Fish Oil อาหารเสริมบรรเทาสิว

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย aoseiei, 11 ตุลาคม 2013.

  1. aoseiei

    aoseiei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +490
    กรดไขมันโอเมก้า-3 พบได้ใน น้ำมันปลา สามารถช่วยรักษาสิวได้ด้วยการบรรเทาการอักเสบที่เป็นสาเหตุของสิว และช่วยยับยั้งกระบวนการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน(sebum)ที่มากเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการอุดตันและทำให้เกิดสิว เมื่อ sebum รวมกับแบคทีเรียสุดท้ายก็เกิดเป็นสิวอักเสบขึ้น

    EPA หรือ Eicosapentaenoic acid เป็นส่วนประกอบที่สำคัญใน กรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของการป้องกันการอักเสบ EPA หรือ กรดไขมันโอเมก้า-3 สามารถพบได้ในปริมาณที่เพียงพอในน้ำมันปลา หรือปลาบางประเภทที่มีน้ำมันเท่านั้น

    กรดไขมันโอเมก้า-3 มีประโยชน์ในการนำไปผลิตไขมัน Prostaglandins ซึ่งมีหน้าที่หลักคือช่วยในการรักษาระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แอนโดรเจนเป็นฮอร์โมนที่มีผลกับการผลิต sebum และจะมีมากในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุทีว่าทำไมวัยรุ่นจึงเป็นสิว

    กรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นพบได้ในปลาแอนโชวี่ ปลาเฮริ่ง ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน แต่ก็เป็นการยากที่จะได้บริโภคปลาเหล่านี้เพื่อให้ได้โอเมก้า-3 ในปริมาณที่เพียงพอ และเนื่องจากในปลาสดเหล่านี้อาจมีสารพิษตกค้าง จึงแนะนำว่าไม่ควรรับประทานปลาสดเหล่านี้เกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์

    วิธีการที่จะได้รับกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่เพียงพอเพื่อรักษาปัญหาสิว คือการเสริมอาหารด้วย น้ำมันปลา ที่มีคุณภาพและมีปริมาณ EPA สูง หากต้องการควบคุมการอักเสบของสิว ควรเสริม น้ำมันปลา ที่มีโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 น้ำมันปลาเหล่านี้มี EPA และกรดไขมัน DHAที่จำเป็นต่อการสร้างสารพรอสตาแกลดิน ตามปกติแล้วร่างกายของคนจะทำการแตกกรดไขมันโอเมก้า-6 ไปเป็น DGLA, AA, EPA และกรดไขมัน DHA

    -Dihomo-gamma-linolenic acid (DGLA)
    -Arachidonic Acid (AA)
    -Eicosapentaenoic Acid (EPA)
    -Docosahexaenoic Acid (DHA)

    กรดไขมัน 4 ตัวนี้จะเปลี่ยนเป็นพรอสตาแกลดินทั้งสิ้น



    ผลข้างเคียง

    การใช้ อาหารเสริม น้ำมันปลาในปริมาณที่มากเกินไปก็จะมีผลข้างเคียงเช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย เรอบ่อย และฝาดในปาก และยังมีผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่ทำงาน เลือดออกไม่หยุด และทำให้การควบคุมกลูโคสลดลงในคนที่เป็นเบาหวาน

    ผลข้างเคียงอื่น ๆ

    มีรายงานว่าบางคนเกิดอาการแพ้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาการขึ้นผื่นคัน อาการหลักก็คืออาหารไม่ย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนอ้วน บางกรณีมีรายงานว่าจะเรอมีกลิ่นคาวปลา และเมื่อใช้นานมาก ๆ ก็จะมีกลิ่นคาวออกมาจากผิวหนัง ผลข้างเคียงเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นเท่าที่พบก็มีแค่เรอเหม็นคาว และอาหารไม่ย่อยแบบไม่รุนแรง และยังมีอาการท้องร่วงที่เกิดขึ้นได้ เคยมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับปริมาณคอเลสเตอรอลที่อยู่ในน้ำมันปลาที่ขายกันทั่วไป และยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับสารพิษตกค้างที่อยู่ในปลาเช่นสารปรอท ข้อสังเกตเหล่านี้ได้รับคำยืนยันจากผู้ผลิตว่า น้ำมันปลา ที่คุณภาพดีจะไม่มีปัญหาดังกล่าว ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลอาจสูงขึ้นได้ในบางรายที่รับประทาน น้ำมันปลา และไม่แนะนำให้ผู้เป็นโรคไตรับประทานโดยไม่ปรึกษาแพทย์

    อาการอันตรายรุนแรง

    ยังไม่พบว่ามีรายงานถึงอาการขั้นรุนแรงของการใช้ อาหารเสริม น้ำมันปลาในปริมาณ 15 กรัมต่อวันในระยะยาว รายงานผลข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่จะมีอาการกระเพราะหรือลำไส้อักเสบจากการอาเจียนขั้นไม่รุนแรง คลื่นไส้ ท้องเสีย มีกลิ่นปาก เรอและกลิ่นลมหายใจเหม็นคาว รวมถึงปัสสาวะเหม็นคาวด้วย และอาการหลอดเลือดไม่แข็งแรงซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกทางจมูก หรือรอยฟกช้ำตามส่วนต่าง ๆ ได้

    ขนาดรับประทานและวิธีการ

    อาหารเสริม น้ำมันปลามีหลายรูปแบบมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของน้ำมันปลาธรรมชาติที่ได้จากปลาที่อยู่ในแหล่งน้ำเย็น ปลาเหล่านี้จะมีค่า EPA ที่ 30% และ DHA ที่เป็นสัดส่วนของ EPA ที่ 1.5 ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันปลา 1 แคปซูลน้ำหนัก 1 กรัม จะมี EPA 180 มิลลิกรัม และ DHA 120 มิลลิกรัม

    น้ำมันปลา ในรูปแบบที่มีความเข้มข้นมากนั้นเป็นกึ่งสังเคราะห์ 85% EPA/DHA น้ำมันปลา ดังกล่าวจะมี EPA กึ่งสังเคราะห์ 490 มิลลิกรัม และ DHA สังเคราะห์ 350 มิลลิกรัม ต่อหนึ่งแคปซูลที่ 1 กรัม
    น้ำมันปลา ที่แนะนำควรจะมีสารต้านอนุมูลอิสระเช่น โทโคฟีรอล (วิตามินอี) เพื่อป้องกันอนุมูลอิสระ และน้ำมันปลาที่มีส่วนประกอบของวิตามินเอ และวิตามินดีในปริมาณที่สูง อาจทำให้เป็นพิษได้เมื่อรับประทานนานๆ จึงไม่ควรนำมาใช้ การใช้น้ำมันปลาโดยการกินเป็นปกติทุกวันนั้นอยู่ที่ 3-5 กรัมต่อวัน และการเลือกซื้อก็ควรดูที่ฉลากด้วยว่าได้ระบุค่าของ EPA/DHA เอาไว้ด้วย การรับประทานที่ดีที่สุดคือทานพร้อมอาหาร สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรทานที่ 3 กรัมต่อวัน ขนาดการใช้ 3 กรัมต่อวันยังเหมาะสำหรับผู้เป็นโรครูมาตอยด์ แผลเปื่อย โครห์น
     

แชร์หน้านี้

Loading...