เห็นความจริงเพื่อละ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แค่พลัง, 21 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ฐีติภูติ หรือ ฐีติจิต ไม่ใช่ปัจจุบันครับ
    แต่ที่ท่านกล่าวกันอย่างนั้นหมายถึง
    ผู้ที่จะเข้าถึงได้นั้นจะสิ้นสงสัยเองถ้าปฏิบัติถึงปัจจุบันจิต ปัจจุบันธรรม
    เป็นการเพิกสัญญาอารมณ์ไม่ให้ผู้ปฏิบัติไปคาดคะเนหวังผลครับ

    ส่วนบทธรรมที่คุณkennyสงสัยนั้น
    ไม่มีอะไรครับ
    ปฏิบัติถึงไหน บทธรรมนั้นจะปรากฏขึ้นมาให้เทียบเคียงเองทันทีครับ
    นี่คือความมหัศจรรย์ของพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
    และพระปัญญาคุณของพระพุทธองค์
     
  2. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ขอบพระคุณคับและคงรบกวนพี่เพียงเท่านี้...ผมคงไม่มีอะไรหรือแม้จะอนุโมทนาก็คงได้เป็นบุญของผมเท่านั้น...นี่เป็นเรื่องนึงในแง่ฆราวาสมีสิทธิ์ไหมแต่ที่ทราบมีแน่และมีจริง...จากวัตถุประสงค์ที่พี่ทำเพียงเพื่อเผื่อแผ่แต่ทำจริงคงทำได้โดยไม่หวังอะไร...กรรมล้วนกำหนด...ผ่านแล้ว...ก็ยังมีแต่มีก็เบาบางมาก...เพราะจิตไม่กังวล...ถือว่า...เป็นเรื่องดี...พี่ก็ดีแล้วไปดีแล้วคงไม่ต้องกล่าวอะไร...ขอบพระคุณอีกครั้งคับ
     
  3. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ลุงผ่านมาเฉยๆก็แนวเดียวกันคับ...กี่ชาติอย่าไปคิด...เจ็ดวันได้ก็เอาถ้าถึงพร้อม...ถ้าไม่ก็ไม่นาน...อย่างมากถ้าเข้าใจจริงคงรับผลกรรมกันไม่นาน...อย่าไปใส่ใจกับเวลาเพราะว่าเรารู้ว่ามีเวลาเพราะสมมุติบัญญัติ...แต่หนึ่งชาติของมนุษย์นี้ดูเหมือนนานแต่ไม่ต่างกับสัตว์ทั่วไปเพราะกลไกความเปลี่ยนแปลงมีผล...น่าจะไม่นานเช่นกันคับ...ขออนุโมทนาและขอบพระคุณที่ช่วยทำจุดเล็กๆในพระธรรมให้มีค่าต่อคนอื่นแม้จะไม่มากแต่ก็ได้ทำ...ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย...พระอริยะบุคคลต่างๆก็ล้วนปวารณาตนไว้แบบนี้ทั้งหมดทั้งสิ้น
     
  4. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    หากการกล่าวอะไรของผมทำให้เกิดอกุศลจิตต่อผู้ใดขออภัยไว้ด้วยนะคับ..ผมชอบชื่นชมตามภาษามนุษย์มิได้ใช้อภิสิทธิ์ใดไปชี้ว่าท่านเหล่านั้นเป็นใครอยู่ที่ใดและทำอะไร...มีแต่พระศาสดาเท่านั้นหรือพระอริยะเจ้าที่มีบารมีสั่งสมก่อนละโพธิญาณจึงจะกล่าวซึ่งพระอริยะเจ้าจะไม่กล่าวพร่ำเพื่อเพราะผู้ผู้ที่มีอุนิสัยปัจจัยที่ท่านกล่าวนั้นล้วนสร้างกุศลร่วมบุญกับท่านตั้งแต่แรกจนถึงวันนิพพานเพียงเท่านั้นผมไม่เกี่ยวผมชอบในการกล่าวและอธิบาย...คล้ายจริงๆ...เรื่องหงายและคว่ำ...ของธรรม...
     
  5. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ฐีติภูตัง ถ้าจะแปลว่ารู้ตามความเป็นจริงจริงๆ จะได้ไหม เพราะปกติเราไม่ค่อยรู้กันตามความเป็นจริง และไม่ค่อยรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการรับรู้ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่มีตัวตนเราเขาเข้าไปแทรกตามความเป็นจริง เมื่อใดที่รู้จักฐีติภูตังได้ ก็คือเริ่มจะมีปัญญาที่เป็นสัมมาทิฏฐิ เห็นปัญหาตรงประเด็น และภาวะการเรียนรู้เรื่องนี้จะค่อยๆชัดเจนขึ้นๆ เมื่อมีปรากฏการณ์รู้พ้นสมมุติจริงๆเกิดขึ้น ทำให้แยกได้ว่าอะไรคือสมมุติ พ้นสมมุติ อะไรคือโลกียธรรม โลกุตรธรรม อะไรคือสังสารวัฏ กิเลส ตัณหา อุปาทาน ความเห็นผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2018
  6. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ฐีติภูตัง เป็นวิสังขาร ไม่ใช่สังขาร คำนี้อทิบายได้ตรงดี คนที่เห็นตรงนี้จะรู้เลยว่ารู้ไม่เป็นตัวเราชัดเจน ตรงส่วนนี้ล่ะนอกขันธ์ จะเห็นชัดว่าขันธ์ไม่ใช่เราไม่เป็นเรา คนที่เห็นก้จะละสักกายทิฐิลงตรงนี้แต่ไม่ใช่ว่าจบกิจ แต่จะพอเห็นนิพพานได้ เห็นสิ่งสิ่งที่นอกขันธ์ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2018
  7. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ไอ้ที่รุ้เฉยๆว่านี่วิญญานรู้นี่สังขารคิดนี่สัญญาจำ นี่สังขารปรุงแล้วนี่เพราะมีสัญญาชี้ช่อง วิญญานรับรู้ด้วยมโนทวารบ้าง แล้ววางเฉยเพิกเฉยปล่อยไปไม่คิดไม่ปรุงต่อ อะไรเทือกนี้อ้ะมันไม่ใช่นี่มันเข้าไปจับแล้วเป็นอัตตาเป็นตัวเราของเรา ที่ต้องเห็นแบบทิฐิภูตัง มันต้องเห็นด้วยว่าขันมันทำงานของมันบังคับบันชาไม่ได้แต่ที่ใช้งานได้คือปํญญา มันต้องเห็นแล้วรู้ว่า มันเป็นของมันเองอย่างนั้นเราไม่ได้ทำให้มันรับรุ้ มันคิดมันเป็นอย่างนั้นเอง ทั้งความคิดด้วย ขันมันทำงานของมัน มันไม่ใช่เราสังขารไม่ใช่เรา ที่เห็นไม่ใช่สังขารเป็นผู้คิดผู้ไตร่ตรงผู้รู้ เพราะสังขารทำงานของมันเองไม่ใช่เรา ที่เกิดขึ้นอยู่คือขันคือกองทุขไม่ใช่เรา เอาพูดแบบตรงๆ จะมีคนรู้เรื่องใหม

    ไม่ต้องไปวางอะไรทั้งนั้นท่ารู้ว่าไม่ใช่เราคิด แต่เป็นธรรมดาของสังขารเองจะต้องวางทำไมจะต้องปล่อยอีกทำไมมันเป็นเรื่องของสังขารมันเองงงไหม อะไรเกิดก้เรื่งของมันไม่ต้องมานั่งดูนั่งว่งด้วยซ้ำท่าต้องคอยวางแปลว่าเป็นของเราสิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2018
  8. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ทีนี้มันก้จะเห็นว่าขันเป็นกลาง เป็นของมีมาอย่างนั้นมีอาการอย่างนั้น ที่จะรู้ต่อคือรู้กิเลสรู้ว่าตัวตกอยู่ภายใต้กิเลสรู้ว่ากิเลสเป็นอย่างไรนี่รู้เข้าไปที่ทุขสมุทัย รู้แล้วว่าตนตกอยู่ภายใต้กิเสก้จะพยามกาทางออกจากกิเลสอย่างสุดกำลังแล้วทีนี้ไม่มานั่งดูอยู่วางเวทนาวางความคิดแล้วเพราะรู้ว่ามันเป็นอย่างนั้น แต่ต้องใช้ความเป็นอย่างนั้นแหละไถ่ถอนกิเลสออกไปก้จะเหลือแต่ขันเหลือความเป็นอย่างนั้นอย่างเดียวไม่ตกภายใต้กิเลสแล้วทีนี้มันมีหมดละสุขทุกเพราะมันเป็นเวทนาเวทนามันเป็นอย่างนั้นมันไม่ใช่เราถึงกิเลสสิ้นไปแล้วเวทนามันก้สุขทุข แต่เราไม่ได้สุขทุขงงไหม ขันมันก้เป็นอย่างนั้นของมันตามอาการสุขทุขนึกคิดกระทบ แต่ไม่มีกิเลส
     
  9. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ทีนี้ไอ้ที่เราพยามวางอยุ่เฉยใส่อยุ่นี่มันไม่ใช่ธรรมดาแล้วมันไปบังคับให้ขันทำ มันก้ทำได้แต่ตลอดไหมมันไม่ใช่ธรรมชาติของมัน ธรรมดาของมันคือมีขึ้นตั้งขึ้นมันจะหายไปเองไม่ใช่ไปบังคับบันชาแบบนั้นวันนึงตะถอนจากความพยามทำแบบนี้เองอย่าให้เสียเวลามากนักล้ะ
     
  10. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    นิพพาน ไม่ต้องวางไม่ต้องถือไม่ต้องปล่อยไม่มีขันไม่มีกิเลส ไม่ต้องใช้ปัญญาใคร่ครวนอยู่ นิพพานมีอยู่อย่างนั้น ขันเองก้มีอยุ่อย่างนั้นของมันเองเป็นตถาตา
    นิพพานัง ปรมังสุขขัง ไม่ใช่ไม่มี ไม่ใช่การพยามทำตัวเป็นหิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2018
  11. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    รู้ให้ชัดๆเนี่ยไม่ต้องไปพยามวางพยามฝืน ให้รู้ไปชัดๆว่ามันมีอยู่เกิดขึ้นตั้งอยู่ ตั้งอยู่นานไม่นานก้ให้รู้ไม่ใช่ไปพยามไม่มีมันมีของมันธรรมดาโดนไฟใหม้ก้ต้องร้อนไม่ใช่บอกไม่ร้อน มีพ่อมีแม่มีบุญคุณไม่ใช่ว่าไม่มี ให้รู้ชัดทั้งการมีขึ้นเกิดขึ้น รู้ทั้งการตั้งอยู่ดำรงอยู่ และรู้ชัดๆว่าดับไปสิ้นไป ไม่ใช่อะไรมีขึ้นเฉยๆๆ การจมแช่ในกิเลสมันหายตั้งแต่มีปัญญารู้แล้ว มันมีอยู่ก้รู้ว่ามันมีอยู่เด่วมันดับเอง ดับช้าดับไวมันก้ดับเอง ต้องมีปัญญาเข้าใจว่ามันเป็นอย่างนั้น
     
  12. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    เมื่อไรที่ได้เห็น ฐีติ เช่น จิตดวงเดียวลอยอยู่ในที่ว่าง ให้จำภาพนั้นไว้เลยครับ แล้วทวนบ่อยๆ

    ต่อไปจะ อุปทาน น้อยลงมาก เพราะจิตจะเห็นภาพนั้น แล้วความคิดจะเกิดว่า ก็เราเป็นผู้สร้างกิเลสเองทั้งหมด

    เราจะไม่รับสิ่งนั้นๆก็ได้ เราไม่รับจิตก็ยังลอยในที่ว่างเหมือนเดิม
     
  13. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ฐีติภูตัง ต้องว่าเป็นปัญญารู้ลักษณะใดจมสมมุติ ลักษณะใดพ้นสมมุติ ลักษณะใดยังเป็นโลกียสมบัติ ลักษณะใดเป็นโลกุตรสมบัติ สมบัติในทีนี้กล่าวให้เต็มก็คือคุณสมบัตินั่นแหละครับ หมายถึงเห็นคุณสมบัติของพระนิพพานชัดเจนแล้ว จากที่ไม่เคยเห็น จึงเกิดปัญญาเห็นแจ้งว่า หมู่สัตว์อันรวมทั้งตนด้วย ติดข้องอยู่ในวัฏฏสงสารอย่างไร รู้มรรควิธีออกจากทุกข์อย่างแท้จริงได้

    การย้อนทวนกระแสไปให้ถึงจนเห็นจิตเป็นดวง อะไรพวกนี้ ยังชื่อว่าจมลงไปในสังขาร (สังขตธรรม) อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร หากหลงสังขารต่อไปไม่จบ ก็ไม่อาจพบอสังขตะ พระนิพพานย่อมไม่แจ้ง ความสิ้นตัณหาไม่ปรากฏ เพราะมีเจตนาจงใจกระทำ ตัณหาจึงเป็นผู้ชี้นำทาง นั่นก็คือยังเป็นทาสของตัณหาอยู่นั่นเอง ทำให้ไม่อาจรู้มรรคที่แท้จริงได้

    ศึกษาให้ดีครับ
     
  14. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :);) เอาจิตเป็นตัวตั้งครับ อย่าเอาสิ่งใดๆมาเป็นตัวตั้ง..อะไรก็ตามหากจิต(วิญญาณ) ไปรู้แจ้ง(เสพ)..นั่นแหละอารมณ์จิตจะเกิด ..การดับ-เกิด-ของจิตนั่นคือคือการมา- การไป ของจิต ทางเข้าออกของจิตเป็นศัพย์สมมุติ จะเรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ท่าน kenny ผมเข้าใจเองแบบนี้ง่ายต่อการพิจราณามากครับ
     
  15. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :(:p จะศรัทธาหรือ วิริยะ -ปัญญานำ..คุณก็ต้องใช้สมมุติ เพื่อกำจัด สัญญา-สังขาร-ที่มาปรุงแต่งจิตไม่ให้เกิดสมาธิ และกำจัด อกุศล นิวรณ์ ให้หมดจากจิต ..
    :mad: จะมาใช้แค่ วิริยะ-ศรัทธา-คุณเอาตำราจากไหนมาสอนนี่ครับ- อินทรีย์5 ศรัทธา-วิริยะ-สติ-สมาธิ-ปัญญา ต้องเสมอกัน การทำสมาธิจะบรรลุขั้นสูงสุด อย่าเพี้ยนเพราะศรัทธานะครับ คุณ nirakan ..
     
  16. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :):p รู้..ที่คุณว่ามานี่ รู้เพื่ออะไรครับ ต้องการอะไร ?-แล้วจะหยุดรู้ได้ยังไงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2018
  17. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :):p ขออภัย คุณติดสมมุติศัพย์ ไปหมดแล้วครับ
    ;) :oops: อย่าไปไล่ คำแปลของศัพย์สมมุติ มันไม่เกิดตามลำดับที่คุณไล่แปล ..นักปฏิบัติคุณควรจะไล่..ปฏิเวธ ที่อันไหนเกิด-ดับ-หรืออันไหน เกิด ก่อน-หลัง ครับ..จิต มีคุณภาพขนาดไหนที่จะจดจำได้แล้วนำสิ่งที่จำได้มาแก้ทุกข์ ไม่ใช่ ..รู้..ไปเรื่อย..รู้ แต่ดับไม่เป็น ..เหนื่อยทั้งชีวิตครับ
     
  18. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ;):p สนทนา พยายามอย่ายก อ้างชื่อ อจ.องค์ไหนมาครับ มันจะกลายเป็นคุณกำลังจะดิสเครดิต-หรือวางยาคนอื่นเขา..อย่าเล่นกับศรัทธา คนไทยยังไม่พร้อมรับเท่าไหร่ครับ สังคมไทยปัจจุบันเป็นสังคมฐานความเชื่อ ไม่ใช่สังคมฐานความรู้..ขออภัยครับ กรุณาด้วย
     
  19. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ;):p ที่คุณเอ่ยมานั่น แค่กริยาของจิตที่ทรงตัวอยู่ใน จตุถฌาน..(จะเห็นความว่างหรือตนเองแบบสงบสงัด ไร้เสียงหรีดหริ่งเรไร-แล้วไง ครับ) ใครๆก็ทำได้หากละนิวรณ์5 ได้ ..อีกอย่างนะครับ ฐิติ-ฐีติ-เขาแปลว่าที่ตั้งของอะไรก็ว่าไป.. จะวิเศษวิโสอะไร มาติดคำ สมมุติศัพย์ ที่เขาแปลมาจากบาลีเพื่อ..?
     
  20. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :):mad::eek: เข้าเวบไม่ได้หลายวัน-ไม่ทราบสาเหตุ-ยังไงหากหายไป ขออภัยตามสะดวกครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...