปลุกเสกบรรจุคุณ ช่วยเกื้อหนุนบัญชาให้เทพยดารักษาอยู่ประจำองค์พระทุกองค์ ที่สร้างขึ้นในพิธี ขอท้าวภุชงค์นาคราชพร้อมด้วยบริวารในกรุงบาดาล จงกรุณาส่งเสริมอิทธิปาฏิหารย์ และพุทธานุภาพ จงนำพระทั้ง 108 องค์ ที่ข้าพเจ้านำไปทำพิธีอาราธนาลงในแม่น้ำ กลับคืนมาประดิษฐานไว้ที่ศาลเทพารักษ์ เพื่อให้เกิดผลเป็นประจักษ์พยานปรากฏเป็นอัศจรรย์ แก่มวลเทพยาดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระผงวิเศษทั้ง 84,000 องค์ ใครนำไปสักการะบูชาก็ให้ปรากฏผลเป็นที่พึ่งเป็นที่ระลึก นึกอะไรก็ให้สมความปรารถนาทุกประการ ขอจงอยู่อย่ารู้เสื่อมคลายช่วยกันสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนถาวร ด้วยอำนาจบุญกุศลที่คณะข้าพเจ้าและมวลเทพยดาครูอาจารย์ช่วยกันบำเพ็ญในกาลครั้งนี้ จงเป็นปัจจัยส่งให้คณะข้าพเจ้าทุกคน ตลอดถึงคุณครู คุณอาจารย์ คุณเทพยดา จงประสพความสุขความเจริญ ประสพมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พระนิพพานสมบัติ เกิดพบพระพุทธศาสนาเข้าถึง คุณพระทุกชาติ กราบเท้าเข้าสู่พระนิพพานในอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ นิพพาน นะปัจจะโย โหตุ อนาคตเตกาเล ขอน้อมเกล้าถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จเจ้าฟ้า พระเจ้าลูกยาเธอทุกพระองค์


    [​IMG]

    ปรากฏการเป็นพิเศษ เมื่อพุทธาภิเษกได้ 7 วัน
    ซึ่งนับว่าการสร้างพระ 84,000 องค์ ครั้งนี้เป็นนิมิตอันดียิ่ง และเป็นมงคลอันสูงสุด ทั้งมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ว่าคงได้รับผลสมความปรารถนา อย่างคุณวิเศษของขุนแผน ครั้งเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ทุกประการ เพราะแรงฤทธิ์อำนาจว่านยาแรงฤทธิ์เวทมนต์คาถา ประกอบด้วยความรู้ ความชำนาญ ความตั้งใจจริงของท่านอาจารย์ทั้งสาม
    1. พระอาจารย์สุภา กนฺตสีโล , อาจารย์ชุม ไชยคีรี , อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ทั้งสามอาจารย์ ไม่เคยรู้จักกัน บันดาลให้มาพบกัน มีความรักความสามัคคี มีเจตนาเสมอกัน
    2. วิญญาณอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน และวิญญาณขุนแผน มาเข้าประทับทรงบอกตำรา และเป็นประธานในการปลุกเสก บรรจุคุณตลอดพิธี
    3. วันที่ 24 พฤศจิกายน เวลาที่อาจารย์ทั้งสามกำลังทำพิธีบวงสรวงสังเวย และผสมผงแร่ธาตุว่านยาเข้ารวมกัน พระสงฆ์ 9 รูป กำลังสวดไชยมงคลคาถาอยู่นั้น อีกาฝูงใหญ่ไม่เคยมีมาแต่ครั้งก่อน บินมาวนเป็นทักษิณาวัตร ร้องส่งเสียงอยู่ประมาณ 30 นาทีแล้วหายไป
    4. วันที่ 31 ธันวาคม ปลุกเสกมาได้ 7 วัน เวลา 05.00 น. เกิดแสงสว่างขึ้นที่หน้าพระอุโบสถ ปรากฏแก่สายตาพระสงฆ์ ที่กำลังเตรียมตัวจะออกบิณฑบาตรนานประมาณ 1 นาที เวลา 06.30 น. พระผงรวม 108 องค์ ที่อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้นำไปอาราธนาลงในแม่น้ำดังกล่าวแล้ว แสดงอภินิหารเสด็จกลับมาต่อหน้าพระภิกษุสงฆ์ และประชาชนเป็นจำนวนมากซึ่งกำลังมุงดูกันอยู่ด้วยความแปลกใจ และกำลังย่ำฆ้องทะยอยกันเสด็จกลับมาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงหยุด
    5. วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 21.00 น. ทำพิธีตรวจนับพระที่เสด็จกลับปรากฏว่าพระเสด็จมาเพียง 106 องค์ ขาดไป 2 องค์ คณะศิษย์เรียนถามวิญญาณขุนแผนท่านบอกว่า พระที่เสด็จกลับมานั้นท้าวภุชงค์นาคราช พร้อมด้วยบริวารนำมาให้ และที่ขาดไป 2 องค์ วิญญาณขุนแผน บอกว่า หลวงปู่คง มอบให้ท้าวภุชงค์กับพระมเหสี คนละ 1 องค์ เวลา 22.00 น. ทดลองความขลังด้านคงกระพัน โดยอาจารย์ชุม อบรมผู้มีศรัทธา 7 คน แจกพระให้ถือไว้ในมือ และอมไว้ในปากคนละ 1 องค์ แล้เอามีดโกน ใบมีดดาบ ฟันเชือดเฉือน และให้ผู้อื่นเข้ามาเชือดเฉือนดู ปรากฏว่าเป็นคงกระพันตลอด จึงเอามีดตัดผมก็ไม่ขาดต่อหน้าประชาชน
    ตามตำรากล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีพระว่านวิเศษนี้อยู่ที่ตัว มีความเลื่อมใสจริงๆ เมื่อถึงคราวคับขันหมดที่พึ่งอย่างอื่น เช่น ออกรบศึก ถูกข้าศึกจับเป็นเชลย ถูกจองจำไว้ด้วยเครื่องพันธนาการ ให้ตั้งใจนึกถึงบ้าน และระลึกถึงคุณบิดามารดา เครื่องพันธนาการต่างๆ จะหลุดออกหมดกลับมาบ้านไหว้บิดามารดาได้ หรือเมื่อเราเป็นหัวหน้านำทัพ ลูกน้องถูกจับเป็นเชลย เพื่อนหรือญาติถูกจับเป็นเชลย หรือคนที่เรารักสูญหายไปจากบ้าน ตั้งใจภาวนาเรียกให้กลับ เมื่อเรามีพระชนิดนี้อยู่ที่ตัวเรา และพระอยู่ที่ตัวผู้ที่หายไปเรียกให้กลับมาได้
    เมื่อคืนวันที่ 15 มกราคม 2507 เวลา 24.00 น. อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้เรียกสุภาพบุรุษมา 12 คน อบรมให้รู้จักคุณวิเศษของพระ แล้วให้ทุกคนอมพระรอดไว้ในปากคนละหนึ่งองค์ แล้วพร้อมกันเอาอีกคนหนึ่งไปใส่กุญแจมือคร่อมเสาไว้ในป่าช้า แล้วอีก 11 คน มานั่งบริกรรมเรียกอยู่ในพระอุโบสถ ประมาณ 5 นาที คนที่ใส่กุญแจไว้ กุญแจหลุดออกหมดทั้งสองข้างกลับมาได้ต่อหน้าประชาชน ชี้ให้เห็นประจักษ์พยานว่า มีพระว่านวิเศษชนิดนี้อยู่ไปแล้วกลับ แม้จะถูกจองจำด้วยพันธนาการใดๆ ก็กลับได้
     
  7. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    วัตถุมงคล พิธีเสด็จกลับ วัดสารอด มีดังนี้
    1. พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่ เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    2. พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้วพิมพ์เล็ก เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    3. พระรอด เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    4. รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    5. ประคำ 108 และรูปหลวงปู่คง เนื้อว่าน
    6. เข็มกลัดรูปเหมือนหลวงปู่สุภา
    7. ผ้ายันต์เสือ อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์
    8. ผ้ายันต์สิงห์ อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์
    9. น้ำมันมหานิยมเลิกรบ อาจารย์ชุม ไชยคีรี

    วิธีใช้
    พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกกำจัดภัยได้จริง แก่ผู้เข้าถึง รูปพระพุทธเจ้าทรงขุนแผนเรือนแก้ว ทรงพระรอด ประคำ 108 และรูปหลวงปู่คง รูปหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ที่สร้างขึ้นด้วยว่านยาแร่ธษตุพญาว่าน มหาว่าน ดอกไม้ เกษรดอกไม้ น้ำพระพุทธมนต์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รวม 2,000 กว่าชนิด จัดเป็นวัตถุพิเศษ พระอาจารย์และพระอาจารย์ที่มีเจตนาเป็นกุศล มีศีล สมาธิ ปัญญา ปล่อยวางภารกิจอุทิศกำลังกายกำลังใจ ให้เป็นทานอธิษฐานสร้างพระจนครบ 84,000 องค์ เป็นพุทธบูชาสืบต่ออายุพระ/พุทธศาสนา โดยไม่หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด อันเป็นส่วนอามิต สมมติเป็นบุคคลวิเศษ วิญญาณเทพชั้นสูงผู้ปรารถนา พระโพธิญาณมารวมปลุกเสก ตลอดพิธีเป็นเทพวิเศษกาลเวลาที่ทำพิธี ประกอบด้วย ฤกษ์ดี ยามดี มงคลดี เป็นกำเนิดวิเศษ สร้างเป็นรูปพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระศาสดาของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย เป็นรูปวิเศษ ทำพิธีพุทธาภิเษกสวดอธิษฐานบรรจุคุณ ปลุกเสกทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดเวลา 30 วัน โดยวิญญาณขุนแผน อาจารย์สุภา อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ และศิษย์อาจารย์ทั้งสาม ตรวจสอบพิสูจน์ทดลองความขลังที่บรรจุไว้ทุกระยะ จนปรากฏประจักษ์แก่สายตาประชาชนมาแล้ว ด้วยอำนาจแรงฤทธิ์ขององค์คุณวิเศษครบองค์ 5 ดังกล่าวแล้วข้างต้น พุทธานุภาพของพระผงครั้งนี้จึงสูงสุด ผู้นับถือประสพผลดุจคุณวิเศษของขุนแผน เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ส่วนพระรอดก็มีคุณวิเศษเหมือนพระรอดที่พระฤาษีนารอดสร้างทุกประการ
    กายที่ละเว้นแล้วจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม ละเว้นจากการพูดเท็จ และจากการดื่มสุรายาเมาเป็นกายที่ควรแก่คุณพระ ใจที่ได้เจริญภาวนาแล้ว มีสติสัมปชัญญะมีหิริความละอาย โอตัปปะความเกรงกลัวต่อบาป เป็นใจที่ควรแก่คุณพระ ผู้สำรวมกายวาจาให้เป็นปกติ ปราศจากโทษ ชื่อว่าผู้เข้าถึงคุณพระ คุณพระที่เราเข้าถึงแล้วกำจัดภัยได้จริง
    วิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระ และยกเอาคุณพระเป็นที่พึ่ง ต้องทำจิตให้บริสุทธิ์ หมดจดปราศจากความลังเลสงสัย ทำความนอบน้อมพร้อมด้วย กาย วาจา ใจ ตามองดูรูปจิตระลึกถึงคุณ ภาวนากำหนดลมหายใจเข้าว่า พุท กำหนดลมหายใจออกว่า โธ จนเกิดความสงบแล้วทำความปรารถนา หรือออกเดินทาง ถ้าจะให้วิเศษสำเร็จความปรารถนาชั้นสูงสุด ต้องนั่งบริกรรมภาวนากำหนดลมหายใจเข้าว่า พุท กำหนดลมหายใจออกว่า โธ ให้นาน แล้วจึงทำความปรารถนาความสำเร็จอยู่ที่แรงอธิษฐาน ความสงบที่บังเกิดขึ้นกับจิตนั้นแหละ คือคุณพระ เด็กๆ มีจิตว่างเปล่า คุณพระคุ้มครองได้ดีกว่าผู้ใหญ่ ผู้ไม่มีความเชื่อไม่ควรรับไปใช้ ผู้นำไปทดลองทำเป็นเล่นปราศจากความเคารพในรูปพระพุทธเจ้า ที่พระอาจารย์ และอาจารย์บรรจุคุณแล้วเป็นบาปกรรมอย่างหนัก เทพยดาและแรงครูอาจารย์ดลบันดาลให้เกิดโทษนานาชนิด เสื่อมลาภ เสื่อมยศ หมดที่พึ่ง
    พระผงว่านยาวิเศษครั้งนี้ บรรจุคุณไว้พร้อมแล้วทุกประการ มีไว้ประจำตัวไปแล้วได้กลับ ไม่ไปเจ็บและไปตายด้วยภัยนานา ชนิดนอกบ้าน เพื่อส่งเสริมการไปแล้วกลับ ควรนำพระผงว่านวิเศษตั้งไว้ที่บูชาประจำบ้าน 1 องค์ นำติดตัวไป 1 องค์ แล้วทุกคนภายในบ้านของเราไปแล้วกลับอย่างที่เคยพิสูจน์ทดลองมาแล้ว เช่น นำพระไปอาราธนาลงในแม่น้ำส่วนหนึ่ง ไว้ประจำพิธีส่วนหนึ่ง ส่วนที่อยู่ในแม่น้ำส่วนหนึ่งเสด็จกลับมาได้ เอาพระให้ผู้มีความเชื่อ 12 คน อมไว้ในปาก แล้วเอาอีกคนหนึ่งไปใส่กุญแจคร่อมเสาในป่าช้า เวลา 24.00 น. ให้พวกหนึ่งไปบริกรรมภาวนาเรียกอยู่ในอุโบสถ คนที่ถูกใส่กุญแจคร่อมเสาไว้ในป่าช้า กลับมาได้จึงรับรองว่าพระนี้วิเศษในทางไปกลับได้เป็นอย่างดียิ่ง


    [​IMG]

    วิธีภาวนาชักลูกประคำ ว่านวิเศษ 108 ของหลวงปู่คง
    ก่อนเข้านั่งภาวนาควรอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาด จัดดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ ทำกิจเบื้องต้นเสร็จแล้ว ให้ตั้งใจสมาทานวิรัชศีล 5 คือ ว่า นะโม 3 จบ แล้วว่า พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิพุทธังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ แล้วว่า… อิมานิ ปัญจะสิกยาปะธานิสมาธิยามิ 3 จบ แล้วว่า… ปานาติปาตา เวระมรี สิกขา ปะทัง สมาธิยามิ อทินนาทานาเวระมนีสิกขาปะทังสมาธิยามิ กาเมสุมิจฉาจาราเวระมนีสิกขาปะทังสมาธิยามิ มุสาวาทาเวระมนีสิกยาปะทังสมาธิยามิ สุราเมระยะมัชปะมาทัตถานาเวระมนีสิกขาปะทังสมาธิยามิ ผู้ถือศีล 8 ก็ให้สมาทานวิรัชศีล 5 แล้วนั่งสมาธิเท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้ายเอาลูกประคำวางไว้บนมือ หลับตาภาวนากำหนดลมหายใจเข้านึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ” จนจิตสงบแล้วเอามือขวาจับลูกประคำยกขึ้นเสมออก ภาวนาคาถาพระธรรมราช ว่า พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ทะทะทะ โรโรโร อะอะอะ สะสะสะ โสโสโส โณโณโณ นะโมพุทธายะ 1 จบ นับลูกประคำไป 1 ลูกจนครบ 108 แล้ววางลูกประคำลงข้างหน้า กราบสามครั้ง หรือถ้านำติดตัวไป ก็ให้เอาลูกประคำสวมคอไป ก่อนออกเดินทางก็กำหนดลมหายใจเข้านึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ” ทำจิตให้สงบแล้วออกเดินทางไป หรือถ้าจะทำการปลุกเสกพระเครื่องราง หรือของขลังอื่นๆ ก็ทำได้ ทำตามพิธีดังกล่าวข้างต้น หรือจะเอาคาถา หรือพระกรรมฐานบทอันที่ชอบกับอารมย์มาภาวนาชักลูกประคำก็ได้ เป็นบุญเป็นกุศลอย่างประเสริฐ มีพลานิสงส์ นับเป็นกัปเป็นกัลป์ เป็นปัจจัยแก่มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พระนิพพานสมบัติ สวรรค์สมบัติ พระนิพพานสมบัติ ขอให้ทุกคนพยายามทำอย่าประมาท อย่าให้เสียชาติที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์พบพระศาสนา
     
  8. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    ส่วนประโยชน์ที่จะพึงได้ในปัจจุบัน ก็มีมาก หลวงปู่ท่านบอกว่าใช้ได้ 108 แล้วแต่จะปรารถนา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อ เชื่อมากได้ผลมาก เชื่อน้อยได้ผลน้อย ไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่ผู้ที่ไม่มีความเชื่อเลยแม้แต่น้อย

    วิธีปฏิบัติให้เกิดผลตามตำรามีดังนี้
    1. ภาวนาชักลูกประคำด้วยพระคาถาธรรมราช 108 จบ แล้วตั้งไว้หัวนอน จะเกิดนิมิตดี กันผี กันโจร กันไฟ รู้เหตุการณ์ร้าย ดีล่วงหน้า โจรผู้ร้ายเข้ามาจะเห็นคนเดินอยู่รอบบ้าน
    2. ภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ เวลาตื่นนอน จะเป็นผู้เจริญด้วยลาภ เจริญด้วยยศ ทำมาค้าขึ้น ทำให้กิจการที่กำลังคิดอยู่สำเร็จ ทำให้อายุยืน
    3. ภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ แล้วเอาลูกประคำใส่ลงในน้ำ เอาน้ำล้างหน้าเป็นเมตตามหานิยม ถ้าเอาน้ำนั้นกิน ทุกวันเป็นคงกระพัน ถ้าเอาน้ำนั้นไปอาบ เป็นการสะเดาะเคราะห์ ทำให้โชคร้ายกลายเป็นดี มีสติปัญญา มีวาสนาเจริญก้าวหน้า
    4. ถ้าหากไปนอนในป่าในถ้ำ ก่อนจะนอนชักลูกประคำ 108 ด้วยคาถาพระธรรมราชแล้วนอน เทวดาจะมาคุ้มครองรักษา หรือมาบอกลาภให้ ถ้าหลงทางก็จะพบทาง ถ้าอดข้าวจะพบบ้านคน
    5. ชักลูกประคำ 108 จบ แล้วนำลูกประคำติดตัวไป กันเครื่องศัตราวุธ กันอุปัทวเหตุ กันสัตว์ร้าย คนร้าย กำบังตาผู้คิดร้าย หรือศัตรูเห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน
    6. ก่อนออกปราบโจรผู้ร้าย หรือไปรบกับข้าศึกหรือไปในสถานที่ๆ ไม่ปลอดภัย ให้ตั้งใจภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ แล้วเอาลูกประคำสวมคอไป กระสุนและวัตถุระเบิดใดๆ ไม่ถูกกายเราเลย หรือถ้าหากศัตรูล้อมเราไว้ ภาวนาคาถาพระธรรมราชเดินแหวกวงล้อมไป ศัตรูทำร้ายมิได้เลย ถ้าถูกจับก็ให้ภาวนาสะเดาะเครื่องพันธนาการได้ทุกชนิด
    7. ถ้าจะให้ลูกหลานหรือบุคคลอื่นเป็นคงกระพันก็ให้ภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ แล้วเอาลูกประคำใส่ลงไปในน้ำเสกต่อไปอีกประมาณ 108 จบ เอาน้ำให้กิน คงกระพันทุกคน ถ้าเอาน้ำอาบให้ก็เป็นการสะเดาะเคราะห์ให้หมดไปได้เป็นอย่างดี หรืออธิษฐานให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บก็ได้ สุดแล้วแต่จะปรารถนา ก่อนจะทำทุกครั้งให้ระลึกถึงคุณพระ และหลวงปู่คง

    [​IMG]
    วิธีใช้น้ำมัน น้ำมันมหานิยม ของอาจารย์ชุม ไชยคีรี
    ก่อนใช้ต้องตั้งใจแผ่เมตตาว่า… ขอสัตว์ทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกัน เป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเทอญ ขอสัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงได้เสวยผลบุญอันข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้เทอญ
    นี้เป็นหลักการแผ่เมตตาจิต ของผู้นับถือพุทธศาสนาที่กระทำกันอยู่เป็นกิจวัตร เป็นธรรมชั้นสูงในศาสนานี้ แต่ไม่มีอะไรแสดงออกมาให้ผู้มีปัญญาน้อย และผู้ไม่ทำเห็นประจักษ์แก่สายตา เพราะเป็นเรื่องของจิต
    ข้าพเจ้ามีความปรารถนาให้ เพื่อนมนุษย์ทุกคนรักเมตตาจิตแผ่เมตตาจิตเข้าหากัน จะได้อยู่เป็นสุข เลิกรบเลิกเบียดเบียน ซึ่งกันและกัน จึงค้นคว้าหาคุณแห่งเมตตาจิต ที่พอจะแสดงออกเป็นเครื่องจูงให้ผู้พบเห็น เชื่อและรักในการเจริญภาวนา จึงแผ่เมตตาจิตอธิษฐานไว้ใน น้ำมันหอมให้เป็นน้ำมันมหานิยมทดลองให้ประชาชนเห็นจริง โดยหาสัตว์ที่เป็นศัตรูต่อกัน เช่น หนูกับแมว , สุนัขกับแมว มาทาน้ำมันแล้วขอให้เลิกรบ เลิกจองเวรต่อกัน สัตว์เหล่านั้นก็เลิกได้สมความปรารถนา

    ปัจฉิมลิขิต
    เนื่องจากคณะกรรมการของวัดสารอด มีความเห็นพ้องต้องกันว่า บริเวณของวัดค่อนข้างจะคับแคบ ไม่เพียงพอ การจัดงานที่พุทธศาสนิกชน ที่รวมกันบำเพ็ญกุศลสาธารณะแต่ละครั้ง และการสร้างกุฏิให้ภิกษุสงฆ์จำพรรษา จึงได้ตกลงซื้อที่ดินของเอกชนซึ่งอยู่ติดกับวัด ทางด้านตะวันออก เป็นเนื้อที่ 2 ไร่ 16 ตารางวา ในราคา 8 หมื่นบาท โดยบอกบุญจากท่านพุทธศาสนิกชนทั่วไป และกำหนดจะชำระเงินให้เสร็จสิ้นในวันที่ 1 มกราคม 2507 นอกจากนี้คณะกรรมการของวัดได้วางโครงการไว้ว่า จะรื้อย้ายกุฏิที่ชำรุดทรุดโทรมด้านตะวันออก ไปปลูกสร้างให้ได้ระเบียบ เป็นแนวเดียวกันเสียใหม่ วางแผนงานที่จะก่อสร้างเป็นฌาปนกิจสถานและสุสาน ให้เหมาะสมตามนโยบายของรัฐบาล
    แผนงานของคณะกรรมการที่ได้วางไว้นี้ บรรดาพุทธศาสนิกทั้งใกล้แลไกลต่างก็ปิติยินดี และอนุโมทนาตลอดมาจนกระทั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2506 พระอาจารย์หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พร้อมด้วยอาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ซึ่งมีเจตนาจะบำเพ็ญกุศลสร้างพระ 84,000 องค์ เป็นพระพุทธบูชา ท่านอาจารย์ทั้งสาม ทราบว่า ที่วัดนี้มีโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์ดังกล่าวแล้ว จึงมาปรึกษากับอาตมาภาพ อาตมาจึงได้เชิญคณะกรรมการของวัด ประชุมปรึกษาเรื่องการสร้างพระ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2506 คณะกรรมการของวัดต่างเห็นพ้องและตกลงพิมพ์แบบต่างๆ โดยวิธีรวมทุนกันคนละครึ่ง ส่วนว่านยาผงวิเศษทั้งหมดที่จัดสร้างพระขึ้นครั้งนี้ พระอาจารย์หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล , อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ออกให้เปล่าโดยไม่คิดค่าราคาแต่ประการใดทั้งสิ้น
    การพิมพ์พระจึงได้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2506 และพิมพ์ครบ 84,000 องค์ เรียบร้อย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2506 วันที่ 23 ธันวาคม 2506 จึงลงมือทำพิธีปลุกเสก และทำการสมโภชเสร็จเรียบร้อยในวันที่ 24 มกราคม 2507 เมื่อเวลา 06.00 น. รวมเวลา 2 เดือนเศษ ในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ได้ใช้ว่านยาวิเศษมากกว่า 2,000 ชนิด ประกอบด้วยกรรมพิธีอันถูกต้องเป็นระเบียบ ทั้งปรากฏผลเป็นที่แปลกประหลาด ซึ่งอาตมาไม่เคยพบเห็นมาก่อนฉะนั้น เพื่อจะให้ทราบชื่อว่านยา พร้อมทั้งคุณภาพของว่านที่นำมาประกอบ สร้างพระเครื่องครั้งนี้ อาตมาภาพจึงเรียนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พร้อมด้วยอาจารย์ชุม ไชยคีรี และอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ท่านก็กรุณาชี้แจงให้อาตมาภาพทราบ และอาตมาภาพได้ประสบการด้วยสายตาของอาตมาเอง นำมาเสนอเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ท่านพุทธศาสนิกชน และเป็นการศึกษาของอนุชนรุ่นหลังสืบไป เพราะพระอาจารย์และอาจารย์ทั้งสามเป็นผู้มีเจตนาอันประเสริฐ และมีความรู้สูงสุดมีเมตตาจิตอย่างแรงกล้า หาผู้เสมอเหมือนได้ยาก นอกจากนั้นพระอาจารย์และอาจารย์ซึ่งเป็นศิษย์ของอาจารย์ทั้งสาม ซึ่งมีศรัทธาถึงกับสละทุกสิ่งทุกอย่างมาตำผงประสมผง มานั่งเจริญภาวนาพิมพ์พระจนครบ 84,000 องค์ตลอด ถึงนั่งปลุกเสกวันละ 3 เวลาตลอดพิธี และท่านผู้มีเกียรติจำนวนมากที่มีศรัทธาเข้าเป็นคณะกรรมการจนงานทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อาตมาภาพขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของท่านทั้งหลาย และขออำนาจมหากุศลที่ท่านได้บำเพ็ญครั้งนี้ จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนส่งผลให้พระอาจารย์ และอาจารย์ ตลอดถึงคณะกรรมการทั้งสองคณะ และผู้ช่วยเหลือพิธี จงประสพความสุขความเจริญ และจงประสพจตุรพิธพรชัยทุกประการเทอญ… พระอธิการชนาง เอี่ยมอุดม เจ้าอาวาส วัดสารอด

    พระเสด็จกลับพิธีปี 2506 วัดสารอด สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่
    พระเครื่องที่พิมพ์เสร็จแล้วที่วัดสารอด กรุงเทพฯ หลังจากปลุกเสกแล้วตามวาระต่างๆ ก็เริ่มทำพิธีเสด็จกลับตามตำรับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยนำพระไปอาราธนาลงในแม่น้ำ แล้วบริกรรมเรียกพระให้กลับมาที่ วัดสารอด กรุงเทพฯ และที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต โดยนำไปอาราธนาในทะเลเป็นครั้งที่สอง
    เมื่อผ่านพิธีเสด็จกลับแล้ว ถือว่าพระทั้งหมดมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากันหมด ทั้งพระที่เสด็จกลับ และพระที่ไม่ได้นำไปทำพิธีเสด็จกลับ จำแนกเพียงพระที่ผ่านการเสด็จกลับ จะเรียกว่า พระเสด็จกลับ ส่วนพระที่ไม่ได้ผ่านการเสด็จกลับ เรียกว่าพระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก จำนวนพระที่สร้างทั้งหมดรวม 84,000 องค์ เท่าพระธรรมขันธ์


    [​IMG]
     
  9. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    มวลสารที่สำคัญ
    ประกอบไปด้วยว่านประเภทต่างๆ หลายชนิด โดยว่านที่สำคัญจากการสอบถาม หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ท่านเล่าว่า ว่าที่หายากชื่อ ว่าโพรงกินเหล็ก ต้องเอาเหล็กให้หัวว่านกินจนอิ่มเสียก่อนจึงจะกู้เอาหัวว่านได้โดยต้องขอซื้อผู้ที่พาไปเป็นเงินถึง 30,000 กีบ ในสมัยนั้น ว่านชนิดนี้น่าจะมีผลทำให้พระพิมพ์ที่มีว่านนี้ผสมอยู่ดูดแม่เหล็กติด เพราะเป็นวิธีชี้ขาดว่าเป็นพระแท้ในปัจจุบัน โดยพระสีดำและแดงจะดูดแม่เหล็กติด ส่วนพระสีเหลืองจะดูดแม่เหล็กไม่ติด เพราะมวลสารหลักเป็นเกสรดอกไม้ 108 ซึ่งถือเป็นของเมตตาชั้นสูง และสะอาด คนสมัยก่อนจะเสาะหาน้ำผึ้งในเดือน 5 มาทำยารักษาโรค และนำมาทำยาอายุวัฒนะ เพราะส่วนผสมที่สำคัญที่มีอยู่ในน้ำผึ้งคือ เกสรดอกไม้ 108 ชนิด ที่ผึ้งนำมาสะสมไว้ในน้ำผึ้งจำนวนมาก ถือเป็นของดีอย่างหนึ่งนั้นเอง

    ลักษณะของพระที่พบ
    พระที่มีลักษณะพิเศษอีกกลุ่มหนึ่งที่พบคือ มีเลขหนึ่งไทยด้านหลังเรียกว่า พระคะแนนร้อย พระขุนแผนที่มียันต์ปั๊มอยู่ด้านหน้า พระขุนแผนที่หลังมีลายใบไม้เหมือนพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่สุภา ส่วนพระที่พบว่ามีการลงรักปิดทอง และทาบรอนซ์นั้นเพราะ พระที่นำไปที่ภูเก็ตนั้น การขนย้ายผ่านระยะทางไกล โดยใส่ในภาชนะเดียวจำนวนหลายองค์รวมกัน และองค์พระไม่ได้มีสิ่งห่อหุ้มป้องกัน ทำให้องค์พระกระทบเสียดสีกัน พระจึงชำรุดไม่สวย และยังนำมาทำพิธีเสด็จกลับในทะเลอีกครั้ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว และเพื่อเป็นการทำสัญลักษณ์จำแนกพระเสด็จกลับ จึงลงรักปิดทองและทาบรอนซ์เพื่อให้องค์พระดูสวยงาม พระองค์ที่ลงรักหนา ทองที่ปิดจะเรียบสวยงาม ส่วนองค์ที่ลงรักบาง ทองที่ปิดจะไม่เรียบร้อยสวยงามเหมือนพระที่ลงรักหนา ส่วนพระที่เสด็จกลับมาที่ชายหาดภายหลังจะมีลักษณะผิวร่อน เพราะอยู่ในทะเลเป็นวัน พระที่หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล นำไปที่ภูเก็ตมีจำนวน 3 – 4 หมื่นองค์ แต่พระพิมพ์ขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก เมื่อคราวพิมพ์พระ ในจำนวน 84,000 องค์ มีจำนวนประมาณไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือเป็นพิมพ์พระรอดเสียส่วนใหญ่ และพระจำนวนมากบรรจุอยู่ในวัดสารอด พระบางส่วนมีผู้นำไปอาราธนา คล้องจนชำรุดเสียหายไปเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นเหตุการณ์พระเสด็จกลับด้วยตาเปล่า จึงพบพระพิมพ์ขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก จำนวนไม่มากนักในปัจจุบัน แต่จะพบพระพิมพ์พระรอดได้ง่ายกว่า

    [​IMG]

    พระเสด็จกลับมาอย่างไร?
    พิธีเสด็จกลับโดยย่อ เริ่มจากการบวงสรวง สร้างศาลเทพารักษ์คาดด้วยผ้าขาว นำพระไปปล่อยลงทะเล และพระเกจิพระทรงคุณ นั่งบริกรรมเรียกพระ จนพระเสด็จกลับมาที่ศาลเทพารักษ์จนหมดเป็นอันเสร็จพิธี การทำพิธีเสด็จกลับดังกล่าวมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายตลอดพิธี และผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในพิธีนี้หลายคนทั้งที่อยู่กรุงเทพฯ คราวทำพิธีที่ วัดสารอดและที่สำนักสงฆ์ เกาะสิเหร่ เล่าตรงกันคือขณะที่พระกำลังเสด็จกลับนั้น ตอนที่เห็นเป็นเวลากลางวัน จะเห็นสายรุ้งพาดมายังศาลเทพารักษ์อยู่ตลอดเป็นเวลานาน และที่เพดานคาดด้วยผ้าขาว เริ่มมีน้ำหยดและผ้าขาวเริ่มหย่อนตัวลงทีละนิดเหมือนมีวัตุถุหนักชิ้นเล็ก บางอย่างรวมกันอยู่ตรงกลางจนผ้าตกท้องช้างลงมา ตามน้ำหนักของวัตถุเล็กๆ เหล่านั้น และยังมีรูปถ่ายวัตถุมงคลที่เป็นหลักฐานในคราวนั้นยืนยัน นอกจากพระเครื่องที่นำไปทำพิธีเสด็จกลับ ยังมีประคำ 108 ทั้งเส้นซึ่งก็เสด็จกลับมาด้วยทั้งเส้นเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่สายตาผู้อยู่ร่วมในพิธี และผู้สังเกตการณ์

    พิมพ์พระที่พบ
    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว
    พิมพ์ใหญ่ พระพิมพ์ลึก 2 พิมพ์ , พระพิมพ์ตื้น 1 พิมพ์
    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปพระพุทธห่มจีวร ประทับนั่งปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ยันต์ประทับด้านหลังมี 2 ลักษณะ เส้นยันต์เล็กคมชัด เส้นยันต์หนา
    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว
    พิมพ์เล็ก พระพิมพ์ลึก 2 พิมพ์ , พระพิมพ์ตื้น 1 พิมพ์
    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปพระพุทธห่มจีวรประทับนั่งปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ยันต์ประทับด้านหลัง มี 2 ลักษณะ เส้นยันต์เล็กคมชัด เส้นยันต์หนา
    พระรอด มี 2 พิมพ์ พระพิมพ์ลึก , พระพิมพ์ตื้น
    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปพระพุทธประทับนั่งมารวิชัยในซุ้มใบโพธิ์
    รูปเหมือนหลวงพ่อคง พิมพ์หนา (หากเป็นกะโหลกประคำจะเจาะรูทะลุด้านบน) พิมพ์บาง (หากเป็นกะโหลกประคำจะเจาะรูทะลุด้านบน)
    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปหลวงปู่คงนั่งเต็มองค์ในซุ้มพิมพ์สามเหลี่ยมมน
    รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล รูปไข่ครึ่งองค์ พระมีพิมพ์เดียว
    ลักษณะพิมพ์ ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ครึ่งองค์ มีชื่อ หลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล ด้านหลังมีรอยใบไม้ประทับหลังพอสังเกตเห็นได้ชัด
    พระเทพนิมิต พิมพ์นาคปรก พิมพ์นาคปรกใหญ่ พิมพ์นาคปรกเล็ก
    ลักษณะพิมพ์ พระประทับนั่งบนบัลลังก์นาคปรก 7 เศียร หลังยันต์ห้า
    พระเทพนิมิต พิมพ์กลีบบัว พระมีพิมพ์เดียว
    ลักษณะพิมพ์ กลีบบัวสามเหลี่ยม พระพุทธปางสมาธิประทับนั่งบนฐานบัวหลังเรียบ
    หมายเหตุ : สำหรับพระพิมพ์เทพนิมิต ทั้งสองพิมพ์นี้เป็นพระที่นำพิมพ์พระเทพนิมิตปี 2496 มาตกแต่งพิมพ์และพิมพ์พระร่วมพิธีปลุกเสกจนเกิดการเข้าใจผิดว่า เป็นพระนอกพิธีและนำเข้ามาปลอมปนส่วนใหญ่ในหมู่คณะศิษย์ยุคหลังของ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็เข้าใจผิดว่าเป็นพระเทพนิมิตปลอม เพราะเนื้อหาผิดไป แต่ความเป็นจริงคือ พระในพิธีเสด็จกลับ พ.ศ. 2506 และเป็นส่วนที่แจกแก่คณะศิษย์รุ่นแรกๆ ที่มาช่วยงานพิธีนี้ในยุคนั้น
    สีของเนื้อพระทุกพิมพ์เท่าที่พบ
    สีแดง (มันปู) , สีเหลือง , สีดำ
    นอกจากสีหลักที่พบ 3 สี ในแต่ละสีก็จะมีสีที่เข้มและอ่อนแตกต่างกันไม่มาก เช่น พระเนื้อสีดำ ก็จะพบพระเนื้อสีเทา พระเนื้อแดงก็พบทั้งสีแดงและสีแดงเข้มอมน้ำตาล ส่วนสีเหลืองพบสีเหลืองอมเขียวด้วย แต่จำนวนมีน้อยมาก ในเนื้อพระยังมีลักษณะพิเศษ คือดูดด้วยแม่เหล็กติดในพระสีดำและแดง ในเนื้อพระทุกสี จะมีเม็ดสีขาวแทรกอยู่ประปรายทั่วไป สังเกตเห็นได้ชัด

    พระลักษณะพิเศษที่พบ
    พระหน้าทองคำ
    ลักษณะของพระจะมีแผ่นปั๊มด้วยทองคำครอบองค์พระด้านหน้า มีลักษณะสวยงามมีจำนวนน้อย พบในพระทั้งสามพิมพ์ คือ พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก รูปเหมือนหลวงปู่สุภา รูปไข่ พระรอด
    พระหน้าเงิน (พระคะแนนพัน)
    ลักษณะของพระจะมีแผ่นปั๊มด้วยเงินครอบองค์พระด้านหน้า มีลักษณะสวยงาม มีจำนวนน้อย พบในพระทั้งสามพิมพ์คือ พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้วพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก รูปเหมือนหลวงปู่สุภา รูปไข่ พระรอดบางองค์พบว่ามีการ กะไหล่ทอง ที่แผ่นเงินด้วย
    พระคะแนนร้อย
    พบในพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็ก รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล รูปไข่ครึ่งองค์ และพระรอดทุกพิมพ์เป็นพระที่มีลักษณะพิเศษ พบได้น้อย เพราะพระคะแนนร้อยคือ พระที่มีเลข ๑ ไทย ประทับหลัง มี 2 แบบ คือ เลข ๑ ใหญ่ , เลข ๑ เล็ก พระคะแนนร้อยคือ พระที่แทนจำนวนการนับ พระทุก 100 องค์จะมีพระคะแนนร้อย 1 องค์ เพื่อช่วยการนับจำนวนให้ง่ายขึ้น พระคะแนนร้อยจะพบในพระที่มีสีเหลืองมากที่สุด รองลงมาคือ สีแดง ส่วนสีดำจนถึงปัจจุบันยังไม่ปรากฏว่ามี จึงอนุมานว่าไม่มีพระสีดำที่เป็นพระคะแนนร้อย
    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว
    พิมพ์ใหญ่ (หลังใบไม้)
    พระหลังใบไม้เหมือนพิมพ์รูปเหมือนครึ่งองค์รูปไข่หลวงปู่สุภา นอกจากนี้ยังพบพระที่มียันต์กลับ และบางองค์มียันต์มาประทับซ้อนอยู่กับพระพุทธด้านหน้า ถือเป็นลักษณะพิเศษที่ควรเก็บสะสม
    พระปิดทองเดิม ด้านหน้า
    การปิดทอง แบ่งเป็น 2 ลักษณะ
    ลงรักแล้วจึงปิดทอง ส่วนมากพระที่พบมักมีลักษณะที่ไม่สวยงาม เนื่องจากการขนย้ายจากกรุงเทพฯ เพื่อไปทำพิธีเสด็จกลับที่ภูเก็ต และเมื่อหลังพิธีเสด็จกลับ องค์พระมีคราบขึ้นปกคลุม ไม่สวยงามจึงลงรักก่อนปิดทอง ลักษณะแผ่นทองคำเปลวที่ปิดเรียบตึงสวยงาม แตกต่างจากการปิดทองใหม่อย่างเห็นได้ชัด
    ปิดทองโดยใช้แลคเกอร์ทาบางๆ พระที่ปิดทองลักษณะนี้ส่วนมากเป็นพระที่สวยมีหน้ามีตา หากลงรักทับจะทำให้รายละเอียดเสียไป จึงใช้วัสดุอื่นแทนรักซึ่งดูสวยงามอีกแบบ และเป็นอีกลักษณะหนึ่งที่พบ

    พระเสด็จกลับจากทะเล
    เมื่อทำพิธีบวงสรวง และนำพระพิมพ์ต่างๆ อาราธนาลงในทะเล สำหรับพระที่เสด็จกลับมามีลักษณะอย่างไร ? และพระองค์ไหน จึงจะเรียกว่าพระเสด็จกลับอย่างแท้จริง ในความจริงแล้วพิธีเสด็จกลับทำเพื่อพิสูจน์พุทธคุณขององค์พระ ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ถูกต้องตามพิธีกรรมและเจตนาอันบริสุทธิ์ของคณาจารย์ที่ทำพิธีหรือไม่ ? หากถูกต้องแล้ว พระจะเสด็จกลับมายังปะรำพิธีที่จัดเตรียมไว้ ถือเป็นเคล็ดวิชาอันศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และเป็นที่มาของคำว่า “พระเสด็จกลับ” ส่วนองค์ที่ไม่ได้นำลงไปทำพิธีเสด็จกลับ ก็มีความศักดิ์สิทธิ์เท่าเทียมเสมอกัน เพราะถือว่าทำพิธีปลุกเสกในครั้งเดียวกัน สำหรับพระองค์ที่เสด็จกลับจากทะเลมีวิธีพิจารณา 2 ลักษณะ ดังนี้
    พระหน้าปิดทองเดิม
    ด้วยเหตุผลที่ว่าหลังจากที่ พระเสด็จกลับมาแล้วเพื่อทำสัญลักษณ์ให้แตกต่าง จากพระที่ไม่ได้นำมาทำพิธีเสด็จกลับ จึงปิดทองด้านหน้าไว้เป็นสัญลักษณ์ ปัจจุบันสามารถแยกพระปิดทองเก่าและใหม่ได้ด้วยสีของทองที่ปิดทอง ที่ปิดทองในอดีตจะเป็นทองคำเปลวแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีสีทองอมส้มแตกต่างจากสีทองคำเปลวในปัจจุบัน พระที่ลงรักปิดทอง จะพิจารณาได้ง่ายกว่าเพราะสีของทองจะปรากฏให้เห็นได้ชัด
     
  10. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    พระที่มีคราบเกลือ
    ลักษณะของคราบที่ปกคลุมองค์พระอยู่ เกิดจากการที่พระถูกเก็บในภาชนะเป็นระยะเวลาหนึ่งส่วนที่อยู่ด้านบนปรากฏคราบดังกล่าวปกคลุมน้อย ส่วนด้านล่างมีคราบมากกว่าคราบที่เข้าใจกันเป็นคราบเกลือ ในความเป็นจริงคือ คราบที่เกิดจากออกไซด์ของหินปูนในน้ำทะเลที่องค์พระดูดซึมน้ำทะเลไว้ในขณะที่จมอยู่ในทะเล จะสังเกตว่าเป็นคราบที่ติดแน่น ต้องใช้แปลงขัดจึงจะหลุดออก
    พระเสด็จกลับ แม้จะถูกจำแนกออกจากพระที่ไม่ได้นำลงไปทำพิธีเสด็จกลับเป็นที่เสาะหากัน พอจะมีข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ พระทุกพิมพ์รวมกันแล้วมี 84,000 องค์ แบ่งจากวัดสารอด ลงมาที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ ครึ่งหนึ่ง คือ 40,000 องค์ และทั้งสองส่วนยังนำไปบรรจุกรุอีกอย่างส่วนละกว่าครึ่งเป็นมูลเหตุให้ไม่สามารถพบพระได้ง่ายนัก อีกทั้งมีผู้ที่รู้และเห็นพิธีกรรมโดยตลอด หลายท่านเก็บสะสมพระชุดนี้มาโดยตลอดก็มีอยู่มาก เพราะการทำพิธีกรรมนี้ ไม่ได้ปิดเป็นความลับแต่ประการใด ส่วนพระที่นำไปแจกที่ วัดเกาะสีคิ้ว ก็มีจำนวนหลายพันองค์ แต่ก็ตกอยู่กับผู้ที่รู้ และเชื่อถือกันเป็นส่วนมากเพราะมีการทดลองเรื่องคงกระพัน และเมตตาให้เห็นกันด้วยตาเปล่าโดยมีรูปถ่าย ที่สามารถสืบค้นได้จนตลอดพิธีการสร้าง พิธีปลุกเสกไปจนถึงการทำพิธีเสด็จกลับ เป็นหลักฐานสำคัญที่น่าชื่อถือได้

    [​IMG] [​IMG]

    เคล็ดลับในพิธีเสด็จกลับ
    เริ่มจากการเสาะหาพาหนะ คือ เรือที่จะนำเครื่องบวงสรวง และพระออกทำพิธีเสด็จกลับในท้องทะเล โดยเลือกเรือที่มีชื่อเป็นมงคลคือ “กอบลาภ” ย่อมที่จะดีทางโชคลาภไปค้าขายที่ใด ไม่ว่าทางบกหรือทางน้ำ ก็จะนำทรัพย์สินเงินทองกลับมาสู่ครอบครัว และเคหะสถาน ผู้ใดที่มีพระเสด็จกลับนี้อยู่กับตัว ก็จะเป็นผู้ที่มีโชคดีเหนือกว่าบุคคลอื่นๆ และชื่อ “กอบลาภ” นี้ อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ยังนำมาตั้งชื่อลูกหลานของท่านไว้ด้วยเนื่องจากถือว่าเป็นมงคล ในส่วนขององค์พระ ยันต์ที่ประทับหลังเป็นยันต์กลับหัวถือเป็นเคล็ดว่า ไปแล้วต้องได้กลับ และเมื่อเจอเรื่องร้ายก็จะกลับกลายเป็นดี มวลสารในองค์พระมีที่สำคัญหลายอย่าง แต่ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่บันทึกไว้ชัดเจนว่า “ดอกว่านขันหมากเงิน ขันหมากทอง ขาดไม่ได้” เพราะดีทางโชคลาภ และหากผู้ที่เข้าใจในเคล็ดนี้คือ หากจะไปสู่ขอลูกสาวบ้านใครแล้ว หากมีขันหมากไปตามประเพณีแล้ว ก็ยากที่จะปฏิเสธกันได้ และขันหมากก็มีแต่สิ่งมงคล คือ แก้ว แหวน เงิน ทอง และไม้มงคลต่างๆ ถือเป็นความอุดมสมบูรณ์ และมงคลสูงสุดอย่างหนึ่ง ในประเพณีที่ปฏิบัติจนเป็นที่เข้าใจกันในสังคมไทย นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ความสับสนที่เกิดในปัจจุบัน
    โดยความเป็นจริงแล้วข้อมูลแรกที่ยากจะปฏิเสธได้ คือ พระทำการกดพิมพ์ปลุกเสก และทำพิธีเสด็จกลับโดยอาราธนาพระลงในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วอัญเชิญพระเสด็จกลับที่วัดสารอด เขตราชบูรณะ กรุงเทพฯ เป็นสถานที่แรกโดยมีดวงวิญญาณหลวงปู่คง และดวงวิญญาณขุนแผนประทับทรงควบคุมกำกับอยู่ตลอดพิธีแล้วจึงนำพระไปทำ พิธีเสด็จกลับที่เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต อีกครั้ง ด้วยเหตุผลว่า มีผู้ไม่เชื่อว่าพระจะเกิดการเสด็จกลับมาได้จริง จึงต้องมีการทำพิธีเสด็จกลับเป็นครั้งที่สอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นทั้งที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต หากพระไม่เสด็จกลับมาจริงในเวลานั้นทั้งสองคราว ก็มีการเพ่งเล็งจากฝ่ายบ้านเมืองว่าหลอกลวงประชาชน โดยในส่วนของคณาจารย์ ผู้ประกอบพิธีที่เป็นฆราวาส จะถูกคุมขังรวมถึงพระสงฆ์ก็จะถูกนิมนต์ให้สึกด้วย และในปัจจุบันนี้พระคณาจารย์ทั้งหมดทุกท่าน ไม่มีประวัติว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า พระเสด็จกลับมาจริงจนในปัจจุบัน หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล อายุ 108 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดสีลสุภาราม จังหวัดภูเก็ต อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ถึงแก่กรรมแล้ว ไม่ทราบวาระอาจารย์ชุม ไชยคีรี ถึงแก่กรรมแล้วเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2525 และพระเครื่องชุดนี้ สืบเนื่องจากการทำพิธีต่างๆ ทั้งหมดทุกขั้นตอน เกิดจากการที่คณาจารย์ทุกท่านมาพบและรวมตัวกัน โดยแบ่งงานกันเป็นส่วนๆ ฝ่ายพิธีกรรมคือ อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ , อาจารย์ชุม ไชยคีรี การกดพิมพ์พระ และผสมมวลสารผู้ให้สัดส่วนในการผสมคือ คุณบุญสืบ ไชยคีรี คณะศิษย์นุ่งขาว ห่มขาว เป็นผู้กดพิมพ์ร่วมกับคณาจารย์ทุกท่าน หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ในสมัยนั้น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และเสาะหาว่าน มารวมกับมวลสารวิเศษ และว่านในส่วนของอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ และ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ที่มีอยู่เดิมแล้ว สรุปโดยนัยได้ว่า พระเครื่องทั้งหมดทำขึ้นเพื่อสมนาคุณแก่ผู้ทำบุญบูรณะ วัดสารอด และสร้างเสนาสนะ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ ในขณะนั้น โดยพระทั้งหมดถือเป็นของผู้ที่ริเริ่ม คือ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ในปัจจุบัน โดยคณาจารย์ผู้เข้าร่วมนั้นนอกจากช่วยทำพิธี และปลุกเสกยังบริจาคสมทบช่วยงานพิธีอีกด้วยโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และถือว่าเป็นของท่ามกลางสงฆ์ทั้งหมด หากจะได้ไปบ้างก็เพื่อแจกแก่คณะศิษย์ และผู้ที่อยู่ห่างไกล แต่ไม่ได้มาร่วมพิธี หรือลูกหลานท่านเท่านั้น จึงไม่ควรสับสน และแบ่งแยกพระเครื่องให้เป็นของใครโดยเฉพาะทั้งสิ้น เพราะเหตุผลสุดท้ายคือ ในพระชุดนี้มีพิมพ์พระรูปเหมือนพิมพ์รูปไข่ครึ่งองค์ของพระเกจิอยู่องค์เดียวคือ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล เป็นหลักฐานว่าท่านเป็นผู้ดำริทำพระเครื่องชุดนี้ตามเคล็ดวิชาของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปัจจุบันในหมู่ลูกศิษย์หลวงปู่มีพระพิมพ์นี้น้อยมาก จากการสอบถามของผู้รวบรวม เพราะหายาก และเป็นพิมพ์รูปเหมือนรุ่นแรกของท่าน ซึ่งต้องจับตาพระเครื่องชุดนี้กันให้ดี เพราะอนาคตอาจมีค่านิยมสะสมสูงเหมือนพระผงชุด หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ก็เป็นได้
    ในส่วนของการปลุกเสกพระเครื่อง เสกตามวาระต่างๆ แล้ว จึงเสกผูกเสกกันเป็นวาระสุดท้ายคือ กันคัดกันถอนซึ่งเป็นสาระสำคัญของการปลุกเสก จากนั้นจึงแบ่งพระเครื่องออกเป็นส่วนๆ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น คือ วัดสารอด กรุงเทพฯ ประมาณ 40,000 องค์ แบ่งบรรจุกรุในวัดครึ่งหนึ่ง สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต ประมาณ 40,000 องค์ แบ่งบรรจุกรุ ในถ้ำพระทอง ที่จังหวัดสกลนครส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งบรรจุไว้ใต้ฐานพระพุทธไสยาสน์ที่สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ อีกส่วนหนึ่งแจกแก่ผู้ทำบุญที่วัดเกาะสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ประมาณได้ว่า จำนวนพระเครื่องที่หมุนเวียนอยู่มีจำนวน ไม่ถึง 30,000 องค์ รวบรวมทุกพิมพ์ โดยมีพิมพ์ขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่ อยู่ไม่ถึง 15% ปัจจุบันกระจายอยู่ในกลุ่มผู้สะสม และชำรุดเสียหายเมื่อผ่านกาลเวลา มาจนถึงปัจจุบัน 41 ปี แล้วอีกจำนวนหนึ่ง
    จากการที่พระกระจายไปยังที่ต่างๆ ในอดีตทั้งที่มีอยู่เดิมในกรุงเทพฯ และผู้ศรัทธาในกรุงเทพฯ ที่รู้ข้อมูลอยู่ก่อนที่จะมีการเผยแพร่มากที่สุด
    เนื่องจากมีเอกสารเก่าเป็นหนังสือ ประวัติการสร้างพระผงด้วยว่านวิเศษ 20,000 กว่าชนิด 84,000 องค์ เมื่อปี 2506 ของวัดสารอด เป็นข้อมูลเบื้องต้น จึงมีการสะสมจากสถานที่ต่างๆ รวมถึงภูเก็ตด้วย พระเสด็จกลับจึงมารวมกันในกรุงเทพฯ
    ปัจจุบันพระเครื่องชุดนี้มีมากในกลุ่มผู้สะสมกรุงเทพฯ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คณะศิษยานุศิษย์ของพระเกจิ และอาจารย์ที่ร่วมในพิธีเสด็จกลับ ส่วนมากทำงานในกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกที่พระเครื่องในส่วนกลาง มีมากกว่าจุดอื่นๆ เพราะกรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างในปัจจุบัน

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD><IFRAME src="http://www.kohtaotoday.com/koh_tao_ssi_padi_dive_scuba_diving_divers_idc_center_resort_bungalows_5.html" frameBorder=0 width=728 scrolling=no height=90></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    รายการที่ 2 ชานหมากพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช ให้บูชา 3000 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ชานหมากนึ้เจ้าของเดิม คือ หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำกระบี่ ท่านได้รับมอบจากมือท่านพ่อคล้าย ตอนไปศึกษาวิชากับท่าน เมตตามอบให้ เพื่อการกุศล ปิดรายการแล้วครับ

    [​IMG]
    ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน , ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดพระธาตุน้อย
    พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน วัดพระธาตุน้อย พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือ ที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย" ประวัติพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคอน วัตถุมงคลพ่อท่านคล้าย
    พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" นามตามสมณศักดิ์ท่านคือ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
    พ่อท่านคล้าย นามเดิมว่า "คล้าย สีนิล" เกิดตรงกับ วันที่27ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด จ.ศ.1238 ร.ศ.95 ที่บ้านโคกทือ ตำบลช้างกลาง กิ่งอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายอินทร์ นางเหนี่ยว สีนิล มีพี่สาว 1 คน ชื่อนางเพ็งเป็นภรรยานายซ้าย เพ็ชรฤทธิ์ ไม่มีบุตรสืบสกุลแต่มีบุตรบุญธรรมหนึ่งคน ชื่อนายครื้น เพ็ชรฤทธิ์

    พ่อท่านคล้าย มีลักษณะนิสัย เป็นคนมีมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของบิดามารดาและครูอาจารย์อย่างเคร่งครัด สุภาพ เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย นิสัยอ่อนโยนละมุนละไม จึงเป็นที่รักของบิดามารดา ครูอาจารย์และญาติมิตรเป็นอันมาก
    เมื่ออายุ ๑๕ ปี หลวงพ่อคล้าย ประสบอุบัติเหตุในการถางป่าทำไร่กระดูกปลายเท้า สามนิ้วแตกละเอียด รักษาไม่หาย ด้วยกำลังใจที่เด็ดเดี่ยว พ่อท่านคล้ายได้ใช้มีดตัดปลายเท้าออกด้วยตัวเอง และใช้ยาพอกจนหายเป็นปกติ


    [​IMG]
    ขาของพ่อท่านคล้ายนั้นเสียข้างหนึ่ง คือ ขาด้านซ้ายขาดตั้งแต่ตาตุ่มลงไป (เสียตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดนต้นไม้ทับที่บ้านญาติของท่านที่ จ.กระบี่ ขาเป็นหนองเลยต้องตัดทิ้ง โดยท่านใช้มีดปาดตาลตัดเอง) ท่านเลยต้องใส่กระบอกไม้ไผ่แทน
    [​IMG]
    พ่อท่านคล้าย ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2438 (อายุ 19 ปี) บรรพชาที่วัดจันดี ต.หลักช้าง บรรพชาโดยอาจารย์ พระอธิการจันเจ้าอาวาสวัดจันดี (ทุ่งปอน) และพ่อท่านสามารถท่อง พระปาฏิโมกข์จนได้แม่นยำ
    พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ พระเกจินครศรีธรรมราช
    ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ.2439 ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ อุทกุกเขปสีมา (ศาลาน้ำ) วัดวังม่วง โดยมีพระอาจารย์กราย คังคสุ วัณโณ เจ้าอาวาสวัดหาดสูง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สังข์ สิริรตโน เจ้าอาวาสวัดไม้เรียง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทอง ปทุมสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดวังม่วงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และมีพระอาจารย์ล้อม ถิรโชโต เป็นผู้ให้สรณคมน์และศีล ได้รับฉายาว่า จันทสุวัณโณ แล้วได้ไปจำพรรษา อยู่ที่วัดทุ่งปอน หรือวัดจันดี
    การศึกษาเบื้องต้น พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เริ่มศึกษาเบื้องต้นที่บ้าน โดยบิดาเป็นผู้สอน เรียนวิชาคำนวณ และวิชาอักษรโบราณ จนสามารถอ่านออกเขียนชำนาญ ทั้งหนังสือไทยและหนังสือขอม ต่อมาศึกษาต่อในสำนักนายขำ ที่วัดทุ่งปอน บ้านโคกทือ จนจบหลักสูตร ต่อมาได้ไปฝึกหัดเล่นหนังตะลุงกับนายทองสาก ประกอบกับพ่อท่านคล้ายมีหน้าตาดี น้ำเสียงไพเราะ จึงมีคนติดใจการเล่นหนังตะลุงของท่านมาก

    ต่อมาปี พ.ศ.2441 พ่อท่านคล้าย ได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี เรียนมูลกัจจายนะ ในสำนักพระครูกาแก้ว (ศรี) ณ วัดหน้าพระธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จบหลักสูตรมูล พอแปลบาลีได้ ศึกษาอยู่เป็นเวลา 2 พรรษา
    ปี พ.ศ.2443 ต่อมาได้ศึกษาทางวิปัสสนากัมมัฎฐานที่สำนักวัดสามพัน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีอาจารย์หนูเจ้าอาวาสเป็นผู้สอน
    ปี พ.ศ.2445 พ่อท่านคล้าย ได้กลับมาอยู่จำพรรษาวัดหาดสูง ใกล้ตลาดทานพอ ในสำนักพระครูกราย ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพ่อท่าน เพื่อศึกษาวิปัสสนาและไสยศาสตร์ โดยเหตุที่พระครูกราย เป็นอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาและทรงวิชาคุณทางไสยศาสตร์ในสมัยนั้น
    ปี พ.ศ.2447 พ่อท่านคล้าย ได้ไปจำพรรษาที่วัดมะขามเฒ่า อำเภอระโนด จังหวัดสงขลาเพื่อศึกษาภาลีและอภิธรรมเพิ่มเติม
    ปีพ.ศ.2448 พ่อท่านกลับจากวัดมะขามเฒ่า มาจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งปอน (จันดี) ตลอดเวลาที่ท่านจำพรรษา ณ ที่ใดก็ตาม ท่านได้ศึกษาค้นคว้าภาษา บาลี วิชาโหราศาสตร์ และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ติดต่อกันมาโดยมิได้ประมาท ด้านการก่อสร้างก็ได้สร้างใว้ตามวัดต่างๆพอสมควร
    [​IMG]
    พ่อท่านคล้าย เป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขัน
    ในปี พ.ศ.2448 พระปลัดคง เจ้าอาวาสวัดสวนขัน ลาสิกขาบท คณะอุบาสกอุบาสิกาของวัดสวนขัน ได้ร่วนกันเสนอไปยัง ท่านพระครูกรายเจ้าคณะแขวงฉวาง ขอแต่งตั้ง"พ่อท่านคล้าย"เป็นเจ้าอาวาส วัดสวนขันแทน ท่านพระครูกรายก็เสนอไปยังเจ้าคณะเมือง (ม่วง เปรียญ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณพระศิริธรรมมุนี เจ้าคณะเมือง ได้แต่งตั้งให้พ่อท่านคล้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขันแต่นั้นมา


    [​IMG]
    ประวัติวัดสวนขัน
    วัดสวนขันเป็นวัดราษฎร์ เดิมตั้งอยู่ที่ วัดราษฎร์บำรุง ปัจจุบันชาวบ้านเรียกวัดคุดด้วน เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งคลองคุดด้วน มีพระปลัดคงเป็นเจ้าอาวาส แต่ที่ตั้งเป็นที่ไม่เหมาะบางประการ เนื่องจากฤดูน้ำก็ถูกน้ำท่วมบ่อยๆและสถานที่คับแคบ จึงทำการย้ายวัดขึ้นไปทางเหนือของคลองคุดด้วน สร้างวัดขึ้นมาใหม่ใน ป่าไม้ขันอันเป็นที่สวนของอุบาสกผู้มีศรัทธาถวายให้วัด และพร้อมใจกันตั้งชื่อวัดว่า วัดสวนขัน
    วัดสวนขันปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ตำบลสวนขัน กิ่งอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีฯ พระปลัดคงได้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก พระปลัดคงเป็นลูกศิษย์ของพระครูกราย ต่อมาลาสิกขาบทพระครูกรายเสนอพ่อท่านคล้ายให้เป็นพ่อท่านคล้าย ตลอดมาเป็นเวลา65ปี จนถึงวันมรณะภาพ
    พ่อท่านเคยแต่งบทกลอนกำดัดสอนนาคใว้น่าฟังดังนี้

    ศีลสิบโดยตั้ง รักษาโดยหวัง
    องค์ศีลทั่วผอง สองร้อยยี่สิบเจ็ด
    สิ้นเสร็จควรตรอง ศีลสิบหม่นหมองสองร้อยมรณา
    [​IMG]
    สมณศักดิ์พ่อท่านคล้าย
    ได้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่พระครูพิศิษฐ์อรรถการในปี พ.ศ.๒๔๙๘ ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นพิเศษในนามสมณศักดิ์เดิม แต่ประชาชนทั่วไปเรียกท่านตามชื่อเดิมว่า พ่อท่านคล้าย
    ตำแหน่ง
    - ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวนขัน ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ใน พ.ศ. ๒๔๔๕ จนมรณภาพ
    - เป็นเจ้าอาวาสวัดธาตุน้อย ใน พ.ศ.๒๕๐๐ เนื่องจากมีการสร้างถนนผ่านกลางวัดจันดีหรือวัดทุ่งปอน ทำให้วัดถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ประชาชนได้ประชุมตกลงสร้างวัดใหม่ในเนื้อที่ที่แยกออกไป เรียกว่า วัดพระธาตุน้อย และแต่งตั้งให้พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นเจ้าอาวาส เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว วัดนี้ก็เป็นที่ประดิษฐานสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว


    [​IMG]
    งานด้านศาสนา
    พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นผู้นำในการสร้างวัดพระเจดีย์ พระพุทธรูป และร่วมกันในการปฏิสังขรณ์บูรณะศาสนสถานเป็นจำนวนมาก ผลงานสำคัญ ดังเช่น สร้างวัด พ่อท่านคล้ายเห็นความสำคัญของปูชนียสถาน จึงได้สร้างวัดขึ้นหลายแห่ง ได้แก่ วัดมะปรางงาม ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ ต่อมา พ.ศ. ๒๕๐๐ ทายาทอึ่งค่ายท่าย ถวายที่ดิน และวัดที่สำคัญที่สุดคือวัดพระธาตุน้อย หรือคนทั่วไปเรียกว่า วัดพ่อท่านคล้าย

    [​IMG]
    พ่อท่านคล้าย สร้างวัดพระธาตุน้อยและเจดีย์
    ปี พ.ศ.2505 นายกลับ งามพร้อม อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่9 ตำบลช้างกลาง อำเภอฉวาง ได้ยกที่ดินโคกไม้แดง มีเนื้อที่40ไร่ ถวายพ่อท่านโดยมอบให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ที่ดินแปลงนี้อยู่ใกล้สถานีรถไฟคลองจันดี ประมาณ1กิโลเมตร พระครูพิศิษฐ์อรรถการได้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นในที่ดินแปลงนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อ 14 มกราคม 2505 ตรงกับวันขึ้น 9ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่นายประคอง ช่วยเพ็ชร ถวายมาจากกว๊านพะเยา (ปัจจุบันเป็นจังหวัดพะเยา) โดยยึดรูปแบบมาจากวัดพระมหาธาตุทั้งหมด ทุนรอนในการก่อสร้างได้มาจาก พ่อค้า คหบดี ข้าราชการ และประชาชน ฝ่ายสงฆ์มีพระใบฏีกาครื้น โสภโณ เจ้าอาวาสวัดจันดีในสมัยนั้น เป็นผู้อำนวยการสร้าง ฝ่ายฆราวาสมี พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ ราชเดช เป็นประธาน พระเจดีย์องค์นี้มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ27เมตร สูง 70เมตร การก่อสร้างสำเร็จในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ องค์พระเจดีย์ มองเห็นเด่นแต่ไกล ถ้านั่งรถไฟเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ก่อนขบวนรถจะถึงสถานีคลองจันดี จะมองเห็นพระเจดีย์อยู่ทางซ้ายมือ
    พ่อท่านคล้ายได้สร้างพระเจดีย์ไว้หลายองค์ ได้แก่ เจดีย์วัดสวนขัน เจดีย์บ้านควรสวรรค์ ตำบลนาแว อำเภอฉวาง เจดีย์วัดยางค้อม อำเภอพิปูน และที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ได้แก่ เจดีย์วัดสวนขันอำเภอพระแสง และเจดีย์หน้าถ้ำขมิ้น บนภูเขาอำเภอนาสาร
    งานด้านพัฒนาท้องถิ่น
    พ่อท่านคล้าย จัดได้ว่าเป็นนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ตลอดชีวิต ทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ได้เดินทางไปพัฒนาในที่ต่าง ๆ มากมาย สร้างถนน สะพานมากมาย ด้วยเมตตาบารมีและความเคารพศรัทธาของศิษย์และประชาชน ดังเช่น

    สร้างถนนเข้าวัดจันดี
    ถนนจากตำบลละอายไปพิปูน
    ถนนจากวัดสวนขันไปยังสถานีรถไฟคลองจันดี
    ถนนจากตำบลละอายไปนาแว
    ถนนระหว่างหมู่บ้านในตำบลละอาย
    สะพานข้ามคลองคุดด้วนเข้าวัดสวนขัน
    สะพานข้ามแม่น้ำตาปีจากตลาดทานพอไปนาแว
    สะพานข้ามคลองเสหลา หน้าวัดมะปรางงาม
    สะพานข้ามคลองจันดี เป็นต้น
    [​IMG]
    ด้านความมีเมตตาและวาจาสิทธิ์
    ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแจ่มใสอารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา ท่านมักจะให้พรกับทุกคน "ขอให้เป็นสุข เป็นสุข" ผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวคำตำหนิ เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย
    คนที่ไปนมัสการ"พ่อท่านคล้าย"หวังที่จะได้วัตถุมงคล พระเครื่อง บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็ได้มีเมตตาให้กับทุกคน ยิ่งชานหมากของท่านหากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด
    [​IMG]
    พ่อท่านคล้าย มรณภาพ
    <script type="text/javascript"><!--google_ad_client = "pub-1590357468802909";/* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 10/30/08 */google_ad_slot = "8037656009";google_ad_width = 468;google_ad_height = 15;//--></script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type="text/javascript"></script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></script><script>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><ins style="border: medium none ; margin: 0px; padding: 0px; visibility: visible; width: 468px; position: relative; height: 15px;"><ins id="google_ads_frame1_anchor" style="border: medium none ; margin: 0px; padding: 0px; display: block; visibility: visible; width: 468px; position: relative; height: 15px;"></ins></ins>

    พ่อท่านคล้ายหรือพระครูพิศิษฐ์อรรถการ เมื่อครั้นถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2513 ตรงกับแรม 9ค่ำ เดือน12 ปีจอ พ่อท่านจะต้องเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ เนื่องในงานพุทธาภิเษกที่คณะพุทธบริษัท จังหวัดนั้นนิมนต์ใว้ เวลา 16.00 น. ของวันเดินทาง คณะศิษย์เป็นว่าพ่อท่านอาพาธกระทันหัน จึงนิมนต์พ่อท่านขึ้นรถด่วนเข้ากรุงเทพ ถึงวันรุ่งขึ้นได้นำพ่อท่านเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎในวันนั้น แพทยืได้พยายามรักษาจนเต็มความสามารถ เป็นเวลา14วัน อาการมีแต่ทรงกับทรุด ครั้งถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2513 เวลา23.05 น. พ่อท่านคล้าย มรณะภาพด้วยอาการสงบ รวมอายุได้ ๙๖ ปี เมื่อบำเพ็ญกุศลครบ ๑๐๐ วัน จึงได้บรรจุสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ในวัดพระธาตุน้อยจนถึงปัจจุบัน

    <script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></script><script>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><iframe id="google_ads_frame1" name="google_ads_frame1" marginwidth="0" marginheight="0" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?format=nanxnan&output=html&ea=0&flash=10.0.22.87&dt=1297435535453&shv=r20101117&jsv=r20110208&saldr=1&correlator=1297435535500&frm=1&adk=3258867418&ga_vid=122682428.1296989439&ga_sid=1297434519&ga_hid=1454990468&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=9&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1001&bih=599&ifk=2617825891&fu=4&ifi=1&dtd=265" allowtransparency="" scrolling="no" width="undefined" frameborder="0" height="undefined"></iframe><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><iframe id="google_ads_frame2" name="google_ads_frame2" marginwidth="0" marginheight="0" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?format=0x0&output=html&ea=0&flash=10.0.22.87&dt=1297435535734&shv=r20101117&jsv=r20110208&prev_fmts=nanxnan&correlator=1297435535500&frm=1&adk=1737303903&ga_vid=122682428.1296989439&ga_sid=1297434519&ga_hid=1454990468&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=9&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1001&bih=599&ifk=2617825891&fu=4&ifi=2&dtd=62" allowtransparency="" scrolling="no" width="null" frameborder="0" height="null"></iframe><script>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04002.JPG
      DSC04002.JPG
      ขนาดไฟล์:
      935 KB
      เปิดดู:
      480
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2011
  12. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    [​IMG]

    รายการที่ 3หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระอริยสงฆ์ศิษย์ในสายหลวงปู่มั่น หลวงปู่บัว สิริปุณโณ เป็นคนชี้แนะธรรมท่าน จนท่านหลุดพ้น ครับ เกศาแปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว รุ่นรับทรัพย์ รุ่นนึ้หลวงปู่เมตตาอฐิธานจิตครับ หายากครับสำหรับพระที่หลวงปู่อฐิธานจิต วงศ์กรรมฐานทราบกันดีว่า ท่านไม่ชอบแนวนึ้ครับ แต่ก็อนุโลมบ้างครับ
    ให้บูชา 500 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03997.JPG
      DSC03997.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      214
    • DSC03998.JPG
      DSC03998.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      268
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กุมภาพันธ์ 2011
  13. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    รายการที่ 4 เหรียญครูบาบุญปั้น วัดร้องขุ้ม รุ่นแรกของวัดร้องขุ้ม พร้อมกล่องเดิม ครับ พระอริยะเจ้าผู้อัฐิแปรสภาพเป็นพระธาตุ ให้บูชา 800 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ

    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ
    วัดร้องขุ้ม จ.เชียงใหม่
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif][​IMG] [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย

    ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ เกิดในตระกูล “ปัญญานุสงส์” โยมบิดาชื่อพ่ออุ้ยหม่อมจันทร์แก้ว ปัญญานุสงส์ โยมมารดาชื่อแม่อุ้ยหม่อนสมนา ปัญญานุสงส์ พระคุณท่านถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2451 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 9 เหนือ จุลศักราช 1270 ตัววอกฉนำกัมโพชขอมพิไสย ไทภาษาว่าปีเปิกสัน ณ บ้านแม หมู่ที่ 8 ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน จำนวน 7 ท่านคือ
    1. พระครูคำอ้าย ชยวุฑ์โฒ อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมชัย อดีตเจ้าคณะตำบลบ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
    2. พ่ออุ้ยน้อยใจ๋ ปัญญานุสงส์
    3. พ่ออุ้ยหนานคำ ปัญญานุสงส์
    4. พ่ออุ้ยก้อนแก้ว ปัญญานุสงส์
    5. แม่อุ้ยก๋องคำ ปัญญานุสงส์
    6. แม่อุ้ยดวงดี ปัญญานุสงส์
    7. ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ
    บรรดาพี่น้องทั้งหมดได้ถึงแก่มรภาพ และถึงแก่กรรมไปแล้วทุกท่าน
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ปฐมวัยแห่งชีวิต [/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif]
    พ่ออุ้ยหม่อมจันทร์แก้ว แม่อุ้ยหม่อนสมนา ปัญญานุสงส์ ชาติภูมิท่านเป็นคนบ้านแมโดยกำเนิด จึงมีอาชีพในทางเกษตรกรรมดำเนินชีวิตด้วยการทำไร่ไถนาเลี้ยงดูบุตรธิดา ตามประสาของชาวบ้านโดยทั่วไป เมื่อครั้งยังเยาว์วัยอยู่นั้นท่านครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ได้ใช่ชีวิตเฉกเช่นชาวบ้านทั่วไป ส่วนใหญ่ก็ช่วยโยมบิดามารดาทำไร่ไถนา ในช่วงนี้ท่านครูบาคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ ผู้เป็นพี่ชายคนโต และพ่ออุ้ยน้อยใจ๋ ปัญญานุสงส์ พ่ออุ้ยหนานคำ พี่ชายคนรองทั้งสองได้เข้าไปเป็นเด็กวัด และได้รับการบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสามเณรก่อนหน้านั้นแล้ว ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ดำเนินชีวิตในเพศฆราวาสได้ไม่นาน ก็มาพิจารณาเล็งเห็นยังบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความทุกข์ยากลำบาก ต้องต่อสู้กับความยากจน บางครั้งต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อนำมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนเอง ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้พระคุณท่านมีใจน้อมไปในทางบรรพชา เพื่อจะศึกษาเล่าเรียนเพียรปฏิบัติธรรม ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ จึงได้นำเอาความนี้ไปเรียนให้โยมบิดาทราบ โดยมบิดาจึงได้ปรึกษากับโดยมมารดา ต่างก็มีความเห็นเป็นเอกาสมานฉันท์จึงได้พร้อมใจจัดพานข้าวตอกดอกไม้ นำเอาเด็กชายบุญปั๋น ไปฝากเรียนกับท่านครูบาเจ้าอาวาสวัดธรรมชัย
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]บรรพชา[/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif]
    เมื่อเด็กชายบุญปั๋น ในฐานะขะโยมเด็กวัดแห่งวัดธรรมชัยบ้านแม ได้รับการศึกษาอบรมอักขระวิธี ท่องจำบททำวัตรสวดมนต์และฝึกแสดงพระธรรมเทศนาแบบพื้นเมืองล้านนาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง พระสงฆ์ทุกท่านที่เป็นครูบาอาจารย์ต่างลงความเห็นว่าเด็กชายบุญปั๋น มีภูมิความรู้พอที่จะบรรพชาได้ และได้ตกลงจัดงานบรรพชาเด็กชายบุญปั๋น ยกฐานะขึ้นเป็นสามเณร ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 13 ปี โดยมีท่านครูบาเจ้าสุริยะ สุริโย เจ้าอธิการวัดร้องขุ้ม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันอังคารที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ตรงกับวันแรม 3 เดือน 5 เหนือ เมื่อบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ได้ตั้งใจเล่าเรียนวิชาความรู้ในทางพระพุทธศาสนาเต็มกำลังความสามารถ
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]อำนาจแห่งโรคภัยจึงจำใจลาสิกขาบท[/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif]
    แต่อุปสรรคของการศึกษาและปฏิบัติธรรมก็ปรากฏขึ้นเมื่ออายุได้ 19 ปี จากอาการที่ท่านเล่าให้ฟังสันนิษฐานว่าท่านอาพาธด้วยโรคหัวใจ โยมบิดาและญาติผู้ใหญ่ พร้อมด้วยครุบาอาจารย์ได้นำท่านไปรับการรักษาจามสถานพยาบาลต่างๆทั้งแบบแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน ก็ปรากฏว่าอาการไม่ทุเลาเบาบางเลย กลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งอายุได้ 24 ปี แม้จะมีอายุครบแล้วก็ยังไม่ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ต่อมาในการณ์นั้นปรากฏว่ามีนักบุญท่านหนึ่ง คนทั้งหลายเรียกกันว่า พระฤาษี ท่านได้เดินธุดงค์มาโปรดคณะศรัทธาญาติโยมที่บ้านกาด ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ คุณวิเศษของพระฤาษีตนนี้คือท่านสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด โยมบิดาจึงตัดสินใจพาท่านไปขอรับการรักษาจากพระฤาษี สามเณรบุญปั๋นจึงได้ลาสิกขาบทจากสามเณรออกไปเป็นชั่วคราว เมื่ออายุได้ 24 ปี แต่ได้สมาทานศีลนุ่งขาวห่มขาวขอบวชเป็นชีผ้าขาว และได้รับการรักษาตัวจากพระฤาษีเป็นเวลา 1 ปี จนกระทั่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆหายไปหมดสิ้น จากนั้นท่านได้ติดตามพระฤาษีไปโปรดเมตตารักษาคนตามสถานที่ต่างๆ เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ตลอดเวลาที่ลาสิกขาบทออกไปเพื่อรักษาตัวนั้น นายน้อยผ้าขาวบุญปั๋นได้คิดอยู่เสมอว่าหากอาการอาพาธหายแล้วก็จะกลับมาบวชอีกครั้ง จึงขออนุญาตพระฤาษีเดินทางกลับมายังวัดธรรมชัยบ้านแมและได้กราบเรียนเรื่องนี้แด่ท่านครูบาคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ แจ้งความประสงค์ที่จะขอกลับเข้ามาอุปสมบทอีกครั้ง

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

    อุปสมบท กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
    เมื่อท่านครูบาคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ และคณะศรัทธาทราบถึงกุศลเจตนา แล้วก็ได้จัดให้เป็นไปตามความประสงค์ของท่าน ดังนั้นนายน้อยผ้าขาวบุญปั๋น จึงได้รับการอุปสมบทอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 25 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2477 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ขณะมีอายุได้ 26 ปี ณ พัทธสีมาโรงอุโบสถวัดร้องขุ้ม ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ โดยมี เจ้าอธิการอุนใจ๋ ญาโณ (ครูบาญาณะ) เจ้าอาวาสวัดท่าโป่ง เจ้าคณะตำบลบ้านแม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบุญมา เมโธ (ครูบาเมธา) อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดวนารามน้ำบ่อหลวง เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการเตชา เตชกโร (ครูบาเตชา หรือท่านครูบาหนิ้ว) เจ้าอาวาสวัดจอมแจ้ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “ธมฺมปญฺโญ” แปลว่า ผู้มีปัญญารู้ธรรม
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ศึกษาและปฏิบัติธรรม[/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif]
    เมื่ออุปสมบทแล้วพระบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ ก็ได้ตั้งใจศกึษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตามแนวทางแห่งพระพุทธศาสนามาด้วยดีโดยตลอด และได้รับการศึกษาอบรมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ประกอบไปด้วย พระครูคำอ้าย ชยวุฑฺโฒ เจ้าอธิการอุ่นใจ๋ ญาณ พระครูบุญมา เมโธ ครูบาโสภา โสภโณ และพระสุธรรมยานเถร เจ้าอาวาสวัดวนารามน้ำบ่อหลวง คนทั่วไปเรียกท่านว่า “ครูบาเจ้าอิทจักรรักษา”
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ปัจฉิมวัยแห่งชีวิต[/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif]
    เมื่อท่านครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ มีพรรษายุกาลมากขึ้น ก็มีศรัทธาสาธุชนที่เคารพเลื่อมใสท่านมากขึ้น มีผู้คนเดินทางมานมัสการขอพรและอาราธนาท่านไปกิจนิมนต์ต่างๆโดยตลอด ในปี 2538 ท่านได้เกิดอุบัติเหตุหกล้มลงตรงที่บันไดกุฏิ ทำให้กระดูกเองและกระดูกสันหลังของท่านแตกทำให้การเดินและการเคลื่อนไหวเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้อุปกรณ์เสริมช่วยในการเดิน และก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งในปี 2548 ระบบการทำงานของหัวใจของท่านครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ เป็นไปไม่ปรกติ และได้มรณภาพละสังขารเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2545 ด้วยอาการที่สงบในภวังค์แห่งสมาธิจิตอันเที่ยงตรง

    ธรรมโอวาท
    ๑.
    [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ภาพพระธาตุ[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    [/FONT]​
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]แหล่งข้อมูล: หนังสือ "ธรรมปัญญานุสรณ์ " งานบำเพ็ญกุศลพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ อายุ 95 พรรษา 68 อดีตเจ้าอาวาสวัดร้องขุ้ม ณ เมรุปราสาทนกหัสดีลิงค์วัดร้องขุ้ม ตำบลบ้านแม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ 16-22 มกราคม 2548[/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04003.JPG
      DSC04003.JPG
      ขนาดไฟล์:
      995.8 KB
      เปิดดู:
      150
    • DSC04004.JPG
      DSC04004.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1,011 KB
      เปิดดู:
      222
    • DSC04005.JPG
      DSC04005.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      214
  14. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    รายการที่ 5 เหรียญหลวงปู่แฟบ สุภัทโท วัดป่าดงหวาย รุ่นสุดท้าย เกศา ข้าวก้นบาตร และอัฐิท่านแปรสภาพเป็นพระธาตุงดงามมากครับ
    ให้บูชา 500 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0 sizset="67" sizcache="0" jQuery1297435755000="100"><TBODY sizset="67" sizcache="0" jQuery1297435755000="99"><TR bgColor=#400040 sizset="67" sizcache="0" jQuery1297435755000="98"><TD sizset="67" sizcache="0" jQuery1297435755000="97">[​IMG]
    รูปหลวงปู่แฟ้บ สุภัทโท
    วัดป่าดงหวาย


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    " หลวงปู่แฟ้บ สุภัทโท" แห่งวัดป่าดงหวาย ต.บ้านม่วง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร เป็นพระนักปฏิบัติที่มีปฏิปทางดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนชาวเมือง สกลนครอีกรูปหนึ่ง

    ประวัติหลวงปู่แฟ้บ สุภัทโท วัดป่าดงหวาย จ.สกลนคร

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ญาติ กุลวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2465 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือนสอง ปีจอ เพราะเหตุบางประการในการแจ้งชื่อในทะเบียนทหารกองเกิน ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น "แฟบ" และวันเวลาเกิดก็ผิดพลาดไปด้วย จึงต้องใช้ชื่อวันและเวลาเกิดใหม่

    จากนั้นเป็นต้นมา ได้เรียกเพี้ยนเป็นหลวงปู่ "แฟ้บ" ไป บ้านเกิดอยู่ ณ บ้านคำชะอี ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.นครพนม (จังหวัดมุกดาหารในปัจจุบัน) โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพรหมมาและนางทุมมา กุลวงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

    การศึกษาของท่านเรียนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เมื่อมารดาถึงแก่กรรมตอนอายุได้ 7 ขวบ บิดาได้แต่งงานใหม่ ทำให้ต้องย้ายไปอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในสมัยนั้นหมู่บ้านอยู่ในชนบทห่างไกลมาก จึงไม่มีโรงเรียนทำให้ท่านไม่ได้รับการศึกษาต่อ ดังนั้น ท่านจึงช่วยงานของบิดา จนถึงอายุ 16 ปี จึงย้ายกลับมาอยู่กับพี่ชายที่บ้านเดิม

    ในวัยเยาว์นั้น มีเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจและปลูกศรัทธาความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และพระธุดงค์กัมมัฏฐานเป็นอย่างมาก เมื่อได้กราบนมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่ถ้ำจำปาภูผากูด

    ต่อมาท่านทั้งสองได้ออกธุดงค์มาแวะใกล้บริเวณหมู่บ้าน ได้มีโอกาสเข้ากราบนมัสการท่านทั้งสอง เพราะชาวบ้านไปถางป่าจัดทำสถานที่พักไปฟังเทศน์ ท่านก็ตามชาวบ้านไปด้วย มีโอกาสช่วยงานต่างๆ และทำทางเดินจงกรมให้กับหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่นด้วย

    หลวงปู่แฟ้บ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2525 วัดอรัญญิกาวาส ต.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยมีพระครูอุดรคณานุศาสน์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหามีสุทสลี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และเจ้าอธิการสมจิต เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    สำหรับท่านหลวงปู่แฟ้บ เมื่อครั้งท่านบวชใหม่ๆ กับท่านพระอาจารย์ประสิทธิ์ ปภังกโร ที่วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และท่านก็ได้เข้าไปศึกษารับการอบรมข้อวัตรปฏิบัติ ตลอดจนการเจริญสมณธรรมจากครูบาอาจารย์หลายรูป

    หลังจากที่หลวงปู่แฟ้บ ท่านได้เข้ารับการอบรมจากครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ท่านพระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านก็ได้เดินธุดงค์มุ่งหน้าสู่การปฏิบัติรรมเป็นเวลาหลายปี

    โดยที่ครั้งหนึ่งหลวงปู่แฟ้บได้มุ่งหน้าเดินธุดงค์ไปที่จังหวัดมุกดาหาร โดยไปพักภาวนาที่ภูเก้า และได้พบท่านหลวงปู่หล้า เขมปัตโตต ที่วัดภูจ้อก้อ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร และได้รับการอบรมธรรมจากท่านพอสมควรแก่เวลา จึงลาท่านเพื่อหาสถานที่พักบำเพ็ญต่อไป เป็นเวลาหลายพรรษา จนพรรษาเข้ากาลสมัย หลวงปู่แฟ้บจึงมาพักการเดินธุดงค์โดยมาพักที่วัดป่าดงหวาย

    หลวงปู่แฟ้บ ท่านได้ทำนุบำรุงศาสนสถานให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมถาวรมากมาย เช่น ศาลาการเปรียญ 1 หลัง กุฏิกรรมฐานถาวรจำนวนมาก และได้สร้างวิหารมณฑปแสดงประวัติการปฏิบัติธรรมของท่านด้วย 1 หลัง และได้สร้างพุทธเจดีย์ เพื่อบรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าและพระธาตุของครูบาอาจารย์หลายรูป ในการก่อสร้างหลวงปู่แฟ้บมิได้เรี่ยไรปัจจัยแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงความศรัทธาในตัวญาติโยมที่มีต่อหลวงปู่ เมื่อหลวงปู่แฟ้บได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าดงหวายเป็นการถาวรแล้ว ท่านก็นำพระภิกษุสามเณรพากันประพฤติปฏิบัติธรรม ตลอดจนได้อบรมพระเณรและชาวบ้านในละแวกวัดป่าดงหวายนั้น จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธามากขึ้นเป็นลำดับ

    ปัจจุบัน วัดป่าดงหวาย ได้รับความศรัทธาจากลูกศิษย์ทั้งพระภิกษุและฆราวาสเข้ามาขอความเมตตา ฟังเทศน์ ฟังธรรมคำสั่งสอนและหลักปฏิบัติภาวนาเป็นจำนวนมาก หลวงปู่ก็ให้ความเมตตา อบรมสั่งสอน ให้อยู่ในศีลในธรรม ให้รู้จักปฏิบัติภาวนารักษาจิตใจให้สะอาด โดยเน้นหลักคำสอนจองพระพุทธเจ้า

    แม้สังขารร่างกายของหลวงปู่แฟ้บจะทรุดโทรมด้วยความชราและโรคภัยต่างๆ ที่เข้ามาเบียดเบียนก็ไม่ได้ทำให้หลวงปู่ลดความเมตตาลงตามไปด้วยแม้แต่น้อย หลวงปู่แฟ้บยังคงปฏิบัติภาวนา เช่น เดินจงกรม นั่งสมาธิ อยู่เป็นประจำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03995.JPG
      DSC03995.JPG
      ขนาดไฟล์:
      898 KB
      เปิดดู:
      167
    • DSC03996.JPG
      DSC03996.JPG
      ขนาดไฟล์:
      998.2 KB
      เปิดดู:
      348
  15. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    ท่านที่ร่วมบุญกับกระทู้นึ้ได้ 5000 บาท จะขอมอบพระธาตุหลวงปู่บัว สิริปุรโณ มอบให้เป็นของมงคลครับ :cool:
     
  16. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    [​IMG]


    [​IMG]

    รายการที่ 6 พระหางหมากของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) องค์หลวงพ่อเป็นพระอรหันต์จตุปฏิสัมภิทาญาณที่มากไปด้วยบารมีและธรรมบารมีในกึ่งพุทธกาลนึ้ หลวงพ่อกล่าวว่า วันนี้ "พระ" ท่านทำสมเด็จหางหมากรุ่นนี้ให้เป็น "พิเศษ"
    ท่านบอกว่า ทำเพื่อกันพวก "รังสีนิวเคลียร์"
    ท่านบอกว่า ภายในรัศมี ๔ เมตร นิวเคลียร์เข้าไม่ได้ และยังมีคุณวิเศษในเรื่องพูดจับใจคนอีกด้วย
    ให้บูชา 800 บาท พร้อมเลี่ยม ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ

    ปิดรายการแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04025.JPG
      DSC04025.JPG
      ขนาดไฟล์:
      892.3 KB
      เปิดดู:
      187
    • DSC04026.JPG
      DSC04026.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      156
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2011
  17. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    [​IMG]

    [​IMG]

    รายการที่ 7 พระคำข้าวปืนแตก(ปิดทอง)ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) องค์หลวงพ่อเป็นพระอรหันต์จตุปฏิสัมภิทาญาณที่มากไปด้วยบารมีและธรรมบารมีในกึ่งพุทธกาลนึ้ หลวงพ่อกล่าวถึงรุ่นนึ้ว่า ห้ามไปลองกันปืนจะแตก
    ให้บูชา 1000 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04013.JPG
      DSC04013.JPG
      ขนาดไฟล์:
      890 KB
      เปิดดู:
      199
    • DSC04014.JPG
      DSC04014.JPG
      ขนาดไฟล์:
      962.6 KB
      เปิดดู:
      426
  18. neeranut

    neeranut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +810
    ขอจองบูชา อีกสัก 2 - 3วัน โอนแล้วจะแจ้งอีกครั้ง
    รายการที่ 1 พระเสด็จกลับ วัดสารอด หลวงปู่สุภา ปี 2506 อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์ในสายเขาอ้อ ศิษย์อาจารย์เอียด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เนื้อผงสีเหลือง(หายากที่สุดในบรรดาสี) 3000 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ พระมหัศจรรย์นำลงทะเลไปแล้วกลับเรียกเสด็จกลับมาได้

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=728 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
    รายการที่ 2 ชานหมากพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช ให้บูชา 3000 บาท ถวายครูบาบุญเป็งโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ชานหมากนึ้เจ้าของเดิม คือ หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำกระบี่ ท่านได้รับมอบจากมือท่านพ่อคล้าย ตอนไปศึกษาวิชากับท่าน เมตตามอบให้ เพื่อการกุศล
    รูปขนาดเล็ก[​IMG]
     
  19. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    ขอขอบพระคุณครับ เมื่อโอนแล้วช่วยบอกผมด้วยน่ะครับจะได้ดำเนินการจัดส่งของมงคลทั้งสองและพระธาตุหลวงปู่บัว สิริปุณโณ พระอรหันต์แห่งวัดป่าหนองแซงให้ครับ ขอชื่อ-นามสกุล ด้วยน่ะครับ ผมจะไปกราบเรียนครูบาให้ครับ
     
  20. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    [​IMG]

    หลวงปู่เกลื่อนฉายรูปกับหลวงปู่สังวาลย์ ที่พุทธคยา

    รายการที่ 8 พระผงสีวลี หลวงปู่เกลื่อน ฉันทาคาโม หลังจารท่านเป็นพระที่หลวงพ่อสังวาลย์และหลวงปู่บุดดากล่าวว่า เป็นมังกรซ่อนเขี้ยว เคยอฐิธานพระจนศาลาลั่นมาแล้ว เกสา ทันตุธาตุ อุจาระแปรสภาพเป็นพระธาตุครับ ให้บูชา 1000 บาท ศิษย์รุ่นเก่าใช่รุ่นนึ้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03993.JPG
      DSC03993.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      402
    • DSC03994.JPG
      DSC03994.JPG
      ขนาดไฟล์:
      984.4 KB
      เปิดดู:
      302

แชร์หน้านี้

Loading...