ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเว้นกระทำห้ามทำร้ายชุดปิดตำนานตัว"แก้"(ผนึกเหล็กไหลตาไฟกบิลมุนี) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่กฤตยชญ์ ER 8323 2169 7 TH

    พี่ศุภชัย ER 8323 2170 6 TH

    พี่สิทธิศักดิ์ ER 8323 2171 0 TH
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวี(เจ้าแม่โปรดสามภพฝังน้ำมันฝ่าวิกฤติ)
    พ่ออาจารย์มักกล่าวถึงมหาเทวีพระองค์นึงอยู่เสมอ ซึ่งท่านบอกว่าในยุคปัจจุบันนี้ เป็นยุคที่พระนางมีอำนาจอย่างเต็มที่ โดยมหาเทวีที่ท่านกล่าวถึงนั้นก็คือมนสาเทวีนั่นเอง พ่ออาจารย์บอกว่าพระนางเป็นมหาเทวีซึ่งมีศักดิ์เป็นพระธิดาในพระศิวะเจ้าพระองค์เดียว เฉกเช่นเดียวกับพระพิฆเนศและพระขันธกุมารซึ่งเป็นเทวโอรส พูดให้เข้าใจอย่างง่ายเลยก็คือพระนางเป็นน้องสาวร่วมบิดาในเสด็จพี่ทั้งสองนั่นเอง

    โดยท่านมักกล่าวถึงพระนางว่ามนสาเทวีหรือมาริษาก็เรียก ว่าเป็นมหาเทวีที่มีรูปลักษณ์งดงามอ่อนหวานจนถึงกับเป็นที่กล่าวขวัญแม้ในมวลหมู่เทพเจ้าและพระเป็นเจ้าทั้งหลาย ว่ามนสาเทวีนี้คือมหาเทวีผู้มีความงามเป็นที่หนึ่งไม่มีสองทีเดียว ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของพระนาง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระนางเป็นเทวีพระองค์เดียวที่เลือกจะอยู่กับมนุษย์ กล่าวคือใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์ในโลกของมนุษย์


    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าโดยปกตินี้พอพูดถึงเทวดาเราก็ต้องนึกถึงเรื่องสวรรค์ ซึ่งเทพทั้งหลายเหล่านั้นเขาก็จะอยู่ในโลกในภพภูมิของเขา ที่อาจซ้อนกับของเราหรืออยู่ไกลจากเราโดยส่วนมากมักเป็นเช่นนี้ ไม่ปรากฏมีว่าจะมีเทพหรือเทวีองค์ใดที่ปรารถนาจะอยู่กับมนุษย์ เช่นพระเป็นเจ้าทั้งหลายก็จะมีโลกซึ่งเป็นมิติส่วนตัวที่ซ้อนทับอยู่ในสถานที่ต่างๆเช่นพรหมโลก วิษณุโลก ศิวะโลกดังนี้ แต่มนสาเทวีนั้นด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของพระนาง พระนางมีมโนปณิธานแรงกล้ามากที่จะลงจากศิวะโลกมาอยู่กับมนุษย์โดยพระนางนั้นไม่ได้อยู่ในมิติเอกเทศน์เหมือนพระพิฆเนศหรือพระขันธกุมาร แต่พระนางเลือกจะสถิตย์ในโลก ในที่ซึ่งมีบุคคลบูชาพระนาง ท่านจะนั่งอยู่ในใจของพวกเขา อยู่ในฐานะของมหาเทวีซึ่งจะประทานพรถ้วนทุกประการแก่มนุษย์ซึ่งมีศรัทธาในพระนางอย่างแท้จริง

    มนสาเทวีนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ของท่านมีนิสัยขี้เล่นอยู่มาก โดยท่านมักจะมีการสื่อสารกับพ่ออาจารย์ท่านเสมอ เช่นว่ามีสายญาณผ่านมาแล้วจะทักทายกันจนบางครั้งพ่ออาจารย์ท่านต้องไปหาขนมโมทกหรือขนมของพวกฮินดูหลายชนิดมาเตรียมไว้ให้พระนางเสมอๆ ท่านว่าเขาแซวเราหนักมาก ผ่านมาทีไรก็จะพูดทำนองว่าที่นี่ไม่มีขนมให้กินเลยหรอบ้าง ถามหานมถามหาสิ่งต่างๆบ้าง โดยพ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวลอยๆว่าขอความช่วยเหลือเขาไว้เยอะก็เลยต้องให้กำลังใจเขาหน่อย ท่านพูดอย่างมีนัยย์แอบแฝงซึ่งก็ได้ความว่าท่านมักจะฝากมนสาเทวีนี้ให้ค่อยช่วยเหลือมนุษย์หรือเรื่องทุกข์ใจต่างๆของคนทั้งหลายที่ฝากมาไว้กับท่านเสมอๆ ซึ่งพระนางก็ได้ทำอย่างรวดเร็วฉับพลันทันทีจนเกิดการทวงขนมกันบ่อยขึ้นและบ่อยขึ้น ซึ่งพ่ออาจารย์ว่าเอาเข้าจริงๆที่ซื้อมาไหว้นั้นตัวมหาเทวีท่านก็ไม่ได้กินหรอก เพราะว่าท่านเป็นเทพท่านเพียงแค่รับน้ำใจตลอดจนไมตรีจิตของเราซึ่งมันก็ควรต้องให้เพราะขอความช่วยเหลือท่าน มันเป็นการแสดงออกถึงน้ำใจของเราในเรื่องการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมด้วยการถวายขนมนมเนยอันประณีตเหล่านี้

    พ่ออาจารย์ท่านรู้ถึงมหาอิทธิฤทธิ์ของพระแม่เจ้าพระองค์นี้ดีอย่างยิ่ง เพราะท่านสามารถช่วยคนได้ทุกเรื่องเรียกว่าไม่เลือกงานหรือคำอธิษฐานทีเดียวว่าจะเป็นอย่างไร ท่านจึงได้นำมหาธาตุกายสิทธิ์ต่างๆทั้งเหล็กไหลขาววัชรธาตุ หยาดน้ำฟ้ทวาราวดี ปรอทสำเร็จหลวงปู่ละมัย และที่สำคัญนอกจากนั้นท่านยังนำของสุดหวงของท่านซึ่งท่านกล่าวคร่าวๆแต่มีความหมายลึกซึ่งถึงสองสิ่งนั่นคือ ปรอทสำเร็จของพระครูเทพโลกอุดร กับปรอทอากาศซึ่งท่านทำพิธีขอมาจากมหามุนีบาบาจีซึ่งเรียกให้ถูกก็คือครูพระสยมซึ่งอวตารมาอยู่ในฐานะของคุรุเทพนั่นเอง ท่านได้นำของที่ได้ชื่อว่าทรงฤทธิ์ที่สุดในหมื่นจักรวาลของสายโลกียะและโลกุตระหล่อหลอมทำพิธีหุงธาตุก่อนเทหล่อด้วยเป็นรูปพระนางมนสาเทวี โดยเมื่อหล่อหลอมเสร็จแล้วท่านจึงได้นำมากำกับอัญเชิญพร้อมกับบอกกล่าวให้พระนางออกไปช่วยคนทั้งหลายตามจุดประสงค์แรกเริ่มของตัวพระนางเอง ซึ่งแรกเริ่มนั้นมีตัวรู้ผุดขึ้นมาในใจว่าพระนางอุบัติขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือศานุศิษย์ช่วยเหลือมนุษย์ชาติอย่างแท้จริง


    พ่ออาจารย์ว่าน้องสาวพระพิฆเนศพระองค์นี้ประมาทไม่ได้เลยเพราะแก่นแก้วนัก แม้ทางฝั่งอินเดียธิเบตเนปาลต่างๆก็ให้การยอมรับและบูชาอย่างแพร่หลายขยายวงกว่างอย่างผิดหูผิดตาต่างจากเทพเทวะพระองค์อื่น นั่นก็เพราะการที่พระนางขอได้ทุกอย่างและช่วยเหลือเต็มที่ไม่ขัดจุดประสงค์ของผู้บูชานั่นเอง จึงทำให้มีแต่คนกล่าวขานถึงพระนางกันแบบปากต่อปาก พร้อมกับรูปกายอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากเทพเทวะทั้งหมดอีกส่วนหนึ่ง


    นั่นคือพระนางมนสาเทวีนั้นจะมีอยู่สองปาง พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าปางหนึ่งจะมีลักษณะเป็นเทพนารี ซึ่งจะมีรูปร่างสวยสดงดงามเป็นที่สุดเป็นมหาเทวีซึ่งมีพญานาคทั้งหลายเป็นบริวารดังนั้นจึงมักปรากฏว่าพระนางนำพญานาคหรืองูต่างๆมาใช้ประดับพระวรกายและทำเป็นมงกุฏบ้าง ก็เพราะเมื่อพระนางลงมาสถิตย์อยู่ในโลกมนุษย์นั้น ทำให้เผ่าพันธุ์เทพเดรัจฉานซึ่งสถิตย์ซ้อนภูมิอยู่ในโลกมนุษย์อย่างพญานาคราชทุกตระกูล ต้องมาคอยดูแลรับใช้ด้วยเกรงบารมีของพระนางซึ่งอยู่ในระดับพระเป็นเจ้านั่นเอง

    กับอีกปางหนึ่งพระนางจะอยู่ในรูปลักษณ์ของเทพอสูร เรียกว่าในมวลเทวะและเทวีทั้งหมดนอกจากพระพิฆเนศพี่ชายก็มีมนสาเทวีผู้น้องสาวนี่แหละที่มีรูปกายเป็นเอกลักษณ์ที่สุด นั่นคือพระนางจะมีลักษณะท่อนบนเป็นเทวีแสดงอำนาจและบ่งบอกถึงความเป็นเผ่าพันธุ์เทวะ และมีท่อนล่างเป็นพญานาคตลอดจนมีปีกเป็นพญาครุฑ และมีพญานาคปรกพระเศียรเช่นเดียวกับพระวิษณุนารายณ์ บ้างก็ห้าเศียรบ้าง เจ็ดเศียรบ้าง เก้าเศียรบ้างหรือจะพันเศียรบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าในเวลานั้นๆเป็นวาระของพญานาคองค์ใดที่มาคอยถวายการปฏิบัติพระนาง พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปลักษณ์ของพระนางนั้นคือการแสดงออกของตัวตนที่มีจิตวิญญาณของภพทั้งสาม นั่นคือรูปของเทวีซึ่งแสดงถึงเผ่าพันธุ์เทวะอันเป็นใหญ่ในโลกทั้งมวลถ้วนหมื่นจักรวาล กับรูปของพญานาคอันเป็นผู้ปกครองเหนือสายน้ำทั้งปวง และปีกของพญาครุฑอันเป็นเจ้าแห่งนภากาศ เช่นนี้พระนางจึงมีชื่อปรากฏว่าเทวีสามภพด้วยสถานภาพพิเศษต่างจากพระเป็นเจ้าทั้งหลายคือจะไปอยู่ไหนก็ได้ไปสถิตย์ได้ทั่วทั้งหมดด้วยว่าสามภพนี้คือที่ของพระนางนั่นเอง แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะเรียกให้ถูกควรเรียกว่าเทวีโปรดสามภพมากกว่า เพราะพระนางช่วยดะไปหมดท่านว่าเวลาช่วยแล้วท่านสนุก การช่วยเหลือมนุษย์ก็เหมือนการละเล่นของพระนางนี่เองเฉกเช่นประวัติศาสตร์และกาลเวลาต่างๆก็เป็นเพียงละครฉากหนึ่งของพระเป็นเจ้าทั้งหลายเช่นนั้น


    พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกสร้างรูปพระนางในปางของเทพอสูรเพื่อให้เปล่งอานุภาพสูงสุดนั่นเอง ท่านว่ารับรองได้เลย งานนี้มีคนได้ปลื้มใจอีกมากแน่นอนเพราะเขาจะระลึกถึงมนสาเทวีและจะรู้ได้ด้วยตัวเขาเองว่านี่แหละคือสิ่งที่ตามหา ที่หัวใจเรียกร้อง มหาเทวีผู้อยู่เหนือโลกทั้งสามผู้ที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์องค์นี้แหละที่เราควรพึ่งควรยึดถือควรแก่การทำสักการะ


    หลังจากนั้นท่านจึงได้รวบรวมผงวิเศษทั้งหมดโดยใช้เฉพาะผงที่ลบถมโองการสรรเสริญเทพเจ้าต่างๆของทางฮินดูโดยเฉพาะ ผสมกับผงธาตุผงวิชาซึ่งท่านทำไว้ต่างหากตามสายมหาศิวะโยคะโดยพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นของที่อยู่เหนือโลกทั้งสิ้น ท่านหยั่งรู้ด้วยนิมิตถึงพระนางว่าเมื่อจะทำพระผงเพื่ออัญเชิญพระนางเข้าซุ้มประดิษฐาน โดยท่านแกะบล๊อคแม่พิมพ์เป็นเทวาลัยเพื่อที่จะได้เชิญพระนางนั้นเข้าไปสถิตย์ โดยท่านให้เหตุผลว่าเป็นความต้องการของมหาเทวีท่านเอง เพื่อที่จิตท่านจะได้ติดอยู่ในเทวาลัยสถิตย์เป็นศรีเฉลิมเกียรติยศเป็นมิ่งขวัญอยู่คู่ชีวิตผู้บูชาตลอดไป เพราะเมื่ออัญเชิญเข้าเทวาลัยแล้วพระนางย่อมไม่ไปไหนอีกนั่นเอง โดยพ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากเอาการเพราะพระนางทิ้งปัญหาไว้ให้สามอย่างให้ตีความให้แตก นั่นคือปีกพญาสุบรรณ กายสังขารของพญานาค และดวงจิตเทพเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องตีปริศนาเหล่านี้นำเอาของที่ได้ชื่อว่าทั้งหายากและปรากฏยากทั้งสามสิ่งในโลกเพื่อมาเป็นมวลสารในการสร้าง


    เมื่อสร้างแล้วมงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวีนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของสำคัญลงไปสามสิ่งด้วยกันนั่นคือน้ำมันฝ่าวิกฤติ ตะกรุดบุญบันดาล ตะกรุดชำระเคราะห์ ซึ่งสิ่งต่างๆนับได้ว่าเป็นของวิเศษอย่างยิ่งเลย เนื่องจากมีอิทธิคุณเฉพาะทางทั้งสิ้น ได้แก่
    - น้ำมันฝ่าวิกฤติ พ่ออาจารย์ท่านได้นำน้ำมันสังคโลกของหลวงพ่อปาน มาผสมกับน้ำมันในตำนานนั่นคือน้ำมันวิเศษของหลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงส์ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาหุงน้ำมันให้หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจาจนน้ำมันหลวงพ่อเมี้ยนท่านมีชื่อเสียงโด่งดังนั่นเอง น้ำมันฝ่าวิกฤตินี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นน้ำมันปาฏิหาริย์เพราะใช้ได้ทุกเรื่องอย่างจริงจังสมกับที่ตั้งชื่อให้นั่นแหละว่าฝ่าวิกฤติ ใครที่อับจนหนทางหาทางออกไม่เจอ ท่านว่าอธิษฐานพกไว้กับตัวจะสว่าง เจอทางออกหมด ตัวนี้ใครทุกข์มานี่หลุดหมดเลยนะแก้ไขได้หมด ที่มีหนี้ ที่ล้มถึงกับพินาศล่มจมก็ฟื้นคืนมาได้ โดยในขวดน้ำมันฝ่าวิกฤตินี้ท่านได้นำทรายเสกของท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม กับผงแร่เงินไหลมาผสมไปด้วย และที่สำคัญที่สุดคือตะไบชนวนพระกริ่งพรหมมุนีแท้ๆของสมเด็จพระสังฆราชแพ ท่านว่าวิชาเสกพระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราชแพนั้นไม่มีใครเหมือน พระกริ่งท่านอยู่กับใครมีแต่ฉุดดวงเปลี่ยนดวงคนทุกคน ไม่มีใครตกต่ำซักคนมีแต่ต้องเป็นเศรษฐีและมหาเศรษฐีเท่านั้นปัจจุบันแม้คนธรรมดาจะหาดูยังยาก ท่านว่าถ้าพูดถึงในเรื่องคุณวิชาพระกริ่งนั้นแม้นำมาตะไบเป็นผงแล้ว พุทธคุณก็มีเท่าเดิมไม่ได้ลดลงเลย ท่านจึงผสมลงไปด้วยโดยกล่าวว่าจะได้แรงเสมอกัน ท่านว่านี่ใช้แทนกริ่งพรหมมุนีราคาหลักแสนหลักล้านได้เลย และที่สำคัญท่านลงตะกรุดให้เป็นหัวใจของน้ำมันฝ่าวิกฤติด้วย โดยว่าสูตรหัวใจโพธิสัตว์เสกมนต์เชิญครูประจุฤทธิ์ของสิบมหาโพธิสัตว์ในอนาคตวงศ์ใส่ลงไปด้วย ท่านว่าจะได้ดีกับคนใช้เพราะมหาโพธิสัตว์ทั้งสิบนั้นขออะไรก็ได้ท่านเมตตาทุกคนเสมอหน้ากันหมด
    - ตะกรุดบุญบันดาล ท่านว่าวิชานี้แปลก ด้วยว่าบุญนั้นเป็นที่มาของสมบัติพัสถานความสุขสบายต่างๆ เป็นทางให้ไปสวรรค์ เป็นสิ่งนำพาเราไปสู่สุขคติ พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญนั้นบันดาลได้ทุกสิ่งด้วยกฏธรรมชาติในตัวของมันเอง วิชาลงตะกรุดบุญบันดาลนั้นพ่ออาจารย์ว่าทำยาก ท่านจึงไม่ลงไม่ทำเป็นสาธารณะหรือทำเป็นจำนวนมากเพราะต้องเลือกคนใช้โดยท่านกล่าวว่าตะกรุดวิชานี้มีตราบุญบัญญัติผู้เป็นเจ้าของทุกดอก ท่านว่าขอให้ทำบุญหมั่นให้ทานไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือทานที่ยิ่งใหญ่ ให้แต่พอดีอย่าให้ตัวเองเดือดร้อนเพียงเท่านั้น บุญจะต่อบุญออกไปเรื่อยๆทำให้บันดาลทุกสิ่งที่ปรารถนาเป็นไปได้จริงตามนั้น พ่ออาจารย์ว่าวิชานี้แม้สมบัติเทวดาก็ถือครองได้ ขอให้หมั่นทำบุญทานการกุศลให้เป็นปกติก็พอ
    - ตะกรุดชำระเคาะห์กรรม เป็นส่วนหนึ่งของวิชาพระเจ้าชำระเคราะห์กรรม ท่านว่ามันต้องทำวิชาไปคู่กันเพื่อให้องค์พระสำแดงอานุภาพได้สูงสุด ท่านว่าเอาง่ายๆแบบเห็นตาเปล่ากันเลยอาราธนาพระองค์นี้ที่ท่านลงตะกรุดชำรเคราะห์ฝังไว้ ใครที่ชีวิตเจอเรื่องซวยๆเป็นประจำ ให้สังเกตุดูได้ว่ามันจะค่อยๆลดลงๆอย่างผิดปกติจนถึงหมดไปเลยทีเดียว


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวีไว้ได้ทั้งหมด 8 องค์ เปิดให้ร่วมทำบุญบูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าสิ่งสำคัญเลยที่ต้องจำไว้ *มหาเทวีนี้เราใช้ใจระลึกถึงท่านแม้ลืมคาถาท่านก็ไม่โกรธ เราผู้เป็นเจ้าของเป็นศิษย์ของท่านก็ยังระลึกถึงยังเชื่อมต่อกับท่านอยู่เสมอ แต่การที่เราบูชาจะขออะไรจากใครก็ควรรู้ในสิ่งที่ท่านชอบและไม่ชอบเอาไว้ด้วย นั่นคือหากจะขออะไรท่านเป็นเรื่องเป็นราวให้บนขนมโมทก จำเอาไว้พ่ออาจารย์ท่านว่าหาซื้อได้ง่ายๆตามพวกพาหุรัดแถวนั้นจะมีขายเต็มไปหมดเพราะแขกอยู่กันเยอะ เอาแค่ขนมแค่นั้น หากไม่ได้ขนมอันนี้ก็สำคัญเลยถ้ามันไกลหรือเดินทางลำบากจริงๆก็เอาเพียงนมโคสด ขอย้ำว่าต้องเป็นรสจืดธรรมชาติเท่านั้นถวายท่านตามปกติ และเมื่อบูชาไปพ่ออาจารย์ท่านจะมอบผงสินธูระที่เป็นผงแดงให้ไปพร้อมกับองค์พระด้วย ท่านว่าก่อนเลี่ยมนั้นให้เราอธิษฐานฝากเนื้อฝากตัวฝากชีวิตกันให้ดี เสร็จแล้วให้เรานำผงสินธูระนั้นละลายน้ำเล็กน้อยไปเจิมไว้ที่บริเวณหน้าผากของพระนาง เป็นการเบิกความรู้สึกและสัญญาซึ่งกันและกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะช่วยเราดุจเลือดในอก รักเราดุจลูกทีเดียว

    คาถาบูชา

    โอม ศรีมหามาตา มัลชา เดวี นะโม นะมะฮา

    * รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น โดยผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วย พ่อาอจารย์ท่านจะเจิมบอกกล่าวพระแม่ให้ก่อนคำรบหนึ่ง ปัจจัยจากการบูชาร่วมสนับสนุนทุนการศึกษษให้กับนักเรียนด้อยโอกาศต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวี(เจ้าแม่โปรดสามภพฝังน้ำมันฝ่าวิกฤติ) บูชา 4,000 บาท


    pic_001.jpg phraputthasinnarat5.jpg 1351094245.jpg SAM_5288.jpg SAM_5289.jpg 665907-img-1363950012-1.jpg 6876511-2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2017
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ตอบpm ครบแล้วนะครับ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ


    วันนี้ก็มารู้จักกับอานิสงค์ของการสวดมนต์กันนะ จะได้หายสงสัยว่าทำไมจึงสนับสนุนให้หลายคนสวดมนต์ แล้วมันก็จริงอยู่ที่พอปฏิบัติไปแล้วชีวิตย่อมมีความเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างเช่นพวกที่ชอบเที่ยวกลางคืนนี่จะกลับใจเลย พอหันมาสวดมนต์และทำเป็นกิจวัตร ก็กลายเป็นกลางคืนออกไม่ได้เพราะต้องอยู่สวดมนต์ก็มี พอไม่เที่ยวเหล้าไม่ดื่มอะไรๆมันก็ดีไปหมดดังนี้เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นวิธีขัดเกลากายสังขารและจิตวิญญาณอย่างนึงในหลายหลายวิธีเป็นอาทิ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนปฏิบัติได้ง่ายหากแต่ต้องใส่ใจและควรทำเป็นกิจวัตร ทีนี้ก็มาดูอานิสงค์ของการสวดมนต์ไปพร้อมๆกันนะครับ

    ผู้ที่สวดมนต์ด้วยความตั้งใจจริงแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์ คือผลความดี มากมายดังต่อไปนี้

    1. ทำให้สุขภาพดี การสวดมนต์ออกเสียง ช่วยให้ปอดได้ทำงาน เมื่อปอดทำงาน เลือดลมก็เดินสะดวก เมื่อเลือดลมเดินสะดวก ร่างกายก็สดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระฉับกระเฉง

    2. คลายความเครียด ขณะสวดมนต์จิตจดจ่ออยู่กับบทสวด สมองไม่ได้คิดในเรื่องที่ทำให้เครียด จึงทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย

    3. เพิ่มพูนศรัทธาในพระรัตนตรัย บทสวดแต่ละบทเป็นการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย เมื่อสวดบ่อย จิตก็จะยิ่งแนบแน่นอยู่กับพระรัตนตรัย

    4. ขันติบารมีย่อมเพิ่มพูน ขณะสวดต้องใช้ความอดทนเพื่อเอาชนะอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ตลอดถึงอารมณ์ฝ่ายต่ำทั้งหลายมีความเกียจคร้าน เป็นต้น ยิ่งสวดบ่อย ความอดทนก็จะมีมากยิ่งขึ้น

    5. จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ ขณะสวดจิตจดจ่ออยู่กับบทสวด ไม่วอกแวกฟุ้งซ่านไปที่อื่น จึงทำให้จิตสงบและเกิดสมาธิมั่นคง

    6. บุญบารมีเพิ่มพูน ในขณะสวดมนต์ จิตใจย่อมปราศจากกิเลส มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นต้น จึงได้ชื่อว่าเกิดบุญบารมี บุญบารมีนี้ เมื่อสั่งสมมากเข้าก็จะเป็นทุนสนับสนุนให้บรรลุผลตามที่เราต้องการ

    7. จิตใจอ่อนโยนมีเมตตา การแผ่เมตตาหลังจากสวดมนต์ เป็นการส่งความปรารถนาดีไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ลดละความเห็นแก่ตัว เป็นอุบายกำจัดความโกรธในใจให้เบาบางและลดน้อยลง ทำให้จิตใจปราศจากความโกรธ และพบแต่ความสุข

    8. เกิดความเป็นสิริมงคล การสวดมนต์เป็นการทำความดีไปพร้อมกันทั้งทางกาย วาจา ใจ การทำดี พูดดี คิดดี ย่อมเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง

    9. เทวดารักษา ผู้ที่ประกอบกรรมดี ทางกาย วาจา ใจ ย่อมเป็นที่รักของเหล่าเทวดา และการที่เราได้แผ่เมตตาให้แก่เทวดานั้น ก็ยิ่งจะเป็นที่รักของเทวดามากขึ้น

    10. ปัญญาเกิด การสวดมนต์พร้อมคำแปล ทำให้ได้รู้และเข้าใจถึงความหมายของบทสวดนั้น

    11. ผิวพรรณผ่องใสและมีเสน่ห์ การสวดมนต์ทำให้จิตใจของผู้สวดสดชื่นเบิกบาน จิตที่สดชื่นเบิกบานย่อมส่งผลให้ผิวพรรณดี หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความรู้สึกเป็นมิตร รักใคร่เอ็นดู

    12. ศัตรูกลายเป็นมิตร ผู้เป็นมิตรยิ่งรักใคร่

    13. ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง

    14. ทำให้ดวงดี แก้ไขเคราะห์ร้าย ปัดเป่าเสนียดจัญไร เพราะดวงชะตาของคนเราขึ้นอยู่กับการกระทำ ใครทำดี ดวงชะตาย่อมดี ใครทำชั่ว ดวงชะตาก็ตก การสวดมนต์เป็นการทำดีที่สามารถเปลี่ยนดวงชะตาให้ดีขึ้นได้

    15. ครอบครัวและสังคมสงบสุข ที่พ่อบ้าน แม่บ้าน สวดมนต์อยู่เป็นประจำ และสอนให้บุตรหลานได้สวดมนต์ จะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง และการที่จะไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นก็ไม่มี มีแต่จะทำให้คนรอบข้างและสังคมอยู่เป็นสุข สงบ ร่มเย็น และยังเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นอีกด้วย


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สหภูมิ ER 8323 2237 0 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งล่วงหน้าไว้ก่อนนะครับ

    เดี๋ยวจะมีเล่นเกมส์แจกตะกรุดสาลิกาหลวงพ่อกวยกัน ซึ่งเห็นมีคนถามกันเข้ามามากจนผมเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง ก็เลยว่าจะให้เล่นก่อน ส่วนตัวตอนนี้ยังคิดเกมส์อะไรไม่ออกด้วย แต่คาดว่าจะให้เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องมงคลพ่ออาจารย์ท่านกันในกรณีที่หาเกมส์ให้เล่นไม่ได้จริงๆ อันนี้ก็ติดตามกันนะ
    lk_bdk.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พูดคุยระหว่างวัน

    อันนี้พอดีเห็นมาก็เลยเอามาให้อ่านกันดู เพราะคนเราจะยังไงก็ดีย่อมหนีไม่พ้นเกิดแก่เจ็บตาย และก็คนที่เกิดๆกันมาก็หนีไม่พ้นวันทั้งเจ็ดนี้เช่นกัน ทีนี้เค้ามีความเชื่อกันว่าคนที่เกิดมาในแต่ละวันนั้นจะมีคุณลักษณะและกรรมที่ทำมาคล้ายๆกันจึงได้รวบรวมเป็นหมวดหมู่ไว้ ก็ลองพิจารณาดูว่าตรงกับตัวเองหรือเปล่า แล้วมันมีวิธีการแก้ไขกรรมที่ทำกันง่ายๆได้อย่างไร ตรงนี้หากคิดว่าตรงและไม่เสียหายอะไรก็ลองทำดูนะครับ


    กรรมของผู้ที่เกิดในแต่ละวัน

    1. ท่านที่เกิดวันอาทิตย์

    เป็นคนใจใหญ่รักพวกพ้องกตัญญู และชอบคิดในเรื่องบุญคุณอยู่เสมอ คิดถึงความมั่นคงจนเหมือนเป็นคนเครียด และคิดมาก ไม่ชอบการโดนเอาเปรียบ เป็นคนตรงๆ บางครั้งดูเหมือนจะถือตัวสักนิด

    กรรมที่ติดตัว มักจะทำบุญคนไม่ค่อยขึ้น ในช่วงวัยเด็กลำบาก และเมื่อโตขึ้นนั้นก็ยังเจอปัญหาในเรื่องเกี่ยวข้องกับบริวารอีก จึงทำให้เหตุที่มานั้นเกี่ยวข้องกับการเงินด้วย เป็นคนชอบเชื่อคนง่าย ไว้ใจคน ชอบช่วยเหลือ ในเกณฑ์ดวงท่านจะต้องเจอปัญหากับเรื่องคนอื่น

    การแก้ไขกรรม ให้ทำบุญด้วยเทียน หลอดไฟ น้ำมัน แว่นตา ทำบุญกับพระหรือบริจาคช่วยเรื่องทำขาเทียม บ้านคนพิการ เติมน้ำมันตะเกียง หาพระประจำตัวไหว้จะช่วยลดกรรมได้ดี


    2. ท่านที่เกิดวันจันทร์

    เป็นคนลังเลในการกระทำ ขี้น้อยใจง่าย ขี้งอน ชอบใจอ่อน ชอบพูดอะไรแบบเปิดเผย จึงทำให้คนอื่นสามารถอ่านใจได้ง่าย ถ้าเจอคนคิดร้ายจะเป็นอันตราย ทำให้เสียชื่อเสียงแบบไม่ทันตั้งตัว

    กรรมที่ติดตัว คือ กรรมด้านความรักจากอดีตจนปัจจุบัน บางท่านได้คู่ยาก บางท่านได้คู่แล้วแต่ต้องแอบซ่อน บางท่านได้คู่ที่อายุแตกต่างกันมาก นั่นคือกรรมที่ส่งผลให้ความรักไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะอดีตเคยทำให้ครอบครัวเสียใจ ปัจจุบันมักจะต้องพบเจอกับเรื่องกรรมของความรัก

    การแก้ไขกรรม ให้หมั่นทำบุญปรับพื้นดวง หมั่นสร้างกุศลด้วยเขื่อน – ฝายกั้นน้ำ ของเป็นคู่ สร้างแท้งน้ำ บ่อน้ำ ปล่อยปลา ห้ามเลี้ยงสัตว์ที่ต้องฆ่าและโดนกักขังในทุกกรณี


    3. ท่านที่เกิดวันอังคาร

    เป็นคนจริงใจ ตรงไปตรงมา กล้าคิดกล้าแสดงออกและเป็นคนมีจินตนาการกว้างไกล ขยัน เก่ง มีความสามารถ แต่ใจร้อนถ้าคิดจะทำอะไรแล้วไม่ถอดใจ เอาชนะเก่งและเป็นคนกตัญญูรักพวกพ้อง รักอิสระ

    กรรมที่ติดตัว คือ ชอบโดนเอาเปรียบ ทำคุณคนไม่ขึ้น โดนใส่ร้ายแบบไม่ต้องถามเพราะคนเห็นการแสดงออกในเรื่องวาจา และอารมณ์ร้อนก็จะเอามาตัดสินทั้งๆ ที่คุณเองเป็นคนตรงและจริงใจ แต่ถ้าไม่พอใจหรือน้อยใจมักจะไม่อะไรเลย

    การแก้ไขกรรม ควรทำบุญกับพระ กับบิดามารดา เครื่องมือแพทย์ ช่วยเหลือทางด้านการเงินกับคนที่มีบุญคุณ ไม่ตำหนิคนอื่น การแก้ไขเพื่อลดการเกิดปัญหากระทบกระทั่งด้วยการบริจาคน้ำ ธูป และสังฆทาน ปลูกต้นขนุนตามวัดอยู่เรื่อยๆ จะทำให้ความมั่นคงเจ้านายเมตตาอุปถัมภ์เพราะทุกวันนี้เจ้านายห่วงแบบห่างๆ เพราะเขาคิดว่าคุณดูแลตัวเองได้ดีแล้ว


    4. ท่านที่เกิดวันพุธ

    เป็นคนช่างเจรจายิ่งถ้ารู้จักจะเป็นคนคุยเก่งทีเดียว แต่ถ้าไม่รู้จักจะวางฟอร์มก่อน ขี้เบื่อ เป็นคนเก่งมีความสามารถทั้งในเรื่องการตัดสินใจและเจรจา แต่บางครั้งถ้าไม่สบอารมณ์นั้นอาจจะมีบางที่อาจจะปึงปังขึ้นมา

    กรรมที่ติดตัว คือ การเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเกินไป จนคนอยู่ใกล้หลงเสน่ห์จากการพูดเหมือนให้ความหวังจนเกิดเป็นความรัก กลายเป็นเจ้าชู้โดยไม่รู้ตัว ทำให้คนรอบข้างเสียใจและบางครั้งพูดขวานผ่าซากจนคนอื่นเสียใจ ซึ่งบางทีท่านอาจจะไม่ทันตั้งใจ

    การแก้ไขกรรม ควรแก้เกี่ยวกับน้ำดื่ม ทำบุญด้วยไฟฉาย ยารักษาโรค และการให้ทานปล่อยนกปล่อยปลา 17 ตัว ถวายช้าง ม้ากับศาล และอธิษฐานเรื่องบริวารให้อยู่นาน และเปลี่ยนแปลงนิสัย ระวังเรื่องการรับปากถ้าทำไม่ได้ให้ปฏิเสธ และหมั่นสร้างกุศล ดวงคุณจะดีขึ้นเรื่อยๆ


    5. ท่านที่เกิดวันพฤหัสบดี

    มีดวงชะตาดี มีเกียรติ มีคนเคารพนับถือมาก แต่มักมีปัญหาเรื่องคู่ครอง อาภัพคู่ ด้วย เป็นคนชอบการศึกษาเล่าเรียน เจ้าระเบียบ เข้มงวด มีจิตใจเอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง รักสงบ ชอบความมั่นคง ยึดถือความถูกต้อง

    กรรมที่ติดตัว คือ จะปวดหัวข้างเดียวเสมอ เป็นๆ หายๆ กระดูกแขนมีปัญหา และบางครั้งไม่ค่อยเข้ากับผู้ใหญ่ จะชอบสอนและตำหนิคนอื่นโดยไม่รู้ตัว คบใครเขาก็ไม่จริงใจกลับ ดีต่อหน้าเราเท่านั้น พอลับหลังโดนเม้าท์ เนื่องจากมีกรรมเดิมติดมาที่เคยตำหนิพระเจ้าและผู้ที่ทำบุญ

    การแก้ไขกรรม ควรทำบุญด้วยไตรจีวรทุกๆ 3 เดือน ทำบุญด้วยหนังสือพระที่กำลังศึกษา ทำบุญด้วยปัจจัยเป็นทุนการศึกษาพระและเณรบ่อยๆ หรือทำบุญกับพระสูงอายุ ครู และญาติผู้ใหญ่


    6. ท่านที่เกิดวันศุกร์
    มีดวงชะตาดี ลำบากได้ไม่นาน เพราะกรรมดีบุญเก่าหนุนนำ เกิดมาชาตินี้ต้องหมั่นทำบุญให้มากแล้วบุญกรรมจะดีขึ้นกว่าเดิม เป็นคนใจบุญชอบในเรื่องกุศล แต่ทำบุญคนแล้วมักเกิดคดีความหรือผิดใจกันเป็นคนที่ค่อนข้างรักพวก ถ้ารู้ว่าโดนเอาเปรียบมากๆ นั้นจะถอยแต่ถ้ายังทนไหวก็ปล่อย

    กรรมที่ติดตัว คือ ท่านมักจะหาความสุขโดยแท้จริงไม่ได้ มีแต่ฉากหน้าที่แสดงให้คนเห็นเท่านั้น แต่ภายในลึกๆ ไม่มีความสุขกับชีวิต ทำไมชอบอาสาคนอื่นและทำไมชอบเห็นใจคนอื่น บางท่านแต่งงานบ่อย แต่บางท่านไม่มีคู่เลย ท่านเคยหลอกคู่ตัวเองและไปแอบกิ๊กคนอื่น ปล่อยคู่ให้เดียวดาย

    การแก้ไขกรรม ให้ทำบุญกับผู้ใหญ่ ทำบุญด้วยเงินกับคนยากไร้ ทำบุญด้วยอาสนะ หมอนคู่และของเป็นคู่


    7. ท่านที่เกิดวันเสาร์

    เป็นคนคิดมาก นิ่งๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย มีโลกส่วนตัวสูง ตรงไปตรงมา ละเอียดรอบคอบในเรื่องการใช้ชีวิต เป็นคนคิดช้า สมองดี แต่บางครั้งไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน รักใครรักจริง เกลียดใครเกลียดจริง ตอนเป็นเด็กอาจจะต้องลำบาก ต้องผ่านปัญหามาก่อนจึงค่อยสบาย

    กรรมที่ติดตัว คือ กรรมจากการสูญเสีย คิดมากวิตกกังวล ต้องกำพร้าขาดคนอุปถัมภ์ ต้องทุกข์ใจอยู่บ่อยครั้ง ทำดีก็ไม่เกิดผล สังเกตุว่าตอนเด็กนั้นต้องพลัดพรากจากคนที่รัก นี่แหละคือกรรมเดิมเคยทำให้พ่อแม่และคนรัก ทำร้ายจิตใจเขา เอาเปรียบเขา ในปัจจุบันเลยต้องมาเป็นแบบนี้

    การแก้ไขกรรม ควรทำบุญด้วยการถวายที่ดินให้วัด ปลูกต้นไม้และซื้อดิน ซื้อปุ๋ยถวายพระ ต้องหมั่นสร้างกุศล และหมั่นฝึกจิตสมาธิ


    image.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พูดคุยยามเช้า
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เช้านี้ก็จะหยิบยกเรื่องราวที่ทางอินเดียเค้าแต่งเป็นนิทานเกี่ยวกับมนสาเทวีมาให้อ่านกัน ซึ่งนิทานนี้หากอ่านแล้วเราคงเผลอคิดไปว่ามหาเทวีเองก็แสบไม่ใช่เล่นเลย แต่สรุปให้เข้าใจอย่างง่ายคือ การยอมรับ และการบูชาพระนางโโยดีนั้น เป็นสิ่งที่พลิกชีวิตคนหลายๆคนมาแล้ว พลิกอย่างไรจะเหมือนเรื่องหนุ่มจานนท์นี้หรือไม่ เดี๋ยวจะมาเล่าต่อไป


    มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า จานนท์ ซึ่งเป็นนายพานิชน์แห่งจำปาก เป็นผู้ซึ่งนับถือพระศิวะและพระนางปราวตีเป็นที่สุด พระนางมนสาเทวี พยายามทุกวิถีทางที่จะเปลื่ยนความตั้งใจของจานนท์ แต่ก็ไม่สำเร็จ ด้วยความร่ำรวยของจานนท์ได้สร้างสวนดอกไม้ขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน นางมนสาเทวีได้สั่งให้งูบริวารทั้งหลายเข้าไปทำลายสวนดอกไม้นั้นเสีย ด้วยผลบุญที่จานนท์มั่นคงในพระศิวะเทพจนเป็นที่โปรดปราณพระเป็นเจ้าจึงได้ประทานมนตราลึกลับให้บทหนึ่งเพื่อใช้ในการชุบสิ่งที่ตายแล้วให้ฟื้นได้และด้วยมนตร์บทนี้เองที่ทำให้ดอกไม้ทั้งหลายเบ่งบานในสวนอีกครั้ง

    นางมนสาเทวีไม่สิ้นความตั้งใจ ใช้มายาและมนตราแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยเพื่อให้จานนท์หลงรัก จนในที่สุดนางก็ล้วงเอาความลับแห่งมนตราในการชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นได้สำเร็จและคืนร่างเดิมบอกกับจานนท์ว่า ให้กลับใจมาบูชานางเสีย แล้วจะประสบความสำเร็จและได้จากจานนท์ไปในที่สุด เมื่อมนตราลึกลับได้หลุดจากปากจานนท์ไปแล้วย่อมใช้กับจานนท์ไม่ได้ผลอีกต่อไป

    การดื้อรั้นของจานนท์ เป็นเหตุให้ลูกชายทั้ง 6 ถูกงูกัดตาย และทุกครั้งก่อนลูกแต่ละคนจะตาย จานนท์ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า ให้กลับใจมานับถือนางเสีย แต่เขาก็ยังดื้อรั้น ครั้งหนึ่งจานนท์ได้อาศัยเรือสินค้าเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางนั้น นางมนสาเทวีได้บัดาลให้เกิดมรสุมใหญ่ เรือแตกอับปางจานนท์ได้สวดมนตร์ถึงพระนางปราวตี พระเทวีได้เสด็จมาช่วยเหลือจานนท์ นางมนสาเทวีได้ตัดพ้อกับพระศิวะเทพผู้เป็นบิดาว่าการที่พระมหาเทวีมาช่วยเหลือนั้นไม่ยุติธรรมต่อนาง และขอให้พระศิวะนำพระนางปราวตีกลับวิมานเสีย อย่าได้มาเกี่ยวข้องกับนางเลย พระศิวะเลยต้องทำตามคำขอร้องของพระธิดาอันที่จริงนางมนสาเทวีไม่มีเจตนาจะฆ่าจานนท์ จึงเนรมิตปัทมอาสน์บัลลังก์ดอกบัวรับเอาจานนท์ไว้แต่จานนท์รู้ว่าเป็นของนางมนสาเทวีจึงไม่ยอมรับไว้ แต่นางก็บันดาลให้จานนท์ถึงฝั่งโดยปลอดภัย จานนท์สูญเสียทรัพย์สินทุกอย่างจากเหตุเรือล่มครั้งนั้นได้เดินทางไปอาศัยอยู่กับเพื่อน แต่พอรู้ว่าเพื่อนบูชานางมนสาเทวีก็ออกจากบ้านของเพื่อนไปโดยไม่ได้ร่ำลา ชีวิตพเนจรของจานนท์ลำบากมาก อดอยากจนถึงต้องกินกาบกล้วยเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆหนึ่ง

    แม้ว่านางมนสาเทวีจะเสด็จมาสู่ภาคพื้นดิน แต่ก็ยังมีฤทธิ์สามารถขึ้นสวรรค์เหมือนเดิมทุกประการ วันหนึ่งนางไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นชาวสวรรค์ด้วยกัน เพื่อนทั้ง 2 ของนางมนสาเทวีบอกว่าจะลงไปจุติเพื่อช่วยให้การกิจของนางได้สำเร็จ คนหนึ่งจะไปถือกำเนิดเป็นบุตรชายของจานนท์ชื่อ ลักษมินทร อีกคนหนึ่งจะไปเกิดเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อค้าของจานนท์ชื่อว่า นาง เพลุหา และเมื่อทั้ง 2 เติบโตจะได้แต่งงานกันโหรทำนายไว้ว่า วันแต่งงาน ลักษมินทรจะถูกงูกัดตาย ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทจานนท์ได้สั่งให้ช่างสร้างบ้านขึ้นหลังหนึ่งซึ่งไม่มีรูในบ้านเลแต่ช่างถูกนางมนสาเทวีข่มขู่ จึงได้สร้างบ้านเปิดรูเท่าเส้นผมไว้และเอาผงถ่านอุดไว้ พร้อมกันนั้นได้กำชับเวรยามตรวจตราเหนียวแน่นและโรยผงพิษหมายเด็ดชีพงูไว้รอบๆบริเวณบ้าน และด้วยรูนี้เองทำให้งูบริวารของ
    นางมนสาเทวีแทรกเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่ ลักษมินทรหลับอยู่ นางเพลุหา เห็นงูเข้ามาในห้องก็ทำทีเป็นป้อนนมและอาหารให้กับงู เมื่องูเผลอก็เลื่อนบ่วงกระตุกงูขึ้นแขวนกับขื่อคา 2-3ตัวแต่นางโดนพิษงูเข้าไปเลยทำให้นัยน์ตามัวเลยหลับไปในที่สุด ดังนั้นลักษมินทรก็เลยถูกงูเด็ดชีพตามที่โหรทำนายไว้ทุกอย่าง


    คนที่ถูกงูกัดตายนั้นไม่นิยมเผา แต่นิยมเอาใส่แพลอยน้ำไป และด้วยความที่นางรักลักษมินทรมาก นางตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ในแพกับสามีด้วย ไม่ว่าญาติผู้ใหญ่ เพื่่อนฝูง พี่น้องจะทัดทานเท่าไรก็ไม่เป็นผล ก่อนที่แพจะออกจากฝั่ง นางได้สั่งให้แม่จุดตะเกียงขึ้นที่ห้องพักและปิดประตูห้องให้มิดชิด ตราปใดที่ตะเกียงยังสว่างอยู่ย่อมมีความหวังว่า ลักษมินทรจะฟื้นขึ้นมาแพศพของลักษมินทรล่องลอยไปตามลำน้ำนานถึง 6 เดือน โดยที่สภาพศพไม่เน่าเปื่อย วันหนึ่งแพได้มาจอดที่ริมตลิ่งแห่งหนึ่ง หล่อนเห็นสาวคนหนึ่งกำลังซักผ้า แต่ลูกชายร้องไห้งอแงห้ามปรามเท่าไรก็ไม่ยอมหยุด นางก็เลยเค้นคอลูกชายจนแน่นิ่งและหมดสติไป นางไม่ได้แสดงอาการสะทกสะท้านใดๆจนกระทั่งงานเสร็จ นางได้เอาน้ำพรมลงบนตัวลูกชายและพร่ำบ่นมนตราไม่กี่คำ ลูกของนางก็ฟื้นได้ดังเดิมนางที่นั่งซักผ้าริมตลิ่งผู้นี้ หาใช่ใครอื่นแต่ เป็นนางเนตาเทพธิดาที่ลงสวรรค์มาช่วยงานนางมนสาเทวีนั่นเอง นางเพลุหาเห็นเช่นนั้นก็อ้อนวอนขอให้นางช่วยชุบชีวิตสามี นางเนตามีข้อแม้ว่านางเพลุหาต้องขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับตนและรำถวายให้กับทวยเทพชมก่อนจนทวยเทพประทานพรให้นางถึงจะชุบชีวิตสามีให้นางได้ ด้วยความที่อดีตชาติของนางเพลุหาเป็นนางอัปสรมาก่อนจึงรำได้อย่างงดงามเป็นที่จับจิตจับใจของทวยเทพ


    ฝ่ายทวยเทพได้ประทานพรให้ แต่นางมนสาทวีไม่ยอมบอกว่านางเพลุหาต้องไปเปลี่ยนความคิดให้จานนท์มานับถือนางเสียก่อน ดังนั้นนางเพลุหาจึงต้องกลับจำปากนครเพื่อไปบอกกับพ่อสามีตน ในที่สุดจานนท์ก็ยอมบูชานางมนสาเทวีอย่างเสียมิได้ด้วยตำนานนี้ทำให้เกิดความเชื่ออย่างหนึ่งที่ติดมาจนถึงทุกวันนี้คือ การใช้มือซ้ายในการถวายบูชานางมนสาเทวี เพราะมือขวาของจานนท์นั้นใช้ถวายและบูชาพระศิวะและพระนางปราวตีเท่านั้นขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายโยนดอกไม้ถวายของบูชากับนางมนสาเทวีอย่างเสียมิได้โดยที่สายตาก็ยังไม่ยอมเหลือบมองแม้แต่เทวรูปของนางมนสาเทวีเลยแม้แต่น้อย..

    ก็อ่านเป็นนิทานสนุกๆนะครับ เดี๋ยวจะมาลงข้อมูลที่ถามทางพ่ออาจารย์ท่านไว้ต่อว่าจริงมั๊ยต้องถวายของมือซ้ายเท่านั้น


    image.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    วันนี้ก็มาเล่าต่อ เกี่ยวกับเรื่องของมนสาเทวีนะครับ

    พอดีเคยลงประสบการณ์คร่าวๆไว้ของคนที่ใช้องค์ท่านตอนเป็นธาตุกายสิทธิ์ซึ่งยังไม่ได้ฝังลงในซุ้มผงเลย ว่าเอาไปได้ดีในต่างประเทศแต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดลึก วันนี้เลยไลน์ไปถามพี่เค้าว่าถ้าว่างให้โทรหาผมหน่อย จะได้เล่าประสบการณ์ให้ผมฟังถ้าโอเคผมจะได้นำมาพิมพ์ลงกระทู้

    ซึ่งพี่ท่านนี้ก้เมตตาต่อสายตรงมาจากต่างประเทศทีเดียวทำให้ผมได้ถามได้ทราบข้อมูลอะไรมากมาย พี่เค้าเล่าว่าเค้าเป้นคนทำงานนี่แหละ และมารู้สึกตัวตอนอายุกลางคนช่วงนี้ว่างานมันอิ่มตัวแล้วและมีความฝันอยากไปให้สูงให้ไกลกว่านี้ พี่เค้าว่าเค้าพยายามคิด คิดจนสมองจะแตก จะหาลู่ทางทำอะไรเพิ่มก็คิดไม่ออก พอได้บูชามนสาเทวีไปมันมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว


    เราก็ถามล้วงลึกว่างานที่ทำอยู่มันตันแล้วหรอคือยังไง เค้าก้ว่ามันยังทำได้เรื่อยๆโดยที่ตัวเขามีรายได้หลักแสนต่อเดือน ทีนี้ก็คือความฝันความทะเยอทะยานของคน เค้าว่าเค้าอยากจะทำงานได้หลักล้านต่อเดือน แล้วถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะทำให้มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่ดูท่าความหวังนี้คงจะไม่เป็นผลทำอย่างไรก็ไม่กระเตื้องไปมากกว่านี้

    จนได้มนสาเทวีมาพี่เค้าว่าเดือนแรกเลยจากรายรับเดือนละแสนก็พออธิษฐานถวายนมถวายขนมท่าน ทีนี้เค้าว่าเค้าฝันเห็นพระศิวะยิ้มให้พอตื่นมาปรากฏว่ามีรอยงูเลื้อยอยู่บริเวณเตียงแล้วทีนี้พี่เค้าว่าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะน้องกรณ์อาทิตย์นั้น ยังไม่ต้องรอให้ครบเดือนอะไรเลย แค่อาทิตย์เดียวพี่เค้าว่าตัวเค้ามีรายได้เข้ามาตอนนั้นเจ็ดแสนทันที หลังจากนั้นพอครบเดือนเค้าว่ามันเกินล้านเฉยเลยจากที่พยายามมาครึ่งชีวิตไม่เห็นหนทางอะไร แต่นี่คือไม่ได้ทำอะไรเพิ่มขึ้นก้ทำแบบเดิมเหมือนเดิมแต่กลับมีรายได้มากขึ้น

    ตรงนี้เค้าก็ถามผมกลับว่าพี่ฝันเห็นพระศิวะยิ้มให้แล้วตื่นมาก็เห็นรอยงูเลื้อยสงสัยมันจะเป็นอะไรซักอย่างที่เป็นมงคลกับชีวิตพี่ พอเขาพูดตรงนี้ปากเรามันก็คันเหมือนอยากจะตอบเขา เลยพูดกลับไปว่าเพราะว่ามนสาเทวีนั้นเป็นธิดาองค์โปรดของพระบิดาศิวะเทพ ทุกเรื่องหากมีอะไรที่เกินมือท่านหรือท่านต้องการจะเปลี่ยนแปลงชีวิตใครท่านก็จะขอกับเสด็จพ่อของท่านโดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าองค์พระสยมท่านไม่เคยปฏิเสธคำขอของลูกสาวคนนี้ ร้อยคนขอพันคนขอก็ไม่สู้คำขอของธิดาองค์โปรดนี้แน่นอน


    พอมีรายรับสะสมมากขึ้นไม่กี่เดือนพี่เค้าก้ขยายกิจการไปลงทุนในต่างประเทศทันทีแบบกล้าได้กล้าเสียและกล้าไป พอไปแล้วเค้าว่ามันดีจริงๆกรทุกอย่างเลย ฝันและความต้องการของพี่เป็นจริงหมดเลย มันง่ายจนน่าสงสัยว่าชีวิตคนหรือเทพนิยาย(เจ้าตัวยังไม่เข้าใจ) เค้าว่าเพราะมนสาเทวีเพราะพระแม่นี่แหละไม่ใช่ใครที่ช่วยเค้า ทำให้ตัวเค้าศรัทธาและเดินทางไปกราบพระแม่ตามประเทศต่างๆที่นับถือ

    มาถึงตรงนี้เราก็ไม่กล้าถามแล้วว่าปัจจุบันความฝันพี่เค้าที่ว่าเป้นจริงแล้วนั้นมันเป็นอย่างไรมีรายได้เท่าไหร่แต่ผมคาดเดาเอาเองว่าถ้ากล้าพูดมาขนาดนี้ก็คงไม่น้อยทีเดียว ก็นำมาเล่าให้ฟังกันคร่าวๆแบบจำกัดเนื้อความลงเยอะให้เข้าใจง่าย และตัดปาฏิหาริย์เกี่ยวกับองค์เทพออกไปค่อนข้างมาก เนื่องจากจะให้เล่าเต็มที่เรามีความคิดเห็นว่าคงไม่ต่างจากเรื่องของจานนท์เลย เพราะพี่เค้ามีปาฏิหาริย์ที่ได้เจอกับมนสาเทวีมากมากถึงขนาดบอกกับผมว่าเคยเห็นองค์จริงคือเห็นด้วยตาสองข้างของตนเองเลยมาแล้ว นี่แหละที่เราอยากจะพูดว่าท่านเฮี้ยนแต่ก็ไม่ค่อยถนัดปากเพราะท่านเป็นเทพ

    และอีกเรื่องคือพี่เค้าว่าพกแล้วมีแต่ผู้หญิงมาติดก็แปลกดีแถมเป็นหญิงที่มีอายุคราวลูกทั้งนั้น ดังที่เคยบอกไปแล้วว่ามนสาเทวีนี้ปาฏิหาริย์มากและยังเคยบอกว่าท่านงามที่สุด ความงามที่สุดนี้หากเทียบกับพระแม่เจ้าทั้งสามคือพระอุมา พระลักษมี พระสุรัสวดีแล้วพ่ออาจารย์ท่านเคยบอกว่างามต่างกันเพราะมนสาเทวีจะงามเหมือนสาวแรกรุ่นพูดให้เข้าใจคืองามแบบเด็กสาววัยรุ่นนั่นเองตรงนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันมั๊ยทำไมถึงดึงดูดแต่เด็กสาวคราวลูกเหมือนที่พี่เค้าเล่า และองค์เทวีนั้นต่างจากองค์เทพ ยิ่งเป็นหญิงหรืออิตถีเพศด้วยแล้วยิ่งมีความปรารถนารุนแรง รักแรงอยากช่วยหรือลงมือช่วยย่อมทำเต็มที่ ตรงนี้เอาว่าใครเชื่อก็นำไปบูชากันให้ดีแล้วต่อไปความรู้สึกของเรา ถามใจตัวเราดูว่าเราจะรู้สึกรักในเครื่องมงคลชิ้นนี้เองเนื่องจากได้รู้ค่าและเห็นค่าแล้วว่าเป็นยังไง ต้องเจอกับตัวเอง


    1351094245.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พรุ่งนี้มาติดตามกันนะ เดี๋ยวจะไล่ตอบ PM ก่อนพอดีวันนี้ยุ่งๆทั้งวัน;)
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    การชำระหนี้สงฆ์

    ลองมาสำรวจตัวเองตามรายละเอียดด้านล่างนี้นะครับว่าเอ๊ะตรงหรือเปล่า จริงหรือไม่ ผมรู้สึกว่าหลายๆคนจะติดกรรมตรงนี้กันอยู่และแก้ไขไม่ได้ซักที วนเวียนเจอแต่เรื่องหรือปัญหาเดิมๆ ตั้งสตินึกกันดีๆว่าเคยทำมาหรือเปล่าสิ่งเหล่านี้ หากระลึกแล้วว่าไม่เคยล่ะแต่ทำไมมันช่างตรงเหลือเกิน ก็แปลว่าในอดีตชาติเราอาจจะเป็นหนี้สงฆ์อยู่ก็เป็นได้ ตรงนี้ก็อยากให้เร่งชำระกันนะครับ ทำไปเรื่อยๆเพราะจะให้ใครไปสร้างพระประธานคนเดียวก็อาจเกินกำลังไปบ้าง แต่หากให้ค่อยๆทำและทำไปเรื่อยๆแน่นอนว่าอะไรดีๆมักจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดหมายทีเดียว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะ


    "มาชำระหนี้สงฆ์ ตัดกรรม ความยากจนเรื้อรังกันเถอะ คนที่ลำบากยากจน ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน มีปัญหาการงาน การเงิน ที่ไม่สามารถปลดเปลื้องได้ แม้จะปิดนรกขุม 2 ไปแล้ว ลองมาทบทวนดูสิว่า เรามีหนี้สงฆ์หรือไม่ หนี้สงฆ์คืออะไร"

    หนี้สงฆ์ คือ
    1. การลักทรัพย์ในเขตวัด เขตบุญ สถานที่สาธารณะ
    2. ไม่ได้ลัก แต่นำมาโดยไม่รู้ว่า เป็นบาป เช่น นำอาหารวัดกลับบ้าน นำอาหารที่ตนนำไปทำบุญ แต่พระไม่ฉัน กลับบ้าน หรือ ยักยอกอาหารพระ ผู้ทรงศีล ผู้ประพฤติธรรม
    3. ใช้อุบายนำอาหารท่านมากินมาใช้ โดยท่านไม่ได้อนุญาต ด้วยความเต็มใจ หรือ แม้แต่เจ้าอาวาสให้ แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ทรัพย์ส่วนตัวเจ้าอาวาส แต่เป็นทรัพย์ของสงฆ์ คือสงฆ์ทั้งคณะต้องมีฉันทามติยกให้ด้วยความเต็มใจ ไม่ใช้อุบายให้ท่านยกให้ จึงจะไม่เป็นบาป
    4. แม้แต่ข้าวพระพุทธ อาหารพระพุทธ ก็ไม่อาจนำมาทานต่อได้ เพราะ เราไม่มีสิทธิ์สถาปนาตัวเองเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าแต่ประการใด (หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้ในหนังสือตอบปัญหาธรรม)
    5. หรือแม้แต่ผัก ผลไม้ในวัด ของใช้ ของสังฆทาน นำมาใช้ส่วนตัว นำกลับบ้าน คิดว่าวัดหรือเขตบุญนั้นไม่ใช้ นำมาใช้หรือขาย
    6. เงินเรี่ยไร ผ้าป่ากฐิน หรือบุญใดๆ หากผู้ใดนำไปใช้ส่วนตัว ยักยอก ไม่นำไปทำบุญ หรือ หาอุบายแจกซองหรือเรี่ยไร หากินกับการบุญ หรือ นำเงินกฐินมาซื้อเหล้า จ่ายค่ารถ หรืออื่นๆ
    7. เงินที่มีผู้ฝากทำบุญ แต่ไม่นำไปทำบุญทันที หรือ นำทำไม่ทั้งหมด ยักยอกไว้ หรือคิดเข้าข้างตนเองว่า เขาเต็มใจร่วมบุญกับตนแต่ไม่นำไปทำบุญจริง นำไปใช้จ่ายส่วนตัว หรือครอบครองไว้
    8. เป็นมักทายก หรือ อาศัยอยู่ในวัด นำของส่วนรวมมาใช้เป็นส่วนตัว ใช้เล่ห์อุบายให้ได้ทรัพย์ นิยมให้คนนำเงิน หรือสิ่งของมาให้ตน ชอบของฝาก ชอบหาลาภสักการะ โดยอาศัยเขตบุญ
    9. นำอาหารของสงฆ์ หรือผู้ทรงศีล ไปกิน โดยท่านไม่อนุญาต หรือสมควรเก็บไว้กิน ไว้ฉันมื้อต่อไปได้ แต่ไม่เก็บไว้ให้ท่านแต่ตัดสินใจนำออกไป เพราะอยากกิน อยากได้ของท่าน
    10. ทำของวัด ของเขตบุญเสียหายไม่ชดใช้ให้เท่าเดิม หรือ ดีกว่าเดิม
    11. ไม่ถนอม ไม่ประหยัด ทรัพย์ทุกชนิดในเขตบุญ และ สาธารณสมบัติ ไม่ทำความสะอาด ไม่เก็บเข้าที่
    12. ใช้น้ำ ใช้ไฟ อาหารการกิน ของใช้อื่นๆ ฟรี โดยไม่ชำระหนี้สงฆ์ให้เกินกว่าราคา มูลค่าของที่ใช้ และโดยไม่อนุญาตด้วยความเต็มใจ
    13. แอบใช้ แอบทำให้เสียหาย ให้สิ้นเปลือง เท่ากับลักรัพย์+หนี้สงฆ์ +มุสา โกหก ปิดบัง ในเขตบุญ บาป 2 ต่อ ฯลฯ

    ทั้งหลายทั้งปวงนี้ คือกรรมใหญ่ เรียกว่า ผิดหนี้สงฆ์ ก็จะต้องประสบเคราะห์กรรม....คือ
    1. ทำให้ลำบากยากจน ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน
    2. ทำให้มีปัญหา ด้านอาชีพการงาน ไม่เจริญก้าวหน้า ตกงาน
    3. ทำให้มีหนี้สิน ที่ไม่มีทางปลดเปลื้อง หรือไม่มีปัญญาใช้
    4. ทำให้เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย ที่รักษาไม่หาย
    5. ทำให้ครอบครัวไม่ปรองดอง ไม่ราบรื่น
    6. ทำให้จิตใจอ่อนแอ เครียดง่าย โกรธง่าย ควบคุมตัวเองไม่ได้
    7. ทำให้เสื่อมยศ เสื่อมเกียรติ เสื่อมความนิยมนับถือ
    8. ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด มักจะทำบาปซ้ำเติมตัวเองร่ำไ
    9. ทำให้อับจนปัญญา หาทางแก้ปัญหาใดไม่ได้ ตีบตัน
    10. ทำให้เห็นผิดจากทำนองครองธรรม ต้องไปอเวจีมหานรก หลังความตาย

    การชำระหนี้สงฆ์
    1. สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ หน้าตัก 4 ศอก (พระประธาน) (ถ้าบาปมาก ควรสร้างเองคนเดียวทั้งองค์)
    2. สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ หน้าตัก 4 ศอก แบบปิดทองทั้งองค์ ซึ่งสามารถสร้างร่วมกับคนอื่นได้ เป็นคณะ
    3. ชำระหนี้สงฆ์เป็นเงินไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิต เพราะ หนี้ที่ทำมา คงไม่อาจชำระคราวเดียวได้หมด
    (พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าจะชำระให้ครบถ้วนเป็นเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ)
    4. ทำสิ่งใดเสียหาย ให้รีบชดใช้ ให้ดีกว่าเดิม มากกว่าเดิม

    หลังจากรู้เรื่องหนี้สงฆ์แล้ว
    1. ให้รีบชำระหนี้สงฆ์ทันที เพราะกรรมหนี้สงฆ์นี้รุนแรงมาก ทำมาหากินอย่างไรก็ไม่ขึ้น โรคที่เป็นจะไม่หาย ทุกข์จะไม่คลี่คลาย
    2. หากทำผิดซ้ำอีก 2-3 คราว ไปโลกันต์ คือพบความวิบัติ ทั้งก่อนและหลังความตาย คือ ก่อนตาย จะมีแต่เรื่องเลวร้ายในชีวิต

    " คนที่หมั่นชำระหนี้สงฆ์ตลอดเวลานั้น ให้สังเกตดูก็ได้ว่า ชีวิตจะเริ่มดีขึ้น โรคเวรโรคกรรมจะหายขาด เงินทองที่เคยติดขัดหนี้สินที่เคยมีมากมายจะค่อยๆ ลดลงไปจนกลายเป็นคนมีเงิน อย่างน่าอัศจรรย์ "


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่วันชัย ER 5711 7753 0 TH
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พรุ่งนี้ติดตามกันนะ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง;)
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    วันนี้สายรวย ห้ามพลาดนะ;)
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดขอมโบราณลงถมมหาทุคคตะกลับชาติ(เกิดใหม่รวยล้าน)

    สืบเนื่องจากมีหลายคนถามถึงตะกรุดแบบพิเศษ นั่นคือการทำตะกรุดโดยใช้การลงถมตามกรรมวิธีศาสตราพุทธาคมโบราณซึ่งพ่ออาจารย์ท่านไม่ได้เปิดให้บูชาตะกรุดประเภทนี้มาเป็นเวลากว่าขวบปีแล้ว ประจวบกับท่านเห็นว่าปัจจุบันนั้นสมควรจะนำออกมาให้บูชาได้ ด้วยท่านได้รับอนุญาติและมติจากครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ ถึงความทุกข์ยากและภัยอันจะอุบัติกับมนุษย์ในเบื้องหน้า

    พ่ออาจารย์ท่านจึงนำตะกรุดชุดพิเศษที่ได้ชื่อว่าทำยากที่สุดออกมาให้ร่วมทำบุญ ซึ่งตะกรุดชุดนี้ท่านได้เอาตะกั่วขอมโบราณพันปีที่ขุดได้ใต้ปราสาทขอมโบราณอันมีคนนำมามอบให้ โดยท่านว่าตะกั่วขอมนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มากเนื่องจากผ่านพิธีกรรมซึมซับอานุภาพแห่งเทพยดาต่างๆมานานนับพันปี เมื่อได้มาท่านจึงนำมาประสระล้างอาถรรพ์และนำไปหลอมรีดเป็นแผ่นนตะกั่วอย่างหนาก่อนจะนำมาทำการลงถมด้วยวิชาศาสตร์พิชัยสงครามต่างๆครบถ้วนกระบวนยุทธิ์ ไล่ตั้งแต่ลงอักขระเรียกสูตรรัตนมาลา มหาองการสิบสามบท มหาปราบ มหาระงับ มหาจักรพรรดิ์ สุริยาทรงรถ พระอาทิตย์ทรงกลด เดือนตะวันเบิกเมฆและใส่กลบทนารายณ์อวตารทั้งแปดภาค รวมไปถึงอิติปิโสกลบทสำคัญอีกหลายสิบพระคาถาอันได้ชื่อว่าค่าควรเมืองยิ่ง พ่ออาจารย์ท่านเพียรจารปลุกเสก นั่งหลอม ส่งรีด ลงจารใหม่ ทำเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนได้ 108 ครั้งลังจากนั้นท่านจึงรีดแผ่นตะกั่วขอมโบราณนี้อีกคำรบหนึ่งก่อนนำมาแช่น้ำทิพย์มนต์โดยท่านเรียกพิธีนี้ว่าชุบแผ่นดิน ทำพิธีมุรธาภิเษก เปรียบแผ่นตะกั่วนั้นดุจผืนแผ่นดินอันรองรับจอมเขาและมหาสมุทรเพื่อให้เหมาะสมที่จะลงจารประทับมหายันต์สำคัญลงบนแผ่นตะกั่วอันเปรียบกับพื้นสุวรรณปฐพีนั้นทีเดียว

    ด้วยมติแห่งครูบาอาจารย์พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ปลกพระเวทย์สำคัญขึ้นมา ท่านเรียกว่ามหาทุคคตะกลับชาติ โดยท่านอธิบายว่าอันมหาทุคคตะนั้นก็คือยอดของคนเข็ญใจเลยทีเดียวกล่าวให้เข้าใจโดยง่ายก็คือในมหาทิศทั้งสี่นี้จะหาใครลำบากหรือน่าเวทนามากกว่ามหาทุคคตะนี้ไม่มีอีกแล้ว มหาทุคคตะกลับชาตินั้นคือวิชาที่ว่าด้วยการสำเร็จผล เปลี่ยนกลับชีวิตด้วยอำนาจพุทธบารมีตลอดจนบารมีของพระอรหันต์เจ้าองค์สำคัญต่างๆ ท่านว่าวิชาเช่นนี้กระทำได้ยากเพราะมีอานิสงค์มาก เนื่องจากมีอานิสงค์ทันตาเห็นนั่นคือต้องเปลี่ยนเดี๋ยวนั้น ต้องสำเร็จผลเดี๋ยวนั้น เสมือนได้ถวายมหาทานแก่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสมือนพระอินทร์ได้ถวายทานพระมหากัสสปะหลังออกนิโรธสมาบัติ เสมือนได้รับพระพระสีวลีมหาเถระ พระมหากัจจายนะ แลพระอนุรุทธศากยะเช่นนั้น


    พ่ออาจารย์ว่าวิชาเช่นนี้หาได้ยากและทำยาก เพราะต้องลงนะสำคัญที่ท่านเรียกว่านะพระพุทธบาทลงไป ท่านว่านี่คือสิ่งสำคัญและเป็นสิริมงคลนัก เพราะเป็นสัญลักษณ์ของมหาบุรุษเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้ามีอานุภาพมากเสมอด้วยรอยพระพุทธบาทอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงอธิษฐานประทับไว้ทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อได้อาราธนาหรือพกติดตัวและน้อมใจมั่นตั้งจิตสักการะบูชาแล้ว การบูชาย่อมมีอานิสงค์เป็นมหัศจรรย์ ดังนี้
    - ปิดหนทางอบายภูมิทั้งสี่ มีแต่การอุบัติในภพภูมิที่สูงขึ้นจนกว่าจะถึงพระนิพพาน
    - เสมือนได้เห็นและคอยอุปัฏฐาก ถวายบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรงมีอานิสงค์ไม่มีประมาณ
    - ดุจว่าได้เดินตามรอยบาทและแนวทางแห่งพระตถาคตเจ้าไม่ออกนอกเส้นทางสัมมาปฏิบัติ
    - เป็นการเปิดทางบุญ เมื่อได้ใกล้ชิดกับสมเด็จพระบรมศาสดาแล้ว ก็เสมือนตัวเรานั้นได้บำเพ็ญบุญกิริยา ด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดล้วนเป็นบุญทั้งสิ้น
    - ปรากฏเกียรติยศชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ
    - ปรากฏญาณ ปัญญา ฉลาดยิ่งกว่าบุคคลทั้งหลาย
    - อุปาทวภยันตรายก็ดี โรคภัยไข้เจ็บก็ดี ศัตรูทั้งหลายก็ดี อันใดจักมี อันนั้นจักหายไป
    - ย่อมสุขสมบูรณ์ปรากฏด้วยทรัพย์สิ่งของ เงินทอง ธนสารสมบัติอันเป็นของตนเอง
    - อุดมด้วยตบะฤทธิ์เดช ไม่เสื่อมถอย
    - ประสบสุขในสังสารวัฏมีบุญญาภิสมภารมากยิ่งกว่ามนุษย์แลเทวดาทั้งปวง
    - เมื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์จะกระทำให้แจ้งในปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และอภิญญา 6


    ท่านว่าเมื่อลงนะพระพุทธบาทแล้วท่านต้องกำหนดจิตเชิญครูในพระนิพพาน เชิญสมเด็จองค์ปฐมขอพุทธานุญาติให้ประชุมสภาพระผู้พิชิตมารสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง เพื่อจะบอกกล่าวและขอพุทธบารมี ท่านว่าเมื่อกำหนดจิตดูนั้นพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ท่านก็จะเมตตามาอธิษฐานประทับรอยพระบาทลงไปทับซ้อนกันไปเรื่อยๆค่อยๆกระทำไปทีละองค์จนครบถ้วนทุกพระองค์ ถึงแม้จะเป็นเวลาในโลกทิพย์ก็ยังกินเวลาพอสมควร พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเช่นนี้ เพราะเราต้องการจะรองรับพุทธบารมีให้ได้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้แผ่นตะกั่วที่ทำขึ้นจากตะกั่วขอมโบราณพันปี ซึ่งเป็นวัตถุที่รองรับและกักเก็บอานุภาพได้ดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเสร็จพิธีตรงนี้แล้วรอยพระพุทธบาทนี้ถือว่าเป็นของสำคัญ เป็นมหากายสิทธิ์โดยธรรมชาติ ท่านว่าแม้เหล็กไหลน้ำหนึ่งก็ยังไม่มีคุณประเสริฐเทียบเท่า หากไปประดิษฐานอยู่ที่แห่งใดหรือกับใคร เทพยดาตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายย่อมติดตามคอยอารักขารอยพระบาทตลอดจนผู้บูชานั้นให้เจริญยิ่งขึ้นไปอีกโสตหนึ่ง


    เสร็จแล้วท่านจึงลงอาถรรพ์วิชาทุคคตะกลับชาติ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาที่เปลี่ยนกลับได้ทุกสิ่ง ให้ดีขึ้น เจริญขึ้น ซึ่งท่านว่าลงได้ยากเพราะต้องลงล้อมทั้งหน้าและหลัง ซ้ำต้องลงองค์พระไว้อีกสี่องค์ ทั้งนี้องค์พระทั้งสี่นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อลงก็ต้องกำหนดจิตนึกถึงองค์ท่าน นั่นคือ
    - องค์พระมหากัสสปะ
    - องค์พระอนุรุทธะ
    - องค์พระสีวลี
    - องค์พระมหากัจจายนะ
    ซึ่งพ่อาจารย์ว่าพระมหาเถระทั้งสี่นั้นล้วนแค่มีคุณานุภาพมากเป็นเอนกปริยาย องค์พระมหากัสสปะนั้นก็ชอบเข้านิโรธสมาบัติใช้การโปรดสัตว์ด้วยบิณฑบาตรทานหลังออกจากนิโรธสมาบัตินั้นเปลี่ยนคนเข็ญใจเป็นคหบดีมามากกว่ามาก แม้องค์พระอนุรุทธะก็เป็นพระผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี ไม่ได้ ไม่รู้ยากรู้จน ส่วนองค์พระสีวลีกับพระมหากัจจายนะเถระนั้นก็เป็นผู้อุดมด้วยลาภสักการะมีบารมีเฉพาะทางเป็นที่สรรเสริญยิ่งนัก ท่านจึงอาราธนาคุณแห่งพระมหาเถระทั้งสี่นี้ให้มาโปรดและช่วยเหลือคนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติและภัยอันเกิดจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล


    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนัก หากผู้มีศรัทธาแรงกล้า แม้ได้พบเห็นก็เสมือนหนึ่งได้เห็นพระตถาคตเจ้าแล้ว เขาจะเกิดปิติด้วยศรัทธาและนำไปกราบไหว้กระทำสักการะบูชาสรรเสริญพระพุทธคุณ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะที่ได้แสดงไว้เพื่อหวังอนุเคราะห์สัตว์ทั้งหลายอันเป็นพุทธเวไนย สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ไปเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติที่จะรู้ได้เฉพาะตน โดยสัตว์ทั้งหลายอันเป็นพุทธเวไนยนั้นนั่นคือผู้ที่มีแต่สมเด็จพระตถาคตเจ้าเท่านั้นที่จะโปรดให้บรรลุธรรมได้แม้พระอรหันต์ทั้งหลายก็ไม่อาจโปรดให้บรรลุธรรม ท่านว่าบุคคลใดที่เข้าถึงด้วยศรัทธา เมื่อเขาอยู่ในโลกมนุษย์ก็ย่อมถึงซึ่งมนุษย์สมบัติทั้งปวง แม้ธาตุสังขารแตกดับล่วงไป ย่อมไปเสวยทิพย์วิมานในสวรรค์มีอำนาจมากในเทวโลกหากละจากสวรรค์แล้วย่อมถึงที่พระเจ้าจักรพรรดิราชสมบูรณ์ด้วยรัตนะทั้งเจ็ด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เราอยากจะบอกและย้ำว่าเป็นตะกรุดสำคัญมากเพราะมันล้างและเปลี่ยนชะตากรรมของคนได้ทันทีนับแต่ชาตินี้ถึงชาติภพหน้า หากเขามีศรัทธามั่นคงในพระพุทธคุณมากพอ ซึ่งวิชานี้ท่านว่าไม่ใช่ของที่จะพบเห็นกันได้ง่าย แม้ครูบาอาจารย์ท่านหรือสมเด็จในนิพพาน ต้องการจะให้ผู้ใดพบหรือผู้ใดเห็น ก็จะเห็นจะรู้และเข้าใจถึงพระพุทธคุณเฉพาะตัวผู้นั้น ด้วยบุญสัมพันธ์อันจะได้เกื้อกูลสืบเนื่องกันมา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ท่านกล่าวมากไม่ได้เพราะเป็นความลับเบื้องบน ท่านมีเพียงหน้าที่ทำให้กับคนที่คู่ควรเท่านั้น ซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านจะพิจารณาของท่านเองว่าใครควรเห็น ควรพึงใจ เห็นประโยชน์ใหญ่อันจะบังเกิดกับตนในเบื้องหน้า เอาว่าสมชื่อทุคคตะกลับชาติ(เกิดใหม่รวยล้าน)นั่นพอ ไม่ว่าจะเคยเจออะไร จะตก จะต่ำ จะแย่มาจากไหน หากเชื่อว่าตัวเองเปลี่ยนได้ เชื่อว่าจะดีขึ้นได้ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามนั้นฉับพลันทันที ได้เกิดใหม่ มีชีวิตใหม่ ลืมความทุกข์กันทุกคน


    คาถาบูชา
    อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง ทุติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง ตะติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง สาธุ มหาโลกัง สัพพะพุทธานัง ปาทะเจติยัง ชินะธาตุ จะ ฐะเปตฺวา อะหัง วันทามิ ทูระโต อะหัง วันทามิ สัพพโส


    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพุทธานุภาพสูงมาก ทั้งยังสมบูรณ์ด้วยสาวกบารมีแห่งองค์พระอรหันต์ที่ได้ชื่อว่าอุดมด้วยลาภสักการะสำคัญทั้งสิ้น ท่านว่าทำยากเสกยาก เพราะหาฤกษ์แทบจะไม่มี แต่เมื่อทำเสร็จท่านว่ามันก็คุ้มกันกับที่รอคอย ตะกรุดเช่นนี้ท่านว่าหากจะติดตัวก็ดียิ่งเพราะจะได้เจริญพุทธานุสติตลอดเวลา แต่หากจะไปกระทำสักการะบูชาก็ให้หาผ้าขาวปูรอง วางตะกรุดไว้ บูชาด้วยดอกมะลิและน้ำสะอาดเถิดไม่ว่าจะบูชาด้วยวิธีไหนหากตั้งใจกระทำสักการะบูชาย่อมมีอานิสงค์มาก ยิ่งกว่าคำว่าค่าควรเมืองทีเดียว


    * พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้นอกจากตัวท่านแล้วก็มีเจ้าของที่คู่ควรทั้งสิ้นหกคน ดังนั้นท่านจึงขออนุญาติเสด็จพระใหญ่ลงไว้ทั้งสิ้นเจ็ดดอก โดยตัวท่านได้นำไปสักการะบูชาของท่านเองดอกหนึ่งด้วย ท่านว่าวิชานี้เป็นสิ่งที่เกิดจากพุทธนิมิต ท่านจึงมั่นใจมากว่าพุทธานุภาพนั้นต้องการจะสงเคราะห์สัตว์เฉพาะกาลเฉพาะวาระจริงๆ ท่านทำไว้เปิดให้บูชาทั้งสิ้นหกดอก ซึ่งคนใกล้ชิดที่รู้ข่าวก็เริ่มจองกันเข้ามาบ้างแล้วแต่ท่านก็พิจารณาให้รับเป็นรายบุคคลไป รายการนี้หากใครจะบูชาให้ส่งรายละเอียด วันเดือนปีเกิดตลอดจนชื่อสกุลไว้เฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้จากการบูชาร่วมบริจากบุญวิหารทานต่อไป



    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดขอมโบราณลงถมมหาทุคคตะกลับชาติ(เกิดใหม่รวยล้าน) 3,000 บาท


    035.jpg 1392008998.jpg SAM_5290.jpg SAM_5291.jpg SAM_5292.jpg 764108e7.jpg image.jpg image.png 1207072486.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2023
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    รายการนี้ท่านว่าลงกันสะท้อนบทใหญ่ไว้ด้วย สำหรับคนใช้ผมว่าดอกนี้แรงนะ ครบเลย
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่จิรญา ER 5711 5216 1 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ ER 5711 5217 5 TH

    พี่ศิระ ER 5711 5218 9 TH

    พี่ภิญโญ ER 5711 5219 2 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ผมกำลังไล่ตอบ PM ให้นะครับ รู้สึกว่าค้างไว้หลายท่านเลย;)
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ เรื่องนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ใช้ของขลังไม่ขึ้น ลองอ่านศึกษากันดูนะครับเผื่อเราจะติดกรรมหรือมีสาเหตุอะไรให้ใช้ไม่ขึ้นเนื่องจากมีลักษณะนิสัยเหล่านี้หรือเปล่าและจะแก้ไขยังไง

    หาก คุณเป็นคน ๆ หนึ่งที่เล่นของไม่ขึ้น หรือใช้เครื่องรางของขลังไม่ได้ผล ไม่ว่าจะบูชาอะไรไปที่เขาว่าแรงว่าดีเขาใช้ได้ผลกันแต่พอบูชาไปแล้วเฉย ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นเพราะ

    1. เคยลบหลู่พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เคยลบหลู่บุญคุณบิดามารดา ผู้ที่ควรเคารพบูชา หรือเคยลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวดา หรือครูบาอาจารย์ หากไม่แน่ใจว่าเราเคยทำมาหรือไม่ ให้หาพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียน หรือทำขันธ์ขอขมาต่อท่านทั้งหมดที่กล่าวมา

    2. เป็นคนที่จิตมีความลังเลสงสัยมากเกินไป สงสัยไปหมดจนจิตลังเลไม่เชื่อถือในของที่บูชา อำนาจของเครื่องรางของขลังเป็นสิ่งที่เกิดจากอำนาจจิตของผู้ที่ปลุกเสก หากจิตคนที่นำไปบูชาไม่ยึดมั่นถือมั่นศรัทธาในของขลังนั้นจะได้ผลได้อย่างไร ตัวสงสัยนั่นแหละเป็นตัวกั้นให้ไม่ได้ผล

    3. เป็นคนที่มีจิตใจด้านเกินไป จนจิตไม่สื่อกับอำนาจของเครื่องรางของขลัง เช่น ไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงอันนี้ปิดเลย

    4. เป็นคนมีจิตใจชอบลองของลองดีแบบลบหลู่ด้วย อันนี้หนักไม่ได้ผลเลยอาจจะมีโทษอีกต่างหาก หรือไม่ก็เป็นแบบอยากใช้ของๆเขาอยากเอาผลจากของ ๆ เขาแต่ตัวเองไม่ศรัทธาอาจารย์ที่สร้างไม่เชื่อว่าของๆ เขาศักดิ์สิทธิ์จริง หรือมีลักษณะของจิตใจทื่อๆด้านๆเห็นเครื่องรางของขลังเหมือนกับคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือที่เอามาใช้ปุ๊บต้องได้ผลตามที่ต้องการปั๊บโดยที่ตัวเอง ยังไม่ศรัทธาแท้ ไม่ยึดมั่นถือมั่นศรัทธาแท้ในศาสตร์ของเขา ข้อนี้เท่าที่เห็นมาเป็นกันเยอะ

    5. มีครูบาอาจารย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาอยู่แล้ว แต่ใช้เครื่องรางของขลังที่เป็นสายที่ขัดแย้งกับครูบาอาจารย์หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอยู่ ข้อนี้เกิดขึ้นกับเฉพาะบางคนมีไม่มาก

    6. ของนั้นไม่แรงหรืออาจารย์ผู้เสกปลุกเสกไม่เป็นไปตามนั้นเช่นปลุกขุนแผนแทน ที่จะเสกทางเสน่ห์เมตตา ก็เป็นแคล้วคลาดคงกระพันอย่างนี้เป็นต้น อาจารย์หรือพระบางองค์เก่งไม่เหมือนกันบางองค์เก่งทางเมตตา บางองค์เก่งทางคงกระพันแคล้วคลาด บางองค์เก่งหลายอย่างเป็นต้น บางทีอาจารย์บางองค์เก่งทางคงกระพัน แต่ทำของทางเสน่ห์เมตตาออกมาให้ลูกศิษย์บูชาพลังก็ไม่เป็นไปทางเสน่ห์ เมตตา แต่ออกไปทางคงกระพันตามที่ตัวเองถนัดอย่างนี้ใช้ยังไงก็ไม่ได้ผล ของแรงไม่แรง หรือของแต่ละอย่างดีอย่างไรอย่าไปดูคำโฆษณาตามที่เขาโปรโมทกันในหนังสือ เพราะที่ศักดิ์สิทธิ์จริงก็มีที่ยกกันขึ้นมาก็มี ให้ดูจากผลที่ผู้บูชาไปแล้วว่าเป็นอย่างไร

    7. ใช้ของผิดสาย เช่น ตัวเองเป็นคนบำเพ็ญบุญไปทางพระพุทธคุณไปทางมนต์ขาว แต่ดันไปใช้ของต่ำเกินไปเป็นมนต์ดำไสย์ดำ เช่น น้ำมันพราย หรือใช้พวกของสายผีสายพรายที่เป็นสายต่ำ (สายพรายมีทั้งสูงและต่ำ) ใช้ของที่ขัดแย้งกับบุญของตัวเองอย่างนี้ก็ไม่ได้ผล

    8. ไม่มีวาสนามากับของพวกนี้ ไม่มีวาสนามากับเครื่องรางของขลัง ในอดีตชาติหรือชาตินี้ไม่เคยทำบุญร่วมมากับครูบาอาจารย์ไม่เคยนับถือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยทำบุญให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือครูบาอาจารย์เลย ให้แก้ไขโดยการทำบุญถวายสังฆทาน หรือตักบาตรให้ครูบาอาจารย์และเทพเทวดาที่รักษาเครื่องรางของขลังนั้นอยู่

    9. มีกรรมกั้นขวางอยู่ ทำให้ใช้ของไม่ได้ผล ให้แก้โดยการอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร

    หาก คุณเป็นคน ๆ หนึ่งที่ใช้ของขลังไม่ได้ผล ลองสำรวจดูว่าตัวเองเป็นประเภทไหน แล้วก็แก้ไขไปตามที่แก้ไขได้ หากยังต้องการใช้เครื่องรางของต่อไป


    image.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พรุ่งนี้ส่งของนะครับ:)
     

แชร์หน้านี้

Loading...