ข่าวดี ชาวโลกจะได้พบพระศรีอารย์ในปี 2549

ที่แท้จริงคุณคิดว่าคุณคือพระศรีแล้วที่คุณเขียนหนังสือบอกว่าหนังสือเล่มนั้นเป็นนิทาน ก็เพื่อเป็นกลไกลป้องกันตัวคุณเอง

ที่ผมมาเขียนให้คุณได้คิดก็เพราะว่าเป็นห่วงคุณอยากจะช่วยคุณและปราถนาดีจริงๆไม่ได้มีการแอบแฝงใดๆ

คุณลองคิดดูและพิจารณาตนเองนะ

อิแค่เข้าสมาธิแค่นี้ ตัวเองยังท้อยังขี้เกียจอยู่ แล้วจะไปทำอะไรได้
ตัวเองยังขี้เกียจอยู่แล้วจะไปเป็นผู้นำคนอื่นได้อย่างไร

เพียงแต่อยากจะดัง อยากให้คนมาศรัทธาตัวเอง อยากเป็นผู้นำ
แต่ตนเองไม่เคยที่ทำตนเองให้ดีก่อนไปนำคนอื่น
อย่างนี้จะไปนำใครได้ ดีไม่ดีคนอื่นจะนำเอาซะอีก

อายุอานามก็ปาไปจะครึ่งคนอยู่แล้วยังทำอะไรไม่สำเร็จให้เป็นชิ้นเป็นอัน คุณยังประมาทอยู่มาก ไม่เร่งทำความเพียร สมาธิก็ยังไม่ไปถึงไหน คนอายุน้อยๆสมัยนี้เข้าได้มโนมยิทธิกันมากแล้ว
อายุอานามก็มากแล้ว ประมาทว่าจะทำได้ในอนาคต แต่วันนี้ยังขี้เกียจแล้วจะไปฝันอะไรอีกเล่าคุณ ปัจจุบันเป็นฐานของอนาคต ถ้าคุณไม่เร่งทำปัจจุบันให้ดี อนาคตคุณก็อย่าไปหวังมาก

ความเชื่อมั่นในตนเองไม่ค่อยจะมี กำลังใจยังอ่อน
กำลังใจคือบารมี กำลังใจอ่อนคือบารมีอ่อน
พระศรีองค์จริงท่านบารมีมาก กำลังใจเข้มแข็ง
นี่คุณยังรอคอยอยากให้คนอื่นที่จะให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอๆ
บ่งบอกให้รู้ว่าจิตใจตัวเองยังอ่อนแอไม่เข้มแข็ง
เป็นคนหลงตัวเอง หลงว่าตัวเองสำคัญมีปัญญาเป็นเลิศ
ปัญญาคิดเรื่องแค่นี้เองยังคิดไม่ได้

ยังไปฝันหวานลมๆแล้งๆเรื่องเทวดาจะช่วยเนรมิตบ้านเมืองให้ตัวเอง
ก่อนที่จะให้คนอื่นมาช่วยตน ตนควรช่วยตนเองก่อน
อิแค่เข้าสมาธิแค่นี้ตัวเองยังท้อยังขี้เกียจอยู่ เทวดารู้แบบนี้ท่านก็คงไม่มาสนับสนุนคุณ

อิแค่คุณนั่งสมาธิทำเรื่องง่ายๆยังทำไม่ได้ยังขี้เกียจอยู่ยังท้อแท้อยู่
แล้วจะคิดไปสร้างเมืองใหญ่โตที่ยากลำบากกว่านี้ จะทำได้เหรอคุณ คุณลองเก็บไปคิดดู
กรรมฐาน๔๐ วิปัสสนาญาณ๙ คุณได้ไหม ฌาณ๔เข้าคล่องหรือยัง ?

ผมกล้าท้าเลยว่าคุณไม่ใช่พระศรี
คุณมีกรรมจากอดีตชาติทำให้คุณหลงผิดว่าตัวคุณคือพระศรี
คุณมีจิตแบบฟุ้งซ่าน กำลังใจคุณยังอ่อน
พระศรีองค์จริงๆท่านบำเพ็ญมานาน16 อสงขัยกว่าๆ เรื่องฌาณท่านแน่นปึก บารมีแก่กล้ามาก

ถ้าคุณอยากจะพิสูจน์ตัวเองว่าคุณคือพระศรีหรือไม่
ให้คุณตั้งจิตอธิฐานขอให้บารมีเก่าๆมารวมตัวกันแล้วคุณก็เข้าฌาณ ดูซิว่าคุณจะเข้าฌาณ๔ได้รึเปล่า
ถ้าไม่ได้คุณก็ไม่ใช่ คุณลองหลายครั้งติดต่อกันหลายๆวันพยายามไปเรื่อยๆ ถ้ายังไม่ได้อีก คุณก็คงจะรู้คำตอบของตัวเอง.

ที่ผมเขียนยาวๆมาให้คุณได้อ่านได้คิด ก็เพราะเป็นห่วง
ไม่อยากให้คุณฝันหวานอะไรลมๆแล้งๆ วันเวลาผ่านไปเร็วชีวิตก็สั้นลงเรื่อยๆ
โดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรให้ออกมาเป็นจริง ได้แต่มีความสุขกับการฝันหวาน
พอไปถึงเวลาคุณแก่ตัวอะไรที่คุณหวังไว้วันนี้เกิดไม่เป็นจริงขึ้นมา
ตอนนั้นตัวคุณเองและคนรอบข้างจะรู้สึกเสียใจมากท้อแท้ขึ้นมารู้สึกอับอาย
ตอนนี้ถ้าคิดได้จะทำอะไรก็ให้เริ่มทำได้แต่เนิ่นๆ ให้ทำอะไรออกมาเป็นรูปธรรม ให้สำเร็จ
ให้เริ่มตอนนี้ยังไม่สายเกินไป

ปล. อย่าได้เคืองผมนะที่ผมได้เขียนแบบโจ๊ะๆกับคุณ ผมอยากให้คุณได้เก็บไปคิด

 

ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ถ้าคุณมีผลงานคุณก็จะมีค่า
ดีกว่าไปคิดว่าฉันคือคนสำคั_เป็นโน้นมาเกิด เป็นคนนี้ซะอีก แต่ไม่มีผลงงานอะไรเลย

ผมก็สงสารคุณผมคิดว่าคุณต้องการคนเห็นใจ
ต้องการความอบอุ่น ต้องการเป็นคนสำคั_
ต้องการความรักและความใส่ใจ จากคนรอบๆข้าง

ผมคิดว่าช่วงนี้คุณก็เขียนทุกอย่างที่คุณเก็บกดเอาไว้ในใจ
ระบายมันออกมาให้หมดจากใจ โดยให้คนพร้อมฟังและอ่านที่คุณระบายออกมาและเป็นเพื่อนคุณ จะช่วยให้คุณดีขึ้นและมีความสุขทางใจมากขึ้น ฝันบางอย่างก็สุขใจ ถึงจะทำออมาไม่ได้จริงแต่สุขใจ

ผมคิดคิดดู ถ้าคุณมีภรรยาและมีลูก รักกันอย่างอบอุ่นใส่ใจกัน
คุณอาจจะดีขึ้น

 

โมทนาคุณ จิตพิศดาร คุณกล่าวได้ตรงใจผมจริง ๆถูกต้องแล้วครับ คนทำจริงอ่ะน้อยมาก ส่วมมากจะหลงในอดีต และอนาคตเอามาปรุงแต่งว่าตัวเองดี..คนที่มีสติอยู่กับปัจจุบันน้อยมาก..พออ่านเจอว่า คนนั้นทำนายว่าจะมีคนเก่ง ก็เอาตัวเองเข้าไปใส่ว่าเป็นเรา ปรุงแต่งเข้าไป ผมเจอมาเยอะ ไม่จริงสักราย ผมเลย เบื่อ ก็เลยเอาดีที่ตัวดีกว่า ตนนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน ทำเท่าไหร่ได้เท่านั้น เรามาคนเดียว เราทำคนเดียว เราได้คนเดียว และเราตายคนเดียว ..จงอย่าประมาท..ขอให้เจริ_ในธรรม อัตตา ว่าตัวเองเก่งร้ายเหลือประมาณ...

 

จิตยังฟุ้งอยู่เยอะเลยเฝือแบบนี้เท่านั้นแหละ ถ้ายังปฏิบัติอยู่เดี๋ยวก็รู้เองไม่ต้องรอให้ใครมาสรรเสริ_หรือนินทา แต่บางคนกว่าจะรู้ว่าหลอกตัวเองก็นานเหมือนกัน ไปด้วยกุศลดีกว่าจะเป็นอะไรก็ช่าง คิดดี ทำดีมีศีลธรรมเป็นให_่ ขอให้เจริ_ด้วยปั__าครับ

 

คุณทลิททกะ บารมีก็ยังอ่อนเพราะว่ากำลังใจคุณยังอ่อน
คุณควรเร่งเพียรซะตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ได้เป็นพระศรีก็ไม่เป็นไร
ขืนคุณยังไปชวนให้คนอื่นเชื่อว่าคุณเป็นพระศรีก็จะบาปไปเรื่อยๆ

 

คุณลองเขียนมาหน่อยว่า
คุณสามารถทำอะไรให้สาธาณะชนได้บ้างในเวลาอันใกล้นี้
ยังไม่ต้องฝันไปไกลๆ

เวลาที่ผ่านมาหลังจากที่คุณได้เขียนหนังสือนั้นผ่านมานาน
ลองหวนไปมองดูตัวเองว่า คุณได้ทำอะไรไปแล้วบ้างมีอะไรสำเร็จไปบ้างรึยัง สมาธิไปถึงไหนและได้ทำประโยชน์อะไรให้แก่สาธารณะบ้าง นอกจากการเพ้อฝันหวานที่เป็นความสุขทางใจของตน

 

พระศรีอารย์น่ะ ไม่มาเกิดง่ายหรอก อย่าเพ้อเจ้อนักเลย อีกนานกว่าท่านจะมาเกิด

 

ทลิททกะ
(f)
เขียนได้ยาวจริงๆ อ่านแล้วพาให้เพลิดเพลิน ชอบกระทู้นี้ มีสาระดี กำลังติดตามอยู่

 

เพี้ยน อีกคนแล้ว

คนบางคนศึกษามากไป รู้มากไป ทำอะไรมากไป เขาเรียกว่า หลง

ผมว่าคนเราน่าจะพอดี พอดีบ้างนะ

 

ศรีธั__ามากว่า

 

ไม่จริงมั่ง น่าฉงฉานออกค่ะ
(cry) (b-cry)

 

123 คือพระศรีอาริย์....................แย่แล้ว !!! หมอกับพยาบาลกำลังมา....ขอตัวก่อนนะ....ต้องกลับไปกินยาก่อน หมอมาตามแล้ว...(f)

 

คุณ ทลิททกะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอค่ะ

 

อ่ะทำไมยุคนี้ถึงมีพระศรีถึงสองคนละเนี่ย ....งั้นไปเป่า_ิ๋งฉุบกันนะว่าครายชนะก็จะได้เป็นพระศรี

 

คำที่ผมเคยกล่าวไว้นั้นมันเป็นคำพูดที่กล่าวมาลอยๆอาครับอย่าคิดมากเลย(เดี๋ยวผมล่วงหรอก).....แต่ก็เคยมีอัจฉริยะบุคคลท่านหนึ่ง เคยกล่าวเอาไว้ว่า "คำพูดที่กล่าวขึ้นมาลอยๆนั้นย่อมมีเค้าโครงของความจริงอยู่เสมอ"
....และเค้าโครงในความคิดของผมก็คือ มนุษย์เราทุกคนตอนนี้ ต่างคนต่างก็อยู่ในโลกแห่งความสับสนโลกแห่งความไม่รู้กันแทบทั้งสิ้น ต่างคนก็ต่างพยายามเสาะแสวงหาสิ่งที่จะมาอธิบายความไม่รู้ของคนเรานี้ให้เกิดความกระจ่าง และต่างก็อธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นให้ได้เป็นที่เข้าใจและเป็นที่ยอมรับ แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรหละว่าสิ่งต่างๆที่คุณค้นพบขึ้นมานั้นมันจะเป็นจริงแท้แน่นอนถุกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์เสมอไป คุณมีอะไรมายืนยันหละว่าอะไร จริงและไม่จริง เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณเห็นว่าเป็นจริงในตอนนี้ อาจจะไม่เป็นความจริงก้ได้ในเวลาต่อไป และสิ่งที่คุณเห็นว่าไม่เป็นความจริงในคราวที่แล้วก็อาจจะเป็นความจริงได้ในคราวต่อไปอีกเช่นกัน
และตราบใดที่กระบวนการคิดของมนุษย์ยังไม่มีที่สิ้นสุด ตราบนั้นก็ยังคงมีกระบวนการแสวงหาความจริง และก็มีข้อถกเถียงขัดแย้งกันอยู่เสมอ
ฉะนั้นแล้วจงอย่าพึ่งแน่ใจหลงใหลยึดติดกับสิ่งที่เราค้นพบมากนัก และควรใช้สติวิจารณ_าณพิจารณาถึงสิ่งที่เราได้ค้นพบ นั้นด้วยว่าหากเราประกาศถึงสิ่งที่เราได้ค้นพบต่อสาธารณชนไปแล้ว ผลที่ตามมามันจะเป็นอย่างไรด้วย......(Time and space)

 

ok ครับผมผิด บางทีผมยังอาจจะรู้น้อยมาก...ในสิ่งที่คิดว่ารู้มากแล้วก็ได้ และก็ขอให้ปั__าจงสถิตอยู่กับตัวท่านด้วยครับ

 

อนุโมทนาบุ_ด้วยครับ ตามความเห็นผมคิดว่าถ้ามีใครเป็นพระศรีอาริยะเมตรไตยจริงๆก็คงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่คนทั่วไปจะไม่สามารถทราบได้ว่าท่านเป็นพระบรมโพธิสัตว์ เพราะบารมีของท่านแก่กล้าและสูงส่งอย่างนั้น ถ้าใครรู้ได้ซิถึงไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นเมื่อเรารับรู้สิ่งใดก็ตามสิ่งที่สำคั_คือการน้อมเข้ามาสู่ตนเองและคอยสำรวจตนเอง คอยระมัดระวังความคิดของตนไม่ให้คิดไปในทางที่เป็นอกุศล เพราะบุ_หรือบาปนั้นย่อมเกิดขึ้นได้เพียงชั่วขณะของความคิด ความคิดเพียงชั่ววูบอาจเป็นเหตุที่ทำให้เราขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ได้ โดยเฉพาะถ้าผู้ใดที่เคยเห็นสภาพในนรกจริงๆแล้วน่าจะเกิดความละอายและเกรงกลัวต่อบาป (หิริ โอตตัปปะ)เป็นอย่างสูง ยังไงๆผมก็ยังยืนยันว่าธรรมที่จะช่วยในการสร้างความดีทุกประเภทได้เป็นอย่างดีมากๆเลยก็คือ "โยนิโสมนสิการ" (}) ({)

 

ภาษีอานหรือเปล่า หุ หุ หุ

 

ปี49ผมว่าภาษีจะอานครับ

 

ผมได้อ่านข้อความของคุณเกษมแล้ว จำได้ว่ามีลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยเล่าให้ฟังว่ามีคำทำนายแบบนี้จริง แต่เป็นคำทำนายของพระพุทธเจ้า ว่าจะเกิดมีคนที่มีอำนาจ_าณฌาณสมาบัติเกิดขี้นในช่วงกึ่งพุทธกาล และมีลักษณะมีแผลดุจรอยหนูเจาะที่
ศรีษะ ผมคิดว่าต่อไปก็คงจะรู้กันเอง