ภัยธรรมชาติทั้ง 4 ประการบนโลกมนุษย์...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 29 พฤษภาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,049
    [​IMG]


    หลวงพ่อเล่าเรื่อง <O:p</O:p
    สำหรับวันนี้ ก็จะขอนำเรื่องราวแห่งอุทกภัย เออ...ไม่ใช่ อาจารย์หง่า เรียกน้ำท่วม วันนี้ถือว่าเป็นที่บรรดาพุทธบริษัทและพระทั้งหมดโชคดีที่สุด และถือว่าน้ำมันขึ้นท่วมบ้านช่อง โดยเฉพาะห้องนอนของอาตมา เมื่อเช้านี้น้ำไหลเข้าไปพอดี ตรงกับวันสารทพอดี และน้ำมันสาดเข้าไปในห้องนอน (หัวเราะ) มันไหลจ๊อกๆๆๆ ดีเหมือนกัน<O:p</O:p
    เป็นอันว่า ภัยทั้งหลายเหล่านี้ ย่อมมีมาแต่โบราณกาล ไม่ใช่มีแต่เดี่ยวนี้<O:p</O:p
    ภัยอันตรายมี 4 ประการ<O:p</O:p
    ถ้าจะถามว่า ภัยอย่างนี้มันมีขึ้นมา เพราะอาศัยบาปอะไรเป็นเหตุ เพราะว่าเป็นด้วยกันทั้งบ้านทั้งเมือง ถ้าหากว่าเป็นเพราะบาปจริงๆ อย่างนี้จะต้องมีเหตุเฉพาะบุคคล เช่น บ้านของเราอยู่ดีๆ บ้านของชาวบ้านอยู่ดีๆ น้ำมาด้วยกันทั้งหมด ปรากฏว่าบ้านเราท่วมทั้งหมด ปรากฏว่าบ้านเราน้ำท่วมทรัพย์สินทั้งหลายจมน้ำทั้งหมด อย่างนี้จึงชื่อว่าบาป อย่างนี้ถือว่าเป็นภัยธรรมชาติ และก็โลกนี้มันเป็นอย่างนี้ โลกนี้ย่อมมีอันตรายปรากฏอยู่ประจำ 4 ประการ คือ<O:p</O:p
    (1)อุทกภัย ภัยที่เกิดจากน้ำ<O:p</O:p
    (2)วายภัย ภัยที่เกิดจากลม<O:p</O:p
    (3)อัคคีภัย ภัยที่เกิดจากไฟ<O:p</O:p
    (4)โจรภัย ภัยเกิดจากโจร<O:p</O:p
    ภัยทั้ง 4 ประการนี้เกิดเป็นประจำโลก ถ้าเรายังปรากฏว่า เรายังอยู่ในโลกเพียงใด ก็ไม่มีบุคคลใดที่จะหลีกเลี่ยงภัยทั้ง 4 ประการนี้ได้<O:p</O:p
    บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการ<O:p</O:p
    ฉะนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงแนะนำให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายหลีกหนีจากภัยทั้ง 4 ประการ โดยตั้งใจบำเพ็ญกุศลเพื่อนพระนิพพานหรือไม่ตั้งใจก็ตามที แต่ว่าจริยาของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายเหล่านี้ ก็ทำเพื่อพระนิพพานอยู่แล้ว คนที่จะไปนิพพานได้นั้น องค์สมเด็จพระประทีปแก้วตรัสว่า<O:p</O:p
    (1) บุญประกอบด้วย ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน เป็นปัจจัยตัด โลภะ ความโลภ<O:p</O:p
    (2) สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีลและศีลจะมีขึ้นได้ก็อาศัยความเมตตา กรุณา ทั้ง 2 ประการเป็นปัจจัย ตัดความโกรธ<O:p</O:p
    (3) ภาวนามัน บุญสำเร็จด้วยการเจริญในด้านจิตใจ เวลาที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายกำลังสดับรับพุทธพจน์เทศนา จัดว่าเป็น ภาวนามัย มันการตัดโมหะ ความหลง<O:p</O:p
    เป็นอันว่า การทำบุญวันนี้ของท่าน ตรงจุดทั้ง 3 ประการ ท่านจะตั้งใจไปนิพพานหรือไม่ตั้งใจจะไปนิพพาน แต่ว่าเวลานี้กำลังใจของท่านกำลังเดินไปใกล้นิพพานทุกขณะ เมื่อบุญบารมีนี้เต็มที่เมื่อใด ความดีของท่านพุทธบริษัททั้งหลายเหล่านี้มาแสดงแก่บรรดาท่านพุทบริษัท อาจจะคิดว่า คนอย่างเราๆ พอจะพบภัยอย่างนี้ แต่คนที่เกิดมาพบองค์สมเด็จพระชินศรี มีความเสื่อมใสพระพุทธเจ้าแล้วก็ได้เป็นอริยเจ้าด้วย และก็ป็นในสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีชีวิตอยู่ด้วย ก็ยังไม่สามารถจะช่วยให้อริยเจ้าท่านนั้นพ้นภัยได้<O:p</O:p





    บุคคลตัวอย่าง

    <O:p</O:p
    สำหรับอริยเจ้าท่านนั้น ได้แก่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านชนกับภัย 2 ภัย คือภัยโจรและอุทกภัย ทั้ง 2 ประการ<O:p</O:p
    ความเดิมมีอยู่ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสมัพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว สมเด็จพระประทีปแก้วก็ทรงเทศน์สอนบรรดาพุทธบริษัท<O:p</O:p
    ครั้งเข้าไปในเขต กรุงราชคฤห์มหานครเวลานั้นองค์สมเด็จพระชินวรทรงเทศน์โปรด พระเจ้าพิมพิสาร ต่อมาก็มีมหาเศรษฐี กับนางวิสาขามหาอุบาสิกา นั้นมีเงินนับไม่ได้ รวยที่สุดในสมัยนั้น<O:p</O:p
    แต่สำหรับ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มีทรัพย์สำหรับใช้จ่าย 80 โกฏิ สำหรับที่เป็นสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ยังมีอีกมาก ก็มีความเสื่อมใสองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ฟังเทศน์จบเดียวครั้งแรกเป็นพระโสดาบัน<O:p</O:p
    หลังจากนั้น ท่านก็มีความเลื่อมใสองค์สมเด็จพระภควันต์และพระอริยสงฆ์ตลอดมา<O:p</O:p
    มาในครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า กรรมในอดีตที่มาประสบกับ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ในวาระนั้นปรากฏว่า คนใช้ในบ้านก็ดี คนที่กู้เงินทองของท่านก็ดี เขาพากันโกงท่านทั้งหมด เขากู้เงินไปแล้ว เขาก็โกง เขาไม่ยอมส่งคืน ไอ้คนรับใช้ในบ้านก็ทุจริต คิดไม่ชอบนายกับเจ้านาย เมื่อเจ้านายเผลอ เมื่อไรก็ขโมยข้างของเงินทองภายในบ้าน และเอาไปตามที่จะเอาไปได้ ปรากฏว่า เงินทองของท่านที่จะพึงมีใช้หร่อยหรอลงไปมาก สำหรับทรัพย์สินที่ท่านมหาเศรษฐีมีเวลานั้นไม่มีธนาคาร จึงเอาไว้ใกล้ริมแม่น้ำชายทะเลหมด ปรากฏว่าท่านมหาเศรษฐีต้องกลายเป็น มหาทุคคตะ <O:p</O:p
    คำว่า มหาคุตคตะ นี่แปลว่า เป็นคนจนที่สุด คือว่าท่านจนลงเป็นอันว่า เวลาจะกินข้าว ไอ้ข้าวดีๆ ก็ดี ข้าวที่เม็ดธรรมดาก็ดีไม่มีจะกิน ท่านต้องใช้ปลายข้าวที่ละเอียดต้มเป็นข้าวต้ม แล้วกินกับผักดองเป็นกับ กินปกติ นี่คนที่เป็นมหาเศรษฐีกินดีอยู่ดี ปรากฏชนภัยทั้งสอง 2 ประการนี้ คือ <O:p</O:p
    โจรภัย คนโกงก็ดี คนขโมยก็ดี เขาเรียกว่า โจรภัย ภันนี้เบียดเบียนหนึ่ง<O:p</O:p
    และมา อุทุกภัย เบียดเบียนอีกประการหนึ่ง ถึงแม้ว่าท่านจะจนลงไปขนาดนั้นก็ปรากฏว่า ท่านมหาเศรษฐีไม่เสื่อมศรัทธาในพุทธศาสนา <O:p</O:p
    เจตนานาทั้ง 3 ประการ<O:p</O:p
    วันหนึ่ง องค์สมเด็จพระสัมมสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยอริยสงฆ์ทั้งหลายเสด็จไปในเมืองนั้น ท่านมหาเศรษฐีได้อาราชธนาองค์สมเด็จพระภควันต์ไปฉันภัตตาหารที่บ้าน อาหารก็ทำอย่างดีที่สุด เดิมเคยถวายข้าวมธุปายาส แต่วันนั้นปรากฏว่า ตั้งแต่องค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ต่างองค์ต่างก็ฉันปลายข้าวละเอียดที่เรียกว่า ข้าวปลายเกวียน ต้มแล้วก็มีน้ำผักดองเป็นกับ เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าก็ดีบรรดาพระสงฆ์ก็ดี ท่านฉันเป็นปกติ<O:p</O:p
    เพราะพระถือว่าต้องทำตนเป็นคนเลี้ยงง่าย มีอย่างไรก็กินอย่างนั้น ไม่ใช่เลือกฉันตามอัธยาศัย จะเป็นที่กวนใจชาวบ้าน <O:p</O:p
    เวลาที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงฉันเสร็จด้วยเวลาที่พระพุทธเจ้าฉันเขาจะไม่รบกวนเวลาฉันเสร็จ ท่านมหาเศรษฐีก็ไปเข้าเฝ้า ท่านนั่งอยู่ใกล้ๆ ก็กราบทูลถามทว่า ภันเต ภควา ข้าแต่สมเด็จผู้เจริญพระพุทธเจ้าข้า เวลานี้ทานของข้าพเจ้าเศร้าหมองนั้นหมายความว่าอย่างไร ? ท่านเศรษฐีกราบทูลองค์สมเด็จพระจอมไตรว่า<O:p</O:p
    สมัยก่อน สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยอริยสงฆ์มาที่นี่ ข้าพเจ้ายังมั่งมีทรัพย์อยู่มาก จึงถวายอาหารที่มีรสเลิศ 5 ประการ ที่เรียกว่าข้าวมธุปายาส แต่เวลานี้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าและอริยสงฆ์ทั้งหลายมา ข้าพเจ้ากลายเป็นคนจน ข้าวหักไม่มีจะกิน ข้าวเม็ดก็ไม่กิน เพราะว่ามันจนมาก ต้องถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยข้าวเกวียน คือข้าวปลายละเอียด และบรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายใช้ข้าวต้มแล้วก็ใช้น้ำผักดองเป็นต้น จึงจัดว่าทานของข้าพเจ้าเศร้าจึงตรัสถามว่า ก่อนจะให้ข้าพเจ้าจะถวายทาน เวลานี้ให้ก้เต็มใจถวายด้วยความยินดี เมื่อให้แล้วก็มีความผ่องใส ในใจคิดว่า โอ้หนอ...เวลานี้ สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสมัมมาสัมพุทะเจ้ามาปลงความชั่วของเราออกจากใจ คือทำลายโลภะ ความโลภให้ออกไปจากจิต<O:p</O:p
    เมื่อองค์สมเด็จพระธรรมสามิสรได้สดับแล้วจึงตรัสว่า<O:p</O:p
    ดูก่อนเศรษฐี ลูขังวา ปณีตังวา สำหรับของที่ให้ ที่เรียกว่าทานที่ให้เป็นของดีก็ตามเป็นของเลวก็ตาม ที่เรียกว่าเป็นของประณีตก็ตาม เป็นของไม่ประณีตก็ตาม <O:p</O:p
    ถ้าเจตนาของบุคคลผู้ให้ ให้พร้อมด้วยเจตนาของผู้ให้ พร้อมด้วยเจตนาทั้ง 3 ประการ คือ <O:p</O:p
    (1)ก่อนจะให้ ตั้งใจว่าจะให้<O:p</O:p
    (2)เวลาให้ ก็มีความเต็มใจ<O:p</O:p
    (3)ให้แล้วเกิดความเลื่อมใสขึ้นมาในใจ โอ้หนอ...ทานนี้ได้ให้แล้วสมความปรารถนา<O:p</O:p
    อย่างนี้สมเด็จพระบรมศาสดาทรงกล่าวว่า<O:p</O:p
    ทานนี่จะเป็นของเลวก็ตาม ของดีก็ตามจัดว่ามีอานิสงค์เลิศทั้งหมด<O:p</O:p
    เป็นอันว่า องค์สมเด็จพระบรมสุคตทรงไม่ได้มองดูวัตถุทาน มองดูแต่ใจของบรรดาพุทธบริษัทเท่านั้นที่ถวายทาน เพราะชื่อว่าทานที่เขานำมาถวายพระนี่ ส่วนใหญ่จริงๆ แล้วท่านเจ้าของทานมักจะไม่ค่อยได้กินทานนั้น บางทีของตนเองทำขนาดนี้ กินขนาดนี้ แต่เวลาทำบุญให้ทาน ทำให้ดีกว่าพึงมีได้ พึงทำได้ ก็เป็นอันว่า กำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายที่ให้ทาน ก็ต้องให้ทานตามกำลังทรัพย์ที่จะพึงมี และก็ทำดีที่สุดจะพึงได้ ก็ถือว่าทานทั้งหมดเป็นทานเลศ อย่างนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเรียกว่า สามีทาน คือ เป็นทานที่มีกำลังอานิสงค์สูงสุดในเขตทานทั้งหมด<O:p</O:p
    เป็นอันว่า อานิสงค์ของทานนั้น เศรษฐีที่ต้องจนเพราะโจรภัยก็ดี จนเพราะอุทกภัยก็ดี ไอ้ภัยเหล่านั้นมาตัดรอนในระหว่างท่านกลางนั้น ก็เช่นเดียวกับบรรดาท่านพุทธบริษัทที่กำลังถูกน้ำท่วมอยู่ในเวลานี้ อาตมาก็ถูกเหมือนกัน มันก็ถูกชั่วคราว ไม่นานนัก นี่ความจริงน้ำมันหยุดขึ้นถ้าฝนไม่ตก เมื่อวานนี้ตั้งแต่เช้ายันเย็น ระดับน้ำไม่ได้ขึ้น มันก็ยังมีแต่ทรุดลงกับน้อยลงไป แต่บังเอิญเมื่อคืนฝนตกใหญ่ น้ำขึ้นมา ก็ไม่กี่เซ็นต์ประมาณสัก 2-3 นิ้ว เข้าใจว่าวันนี้จะเท่าระดับเดิม อันนี้เป็นของธรรมดา แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ดี สำหรับน้ำมาคราวนี้ เราก็มีโชค 2 ชั้น ฮึ ตาหว่า เอ๊ย <O:p</O:p
    สำหรับบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทก็เช่นกัน แต่ก็ถือว่าโชคนี้นั้นเป็นโชคชั่วคราว ไม่เท่ากับอนาถบิณฑิกเศรษฐีไอ้โชคอันนี้ ของท่านซวยที่สุด จนถึงขั้น มหาทุคคตะ ข้าวเม็ดไม่มีจะกิน ข้าวหักไม่มีจะกินและความดีของท่านมหาเศรษฐีก็ยังอยู่ แต่มันเป็นกรรมชั่วคราว<O:p</O:p
    รุกขเทวดารักษาอยู่หน้าบ้านของท่านมหาเศรษฐี<O:p</O:p
    ต่อมาเมื่อเวลาองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากลับไปแล้ว ท่านนอนอยู่ในห้องของท่านทหาเศรษฐี ปรากฏว่าเทวดาองค์หนึ่งเป็นรุกขเทวดา เมื่อเป็นเทวดาก็หลงผิดคิดว่าตัวเองเป็นผู้ประเสริฐ<O:p</O:p
    เหมือนกับคนที่เกิดมาได้เป็นคนได้ ก็เพราะอาศัยศีล 5 <O:p</O:p
    จะมีของกินของใช้เพราะอาศัยทาน<O:p</O:p
    จะมีปัญญาได้ก็เพราะอาศัยการอบรมธรรม<O:p</O:p
    พอเกิดมาเป็นคนลืมความตาย ทำลายศีล 5 เสียบ้าง ทำลายทานเสียบ้าง ไม่สนใจในธรรมะบ้าง ตายไปแล้วเกิดเป็นคนใหม่ไม่ได้ ต้องเกิดในอบายภูมิ<O:p</O:p
    สำหรับเทวดาองค์นี้ก็เหมือนกัน ท่านลืมตัว มีความเลื่อมไม่ใสในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหตุที่ไม่เลื่อมใสเป็นอย่างนี้ เพราะว่าองค์สมเด็จพระชินศรีก็ดี พระอริยสาวกทั้งหลายก็ดี เป็นผู้ที่มีอานุภาพมาก เขารักษาเขตอยู่หน้าประตูบ้าน เวลาจะเดินลง จะลอดประตูบ้านเข้ามา แกอยู่ข้างบนไม่ได้ แกต้องลงจากวิมาน ถึงคราวพระจะลอดผ่านไป แกก็ลงมาอีกเพราะวิมานของเขาอยู่ที่หน้าประตู เป็นอย่างนี้ เป็นเหตุให้เทวดาองค์นั้นขัดใจในองค์สมเด็จพระบรมครูและพระอรหันต์ทั้งหลาย และเห็นท่านจนลงอย่างนั้น<O:p</O:p
    ในเวลากลางคืน ก็แสดงตนให้ปรากฏมีแสงสว่าง แสดงตนเป็นเทวดา ท่านมหาเศรษฐีท่านอยู่<O:p</O:p
    และก็แนะนำต่อไปว่า การเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระบรมครูและพระอรหันต์ไม่เกิดประโยชน์ ท่านจะยากจนลงไปอย่างนี้อีก เพราะพระพวกนี้เบียดเบียนท่าน ขอท่านจงเลิกคบสมเด็จพระจอมไตรและพระอริยสงฆ์เสียให้หมด <O:p</O:p
    เป็นอันว่า ท่านมหาเศรษฐีท่านเป็นพระโสดาบัน ท่านมหาเศรษฐีไม่ชอบใจเทวดา จึงใช้ศัพท์ว่า<O:p</O:p
    อัปเปหิ เธอจงไปจากที่นี้<O:p</O:p
    ด้วยกำลังของพระโสดาบัน เทวดาก็ทนอยู่ไม่ได้ ต้องไป เมื่อไปแล้วไม่ที่อยุ่ เพราะวิมานของรุกขเทวดาต้องแตะยอดไม้ หรือว่าแตะยอดเสา ถ้าไม่มีต้นไม้ว่าง ไม่มีเสาว่างวิมานก็ปรากฏไม่ได้ ต้องเดินไป เทวดาเดินดิน เป็นอันว่ามีความลำบากมาก<O:p</O:p
    ในที่สุดก็กลับไปหาพระอินทร์ ขอพระเมตตามาเจรจากับท่านมหาเศรษฐีขออยู่เดิม พระอินทร์ก็บอกว่า<O:p</O:p
    ฉันไม่มีอำนาจ เพราะว่าท่านเศรษฐีเป็นพระอริยเจ้า ไม่มีใครสามารถลบคำของพระอริยเจ้าได้ ไม่มีเทวดาหรือพระองค์ใดทำ หากว่าท่านต้องการอยู่ที่นั้น ให้ท่านไปขมาโทษท่านเศรษฐี แต่ก่อนที่จะขอขมาโทษ จงไปนำเงินและทองที่มันไหลลงไปในน้ำทั้งหมด อยู่ในทะเลทั้งหมด มาใส่ในเรืองคลังของท่านเศรษฐีทั้งหมด และประการที่ 2 จงไปบังคับคนที่โกงท่านมหาเศรษฐี และก็ขโมยของท่านมหาเศรษฐีทั้งหมด ให้เอามาคืนทั้งหมด<O:p</O:p
    เทวดาองค์นั้นก็ไปบังคับเขามาชำระหนี้และบังคับข้าทาสหญิงชายที่ขโมยของไปนี้มาคืนให้แก่เจ้าของ หลังจากนั้น ก็ไปแบกเอาทรัพย์สินมาจากทะเล หรือในแม่น้ำใหญ่ มาใส่ในห้องเก็บทรัพย์ กระทบกันดังกึกกังๆ ท่านเศรษฐีจึงถามว่าใคร ?<O:p</O:p
    เทวดาบอก ข้าพเจ้าเอง เทวดารักษาประตูของท่าน<O:p</O:p
    ท่านมหาเศรษฐีถามว่า มาทำอะไร<O:p</O:p
    ท่านก็บอกว่า ขนเงินขนทองที่น้ำเอามาให้ และก้บังคับคนที่โกงท่านไปให้เอามาคืนให้เจ้าของ และขมาโทษแก่ท่านเศษรฐี ขออยู่ที่เดิมแล้วก็ประกาศตัวว่า จะไม่ทำตนให้เป็นมิจฉาทิฏฐิต่อไป<O:p</O:p
    เป็นอันว่า ท่านมหาเศษรฐีก็อนุญาตให้ ที่แสดงมานี้ก็เห็นจะเห็นว่า บรรดาอุทกภัยที่จะเกิดแก่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย แต่กำลังความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย แต่กำลังความดีของท่านพุทธบริษัทยังมีอยู่คือมีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระบรมครู เวลานี้ก็ถือว่า ทุกท่านที่มานี่เก่งที่สุด เป็นนักบุยหัวเห็ด หรือเป็นนักบุญที่มีวิริยะอุตสาหะมากที่สุด ทั้งนี้เพราระอะไร เพราะบ้านของท่านน้ำท่วม เวลาท่านจะมา ก็มาด้วยแสนลำบาก ถนนน้ำก็ท่วม เข้ามากันก็แสนยากลำบาก แต่อาศัยที่ท่านมีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งใจจะมาบำเพ็ญกุศลจนได้<O:p</O:p
    ฉะนั้น ความดีใดที่ท่านมหาเศรษฐี คือ อนาถบิณเศรษฐี ได้รับตอนหลังฉันใดอาตมาก็คิดว่า บุญบารมีของท่านทั้งหลายที่บำเพ็ญนี้ ก็มีเช่นเดี่ยวกับท่านเศรษฐี คือหลังจากที่น้ำแห้งลงไปคราวนี้ทุกคนคงจะรวยใหญ๋ จะรวยหรือไม่รวยเป็นประการใดก็ช่างเถิด วันนี้หมดเวลาแล้วนะ อาจารย์หง่า อยากรวยอะไรไหม ถ้าอยากรวยก็ไปทับเสาเรือนเข้า น้ำท่วมเมื่อไรรวยมากเท่านั้น<O:p</O:p
    ในที่สุดนี้ อาตภาพก็ขอตั้งสัตยาธิฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนตรัย พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ทั้งสามประการ จงอภิบาลให้พุทธบริษัท ทุกท่านมีแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล และจงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยมงคลสมบูรณ์พูนผล และจงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยมงคลทั้ง 4 ประการ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ และ ปฏิภาณ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชนะมารแล้ว ขอบรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ที่บำเพ็ญกุศลในคราวนี้ จงมีความชนะความยากจนเข็ญใจปรารถนาสิ่งใดขอให้สิ่งนั้นสมความปรารถณาทุกประการ <O:p</O:p
    อาตมาภาพรับประทานวิสัชนามาในปุญญาภิกถา ก็ขอยุติพระธรรมเทศนาลงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้ สวัสดี<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 27 ฉบับที่295 ตุลาคม 2548<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 451.jpg
      451.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.9 KB
      เปิดดู:
      2,567
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2008
  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,049
  3. ตามรอยเท้าพ่อ-แม่

    ตามรอยเท้าพ่อ-แม่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +32
    ขออนุโทนาสาธุ ขอบารมีพรรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ขอบุญกุศุลที่เคยทำมา อุทิศให้กับเจ้ากรรมนาเวร ทุกท่าน ด้วยเทอญ
     
  4. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ธมฺโม หเว รกฺขติธมฺมจารี<O:p</O:p


    พระธรรมนี่แหละย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม<O:p</O:p

    <O:p</O:p


    บุญสำเร็จได้ด้วยการ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ<O:p</O:p

    <O:p</O:p


    ขอให้ทุกท่านมีความเจริญยิ่งขึ้นในพระพุทธศาสนา<O:p</O:p
     
  5. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348
    ลิงค์ธรรมะในเว็บต่างๆของหลวงพ่อ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=714 หนังสือธรรมะ (จำหน่ายที่ตึกรับแขก)
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=716
    ซีดี - วีซีดีธรรมะ (จำหน่ายที่ตึกรับแขก)<o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=901 รวมซีดีคำสอนหลวงพ่อจากเว็บไซด์ต่างๆ<o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/forumdisplay.php?fid=50 บทสวดมนต์<o:p></o:p>
    http://www.watthasung.com/wat/forumdisplay.php?fid=49 สมบัติพ่อให้<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/เธฃเธงเธกเธซเธ™เธฑเธ‡เธชเธทเธญเธ„เธณเธชเธญเธ™เธ‚เธญเธ‡เธซเธฅเธงเธ‡เธžเนˆเธญเธžเธฃเธฐเธฃเธฒเธŠเธžเธฃเธซเธกเธขเธฒเธ™.24126/ <o:p></o:p>
    รวมหนังสือคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/เธชเธฒเธฃเธšเธฑเธ-เธฃเธงเธกเธšเธเธ„เธงเธฒเธก-เธ‚เธญเธ‡เธซเธฅเธงเธ‡เธžเนˆเธญ-เธเธตเนˆเธœเธกเนเธ„เธขเน‚เธžเธชเน„เธงเน‰-เธˆเธฐเน„เธเน‰เธซเธฒเธ‡เนˆเธฒเธขเน†.119666/ <o:p></o:p>
    รวมบทความ ของหลวงพ่อ ที่ joezaaaa โพสไว้ จะได้หาง่ายๆ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/สารบัญ-รวมเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำและธรรมะที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์-”.124421/<o:p></o:p>
    รวมเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำและธรรมะที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ โพสโดย teporrarit<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=zeedhama&month=25-10-2008&group=2&gblog=1 <o:p></o:p>
    ศูนย์พุทธศรัทธา อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.praruttanatri.com/meditation_club/ <o:p></o:p>
    ชมรมสมาธิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.putthawutt.com/html/actrule.html<o:p></o:p>
    รวมหนังสือหลวง

    <o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://thaisquare.com/Dhamma/sound/index.html <o:p></o:p>
    เสียงคำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และ แจก ซีดี<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.thaisquare.com/Dhamma/book/prawat_luangpopan/content.html<o:p></o:p>
    ประวัติหลวงพ่อปาน เขียนโดยหลวงพ่อ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.luangpor.com/ <o:p></o:p>
    เสียงคำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และ ขอ ซีดีได้ครับ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://scripturn.com/tag_%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99.html <o:p></o:p>
    วีดีโอ คำสอนหลวงพ่อ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.youtube.com/profileuser=alinodreamworld&view=videos&start=20<o:p></o:p>
    วีดีโอ คำสอนหลวงพ่อ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://palungjit.org/threads/รวมคำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ-99836.html <o:p></o:p>
    รวมคำสอนหลวงพ่อ โพสโดยคุณ mahaasia<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    และสุดท้ายครับ<o:p></o:p>
    http://palungjit.org/forums/รวมคําสอนเรื่องนิพพานของพระผู้ปฎิบัติดี-[.10/FONT]115676.html <o:p></o:p>
    รวมคําสอนเรื่องนิพพานของพระผู้ปฎิบัติดี โพสโดยคุณ ลูกวัดท่าซุง<o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...