การก่อตั้งจังหวัดนนทบุรี

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 มีนาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    การก่อตั้งจังหวัดนนทบุรี



    [​IMG]

    จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ชาวนนทบุรีเริ่มตั้งถิ่นฐานในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น โดยมีตำนานพระเจ้าอู่ทอง กล่าวว่า พระเจ้าอู่ทองได้นำผู้คนหนีโรคระบาดมาอาศัยอยู่ตั้งแต่ พ.ศ.1890 และได้สร้าง "วัดปรางค์หลวง" ขึ้น ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังอยู่และมีพระพุทธรูปที่สร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทองเป็นหลักฐาน

    ต่อมาปี 2092 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ โปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง "บ้านตลาดขวัญ" เป็นเมืองนนทบุรี มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ปากใต้ สำหรับระดมพลและสะสมเสบียงอาหารเพื่อทำสงคราม ดังนั้น เมืองนนทบุรีจึงคล้ายเมืองหน้าด่าน มีการสร้างป้อมปราการ เช่น ป้อมแก้ว ป้อมทับทิม ขึ้นมาพร้อมกับตัวเมือง

    ในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ มังมหานรธา แม่ทัพพม่า นำทัพจากทางใต้เพื่อไปโจมตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อมาถึงนนทบุรีได้เข้าโจมตีและยึดเมืองนนท์ โดยตั้งค่ายทหารอยู่บริเวณ *วัดเขมาภิรตาราม* ในปัจจุบัน

    หลังจากเสียกรุง พ.ศ.2310 พระเจ้าตากได้นำทัพเรือ 100 ลำ ทหาร 5,000 คน จากนนทบุรีไปกอบกู้เอกราช เดินทัพผ่านบางกรวย บางใหญ่ และได้พักระดมพลที่ *วัดสัก* นำธงประจำทัพปักไว้ใช้ก้อนหินทับเสาธงไม่ให้ล้ม แต่นั้นมาจึงกลายมาเป็นชื่อ *ชุมชนเสาธงหิน* ส่วนวัดสักได้รับการบูรณะแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น *วัดเสาธงหิน* การกอบกู้เอกราชครั้งนั้นประสบชัยชนะ พระเจ้าตากสินได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหา

    กษัตริย์

    สมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ.2321 สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก นำทัพไปปราบกรุงศรีสัตนาคนหุต เมื่อเสด็จกลับได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเมืองหลวงพระบางมาด้วย สมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้เสด็จฯ มาตั้งตำหนักรอรับพระแก้วมรกตที่บ้านบางธรณี (ปัจจุบันคือ ตำหนักท่าทราย ซึ่งกลายเป็นที่ตั้งของวัดพระตำหนักใต้ ต.ท่าทราย จ.นนทบุรี)

    พอมาถึงรัชกาลที่ 3 นนทบุรีถือเป็นเมืองที่ใกล้ชิดและผูกพันกับพระองค์อย่างมาก เนื่องจากสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระราชชนนีในพระองค์ทรงเป็นพระธิดาของพระนนทบุรี (จัน-บุญจัน) ผู้ว่าราชการนนทบุรี ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่วัดเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งต่อมาทรงยกบ้านและที่ดินบริเวณดังกล่าวให้สร้างเป็นวัด เป็นการสร้างมหากุศลอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระอัยกา-อัยกี และสมเด็จพระบรมราชชนี พร้อมพระราชทานนามวัด "วัดเฉลิมพระเกียรติ" ก็คือวัดเฉลิมพระเกียรติในปัจจุบัน

    สมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายที่ตั้งเมืองนนทบุรี จากบริเวณปากคลองอ้อม บ้านศรีเมืองฝั่งตะวันตก กลับมาอยู่ที่ด้านใต้ปากคลองบางซื่อ บ้านตลาดขวัญ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาดั้งเดิม และให้ขึ้นกับกรุงเทพมหานคร และมีการตั้งศาลากลางจังหวัดขึ้นเป็นครั้งแรก โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลอง นราภิรมย์ และคลองทวีวัฒนา เพื่อเป็นเส้นทางคมนาคมระหว่างเมืองนนท์และเมืองนครไชยศรี

    ----------------
    Ref.
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01pra02270350&day=2007/03/27&sectionid=0131
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    มหกรรมวัฒนธรรม สองฝั่งเจ้าพระยา ใต้ฟ้า"เมืองนนท์"

    สกุณา ประยูรศุข



    [​IMG]

    นนทบุรี เป็นจังหวัดเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาน่าสนใจจังหวัดหนึ่งของไทย

    แม้จะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อาณาเขตแทบจะกลายเป็นพื้นที่เดียวกัน แต่น้อยคนที่จะรู้จักนนทบุรีอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับการสร้างบ้านแปลงเมืองมานานตั้งแต่สมัยอยุธยา

    เอาแค่เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดนนทบุรี เมื่อปี 2489 ครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช ก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง

    ปี 2550 ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ด้วยทรงเป็น "เอกอัจฉริยะอุปถัมภกมรดกไทย" ทรงทำนุบำรุงด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรมมาโดยตลอด

    ดังนั้น จังหวัดนนทบุรีจึงจัดโครงการส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น "งานมหกรรมวัฒนธรรม สองฝั่งเจ้าพระยา ใต้ฟ้าเมืองนนท์" ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในการที่ทรงมีคุณูปการต่อจังหวัดนนทบุรีมาเป็นเวลาช้านาน อีกทั้งเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านด้วย

    *นนทบุรีเมื่อ 458 ปีที่ผ่านมา มีหลักฐานระบุว่าเป็นเมืองเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย*

    คำว่า "นนทบุรี" หมายถึงดินแดนแห่งความสนุกสนานและอุดมสมบูรณ์ ซึ่งดูจากสภาพความเป็นจริงแล้วไม่ต่างจากความหมายดังกล่าวแม้แต่น้อย

    เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของนนทบุรีล้วนเป็นสวนผลไม้อุดมสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศ ในด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรมฝาผนัง และศิลปวัตถุมากมาย สิ่งเหล่านี้ปรากฏในพระอาราม พระวิหาร และโบราณสถานตามที่ต่างๆ ทั่วจังหวัด

    นอกจากนี้ประชากรที่อาศัยอยู่ในนนทบุรียังมีรวมกันหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย จีน มอญ และอิสลาม จึงเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมประเพณีหลากหลาย มีการผสมผสานภูมิปัญญาของชนชาติต่างๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่

    ความงอกงามทางด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่นปรากฏอยู่คู่กับวิถีชีวิตชาวเมืองนนท์ ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนนนทบุรี

    การจัดงาน "มหกรรมวัฒนธรรม สองฝั่งเจ้าพระยา ใต้ฟ้าเมืองนนท์" จึงเป็นการตั้งใจจัดแสดงให้เห็นถึงความเป็นมาที่สำคัญของจังหวัดนนทบุรี อีกทั้งเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้เห็นและร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ที่มีอยู่ให้สืบทอดต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน

    *วัชรินทร์ โรจนพานิช* ปลัดจังหวัดนนทบุรี บอกเล่าถึงรายละเอียดของงานว่า จะจัดขึ้นบริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นในวโรกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี เป็นสวนสาธารณะที่มีความสวยงามมาก

    ทางผู้จัดงานจะแปลงสภาพอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษกให้เป็นบรรยากาศในอดีต โดยแบ่งออกเป็นโซนของยุคต่างๆ เช่น ยุคกรุงศรีอยุธยา ยุคกรุงธนบุรี และยุครัตนโกสินทร์ แบ่งย่อยเป็นสมัยรัชกาลที่ 3 สมัยรัชกาลที่ 5 และสมัยรัชกาลปัจจุบัน

    ปลัดจังหวัดให้หลับตานึกถึงภาพง่ายๆ ไปพร้อมกับคำบอกเล่า เมื่อผู้คนเข้าไปในงาน จะพบเห็นภาพชีวิตของคนในยุคต่างๆ ว่ามีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมประเพณีเป็นอย่างไร มีการละเล่นอะไรบ้าง

    *อาทิ สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งถือว่าสำคัญอย่างยิ่งกับจังหวัดนนทบุรี เนื่องเพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวของ *สมเด็จพระศรีสุลาลัย* พระบรมราชชนนีในรัชกาลที่ 3 เป็นคนจังหวัดนนทบุรี*

    "ที่ถือเป็นไฮไลต์ของงาน เป็นยุครัชกาลที่ 9 จะเนรมิตสถานที่ภายในอุทยานให้สวยงามราวกับวิมาน และมีการแสดงที่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่การขับร้องและบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในแบบแจ๊ซ การแสดงเบิกโขนทวาร การแสดงแสง สี เสียงม่านน้ำเฉลิมพระเกียรติในหลวง ที่ริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา และพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับเมืองนนท์ เราทำเพื่อให้คนรู้ว่าเมืองนนท์มีของดีและมีประวัติศาสตร์มากมาย..."

    นอกจากภาคบันเทิงและการแสดงแล้ว งานมหกรรมวัฒนธรรมฯ ยังมีที่น่าสนใจคือ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการ "ภาพเก่าเล่าเรื่องนนท์" ซึ่งเป็นประวัติความเป็นมาของจังหวัดนนทบุรีในอดีต

    นิทรรศการ "ของดีเมืองนนท์" ประกอบด้วย ทุเรียนเมืองนนท์ พันธุ์ก้านยาว รสชาติหวานมันอร่อยที่สุดในประเทศไทย พระเครื่องเมืองนนท์ เช่น หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ไม้ดอกไม้ประดับชื่อดังจำพวกลีลาวดี มะม่วง และอื่นๆ อีกมากมาย

    สำหรับกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ ขบวนแห่สงกรานต์รามัญ การประกวดเพลงเรือ การประกวดขายอาหารในตลาดน้ำจำลอง การแสดงแบบเสื้อผ้าไทยชุดนานาชาติ การจัดแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การละเล่นกีฬาพื้นบ้าน การประกวดไม้ดอกไม้ประดับ เป็นต้น

    "ใครที่อยากกินผลไม้รสชาติดีหาที่ไหนไม่ได้แล้วต้องมางานนี้ อย่างทุเรียนพันธุ์เมืองนนท์ ซึ่งไม่มีวางขายในตลาด ใครอยากกินต้องสั่งจองจากสวน และขายกันเป็นลูกมีตั้งแต่ลูกละ 600 บาท ไปจนถึง 3 ลูก 10,000 บาท หรือมะปรางเมืองนนท์ ที่อร่อยมาก ยังมีการจำหน่ายอาหารขึ้นชื่อของเมืองนนท์ด้วย เช่น เป็ดพะโล้โกรัตน์ หมูกรอบ ก๋วยเตี๋ยวปลา อาหารชาวมอญ ขนมหวานประจำเมืองนนท์ อาหารชาวมุสลิม มีการจัดตลาดน้ำจำลองอยากให้มาเห็นเองด้วยตาและชิมด้วยปาก" เสียงโฆษณาจากปลัดจังหวัด

    งานมหกรรมวัฒนธรรม สองฝั่งเจ้าพระยา ใต้ฟ้าเมืองนนท์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2550 ที่บริเวณอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก จ.นนทบุรี

    *เป็นงานที่ได้ทั้งความรู้ในเรื่องประวัติศาสตร์ ได้ความบันเทิง และยังเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม*
    --------------
    Ref.
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01pra01270350&day=2007/03/27&sectionid=0131
     

แชร์หน้านี้

Loading...