หน้า 4 #69 เรซิ่นที่ไม่เหลืองถึง 25 ปี

วันนี้ผมดู youtube มีรายการโทรทัศน์ของจีนแผ่นดินใหญ่รายการหนึ่ง ชื่อว่า dream chaina ปี 2015 หรือ 2016 จำไม่ได้แล้วว่าของเดือนอะไร คนที่มาออกรายการคืออาจารย์สอนวิชาเปลี่ยนหน้า ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นอาจารย์ระดับชาติของจีน และเป็นอาจารย์ของหลิวเต๋อหัวด้วย อาจารย์เล่าถึงตอนที่หลิวเต๋อหัวมาขอเป็นลูกศิษย์และตนยอมรับหลิวเต๋อหัวเป็นลูกศิษย์

ผมมานึกถึงตอนนี้ ที่ผมเองยังหาลูกศิษย์ไม่ได้ เพราะวิชานี้เรียนไม่ยากแต่ใช้เวลาที่จะต้องประสบการณ์อันยาวนานนับสิบหรือหลายสิบปีจึงจะรู้เคล็ดลับหรือเทคนิค ซึ่งผมคิดว่า เราบอกเคล็ดลับหรือเทคนิคไปเลย ไม่ควรหวงเอาไว้ เพราะคนที่เขาจะเกิดในวิชานี้จะได้เกิด ไม่เช่นนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องยาก และประเทศไทยจะได้เกิดหรือ หากเรายังคงหวงวิชากันอยู่

ผมเลยเอารูปอาจารย์วิชาเปลี่ยนหน้ารับศิษย์หลิวเต๋อหัวมาลงครับ คิดว่า เรารับลูกศิษย์แล้ว คนในอนาคตที่จะก้าวเข้ามาในวิชาสร้างชิ้นงานแก้วที่เข้ามาอ่านนี้ ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของเราในอนาคต

 

หนึ่งในของขวัญที่ชาวจีนถือว่า มีคุณค่ามากที่สุด คือชิ้นงานแก้วคริสตัลที่ชาวจีนเรียกว่า " หลิวหลี่ " คือแก้วคริสตัลชนิด Pate de verer ที่ฝรั่งเศสบอกว่า เขาคือต้นกำเนิดในยุคไม่เกิน 300 ปีหลังนี้ คือประมาณปี ค.ศ. 1700 - 2000 แม้แต่ช่างแก้วชาวจีนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปินของชาติชื่อ หยางหุ้ยซานก็ใช้เวลาถึง 19 ปีไปเรียนวิชานี้ทั้งจากอเมริกาและยุโรป

ทั้ง ๆ ที่วิชาหลิวหลี่นั้น เดิมเมื่อไม่ต่ำกว่า 6,000 ปีก่อนมีต้นกำเนิดในจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วขาดสูญเนื่องจากการหวงวิชาของคนจีน ที่หวงวิชามากเกินไป

ผมจึงคิดว่า เวลานี้ยังไม่มีคนสืบต่อวิชานี้ในไทย ผมก็เขียนทิ้งเอาไว้ ใครที่มีบุญย่อมมาสืบต่อได้อย่างง่ายดาย เพราะเปิดเผยโดยใช้เอกสารของจริง ทำได้โดยไม่ต้องมาทดสอบทดลองกันอีกนับร้อย ๆ ปี สามารถยึดที่ผมบอกเล่านี้ แล้วทำได้ทันที

 

คราวนี้สมมุติว่า เอาละ เราคิดว่าเราจะใช้สูตรนี้กันละนะ สูตรการอบลดอุณหภูมิองค์พระแก้วหน้าตักประมาณ 1 เมตรที่เราคิดว่า มีความหนาประมาณที่ 10 นิ้ว ( ซึ่งความจริงยังอาจมีอีกหลายปางที่มีความหนามากกว่า 10 นิ้ว ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัด ๆ เช่นปางห่มจีวรหน้าหนาวของพระแก้วมรกต จะมีความหนาเพิ่มอีกมาก )

ก่อนอื่นเราต้องหาคนเฝ้าเตาอบให้ได้ก่อน ช่างแก้วที่สามารถเฝ้าเตาอบลดอุณหภูมินี้ ถือว่าเป็นช่างแก้วที่มีฝีมือทีเดียว นับว่าเป็นพระเอกของงานคนหนึ่ง ลูกน้องช่างแก้วของผมในปัจจุบันคือในปี พ.ศ. 2560 ที่ยังทำหน้าที่เฝ้าเตาอบลดอุณหภูมิอยู่ในทุกวันนี้ ผ่านประสบการณ์มานานปี และสามารถแก้ไขสถานการณ์จากร้ายให้กลับมาดีได้แทบทุกสถานการณ์ ขณะนี้เงินเดือนอยู่ที่ 40,000.- บาท พร้อมกับเราต้องมีห้องพักติดแอร์ให้เขานอนให้อยู่ใกล้ไซ้ด์งานมากที่สุด สามารถตามตัวได้ภายใน 5 นาที และเรายังต้องบริการอาหารการกินให้เขาเต็มที่เนื่องจากช่างเฝ้าเตาอบนี้ ไปไหนแทบไม่ได้เลย ต้องอยู่ติดไซ้ด์งานตลอด

เราต้องใช้ช่างเฝ้าเตาอบกะละ 2 คน คนหนึ่งมักจะเก่งกว่าอีกคนหนึ่ง เงินเดือนขณะนี้ประมาณ 40,000.- บาท สวัสดิการทุกอย่างต่างหากนะครับ และอีกคนเก่งน้อยกว่า เงินเดือนขณะนี้ประมาณ 30,000.- บาท กะละ 70,000.- บาท 2 กะก็เดือนละ 140,000.- บาท ค่าสวัสดิการทุกอย่างก็จะประมาณอีกประมาณ 50,000.- บาท รวมแล้วค่าใช้จ่ายในการเฝ้าเตาอบลดอุณหภูมิองค์พระแก้วหน้าตักประมาณ 1 เมตรจะอยู่ที่เดือนละประมาณ 200,000.- บาท

ถ้าตามตารางการอบนี้ เมื่อบวกกับตอนต้นที่ต้องมีการหลอมละลายแก้วก่อน และยังมีช่วงการอบลดที่อุณหภูมิสูงเข้าเกี่ยวข้องด้วย ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เฉพาะค่าแรงช่างเฝ้าเตาอบก็ตกเข้าไป 400,000.- บาทแล้วนะครับ

 

คำถามที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างเจ้าของโรงงานแก้วหลาย ๆ แห่งก็คือ ถ้าเขาไม่ใช้ช่างเฝ้าเตาอบลดอุณหภูมินี้จะได้ไหม ? จะได้ลดต้นทุน คำตอบก็คือ ถ้าสินค้าของท่านเป็นแบบที่เรียกว่า " อยู่ตัว " แล้ว คือท่านทำมาทุกวันมันอยู่ตัวหมด ไม่มีอะไรต้องให้แก้ไขสถานการณ์เลย ท่านก็ไม่ต้องใช้ช่างเฝ้าเตาอบก็ได้ ( แต่ผมมักเห็นว่า โรงงานที่เขาบอกว่า เขาไม่ใช้ช่างเฝ้าเตาอบ ก็ยังมีการจ้างลูกมือมาคอยเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง โดยผลัดกะละ 1 คน หากมีปัญหาให้ตามตัวหัวหน้าช่างเฝ้าเตาอบด่วน ซึ่งต้องอยู่บริเวณไซ้ด์งาน แต่ให้เขานอนพักเต็มที่ เมื่อเกิดปัญหาต้องมาให้ทันภายใน 5 นาที )

แล้วก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ท่านจะอบด้วยว่า ถ้าเป็นสินค้าธรรมดา ๆ ก็ลดความสำคัญลง แต่ถ้าเป็นพระแก้วหน้าตักประมาณ 1 เมตร ที่ต้องลงทุนกันมากมายก่ายกอง ถ้าเป็นผม ผมจะไม่สงสัยในจุดนี้เลยว่า ต้องใช้ช่างเฝ้าเตาอบที่มีคุณภาพสูงทั้งทีมตลอดการอบครับ

 

คราวนี้ลองมาดูงานช่างเฝ้าเตาอบลดอุณหภูมิชิ้นงานแก้วสำคัญในฝรั่งเศสนะครับ ( ผมเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศส ) ก็เลยพูดถึงแต่ฝรั่งเศส เพราะเขาเป็นต้นกำเนิดของงานแก้วในยุคนี้และถอยหลังไปถึง 200 - 300 ปี

ค่าจ้างช่างเฝ้าเตาอบลดอุณหภูมิของเขาก็เพียงแต่เติม 0 ไปอีก 1 หลัก แต่ที่นั่นเขาทำงานกันวันละ 8 ชั่วโมงเท่ากับ 1 กะ เพราะฉะนั้น เราต้องคำนวนจากของไทย 2 กะ เป็น 3 กะ จากถ้าสร้างพระแก้วองค์นี้ในไทย เราจ่ายค่าช่างเฝ้าเตารวม 400,000.- บาทนั้น ถ้าใช้ช่างฝรั่งเศสก็ตก 6,000,000.- บาท ( หกล้านบาทถ้วน )

 

ข้อต้องระวังในการอบลดอุณหภูมิตามตารางเวลาด้านบนนี้ มีข้อต้องระวังเกี่ยวกับตารางการอบลดอุณหภูมิด้านบนนี้ คือเนื้อแก้วจะต้องเป็นชนิดที่เนื้อแก้วมีตะกั่วผสมอยู่ในอัตราไม่เกิน 20% PbO ซึ่งแม้แต่แก้วชนิดนี้ ในหลักสากลก็เรียกว่า แก้วคริสตัลแล้ว หากแต่ในปี ค.ศ. 2017 นี้ หลายประเทศทั่วโลกถือว่า แก้วที่มีอัตราตะกั่วอ๊อกไซด์ต่ำกว่า 24% PbO นั้น เขาถือว่าเป็นแก้วรุ่นเดิม

แต่ในความคิดเห็นของผมนั้น ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดของแก้วให้ตรงกับงานมากกว่า นี่ข้อหนึ่งละนะ

อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของสี ในการอบหรือในตารางการอบที่ช่างแก้วได้ทำไว้ใช้นี้ ส่วนมากหมายถึงแก้วสีใสปกตินะครับ สีที่ยากต่อการอบลดอุณหภูมิยังมีอีกหลายสี เช่น สีเหลือง สีเหลืองอำพัน สีทอง สีชมพู สีแดง และสีอื่น ๆ อีกมาก รวมถึงสีพิเศษที่มีส่วนประกอบของธาตุหรือสารต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่จะต้องใช้ตารางการอบพิเศษเฉพาะด้านด้วย

 

ในอดีตกาลนานมากแล้ว ช่างเฝ้าเตาอบแก้วชนิดแก้วหนา หรืออีกชื่อหนึ่งเราเรียกว่า ช่างเฝ้าเตาอุโมงค์แก้ว ต้องฝึกฝนด้วยความฉลาด และมีไหวพริบปฏิภาณดีกว่าช่างแก้วอื่น ๆ และด้วยความที่เหนือกว่าคนอื่นทั้งด้านสมองและด้านร่างกายที่ต้องแข็งแรงกว่าในเข้าแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายได้ภายใน 5 นาทีโดยแทบไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ เลย บางคนต้องใช้เวลาฝึกนานถึง 5 ปี และหลายรายที่กว่าจะเป็นที่ยอมรับของช่างแก้วต้องใช้เวลามากกว่า 20 ปี

แต่ปัจจุบันนี้ เราสอนกันแบบถ่ายทอดและต่อยอดกันเลย จึงใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 ปีก็เก่งพอสมควรแล้ว หากแต่ประสบการณ์จะเท่ากับคนที่ผ่านมา 20 กว่าปีนั้น คงเป็นไปไม่ได้ และมีบางแห่งเลือกใช้เฉพาะช่างแก้วที่มีประสบการณ์มากกว่า 35 ปีก็มี เนื่องจากจะป้องกันการสูญเสียอันไม่พึงประสงค์ได้เกือบ 100%

 

ในภาพนี้คือการอบลดอุณหภูมิโคมไฟแก้วที่มีความหนาเพียงไม่กี่มิลลิเมตร เป็นเตาอบตู้เล็กมาก ซึ่งช่างแก้วอย่างพวกผมไม่ค่อยถนัด เนื่องจากเราทำงานกันวันละ 2 - 4 ตันเศษ น้ำหนักแก้วนับเป็นตันหรือหลาย ๆ พันกิโลกรัมต่อวัน ดังนั้น งานเตาอบเล็กขนาดนี้ พวกผมไม่ค่อยได้เคยจับ เพราะมันเล็กน้อยเกินไป

 

ลักษณะการทำงานหลอมแก้วเมื่อประมาณ 200 ปีที่ผ่านมาในยุโรป

เบ้าหลอมแก้วคริสตัลในยุโรป เบ้าละจุน้ำแก้วสุกได้ประมาณเกือบ 1 ตัน หรือ 1 ตันเศษ ๆ แล้วแต่ช่างปั้นเบ้าจะปั้น


ในอดีตกาลนานมากแล้ว เราต้องใช้ช่างเฝ้าเตากะกลางคืนในการบำรุงเบ้าหลอมแก้ว กะละไม่ต่ำกว่า 6 คน แต่ปัจจุบันเราย้ายงานบำรุงเบ้ามาเป็นกะกลางวัน และปล่อยให้กะกลางคืนเฉพาะงานเฝ้าเตาอบลดอุณหภูมิเท่านั้น

 

เตาอบลดอุณหภูมิในภาพนี้ เป็นการอบงานเหล็ก ซึ่งใช้ความร้อนต่ำกว่างานแก้ว เพราะงานแก้วนั้น ในเตานี้ต้องทำความร้อนสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 1,480 C ตามมาตราฐานเราเรียกว่าเตาประเภทต่ำกว่า 1,600 C ซึ่งต้องควบคุมอุณหภูมิไม่ให้รั่วไหลได้ในอัตรา +- 0.5 C เป็นอย่างน้อย ( นี่คือแบบไม่เคร่งครัดแล้ว ) ถ้าใช้เตาเคร่งครัดสูงจะหนักกว่านี้ ซึ่งน่าจะไม่มีใครกล้าลงทุนในไทย

 

ถ้าถามผมว่า แล้วช่างแก้วที่ต้องการทำงานที่มีคุณค่าสูงอย่างการสร้างพระแก้วนั้น อยากได้เตาอบแบบไหน ? ในภาพนี้เป็นเตาอบขนาดเล็ก หากนำมาสร้างพระแก้วก็คงได้ไม่เกินหน้าตัก 12 นิ้ว ราคาไม่ต้องพูดถึงนะครับ ยังไม่มีคนไทยคนไหนกล้าคิดถึง

 

พระแก้วองค์นี้หน้าตักประมาณ 9 นิ้ว หลอมจากแก้วคริสตัลตัน ๆ องค์บรมครูที่น้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าพระธรรมและพระสงฆ์โดยมีหลวงปู่สรวง สิริปุญโญเป็นสงฆ์รับไว้แล้ว

ผมทำงานน้อมถวายพระพุทธศาสนา ไม่ทำเพื่อการพาณิชย์ ไม่ทำการค้า ทำด้วยใจครับ

 

พระแก้วองค์นี้หน้าตักประมาณ 9 นิ้ว สร้างด้วยวิธีเป่าแก้วด้วยปอด สร้างสำเร็จเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ชาติไทย และไม่มีใครสร้างได้อีกเลย น้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนาแล้ว ในภาพหลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโปเป็นสงฆ์รับไว้ในพระพุทธศาสนา

 

ทั้งสองปางนี้ผมสร้างน้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนาแล้ว อย่างกลวงเป่าแก้วด้วยปอด 500 องค์ อย่างตันหลอมจากแก้วคริสตัลตันสร้างไว้ประมาณ 10 องค์ + - ทั้งหมดน้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ

ปัจจุบันประเมินค่ามิได้แล้ว

 

พระเทพโกศล อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ได้ให้คณะสงฆ์ 5 รูปลงมารับพระแก้วคริสตัลตันหน้าตัก 9 นิ้วที่ผมขอน้อมถวายไว้ประดิษฐานที่วัดศรีโสดา เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของประเทศไทยจุดหนึ่ง ใกล้ดอยอินทนนท์ ไว้ในพระพุทธศาสนา

ผมไม่เคยเก็บไว้แม้แต่องค์เดียว มีเท่าใดน้อมถวายทั้งหมด

 

คราวนี้มาพูดถึง แก้วคริสตัลที่จะนำมาหลอมละลายให้กลายเป็นน้ำแก้วสุก ผมสนับสนุนก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากนิวซีแลนด์ยี่ห้อก๊าฟเว่อร์ ซึ่งเขามีความชำนาญในการทำก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ และขายส่งออกทั่วโลก มีส่วนแบ่งการตลาดนับเป็นจำนวนรายแล้ว มีจำนวนรายมาก อยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก นั่นหมายความว่าอะไร หมายความว่า ช่างแก้วทั่วโลกเลิกหลอมแก้วด้วยตนเองแล้วเกือบจะทั้งหมด ยังเหลือที่เขาหลอมแก้วเองได้อยู่ไม่กี่แห่งในยุโรป เช่น ในฝรั่งเศส อย่างลาลีค อย่างบัคคาฮ่า เป็นต้น นอกนั้นเขาไม่อยากเป็นนักหลอมแก้วกัน เพราะต้องทดสอบทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า นับร้อยนับพันครั้งจึงจะมั่นใจในสูตรผสมแก้วของแต่ละสูตร

ราคาส่งออกยังไม่รวมภาษี ค่าขนส่ง คือต่ำสุดกิโลกรัมละ 17.80 US ( ประมาณ ก.ก. ละ 700.- บาท ) + ค่าขนส่ง + ค่าภาษีนำเข้า ในไทยคงประมาณ 40% ของราคา C.I.F. C=สินค้า I=ค่าประกันภัย F=ค่าขนส่ง นำทั้งหมดมาคูณอัตราภาษีนำเข้าประมาณ 40% = ก.ก. ละ 400.- บาท ตกประมาณ ก.ก. ละ 1,100.- บาท และสูงสุดคือสีพิเศษ สีเหลือง อะไรประมาณนั้น เมื่อเฉลี่ยแล้วจะตกประมาณ ก.ก. ละ 1,450.- บาท

เอาน้ำหนักองค์พระจริง คูณด้วยน้ำหนักทับชัด คือต้องมีน้ำหนักของแก้วส่วนเกินไว้ทับให้เกิดความชัดเจนของลายอีกไม่น้อยกว่า 20% หมายความว่า หากน้ำหนักองค์พระจริงหนัก 1 ก.ก. ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อเราต้องเตรียมไว้ไม่ต่ำกว่า 1.2 ก.ก.