Priory of sion ไพรเออรี ออฟไซออน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 20 ตุลาคม 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    152
    ค่าพลัง:
    +147,900
    ความจริงที่ถกเถียงกัน มานานหลายศตวรรษ จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช แห่งอาณาจักรไบแซนไทน์ ผู้สถาปนาศาสนาคริสต์นิกาย โรมันคาทอลิก ภายหลังก็เกิดลัทธิความเชื่อทางศาสนาที่แปลกแยกนิกายออกไปจากองค์ศาสนานิกายหลัก คือ โรมันคาทอลิก ความจริงนี้ ทำให้ชาวคริสต์ต่าง ๆ เชื่อในสิ่งที่คริสตจักรได้สั่งสอนกันมาอย่างยาวนานไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในบางครั้งคริสตจักรต้องต่อต้านเหล่าผู้ที่คัดค้านคำสอน คริสต์จักรได้ใช้วิธีการรุนแรงเพื่อพิทักษ์ปกป้องความเชื่อทางศาสนา


    [​IMG]


    ในยุคกลางนั้น ศาสนาที่มีอิทธิพลมาก ที่สุดคือ คริสต์จักรโรมันนิกายโรมันคาทอลิก องค์สังฆราชหรือองค์พระสันตะปาปา เป็นผู้ปกครองคริสต์นิกายนี้ด้วย และก็ไม่ยอมให้แตกแนวออกไป ต่อมา ก็เกิดนิกายใหม่ คือ นิกาย โปรแตสแตนส์ ปัจจุบันก็มีผู้นับถือมากเช่นกัน ในช่วงแรกก่อตั้งนั้น มีการต่อต้านจากนิกายหลัก คือ โรมันคาทอลิคกับพยายามกล่าวหาว่าผู้ที่นับถือนิกายโปรเตสแตนส์ เป็นพวก
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    152
    ค่าพลัง:
    +147,900
    [​IMG]

    พระเยซู สืบเชื้อสาย จาก กษัตริย์เดวิด ผ่านมาทาง กษัตริย์ โซโลมอน และ กษัตริย์ เบจามิน ซึ่งมาจากคำว่า กษัตริย์ตกปลา หรือกษัตริย์นักบวชนั่นเอง (เนื้อเรื่องเท่าที่ทราบมีเพียงเท่านี้ แม้จะน้อยเกินไปก็ตาม)

    [​IMG]

    ส่วนแมคดาลิน เป็นชาว แมคดาลา หมายถึง หอคอยใน อิสราเอล เชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของ แมคดาลิน แต่นักประวัติศาสตร์บางกลุ่ม เชื่อว่า มาจากอีกหมู่บ้านหนึ่งชื่อว่า แมกดาลา นูนัยยา แปลว่า แมกดาลาแห่งฝูงปลา เรื่องของกษัตริย์ตกปลาอาจเกี่ยวพันกับบ้านเกิดของ แมรี แมคดาลิน เรื่องราวต่าง ๆ ในยุคสมัยนั้นมีความเชื่อเรื่อง จอกศักดิ์สิทธิ์ หรือสายเลือดกษัตริย์
    เหตุใด จึงมีความเชื่อเรื่อง แมรี แมดดาลีน คือ มารดาอู้มครรภ์เชื้อสายโลหิตของพระเยซู ทั้ง ๆ ที่ในไบเบิล มีการกล่าวถึง แมรี แมคดาลีนเป็น หญิงชั่ว ทั้ง ลูกา มัทธิว และ มาระโก แต่นักสืบค้นเชื่อว่าถูกบิดเบือน แมคดาลีนเป็นผู้หญิงคนเดียวในจำนวนสาวกทั้งหมด ซึ่งอาจมี 14 ไม่ใช่ 13
    เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นปริศนาที่ซ่อนเร้นอยู่ในไบเบิล สิ่งที่แมคดาลีน กล่าวตรงกันในพฤติกรรมของ แมรีแมคดาลีน กระทำต่อพระเยซู ตั้งแต่การล้างพระบาทด้วยการชโลมน้ำหอมและการสยายผมเช็ดพระบาท หรือแม้แต่ การเทน้ำหอมลงบนพระเศียร สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง พฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้บางคนว่า ไม่เหมาะสมที่จะเขียนในไบเบิล หากมีการสมรสเกิดขึ้นจริง ระหว่างพระเยซู และแมรี แมคดาลีน ก่อนหน้านั้น ก็เท่ากับเป็น ภรรยาที่ปฏิบัติต่อสามี

    ข้อสังเกตว่า จากกฎหมายยุคโบราณของชาวยิวนั้น หญิงชาวยิวจะไม่สยายผมในที่สาธาระณะ และไม่สยายผมต่อหน้าผู้อื่นที่ไม่ใช่สามีของตน

    [​IMG]
    mar saba

    ดร.มอร์ตัน สมิธ ศาสตราจารย์ทางด้านโบราณคดี มหาวิทยาโคลัมเบีย ได้พบจดหมายที่ห้องสมุดของโบสถ์ที่ มาร์ซาบา ใกล้กับวิหารเยรูซาเลม จดหมายฉบับนั้นเขียนขึ้นใน ศตวรรษที่ 2 โดย คลีเมนต์แห่งอล็กซานเดรีย พระนักบวชส่งถึงเพื่อน กล่าวถึง บันทึกของมาระโก ศิษย์ท่านหนึ่งของพระเยซู แต่บทบันทึกนี้ไม่ได้ถูกกล่าวในไบเบิล ตอนพระเยซู เสด็จไปเพื่อให้ ลาซารัส ฟื้นขึ้นจากความตายนั้น มีตอนหนึ่งและพี่สาวของชายหนุ่มที่พระเยซูทรงรัก เป็น พี่สาวที่พระเยซูทรงรัก ไม่ใช่ ชายหนุ่มที่พระเยซูทรงรัก ชายหนุ่มนั้นคือ ลาซารัส และพี่สายผู้นั้นคือ แมรี ถอดความได้ว่า



    มีผู้ตั้งทฤษฏี สรุปว่า แมรี ดาลีน เป็นผู้ติดตามอย่างใกล้ชิด และเป็นสตรีคนเดียวในกลุ่ม ปรนนิบัติพระองค์อย่างใกล้ชิดด้วย กลายเป็นที่โปรดปราน มากกว่าปีเตอร์ ที่พระองค์ได้หวังสืบทอดภารกิจหลังจากพระองค์ไม่อยู่แล้ว ทำให้ปีเตอร์ ถูกตรึงกางเขนประหารชีวิต แต่ต่อมาชาวโรมันยอมรับในศาสนาคริสต์ และสถาปนานิกายโรมันคาทอลิก ปีเตอร์ท่านนี้ ก็กลายเป็น สังฆราชองค์แรกที่ยกย่อง แม้ตัวท่านจะสิ้นไปแล้ว และพยายามให้ แมรีแมคดาลีน กลายเป็น หญิงโสเภณี เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ จากผู้ที่บูชาความเป็นสตรีผู้เดียวที่ติดตามพระเยซูอย่างใกล้ชิด

    จากเอกสารลับที่พบในหอสมุดปารีส กล่าวถึงรายนามผู้นำกลุ่ม ไพรเออร์รี่ ออฟ ไซออฟ ตามบันทึกที่เชื่อถือกันมากที่สุด
    ก่อตั้งโดย กอด เฟรย์แห่ง บูวียอง หลังจากฝ่ายคริสต์เข้ายึดเยรูซาเลมได้ในสงครามครูเสด ปี 1099เมื่อ กอด เฟรย์ ขึ้นเป็นกษัตริย์ของเยรูซาเลม ขึ้นที่ภูเขา ไซออน ในช่วงแรก ๆ นั้น กลุ่มไพรเออร์รี่ ออฟ ไซออน กับกลุ่ม อัศวินนักรบ (Knights templar) ยังคงแยกกันไม่ออก ตามเอกสารลับของสมาคม ผู้นำของอัศวินนักรบ ก็ได้เป็นผู้นำของไพรเออร์รี่ออฟ ไซออน ครั้งแรกใน ค.ศ. 1118 จึงคัดเลือกผู้นำ กลุ่ม “Grand master” ผู้นำคนแรกจึงเป็น “ฮิวก์ส แห่ง ปายองส์ ปี 1118-1130
    ภายหลังมีการแบ่งแยกสมาชิกออกกันอย่างเด็ดขาด จึงมคีการเลือกผู้นำขึ้นในสายใหม่ของไพรเออร์รี่ ออฟ ไซออน ต่อมา และผู้นำ ที่มีชื่อเสียง และหลายคนรู้จักกันดี
    ผู้นำคนที่ 14 นิโคลัส แฟรมเมล (1398-1418) นักเล่นแร่แปรธาตุ ในแฮร์รี่พอตเตอร์
    คนที่ 16 ซานโดร ฟิลิเป บอตติเชลลี (1483-1510) ศิลปินนักวาดภาพ
    คนที่ 17 ลีโอนาร์โด ดาวินชี (1510-1519) ศิลปิน นักประดิษฐ์และนักคิด,นักเขียน,นักวิทยาศาสตร์, นักชีววิทยา,สถาปนิก,นักดนตรี,ที่ปรึกษาทางการทหาร,นักออกแบบ,ผู้กำกับการแสดง, นักเล่านิทาน, นักชันสูตรพลิกศพ(อันนี้สมัยนั้นยังไม่มีแต่ก็คงจะใช่ที่เขาวาดอวัยวะภายในร่างกายมนุษย์)
    คนที่ 20 มิเชล เดอ นอสตราดามุส (1556-1566) นายแพทย์ และ นักพยากรณ์ชื่อดัง (ชื่อนี้ ไม่มีในหนังสือ ดาวินชี โค้ด)
    คนที่ 26 เซอร์ ไอแซกนิวตัน (1691-1727) นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง
    คนที่ 31 วิกเตอร์ อูโก (1844-1885) นักประพันธ์ ชื่อดัง
    คนที่ 32 คลอด เดบุชชี (1885-1918) คีตกร เอกของโลกถ้าใครชอบดนตรีที่ต้องขึ้นบันไดฟังจะรู้จัก จำพวก บีโธเฟน หรือ บาค , โชแปง ทำนองนั้นนะครับ


    ดาว 5 แฉก นี้ปรากฏมากมายทั่วดินแดน ตะวันตกและตะวันออกกลาง บางแห่งเรียกว่า เงื่อนปมไม่รู้จบ (Endless Knot) บางแห่งเรียกว่า ดาวแห่งโซโลมอนเชื่อกันว่าสามารถปกป้องรักษาตนเองจากสิ่ง ่ชั่วร้าย แต่ในสมัยหนึ่งสัญลักษณ์นี้ถูกกล่าวหาว่า เป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ ที่พวกพ่อมดหมอผี ใช้ในการเรียกวิญญาณชั่วร้าย แต่สิ่งที่ อัศวินนักรบ ค้นพบเป็นวิทยาศาสตร์ ยารักษาโรคที่สูญหายไปนาน เรียกกันว่า “ยาอายุวัฒนะ” ที่ช่วยเยียวยาบาดแผลให้หายได้ และฟื้นคืนกำลังอย่างรวดเร็ว จากการเล่นแร่แปรธาตุ
    แต่ในสมัยกลางของยุโรป กลับเรียกผู้ที่มีความรู้ในการปรุงยา และนักเล่นแร่แปรธาตุ นี้ว่า “พ่อมด” หรือ “แม่มด”จนป้ายสีพวกเหล่านี้เป็นผู้ใช้ไสยเวทย์หรือมนต์ดำ และเป็นสาวกของวิญญาณชั่วร้ายหรือ ซาตาน
    [​IMG]

    รูปเคารพบูชา ของ อัศวินนักรบ คือ บาโฟเมต (Baphomet) คือเทพเจ้าแห่งความสมบูรณ์ แต่ในคริสตจักรกล่าวหาว่าเป็นลัทธินอกรีต
    บาโฟเมต มีศีรษะเป็นแพะที่มีเขางอกออกมา 2 ข้าง ของแพะในโบราณเป็นสัตว์ที่ให้นมเป็นอาหารของมนุษย์ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
    การค้นพบกลุ่ม อัศวินนักรบ นิยมใช้ อักาะ แอตบาซ เป็นรหัสนัยเพื่อปกปิดความลับให้เป็นปริศนา เป็นอักษรแบบเล่นคำ ที่ชาวเฮบรูว์ โบราณใช้กัน
    เมื่อนำอักษร Baphomet มาเทียบตามหลักการของอักษรแอตแบช จะได้คำว่า “Sofia” ในภาษากรีกแปลว่า สติปัญญา หรือความเฉลียวฉลาด รวมทั้งความสมบูรณ์พูนสุข และชีวิตที่ยืนยาวด้วย
    ภายหลังมีการกล่าวหาว่ากลุ่มอัศวินนักรบ เป็นกลุ่มศาสนานอกรีต และบูชา ซาตาน การบูชา บาโฟเมต นี้เอง ทำให้คริสตจักรสร้างเรื่อง ว่าบูชา ซาตาน โดยใช้รูปสัญลักษณ์หัวแพะ เป็นภาพเดียวกับซาตาน และมีพิธีกรรมประหลาด จึงทำให้เชื่อกันได้ง่ายต่อสายตาของประชาชนผู้ไม่ทราบความจริง

    เคยมีคนถามในบอร์ดผมว่า ไสยศาสตร์กับ วิทยาศาสตร์ต่างกันอย่างไร อันที่จริงดูเหมือนต่างแต่มันก็ต่างกันในแบบเหมือนกัน ฟังแล้วงง แฮะ เช่นเดียวกับ สิ่งต่าง ๆ มีทั้งด้านสว่างและด้านมืด มี ขั้วบวก ก็ต้องมี ขั้วลบ อะไรประมาณนั้นนะ อันที่จริงมันเป็น “ตรรกะ“
    บางครั้งเรามองไปข้างหน้า เรามักจะเห็นอดีต” ฟังเหมือนปรัชญา แต่มันไม่ใช่ปรัชญา สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว จากที่ไหน? เมื่อไหร่? ก็มีหลักวิธีอธิบายได้ทั้ง 2 อย่าง เป็น “ตรรกะ" ขอ งโลก มี 2 ด้านเสมอ

    แต่ ทั้งสองมีพื้นฐานมาจากที่เดียวกัน คือ ความเชื่อ เท่านั้น ที่ผู้ใดจะทำให้เชื่อตามฝ่ายนั้นได้มากกว่า มีสัดส่วน น้ำหนัก และแนวความคิดนั้น จะกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และสิ่งนั้น ก็อาจกลายเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็เป็นได้


    มาดูเชื้อสาย ศักดิ์สิทธิ์กันต่อ แล้วแมคดาลีน หนีไปไหน กันครับ
    ที่ไบเบิลกล่าวว่า พระเยซูทรงช่วยนางให้รอดพ้นจากการถูกรุมขว้างด้วยก้อนหิน ซึ่งผู้ค้นทฤษฏี ความรู้ใหม่ เชื่อว่า นางคือ ชายาหนึ่งเดียวของพระเยซู
    [​IMG]เบแรงเกอร์ โซนิแยร์

    ผู้อุ้มครรภ์สายโลหิต พระองค์ฝ่าข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนถึง สเปน ตอนนั้นเป็นของชาว วิซิกอต (Visigoth) จนกระทั่ง สายเลือกพระเยซูได้สมรสกับคนในราชวง เมโรแวงเจียง (Merovingian) กษัตริย์ของชาวแฟรงค์ ที่ แผ่อิทธิพลมายังเยอรมัน และก่อตั้งชึ้นในศตวรรษที่ 5 ปัจจุบันเป็นชาวฝรั่งเศส ข้อมูลนี้ พบที่ เรนน์ เลอ ซาโต ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ใกล้เทือกเขา พิเรนิส มีบันทึกบนแผ่นหนัง ใต้เสาหินโบราณ พบโดย นักบวชชื่อ เบแรงเกอร์ โซนิแยร์ (Berenger sauniere)สถานที่แห่งนี้เป็นที่ครอบครองของ ไนต์ส เทมปลาร์ หรือสมาชิก ไพรเออรี ออฟไซออน
    [​IMG]



    ทายาท เมโรแวงเจียงที่เหลือรอด
    ตามประวัติศาสตร์ ราชวงค์เมโรแวงเจียง สิ้นลงที่ ซิลเดริดที่ 3 จากแผ่นบันทึก โซนิแยร์ พบที่เรนน์ เลอ ซาโต มีการกล่าวถึงทายาที่เหลือรอด ประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ถูกปลงพระชนม์ พร้อมกับ บิดาไปแล้ว แต่ในบันทึก กล่าวว่า ซิเบแบร์ต ที่ 4 หลบหนีมาได้
    [​IMG]ซิลเดริดที่ 3

    รายละเอียดนี้ โซนิแยร์ ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลนี้ แต่ถูกถ่ายทอดในเอกสารอีกชุดหนึ่ง โดย โซนิแยร์ นำแผ่นหนังไปให้นักถอดรหัส เอมีย์ ฮอฟเฟต์ ในปารีส และโซนิแยร์ได้เก็บไว้เป็นความลับ เมื่อเสียชีวิต เอกสารนี้ ได้ตกอยู่กับแม่บ้านชื่อ แมรี เดนาร์โนด์ ต่อมาถูกขาย ให้กับ สมาคมค้าหนังสือโบราณนานาชาติ (International League of Antiquarian Booksellers) ในอังกฤษ และเอกสารนี้ได้ถูกทำขึ้นหลายฉบับ ชุดหนึ่งเป็นของ มาริอุส ฟาแตง เจ้าของเรนน์ เลอ ชาโต คนใหม่ เป็นสมาชิกของ สมาคม ฟรีมาสันรี


    หมายเหตุ: โปรดใช้วิจารณญาณ ในการชมครับ เรื่องนี้ เกี่ยวกับ ดาวินชี โค้ด ตามหนังสือ Holy blood holy grail และ การฆ่าหมูู่ ที่ มองเซเกอร์ ที่ปแดนบราวน์ เอามาเขียนไว้ในนิยาย


    ขอบคุณแหล่งที่มา
    http://www.mythland.org
     
  3. นิรันตรพินทุ

    นิรันตรพินทุ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +10
    ท่าน vango เบามือหน่อย เยอะเลยวันนี้
    อ่านแล้วยังสรุปไม่ได้บ้างเลย

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่หามาให้อ่านกัน เป็นกำลังใจให้ครับ

    ปล. บอร์ดนี้เล่นอีโมติค่อนตัวเล็กๆยังไง
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เฮ้อ สงสารสันโดษ ต้องเมื่อยมือกด อนุโมทนา อีกละ

    แต่ ข้อมูลแจ่ม ( ตามหนังสือนะ )

    เท่าที่รู้ สารคดี ก็ทำออกมาแล้ว สาวไปเจอสถานที่ตามคำวินิจฉัย
    ข้อสงสัยทั้งหมด จนไปถึง แมรี่ แมคคาเนีย นั่นก็สาวไปถึงโบสถ์ และ
    หลุมฝังศพด้วย ซึ่งทำให้ประจักษ์ว่าเป็นคนละคนกับ พระแม่มารี แต่
    ก็มีคนอุตริสงสัยว่า พระแม่มารี ไม่มี ที่มีนั้น ก็คือ แมรี่ แมคคาเนีย คนนี้
    นี่แหละคนเดียว ทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องเชื้อสาย และการกำเหนิดที่แท้
    จริงของพระ.... จนนำไปสู่ข้อสมมติฐานสุดท้ายที่จะต้องพิสูจน์ DNA
    แต่ศาสนาจักรไม่อนุญาติให้เก็บตัวอย่าง ก็เลยต้องไปเก็บตัวอย่างจาก
    สามกษัตริย์ที่เสด็จมาถึงในวันที่ประสูติการณ์ เพื่อหาร่องรอยว่ามี DNA
    สายกษัตริย์สายใดบ้างเกี่ยวข้อง ก่อนที่จะได้ตัวอย่าง DNA จากหลักฐาน
    ที่เกี่ยวกับพระ.... อีกทอดหนึ่ง

    อ้อ แต่ในสารคดีไม่ได้ระบุนะว่า จะไปพิสูจน์ DNA ของกษัตริย์เพื่อ
    เอามาโยงเรื่องพระ.... แต่แค่จะหาข้อสันนิฐานว่า เป็นชนชาติใดกัน
    แน่ ซึ่งตรงนี้ก็สำคัญมากแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...