เราผิดมั้ย บาปรึเปล่า

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย bonuszaa118, 10 สิงหาคม 2017.

  1. bonuszaa118

    bonuszaa118 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +44
    สวัสดีค่ะ ขอใช้นามสมุตินะค่ะ เอาเป้นว่าเรียกเราว่า โบว์ นะค่ะ

    เรื่องมีอยู่ว่า เราแต่งงานกะแฟนมาประมาณ 10 ปี ซึ่งครบกันก่อน 3 ปี ทั้งๆที่ครอบครัวกีดกัน (คบมาตั้งแต่ สมัยเรียน) ตอนนั้น ฐานะครอบครัวเราถือว่าไม่ลำบาก แต่ว่าฝ่ายชาย ค่อนข้างลำบากกว่า นี้คือสาเหตุนึงที่ทางครอบครัวไม่ให้เราคบกับเค้า ยอมรับว่ารักมากค่ะ เค้าก็ช่วยเหลือเราจนเรียนจบ แต่เราก็ได้เงินจากทางบ้านด้วยนะค่ะ เค้าทำงานค่ะ ส่วนเราเรียน พอเรียนจบ ทางบ้านทราบเรื่องที่อยู่กินกัน เ ราเลยเล่าเหตุผลที่ยังคบกับเค้าอยู่ เพราะทีแรกทางบ้านไม่รู้ว่ายังคบกันอยู่ ตอนแรกเค้ากีดกันเรา แต่หลังจากพอทราบเรื่อง ทางบ้านให้แต่งงานกัน ตอนแรกเราก็อยากจะขัดค่ะ แต่เพราะเห็นแก่ครอบครัวเราจึงยอมแต่ง (ขัดเพราะ ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ด้วยกันได้มั้ยหลังจากแต่ง) ตอนอยู่กินกัน ไม่มีเรื่องให้เครียดมากมาย มีบ้างที่เค้าติดเพื่อน กินเหล้า แต่พอแต่งงาน หนักค่ะ ไม่กลับบ้าน ไม่ค่อยสนใจ ตอนนั้นเราเริ่มทำงานแล้ว ทำคนละเวลาด้วยเพราเค้าทำเกี่ยวกับโรงแรม เราทำงานออฟฟิค เวลาเลยมักไม่ตรงกัน มีทะเลอะประจำ หนักๆคือทุบตี แต่เราไม่เล่าให้ทางบ้านฟังเลย จนเรื่องที่หนักที่สุด เค้าคิดว่าเรามีชู้ ทั้งๆที่ไม่มี ตอนนั้น เราทำงานเกี่ยวกับออกบูท ขายรถ มีงานจังหวัด เราไปกับพี่ๆที่ทำงานเพราะเค้ามีรถยนต์ ช่วงนั้นหน้าฝน แล้วมีพี่อีกคนที่ทำงานด้วยกันไปด้วย คือไปกันหลายคน โดยรถยนต์คันเดียวเค้าแวะมารับที่หอพัก ซึ่งก็มีพี่อีกคน ขอเรียกเค้าว่าพี่หนึ่งแล้วกันค่ะ พี่หนึ่งได้เอารถมอเตอร์ไชค์มาจอดที่หน้าหอพักเรา แล้วพี่ที่ทำงานที่มัีรถยนต์ได้แวะมารับที่นั้น ตอนนั้นเราก็บอกเค้า ไม่มีปัญหาอะไร
    แต่เรื่องมาเกิดขึ้นหลังจากที่เราเลิกงาน ตอนนั้นประมาณ ตี 2 มีกินเหล้าอะไรกันบ้างนิดหน่อย ระหว่างอยู่ที่บูท เราไม่สามารถรับโทรศัทพ์ที่แฟนโทรมาได้ แต่เราก็โทรกลับนะ บอกว่าเลิกงานแล้วเดี๋ยวกลับพร้อมพี่ๆ เค้าไปส่ง แล้วเราก้นึกว่าเค้าจะเข้าใจ เลยไม่โทรไปอีก สิ่งที่เกิดขึ้นเค้าขับรถมาดูเราที่หอพัก เพื่อมาจับผิด คนในรถพี่ที่ทำงานยังไม่ทันไปไหน ประจวบกับจังหวะที่พี่หนึ่ง ได้ขับมอเตอร์ไซค์ ออกจากหอเราพอดี เราอยู่หน้าหอ แฟนก้อเห็นโดยบังเอิญ ทุกคนที่มาส่งอยู่ในรถก็เห็น ขับรีบขับรถออกไป จากนั้น ประมาณตี 3 แฟนบุกมาทุบตีเรา เพราะคิดว่าเรามีชู้ แล้วหน้ำซ้ำโทรไปบอกทางบ้านเราด้วย ตอนนั้นเราเจ็บมาก ตื่นเช้าต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปหาหมอเอง แล้วเรารับสภาพไม่ไหวจึงขอลาออกจากงานเพราะจะหนีกลับไปอยู่ที่บ้าน เราทำงานอยู่ในจังหวัดค่ะ ไกลจากบ้านประมาณ 60 กว่าโล หัวหน้าก็ยินยอมเพราะเห้นแล้วสงสาร (จริงๆแล้วเค้าบอกว่าไม่อยากให้ลาออก แต่เราไม่อยากอยู่เพราะอับอายมากๆ)

    กลับมาอยู่ที่บ้านเราเล่าทุกอย่างให้แม่ฟังหมดค่ะ เหมือนแม่จะเข้าใจเรานะ แต่แม่บอกว่า ทำไมไม่ลองให้โอกาสเค้าดูล่ะ คนอื่นอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ ตอนนั้นเราคิดว่าเราควรตัดใจค่ะ แต่อีกใจก็ยังรักเค้าอยู่ พอได้ยินสิ่งที่แม่พูดเราก็เชื่อค่ะ หลังจากกลับไปอยู่ที่บ้าน 3 เดือนเค้าก็ตามอยู่กับเราที่บ้านค่ะ กลับมาเริ่มคบกันใหม่ ช่วงเวลานั้นเหมือนจะดีค่ะ แต่เวรกรรมอะไรไม่รู้ หลังจากที่เค้ามาอยู่กับเราได้ประมาร 3 -4 เดือนเราดันมีลูก(คุมกำเนิดค่ะแต่พลาด เพราะลืมกินยา ปกติไม่ติดค่ะ แต่นี้มาได้ไง) ไม่คิดเอาเด็กออกแต่ก็กังวลใจมากๆเพราะตอนนั้นเราลำบากค่ะ พอรู้ตัวว่าท้องเราทำงานเป็นกะไม่ได้เลย (กลางคืนยิ่งไม่ไหว) เราเลยออกจากงานมาขายของที่บ้าน ให้เค้าทำงานเอง งานที่ทำเป็นงานบริการด้านโรงแรมค่ะ แน่นอนมันมีมีทติ้ง สังสรรค์บ่อยมากกกกก ขณะที่เราท้องเค้าก็เหมือนเดิมค่ะ กลับบ้านดึกๆดื่นๆ บ้านเรามีแต่ผู้หญิง ไม่ได้ลอคประตูหน้าบ้านด้วยเพราะ ไม่มีใครไปเปิดประตูให้หรอก กว่าจะกลับ ก็ประมาณตี 3 - 4 ได้เป็นแบบนี้ประจำทั้งๆที่จิงเค้าควรกลับมาถึงตั้งแต่ 3 ทุ่มแล้วค่ะ เราก็ทนนะค่ะ แม่เราก็รู้ดีแต่ไม่ว่าอะไร จนเราคลอดลูก คราวนี้เราเริ่มทนไม่ไหวค่ะ เราเลี้ยงลูกที่บ้านเราก็เครียดนะค่ะ เพราะเราไม่มีรายได้เลย ต้องรอเค้า จนเราตัดสินใจไปหางานทำ ตอนนั้นลูกได้ 4 เดือนค่ะ ช่วงนั้นเค้าก็ยังเป็นแบบนั้นเราเลยไล่เค้าไป เพราะเราทำงานมายังต้องมาเลี้ยงลูกอีก คือเค้าแทบไม่สนใจเลย เหนื่อยค่ะช่วงนั้น ลำบากมากๆ และแล้วเค้าก็ทิ้งเราไปจริงๆ ตอนนั้นเครียดมาก เพราะลูกยังเล็ก เงินก็ไม่ค่อยมี เค้าก็ออกไปได้ประมาณ 3 - 4 เดือนก็กลับมาใหม่ เพราะเห็นว่าสงสารลูกเราจึงยอมให้กลับมา (แต่ตอนนั้นเราไม่ได้รักเค้าแล้ว) เพราะรักลูกมากเลยยอมค่ะ แม่ก็ตามใจเราค่ะ พร้อมสนับสนุน หลังจากที่พูดคุยกันเราตัดสินใจพากันไปทำงานที่ต่างจังหวัด (ไม่ขอระบุงานนะค่ะ) ไปเก็บเงินเพื่ออนาคต เงินดีมากค่ะ ตอนนั้นลูกเราได้ 2 ขวบ เค้าเริ่มทำตัวดีขึ้น แต่เราเริ่มไม่สนใจแล้ว คิดอย่างเดียวคือเพื่อลูกและครอบครัวเท่านั้น เราไปได้ 2 ปี ตอนนี้เก็บเงินได้เยอะพอสมควร เราส่งให้แม่เดือน 9000 บาทตลอดเวลา 2 ปีเราส่งให้แม่ได้เป็น แสนๆ ตัวเราก็เก็บ ประพฤติกรรมเค้าในตอนนั้นถือว่ามีบ้างที่ละเลย มีเฮฮากะเพื่อนๆอยู่แต่เราไม่ได้สนใจเค้าแล้วค่ะ
    จากที่ทำงานมา 2 ปีเก็บงินกลับบ้าน เราเริ่มมีฐานะดีขึ้น มาทำงานใหม่ ซึ่งมาทำด้วยกัน เราเริ่มวางแผนการใช้เงิน เราเอารถกระบะออกโดยเป้นชื่อเรา (คิดว่าจะขายของ) แต่กลับมาได้งานก่อน ซึ่งอยูไกลบ้านนิดหน่อย เงินดีค่ะ มาทำทั้งคู่ ตอนนี้เค้าไม่มีเพื่อนและสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เค้าเริ่มขี้หงุดหงิด จู้จี้ จุกจิกขึ้น โมโหง่าย อาจเป้นเพราะเราทำงานคนละกะรึเปล่า และเค้าไม่ค่อยมีเพื่อนสังสรรค์จนหนักเข้าๆ เราเริ่มแสดงท่าทีว่าอึดอัด เหนื่อยกับสิ่งที่เค้าเป็นอยู่ เค้าก็พอรู้ค่ะ
    เค้าเลยบอกกับเราว่าเลิกกันเถอะถ้ามันอยู่แล้วลำบาก ซึ่งเราก็เต็มใจค่ะเพราะเริ่มไม่ไหวแล้วกับสิ่งทนมากมากมาย ตลอดเวลาบอกเลยค่ะทนเพื่อครอบครัว แล้วตัวเองไม่มีความสุขเลย
    เราเลยตัดสินใจเลิกค่ะ แต่ผลที่ได้เค้าบอกว่าพูดเพราะอารมณ์แต่เราไม่ ทุกวันนี้ครอบครัวทราบเรื่องแล้ว ที่หนักใจที่สุดคือแม่เราไม่เข้าใจเรา แม่บอกว่าทำไมไม่ทนเพื่อลูก แต่ส่วนตัวเราคิดนะค่ะว่าถ้าฝืนต่อไปเราก็ไม่มีความสุข ลูกโตมาก็รู้อยู่ดีว่าครอบครัวเป็นยังไง (พ่อแม่อยู่ด้วยกันไม่ได้) มันต่างอะไรจากการเลิกลาจะดีกว่ามั้ย เรายังให้เค้าไปเยี่ยมลูกนะค่ะ แต่เค้าไม่ไปเลย ตอนนี้ทุกคนที่บ้านมองว่าเราเป็นคนผิด เราเป็นคนสร้างเรื่องราวเอง ให้ครอบครัวแตกแยก
    เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแต่คนเห้นด้านดีๆของเค้าค่ะ ตอนนี้เครียดมากไม่อยากกลับบ้านเลย ทั้งๆที่คิดถึงลูกมาก แม่เราไม่เข้าใจเรา ไม่คุยไม่ยอมมองหน้า คือเราผิดเหรอค่ะที่เราตัดสินใจแบบนี้ เราไม่มีความสุขเลย แล้วเราจะทนได้อีกเหรอค่ะ แม่เมื่อเรากลับบ้านแกก็จะร้องไห้ เราจึงรู้สึกอึดอักแล้วไม่อยากกลับบ้านอีกเลย เราควรทำไงดีค่ะ (ผู้ชายตอนนี้ทำงานที่เดียวกัน แยกห่ช้องทำคนละกะ ไม่ช่วยเหลือเงินเลี้ยงลูกเลย สมบัติที่หามาเราแบ่งกันแล้วค่ะ แต่หนี้รถเป็นของเรา) ใครพอตอยเราได้มั้ยค่ะว่าเราทำถูกต้องมั้ย เราผิดมั้ย รึเราบาปมั้ยที่ทำให้แม่ทุกข์ใจ รบกวนนะค่ะ
     
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    การที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง จะได้รับน้ำที่ดี ดินที่ดี อากาศที่ดี แสงแดดที่ดี เลยงอกงามดี
    ไม่ได้แปลว่า หากไปปลูกในพื้นที่ ที่ไม่เหมาะสมแล้วก็ยังจะงอกงามได้ดีเหมือนเดิม
    ต่อให้ต้นไม้ต้นนั้น จะมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีเลิศแค่ไหน หากเอาไปปลูกผิดที่ยังไงก็ไปไม่รอด

    เรื่องรักมันเป็นเรื่องส่วนตัว พ่อ แม่ รักคนนี้ ไม่ได้แปลว่า เราต้องไปรัก ตามพ่อ แม่
    พ่อ แม่ เกลียดคนนี้ ไม่ได้แปลว่า เราต้องไปทำใจให้เกลียดไปด้วย ตามพ่อ แม่

    ความรักมันแปรสภาพกันได้ จากรักแบบคนรัก ก็กลายมาเป็น รักแบบ เพื่อน พี่ น้อง ญาติๆ
    หรือแบบ ศิษรักและเคารพครูบาอาจารย์ ก็ได้

    หากจะยึดถือ ให้มันแปรสภาพไม่ได้เลย รักยังไงก็ต้องรักอย่างนั้น ต้องรักในคนๆเดียวเท่านั้น
    แบบคนรักเท่านั้น ห้ามแปรสภาพไปเป็นอย่างอื่นเลย ก็เท่ากับว่า
    เราปฏิเสธคำสอน พระพุทธเจ้าว่าความรักนั้นเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    คนที่จะเริ่มมอง ความรัก เป็นแบบ ญาติ ได้นั้นต้องคลี่คลายกามตัณหาได้มาพอประมาณแล้ว
    สำหรับ คนที่ยังคลี่คลายปัญหาจาก กามตัณหา ไม่ค่อยได้ แน่นอนว่าเขานั้น เมื่อเห็น
    คนสวย คนหล่อ ย่อมจะมองไปในแง่ รักแบบคนรักหรือรักแบบคู่นอน ก่อนที่จะมองไปถึง
    ความรักในแบบที่อยู่ร่วมกันในแบบ ญาติพี่น้อง

    โดยส่วนตัวไม่ได้มองว่า คนที่เคยแต่งงานมาหลายรอบ หรือคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนมา
    จะต้องเป็นคนบาปหรือคนเลวเสมอไป เพราะความรักนั้นมันแปรสภาพกันได้ครับ

    และในทำนองเดียวกัน ใบไม้ที่ล่วงหล่นจากต้นไม้ตระกูลหนึ่ง ก็สามารถไปเป็นปัจจัย
    ให้ต้นไม้อีกตระกูลหนึ่ง ฉะนั้นเราจึงไม่สามารถสรุปได้ว่า ต้นไม้ตระกูลนี้ จะไม่มีปัจจัย
    จากต้นไม้ตระกูลอื่นเลย หากจะมองแบบไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันเลย
    ต้นไม้ทุกตระกูล ก็ญาติๆกันทั้งนั้น
     
  3. พระขรรค์เลื่อมเพชร

    พระขรรค์เลื่อมเพชร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2017
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +8
    ถ้าเป็นตามที่เล่าจริงๆก็ถูกแล้วนี่ครับ ก็อธิบายให้แม่ฟังตามจริงหมดแล้วใช่มั้ย พูดกับท่านตามจริง ส่วนผลจะเป็นยังไงก็ต้องปล่อยวาง ผมเคยเลิกกับแฟนไปแม่ก็ไม่เข้าใจแม่รักแฟนผมมากเอ็นดูเหมือนลูก(ตอนนี้ก็บ่นคิดถึงประจำ) แฟนผมก็มาเยี่ยมแม่ผมบางทีเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้ทำตามใจท่าน ไม่ไปคืนดีกับแฟน ตัดขาดไปแบบคนไม่รู้จักกันเลยแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังมีงานเกี่ยวพันธ์กันบ้าง แต่ก็ไม่ได้นำพาความรู้สึกอะไร ถ้าคุณทำตามท่านชอบมันก็ดีนะเหมือนเป็นลูกกตัญญู แต่ว่ามันทรมานตัวเองมากเกินไปจะไหวมั้ย เอาจริงๆเรารักแม่ใช่มั้ยล่ะครับ ทุกคนรักแม่แต่การตอบแทนบุณคุณท่านมันมีหลายกรณีหลายแบบ แต่นี่เรื่องนี้มันคือ คนสองคนนะครับถ้าอยู่กันโดยไม่ได้รัก มันรู้สึกอึดอัดใจเวลาเจอ มันก็ควรจะถอยห่างถูกแล้ว นี่พูดจากประสบการณ์นะครับ ไตร่ตรองดูนะครับ ใจเย็นๆ
     
  4. Tawan1990

    Tawan1990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +320
    ข้อความของคุณ
    <O> ทำให้ผมปลงและปล่อยวางได้เยอะเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...