10 ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 27 กรกฎาคม 2018.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    51,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,071
    BuddhaBlueSea.jpg
    10 ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ

    วันนี้มุมสบายขอนำเรื่องประโยชน์ของการนั่งสมาธิมาฝากกัน ช้าก่อนอย่าคิดว่านี่มาแนวธรรมมะ คร่ำครึ มิใช่อย่างนั้นเลย เพราะนี่เราจะมาพูดกันว่าถ้าเรานั่งสมาธิแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายและจิตใจของเราบ้าง ซึ่งก็มีแต่ดีๆ ทั้งนั้นเลย ลองมาดูกันเลย
    1.คลายความเครียด

    การทำสมาธินั้นมีหลายแบบ หลายวิธีแต่วิธีที่นิยมกันและรู้จักอย่างแพร่หลาย ก็คือ อานาปานสติ หรือที่เรียกว่ารู้จักลมหายใจเข้าออกนั้นเอง เมื่อคนเรามีจุดความสนใจอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก การคิดถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากลมหายใจก็จะค่อยน้อยลง รวมถึงความเครียดต่างๆ ที่สะสมมาด้วย ความเครียดในจิตใจของเราก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายลง และถ้ายิ่งหมั่นทำสมาธิบ่อยๆ จิตใจเราก็จะรู้จักวิธิการปล่อยวางจากความเครียดได้ง่ายกว่าเดิม

    2.จิตใจผ่องใสและอ่อนโยน
    เมื่อเราได้เข้าสู่สมาธินั้น จิตใจก็จะอยู่แต่กับลมหายใจเข้าออก การที่จะไปเครียดหรือมุ่งร้ายกับใครก็จะน้อยลงๆ เรื่อย จนเบาบางในที่สุด และยิ่งการที่เราหายใจลึกๆ หายใจออกยาวๆ นี้ เป็นการนำเอาก๊าซออกซิเจนที่เป็นประโยชน์กับร่างกายเข้าไป และนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่เป็นของเสียจากร่างกายของเราออกมา ยิ่งทำให้กระบวนการในร่างกายของเราดีขึ้น เมื่อร่างกายดีขึ้นก็ทำให้จิตใจแจ่มใส และการฝึกสมาธิก็ทำให้เราเองนั้นมีสติ มองโลกในแง่ดี มีความอ่อนโยนขึ้น ไม่เชื่อก็ลองนั่งสมาธิดูนะ

    3.ลดอารมณ์โกรธหรือโมโหร้ายได้
    การนั่งสมาธินั้น แรกๆ เราอาจจะยังนั่งได้ไม่นาน ยังไม่มีน้ำอดน้ำทนได้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเราหมั่นฝึกนั่งสมาธิบ่อยๆ เข้า ความอดทนก็จะเพิ่มขึ้น สมาธิก็จะเพิ่มขึ้น จากที่เคยนั่งได้น้อยๆ ก็นั่งได้ยาวขึ้น และการที่เรามุ่งจุดสนใจไปที่ลมหายใจหรือส่วนอื่นๆ (อันนี้ัก็แล้วแต่จริตของแต่ละคนที่จะเลือกวิธีการนั่งสมาธิ) เราก็จะคลายจากความโกรธ โมโห ลงได้ เพราะความโมโหนั้นมันไม่ได้อยู่กับเราด้วยระดับเดิมได้ตลอดเวลาหรอก ถ้าเราสนใจกับความโมโห มันก็จะเพิ่มขนาดความโมโหให้ใหญ่โตขึ้นได้ แต่ถ้าเราไม่ได้ให้ความสนใจกับมัน มันก็ลดขนาดความโมโหลง นี่เป็นธรรมชาติ

    พอเราไม่ได้มุ่งไปที่ความโกรธหรือโมโหแล้ว มันก็จะลดขนาดลงเรื่อยๆ จนเรามีอารมณ์ปกติ ฉะนั้นให้ฝึกบ่อยๆ เมื่อฝึกบ่อยๆ ไอ้การที่่เคยเป็นคนขี้โมโหนี่ก็จะลดลงได้ หรือหายไปได้

    4.กระตุ้นให้ความจำดีและสมองทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    การนั่งสมาธินั้น นอกเหนือจากการที่เรามีสติแล้วยังทำให้สมองของเราได้พัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สมองดีขึ้นและแถมยังกระตุ้นให้ความจำของเราดีขึ้นอีกด้วย อย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่า การที่เรามีสมาธิ สมองของเราก็ได้รับการผ่อนคลาย และยิ่งมีการหายใจลึกๆ หายใจออกยาวๆ นั้น ก็ทำให้สมองได้รับออกซิเจนในปริมาณที่เพิ่มขึ้น และได้ระบายเอาคาร์บอนไดออกไซต์ออกไป อันนี้ก็ยิ่งทำให้ดีกับสมองมากขึ้นเท่านั้น ไม่แปลกเลยที่่การหมั่นฝึกสมาธินั้น จะทำให้คนเรามีความจำดีและพัฒนาสมองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    ข้อสังเกตุนะ นักธุรกิจหรือใครก็ตามที่ประสบผลสำเร็จในชีวิต โดยส่วนใหญ่จะเห็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำ ได้แก่ การเรียนรู้ การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพและการนั่งสมาธิ ไม่เชื่อก็ลองไปหาข้อมูลเหล่าผู้ที่ประสบผลสำเร็จทั้งหลายดูนะ

    5.พัฒนาบุคลิกภาพให้สง่าผ่าเผย
    ด้วยความที่การนั่งสมาธินั้นจะต้องใช้ความอดทนและพยายามอย่างสูง อดทนในการนั่ง อดทนในการมุ่งจุดสนใจไปที่การทำสมาธิ และการนั่งสมาธินั้นจะต้องนั่งตัวตรง ไม่อย่างนั้นจะเกิดมีอาการง่วงเข้ามาแทรกได้ ซึ่งการกระทำเหล่านี้จะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และเมื่อทำบ่อยๆ เข้า สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในบุคลิกท่าทางของผู้ฝึกนั่งสมาธิเลยล่ะ

    6.ผิวพรรณอ่อนเยาว์ ผ่องใส ดูเด็กกว่าวัย
    ด้วยความที่ได้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกาย สมองได้ดีขึ้น แถมยังมีสมาธิ จิตใจก็จะปลอดโปร่ง ไม่ค่อยโกรธ หรือเกลียดใคร ทีนีร่างกายของเราก็จะหลังสารแห่งความสุขออกมา และถ้านั่งสมาธิบ่อยๆ เข้าก็ยิ่งจะทำให้ร่างกายได้หลั่งสารแห่งความสุขออกมาได้บ่อยขึ้น

    เมื่อได้ร่างกายได้รับสารแห่งความสุขก็จะส่งผลกระทบกับผิวพรรณผ่องใส หน้าตาสดใส แววตามีความสุข ทำอะไรก็ดูดีไปหมดล่ะคราวนี้ ถึงได้เห็นกันบ่อยๆ ที่นักบวรหรือใครที่หมั่นนั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมนั้น มักมีหน้าตาและผิวพรรณที่อ่อนกว่าวัย ทำให้เราเดาอายุกันไม่ค่อยถูกเท่าไหร่

    7.มีความอดทนเพิ่มขึ้น
    ข้อนี้แน่นอนที่สุด เพราะถ้าใครที่ไม่มีความอดทนแล้วจะไม่สามารถนั่งสมาธิได้เลย แต่คนที่พึ่งเริ่มต้นก็อาจจะยังไม่สามารถนั่งสมาธิได้นาน แต่เมื่อพยายามทำและทำให้บ่อยขึ้น ก็จะเริ่มนั่งได้นานขึ้น การข่มใจตัวเองในเรื่องต่างๆ ก็จะทำได้ดีขึ้น ความอดทนต่อการนั่งสมาธิก็จะเพิ่มขึ้นพร้อมๆ กับการอดทนต่อสิ่งยั่วยวนกวนโมโหกับสิ่งรอบข้างได้มากขึ้นเช่นกัน

    8.สุขภาพดี บำบัดโรคได้
    การนั่งสมาธิบ่อยๆ นั้นทำให้คลายเครียด ลดความโกรธหรือโมโห แถมร่างกายก็ได้หลังสารแห่งความสุขออกมา สิ่งเหล่านี้ทำให้คนเรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีได้ โรคบางโรคที่เป็นอยู่ก็อาจทุเลาเบาบาง หรือ อาจถึงขั้นหายขาดลงไปได้เหมือน

    ทั้งนี้ให้นั่งสมาธิประกอบกับการดูแลสุขภาพร่างกาย โดยการกินอาหารที่เป็นประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ความมีสุขภาพดีก็มีแก่เราได้ทุกคน

    9.ทำให้มีความสุข
    แค่นั่งสมาธิก็มีความสุขแล้ว โอ้ มันไม่ใช่ว่าแค่นะ คือ การนั่งสมาธินี้มันต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดเชียวล่ะ ถ้าใครไม่เคยทำแล้วมาลองทำ จะเห็นได้ว่า มันต้องเกิดอาการเกี่ยงกันบ้างล่ะ เช่น ว่า ปวดขา เหมือยคอ ง่วงนอน ฟุ้งซ่าน อีกหลายอย่างสารพัดเลย

    แต่ถ้าใครที่ทำได้แล้ว ก็จะได้รับอานิสงฆ์ของการทำสมาธิหลายอย่าง ได้แก่ มีความอดทน ลดความเครียด ความโมโห หน้าตาแจ่มใส จิตใจผ่องใส ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข มีสติ สิ่งเหล่านี้ผสมผสานกลมกลืนแล้วก็ทำให้ผู้นั่งสมาธินั้นมีความสุขขึ้นเป็นลำดับ ชีวิตก็จะง่ายขึ้นด้วย เพราะการนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องออกไปวิ่งหาความสุขกันไกลๆ

    10.ทำให้เราได้บุญ
    เมื่อนั่งสมาธิเสร็จแล้ว ก็ให้แผ่เมตตาให้กับเพื่อนร่วมโลกทั้งหลาย ให้เพื่อนร่วมโลกของเราไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กน้อยใหญ่ คนจน คนรวย เพื่อให้เขาเหล่านั้นมีความสุขและใจของเราก็จะได้ปล่อยวางจากการโกรธเกลียด หรือการจองเวรจองกรรมกับคนอื่น การทำสิ่งเหล่านี้ทำให้จิตใจเราดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น การเบียดเบียนคนอื่นก็จะน้อยลงตามสภาพจิตใจของเราเอง และยังเป็นการได้ทำบุญละเว้นบาปต่างๆ ด้วย

    การนั่งสมาธินั้นช่างมีประโยชน์หลากหลาย รู้แล้วก็อย่าช้านะ รีบเริ่มลงมือนั่งสมาธิกันตั้งแต่วันนี้เลย เริ่มจากการนั่งสมาธิแบบสั้นๆ ก่อน สักวันละ 5-10 นาทีก็ได้ แต่ขอให้ทำทุกวัน เมื่อเริ่มนั่งได้มากขึ้นค่อยๆ เพิ่มเป็นวันละ 20 นาที ทีนี้ล่ะ ความสุข สุขภาพดี ผิวพรรณผ่องใส สมองเลิศ เป็นหนุ่มเป็นสาวสองพันปีก็คงจะหนีไม่พ้นเราไปได้ (ขอให้ทุกคนทำสำเร็จนะ)
    ขอบคุณที่มา :- http://moomsabai.com/wordpress/สมาธิมีประโยชน์/
     

แชร์หน้านี้

Loading...