หลวงพ่อเล่าเรื่อง.........จุไรชมเขาพระสุเมรุ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 27 เมษายน 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    จุไรชมเขาพระสุเมรุ

    <O:p</O:p
    ท่านผู้ฟังทั้งหลาย และท่านผู้อ่านทั้งหลาย สำหรับคืนนี้ คำว่า คืนนี้ นี่หมายถึง การบันทึก บันทึกเวลากลางคืน วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๓๒ อีกเวลาไม่กี่นาที ก็จะสิ้นปีเก่า ถึงปีใหม่ ก่อนหน้านี้ก็จะขอกล่าวคำโมทนาสักนิดหนึ่ง นั่นก็คือว่า เมื่อตอนที่แล้วมา ได้พูดถึงคณะ .อ.เจี๊ยบ ชื่อจริง ๆ อาตมาก็ไม่ทราบ ลืม จำได้แต่เรียกกันเจี๊ยบ ๆ ๆ ก็เลยเรียกเจี๊ยบไป แต่ไม่ใช่ลูกไก่ เป็นลูกคน เธอพร้อมด้วยคณะ ช่วยซื้อที่ตั้งพัดฐานานุกรรม กับกรอบใบแต่งตั้งฐานานุกรมรวม ๗ ชุด ชุดละ ๒,๖๐๐ บาท เป็นเงินทั้งหมด ๑๘,๒๐๐ บาท นี่ขอโมทนาความดีของเธอ <O:p</O:p
    แต่บรรดาท่านผู้อ่าน หรือท่านผู้ฟัง อยากจะถามว่า การทำบุญการตั้งพัดหรือที่ตั้งพัดก็ดี หรือกรอบใบแต่งตั้ง ใบตราตั้งก็ตาม ไม่เห็นจะมีอานิสงส์เป็นธรรม มีอานิสงส์เป็นโลก แต่ความจริงอาตมาก็จะขอพูดว่า การทำบุญประเภทนี้ เนื่องด้วยพัดยศที่เรียกกันว่า ยศช้าง ขุนนางพระ มันก็ไม่แปลก <O:p</O:p
    แต่ที่แปลก็คือว่า มีอานิสงส์ นั่นคือว่า อานิสงส์ในปัจจุบันที่เราจะพึงเห็นกัน ทำให้เกิดความชื่นใจกับพระที่รับการแต่งตั้ง เพราะพระที่รับการแต่งตั้งยังไม่เป็นพระอรหันต์ หรือว่าถ้าเป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปถึงอรหันต์ก็ตาม ถ้าแต่งตั้งเข้าความปีติ คือ การปีติในใจของท่าน ที่เห็นว่า บรรดาท่านที่ตั้ง มีความเมตตาปรานี จิตใจของท่านก็ชุ่มชื่น รู้สึกว่า มีกำลังใจปฏิบัติธรรมะมากขึ้น ตามพระธรรมวินัย<O:p</O:p
    สำหรับพระฐานานุกรรมก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานานุกรม ตามปกติแล้ว ไม่ทราบว่าตัวเองจะได้รับฐานะอย่างนั้น เพราะอยู่ ๆ ท่านผู้บังคับบัญชาก็เลือก ตั้งขึ้นมาเฉย ๆ ในเมื่อไม่ได้คิดไว้ก่อน อาการเกิดขึ้นแบบนั้นก็เกิดมีปีติ คือ ความอิ่มใจ นี่เป็นของธรรมดาสำหรับพระ ถ้าถือว่า พระ ทำไมอิ่มใจในโลกียวิสัย ก็ถือว่า ท่านยังอยู่ในโลก ความปลื้มใจ ความอิ่มใจที่เกิดขึ้น อย่างพระฐานานุกรมก็ปลื้มใจ อิ่มใจ ในฐานะที่ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจ สำหรับพระราชาคณะที่ได้รับแต่งตั้งก็มีความชื่นใจในฐานะที่ได้รับความเมตตาปรานีจากท่านผู้ใหญ่ <O:p</O:p
    ถ้าถามว่า ไม่เป็นโลกียวิสัยหรือ ก็ขอตอบว่า ถ้าเป็นโลก ก็เป็น โลกไม่ช้ำ ถ้าเป็นธรรม ก็เป็นธรรมไม่เสีย ก็หมายความว่า การดีใจ ความปลื้มใจ มีความกตัญญูรู้คุณยินดีในความดีที่ท่านสนองให้ อย่างนี้ โลกไม่ช้ำ โลกมีแต่ความปีติมีแต่ความอิ่มใจ มีแต่ความปลาบปลื้ม มีแต่ความสุข<O:p</O:p
    สำหรับบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ ของพระที่ได้รับการแต่งตั้งต่างคนต่างก็ปลื้มใจไปตาม ๆ กัน นี่ว่ากันทั้งทางโลก และทางธรรม มาว่าทางธรรมจริง ๆ ถ้าเราจะคิดกันไป ยศช้าง ขุนนางพระ ย่อมมีความหมายน้อย สำหรับการมองเห็น แต่ถ้าใช้กำลังวิปัสสนาญาณช่วยนิดเดียว ก็เห็นว่า ท่านที่ได้รับยศ ถ้าท่านองค์ใดไม่เมาในยศ ก็แสดงว่า ท่านองค์นั้นจิตเข้าถึงธรรมมาก ท่านองค์ใดได้รับมีความเมาในยศ ก็แสดงว่า กุศลธรรมกรรมที่สร้างไว้ในกาลก่อนดีมาก แต่เวลานี้ได้รับผล ถึงแม้ตนจะเมาไปบ้าง ก็เมาไม่นาน เพราะของอย่างนี้ เมาไม่นาน เพราะอะไร <O:p</O:p
    เพราะความเมาในยศฐาบรรดาศักดิ์ จะเมาอยู่ครู่เดียว ประเดี๋ยวเดียวก็จะเกิดความรู้สึกว่า เราจะได้ยศขนาดนี้ จะดีขนาดไหน สูงส่งขนาดไหนก็ตาม เราก็แก่ไปทุกวัน ความทุกข์ใด ๆ ที่มีอยู่ ยศก็ไม่สามารถจะคลายความทุกข์ได้ ทุกข์จากความแก่ก็คงมี ทุกข์จากความป่วยไข้ไม่สบายก็คงมี ทุกข์จากความหิวกระหายก็ยังมี ทุกข์จากความพลัดพรากจากของรักของชอบใจก็ยังมี ทุกข์จากความตายก็ยังมาถึง ในเมื่อคิดอย่างนี้แล้ว ความเมาก็สลายตัว เป็นธรรมะ แต่ใครจะคิดบ้าง หรือไม่คิดบ้างก็ตามใจ นี่พูดถึงอานิสงส์<O:p</O:p
    สำหรับอานิสงส์ของผู้ให้ มีอานิสงส์อย่างไร ถ้าว่าก็ยังไม่ถึงนิพพาน ก็ขอนำพระบาลีที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ปูชโก ลภเต ปูชํ วนทโกปฏิวนทนํ ถ้าเราไหว้ท่าน ท่านก็ไหว้ตอบ ถ้าเราบูชาท่าน ท่านก็บูชาตอบ อย่างนี้ สำหรับคนที่สนับสนุน ให้เครื่องตั้งก็ดี ให้กรอบใบตราตั้งก็ดี ซื้อพัดให้ก็ตาม สนับสนุนอย่างอื่นก็ตาม แม้แต่งานฉลอง เป็นการแสดงความยินดีของท่าน นี่มองแล้วดูเป็น โลกียวิสัย ถ้ามองไปอีกทีหนึ่ง ในฐานะที่เราให้เขาไหว้เรา เราก็ไหว้เขา เขาก็ไหว้เรา เราอยากให้เขายิ้มกับเรา เราก็ยิ้มกับเขาก่อน เขาก็ยิ้มกับเรา เราอยากให้เขาก้มศีรษะให้เรา เราก็ก้มก่อน เขาก็ก้มให้เรา ข้อนี้ฉันใด แม้แต่ความดีที่ท่านทั้งหลายทำเนื่องด้วยยศ ในชาตินี้ก็ดีชาติหน้าก็ตาม<O:p</O:p
    ความเป็นมาระหว่างการได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างทันตาเห็น ถ้าไปในชาติหน้า จะมีศักดิ์ศรีใหญ่อย่างคาดไม่ถึง นี่ก็มาว่ากันอย่างย่อ ๆ แล้ววันนี้ก็มี คณะกมล ลืมชื่อ เขาเอาบัญชีไปเสียแล้ว ตอนหลังจะอ่านชื่อประกาศให้ทราบ มาถวายปัจจัยพิเศษ ๑๐,๐๐๐ บาท ถือว่าเป็นของขวัญวันปีใหม่ หรือส่งปีเก่า รับปีใหม่ แล้วก็มีอีกหลาย ๆ คน มีขนิษฐา ๑๐๐ บาท แล้วก็มีใครอีกล่ะ พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ประกาศเมื่อวานแล้ว แล้วก็ .ญ.บังอร นักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา เอาสตางค์จากแม่ให้กินขนม ทำบุญให้เป็นของขวัญปีใหม่อีก ๑๐ บาท<O:p</O:p
    ความจริงบรรดาท่านผู้อ่าน และท่านผู้ฟัง ความรู้สึกของอาตมาผู้พูด มีความรู้สึกว่า ปีใหม่ ถ้าเราจะส่ง .ค.ส. ให้กัน เป็นการส่งความสุข ความจริง พรใน ส.ค.ส. ก็ไม่ค่อยได้เขียนเองกันนัก ไปอ่านชอบใจฉบับไหน ก็ซื้อฉบับนั้นส่งกัน ค่าบัตร ส.ค.ส. ก็เสียสตางค์ ค่าซองก็เสียสตางค์ ค่าแสตมป์ก็เสียสตางค์ ถ้าเราจะมาคิดกันใหม่อย่างเต่าหมื่นล้านปี อาตมาถือว่า สมองอาตมานี้ เป็นสมองเต่าหมื่นล้านปี เต่าพันล้านปี ท่านเคยเห็น เคยฟังมาแล้ว แต่มาฟังความเห็นของเต่าหมื่นล้านปีดูบ้าง คำว่า ความสุข คือ สิ่งที่เราชอบใจ บรรดาวัตถุทั้งหลายในโลกนี้ เราชอบใจอะไรมากที่สุด คน ก็ถือว่า เป็นวัตถุ สัตว์ ก็ถือว่าเป็นวัตถุ คนที่เรารัก สัตว์ที่เรารัก เราชอบใจมาก <O:p</O:p
    แต่สิ่งที่ชอบใจเหนือสิ่งใด สิงในใจตลอดเวลา นั่นคือ เงิน สมมติว่า ถ้าเราจะซื้อบัตร ส.ค.ส. สัก ๓ บาท หรือว่าสัก ๕ บาท หรือ ๑๐ บาทก็ตาม ราคาเท่านั้นเราไม่ซื้อละ เราจะเอาสตางค์สัก ๓ บาท หรือ ๕ บาท ใส่ซองส่งให้กัน บอกว่านี่แหละ ฉันส่งความสุขปีใหม่มาให้เธอ หรือว่าฉันส่งความสุขปีใหม่มาให้คุณ อย่างนี้ท่านมีความเห็นไหมว่า ความสุขจากบัตร กับความสุขจากแบงค์ อย่างไหนจะดีกว่ากัน แต่ว่าท่านทั้งหลายฟังแล้วไม่ต้องปฏิบัติตาม เพราะว่าเป็นสมองของเต่าหมื่นล้านปี หากว่าท่านปฏิบัติตามด้วย ท่านจะเป็นเต่าไป แล้วก็เต่านานเสียด้วย ตั้งหมื่นล่านปี เป็นอันว่าต่อนี้ไป เรื่องของคนแก่ก็เลิกกัน มาว่ากันเรื่องของเด็ก ๆ ดีกว่า<O:p</O:p
    เมื่อตอนที่แล้วมา ปรากฏว่า จุไร โขยกเขยกออกจากสำนักหรือวิมานของ ท่านวิรุฬหก แล้วก็จะไปวิมานของ ท่านท้าวเวสสุวัณดูเหมือนว่า จะยังไม่ถึง ไปกอกแกก ๆ เรื่องปีใหม่เสียฉิบ แต่ความจริงระหว่างที่พูดนี่ เหลือไม่กี่นาทีก็จะปีใหม่ แต่ก็ไม่เป็นไร ยังอยู่ในเกณฑ์ปีเก่า เก่าแล้วใหม่ งวดนี้ หรือหน้านี้ผสมกันแน่ เป็นอันว่า ปีใหม่จะเข้ามาถึง จุไรก็ยังไปไม่ถึงสำนักของท้าวเวสสุวัณ เดิมทีเดียวไปไหนก็ไปเร็ว จุไรก็อยากจะดูข้างทางว่า ระหว่างที่ผ่านตามทางไปเขาเรียกว่า เขาพระสุเมรุ จริง ๆ แล้ว เขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน ไม่เคยเห็น <O:p</O:p
    ก็จึงถามท่านวิรุฬหกว่า คุณ</O:p
    ฉะนั้น ท่านนักธรรมฟังแล้ว ก็อย่าแปลกใจ คือ รูปในนามอย่างเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมก็ดี พระพุทธเจ้าก็ตาม พระอรหันต์ก็ตาม ที่นิพพานไปแล้ว เขากล่าวว่าเป็นนามธรรม แต่ความจริงสิ่งที่เป็นนามนั้น ก็มีรูปอยู่ในนาม อย่างเทวดานี่มีรูป แต่เราไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเนื้อ ตาเนื้อเห็นไม่ได้ ต้องอาศัยตาทิพย์ ตาทิพย์ ความเป็นทิพย์ของตา เป็นนามธรรม ไม่ใช่ลูกตาเนื้อเป็นทิพย์ ลูกตาเนื้อของเราไม่เป็นทิพย์ แต่ความทิพย์สิงอยู่ข้างใน เป็นตานามธรรม แต่ตานามธรรมก็มีลูกตา มีรูปเหมือนกัน หากว่าท่านทั้งหลายมีความสงสัยก็โปรดฝึกกรรมฐานด้าน วิชชาสาม<O:p</O:p
    คนที่บอกว่า สวรรค์ไม่มี พรหมไม่มี นิพพานไม่มี แต่ความจริง ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่ตั้งใจคัดค้านพระธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แสดงไว้ ท่านตั้งใจปฏิบัติตามเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหมโลก เรื่องนิพพาน เป็นของไม่หนัก ไม่หนักสำหรับคนที่มีความกตัญญูรู้คุณต่อพระพุทธเจ้า เราห่มผ้ากาสาวพัสตร์ เรามีข้าวกินได้ เพราะบารมีพระพุทธเจ้าท่าน ถ้าไม่มีบารมี ก็ไม่มีใครเขาให้ผ้ามาห่ม เพราะไม่มีใครเขาให้ มีที่อยู่อาศัย เพราะอาศัยพระพุทธเจ้า มียารักษาโรค อาศัยพระพุทธเจ้า มีจตุปัจจัยเงินทองใช้เวลานี้เกลื่อนหมด ก็อาศัยพระพุทธเจ้า มีศักดิ์ศรีใหญ่ในฐานะที่เป็นสมณเพศ ก็อาศัยพระพุทธเจ้า<O:p</O:p
    ในเมื่อทุกอย่างสำเร็จมาจากพระพุทธเจ้า แล้วพระพุทธเจ้าตรัสว่า นิพพานมี ทำไมจึงว่า เฝือก็มีหลายคนมาถามว่า นิพพานมีสภาพสูญ ใช่ไหม ก็ต้องขอตอบแทนท่านวิรุฬหกว่า นิพพานมีสภาพไม่สูญ แต่ว่า นิพพานอาจจะสูญ สำหรับคนที่สูญจากนิพพาน นั่นคือ คนที่ไร้ความดี ไม่สามารถตัดสังโยชน์ ๓ ได้ ไม่สามารถตัดสังโยชน์ ๕ หรือสังโยชน์ ๑๐ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่สามารถตัดสังโยชน์ ๓ ได้ ก็ไม่เป็นไร พยายามตั้งใจรักษาศีลด้วยความตั้งใจจริง ไม่ละเมิดศีล ระงับนิวรณ์ชั่วคราวได้ สร้างความเป็นทิพย์ของจิตให้เกิดขึ้น ที่เรียกว่า ทิพจักขุญาณ เพียงเท่านี้ ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็จะไม่สงสัยเรื่องสวรรค์ พรหมโลก และนิพพาน เพราะกำลังใจของท่านมีความสะอาดพอที่จะเห็นนิพพาน ลับลี้ลับไรได้ ถึงแม้จะเห็นอยู่ไกลแสนไกล ก็ยังเข้าใจว่า นี่คือ นิพพาน<O:p></O:p>
    แต่ถ้าสร้างกำลังใจของท่านให้ตัดสังโยชน์ได้ ๓ ได้ทรงตัวอย่างนี้ นิพพานเป็นของง่าย ยิ่งสร้างกำลังใจตัดสังโยชน์ได้ทั้ง ๕ อย่าง จะมีความมั่นคง สภาพนิพพานจะแจ่มใสยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พุทธบริษัท ทั้งชายและหญิง และภิกษุ หรือสามเณร ถ้าสามารถตัดสังโยชน์ ๑๐ ได้ ไม่มีเรื่องอะไรจะเถียงพระไตรปิฏก การคัดค้านในพระไตรปิฏกจะไม่มีกับท่านผู้นั้น เพราะท่านรู้จริงเห็นจริง ตามความเป็นจริงทุกอย่างไม่ใช่เสือกระดาษ อย่างนี้ท่านเรียกว่า เสือกระโดด เสือที่มีรัง ไม่ใช่เดินต้วมเตี้ยม วิ่งก็ได้ สามารถกระโดดก็ได้ กระโดดข้ามนรก เข้าสู่สวรรค์ ไปสู่พรหมโลก กระโดดจากพรหมโลก ไปเข้าเขตนิพพาน หรือถ้ามีกำลังมากถึงขั้นอรหันต์ กระโดดจากมนุษย์ เข้านิพพานทันที เอ้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2008
  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    ก็จะขอเล่าเรื่องของจุไรต่อไป จุไรก็ถามคุณลุงว่า ในเมื่อเขาพระสุเมรุ เป็นนามธรรม ทำไมจึงเรียกว่า เขา ลุง ก็ถามว่า ลุงเองก็เป็นนามธรรม หลานเองก็ดี คุณป้าน้อยก็ดี ท่านอินทกะทั้งสองก็ดี ที่เดินมาเวลานี้ เป็นนามธรรมทั้งหมด ทำไมหลานจึงเรียกว่า ลุง จุไรก็ตอบว่า ก็หนูเห็นลุงนี่ ลุงก็ตอบว่า ในเมื่อลุงเห็นเขาพระสุเมรุนี่ ต่างคนต่างเห็นกัน สิ่งที่เราเห็นได้ก็ถือว่าเป็น รูป แต่รูปของนาม คือ คนที่มีตาเนื้อเฉพาะ ไม่สามารถจะเห็นได้
    แล้วลุงก็ชี้ให้ดูเขาพระสุเมรุ ใหญ่มาก เขาพระสุเมรุไม่ใช่เป็นหิน สวยสดงดงาม แพรวพราวเป็นระยับ มีต้นไม้ก็เป็น ต้นไม้แก้ว มีใบไม้ก็เป็น ใบไม้แก้ว มีทางขึ้น ทางลง สวยสดงดงาม ราบรื่นทุกอย่าง ไม่มีฝุ่นละออง จุไรเดินมาเดินไป ใกล้เข้าไปๆ เดินอ้อมไปด้านทิศตะวันออก ก็มองเห็นวิมาน วิมานหนึ่ง ถามคุณลุงว่า เป็นวิมานของใคร ใหญ่มาก และมีวิมานเล็ก ๆ ล้อมรอบมา ท่านลุงก็บอกว่า นั่นเป็นวิมานของท่านท้าววธตรัฐ จุไร ก็บอกว่า เรายังไม่แวะก่อนได้ไหม ท่านลุงวิรุฬหกก็บอกว่า ไม่เป็นไรหลานรัก ยังไม่ต้องแวะก่อนก็ได้ หลานจะไปไหน<O:p</O:p
    จุไรก็บอกว่า หนูอยากจะไปวิมานของ ท้าวเวสสุวัณ เขาลือกันว่าเป็น ยักษ์ เขาเขียนเขี้ยวโง้งเง้งไปหมด คุณลุงเห็นท่านท้าวเวสสุวัณเป็นยักษ์หรือเปล่าเจ้าคะ คุณลุงก็ตอบว่า เวลาที่เข้าไปใหม่ ๆ หลานเห็นลุงเป็นยักษ์หรือเปล่า จุไรก็ตอบว่า ยักษ์ของลุงน่าเกลียดจริง ๆ พุงปลิ้น ตัวป่องป้อมคล้ายพ้อมที่เขาใส่ข้าว หัวก็โต คอก็สั้นฟันก็ขาว เขี้ยวก็โง้ง ผมก็หยิก ตาก็แดง แต่คุยไปคุยมา เวลานี้สภาพยักษ์ของลุงหายไปหมดแล้ว ลุงเอายักษ์ไปเก็บที่ไหน <O:p</O:p
    ลุงก็ยิ้มบอกว่า หลานรัก ภาพนั้นเป็นภาพหลอก หลานเคยได้ฟังว่า ท้าววิรุฬหกก็ดี ท้าวเวสสุวัณ ก็ดี เป็นยักข์ ใช่ไหมล่ะ ท้าววิรุฬหก เป็นกุมภัณฑ์ กุมภะ เขาแปลว่า หม้อ อ้วนม่อต้อ ลุงก็เลยทำตามนั้น แต่ความจริง ลุงไม่ใช่ยักข์ เป็นเทวดา ท่านท้าวเวสสุวัณ ถ้าหลานไปถึงอาจจะพบยักข์ก็ได้ แต่ว่ายักษ์อย่างนั้น หลานไม่ต้องกลัว เข้าไปใกล้ ๆ จับเขี้ยว ดึงเขี้ยวมาทิ้ง เขี้ยวหลุดไม่เจ็บ เพราะเป็นเขี้ยวปลอม จุไรก็บอกว่า หนูไม่กล้าเจ้าคะ ท่านลุงวิรุฬหกก็บอกว่า อย่าทำเลย เพราะท่านเวสสุวัณเป็นผู้ใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระโสดาบัน มาก่อนเมื่อก่อนจะตาย เอ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2008
  3. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348
    ลิงค์ธรรมะในเว็บต่างๆของหลวงพ่อ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=714 หนังสือธรรมะ (จำหน่ายที่ตึกรับแขก)
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=716
    ซีดี - วีซีดีธรรมะ (จำหน่ายที่ตึกรับแขก)<o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=901 รวมซีดีคำสอนหลวงพ่อจากเว็บไซด์ต่างๆ<o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/forumdisplay.php?fid=50 บทสวดมนต์<o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/forumdisplay.php?fid=49 สมบัติพ่อให้<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/เธฃเธงเธกเธซเธ™เธฑเธ‡เธชเธทเธญเธ„เธณเธชเธญเธ™เธ‚เธญเธ‡เธซเธฅเธงเธ‡เธžเนˆเธญเธžเธฃเธฐเธฃเธฒเธŠเธžเธฃเธซเธกเธขเธฒเธ™.24126/ <o:p></o:p>
    รวมหนังสือคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/เธชเธฒเธฃเธšเธฑเธ-เธฃเธงเธกเธšเธเธ„เธงเธฒเธก-เธ‚เธญเธ‡เธซเธฅเธงเธ‡เธžเนˆเธญ-เธเธตเนˆเธœเธกเนเธ„เธขเน‚เธžเธชเน„เธงเน‰-เธˆเธฐเน„เธเน‰เธซเธฒเธ‡เนˆเธฒเธขเน†.119666/ <o:p></o:p>
    รวมบทความ ของหลวงพ่อ ที่ joezaaaa โพสไว้ จะได้หาง่ายๆ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/สารบัญ-รวมเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำและธรรมะที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์-”.124421/<o:p></o:p>
    รวมเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำและธรรมะที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ โพสโดย teporrarit<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=zeedhama&month=25-10-2008&group=2&gblog=1 <o:p></o:p>
    ศูนย์พุทธศรัทธา อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.praruttanatri.com/meditation_club/ <o:p></o:p>
    ชมรมสมาธิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.putthawutt.com/html/actrule.html<o:p></o:p>
    รวมหนังสือหลวง

    <o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://thaisquare.com/Dhamma/sound/index.html <o:p></o:p>
    เสียงคำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และ แจก ซีดี<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.thaisquare.com/Dhamma/book/prawat_luangpopan/content.html<o:p></o:p>
    ประวัติหลวงพ่อปาน เขียนโดยหลวงพ่อ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.luangpor.com/ <o:p></o:p>
    เสียงคำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และ ขอ ซีดีได้ครับ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://scripturn.com/tag_%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99.html <o:p></o:p>
    วีดีโอ คำสอนหลวงพ่อ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.youtube.com/profileuser=alinodreamworld&view=videos&start=20<o:p></o:p>
    วีดีโอ คำสอนหลวงพ่อ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/รวมคำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ-99836.html <o:p></o:p>
    รวมคำสอนหลวงพ่อ โพสโดยคุณ mahaasia<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    และสุดท้ายครับ<o:p></o:p>
    http://palungjit.org/forums/รวมคําสอนเรื่องนิพพานของพระผู้ปฎิบัติดี-[.10/FONT]115676.html <o:p></o:p>
    รวมคําสอนเรื่องนิพพานของพระผู้ปฎิบัติดี โพสโดยคุณ ลูกวัดท่าซุง<o:p></o:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...