รบกวนเช็คสมเด็จสององค์นี้ด้วยครับ

รบกวนชี้แนะด้วยนะครับตามรูป

 

เงียบกันหมดเลยครับ

 

ยังไม่แท้ครับคราบกรุทำได้ไม่เหมือนลองเอาเล็บจิกดูถ้าคราบหลุดก็เก๊บางฝีมือแม้นเอาเล็บจิกก็ไม่ระคายก็เก๊ได้เช่นกันที่สำคัญต้องหาคราบกรุแท้ๆมาส่องดูเพราะคราบกรุปลอมไม่เหมือนแน่เท่าที่พอรู้ต้องมองหามวลสารโดยเฉพาะก้อนเขื่องๆสีขาวในเนื้อพระของบางขุนพรหมจะมีน้อยมากแต่ก็มีบ้างไม่เหมือนวัดระฆังมีแทบทุกองค์(ก้อนขาวๆพวกนี้ก็ยังปลอมไม่เหมือนเช่นกัน)พวกเซียนไม่เคยบอกแม้แต่ไปเรียนยังไม่บอกเลยสอนให้ดูพิมพ์อย่างเดียวคือพาหลงทางทั้งๆที่ถ้าเนื้อใช่ส่วนมากก็จะแท้ส่วนพวกพิม์ใช่หาแท้ไม่ได้สักองค์

 

ขอบคุณครับท่าน รบกวนอีก 2 องค์ครับ

 

แล้วอยากเห็นคราบกรุแท้ครับเป็นยังไง แล้วก้อนขาวๆจำเป็นมั้ยต้องมีทุกองค์ของบางขุนพรหมผมดูองค์เซียนที่เค้าขายกันหลักล้านยังไม่เห็นมีเลยนะครับ

 

เท่าที่ทราบคราบกรุเป็นสีน้ำตาลอมดำ(อาจจะดินที่สมัยก่อนใช้ตกพระผสมน้ำมันตังอิ๊วแล้วแห้งในกรุ)คราบจะดูฉ่ำๆชื้นๆไม่แห้งกระด้างสีของคราบกรุที่ทำปลอมมักจะเป็นโทนสีเดียวกันตลอดองค์ส่วนก้อนขาวๆผมว่าให้ชัวร์มองหาไว้ก่อนดีกว่าถ้าไม่มีเนื้อพระต้องหนึกนุ่ม(ฉ่ำ)ไว้ก่อน...อย่าดูถูกพวกปลอมพระนะครับฝีมือเฉียบดูยากก็มีอย่าประมาท

 

ขอชมคราบกรุที่ว่าเป็นบุญตาหน่อยครับ อีกอย่างเซตนี้ผมได้มาตอนแม่ผมเสียท่านสะสมมาตั้งแต่ผมยังไม่ทันเกิด ก่อน 2513 ไม่ได้พึ่งมาหาเล่นตอนช่วงนี้

 

นอกจากคราบกรุองค์นี้ยังมีคราบน้ำปูนแซมมาด้วย

 

ด้านหลังผิวสีขาวเหมือนนมข้น

 

นั้นหรือครับคราบกรุที่ว่าต้องมีสีน้ำตาล มีแค่นั้นไม่จับทั้งองค์ผมว่าท่านหารูปทีพระแท้มาให้ดูดีกว่าครับ อีกอย่างผมเห็นหลังพระแล้วงงมากความเป็นธรรมชาติเพี้ยนไปจากมาตรฐานสากลเอาเป็นว่าผมรับฟังนะครับ แต่จะเชื่อหรือไม่อีกเรื่องเพราะดูแล้วยังขาดความน่าเชื่อถือในหลักวิชาการอยู่มาก แต่ก็ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ

 

ตั้งแต่ดูพระบางขุนพรหมแท้อ่านทุกตำรา พึ่งได้ยินคำนี้ละครับ หลังพระบางขุนพรหมเหมือนนมข้น

 

อันนี้แล้วแต่คนเรียกผมก็ไม่รู้ว่าเรียกอย่างไรผิวพระจะมันเงาเพราะโดนสัมผัส อันนี้อ่านจากหนังสือที่ท่าพระจันทร์ทำเขาว่ามี7เนื้ออาทิเนื้อสีขาว เนื้อสีนวลค่อนข้างขาว เนื้อสีขาวเจือสีอ่อน เนื้อสีขาวหม่น เนื้อสีขาวเหลือง เนื้อเหลืองและเนื้อขาวเจือเทาอ่อนเป็นต้น

 

ควรจะแยกกันนะครับพระได้มาจากรุเก็บเข้าเซพเกิน40ปี ไม่ได้จับไม่ได้สัมผัสเท่าไหรกับพระผ่านมือมากมาย ผิวพระแตกต่างแน่นอน

 

ผมว่าเสร็จทั้งคู่ ลงไปเที่ยววัดดู หาโบสถ์เก่าอายุสักร้อยกว่าปีขึ้นไป แล้วส่องที่ผนังโบสถ์ดู เนื้อบางขุนพรหม ก้อเป็นแบบนั้น เพราะทำมาจากปูนซีเมนต์โบราณ (ปูนขาว) ยกเว้นพระยัดกรุนะครับ

 

พระยัดกรุคืออะไรครับ ? บางขุนพรหม มีกรุใหม่ กรุเก่า เนื้อหาความเก่าแตกต่างกัน

 

พระยัดกรุ คือ พระที่เขาไม่ได้สร้าง แต่พบในบริเวณนั้น แล้วตีเป็นพระที่สร้างโดยสมเด็จสมเด็จโต ครับ อันที่จริง การสร้างพระบรรจุกรุ 84000 องค์ ในสมัยนั้น มันไม่ใช่สร้างกันง่าย ๆ นะครับ เพราะกว่าเสมียนตราด้วงจะสร้างครบ ก้อใช้เวลาหลายปีเหมือนกัน เพราะว่า พระทำจากปูน ต้องรอการเซตตัว ทำให้ต้องมายืมแม่พิมพ์ของวัดระฆังไปเพิ่ม แต่ถ้าใช้อย่างอื่นทำคิดว่า ต้องใช้วัสดุประมาณ 2 คิว ก้อถือว่าไม่ใช่น้อยในสมัยนั้น ครับ

 

องค์นี้แก่ปูน คราบกรุความแห้งตามกาลเวลา แท้แบบนี้ใช่มั้ยครับ

 

บอกตรง ๆ นะครับ การถ่ายภาพอาจได้สีเพี้ยน ผมไม่ขอตอบก้อแล้วกันครับ สำหรับพระวัดบางขุนพรหม ขึ้นจากกรุนานแล้ว และอยู่ในกรุไม่นาน คราบกรุปัจจุบันแทบจะเห็นไม่ค่อยเด่นชัดครับ ยิ่งถ้าเจ้าของทำความสะอาด จะเห็นแค่คราบดินเท่านั้น เพราะเป็นดินกับปูน เวลามองผ่านกล้องจะให้ความรู้สึกเก่าโบราณ ลองไปศึกษาดูนะครับ

 

ฟันธงมาเลยครับอย่าแทงกั๊ก รูปถ่ายก็ชัดเจนขนาดนั้นคราบกรุก็ชัดเจนมากกว่าพระที่คุณพระพันตา เอามาให้ดูอีกครับ