150 ปี "สุนันทา"พระนามอันเป็นที่รัก พระปิยมเหสี แห่งพระพุทธเจ้าหลวง

หลายคนคงคุ้นหูกับพระนาม "สุนันทา" ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระปิยมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หรือที่รู้จักกันดีในนาม "พระนางเรือล่ม" จากอนุสรณ์สถานหลายแห่งที่พระ พุทธเจ้าหลวงทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความรักของพระองค์ที่ ทรงมีต่อพระปิยมเหสีพระองค์นี้
ภายหลังที่พระนางเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุเรือพระประเทียบล่ม ณ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี (ปัจจุบันนี้คือวัดกู้) พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ โสภางคทัศนิยลักษณ์ อัครวรราชกุมารี พระราชธิดา และพระราชบุตรในพระครรภ์ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นพระราชโอรสหรือพระราช ธิดา ระหว่างการตามเสด็จฯ พระบรมราชสวามีแปรพระราชฐานไปประทับยังพระราชวังบางปะอิน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นได้สร้างความโทมนัสแก่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเป็น อย่างมาก สำหรับอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึง "สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารี รัตน์ พระบรมราชเทวี" นั้นมีอยู่หลายแห่ง ดังนี้ อนุสาวรีย์พระราชวังบางปะอิน อนุสาวรีย์ปิรามิด น้ำตกพลิ้ว จ.กาญจนบุรี อนุสาวรีย์พระราชวังสราญรมย์ เจดีย์ทอง วัดราชบพิธ สุนันทานุสาวรีย์ สุนันทาลัย จุลศิรจุมพฏเจดีย์ พระจุฑาธุราชฐานประตูสุนันทาทวาร
นอกจากพระราชานุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระนางแล้ว พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างตึกใหญ่ 2 ตึก บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลปากคลองตลาด ตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก ได้แก่ "ROYAL SEMINARY" สุนันทาลัยที่แม่น้ำ และสุนันทาลัยฝั่งใต้ (ปัจจุบันถูกรื้อถอนเพื่อสร้างเป็นห้องประชุมอาคาร สว่างวัฒนา) เพื่อใช้เป็นสถานศึกษาสำหรับสตรี และเป็นการอุทิศพระราชกุศลพระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารี รัตน์ พระบรมราชเทวี ซึ่งพระนางสนพระทัยในด้านการศึกษาเป็นพิเศษ โดยโปรด เกล้าฯ ให้ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์อันเป็นพระมรดกของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทา กุมารีรัตน์ฯ ในการก่อสร้าง ในปี พ.ศ.2423 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินวางศิลาก่อฤกษ์ อาคาร พร้อมทั้งพระราชทานนามโรงเรียนแห่งนี้ว่า "โรงเรียนสุนันทาลัย" ปัจจุบันบริเวณโรงเรียนสุนันทาลัยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนราชินี
รวมถึง "สวนสุนันทา" ณ พระราชวังสวนดุสิต ที่ทรงตั้งพระทัยสร้างสวนแห่งนี้ขึ้นเพื่อระลึกถึงความ รักที่มีต่อพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ณ ที่แห่งนี้เอง ปัจจุบันคือที่ตั้งของ "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา" ที่หลายคนอาจเคยสัญจรผ่าน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงความหมายแห่งรักอันแท้จริงที่ทรงซ้อนไว้ในพระนาม "สุนันทา"...
และในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี จะทรงมีพระชนมายุครบ 150 ปีในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับพระราชทาน นาม "สวนสุนันทา" เป็นชื่อมาโดยตลอด 74 ปี ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ชาวสวนสุนันทาจึงเตรียมจัดงานฉลองเพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า นอกจากจะเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทา กุมารีรัตน์ฯ แล้ว ยังถือโอกาสจัดงานคืนสู่เหย้าให้ศิษย์เก่า เพื่อให้เพื่อนฝูงพี่น้องได้พบปะสังสรรค์ นอกจากนั้นสมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทาในพระบรมราชินูปถัมภ์จะจัดตั้งกองทุน 150 ปี สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นสวัสดิการให้แก่ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และเพื่อให้ศิษย์ปัจจุบันได้เป็นทุนสำรองในการทำโครงการบำเพ็ญประโยชน์ช่วย เหลือสังคมในด้านจิตอาสาต่อไป
ด้าน รศ.ดร.สมศักดิ์ คงเที่ยง นายกสมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทาในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาคมเห็นว่าศิษย์เก่าชาวสวนสุนันทามีวันนี้ได้ก็เพราะสถาบันการศึกษาอันทรง เกียรติ ซึ่งศิษย์ทุกคนต่างก็เคารพรักสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ของเราอย่างเหนียวแน่น ดังนั้น ข้อหนึ่งที่คณะกรรมการบริหารสมาคมมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้สำเร็จ คือการจัดทำเครือข่ายศิษย์เก่าสวนสุนันทาที่มีมาถึง 74 ปี ทั้งนี้ เพราะตระหนักดีว่าการสร้างเครือข่ายเปรียบเสมือนห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อความรัก ความผูกพันของความเป็นลูกพระนางเอาไว้ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานในวันที่ 10 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป



150 ปี "สุนันทา"พระนามอันเป็นที่รัก พระปิยมเหสี แห่งพระพุทธเจ้าหลวง | ไทยโพสต์

 

ขอบคุณค่ะ...............

 

ขอบคุณจ่ะ.....

 

​

นํ้าพุดุดั้นยอด บรรพต
กระทบเหลี่ยมศิลาลด ล่มพื้น
ขาวดั่งกษิรรศ รินร่วงโรยแฮ
พร่างพร่างละอองชื้น เช่นนํ้าสุคนธ์โปรย​

เบื้องล่างอ่างรับนํ้า เย็นใส
เจ็ดศอกคืบแต่ใน ซึ่งซึ้ง
ลําธารชลาไลย ไหลหลั่ง เหลิงแฮ
ลงสู่ครู่เดียวถลึ้ง เหตุลํ้าเหลือหนาว​

ยามสายกายเร้าร้อน สุรียฉาน
เพียรสถิตปากธาร ที่ใกล้
กลับเย็นยิ่งสําราญ ร่วมสุข เกษมแฮ
ธารที่ธารบ่ได้ เทียบพลิ้วเทียมถึง​

​

ที่นี้จะทรงสถาปนาพระสถูปไว้
เป็นที่นมัสการของผู้ซึ่งได้มาถึงในที่นี้
เป็นที่ระลึกถึงเวลาที่
ได้เสด็จพระราชดําเนินมาสรงนํ้าในลําธาร
พระราชทานนามว่า อลังกรณ์เจดีย์

[music]http://palungjit.org/attachments/a.1220362/[/music]​

 

เป็นเรื่องที่อ่านเมื่อไร ก็ซาบซึ้งมากๆ ประทับใจ....ขอบคุณนะคะ