เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    1f3f5.png 1f337.png 1f33b.png กำหนดการงานบำเพ็ญกุศลครบรอบ ๒๕ ปี แห่งการมรณภาพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน 1f33b.png 1f337.png 1f3f5.png

    1f3f5.png 1f337.png วันศุกร์ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๐ (ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑) 1f337.png 1f3f5.png

    1f337.png เวลา ๑๙.๐๐ น.พระภิกษุสงฆ์ ซ้อมสวดธัมมนิยาม และพระอภิธรรม ที่มหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร

    1f3f5.png 1f337.png วันเสาร์ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๐ (ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑) 1f337.png 1f3f5.png

    1f337.png เวลา ๐๖.๐๐ น.เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุนถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่สวนป่าไผ่
    (ถ้าหากญาติโยมท่านใดมีความประสงค์จะร่วมทำบุญเลี้ยงภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ขอให้นำปัจจัยไปร่วมทำบุญกับคณะกองทุนได้ โดยไม่ต้องนำอาหารไป)

    1f337.png เวลา ๑๑.๐๐ น.เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุนถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่สวนป่าไผ่

    1f337.png เวลา ๑๗.๓๐ น.ช่วงที่ ๑ – พระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุงสวดธัมมนิยาม
    1f33b.png - จบแล้วเจ้าภาพถวายเครื่องไทยทาน (พระสงฆ์ไม่ลงจากอาสน์สงฆ์)

    1f337.png ช่วงที่ ๒ – พระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุงสวดพระอภิธรรม ถวายกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    1f33b.png - จบแล้วเจ้าภาพถวายผ้าบังสุกุล ถวายเครื่องไทยทาน และพระภิกษุสงฆ์ให้พร(ถ้าหากญาติโยมท่านใดมีความประสงค์จะถวายผ้าบังสุกุล ให้ผาติกรรมผ้ามาถวายได้หลังจากเจ้าภาพถวายเครื่องไทยทานแล้ว)

    1f3f5.png 1f337.png 1f33b.png 1f33b.png 1f337.png 1f3f5.png 1f3f5.png 1f337.png 1f33b.png 1f33b.png 1f337.png 1f3f5.png 1f3f5.png 1f337.png 1f33b.png

    1f337.png 1f33b.png วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๐ (ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑) 1f33b.png 1f337.png

    1f337.png เวลา ๐๖.๐๐ น.เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุน ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่สวนป่าไผ่

    1f337.png เวลา ๐๘.๐๐ น.ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศลทำพิธีบวงสรวง ที่มหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร

    1f337.png เวลา ๐๘.๓๐ น.พระภิกษุสงฆ์และเจ้าหน้าที่ต้อนรับพระมหาเถรานุเถระ ที่มหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร แล้วนิมนต์เข้าพักที่ห้องรับรอง

    1f337.png เวลา ๑๐.๓๐ น.พระมหาเถรานุเถระเจริญพระพุทธมนต์

    1f337.png เวลา ๑๑.๐๐ น.ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุง และพระอาคันตุกะ ที่ด้านหลังมหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร

    1f33b.png - เมื่อพระภิกษุสงฆ์ฉันภัตตาหารเสร็จ เจ้าภาพเข้าถวายเครื่องไทยทาน ต่อจากนั้นอุทิศ-ส่วนกุศล และพระภิกษุสงฆ์ให้พร

    1f33b.png เวลา ๑๒.๓๐ น.พระมหาเถรานุเถระ กล่าวสัมโมทนียกถา ต่อจากนั้นพระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุงสวดมาติกา ถวายกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จบแล้วเจ้าภาพถวายผ้าบังสุกุล และถวายเครื่องไทยทาน (ถ้าหากญาติโยมท่านใดมีความประสงค์จะถวายผ้าบังสุกุล ให้ผาติกรรมผ้ามาถวายได้หลังจากเจ้าภาพถวายเครื่องไทยทานแล้ว)
    1f33b.png - พระภิกษุสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล อุทิศส่วนกุศล และพระภิกษุสงฆ์ให้พร เป็นเสร็จพิธี

    1f337.png กราบขอบพระคุณที่มาจาก #เพ็จมูลนิธิหลวงพ่อปาน- #พระมหาวีระถาวโร

    1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png 1f52f.png

    21752189_1250481008396973_3617114917551217111_n.jpg
    21765141_1250481461730261_8289518847929159165_n.jpg
    21616235_1250481511730256_3929111957992051019_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    แอดมินฝนมีบุญมาบอกค่ะ
    ขอเชิญทุกท่านร่วมบุญเป็นเจ้าภาพสังฆทานในถุงผ้าอย่างดีจำนวน 20 ชุด ร่วมบุญชุดละ 300 บาทหรือสามารถร่วมบุญได้ตามกำลังค่ะ ..จะนำถวายสามวัด พร้อมพระสิวลีทั้ง 3 องค์ที่ปิดบุญไปแล้ว งบสร้างพระสิวลี(105,000 บาท)..ถวาย3วัดดังนี้ค่ะ
    1.วัดศิริสุทโธ(คำชะโนด)อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
    2.ที่พักสงฆ์วัดสระแก้ว อ.เมือง จ.มุกดาหาร
    3.ที่พักสงฆ์ไฮนันดาราม บ้านดงมัย อ.เมือง จ.มุกดาหารค่ะ
    โอนธ.ไทยพาณิชย์406-337594-3 น้ำฝน บุญสิงห์
    พร้อมเพย์0915145635 โอนฟรีไม่เสียค่าบริการค่ะ

    21686313_1250582235053517_8429084080962078515_n.jpg
    21557969_1250582335053507_8587423216267567497_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    วันนี้ฝนและน้องปุ้ยได้นำเงินที่ญาติธรรมร่วมบุญมามาถวายพระเดชพระคุณหลวงปู่องค์น้อยดังนี้ค่ะ
    -ถวายงานบุญพระสิวลี3องค์จำนวน28,500บาท
    -ถวายงานบุญช่องลมเซรามิกจำนวน13,600บาท
    -ถวายปัจจัยบูชาน้ำเต้าดูดทรัพย์สำเร็จจากหยกพม่าจำนวน4,200บาท
    ขอเชิญทุกท่านอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ

    21617615_1251762821602125_4540109575910389751_n.jpg
    21616511_1251762858268788_2045777515979942221_n.jpg
    21765016_1251762911602116_5790796584870243939_n.jpg
    21751746_1251762948268779_3530026264527859793_n.jpg
    21687526_1251762968268777_5056161719327718437_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ขออนุญาตลงรูปให้พี่ๆน้องๆในเพจชมความคืบหน้าของงานบุญเจ้าภาพช่องลมเซรามิคที่ร่วมบุญมานะคะ
    วันนี้ฝนได้นำเงินที่ท่านเจ้าภาพร่วมบุญช่องลมเซรามิคจำนวน 13,600 บาทถวายเรียบร้อยแล้วและได้เก็บภาพงานก่อสร้างกำแพงแก้วรอบองค์หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์องค์ใหญ่ที่สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ สุพรรณบุรีมาฝากค่ะ…
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมบุญมานะคะสาธุค่ะ

    21616182_1251765371601870_1130337788120925675_n.jpg
    21617907_1251765394935201_7060338929080925575_n.jpg
    21762129_1251765424935198_500541170884679953_n.jpg
    21616244_1251765474935193_7092243732611972257_n.jpg
    21558854_1251765491601858_759782566050803158_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ..มาวันนี้อารมณ์เริ่มทรงตัวขึ้นมาบ้าง ก็ใช้กำลังทรงตัวได้ แต่ถ้าใช้กำลังทรงตัวแน่นไปอีกก็ไม่เห็นอะไร พอขยับจิตเคลื่อนลงมานิดหนึ่งอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ ก็เห็นท่านท้าวมหาราชนั่งอยู่ข้างๆ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ เขาเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล มีหน้าที่รักษาคุ้มครองชาวมนุษยโลก ถ้าสร้างความดีก็หาทางป้องกันช่วยเหลือ จะส่งเทวดาไปอารักขา ถ้าสร้างความชั่วก็สุดวิสัยที่จะช่วยได้ก็อดใจไว้ และก็มีหน้าที่บันทึกความดีความชั่วของคนทั้งการพูด การคิด การทำทุกอย่าง สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชอยู่กึ่งกลางเขาพระสุเมรุ คนที่ตายแล้วมาเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชได้ ต้องเคยได้ฌานสมาบัติ แต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ถ้าขณะที่ตายเข้าฌานตาย ก็จะไปเกิดเป็นพรหม ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ

    ๑) ท่านท้าวเวสสุวัณ คุมด้านทิศเหนือ
    ๒) ท่านท้าววิรุฬหก คุมด้านทิศใต้
    ๓) ท่านท้าวธตรฐ คุมด้านทิศตะวันออก
    ๔) ท่านท้าววิรูปักข์ คุมด้านทิศตะวันตก

    ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราช คุมด้านทิศเหนือ

    ……..ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ และเป็นประธานของท้าวมหาราชทั้ง ๔ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปยักษ์ จะเห็นได้ตามวัด ตามถํ้า จะมีรูปปั้นยักษ์อยู่ทางด้านหน้าทางเข้า ก่อนที่ท่านจะมาเป็นท้าวมหาราชเขตจาตุมหาราช ถอยหลังไป ๑ ชาติ ในตอนต้นเลยทีเดียวที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา มีแต่ศาสนาพราหมณ์ ท่านมีนามว่า กุเวรพราหมณ์ เป็นชื่อเดิม

    ต่อมาท่านเป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์มหานครทรงพระนามว่า “พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์” ท่านเกิดรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร ครองกรุงกบิลพัสดุ์ ซึ่งต่อมาทรงออกผนวชบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรง พระนามว่า “สมเด็จพระสมณโคดม” ท่านมีพระสหายอีก ๒ องค์คือ พระเจ้าปเสนทิโกศล ครองกรุงสาวัตถี กับท่านพันธุลเสนา รวมเป็น ๔ องค์ เป็นเพื่อนรักกันมาก ต่างคนต่างเป็นลูกกษัตริย์ สมัยนั้นไปเรียนหนังสือที่เมืองตักศิลาด้วยกัน

    ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารทรงออกมหาภิเนษกรมณ์ พระเจ้าพิมพิสารทรงคิดว่ามีเรื่องราวกับใคร จึงนิมนต์ให้เข้าประทับในเมือง จะมอบอำนาจให้ครึ่งหนึ่งและสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ให้เป็นมหาอุปราช พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า

    “ไม่ได้หนีใคร ทรงเบื่อความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องการแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากความตาย และต้องการเอาธรรมนั้นมา สอนคนอื่น”

    พระเจ้าพิมพิสารจึงบอกว่า ถ้าพระองค์ทรงบรรลุเมื่อไร ขอมาโปรดท่านก่อน พระพุทธเจ้าก็ทรงรับ เมื่อองค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ทรงสอนคนมาตามทาง จนกระทั่งถึงกรุงราชคฤห์มหานคร พบพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร ก็ทรงเทศน์ พอเทศน์จบปรากฏว่า พระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบันพร้อมกับคนจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ได้อาราธนาพระพุทธเจ้าเข้าประทับในพระเวฬุวันมหาวิหาร ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่นั้น พระเจ้าพิมพิสารไปเฝ้าทุกวัน ได้ถวายทานทุกวัน ฟังเทศน์ทุกวัน จึงมีอานิสงส์ ดังนี้ คือ

    การถวายทาน เป็นปัจจัยให้ได้ทิพยสมบัติ
    การถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร เป็นเหตุให้ได้วิมานสวยงาม
    กำลังความเป็นพระโสดาบันและทรงฌานสมาบัติด้วย เป็นเหตุให้มีกำลัง เมื่อไปเป็นเทวดาก็ทรงอำนาจมาก

    เวลาที่ท่านจะตาย ท่านถูกลูกชายคือ พระเจ้าอชาตศัตรู ทรมาน คือพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นกบฏทรยศต่อพ่อ แย่งราชสมบัติแล้วก็ทรมานพ่อ โดยจับขังคุก ต่อมาให้อดข้าว เมื่อท่านยังเดินจงกรมได้ ท่านอยู่ด้วยธรรมปีติ แม้จะอดข้าวก็ไม่ตายผิวพรรณยังผ่องใส ในที่สุดเขาก็เฉือนเท้าไม่ให้เดิน ท่านก็มีความเจ็บปวดมาก แต่จิตใจก็นึกถึงองค์สมเด็จพระจอมไตร ท่านก็มีจิตใจชุ่มชื่น ปวดน่ะปวด แต่ท่านก็ยอมรับนับถือกฎของธรรมดาว่า คนเราที่เกิดมาทุกคน แม้ฐานะจะต่างกัน แต่สภาพจริงๆ มันเหมือนกันคือ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้นเหมือนกันหมดทุกคน และก็เดินเข้าไปหาความแก่ มีทุกขเวทนา มีการทรมานจากร่างกาย และในที่สุดก็เป็นคนตาย ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ จะเป็นเศรษฐี คหบดี หรือคนยากจนก็ตาม มีสภาพเหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่างกัน

    พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์ท่านเป็นพระโสดาบันขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เวลาตายท่านออกด้วยกำลังของฌาน ๔ จะต้องไปเกิดเป็นพรหม แต่พอจิตแยกออกจากกายแล้ว ท่านมีความรู้สึกด้วยอำนาจกำลังจิตที่เป็นทิพย์ว่า ก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นพระเจ้าพิมพิสารท่านเคยเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชมาก่อน ท่านก็เลยไม่ไปอยู่พรหม มาอยู่ชั้นจาตุมหาราชที่เดิม เมื่อท่านเป็นเทวดาแล้ว ท่านก็ฝึกฝนจนเป็นพระอนาคามี และท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว

    หลวงพ่อพบท้าวเวสสุวัณเป็นครั้งแรก

    ……..ตามปกติฉันนอน 22.00 น. และตื่น 1.30 น. เป็นปกติ ทำวัตรสวดมนต์แบบย่อ ๆ พอเวลาใกล้ 2 น. ฉันก็เริ่มทำสมาธิ พอถึง 4 น. ฉันก็ดูตำรา 5 น. ฉันก็กลับทำสมาธิใหม่เพื่อรักษาอารมณ์ เวลาออกบิณฑบาตรตามแบบฉบับของพระโบราณ ปฏิปทาของพระสมัยใหม่ท่านทำกันอย่างไรฉันไม่รู้ ด้วยฉันแก่แล้ว และมานั่งเป็นฤาษีหัวล้านอยู่ในป่าห่างเมืองหลวงตั้ง 300 กม.เศษ จะรู้เรื่องของพระในเมืองหลวงได้อย่างไร

    วิธีที่เข้าฌานก่อนแล้วคลายอารมณ์มาสู่อุปจารฌานหรือปฐมฌานแล้วออกบิณฑบาตร แบบนี้ท่านเรียกว่าพระโปรดสัตว์ เพราะท่านที่ใส่บาตรมีผลมาก ได้บุญแรง มีลาภง่าย ยิ่งได้พระอริยเจ้าท่านเข้า ผลสมาบัติ คือ พิจารณาวิปัสสนาญาณก่อน เมื่อจิตสะอาดดีแล้วเข้าฌานเต็มกำลังแล้วคลายออก ทรงอยู่เพียงอุปจารฌานฌานหรือปฐมฌานอย่างนี้อานิสงส์ยิ่งมาก บุญมาก ลาภสูง ที่ท่านพอตื่นก็ร้องเพลงหรือนึกถึงคนรัก นึกถึง

    สถานหรือวิธีหากิน ซักซ้อมความคล่องเพื่อลาภสักการ อย่างนี้ท่านไม่เรียกพระโปรดสัตว์ ท่านเรียกว่าไปให้สัตว์โปรด ด้วยท่านไม่มีอะไรดีที่จะให้บรรดาท่านที่สงเคราะห์เลย นี่ว่ากันตามแบบพระโบราณไม่ทันสมัยนะ สำหรับท่านที่ทันสมัย มีลาภ มียศ มีคนสรรเสริญ มีกามสุขสมบูรณ์ ท่านอาจจะมีความเห็นไปอีกอย่างหนึ่งและทำให้พระทันสมัยขึ้น อาจจะมีผลดีกว่าที่ฉันว่าอย่างนี้ ได้ฟังแล้วอย่าถือเอาไปเป็นแบบแผนนะ ประเดี๋ยวจะหาพระครึ ๆ อย่างฉันพูดไม่ได้ เลยไม่มีโอกาสทำบุญ

    พูดเลยเรื่องไปเสียแล้วอีกกระมัง มาเข้าประเด็น คำว่าประเด็นหมายความว่าอย่างไรฉันไม่รู้เรื่อง เคยเข้าในเมืองหลวงเห็นเขาพูดกันฉันก็เลยพูดบ้าง มันเข้าท่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาแบบเก่าดีกว่านะ พูดว่าเรามาเข้าเรื่องที่ค้างไว้ดีกว่า อย่างนี้ฟังง่ายดีนะ ขณะที่หลวงพ่อท่านเชิญ พอท่านหยุดนิ่ง ฉันไม่ประสงค์องค์อื่น อยากรู้จักท้าวเวสสุวัณองค์เดียว

    เห็นช่างภาพเขาเขียนรูปท่านเป็นยักษ์ ไม่ใช่ยักยอก เป็นยักษ์มีเขี้ยวยาว มีกระบองยาวคล้ายพลองลูกเสือ ท่าทางน่ากลัว ก็เลยอยากเห็นยักษ์ ตามข่าวที่เล่าลือกัน เขาว่าท่านมีอานุภาพมาก ฉันเลยขอท่านท้าวเวสสุวัณองค์เดียว กรุณามาให้เห็นเวลา 2 น.

    ฉันก็เข้าสมาธิ เรื่องของสมาธิ เข้าเพียงหายใจเข้าไม่ทันหายใจออกก็จมเบ้า (เต็มอัตรา) คำว่าจมเบ้าเป็นภาษาเด็กเลี้ยงควาย เกรงว่าจะหายสาบสูญไปเสีย ก็เลยเอามาพูดไว้เพื่อรักษาศัพท์วัฒนธรรมเลี้ยงควาย เมื่อถึงเวลา 2 น. ตรง ฉันก็คลายออกมาสู่อุปจารสมาธิเป็นอารมณ์ที่พอจะเห็นนิมิตได้

    เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 2 นาฬิกาเพียงเป๋งแรก ทั้ง ๆ ที่หลับตา ก็มองเห็นชายคนหนึ่งนุ่งผ้าขาวห่มผ้าสไบเฉียงขาว ถือไม้พลองยาวแค่หัว เดินลิ่ว ๆ มาทางทิศเหนือ แกเดินเร็วเหลือเกิน ไม่ถึงนาทีมาถึงที่ฉันอยู่แล้ว ใจฉันบอกเลยว่าท่านผู้นี้คือท่านท้าวเวสสุวัณ ดูท่านแล้ว ท่านมายืนห่างจาก ฉันสัก 2 วา ท่านไม่มีเขี้ยว หน้าตาท่านสวย ผิวสวย ทรงงามมาก ไม่สวยตื้อต้าอย่างฉัน หัวท่านไม่ล้าน ความจริงตอนที่ฉันเห็นท่านวาระแรกหัวฉันไม่ล้าน แต่มีผมสั้นมากเพราะถูกโกน

    ดูท่านสักครู่ ท่านยืนเฉยไม่พูดอะไรเลย ชักนึกกลัวตะบองท่าน จึงออกปากเชิญ ท่านกลับบอกว่าขอบใจท่านอาจารย์ อาตมาขอชมบารมีเท่านี้ เชิญท่านกลับได้ ท่านยิ้มแล้วพูดว่า เมื่อท่านอยากเห็นผม ผมมาให้ท่านเห็นแล้ว ท่านกลัวผมทำไม (ท่านแอบรู้ใจเสียนี่ พวกเทวดานี่แย่มาก รู้แม้การนึก)

    เมื่อเห็นท่านพูดเพราะ ความจริงเสียงท่านเพราะมาก พูดจานิ่มนวลดีมาก ไม่เหมือนเสียงฉัน เสียงฉันไม่ต่างอะไรกับเสียงกะทะแตก เวลาพูดก็ไม่มีสำเนียงเพราะ ก็เรื่องของคนไกลเมืองหลวง มายาไม่ทันสมัย มันก็อย่างนั้นเอง จะดัดแปลงให้ทันสมัยหรือก็แก่จะเข้าเตาเผาเสียแล้ว ขนเอาวาจาโฮกฮากทิ้งไว้ เก็บเอาวาจาเพราะพริ้งมาใช้แทน ดีไม่ดีใครเดินมาพบวาจาโฮกฮากที่วางไว้เอาไปใช้แทน

    ถ้าอายุยังน้อยอยู่ อีกนานกว่าจะตายก็จะต้องใช้ไปอีกหลายปี เมื่อไม่มีคนชอบฟังก็จะลำบากอย่างฉัน ต้องเอาป่าเอาดงเป็นเรือนอาศัย และจะต้องตายในป่า ไม่มีเครื่องตั้ง ไม่มีเมรุประดับศพ อย่าทิ้งมันเลยพาตายไปด้วยดีกว่า เมื่อเห็นท่านพูดด้วยก็ชักมีกำลังใจ เลยชวนท่านคุย ท่านก็คุยด้วย เรื่องที่คุยก็ถามท่านว่า เมื่อช่วยหลวงพ่อได้ ช่วยฉันมั่งได้ไหม บอกท่านว่า ฉันมีสมาธิไม่ดี เวลาท่านมาขอให้เห็นง่ายๆ

    ท่านบอกว่าได้ ท่านว่าลืมตาหรือหลับตาก็ได้ จะได้เห็นสบาย ๆ
    เลยถามต่อไปว่าขอเห็นองค์อื่นและบริวารทั้งหมดด้วย องค์อื่น ๆ ท่านจะยอมไหม
    ท่านบอกว่ายอมทุกองค์ เลยบอกว่าอยากเห็นเดี๋ยวนี้ ท่านบอกว่าเขามากันครบแล้ว
    พอท่านพูดขาดคำก็เห็นครบทั้ง 4 องค์ ไม่เห็นมีเขี้ยวสักองค์ ท่านสวย ๆ ทุกองค์เมื่อท่านใจดีผีเลยเข้า ถามท่านว่า เทวดาเขามีชฎา ท่านมากันนี้ไม่เห็นมีชฏาสักองค์

    ท่านบอกว่ามาหาพระจะเอาหมวกสวมมาทำไม ท่านไม่ยักเรียกชฏา เรียกหมวก ถามท่านว่าขอเห็นภาพเต็มยศได้ไหม ท่านพูดว่าเขาไม่เรียกเต็มยศ เขาเรียกว่าเครื่องประดับเต็มอัตรา โดนท่านสอนภาษาไทยเข้าให้ ระยำจริง ๆ ท่านบอกอยากเห็นก็ได้ พอท่านพูดจบต่างก็มีเครื่องประดับแพรวพราวไม่เห็นไปแต่งตัวเปลี่ยนเครื่องเดิมที่ไหนเลย ถามท่านว่าทำไมแต่งตัวเร็วนัก ท่านบอกว่าพอนึกก็เสร็จ

    ดูของท่านมันง่ายทุกอย่างทั้ง 4 ท่าน ท่านถามว่าจำได้ไหม บอกว่าจำไม่ได้ ท่านพูดว่ามนุษย์ลืมง่าย
    ท่านกับพวกผม 4 องค์นี้เคยอยู่ร่วมกันมา วันหน้าจะเล่าให้ฟัง ท่านว่าอย่างนั้น เวลานี้สว่างมากแล้ว พระกำลังจะออกบิณฑบาตร ท่านเตรียมตัวไว้ออกบิณฑบาตร อยากฉันอะไร
    ตอบท่านว่า อยากฉันผักบุ้งต้มน้ำปลาที่เขาหั่นพริกใส่รวมกัน
    ท่านบอกว่า พอกลับถึงวัดจะมีคนเอามาให้ ถามว่าเมื่อบิณฑบาตรไม่ได้หรอกหรือ ท่านบอกว่าถือมาลำบาก เมื่อกลับถึงวัดจะมีคนนำมาให้เอง ท่านลากลับ

    ฉันก็ไปบิณฑบาต พอกลับมาวัด หลวงปานท่านเรียกเข้าไปหา
    ท่านถามว่าเมื่อคืนนี้ คุยกับท่านท้าวมหาราชสนุกไหม เรียนท่านว่าสนุก
    ท่านบอกว่าท่านท้าวมหาราชมาฟ้องว่า กลัวท่าน นึกในใจว่าเทวดานี่ปากบอนจริง แล้วก็รับกับท่านว่ากลัว

    ท่านบอกว่า ขอผักบุ้งต้มน้ำปลาใส่พริกเขาไว้หรือ เรียนท่านว่าขอรับ
    ท่านหัวเราะ แล้วหยิบถ้วยใส่ผักบุ้งต้มที่ถอนทั้งต้น ผักบุ้งอะไรแปลกจริง มันใหญ่ขนาดแขนเกือบจะลงไปได้ ยาวหลายวา ถ้วยที่ใส่เป็นถ้วยดินโบราณ โตเกือบเท่าชามกะละมัง มีน้ำปลาผสมพริก ไม่รู้ว่าพริกอะไรมันเผ็ดน่าดู แตะเข้าไปนิดเดียวน้ำหูน้ำตาไหล

    ท่านบอกว่าเก็บเอาไว้ ผักกินไม่หมดตากแดดไว้ เอาไว้ดูเป็นอนุสรณ์
    ถ้วยใบนั้นหายเสียเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ทราบว่าใครเอาไป ฉันไปอยู่เสียที่กรุงเทพฯ เพื่อเรียนภาษาบาลี ถ้าอยู่สมัยนี้ลูกหลานคงจะได้ชมของโบราณ

    เป็นอันว่าเรื่องบวงสรวงที่ท่านทั้งหลายสมัยใหม่มั่ง เก่ามั่งหาว่าครึหรือไร้ผลนั้น มันไม่แน่นักหรอกนายเอ๋ย ทำกันจริง ๆ ค้นกันจริง ๆ คงเห็นว่าไม่ไร้ผล แต่เอาผลตามที่ควรเอา อย่าหวังผลเลิศจนเกินพอดี เชิญมาขอหวย เชิญมาขอให้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ นี่ว่าตามภาษาคนเก่า สมัยนี้บรรดาศักดิ์ไม่มีแล้ว ของเก่ายังเหลือแต่ทว่าของใหม่ไม่มี หรือใครจะนึกมีเอาเองก็ไม่ทราบ

    เป็นอันว่าเรื่องบวงสรวงที่พูดมาแล้วขอผ่านไป มาพูดถึงท่านขุนด่าน ที่พวกฉันรู้จักก็เพราะเมื่อหลวงพ่อปานท่านจะสร้างวัดที่ไหน ท่านต้องบวงสรวงก่อนเสมอเพื่อขอให้ช่วย เมื่อท่านบวงสรวง พวกฉันสามลิงรวมอยู่ด้วย จึงรู้จักท่านขุนด่าน เพราะท่านขุนด่านท่านรับเชิญมาในพิธีบวงสรวงด้วย ท่านขุนด่านเป็นเทวดาชั้นอำมาตย์ของท่านท้าวเวสสุวัณ

    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้

    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักเข้าใจว่า ท่านท้าววิรุฬหกและบริวารของท่านเป็นกุมภัณฑ์ “กุมภะ” แปลว่า “หม้อ” ท่านจึงแสดงรูปร่างอ้วนใหญ่เหมือนกับพ้อมใส่ข้าว ผิวดำปี๋ พุงก็ปลิ้น คอก็สั้น หัวก็โต ฟันก็ขาว เขี้ยวก็โง้งออกจากปาก มีริมฝีปากนูนๆ ตาใหญ่มาก สว่างแวววาวเหมือนกับไฟฉาย มองส่ายไปส่ายมา ทำให้น่ากลัว แต่ความจริงท่านสวยสดงดงามมาก ท่านมาบอกอาตมาว่า

    ในสมัยเป็นมนุษย์ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ อาชีพของท่านเป็นคนมีเงินเดือน เป็นหัวหน้าคนกลุ่มใหญ่มีคนใต้บังคับบัญชานับพันคน ท่านบอกท่านเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน เคยเข้าสมาคมกับขุนนางชั้นสูงและกับคนทุกชั้น เพราะท่านมีเมตตาความรัก กรุณาความสงสาร ท่านถือว่าทุกคนฐานะไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่กำลังใจเท่านั้น นอกจากนั้นท่านมีความต้องการหนังเหนียวยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอาวุธ และสามารถแสดงฤทธิ์ ท่านมีอาจารย์เป็นพระและเป็นฆราวาสก็มี ถ้ามีความดีเป็นกรณีพิเศษ

    การทำให้หนังเหนียวต้องใช้คาถา ก่อนที่จะใช้คาถาทั้งหมด ท่านต้องมีความเคารพพระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจ เคารพในพระธรรมคำสอน และเคารพในพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ หลังจากนั้นต้องทำจิตให้มั่นคงโดยภาวนาให้จิตทรงตัว ก็คือ จิตเป็นสมาธินั่นเองถ้าจิตมีสมาธิสูง กำลังอานุภาพที่ต้องการก็จะมีอานุภาพมาก ถ้ากำลังสมาธิตํ่าของที่เรียนมาก็มีอานุภาพตํ่า การท่องคาถาอาคม การปลุกตัว การปลุกของ ต้องทำทุกวันเพื่อความมั่นคง จิตต้องเข้าถึงฌานสมาบัติแต่เวลาที่ท่านตาย ท่านไม่ได้เข้าฌานตาย

    เมื่อตายแล้วท่านไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช ต่อมาก็ขึ้นเป็น เทวดาชั้นอินทกะ (คำว่า“อินทกะ” แปลว่า “ผู้เป็นใหญ่” คือเป็นรองท่านท้าวมหาราช อินทกะนี้มีได้ทิศละพันองค์ พร้อมที่จะเป็นท้าวมหาราชได้ตามความสามารถและวาสนาบารมี ในเมื่อท่านท้าวมหาราชไปจากชั้นนี้ คือจากชั้นจาตุมหาราชไปเกิดเป็นเทวดาชั้นสูงบ้าง หรือว่าไปเป็นพรหมบ้าง หรือมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ตาม) จากอินทกะท่านก็เป็นท้าวมหาราช คือท่านท้าววิรุฬหกในปัจจุบันนี้

    ท่านท้าวธตรฐ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันออก

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ เห็นท่านท้าวมหาราชมานั่งอยู่ องค์หนึ่งมาตัวสูงเท่ายอดตาล จึงหันไปถามว่า “ใคร” ท่านท้าววิรุฬหกตอบว่า “ท่านธตรฐครับ” พอท่านเข้ามาใกล้ก็เลยถามว่า “ทำไมสูงเหมือนเปรตแบบนี้ล่ะ” ท่านตอบว่า “อย่างนี้เขาเรียกสูงแบบเทวดา ไม่ใช่สูงแบบเปรต” ถามท่านท้าวธตรฐว่า “อดีตของท่านเคยเป็นอะไรมาตอนเป็นมนุษย์” ท่านตอบว่า “อดีตผมเป็นพระราชาเมืองพาราณสีครับ” ก็เลยถามท่านว่า “เวลานั้นไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นเทวดาได้อย่างไร” ท่านตอบว่า “เทวดาหรือพรหมไม่จำเป็นต้องนับถือพระพุทธศาสนาเสมอไป พราหมณ์ก็เป็นเทวดาเป็นพรหมได้” เวลานี้ท่านเป็นพระอนาคามี เป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูง ท่านไม่กลับลงมาเกิดอีกแล้ว

    ท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันตก

    ในวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ วันเดียวกันนั้นอาตมาได้หันไปถาม ท่านวิรูปักษ์ว่า “อดีตท่านเป็นอะไร” ท่านตอบว่า “อดีตผมอยู่ปักษ์ใต้ ประเทศไทยนี่เอง เป็นผู้ชายไทย ฐานะสูงมากสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ฌานสมาบัติแต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ตายแล้วไปเป็นอินทกะเลย เมื่อท่านวิรูปักษ์องค์เก่าขึ้นไปเป็นพรหม ท่านก็ขึ้นเป็นแทน ท่านเก่งมาก

    เป็นอันว่าก็ได้ทราบประวัติของท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ แล้วว่าใครเป็นใคร ทำให้ทราบว่าการเป็นเทวดาก็ไม่หนักสำหรับพวกเรา การเป็นพรหมก็ไม่หนัก การไปพระนิพพานก็ไม่หนัก การไปนรกก็ไม่หนัก ชอบทางไหนก็ไปได้ทั้งนั้น..”

    เนื้อหา จากหนังสือ ตายแล้วไม่สูญ……แล้วไปไหน
    โดย พระราชพรหมยาน (คณิตพร รวบรวม)

    21687607_1251878531590554_1729942887220484387_n.jpg
    21686076_1251878574923883_4007373956920409615_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ

    ผู้ถาม :- “หลวงพ่อครับ ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมินี่จะทราบได้อย่างไรเขาบำเพ็ญบารมีแบบไหนครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “ตัวของเขาทราบเอง เหมือนคุณกินเกลือ คุณรู้ว่าเค็มหรือเปล่า…?”

    ผู้ถาม :- (หัวเราะ) “แล้วเหตุใดพระโพธิสัตว์บางองค์จึงลาจากพุทธภูมิครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “เพราะอยากลา นี่ตอบไม่ยาก คือภาระของพุทธภูมินี่เวลาเขาทำๆ ไป ถ้าตั้งระยะไว้ไม่ยาว พวกนี้เขาช่วยพระพุทธศาสนา เขาก็ทำกิจของพุทธภูมิเช่นกัน แต่ว่าถ้าหากจะช่วยพระพุทธศาสนา ถ้าความเข้มแข็งไม่มี มันช่วยไม่ได้ เพราะพวกนี้อารมณ์ของเขามีอย่างเดียว คือไม่ห่วงตัวเอง ถ้าตัวเองไม่มีกิน ถ้าคนอื่นกินได้ ไอ้นี่เขาพอใจ แต่พวกที่ลาจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ใกล้พระนิพพานแล้ว ถ้าไม่ใกล้เขาไม่ลา ลาแล้วไม่กี่วันก็ได้พระอรหันต์ เพราะกำลังเขาเกิน อย่างคุณเรียนเตรียมอุดม ถ้ากลับไปทำงานประเภทหลักสูตรแค่ ม.๓ คุณไม่ต้องใช้กำลังมาก ใช่ไหม…?”

    ผู้ถาม :- “ใช่ครับ”

    หลวงพ่อ :- “เหมือนกัน คนที่ปรารถนาพระโพธิญาณเรียกว่า พระโพธิสัตว์ ทีนี้พวกที่ใกล้ที่สุด อย่างเช่น ถ้าเป็นปัญญาธิกะอย่างน้อยที่สุดก็ต้องอสงไขยที่ ๔ ในกัปนั้นแหละ ท่านจะบรรลุมรรคผลหรือกัปนั้นแหละที่บารมีจะเต็ม

    สำหรับพวกที่ปรารถนาเป็นสาวกภูมินี่ใช้เวลาอย่างน้อย ๑ อสงไขยกับแสนกัป

    ส่วนอัครสาวกหรือพระปัจเจกพุทธเจ้า ต้องบำเพ็ญบารมีอย่างน้อย ๒ อสงไขยกับแสนกัป เข้าใจไหม…?”

    ผู้ถาม :- “เข้าใจครับ…หลวงพ่อครับ หลวงปู่ปานท่านก็บำเพ็ญบารมีเพื่อปรารถนาพระโพธิสัตว์ เหมือนกันใช่ไหมครับ…?”

    หลวงพ่อ :- “หลวงปู่ปานรู้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์ แต่ตอนแรกๆ ไม่รู้ว่าเต็มหรือไม่เต็ม เต็ม หมายความว่า ปรมัตถบารมีเต็ม มารู้ทีหลัง คือว่าเวลาทำบุญ ท่านเปล่งวาจาปรารถนาพระโพธิญาณ กลางที่ชุมนุมชน คือท่ามกลางสมาคม ท่านเปล่งชัดออกมาเลยว่า ผลงานนี้ ขอให้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ไม่ใช่งุบงิบๆ ถ้างุบงิบละก็ยังอีกนาน กลัวเขาจับได้”

    21751849_1252880814823659_260899736120095976_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ขอคนปิดยอดกฐินวัดเกริ่นกฐิน(หลวงพ่อเพี้ยน)จ.ลพบุรีอีก9ซองๆละ100บาทค่ะ
    โอนไทยพาณิชย์406-811801-1น้ำฝน บุญสิงห์..
    ขาดอีก9ซองครบ75ซองที่รับมาค่ะ(ยอด7,500บาท)
    #รูปภาพไม่เกี่ยวแต่ชอบ^_^

    21765026_1253048551473552_2808851522803556904_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ขาดอีกเพียง2,636บาทเท่านั้นค่ะ..เต็มแล้วจะปิดเลยนะคะ..สำหรับงานบุญท้าวมหาราชทั้งสี่ถวายเพื่อประดิษฐานที่วิหารรอบพระอุโบสถทั้งสี่ทิศที่วัดพุทธโมกพลารามจ.สกลนคร(หลวงพ่อหนุนค่ะ)..
    โอนกสิกรไทย025-1-92179-2น้ำฝน บุญสิงห์

    21616004_1253092088135865_9198247043269598213_n.jpg
    21616421_1253092101469197_2342274507921500363_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ขอเจ้าภาพกฐินสร้างอาคารปฏิบัติธรรมและศูนย์อบรมค่ายพุทธบุตรวัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี เพียง5ซองสุดท้ายค่ะร่วมบุญซองละ 100 บาทนะคะ
    โอนไทยพาณิชย ์406-811801-1 น้ำฝน บุญสิงห์..

    21766331_1253126684799072_8033739390591402837_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    จากหนังสือธัมมวิโมกข์ เดือนพฤษภาคม 2537
    ภาวนาสัมปจิตฉามิ หมาหนี
    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ทุกๆวัน ลูกจะต้องเดินเข้าซอย กลางซอยจะมีสุนัข 3-4 ตัวเป็นเจ้าถิ่นในซอย พอลูกเข้าซอยปุ๊บลูกจะท่อง ” สัมปะจิตฉามิ ” ทันที เพราะซอยมันเปลี่ยว พอลูกเดินถึงเจ้าสุนัข พวกมันจะต้องเดินหลบ และก้มหน้าเดินเลี้ยวไปทางอื่น พอลูกเดินพ้นพวกมัน ก็เห็นพวกมันก็มานอนที่เดิมเป็นอย่างนี้ทุกที อย่างนี้เป็นเพราะมันกลัวบทที่ลูกท่อง ” สัมปะจิตฉามิ ” หรือคะ ?
    หลวงพ่อ : ” สัมปะจิตฉามิ ” เป็นบทขับนี่ ขับศัตรู
    ผู้ถาม : ขับทั้งหมาทั้งคนเลยหรือครับ ?
    หลวงพ่อ : ใช่…
    ผู้ถาม : โอ..อย่างนี้ใครมาทวงหนี้ก็ ” สัมปจิตฉามิ ” ก็เปิดเลย
    หลวงพ่อ : เอาเฉพาะเจ้าหนี้นะ อย่าไปไล่ลูกค้า ” สัมปจิตฉามิ ” เป็นคาถาย้อน ใครเขากลั่นแกล้งเราก็ตาม ก็กลับไปหาคนนั้น ของพระพุทธเจ้าท่านนะ ท่านบอกที่นิวซีแลนด์ ท่านบอกคาถาบทนี้ใครจะทำอะไรก็ตาม จะย้อนกลับ ไม่เฉพาะบุคคลนั้น ทั้งกลุ่มเลยนะ

    21761852_1253274141450993_2776869055372872772_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    กำหนดการค่ะ…ท่านใดจะฝากฝนร่วมบุญในงานวันครบรอบวันมรณะภาพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานที่วัดท่าซุงในวันพรุ่งนี้โอน
    ธ.ไทยพาณิชย์4063375943 น้ำฝน
    พร้อมเพย์0915145635โอนฟรีไม่เสียค่าบริการค่ะ..
    ปิดรับคืนนี้เวลา24.00น.หลังเวลานี้อย่าโอนมานะคะ..

    21768231_1254569441321463_9063542845203743061_n.jpg
    21766325_1254569467988127_4741600377886129340_n.jpg
    21617930_1254569484654792_7012865876542754952_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ครบรอบ 25 ปีแห่งการมรณภาพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    #พ่อรักลูกทุกคน

    พ่อจำลูกของพ่อได้หมด
    พ่อรู้ว่าเราตามกันมานานแสนนาน
    พ่อรู้จักผมทุกเส้นของลูก
    พ่อรู้นิสัยของลูกทุกคน
    พ่อเตรียมทุกสิ่งไว้พร้อม เพื่อจะพาลูกของพ่อกลับบ้าน
    พ่อรู้จักเส้นทางกลับบ้านดี และพ่อเตรียมเส้นทางไว้แล้ว

    ่พ่อก็เตรียมทุกอย่างไว้ให้ลูกหมดแล้ว
    ระหว่างที่ลูกยังไม่ถึงเวลาที่จะกลับบ้าน
    หากลูกคิดถึงกายสังขารของพ่อก็ไปหาพ่อ
    พ่อจะนอนรอลูกอยู่ที่วัดท่าซุง

    อีกไม่นานเราคงได้พบกันบนพระนิพพาน
    พ่อรักลูกทุกคนเสมอกัน สังขารของพ่อมันพังไปแล้ว

    มันทนไม่ไหว ยังรออะไรอยู่ลูกกลับบ้านกันได้แล้ว
    พ่อรอลูกคนสุดท้ายอยู่นะ

    อย่ามัวหลงเดินเล่น
    วิ่งเล่นกันอยู่เดี๋ยวจะมืด พ่อก็ไม่อยู่……
    หนทางข้างหน้าลูกจะจำไม่ได้
    มันจะหลงทางนะลูก………..กลับบ้านกันเถอะ…

    21618028_1254764514635289_437438394722586573_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ถวายสังฆทานชุดใหญ่2ชุด(4,000บาท)น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานในงานบำเพ็ญกุศลครบรอบวันมรณะภาพ25ปีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อค่ะ
    ทุกท่านที่โอนเงินมาฝากฝนร่วมบุญเป็นเจ้าภาพร่วมกันนะคะ..

    21686435_1255549064556834_7591978312111382043_n.jpg
    21766676_1255549084556832_9182459051795923985_n.jpg
    21762070_1255549171223490_1011441966597692326_n.jpg
    21686441_1255549207890153_9111883066054877541_n.jpg
    21743060_1255549414556799_621292754831042227_n.jpg
    21687557_1255549474556793_4669109347685126983_n.jpg
    21762237_1255549507890123_7773759114959312619_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ถวายปัจจัยแด่ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศลจำนวน 2,000 บาทค่ะ น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานในงานบำเพ็ญกุศลครบวันมรณะภาพ 25 ปี
    ทุกท่านที่ฝากฝนร่วมบุญในวันนี้เป็นเจ้าภาพร่วมกันนะคะ

    21687696_1255556037889470_6745427742438659679_n.jpg
    21761742_1255556104556130_3795182489142223080_n.jpg
    21765360_1255556147889459_1696508756295568668_n.jpg
    21687437_1255556191222788_1305628633022303494_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    น้ำฝนและคณะญาติธรรมร่วมบุญถวายท้าวมหาราชทั้งสี่ประดิษฐานที่วิหารพระอุโบสถวัดพุทธโมกพลาราม จ.สกลนคร จำนวน 15,000 บาทและร่วมบุญวิหารท้าวมหาราชอีกจำนวน 10,300 บาทค่ะ
    ทุกๆท่านที่ร่วมบุญมาเป็นเจ้าภาพด้วยกันนะคะ
    ขอเชิญอนุโมทนาบุญนี้ด้วยกันค่ะ

    19598548_1255632617881812_8478001957650694024_n.jpg
    21761915_1255632667881807_9053472335592191494_n.jpg
    21765056_1255632704548470_2501894815274618846_n.jpg
    21766764_1255632737881800_5482791481288164266_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    การเป็นพระโสดาบัน เป็นของไม่ยาก
    โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 4 หน้า 23

    อันดับแรก ขอบรรดาญาติโยมเข้าใจในสังโยชน์ ๑๐ ประการ
    คำว่า สังโยชน์ หมายถึง กิเลสที่เป็นเครื่องร้อยรัดใจ ให้ต้องเวียน
    ว่ายตายเกิดในวัฏฏะ อย่างไรก็ต้องค่อย ๆ ตัด ตัดทีละน้อย และก็ตัด
    บ่อย ๆ ตัดไว้เสมอ ๆ อันดับแรกมันก็จะลืมบ้าง เผลอบ้าง เป็นของธรรมดา
    สำหรับพระโสดาบัน กับพระสกิทาคามี ตัดสังโยชน์ได้ ๓ ข้อ คือ
    ๑. สักกายทิฏฐิ
    ๒. วิจิกิจฉา
    ๓.สีลัพพตปรามาส
    รู้เรื่องไหม ฟังรู้แต่เรื่องไม่รู้
    สักกายทิฏฐิ นี่เขาตัดร่างกาย คือต้องตัดตามพระบาลีที่พระพุทธเจ้า
    ทรงตรัสว่า พระโสดาบันก็ดี พระสกิทาคามีก็ดี มีสมาธิเล็กน้อย มีปัญญา
    เล็กน้อย แต่มีศีลบริสุทธิ์ ต้องจำข้อนี้ให้ดีนะ ไม่ใช่ว่าจะต้องมีสมาธิหนักแน่น
    เกินไป และปัญญาก็ไม่ต้องสูงเกินไป แต่มีศีลบริสุทธิ์ เพราะว่า พระโสดาบัน
    พระสกิทาคามี นี่ยังเป็นผู้ครองเรือนอยู่ ถ้ามีสามีภรรยาแล้วก็ดี ก็อยู่ด้วยกัน
    ตามปกติ คนที่ยังไม่มีสามีภรรยาก็ยังแต่งงานได้ ก็มีแค่ศีล ๕ สำหรับ
    พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ก็เหมือนกันนะ
    หนึ่ง มีความรู้สึกว่า ชีวิตนี้ก็ต้องตาย นี้เป็น สักกายทิฏฐิ
    ประการที่สอง มีความเคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์แน่นอน
    ไม่สงสัย
    ประการที่สาม มีศีล ๕ บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักปฏิบัติ ถ้าจะเข้าถึง
    พระโสดาบัน จะมีจิตใจรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ คือต้องการจุดเดียวคือ
    พระนิพพาน อย่างนี้จะเป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามีได้ทั้งสองอย่าง

    21764744_1255836321194775_6910468789069288944_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทรงฌาณขณะหลับจะดีมาก..
    โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 2 หน้า 11

    จงทราบว่า ขณะที่ภาวนาอยู่ ถ้าจิตไม่เข้าถึงฌานสมาบัติจะหลับไม่ได้เลย
    ถ้าภาวนาไปๆนานเกินไปมันหลับไม่ลงก็เลิก ปล่อยจิตคิดไปตามอารมณ์
    ช่างมัน มันจะไปไหนก็ช่างมัน เดี๋ยวมันก็หลับ
    ถ้าเผอิญเราภาวนาไป เราก็คิดว่าจะภาวนาสัก ๑๐ – ๒๐ – ๓๐ หรือ ๑๐๘ ก็ตาม ถ้าภาวนาไปครั้งสองครั้งสามครั้ง มันจะหลับต้องปล่อยเลย
    จงทราบว่า ถ้าเริ่มภาวนาพอจิตจะเคลิ้มหลับ ตอนที่จิตจะเคลิ้มหลับ
    เป็นอุปจารสมาธิ ถ้าอุปจารสมาธิละเอียด ถ้าจิตเข้าถึงปฐมฌานจะตัดหลับทันที
    ถ้าเป็นได้อย่างนี้ก็ควรจะภูมิใจมาก
    สมมุติว่า ถ้าภาวนา พุทโธ หรือ นะ มะ พะ ธะ พอนึกว่า พุท ไม่ทัน โธ หลับ นะ ไม่ทันพะ หลับ เอ ชักยุ่งแล้ว แต่ความจริงควรจะภูมิใจว่า ดี
    นี่แหละจิตเข้าถึงฌานเร็ว เพราะการฝึกสมาธิ เราต้องการให้จิตเข้าถึงฌานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
    อย่าไปนึกว่าขี้เกียจเสียแล้วนะ คงไม่เป็นเรื่อง
    ไม่ใช่อย่างนั้นนะมันเป็นผลดี
    คือ พุท ไม่ทัน โธ หลับ แสดงว่าพอ พุท จิตเข้าถึงปฐมฌานก็ตัดหลับ นี่พระพุทธเจ้าต้องการแบบนี้
    ถ้า นะ ไม่ทัน พะ หลับ อันนี้จิตเข้าถึงฌาน
    อย่างนี้ต้องการมาก และขณะที่กำลังหลับเพราะฌานสมาบัติ
    อย่างนี้ต้องทราบเลยว่า หลับเพราะสมาบัติ ขณะที่หลับอยู่ ท่านถือว่าเป็นการทรงฌานตลอดเวลา จนกว่าจะตื่น ถ้าขณะที่ท่านภาวนาแล้วหลับโดยจิตท่านไม่ตั้งอยู่ที่นิพพาน
    ถ้าตายเวลาหลับไปพรหมโลกทันที
    เพราะคนที่ตายขณะทรงฌานอยู่ไปพรหมโลก

    22008129_1255928861185521_6759845355886279790_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...