การเกิดฤทธิ์แห่งกสิณไฟ

ผมจะเล่าให้ท่านที่สนใจเกี่ยวกับกสิณว่าการเกิดฤทธิ์หรือปาฎิหารย์ที่เกิดกับผมตลอดระยะเวลาการปฎิบัติกสิณไฟ 1 ปี 7 เดือน การเกิดฤทธิ์กสิณไฟที่เกิดกับผมนี้อาจแตกต่างกับบุคคลอื่น แต่สิ่งที่ผมปฎิบัติมานี้เกิดขึ้นจริงมิได้หลอกลวงบุคคลใด หวังว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้คงมีส่วนให้ท่านที่สนใจฝึกกสิณ มีความพยายามมากขึ้นที่จะปฎิบัติตามเส้นทางนี้ต่อไป...ขอบคุณ
.........การฝึกของผมได้รับคำแนะนำจากครูท่านหนึ่ง ซึ่งผมเรียกท่านว่า ปู่่ ท่านเป็นฆราวาส ไม่ใช่ร่างทรง ทำงานรับราชการ ผมเองช่วงแรกที่ฝึกผมจะกำหนด(กำหนดคือการนึกคิด)ลูกกลมๆให้อยู่กึ่งกลางหน้าผาก จนเจ้าสิ่งนี้คาอยู่ตลอดไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ยังคงอยู่แบบนี้เสมอ และผมจึงเริ่มฝึกกสิณโดยการมองเทียน ช่วงที่ผมฝึกอยู่นี้ ผมได้รู้จักกับบุคคลประเภทหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นญาณสมาธิเราได้ด้วยตาเปล่า(ตาเนื้อ) ว่าตอนนี้เราเป็นอย่างไร วันนั้นผมคล้องท้าวมหาพรหม น้องเค้าเห็นมีสี่มือ สีขาว ซ้อนร่างของผมผมจึงรู้ว่านั้นเป็นใคร ที่นี้ผมจึงลองกำหนดลูกไฟที่มือข้างซ้าย และผมรู้สึกได้ว่ามือผมร้อนเหมือนมีวัตถุบางอย่างอยู่ที่มือ เมื่อคิดว่ากำหนดได้แล้วผมจึงให้น้องคนนนั้นดูว่าในมือผมมีอะไร สิ่งที่น้องบอกก็คือ เค้าสามารถบอกตามที่ผมกำหนดนั้นได้ตรง ทำให้ผมมีความดีใจมากที่เราสามารถกำหนดตามที่เราต้องการได้ถูกต้อง (วันนี้แค่นี่ก่อนครับ)

 

.........หลังจากวันนั้น ประมาณ 2 อาทิตย์ผมให้น้องคนเดิมได้ตรวจสอบญาณผมว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพราะผมปฎิบัติกสิณมาตลอด ว่างเป็นนั่งทั้งลืมตาและหลับตา เพราะเราได้เห็นผลแล้ว หลังจากได้ดูผลออกมาเป็นไปตามที่เรารู้สึกว่าตัวเราได้มีการเปลี่ยนญาญ ตอนนั้นแฟนผมยังไม่สามารถมีองค์ครอบร่างได้ นึกถึงแฟนขอเล่าย้อนไปตอนที่ผมยังไม่ได้ฝึกดีกว่า ช่วงนั้นผมได้เจอปู่แล้ว แต่ผมเองยังสัมผัสอะไรไม่ได้ ผมเลยให้แฟนผมมาหาปู่เพราะแฟนผมก่อนหน้านั้นสัมผัสกับกุมารที่เลี้ยงไว้ได้ ฝันเห็นเสมอและแฟนยังจบเอกนาฎศิลป์ ซึ่งเอกนี้จะมีการครอบครูเศียรพ่อแก่ด้วย หลังจากที่ผมพาแฟนมาเจอปู่ แฟนบอกอาการที่เจอปู่ ว่าแน่นหน้าอก หายใจติดขัด รู้สึกกลัวอย่างบอกไม่บอก(ซึ่งผมมารู้ภายหลังว่าอาการแบบนี้เกิดจากถูกญาณที่เหนือกว่ากด) และปู่ผมทำการอัดปรอทด้วยการกำหนดปรอทให้มีลักษณะเป็นแท่งยาว สีเงิน อยู่ที่หน้าอก ปู่บอกให้ปรอทไปแขนซ้าย แฟนก็จะรู้สึกเหมือนมีอะไรวิ่งอยู่ข้างในไปทางซ้ายที่ปู่บอก แขนข้างนั้นจะยกไม่ขึ้น ให้ไหลไปทางขวาก็ยกไม่ขึ้น ให้ไหลไปด้านหลังหงายหลังเลยครับ ลืมตาพูดกับผมขยับตัวไม่ได้ แขนยกได้ปกติ ให้ไหลไปที่หัว หน้าคว่ำ ทำอะไรไม่ได้ เหมือนปรอท(ที่เกิดจากการกำหนด)นั้นมีชีวิต ซึ่งการอัดปรอทนี้จะเหนื่อยมากเพราะต้องใช้จิตกำหนดให้เกิด กรณีนี้เกิดขึ้นแล้วครับ เพราะได้ลองกับศิษย์ที่เป็นชาย โดยใช้มีดโกนกรีดที่แขนปรากฎว่าไม่เข้า มีศิษย์คนหนึ่งโดนฟันที่หลังเสื้อขาด แต่ไม่มีบาดแผล หลังจากที่แฟนกับผมกลับบ้านได้ทำการทดลองอยู่เสมอว่าปรอทนี้ยังอยู่หรือไม่ เพราะปู่ได้สอนวิธีกำหนดให้แล้วและลองทำตามดู ซึ่งวิธีตรวจสอบนี้เราสามารถเช็ดดูสิ่งที่เรามีได้ว่ายังอยู่หรือเปล่า เพราะถ้าไม่อยู่นั่นก็แสดงว่าเราทำอะไรผิดโดยที่เราไม่ตั้งใจหรือเปล่า...(วันหน้าผมจะมาเล่าเรื่องสีผึ้งธรรมดาที่ไม่ธรรมดา หวัดดี)<!-- google_ad_section_end -->

 

สีผึ้งนี้ผมได้มาจากการทำบุญที่วัดในเมืองเพชรบูรณ์ ผมให้แฟนลองตรวจสอบความขลัง ความแรงว่าดีไหม ปรากฎว่าไม่แรงธรรมดามาก(กำแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย) วันรุ่งขึ้นผมจึงไปหาปู่เพื่อไปไหว้และลองให้ปู่ทำสีผึ้งที่ธรรมดานี้ให้เกิดฤทธิ์ขึ้นมา เมื่อปู่กำสีผึ้ง(1นาที)แล้วจึงให้แฟนผมลองตรวจสอบดูอีกที่ว่าเป็นอย่างไร ปรากฎว่าขณะที่แฟนกำสีผึ้งอยู่ในมือ(นั่งบนโซฟา ขาก็ห้อย)แฟนบอกว่าตอนที่กำรู้สึกว่าเหมือนมีพลังความร้อนบางอย่างวิ่งจากสีผึ้งขึ้นมาที่แขน แล้วลามไปทั้งตัว ซึ่งพลังที่ไหลอยู่ในร่งกายนี้ทำให้แฟนผม ไม่สามารถขยับตัวได้ไม่ว่าส่วนไหนจะแข็งไปหมด ตาก็ลืมไม่ขึ้น แต่ปากสามารถพูดได้ หลังจากวันนั้นผมได้ทดลองสีผึ้งที่จากธรรมดานี้จนกลายมาเป็นสีผึ้งไม่ธรรมดา กับผู้ใหญ่บางท่านที่ไม่ชอบขี้หน้าผม โดยก่อนใช้ได้ระลึกถึงปู่ก่อน และระหว่างที่ทาสีผึ้งที่ปากก็จะพูดไปด้วยให้คนที่พูดกับเรารักใคร่ เอ็นดูเรา ไม่รังเกียจเรา ผลปรากฎว่าได้ผลจากที่เคยไม่ชอบขี้หน้าเราทำให้กลับกลายเป็นชอบเรา พูดจากับเราด้วยดี ตอนหน้าผมจะมาเล่าเรื่องผีผู้หญิงถูกข่มขืนตายไปนานถึง 30 กว่าปี(ตอนตายอายุ 20 กว่าๆ)...หวัดดี

 

จริงๆเมื่อก่อนผมก็สนใจฝึกด้านกสิณมากเลยนะครับ แต่ฝึกๆไปจิตดันบอกว่าชอบความว่างมากกว่า เลยต้องอยู่อย่างว่างๆอ่ะ แต่ก็ติดตามดูคุณกสิณอยู่นะครับ

 

วันหนึ่ง(จำไม่ได้แล้วว่าวันไหน) มีเด็กผู้หญิงอายุ 19 ปี ได้มาสมัครงานที่ร้านปู่ แต่ไม่สามารถเดินขึ้นมาบนร้านได้ ปู่จึงอนุญาตให้ขึ้นมาได้ โดยเด็กหญิงนั้นบอกว่าจะมาสมัครงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้าน และก็ได้บอกอาการด้วยว่า ทำไมหนูรู้สึกแน่นหน้าอก หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม และรู้สึกกลัวมาก ปู่ผมเลยพูดขึ้นว่า เอ้าใครอยู่ข้างในออกมา เท่านั้นแหละครับเด็กหญิงคนนั้นก็ถูกวิญญาณที่อยู่ในร่างครอบออกมาทันที สามารถครอบร่างได้เต็มแบบที่เรียกว่า ร่างนั้นไม่รู้สึกอะไรอีกเลย(เหมือนหลับ) และผีผู้หญิงที่อยู่ในร่างก็เล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ต้องกลายเป็นผีเพราะสาเหตุใดออกมา.......เรื่องมีอยู่ว่าตนนั้นมีอายุ 20 ปีกว่า ได้ถูกผู้ชายพามาข่มขืนที่ป่าแดง(สถานที่เป็นเขาป่าแดง ต.ป่าเลา อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์)และถูกฆ่าตายในป่า วิญญาณก็ได้สถิตย์อยู่ที่ตรงนั้นไม่สามารถไปไหนได้ หน้าคนร้ายก็จำไม่ได้ อยู่อย่างอดๆอยาก เคยมีหลายครั้งที่เกาะคนที่เดินผ่านไปผ่านมาบริเวณนี้แต่เมื่อออกจากเขตบริเวณที่ถูกฆ่าตาย วิญญาณที่เกาะก็จะหลุดออกจากร่างที่เกาะออกมาทุกที เป็นอยู่อย่างนี้มานานกว่า 30 กว่าปี ตาและยายที่ดูแลเขาลูกนี้ก็ไม่ได้ห้ามที่จะออกจากตรงจุดนี้แต่มันออกไปไหนไม่ได้ เพื่อนที่เป็นผีก็มาคุยด้วย จนมาวันหนึ่งมีเด็กผู้หญิงคนนึงผ่านมาทางนี้ ผีผู้หญิงก็ทำแบบเดิมคือครอบร่างที่จะออกมาตามปกติ แต่ที่นี้แตกต่างนั้นก็คือ ขณะที่ร่างกายสังขารนี้ออกมาพ้นบริเวณที่ถูกฆ่าวิญญาณไม่สามารถที่จะถูกดูดกลับไปเหมือนเดิม ทำให้ผีผู้หญิงนี้ดีใจมาก เมื่อออกจากบริเวณนั้นแล้วผีตนนั้นสามารถครอบจิตใจร่างเด็กผู้หญิงคนนี้ได้มาก จึงพาร่างไปกินอาหารที่ตนเอง(ผี)ชอบ เพราะอดอยากมานาน ไปทำบุญแต่ผลที่ได้จากการทำบุญช่างน้อยนิดเหลือเกิน อยู่ใกล้พระยังไม่รู้สึกอะไรเลย หลังจากที่ได้ฟังผีตนนี้เล่าเรื่องราวต่างๆปู่เลยบอกว่าเราพาร่างไปซื้อผลไม้มาให้ปู่ หลังจากที่ผีได้พาร่างไปซื้อผลไม้กลับมาและได้มอบให้ปู่ บุญบารมีที่ได้มอบผลไม้ให้ปู่ ทำให้ผีตนนี้สามารถสัมผัสได้ทั้งตัวและมีความสุขมาก เบาสบายตัวมาก มีความรู้สึกอิ่ม ผมเลยทดลองกับตนเองให้ผีตนนี้มองผมว่าเป็นอย่างไร แต่ผีตนนี้ไม่สามารถเห็นผลของการปฎิบัติของผมได้ เนื่องจากเป็นผีที่ไม่มีฤทธิ์อะไรเลย มีแต่ความรู้สึกเท่านั้น ผมเลยให้ลองสัมผัสมือผม ผีตนเองบอกว่าไม่กล้าจับเพราะเกิดความกลัวต่อผม....ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องเล่าต่างๆสามารถถามได้นะครับ
ปล....โอกาสหน้าจะมาเล่าเรื่องกุมารองค์แรกที่ผมขอมาจากองค์พระนารายณ์และกุมารองค์นี้เป็นกุมารที่เกิดจากญาณสมาธิขององค์พระนารายณ์ (กุมารที่เกิดจากญาณสมาธินี้ก็เหมือนลูกคนหนึ่ง)

 

รออ่านตอนต่อไปครับ แต่สงสัยว่ากระทู้ "การเกิดฤทธิ์แห่งกสิณไฟ" แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของผีหรือกุมารทองไปแล้ว (อาจจะเป็นการเกริ่นก่อนเข้าเรื่องก็ขออภัยด้วยครับ) ผมนึกว่าจะเล่าประสบการณ์การฝึกจนสำเร็จผล และสามารถใช้ฤทธิ์ที่ได้จากการฝึกกสิณจนเกิดผลได้ เพื่อพิสูจน์ว่ายังมีคนสำเร็จในกสิณอยู่จริงในปัจจุบัน เผื่อคนอื่นอยากจะรู้ว่าต้องฝึกยังไง ใช้เวลาเท่าไร ถ้าท้อแล้วจะไปต่อยังไง หรือได้พบครูบาอาจารย์มาสอน และอยากแนะนำคนอื่น ๆ ให้มาปฏิบัติต้องทำยังไงประมาณนี้ครับ ขออนุโมทนาในความดีด้วยครับ

 

ผมอยากฝึกกสิณเหมือนกันครับ อยากได้คำแนะนำดีๆจากท่านผู้รู้ครับ

 

หัวข้อเรื่องก็บอกอยู่แล้ว ว่าเป็นฤทธิ์หรือบุญบารมีที่เกิดขึ้นกับตัวผมในการฝึกกสิณไฟ ไม่ใช่เรื่องการปฎิบัติที่ผ่านมาของผม และสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้นั้นเพราะผมฝึกมาถูกทาง และการฝึกมีรายละเอียดมากให้บรรยายเป็นตัวอักษรคงยาก เพราะฉนั้นผมจะไม่เล่าขั้นตอนการฝึกกสิณไฟของผม เนื่องจากผมเคยตั้งกระทู้ชื่อเรื่อง แนะนำการฝึกกสิณ 10 มาแล้ว มีคนโทรเข้ามาก็มากแต่ไม่เห็นมีใครฝึกจริงๆกันซักคน อาจจะเนื่องจากการฝึกมีความยากลำบาก

 

ไม่ใช่ว่าเขาคุยกับคุณไม่รู้เรื่องหรอกหรือ เลยโทรมาครั้งเดียวแล้วไม่ติดต่ออีกเลย?

 

เรื่องกุมารที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เกิดจากผมนึกอิจฉาลูกศิษย์ปู่คนหนึ่งซึ่งลูกศิษย์คนนี้ไปทำงานที่กรุงเทพฯและได้ไปไหว้ศาลของพระอิศวรทรงช้างเอราวัณ(ไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหน) หลังจากกลับจากกรุงเทพฯได้ไปไหว้ปู่ และจากที่ได้เจอปู่ศิษย์คนนี้มีอาการเหมือนองค์ครอบร่างปู่จึงบอกว่า ใครที่อยู่ข้างในออกมา เท่านั้นแหละครับพระอิศวรก็ได้ครอบร่างศิษย์คนนี้ทันที่ พระอิศวรได้บอกว่าเจอเด็กคนนี้มาไหว้และรู้ด้วยญาณว่า ถ้าตามเด็กคนนี้จะได้เจอเรื่องที่ดี หลังจากที่ครอบร่างแล้วก็ได้บอกว่าองค์พระอิศวรมี 4 สี(ปางแต่ละปาง สีก็แตกต่างกัน) อันได้แก่ สีทอง-สีขาว-สีแดงและสีเขียว ตามลำดับ และจะมาขอเรียนกสิณกับปู่ผมเนื่องจากพระอิศวรปฎิบัติแนวกรรมฐาน หลังจากที่ได้พูดคุยกับปู่แล้ว พระอิศวรได้ทิ้งญาณเอาไว้พร้อมกับให้กุมารที่เกิดจากญาณพระอิศวรที่ชื่อ อิทธิ ให้มาอยู่กับร่างเด็กคนนี้ กุมารองค์นี้มีลักษณะ 2 มือกายสีขาว ทรงสร้อยสังวาลย์ กำไรข้อมือและเท้า หลังจากนั้นพระอิศวรก็ได้ถอยออกจากสังขารนี้ หลังจากวันนั้นทำให้ผมอยากได้กุมารแบบนี้มั้ง จึงถามกุมารอิทธิว่า กุมารเกิดจากญาณที่มี 4 มือข้างบน(สวรรค์)มีกุมารของใครบ้าง กุมารอิทธิบอกว่ามีกุมารของพระนารายณ์มี 4 มือ กายสีทอง ฐานผ้าทิพย์สีทอง หัวมีจุก และหลังจากที่ผมรู้เรื่องกุมารแล้ว ผ่านไป 2 วันความรู้สึกอยากได้กุมารก็ไม่เปลี่ยน ผมจึงตัดสินใจลองขอกุมารจากพระนารายณ์ทันที การขอของผมคือผมจะนั่งสมาธิเพ่งกสิณไฟโดยใช้การกำหนดดวงกสิณไฟ เมื่อนั่งนานแต่ละครั้ง(1-2 ชม.)พอแล้วเมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว ผมจึงทำการขอกุมารโดยการสอบถามทางสมาธิว่า ขอเชิญองค์พระนารายณ์มาที่ร่างกายสังขารนี้ด้วย ร่างกายผมมีการตอบสนองทันทีทั้งที่ยังพูดไม่จบความ เมื่อพระนารายณ์มาที่สังขารนี้แล้วผมจึงเริ่มตั้งคำถามทันทีว่า ผมต้องการกุมารที่เกิดจากญาณของท่านไว้เป็นลูกท่านจะให้ได้หรือไม่ หลังจากที่ป้อนคำถามแล้วร่างกายผมไม่มีการตอบสนอง คือไม่พยักหน้าหรือส่ายหัวแต่อย่างใด หลังจากที่นิ่งไปพักหนึ่ง ร่างกายมีการพยักหน้า ผมจึงถามอีกว่าท่านให้กุมารผมแล้วใช่ไหมร่างกายพยักหน้าซ้ำๆกัน 3-4 ครั้ง ผมดีใจมากและขอบคุณท่านที่ประทานกุมารที่เกิดจากญาณบารมีของท่านให้กับผม หลังจากวันที่ได้กุมารมาดูแลในฐานะลูกชายคนที่ 1 ผมได้ไปหาน้องผู้หญิงคนที่มองเห็นด้วยตาเนื้อ(ลืมตามอง) น้องเค้าเห็นมีเด็กผู้ชายไว้ผมจุก มี 2 มือ กายสีทอง มีสังวาลย์ และกำไรมือ-ข้อเท้า ซึ่งมีลักษณะตรงกับกุมารที่ผมขอจากพระนารายณ์ จะแตกต่างตรงที่ไม่มี 4 มือ และฐานผ้าทิพย์สีทอง ผมจึงบอกกุมารว่าแสดงฤทธิ์หรือให้น้องเค้าเห็นรูปร่างเราด้วยว่าเรามีอะไรบ้าง กุมารจึงแสดงให้น้องเห็นตามที่ผมได้บอกไว้แล้ว และที่มือทั้ง 4 ยังมีอาวุธครบมืออีกด้วย และกุมารองค์นี้บอกว่า เค้าชื่อทองจุก มีอายุประมาณ 7-8 ปี.................จบ

 

พระอิศวรทรงช้างเอราวัณ!!!
พระอิศวรทรงช้างเอราวัณ!!!
พระอิศวรทรงช้างเอราวัณ!!!
พระอิศวรทรงช้างเอราวัณ!!!
พระอิศวรทรงช้างเอราวัณ!!!

 

ศาสนาพุทธไม่เคยสอนให้เลี้ยงกุมาร หากแต่ให้เคารพในพระรัตนะตรัยคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อีกประการคือการไปผูกวิญญานไว้นั้น ที่พบมาหลายท่านคือเป็นอมพาตในชาตินี้ และเข้าสู่อบายเมื่อละโลก