ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

พี่สุดใจติดธุระหลายวันเลย จึงไม่ได้มาสนทนากับทุกท่านในช่วงนี้ ต้องขออภัยด้วย<O</O

คุณ no.9 ได้ตอบคำถามให้กับทุกท่านที่มีความสงสัยในบางเรื่องได้ทราบไปบ้างแล้วนั้น เป็นคำตอบที่ถูกต้องตรงตามที่ระบบได้มีการอธิบายให้ได้รับรู้ และสามารถแจ้งให้มนุษย์โลกได้รับทราบได้ ซึ่งมิได้มุ่งหวังให้ทุกท่านที่ได้อ่านพบข้อมูลเหล่านี้ จะเชื่อได้ทุกคน แต่ก็เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับบุคคลจำนวนน้อย ที่ประสบกับเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้นมา และไม่ทราบว่า คืออะไร? จะได้ลองนำไปเทียบเคียงเพื่อจะหาคำตอบให้กับตนเอง และสามารถสอบถามข้อสงสัยเพิ่มเติมได้ผ่านทางกระทู้นี้<O</O

พี่สุดใจ และคุณ no.9 มีหน้าที่ให้ข้อมูล และตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ที่ท่านได้พบเจอมา คงต้องย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เราทำหน้าที่เพียง

 

เมื่อคืนนี้ 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา 19.55 นาฬิกา

พี่สุดใจได้รับโทรศัพท์ จากคุณ ธนิตศักดิ์ (เสื้อสีเขียว) ซึ่งโทรมาจากประเทศอิตาลี และเล่าเรื่องราวต่าง ๆให้พี่สุดใจได้รับทราบ ซึ่งพี่สุดใจพอสรุปได้ดังนี้

วันที่ 2 สิงหาคม 2550 ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิตาลี ถึงประเทศอิตาลีวันที่ 3 สิงหาคม 2550

วันที่ 5 สิงหาคม 2550 เวลากลางวัน ได้เห็นยานอวกาศรูปร่างคล้ายรูปรักบี้สีเงินเงาวับ เรียงแถวกัน แถวละประมาณ 4-5 ลำ จำนวน 3 แถว และแถวสุดท้ายมีอยู่ลำเดียว ลอยอยู่กลางท้องฟ้าประเทศอิตาลี ในขณะที่คุณธนิตออกไปทำธุระ และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จึงได้เห็นอย่างชัดเจน เคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ ไม่มีเสียง และมองไปรอบตัว คนที่เดินไปมา ก็ไม่เห็นมีใครมองขึ้นไป จึงยืนดูอยู่จนลับตาไป
ได้โทรมาหาพี่สุดใจหลังจากนั้นไม่นาน แล้วกล่าวว่า เขาไม่ได้ทิ้งผมเลย (ตอนอยู่ในประเทศไทย คุณธนิตศักดิ์จะเห็นจานบิน บินมาให้เห็นอยู่เสมอ และเห็นกันทั้งครอบครัว) มาให้กำลังใจผมถึงที่นี่ สงสัยว่าผมคงต้องมาทำงานเป็นคนประสานงานในต่างประเทศใช่ไหมครับ?

นั่นเป็นการโทรศัพท์จากอิตาลี มาหาพี่สุดใจครั้งแรก เมื่อประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2550 หลังจากเห็นยานอวกาศกลุ่มนั้น ไม่นานนัก

และเมื่อคืน ได้รับโทรศัพท์จากคุณธนิตศักดิ์ อีกครั้ง จากประเทศอิตาลี โดยได้มีการสอบถามความคืบหน้า และข่าวสารของการประสานงานในประเทศไทย และกล่าวว่า ได้ติดตามอ่านกระทู้นี้ และกระทู้อื่น ๆ ในพลังจิตมาตลอด เพราะจะอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ วันละประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถพิมพ์ข้อความได้ เพราะไม่มีภาษาไทย จึงแจ้งให้พี่สุดใจช่วยลงข้อความให้เพื่อนสมาชิกทราบด้วย

คุณธนิตศักดิ์เล่าว่า ผุมได้อ่านเรื่องราวของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ทุกโพสต์ ที่มีการลงผ่านกระทู้นี้ และเข้าใจเรื่องของมนุษย์ต่างดาว และเรื่องของอุปกรณ์มากขึ้น เพราะผมรู้ว่าผมถูกติดอุปกรณ์มานานแล้ว และไปไหน จะมีจานบิน บินตามอยู่เสมอและเห็นกันทั้งครอบครัว ภรรยาและลูกสาว ซึ่งได้เคยเล่าให้พี่สุดใจได้รับทราบไปแล้วนั้น
ตอนนี้ มาอยู่ที่อิตาลี แต่ก็อ่านกระทู้นี้รู้ว่าจะมีการจัดงานวันที่ 11 พย. 50 ขึ้น แต่ก่อนวันจัดงาน "รวมพลคนพลังจิตติดต่อ UFO" สัก 2 - 3 วัน ผมรู้ว่ามนุษย์ต่างดาวมาติดอุปกรณ์ผมเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายอย่าง ที่ผมสัมผัสได้และรู้ว่าเป็นเรื่องจริงคือ

ตอนนอนอยู่แล้วเคลิ้มไป คล้ายมีการนำคลื่นพลังงานบางอย่างมาติดตั้งในตัวผม ในครั้งแรก ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจริงหรือเปล่า หรือว่าฝันไป แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องผมเริ่มมีปฏิกิริยา ติดๆ ดับ ๆ ในขณะนั้น เหมือนมีคลื่นรบกวน และสุดท้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นก็เสียไปเลย ก็คือทีวี และนาฬิกาปลุกที่ใช้มาตลอดก็เสียพร้อมกันด้วย โทรศัพท์มือถือ ก็มีเสียงดังขึ้นมาเองตลอด แต่ไม่มีคนโทรเข้ามา ปิดเครื่องโทรศัพท์แล้วก็เปิดเองได้ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆในห้องรวนไปหมด ประมาณ 2 วันทุกอย่างก็เริ่มเข้าสู่ปกติ
รู้สึกแปลกใจ แต่ไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก เพราะอ่านที่พี่สุดใจเคยโพสต์ไว้ว่า พลังงานที่ส่งมาหาพี่สุดใจครั้งแรก ๆ เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วนั้น พี่สุดใจก็เข้าใกล้เครื่องไฟฟ้าไม่ได้เลย จะดับหมด เพราะคล้ายคลื่นแม่เหล็ก จนกระทั่งมีการปรับคลื่นจนค่อย ๆ เข้าได้กับร่างกายมนุษย์ นำไปใช้ทำงานได้ และไม่มีอันตรายใด ๆ

หลังจากนั้นผมก็เริ่มสัมผัสพลังงานอย่างอื่นได้มากขึ้น เริ่มมองเห็นภาพต่าง ๆ ได้ชัดขึ้น โดยมีภาพปรากฏ และเหมือนมีความรู้สึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นล่วงหน้า และเป็นเช่นนั้นจริงบ่อยครั้ง ภาพและเสียงที่เคยได้เห็น ได้ยิน เริ่มชัดขึ้น และเริ่มใช้พลังงานในตัวเองไปลองทำสิ่งต่าง ๆ ยักย้ายถ่ายเทพลังงาน จากสิ่งหนึ่ง ไปอีกสิ่งหนึ่ง พระเครื่องที่มีพลังงานอยู่สูง สามารถสัมผัสได้ และนำพลังงานจากพระเครื่องเข้ามาเพิ่มที่ตัวเองได้ บางครั้งเครื่องคอมฯที่โหลดช้าๆ เอามือไปแตะที่เครื่อง ก็โหลดเร็วทันที เหมือนมีพลังงานไปเพิ่มสปรีดเครื่องคอมฯ ซึ่งยังมีอีกหลายอย่างแล้วจะโทรมาเล่าให้ฟังในวันหลังครับ (ได้คุยกันประมาณ 15 นาที)


นั่นคือข้อความจากคุณธนิตศักดิ์ หรือคุณตี้ ซึ่งท่านได้ทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล 14 ปี กลับมาประเทศไทย และได้รู้จักกับพี่สุดใจได้ 6 เดือน ก่อนเดินทางไปประเทศอิตาลี ซึ่งคงประมาณ 2 ปี คงจะได้กลับมาเมืองไทย

หลายคนคงสงสัยว่า รู้จักกันได้อย่างไร? ที่ไหน? และเมื่อไหร่?

รู้จักครั้งแรก วันที่ 21 มกราคม 2550 จากการที่กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ โดยคุณคณานันท์ ผู้นำกลุ่มฯ ได้กรุณาเชิญพี่สุดใจเข้าร่วมฟังการประชุมเพื่อเตรียมการเรื่องของภัยพิบัติ ที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ซึ่งในวันนั้น พี่สุดใจได้มีโอกาสเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ สมาชิกกลุ่มพลังชิตพิจิตภัยพิบัติ ได้รับฟังด้วย

และคุณ ธนิตศักดิ์ ได้เป็นสมาชิกท่านหนึ่งของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ใช้ชื่อในการโพสต์ว่าอะไร จำไม่ได้แล้ว (ถ้าท่านใดจำคุณธนิตศักดิ์ได้ในวันที่ไปสวนลุม ช่วยบอกชื่อในการโพสต์แทนที่สุดใจด้วยนะคะ คุณธนิตศักดิ์บอกแล้วแต่จำไม่ได้ค่ะ) แต่ตอนนี้ คุณธนิตศักดิ์ เข้ามาอ่านกระทู้นี้ใช้ชื่อว่า ufo no.356 ค่ะ
วันนั้น คุณธนิตศักดิ์ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย และสนใจเรื่องของ UFO ที่พี่สุดใจพูดให้เพื่อน ๆ สมาชิกฟังในขณะนั้นมาก และได้สอบถามข้อมูลต่าง ๆ หลายอย่าง ด้วยความสนใจ พร้อมทั้งบอกว่า สิ่งที่เกิดกับผมเหมือนกับที่พี่สุดใจเล่าว่าเป็นอุปกรณ์เลย เพราะจะมีกลุ่มพลังงานอยู่ที่ท้ายทอย สัมผัสได้ และจานบินก็บินตามผมอยู่เรื่อย อยากจะทราบรายละเอียดมากกว่านี้

ซึ่งในวันนั้น มีเวลาสนทนากันค่อนข้างจำกัด ดังนั้นก่อนที่พี่สุดใจจะเดินทางกลับ ก็ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้เพื่อจะได้สนทนากันในโอกาสต่อไป (หลังจากนั้นก็ได้สนทนากันอีกหลายครั้งเรื่อยมา)

ในวันดังกล่าว ได้มีโอกาสพบเจอสมาชิกของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติที่มาร่วมประชุมในวันนั้นจำนวนมาก ซึ่งในภายหลังจึงได้มีการรู้จักกันมากขึ้น เมื่อพบกันที่ปรียนันท์ธรรมสถาน ขอขอบคุณมากค่ะ ที่ได้มาทักทายกัน

 

หลังจากนั้น ก็ได้มีการนัดเจอเพื่อสนทนากันครั้งที่สอง ที่บิ๊กซี สะพานควาย เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550

พบกับคุณ Astro Neemo ครั้งแรก มาสัมภาษณ์พี่สุดใจเพื่อไปเขียนลงหนังสือนิตยสารชื่อ โหรามหาเวทย์



สำหรับคุณ Astro Neemo พี่สุดใจ ก็เพิ่งรู้จักก่อนหน้านั้นไม่นาน คือเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2549 ที่งานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 11 ที่ผ่านมา จึงได้สอบถามไปยัง คุณ Astro Neemo ว่าจะมาร่วมสนทนากันไหม ก็ได้รับคำตอบว่าจะมาร่วมสนทนาด้วย จึงนัดหมายเจอกันกับทั้งสองท่าน



หลังจากสนทนากันในวันนั้น มีความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา และนัดหมายที่จะไปเขากะลากันในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 (วันครบรอบ 9 ปี "เปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว" ที่เขากะลา)


ในวันนั้น ก่อนขึ้นเขากะลา ได้มีอีก 2 ท่าน จากกรุงเทพฯ และสมุทรปราการมาสมทบด้วย จึงได้ทานอาหารร่วมกันก่อนขึ้นเขากะลา

คุณวาสนา ชื่นสำนวน กำลังให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา ซึ่งทั้ง 4 ท่านให้ความสนใจอย่างมาก และสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ด้วยความสนใจ




หลังจากขึ้นไปเขากะลา คุณธนิตศักดิ์ คุณ Astro Neemo และอีกสองท่าน ก็สัมผัสกับพลังงานหลายอย่างบนเขากะลา เห็นจานบินสีส้มลอยอยู่เหนือยอดเขานานประมาณ 30 นาที แต่ถ่ายรูปไม่ติด ซึ่งคุณ Astro Neemo เพิ่งเห็นครั้งแรกจึงยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่คุณธนิตศักติ์ ได้เคยเห็นจานบินรูปแบบต่าง ๆ มาหลายครั้งแล้ว จึงแน่ใจว่าเขามารอรับอยู่ และรู้สึกประทับใจ หลังจากนั้นได้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และก่อนที่คุณธนิตศักดิ์จะเดินทางไปประเทศอิตาลี ได้มีความเข้าใจในเรื่องของระบบอย่างมาก เข้าใจเรื่องของอุปกรณ์รูปแบบพลังงาน และเข้าใจเรื่องของมนุษย์ต่างดาว พร้อมทั้งเรื่องของภัยพิบัติอย่างมากด้วย

คุณ Astro Neemo ก็มีความสนใจ เข้ามาสอบถาม ทดสอบ ทดลอง จนรู้ว่า สิ่งที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้กระทำอยู่นี้ เป็นสิ่งที่มิใช่เรื่องไร้สาระ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงกล้าที่จะจัดตั้งเวปไซด์ www.UFOThailand.org ขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูล รวมถึงจัดงาน" รวมพลคนพลังจิตติดต่อ UFO" ขึ้น แม้จะต้องทำเพียงคนเดียวก็ยินดีทำ เพื่อกระจายข้อมูลเหล่านี้สู่สาธารณะ ในนามของ ประเทศไทย

แม้ทั้งสองท่าน จะได้พบพี่สุดใจ ยังไม่ครบ 1 ปีเลยด้วยซ้ำ แต่ก็เหมือนมีความคุ้นเคยกันมานาน มีความยินดีที่จะช่วยเหลือ และเผยแพร่ข้อมูลเรื่องของการมาช่วยเหลือมนุษย์โลกในเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติข้างหน้า และเมื่อยิ่งได้เห็น จานบิน มาอนุโมทนาด้วยแล้ว เหมือนกับตอกย้ำให้รู้ว่า "คุณเป็นคนหนึ่งของระบบที่มีการจัดส่งมาร่วมงานกับมนุษย์ต่างดาว" นั่นเอง

พี่สุดใจก็ต้องขออนุโมทนากับทั้งสองท่าน และท่านอื่น ๆ ก็จะเริ่มพอทราบบ้างแล้วว่า เราคือคนหนึ่งที่ได้ร่วมทำงานในระดับจักรวาลกับมนุษย์ต่างดาว ยินดีด้วยค่ะ

 

ตอนอยู่ที่สวนลุมวันนั้น ผมเป็นคนรับลงทะเบียนทุกๆคนเองครับ
แต่คุณธนิตศักดิ์ไม่ได้ให้ชื่อที่ใช้ในเวปไว้หนะครับ
ให้ไว้แต่ชื่อ เบอร์โทร และที่อยู่ (กรุงเทพ) ครับ

 

UBC คุณธนิตศักดิ์เคยใช้ชื่อนี้เมื่องานที่ซอยสุขุมวิท 20 Moontime Studio หลายเดือนก่อน

 

น่าสนใจดีครับคุณ Falkman คุยกับ Bassate
คนนี้มีจิตภายในละเอียดสื่อกับจิตวิญญาณในระบบเครือข่ายรูปแบบต่างๆได้
ได้รับสื่อสัญญาณต่างดาวมาอีกเผ่าพันธ์หนึ่ง (ชื่อแบร็พ)

<TABLE class=tborder id=post823169 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Falkman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_823169", true); </SCRIPT>
สมาชิก
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 04:27 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
สถานที่: Falkland
ข้อความ: 2,753 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 27,500 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 22,335 ครั้ง ใน 2,706 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2506




</TD><TD class=alt1 id=td_post_823169 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->bassate says:
เมื่อหลายคืนก่อน
bassate says:
ผมมีนิมิตรหลายๆอย่าง
bassate says:
จิตนอกโลกสื่อมา
bassate says:
แต่ผมไม่เข้าใจ
bassate says:
เค้าบอกว่ามาจากดาวที่เรียกตามเสียงของเค้าว่า แบร็พ
bassate says:
แล้วเค้าเทียบกับขนาดของเราไม่ได้เลย
bassate says:
เค้าเล็กมาก
Solardog says:
ตัวสีเขียวอ่ะดิ
bassate says:
ยานเค้าเท่าฝ่ามือเราคับ
bassate says:
ผมไม่เห็นตัวเค้า
bassate says:
เห็นแต่ใบหน้าเค้า
bassate says:
ตาเค้าจะรีๆ ยาวๆ
bassate says:
ตาเหมือนคนกำลังหลับอยู่เลยคับ
bassate says:
แต่นั่นลืมตาแล้ว
bassate says:
เค้าบอกผมหลายๆอย่าง
bassate says:
แต่เจ้าได้ไม่กี่อย่าง
bassate says:
แต่จำได้ไม่กี่อย่าง
bassate says:
พี่อ๋อจำ ridgestoneได้ใช่ป่าวคับ
Solardog says:
ได้
bassate says:
เค้าให้ผมเห็นการทำงานของก้อนหินบนยอดเขา
bassate says:
ที่ใดที่หนึ่ง
bassate says:
เค้าบอกว่า
bassate says:
ก้อนหินเหล่านี้เก็บสะสมพลังงานไว้มหาศาล
bassate says:
และจะเป็ฯประโยชน์อย่างมาก
bassate says:
เค้าบอกให้ผมเหวี่ยงก้อนหินบนยอดนั้นลงมา
bassate says:
ก้อนไม่เล็กนะคับ
bassate says:
ประมาณอุ้มกะลังเหมาะ
Solardog says:
ที่ไหนอ่ะ
Solardog says:
เมกกะ ป่าว
bassate says:
น่าจะคับ
bassate says:
พี่เชื่อป่าวคับว่า
Solardog says:
ว่า
bassate says:
ก้อนหิน
bassate says:
ที่ผมเหวี่ยงไป
bassate says:
มันไม่ร่วงคับ
bassate says:
ก้อนหินนั้นลอยคว้าง ค้างอยู่บนอากาศ
bassate says:
แล้วหมุนวกกลับมาที่เดิม
bassate says:
ผมงงมาก
bassate says:
ผมเลยถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
bassate says:
เค้าบอกว่า เป็นเพราะก้อนหินสะสมพลังงานเต็มเปี่ยมซึ่งก้อนหินก้อนนี้ยังวางอยู่ในความเข้มข้นของพลังงานสนามแม่เหล็กโลก
bassate says:
ซึ่งเป็นเส้นพลังสนามแม่เหล็กที่เชื่อมต่ออกไปสู่มหาจักวาลอื่นๆนอกโลกของเรา
bassate says:
ก้อนหินนี้เลยลอยไปตามเส้นเครือข่ายสนามแม่เหล็ก
bassate says:
ที่โยงๆ
bassate says:
เชื่อมกันอยู่
bassate says:
มันเลยไม่ตกคับ
bassate says:
ผมไม่เข้าใจสิ่งที่เค้าพยายามสื่อถึงมัน
Solardog says:
หรือว่า
Solardog says:
หินเมกกะ
Solardog says:
เป็นหินที่เชื่อมพลังงาน
Solardog says:
ที่โลกเรากับโลกอื่น
bassate says:
เป็นไปได้คับ
Solardog says:
เพราะอย่าลืมนะ
bassate says:
....................
Solardog says:
มุสลิม มีอำนาจจิตสูง
Solardog says:
พวกเค้าสวดมนต์วันละห้าหน
Solardog says:
สมาธิห้าหน
Solardog says:
แล้วก็ไปรวมพลังกันตรงนั้น
Solardog says:
ทั้งโลก
Solardog says:
พลังดีแหล่ะ
bassate says:
ขนลุกเลยคับ
bassate says:
คงจิง
bassate says:
เพราะเค้าสื่อมาแบบขาดท่อนเมื่อนานมาแล้ว
bassate says:
ที่ผมเล่าให้ฟังคับ
bassate says:
แล้วมาต่อเอาซะตอนที่เกือบลืมคับ
bassate says:
ผมจำได้ว่า ผมเควี้ยงก้อนหินก้อนใหญ่ลงไปข้างล่าง
bassate says:
แต่ก้อนหินไม่ตกลงไป
bassate says:
กลับลอยคว้าง หมุนวกกลับมาที่เดิม
bassate says:
มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการเปิดมิติ
bassate says:
โดยใช้พลังงจากวัตถุที่เก็บพลังงานแบบนี้ไว้
Solardog says:
หินก้อนนั้นลึกลับ มีแต่คนไปไหว้แต่ไม่รู้ว่าไหว้อะไรกัน แปลกดี
bassate says:
อาจจะเป็นที่เดียวกันคับ
bassate says:
เค้าบอกอีกว่า
bassate says:
เค้ามักจะทำการสื่อความคิด
bassate says:
ต่างๆมากกว่าการปรากฎตัว
bassate says:
เค้ามีความสามารถใช้วัตถุในการส่งต่อคลื่นความคิด
bassate says:
ซึ่งปลายทางก็คือคนรับสื่อจะสามารถรับสื่อได้ตามแต่ภูมิที่ตัวเองมี
bassate says:
อย่างคืนนั้นผมนอนบนโซฟา
bassate says:
สีแดง
bassate says:
แล้วโซฟาจะมีรอยพับของหนังใช่ปะคับ
bassate says:
ผมเห็นรอยพบของโซฟา
bassate says:
เป็นหน้าของพวกเค้า
bassate says:
แล้วผมก็เข้าสู่ภะวังไปเลย
bassate says:
ก่อนที่เค้าจะพาผมไปดูบนยอดเขา
bassate says:
เค้าขับยานมาใกล้ผม
bassate says:
แล้วพุ่งมาที่อกผมนิ่งไปซักพัก
bassate says:
ในนิมิตรนะคับ
bassate says:
ผมจับยานนั้นไว้เบาๆ
bassate says:
ด้วยมือ 2 ข้าง
bassate says:
มันเล็กจังคับ
bassate says:
ใหญ่กว่าแอมเบอร์เกอร์หน่อยนึงคับ
Solardog says:
โหย พูดซะหิวเลย
bassate says:
แต่ ผมพยายามถามเค้าว่า
bassate says:
แบร็พ หมายถึงอะไร
bassate says:
เค้าก็บอก
bassate says:
แต่ผมจำไม่ได้
Solardog says:
เหร๋อ
bassate says:
ตอนแรกผมได้ยินเป็น map
bassate says:
ผมเลยย้ำว่า แบร็พ หรือ แม็พ
bassate says:
เค้าก็รัวลิ้นว่า
bassate says:
แ บ ร็รรรรรร พ
bassate says:
เค้าต้องการจะบอกอะไรผมกันแน่
Solardog says:
นั่นสิ
bassate says:
เรื่องก้อนหินบนยอดเขา
Solardog says:
ต้องไปหาก่อน
bassate says:
มันสำคัญยังไง
bassate says:
ก็ไม่รู้
Solardog says:
หินเมกกะอยู่บนยอดเขาป่าว
bassate says:
มันวางบนยอดเลยคับ
Solardog says:
ทำไมดันไปคิดถึงมอหินขาว
Solardog says:
ที่ชัยภูมิ
Solardog says:
บ้ามาก
bassate says:
ตรงกลางเป๊ะ
bassate says:
ใช่
bassate says:
หินก้อนนั้น
Solardog says:
มีก้อนเดียวเหร่อ
bassate says:
เป็นสีขาว
bassate says:
ทั้งอันเลยคับ
Solardog says:
อ้าวเหร๋อ
bassate says:
ไม่มีสีอื่นปนเลย
bassate says:
ไม่คับ
bassate says:
ก้อนเล็ก
bassate says:
ก้อนใหญ่
bassate says:
เต็มไปหมด
bassate says:
เค้าบอกว่าก้อนหินบริเวณนั้น
bassate says:
แบรวมๆ
bassate says:
ผมหยิบขึ้นมาก็ไม่ได้เลือกด้วย
bassate says:
เค้าบอกว่ามาตามคนที่เคยมีจิตผูกพันกับกลุ่มเดียวกับเค้า
bassate says:
หลายๆครั้งที่ผมเห็นกับตา
bassate says:
ครั้งที่ชัดเจนที่สุดคือ
bassate says:
ครั้งที่ที่เจอมนตด ที่สูงราวๆ 1.9-2 เมตร ประมาณนี้คับ
bassate says:
ปลายเตียงนอน
bassate says:
ผมเข้าใจในขณะนั้นว่าเค้ามีการจัดแจงอย่างเป็นระบบ
bassate says:
ในการสื่อข้อความต่างๆ
Solardog says:
อ๋อ
bassate says:
แล้วมีมากกว่า 10 เผ่าเชื้อลักษณะชีวิตนอกโลกที่กำลังทำงานอยู่

Transfer of "IMG_9013.JPG" is complete.

bassate says:
สวยมากเลยคับ
bassate says:
ที่ไหนง่ะ
Solardog says:
มอหินขาว
Solardog says:
ชัยภูมิ
Solardog says:
คล้ายกับ
Solardog says:
สโตนเฮ้น
Solardog says:
ที่อังกฤษเลย
bassate says:
เออ
bassate says:
ลืมบอกคับ
bassate says:
ยานของแบร็พ
bassate says:
ในขณะที่บินอยู่จะมีแต่แสงคับ
bassate says:
จะไม่เห็นรูปร่าง
bassate says:
เร็วมาก
Solardog says:
แสงสีอะไร
bassate says:
สีออกส้ม นวลๆ
bassate says:
ไม่ขึ้นอยู่กับขนาดนะคับ
bassate says:
เพราะเค้าบอกว่า ขนาดไม่สามารถใช้ได้กับทุกมิติ
bassate says:
บางคนอาจเห็นดวงใหญ่บ้าง เล็กบ้าง
bassate says:
ผมเห็นในยานด้วยคับ
bassate says:
ไม่มีอะไรเลย
bassate says:
นอกจากเครื่องมือขับเคลื่อนแบบ บิลด์ อิน
bassate says:
ไม่มีส่วนอื่นยื่นออกมาเลย
Solardog says:
เจ๋งมาก
bassate says:
จิงคับ
bassate says:
มันเหมือนเป็นอันเดียวกันกับผนังยาน
bassate says:
ยิ่งพูดยิ่งเหมือนคนสติเสื่อมเลยคับ
Solardog says:
เค้าจะมาอีกป่าว
bassate says:
ไม่รู้คับ
bassate says:
ผมแบ่งรับแบ่งสู้
bassate says:
เพราะกลัวว่าเค้าจะมาไม่ดี
bassate says:
แล้วมาหลอกเรา
Solardog says:
อ๋อ
Solardog says:
ที่มอหินขาวมันแปลกๆ นะ
Solardog says:
หินวางเรียงกัน
Solardog says:
แล้วมีลานด้วยนะ
Solardog says:
ลานเรียบ กว้าง
Solardog says:
ไปโน่น
bassate says:
ไม่คับ
bassate says:
ที่ไทยเราแถวๆที่พี่ว่าเค้าก็เลือในการลงจอด
bassate says:
ที่ไทยเราแถวๆที่พี่ว่าเค้าก็เลือกในการลงจอด
bassate says:
ที่เหนือก็แถวเชียงราย แม่แจ่ม
bassate says:
แถวตะวันตกก็แถวๆ กาญจนบุรี
bassate says:
เค้าบอกว่ามันเกี่ยวกับระดับพลังงานสนามแม่เหล็กตรงบริเวณนั้นๆด้วยคับ
Solardog says:
อ๋อ
bassate says:
ผมเห็นด้วยคับ
bassate says:
เหมาะมากๆเลย
bassate says:
แล้วก็เหมาะกับการอพยพหนีภัยพิบัติด้วย
Solardog says:
พี่อ่ะสงสันสถานที่นั้นจริงๆ มันแปลก หินเรียงตัวกัน แถมมาลานใหญ่
Solardog says:
ลานเป็นดินแข็งๆ เลยนะ
bassate says:
ผมว่าเป็นไปได้
bassate says:
เหมือนกับที่ นาสคา
bassate says:
ที่มีสัญลักษณ์เหมือนลานจอด เครื่องบินอะไรสักอย่าง
Solardog says:
เหร๋อ
bassate says:
ทั้งๆที่โดยรอบเป็นดินอุดมสมบูรณืมากๆ
bassate says:
แต่บริเวญสัญลักษณ์กลับเป็นดินแข็งๆ
bassate says:
หญ้าเส้นนึงก็ไม่ขึ้นคับ
Solardog says:
ใช่
<!-- / message --><!-- sig -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ยังมีต่อ.....

 

พี่สุดใจขออนุโมทนาด้วยนะคะ ในความเสียสละ มุ่งมั่น และทุ่มเทแรงกาย แรงใจ จัดทำเวปไซด์ www.UFOThailand.org รูปแบบใหม่ขึ้นมาทั้งหมด เป็นรูปแบบสวยงามและเหมาะสมกับเอกลักษณ์ ของไทยเป็นอย่างยิ่งกับ ย่อมเป็นงานที่ยาก และหนักเอาการทีเดียว

แม้ว่าพี่สุดใจจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เพราะไม่มีความสามารถทางด้านนี้ แต่ก็ขอส่งกำลังใจไปช่วยนะคะ

 

อ้างอิง ข้อความเดิมโดยคุณ O.A.T.​

รายการ V.I.P.
ออกอากาศ 17 ม.ค. 2548​

เนื่องจากไฟล์มีขนาดใหญ่ไม่สามารถนำมาโพสต์ได้หมดต่อเนื่องกันในครั้งเดียว
จึงขอตัดแบ่งเพื่อให้สามารถนำมาขึ้นโพสต์ให้ชมได้
รายการ(สัมภาษณ์)จะมีทั้งหมด3ช่วง ตัดแบ่งเป็นช่วงละ2
ค่อยๆชมทีละจอนะครับ เดี๋ยวจะงง... อาจจะโหลดช้าหน่อย
ภาพอาจจะไม่ค่อยชัดหน่อย แต่พอดูกันได้ครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

พี่สุดใจ ต้องขอขอบคุณ คุณ O.A.T. เป็นอย่างสูง ที่ได้กรุณานำวีดีโอรายการ V.I.P. มาให้เพื่อน ๆ สมาชิก และท่านที่สนใจข้อมูล แต่ยังไม่ได้รับชมในช่วงนั้น ได้มีโอกาสได้รับชมด้วย

ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ ที่ให้ความสนใจ ติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
พี่สุดใจขอยกตัวอย่าง บางตัวอย่างที่ใกล้เคียงกับคุณ axzon47 ได้มีประสบการณ์พบเจอมา และสงสัยอยู่นั้น เพื่อเพิ่มความเข้าใจอีกสักเล็กน้อยนะคะ

เกี่ยวกับความฝัน และเมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่แน่ใจว่า เป็นความฝันจริงหรือไม่? พี่สุดใจได้เคยโพสไว้แล้วในกระทู้ที่ผ่านมา ขอนำมาให้อ่านเพื่อเทียบเคียงอีกสักนิดนะคะ

อ้างอิง
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณสุดใจเขากะลา
ท่านแรก เป็นทหารอากาศ เราได้รับทราบเรื่องราวนี้จากคุณอนุ ที่ท่านได้ไปเขากะลาหลายครั้ง และบันทึกภาพมนุษย์ต่างดาวลงเดินที่เขากะลา ท่านบอกว่า ได้เดินทางไปเขาใหญ่กับเพื่อน ๆ ที่เป็นทหารอากาศ และตอนกลางคืนได้นอนดูดาวกันเพราะดาวสวยมาก และตอนนั้น ได้มีดาววิ่ง ไป

 

<TABLE class=tborder id=post822734 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 20-11-2007, 01:10 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sutatip_b<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_822734", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:42 PM
วันที่สมัคร: Aug 2007
ข้อความ: 315 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 4,764 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 5,291 ครั้ง ใน 317 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 563




</TD><TD class=alt1 id=td_post_822734 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->สัมมนา ภัยพิบัติและการเตรียมการ 16 ธค 50 มธ. รังสิต


<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ เว็ปพลังจิต
ขอเชิญร่วมสัมมนาวิชาการในหัวข้อ
ภัยพิบัติ และการเตรียมการ
ห้องประชุมแพทย์โดม (ชั้น 2)
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันอาทิตย์ 16 ธันวาคม 2550
เวลา 8.30-17.00 น.
ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
สำรองที่นั่งได้ที่ 02 757 5086 เวลาราชการ หรือลงทะเบียนล่วงหน้าในเว็ปนี้
รายละเอียดที่ http://palungjit.org/showthrea...734#post822734<O></O>

รายละเอียดของงานจะลงให้ภายใน 24 พย. นี้
ขอบคุณค่ะ
<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sutatip_b : 20-11-2007 เมื่อ 07:45 PM.
<!-- / edit note -->

</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack --> <!-- End Post Groan Hack --></TD><TD><!-- Start Post Thank You Hack --> <!-- End Post Thank You Hack --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE class=tborder id=post825666 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 07:56 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#17 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sutatip_b<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_825666", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:42 PM
วันที่สมัคร: Aug 2007
ข้อความ: 315 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 4,764 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 5,291 ครั้ง ใน 317 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 563




</TD><TD class=alt1 id=td_post_825666 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ที่จองมามีดังนี้ค่ะ 22 พย 50

สุเมธ กอล์ฟ 1
นัฒธเดช นัท 1
ทัศนียา จูน 1
กฤษฏา อุ๋ย 2
การันต์ (โทรศัพท์) 2

วิทยากรที่ตอบรับเชิญแล้ว คือ

พระอาจารย์ใหญ่ วัดแจ้งเมืองเก่า อ. ประจันตคาม จ. ปราจีนบุรี
อาจารย์แม่ ดร. กัญจิรา กาญจนเกตุ ประธานชมรมวิถีธรรมวิถีไทย
ดร. ซิลวิโอ เอเมอรี่ อดีตข้าราชการพลเรือนด้านก๊าซและสารชีวภาพ กองทัพบกสหรัฐ (การบรรยายมีพากย์ไทย)
คุณสุดใจ จากเขากะลารับทราบแล้วกำลังเคลียร์ตารางอยู่ค่ะ

ทั้งหมดนี้ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญคุณแอสโตร นีโม ที่จัดมีทติ้งยูเอฟโอ จุดประกายให้ทางห้องภัยพิบัติ ทำให้เราเตรียมประชุมกลุ่มและผู้สนใจในงานนี้ ที่เร่งกันหน่อยเพราะเดี๋ยวแยกย้ายไปเลือกตั้งกันหมด

แค่นี้ก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ
<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kananun : วันนี้ เมื่อ 11:02 AM.
<!-- / edit note -->

</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack --> <!-- End Post Groan Hack --></TD><TD><!-- Start Post Thank You Hack --> <!-- End Post Thank You Hack --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
Copyข้อมูลมาแจ้งพี่สุดใจ และเพื่อนๆ เพื่อทราบครับผม
http://palungjit.org/showthread.php?t=101189&page=2

 

เข้ามาเขียนกันเยอะๆ นะจะได้อ่านได้ความรู้มากๆ
สนใจเรื่อง UFO มานานแต่ไม่รู้จะหาข้อมูลที่ไหน

 

พี่สุดใจขอตอบคำถามที่หลายท่านมีความสงสัยเกี่ยวกับความฝัน เพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยนะคะ<O</O
<O</O

มนุษย์ต่างดาว ได้สื่อสารผ่านยังมนุษย์โลกได้หลายรูปแบบ <O</O
<O</O

สื่อสารผ่านทางสมาธิ สำหรับบุคคลที่ทำสมาธิเป็นปกติ มีการสัมผัสคลื่นพลังงานจากเทพ จากเทวดา หรือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ได้ก็ตาม มนุษย์ต่างดาว ก็สามารถส่งคลื่นมาติดต่อสื่อสารด้วยได้ สามารถรับรู้ข้อความ สนทนา และมีการเห็นภาพต่าง ๆ ผ่านทางสมาธิได้<O</O
<O</O

สื่อสารผ่านทางความฝัน บางครั้งนอนหลับไป ก่อนนอนที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องใด ๆ เลย แต่มีการฝันเห็นมนุษย์ต่างดาว ฝันเห็นเหตุการณ์ที่มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง การฝันจะมีความชัดเจนเหมือนจริง จะจำลักษณะต่าง ๆ ได้ และการฝัน จะฝันซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง แต่เป็นรูปแบบต่าง ๆ และบางครั้ง ความฝันนั้นก็จะมีการบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า หรือสิ่งที่จะได้พบเจอ เมื่อถึงเวลาดังกล่าว ก็พบเจอสิ่งนั้นเหมือนกับความฝันทุกประการ
<O</O
<O</O
ขอยกตัวอย่างบางตัวอย่างเรื่องความฝันมาให้ทราบ <O</O
<O</O

พี่สุดใจได้มีโอกาสไปร่วมเปิดสถานปฏิบัติธรรมปรียนันท์ธรรมสถาน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้สนทนากับ คุณจินดา สมาชิกท่านหนึ่งของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ได้เล่าประสบการณ์ของคุณจินดา ที่ประสบมาให้พี่สุดใจได้รับทราบ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ และเพื่อเป็นข้อมูลเทียบเคียงให้กับหลาย ๆ ท่านด้วยค่ะ<O</O
<O</O

พี่สุดใจ ได้รับเกียรติจากกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ โดยคุณคณานันท์ เป็นตัวแทนเชิญพี่สุดใจเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มสมาชิกฯ ที่สวนลุมเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2550 นั้น และได้ให้พี่สุดใจเล่าเรื่องเกี่ยวกับงานเตรียมการณ์เรื่องภัยพิบัติของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ให้สมาชิกของกลุ่มพลังจิตฯ ได้รับทราบด้วย ซึ่งมีผู้มาร่วมรับฟังจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นก็คือ คุณจินดาและครอบครัว<O</O
<O</O

คุณจินดาเล่าว่า หลังจากฟังพี่สุดใจได้เล่าให้ฟังในวันนั้นแล้ว กลับไปบ้านคืนนั้น ฝันว่า

 

ไปงานวันที่ 11 ค่ะ ตั้งใจใส่เสื้อแดง จริงๆจะไปฟังพระอาจารย์ใหญ่ แต่ได้เจอ อ. เทพนม พี่สุดใจ และอ. สถิตย์ธรรมแทน ช่วงจูนคลื่นเห็นเขายกท่าบัวบานกันก็จะยกตามบ้าง แต่เขิน ไปๆมาๆช่วงสุดท้ายก็ทนไม่ได้ยกขึ้นเป็นบัวบานเหนือศีรษะอยู่นาน

ศุกร์ 16 พย ไปมุกดาหาร ลูกสาวฝันว่ามนุษย์ต่างดาวสูงสักสองฟุตตาโตสีดำ ผิวสีเขียวนิ่มๆใส่มงกุฏ(เป็นเจ้าหญิง)มาอนุโมทนาบุญ เขาไปในอนาคตรู้ว่าเรามาทำบุญใหญ่ก็เลยมาอนุโมทนา

วันเสาร์ลูกบอกให้สวดมนต์บอกว่าถ้าจิตแม่นิ่งอาจติดต่อต่างดาวได้ (มีต่อ)

 

คืนนั้นไปกัน 16 คนเดินขึ้นเขาไปดุฝนดาวตก สวดมนต์ตั้งจิตขอรับแต่ของดีๆพลังดีๆ มองเห็นดาวที่ไม่ใช่ดาวมากมาย เพราะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งดวงดาว มียานรูปซิก้าร์ด้านข้างมีไฟกระพริบสีขาวสี่จุด ขอบยานเป็นสีเงินเบลอๆ แต่อยู่ไกลมาก

สักพักมีดวงไฟใหญ่ปรากฏทางซ้ายกลมโตขนาดอุ้งมือ รอบๆเป็นรัศมีบานออกเหมือนถาดกลมสะท้อนแสง มีร่างถือไฟนี้เดินเข้ามาใกล้ พวกเรานั่งกลางถนนมืดๆราวห้าทุ่ม ถ้าเป็นชาวบ้านคงตกใจและไถ่ถามกัน แต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นคน เขาเดินผ่านหน้า มองไฟด้านข้างเป็นกลีบบัวสี่ห้ากลีบเรืองแสงขาวนวลสวยเหลือเกิน ยังคิดว่าเขาซื้อไฟฉายสวยๆที่ไหนหนอ แต่ไฟนี้ไม่มีดวงบนพื้นดิน ผู้ถือสูงสักสี่ฟุตครึ่ง ไม่เห็นรอยแขนเสื้อหรือผ้านุ่งเห็นตัวเป็นตัวดำๆเพราะไม่มืดสนิท พอเขาผ่านไปก็ชี้ชวนเพื่อนดูจานบินรูปซิการ์ต่อ แล้วก็ลืมเรื่องนี้ไปสองวัน ลืมไปเลยจริงๆเหมือนถูกทำให้ลืม กลับไปที่พักคุยกันก็คุยเรื่องเสียงสวดมนต์ เรื่องยานรูปซิการ์ ฯลฯ

จากนั้นลูกสาวบอกให้หลับตาทำสมาธิรับพลัง ทนไม่ได้จึงไปยืนหันหน้าสู่ทิศที่เริ่มเห็นดวงไฟ ไปๆมาๆก็ยกมือเป็นบัวบานอีกแล้ว มีลมเย็นๆพัดผ่านตลอด ลูกบอกว่ามือข้างไหนเย็นจะเป็นมือที่ได้พลังมากกว่าอีกข้าง

ก่อนกลับที่พักลุกสาวชี้ให้ดูบนฟ้า มีแสงที่ไช่ดาวสามสี่ดวงกระพริบ ลุกบอกเป็นรหัสว่าลาก่อน กลางฟ้ามีดวงสว่างหมู่เล็กๆ ลูกบอกว่าอ่านว่าเพื่อน

คืนนั้นลูกสื่อต่างดาวได้หลายกลุ่ม เขาบอกว่าแม่ไม่ต้องห่วงเขาจะช่วยเหลือคนที่แม่รัก และเขามาให้เห็นให้คุ้นเคยตอนจะช่วยกันจะได้ไม่ตกใจ

คุยกับคุณคณานัน์ืวันที่19 หลังเที่ยง เพิ่งนึกขึ้นได้ เล่าว่ามีใครไม่รู้ถือไฟรูปดอกบัวสวยเดินผ่านหน้าแต่ไม่ทักเราสักคำ คุณคณานันท์รีบถาม "พี่คิดหรือว่าเขาเป็นมนุษย์"

555 ตอนนี้รู้แล้วค่ะว่าไม่ใช่ คราวหน้ามาคุยกันหน่อยเน้ออย่าเดินผ่านเลย

เมื่อวานไปประจันตคามกับคุณคณานันท์ก็มีมาบินให้ดูแถวองครักษ์ เป็นสามเหลี่ยมคว่ำมีจุดต่อท้ายสองจุด มองมากไม่ได้ขับรถอยู่จ้า เลยโบกมือ say hi

โชคดีเจอต่างดาวกลุ่มน่ารัก สามีกลัวเขาเอาเราไปเลี้ยงทำแฮมเบอร์เกอร์ค่ะ (ดูหนังมากไปหน่อย)

ปล. วันอังคารเช้าคุยกับชาวบ้านที่บ้านเป้าที่ไปทอดกฐิน เขาบอกว่าที่เห็นบ่ใช่คนดอก อ. คิดยังไงไปนั่งอยู่หลังป่าช้า มืดๆตรงเขาหลังวัดตรงนั้นไม่มีใครเขาเดินกันหรอกเขากลัวป่าช้า 555

 

สวัสดีค่ะคุณAstro neemo
พอจะจำดิฉันได้ไหมค่ะ ดิฉันได้เคยพบคุณAstro neemo ตอนที่ไปนั่งสมาธิด้วยกันที่บ้านอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีนบุรีไม่นานมานี้ ก่อนวันที่จะจัดงานUFO

ตอนนั้นดิฉันทักคุณ Astro neemo ว่า คุณเป็นผู้ที่เข้ามาเขียนกระทู้ในเวบพลังจิต เรื่องงานประชุมUFOใช่หรือไม่ เพราะจำรูปภาพของคุณในเวบได้ และแจ้งว่าดิฉันอยากจะไปร่วมประชุมด้วยแต่ติดธุระจึงไม่ได้ไป

สรุปว่า ดิฉันมีเหตุการณ์แปลกๆที่จะเล่าให้ฟังก็คือ หลังจากงานประชุมUFOผ่านไป ดิฉันได้เข้ามาอ่านข้อมูลในเวบนี้บ่อยๆเพื่อติดตามดูว่าในงานประชุมนี้กล่าวถึงเรื่องอะไรบ้าง เพราะไม่ได้เข้าร่วมประชุม

ที่แปลกคือ ไม่กี่วันมานี้ดิฉันมีความรู้สึกว่ามนุษย์ต่างดาวทราบว่าดิฉันสนใจเรื่องนี้
เมื่อ5-6วันก่อนขณะที่เดินอยู่กลางแจ้ง ดิฉันเกิดความคิดว่าอาจจะมียานของมนุษย์ต่างดาวลอยผ่านอยู่บนฟ้า ดิฉันจึงมักจะมองไปบนท้องฟ้าบ่อยๆ แต่ก็ไม่เจออะไร อดคิดแปลกใจตัวเองไม่ได้ว่า สงสัยเป็นเพราะเราคงอยากเห็นยานของมนุษย์ต่างดาวมากเกินไปเอง
ปรากฏว่าคืนนั้นขณะนอนหลับอยู่ใกล้จะสว่าง ดิฉันฝันประหลาดมาก ไม่เคยฝันแบบนี้มาก่อนในชีวิต
เนื้อหาในความฝันก็แปลกประหลาดแต่ไม่ขอเล่าในรายละเอียดก็แล้วกันนะค่ะขอสรุปว่า ที่แปลกที่สุดในความฝันนี้ก็คือ ดิฉันฝันซ้อนฝันถึง2ครั้ง หมายความว่า ดิฉันพบว่าตนเองกำลังตื่นนอนอยู่บนเตียงแล้วและกำลังคิดว่าทำไมตนเองเพิ่งฝันประหลาดจังและระหว่างที่คิดว่าตนเองตื่นอยู่ก็ได้เจอเหตุการณ์ประหลาดและสักพักดิฉันก็ตื่นอีกขึ้นมาครั้งแต่ครั้งนี้ตื่นนอนจริงๆ
ที่แปลกก็คือเหตุการณ์ตอนที่คิดว่าเราตื่นนอนแล้วมันเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนของจริงๆทุกประการ แต่แท้จริงแล้วเราก็ยังอยู่ในความฝันนั่นเอง อ่านแล้วงงไหมค่ะ

ก่อนที่จะตื่นดิฉันมีความรู้สึกว่ามียานต่างดาวลอยอยู่บนฟ้าและกำลังจะจากไป
ตั้งแต่วันนั้นความรู้สึกที่ว่ามียานต่างดาวลอยอยู่บนท้องฟ้าก็หายไปด้วย ดิฉันไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องมองบนท้องฟ้าอีก

ตอนนี้ดิฉันคิดว่าใครก็ตามที่เข้ามาอ่านในเวบนี้โดยเฉพาะในกระทู้นี้ มนุษย์ต่างดาวจะทราบค่ะ เพียงแต่เขาจะติดต่อคุณหรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อีกประการหนึ่งก็คือ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะอยู่ใกล้ตัวเราเกินกว่าที่เราคาดคิด

ดิฉันคิดว่าพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งที่ยังคงอยู่ภายใต้กฏของวัฏฏสงสารเช่นเดียวกับพวกเรา เพียงแต่พวกเขามีวิทยาการสูงกว่าพวกเรามาก เหมือนกับมนุษย์ที่มีหลากหลายเชื้อชาติภาษา ต่างกันตรงที่เขาอยู่บนดาวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ใช่โลกเราและรูปร่างไม่เหมือนพวกเราเท่านั้น

การที่เล่าเรื่องนี้ให้ทราบไม่ได้หวังให้ใครมาเชื่อดิฉันนะคะ ถือว่าเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันค่ะ

 

ผมเข้าใจความรู้สึกคุณครับ ผมเคยเป็นอยู่ครั้งนึงที่แปลกมากๆ
ผมเผลอหลับบนพื้นห้อง แล้วรู้สึกตัว รู้ว่ามันเย็นมาก ก็เลยงัวเงียลุกขึ้น
แต่ด้วยความง่วงมาก เลยพยายามดันตัวลุกนั่ง ลุกไม่ไหว มันหนาวจนชา...

ปรากฏว่าผมตื่นขึ้นมาอีกที ผมยังหลับอยู่ เมื่อกี้ฝันไปว่าดันตัวเองลุกนั่ง
ก็เลยตกใจ ดันตัวเองลุกขึ้น แต่รู้สึกหนาว เลยไม่มีแรงเท่าไหร่...

แล้วผมก็รู้สึกตัวตื่น...อีกครั้ง ผมฝันไปว่า ผมฝันว่าผมฝัน????
ครั้งนี้ลุกพรวดเลย หัวใจเต้นแรง!!!

มันเกิดอะไรขึ้น???

ที่เป็นกันบ่อย ๆ เวลางัวเงีย เรามักจะฝันว่าเราตื่น เป็นไปได้ ความกังวล
มักจะสร้างภาพในความฝันว่าเราตื่นไปทำงาน ไปเรียนแล้ว
รู้ตัวอีกทีคือฝันไป ด้วยความกังวล

แต่ผมฝันซ้อนกัน 3 ชั้นผมเลยจำได้ไม่ลืมเลือน



ท่าน ศ.ดร.นพ เทพนม เคยบอกว่ามีมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่ในเมืองไทย
หน้าตาเหมือนคนทั่วไป...
ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่า...สมาชิกบางท่าน อาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาว
เข้ามาอ่านความเห็นที่พวกเราเผยแพร่กันในเวป

แต่ที่แน่นอน ผมไม่ใช่คนนึงล่ะ ผมมั่นใจว่าผมเป็นชาวโลก
(b-smile)

 

ขออนุญาตCopyไปแจ้งคุณAstro Neemo ที่กระทู้ งานสัมมนา

 

ต่อๆ ภาค 2

ยานแบร็พคับ
เหมือนแพนเค็กเลยคับ
ฮ่่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตรงกลางเป็นกระจกใส
ส่องเห็นข้างในคับ
ไม่มีรอยต่อระหว่างหัว กับ ท้าย
กระจกทั้งผืนคับ
ตรงกลาง
พยายามใช้เม้าวาดรูปหน้าแบร็พแต่ไม่สำเร็จคับ
หล่อเกินไป
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ในที่สุดคับ
มันเป็นเนื้อเดียวกันเลย สวยมากเลยคับ
เค้ายังบอกอีกว่าก้อนหินบนนั้น ถ้าไม่รู้วิธีใช้ที่ถูกต้อง
พลังงในตัวมันสามารถรบกวนพลังงานไฟฟ้าในร่างกายได้
เหมือนกับเค้ากำลังจะบอกวิธีเดินทางด้วยโครงสร้างเครือข่ายพลังงานสนามแม่เหล็ก
หรือว่า
บอกวิธี
ใช้พลังงานสนามแม่เหล็กขับเคลื่อนยานพาหนะ
เพราะก้อนหินมันวกกลับมาที่เดิม
ถ้าบังคับได้
ก็ไปได้
แล้วก็กลับได้
โดยอัติโนมัติ
เป็นไปได้คับ
ไม่รู้สิคับ
ไม่ชอบเลยเล่น 20 คำถามกับเค้าเนี่ย
กำกวมจิงๆ
เพราะภาพที่ผมเห็นคือเค้าพาไปขึ้นยอดเขาแล้วไปยืนบนยอดเดะ เลยคับ
ก้อนหินสีขาวน้อยใหญ่เต็มไปหมด
แล้วเค้าบอกให้ขว้างออกไปใกล้ๆสุดแรงเกิด ให้หินตกไปข้างล่าง
ผมข้างไป แต่หินกลับลอยออกไปตรงๆ ลอยคว้างกลางอากาศ
แล้วค่อยๆวกกลับมา
หลังจากนั้นอีกแค่ไม่กี่วินาที ก็เหมือนกับสื่อสารกับเค้านานนับ ครึ่งชั่วโมง
เพราะข้อมูลเข้ามาแบบอัดกันเข้ามาทีเดียว
แล้วค่อยๆทยอยแตกไฟล์ออกมา
เหมืออนกับที่ผมเล่าให้ฟังคับ
ผมอยากไปที่นั่นจัง
แต่ไม่รู้ที่ไหนคับ
มันต้องเป็นที่ๆสูงที่สุด
แน่ๆเลย
เพราะเค้าบอกว่า หินเหล่านั้นไม่ถูกสนามพลัง หรือ ย่านพลังงานอื่นๆรบกวนเลย
แม้แต่น้อย

 

ช่วงแรกๆผมนั่งอยู่ข้างๆอาจารย์
แต่พอหลังเบรค ก็ไม่เห็นอาจารย์แล้ว
นึกว่าคงเบื่อคนพูด ที่มาขาย MLM
เลยกลับไปก่อนแล้วซะอีกครับ

 

Totala Eclipse > </O>
กาลครั้งหนึ่ง มีดาวดวงใหญ่ดวงหนึ่งได้กำเนิดขึ้นภายใต้เอกภพที่ไร้ขอบเขตแห่งนี้ ได้บังเกิดแตกแยกออกเป็นกลุ่มกาแล็กซีน้อยใหญ่ได้ประมาณ 100,000,000 กลุ่มดวง แต่ละกลุ่มดวงกาแล็กซีค่อยๆ แตกตัวเกิดเป็นระบบสุริยะอีกมากมายเหลือคณานับ และค่อยๆ ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ แต่มีดาวดวงหนึ่งเป็นผู้กำหนดกลไกและวัฏจักรแห่งเอกภพนี้ทั้งหมด มีชื่อพระนามว่า โตตาลา (Totala) มีลักษณะคล้ายกับดวงอาทิตย์ แต่มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ของเราเล็กน้อย จุดเด่นของดาวดวงนี้ก็คือ มีพลังแสงที่เรียกว่าฉัพรังสีที่เย็นตาเหมือนแสงจันทร์แต่เฉิดฉายกว่าจนประมาณมิได้ ภายใต้กลไกลแห่งนี้ได้ถูกรังสรรค์พลังชีวิตอินทรีย์และวัตถุอินทรีย์แห่งสรรพสิ่ง รวมทั้งป็นผู้ทำลายระบบกลไกที่ไม่เหมาะสมให้เกิดดุลยภาพและภราดรภาพ ผ่านทางกระบวนการพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ UFO ทุกสิ่งมีชีวิตได้ถูกควบคุมผ่านทางพันธุวิศวกรรมที่แยบยลและพิสดาร นั่นก็คือ DNA ที่ได้กำหนดชะตาลิขิตไว้ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ เพศ ผิวพรรณ ศาสนา บุคลิกคภาพ ความเฉลียวฉลาด และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาทดลองเชิงวิจัยด้วยตัวแปรแทรกซ้อนเหล่านี้ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดในอนาคตภายภาคหน้า....... (จบตอนที่ 1)<O></O>