ข่าวดี ชาวโลกจะได้พบพระศรีอารย์ในปี 2549

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 10 พฤศจิกายน 2004.

  1. สาวก

    สาวก บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คุณ กับ คุณ telwada ใครเป็นพระศรีอาริย์ กันแน่ ?
    ทำไมมีหลายองค์


    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?threadid=202


    ทำไมท่านทั้ง2ไม่ไปลองเผชิ_ สนทนาธรรมกันดูสักนิดหน่อย
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    องค์พระเมตไตรยต้องบุรพกรรม


    สมัยหนึ่ง ที่องค์พระเมตไตรยต้องบุรพกรรม มาเกิดเป็นนางยักษ์ รูปร่างร้ายอยู่ในป่า องค์พระ โคตมะกำลังบำเพ็ญบารมีอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอราวดี ด้วยสัพพัญญุตญาณทราบว่า นางยักษ์นี้ได้ก่อสร้างบารมี 30 ทัศมามากมาย แต่เพราะผลกรรมที่กระทำกาเมสุมิจฉาจารกับภรรยาผู้อื่น จึงมาเกิดเป็นนางยักษ์ชาตินี้ พระองค์จึงเสด็จมาโปรด นางยักษ์แลเห็นลักษณะอันประเสริฐ จิตเลื่อมใสก้มลงกราบ เมื่อองค์พระโคตมะตรัสเทศนาพระธรรม นางยักษ์ปลงใจเด็ดขาด ตัดเอาเต้านมทั้งสองถวายเป็นพุทธบูชา อานิสงส์นางยักษ์ตัดเต้านมทั้งสองมากระทำสักการบูชาพระตถาคตครั้งนั้น ส่งผลให้นางยักษ์พ้นจากอิตถีเพศ คือ ท่านจะเกิดเป็นหญิงแต่เพียงชาติเดียวเท่านั้น นางยักษ์นี้ได้สร้างพุทธวิริยบารมีมาถึง 80 อสงไขยกัป คือ ปรารถนาอยู่ในใจถึง 36 อสงไขยกัป ลั่นวาจาว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าอีก 28 กัป

    และในกาลก่อน พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า "มหุตชินสีห์" ได้ทรงพยากรณ์ว่า "ท่านจะเวียนว่ายตายเกิดสืบต่อไปอีก 16 อสงไขยกัป ก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรย ในอนาคตกาล" และในท่ามกลางพระพุทธศาสนาของพระพุทธโคดม ท่านจะมาช่วยสืบอายุพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองไปจนตลอด 5,000 ปี

    กาลต่อมา ในชาติหนึ่งที่พระเมตไตรยมาเกิดเป็นมนุษย์ชาวไร่ กระทำไร่เลี้ยงชีวิตอยู่ริมภูเขา ตักกคีรี ซึ่งเป็นภูเขาเดียวกับที่ฝูงลิงถ่ายอุจจาระใส่ผ้าอาบของพระพุทธเจ้านั้นเอง ขณะที่เมตไตรยกระทาชายวิ่งไล่ขับฝูงลิงที่ลงมากินแตงโมในไร่นั้น ก็เลยวิ่งเลยถลำ ไปเหยียบเอาพระฉาย คือ เงาของพระพุทธเจ้าโดยไม่ทันสังเกต เมื่อเหลียวมาพบพระโคตมะ จิตเลื่อมใสศรัทธา จึงนำเอาแตงโมมาถวาย 7 ลูก แต่มีลูกหนึ่งที่รอยหนูกัดเป็นโพรง กุศลผลทานครั้งนั้น จะส่งท่านมาเกิดเป็นพระยาจักรพัตราธิราชอันประเสริฐ ในท่ามกลางศาสนาของพระตถาคต และจะช่วยสังคายนา ชำระสะสางพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ศาสนาของพระพุทธโคดมจะปกแผ่ไปทั่วทั้งเมืองคนขาว เมืองคนเทา ปกแผ่ไปทั่วโลก ส่วนวิบากกรรมที่ท่านได้เหยียบเงาพระตถาคตนั้น เมื่อท่านได้มาเกิดเป็นมนุษย์จะมีรูปร่างหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ บนศรีษะก็จะมีรอยแผลเป็น ดุจดังรอยหนูเจาะแตงโม แต่ในภายหลัง ท่านจะมีผิวพรรณวรรณะ สวยสดงดงามดั่งเทพบนสวรรค์ เพราะได้บริโภคของทิพย์ ของพระอิศวรเทพเจ้า

    ตามบุรพกรรมสัญญาที่มาระหว่างองค์พุทธที่ 4 และองค์พุทธที่ 5 ทำให้องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์ จะต้องมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาของพระพุทธโคดม จวบจนครบพุทธกาลดั่งนี้แล และในระหว่างกาลแห่งการรักษาศาสนจักร อาณาจักรแห่งองค์พุทธที่ 4 จะอยู่ในนามว่า "ภายใต้รังสีพระศรีอาริยเมตไตรย" เพราะอำนาจสิทธิแห่งวงศ์ศาสนจักรยังเป็นขององค์พุทธที่ 4 แต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

    อดีตกรรม

    เอกัง สะมะยัง ในสมัยหนึ่งพระพุทธโคดมได้เสด็จเลียบมาถึงแม่น้ำสายหนึ่ง ในแคว้นสุวัณณภูมิ ซึ่งไหลผ่าน ภูเขาตักกคีรี พระองค์ลงสรงน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เอาผ้าอาบตากไว้บนฝั่งแม่น้ำ จึงเสด็จขึ้นประทับอยู่บนภูเขาลูกนั้น มีลิงแม่ลูกอ่อนฝูงหนึ่งอุ้มลูกออกจากชายป่า พลันก็ถ่ายอุจจาระของมันลงบนผ้าอาบของพระองค์ ซ้ำเอาหว่านเล่นเสียเลอะเทอะ คงเหลืออยู่ชายเดียว ณ บัดนั้นก็ได้มีนกยางปอน (นกยางขาว) ตัวหนึ่งบินมาจับลงที่ศรีษะของแม่ลิงตัวหนึ่ง แล้วก็เหลียวหน้ามองไปโดยรอบทั่วทุกทิศ ในทันใดรัศมี ซึ่งเป็นสีต่าง ๆ ได้พุ่งปราดออกจากพระเขี้ยวทั้งสี่ของพระพุทธเจ้า พระอานนท์ผู้อุปัฏฐาก จึงทูลถามเหตุการณ์อันประหลาดนั้น พระองค์ทรงตรัสพยากรณ์ว่า:-

    "ดูก่อนอานนท์ ผ้าอาบของตถาคต ได้แก่ ศาสนาที่ตถาคตวางไว้ ลิงแม่ลูกอ่อนที่มาถ่ายมูลเลอะเทอะหมดถึง 3 ชายนั้น ได้แก่ กองทัพ ซึ่งจะมารบราฆ่าฟันกันตาย เหลือที่จะคณานับ ศาสนาของตถาคตจะเสื่อมทรุดไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงค้างอยู่แต่เพียงส่วนเดียวและนกยางขาวที่บินมาจับหัวแม่ลิงนั้น คือ พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ จะมาปราบอธรรม และช่วยสืบอายุศาสนาของตถาคต เริ่มตั้งแต่ 2,500 ปีขึ้นไป จนครบ 5,000 ปี"

    "พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์กับตถาคต ได้สร้างกรรมไว้ในอดีตชาติ" พระองค์ทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังต่อไปว่า

    "อันชาติหนึ่งสองเราสหายสนิท
    ช่วยกันคิดเอาบัวมาอธิษฐาน
    เพื่อเสี่ยงทายบารมีพุทธกาล
    ให้บัวบานบอกแจ้งเป็นผู้ใด"

    ในชาตินั้นเราทั้งสองจึงเอาดอกบัวมาคนละดอก เข้าไปอธิษฐานในพระวิหารว่า ถ้าใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ก็ขอให้ดอกบัวของผู้นั้นบานก่อน

    ครั้นวันรุ่งขึ้นพระตถาคตได้เข้าไปดูดอกบัวนั้น แต่ยังไม่ทันสว่างแจ้ง เห็นดอกบัวของพระศรีบานก่อน ด้วยความที่อยากเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระศรี จึงลักเปลี่ยนดอกบัวของพระศรีมาไว้ที่พระตถาคต สับเปลี่ยนกันเสีย

    "บัวของน้องบานแล้วนะพี่จ๋า
    สัมพุทธาน้องย่อมได้ไปก่อนแน่
    แต่ไฉนบัวในมือเดี๋ยวหุบเดี๋ยวก็แบ
    พุทธยังไม่เที่ยงพุทธยังไม่แท้น่าอายจริง"

    ฝ่ายพระศรีนั้นเขาฌานแก่ รู้ว่ามีการสับเปลี่ยนบัว จึงทำนายว่า "โอ! สหายท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราจริง แต่ทว่าฝูงมนุษย์ยุุคนั้นจะเป็นคนขี้ลักขี้ล่าย และใช้เงินดำ เงินแดง เงินกระดาษกัน อย่างพร่ำเพรื่อ มนุษย์จะไม่ซื่อสัตว์ต่อกัน จะทุจริต คิดมิชอบนานาประการ พระสงฆ์องค์เณรพุทธบริษัทในศาสนานั้น จะหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวบวช เดี๋ยวสึก เดี๋ยวหุบ เดี๋ยวแบดังบัวดอกนี้"

    เพราะกรรมที่พระพุทธโคดมได้สับเปลี่ยนบัว ถึงแม้ว่าพระองค์และเหล่าพระอรหันตสาวกจะเข้าพระนิพพานไปแล้วก็ตาม แต่กรรมนั้นยังติดอยู่ในศาสนาของพระองค์ ตราบเท่าทุกวันนี้ ที่เหลือไว้แต่สมมติสงฆ์ในศาสนาของพระองค์ จึงรู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ศาสนาสามส่วนก็ถูกพราหมณ์ ยักษ์ และมารเอาไปครอง เหลือจริงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ข้อวัตรปฏิบัติจึงถูกปนเป็น จนแยกแยะไม่ออก ผู้คนเกิดมาสมัยหลัง จึงไม่เข้าใจทางปฏิบัติที่ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพานในฝ่ายสัมมาทิฏฐิแต่ส่วนเดียว นั้นคืออะไร

    พระพุทธโคดมทรงเล่าอดีตกรรมจบลง พร้อมพยากรณ์เหตุการณ์สืบไปอีกว่า

    "เมื่อพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาในพุทธกาลของพระตถาคตนั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลก อย่างแปลกประหลาดเหลือจะคณานับ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์นานาชนิด ก็จะไม่ได้ปั่นและทอด้วยมือ เหมือนในศาสนาของตถาคตจะมีแต่ผ้าเนื้อบริสุทธิ์ ฝูงมนุษย์จะไม่ติเตียนว่า เป็นขี้หูขี้ตาเขาเท่าจะวัดวา (วัดหลาและเมตร) ก็จะมีในยามนั้น แม่หญิงจะนุ่งซิ่นเสื้อลายเหมือนหนังแย้ จะนุ่งเสื้อผ้าแขนกุดขาก้อม หญิงชายจะนุ่งผ้าเป็นอย่างเดียวกัน จะว่าชายก็บ่จริง จะว่าหญิงก็บ่แม่น แม่หญิงจะหวีผมปกหน้า จะใส่ต่างหูยาวง้ำหน้า พ่อชายจะใส่หมวกหุ้มหน้า สิ่งที่ไม่รู้จะได้รู้ สิ่งที่ไม่พบเห็นก็จะได้เห็น พร้อมด้วยบุรพนิมิตอันชั่วร้ายต่าง ๆ ก็จะบังเกิดขึ้นแก่โลกมากมายยิ่งนักดังนี้

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    ในขั้นสุดท้าย แผ่นดินจะไหวเดือนละหลายครั้ง จะมีสุริยคราสและจันทรคราสบ่อยครั้ง จะเห็นผีพุ่งไต้บ่อยๆ ดาวหางและแสงประหลาดจะบังเกิดให้เห็นไม่ขาดระยะ จะได้ยินเสียงดังในอากาศคล้ายระเบิดและปืนใหญ่ แร้งกาจะบินลงเกาะบ้านเมืองอย่างผิดธรรมดา ฝูงมนุษย์จะเดือดร้อนและขวักไขว่กันไปมา จะบังเกิดสงครามฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วงไปทุกหนทุกแห่ง ครั้นแล้วถึงกาลที่องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์จะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกตามบุรพกรรมสัญญา

    กรรมของศาสนาของพระพุทธโคดม

    พุทธันดรที่ 4 นี้ เมื่อพราหมณ์ไปทูลขอศาสนาจากพุทธองค์แล้ว กาลต่อมาพอจะประกอบพิธีอะไร ก็จะประกอบตามพิธีพราหมณ์ของตนก่อน เพราะพวกพราหมณ์ยังบำเพ็ญบารมีสูงไม่ถึงพุทธ จึงไม่รู้ข้อวัตรปฏิบัติ ว่ามีมาอย่างไร และจะปฏิบัติอย่างไร เพราะต้นศาสนาก็ไม่รู้ ตรงกลางก็ไม่รู้ และปลายยอดของพระศาสนาก็ไม่รู้ รู้ว่าเขาไปนิพพานก็อยากไป แต่ไม่รู้ว่านิพพานอยู่ตรงไหน และจะเอาอะไรไป เพราะไม่รู้ข้อวัตรปฏิบัติของ อริยมรรคมีองค์ 8 เป็นเช่นไร เมื่อขาดความเห็นที่ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพาน ข้อวัตรปฏิบัติจึงแปรเปลี่ยนเป็นพิธีกรรมต่าง ๆ แพร่กระจายออกสู่ชาวพุทธ เมื่อจะทำการกุศลใดก็จะทำพิธีบูชายัญ และพิธีกรรมต่าง ๆ ของพราหมณ์ จนกลายเป็นประเพณีนิยมสืบกันทุกวันนี้

    มาร เมื่อได้พระพุทธศาสนามาแล้ว จึงทำการแก้ไข เปลี่ยนแปลงเสียใหม่ บอกชี้สิ่งที่ถูกให้เป็นผิด บอกสิ่งที่ผิดให้เป็นถูก ทำสิ่งชั่วร้ายให้เห็นเป็นของดี เห็นการทำดีเป็นสิ่งชั่วร้าย จนเป็นที่มาของคำว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป และเมื่อชาวพุทธจะสร้างบารมี ด้วยการนั่งสมาธิภาวนาก็บอกว่า เดี๋ยวจะบ้านะอย่านั่งเลย ไปหาพระประพรมน้ำมนต์ขอของขลังดีกว่า ไปสะเดาะเคราะห์ดีกว่ามานั่งปฏิบัติธรรมเอง พญามารหลอกลวงชาวพุทธให้วนเวียนอยู่ในอำนาจมาร ให้หลงโง่งมงายในเดรัจฉานวิชชา ทำให้จิตใจมืดบอด ทำให้ชาวพุทธไม่รู้หนทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง ประกอบการกุศลครั้งใดแทนที่จะเป็นบุญเป็นกุศล ก็กลับเป็นเวรเป็นกรรมอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะนิมิตหมายแห่งคุณงามความดี และทางที่บริสุทธิ์ พวกมารได้ตัดได้ปิดได้ฝังลงดินไปเสียแล้ว และถูกทางฝ่ายมารเข้าแทนที่ โดยปรมัตถ์แห่งการตัดหวายตัดลูกนิมิต เพราะหวายเป็นเส้นยาว เปรียบประดุจเส้นทางแห่งมรรค ผล นิมิต คือ ความสว่าง ความรู้แจ้งแห่งปัญญา เมื่อถูกปิด ถูกตัดเสียแล้ว มนุษย์ก็เดินหลงทาง ปฏิบัติไปไม่ได้อะไรก็เลยท้อใจ และเบื่อหน่าย ละเลิกทอดถอนการปฏิบัติไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง
    ยักษ์ เมื่อมารใช้ให้พราหมณ์ไปขอพระพุทธศาสนาจากพระพุทธโคดมในครั้งนั้น พระพุทธองค์ทรงยกให้ 2,500 ปีหลัง
    ส่วนที่หนึ่ง พราหมณ์เอาไปประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ
    ส่วนที่สอง มาร เอาไปตัดไปปิด และเอาฝังเอาไว้
    ส่วนที่สามนั้น พวกยักษ์เอาไปขายกิน เมื่อยักษ์ได้รับส่วนแบ่งพระพุทธศาสนามาแล้ว ตามประสาของยักษ์ชอบใช้แรง ใช้อำนาจบาตรใหญ่ เมื่อความเป็นยักษ์เริ่มสิงจิตใจผู้คน จนทั่วถึงกันทุกชนชั้นวรรณะ ตลอดจนถึงพระสงฆ์ ก็เริ่มโอ้อวดฤทธิ์เดชความสามารถ ความอยู่ยงคงกระพัน วัตถุมงคลเกิดขึ้นมากมายแทนการปฏิบัติบูชาที่ถูกต้อง ผู้คน เริ่มมีนิสัยละโมบ อวดใหญ่ ลำพอง คะนองเดช ตามสันดานของยักษ์ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น จากการเห็นผิดเป็นชอบด้วยไฟแห่งโลภะ โทสะ และโมหะ ผลสุดท้ายชาวพุทธก็ทำลายล้างกันเอง ความเมตตาปราณีถดถอยออกจากจิตใจ ความละโมบมักมากก็ทวีคูณขึ้น การทำมาหากินจึงโกงกิน แก่งแย่งทำลายซึ่งกันและกัน เป็นที่มาของปัญหาคอรัปชั่นตามนิสัยยักษ์ คือ ชอบยักยอก ผลสุดท้าย ศาสนาที่ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพาน ก็ไม่เหลือไว้คุ้มครองชาวพุทธ ตามปรมัตถ์ที่เหล่าพญาสัตว์ขอ " พระ" มาเป็นที่พึ่งของสัตว์โลก โลกจึงขาดสันติสุขเพราะชาวโลกเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ความเมตตา ความสงบก็ขาดจากกัน ปลาใหญ่ก็กินปลาเล็ก คือ ผู้ใหญ่รังแกผู้น้อย ประเทศที่ใหญ่กว่าก็เปียดเบียนรังแกประเทศที่ด้อยกว่า บังเกิดความทุกข์ยากไปทั่ว ดังเช่นที่ประสบกันในทุกวันนี้ ทำไมศาสนาพุทธจึงเป็นที่พึ่งของสัตว์โลกไม่ได้ตลอดพุทธกาล เหล่านี้เป็นเพราะกรรมอันใดเล่า กรรมแห่งศาสนาของพระพุทธโคดมมีมาเช่นไร

    ดุสิตเทวโลก ชั้นที่ 9 วิมานพระเมตไตรยมหาโพธิสัตว์
    ถึงกาลสะสางภพภูมิ สะสางโลก สะสางธาตุธรรม ให้ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพานในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว รวบรวมฟองไข่ศาสนา ร้อยเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดแห่งโองการนวกาพรหม นามแม่กาเผือก เคลื่อนรัตนจักรแผ่นดินรัตนโกสินทร์ เข้าสู่ยุคถิ่นกาขาว-ชาวศิวิไลซ์ ภายใต้รังสีพระศรีอาริย์

    ขณะนั้น พระเมตไตรยมหาโพธิสัตว์มองลงมายังโลกมนุษย์แผ่นดินสุวัณณภูมิ ตามปรมัตถ์นาม แห่งโองการ นวกาพรหม เห็นพระพุทธโคดมลุกออกจากอาสนะบัวกลายเป็นหมู่สงฆ์แทนที่ ฉับพลันบังเกิดไฟลุกท่วมพระสงฆ์จึงทราบว่า ถึงเวลาที่จะต้องมากระทำศาสนกิจตามบุรพกรรมสัญญาที่ต่อองค์พุทธที่ 4 อีกทั้งเสียงเพรียกร้องของเหล่าทวยเทพน้อยใหญ่ทั้งหลายที่อาราธนาอัญเชิญพระองค์ดับทุกข์เข็ญ

    พระองค์ทรงเล็งเห็น ความเป็นมาของแผ่นดินสวัณณภูมิว่า แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ที่องค์พุทธที่ 4 ประทานนามแผ่นดินให้แก่ พระเจ้าทับไทยทอง เจ้าผู้ครองแผ่นดินแหลมทอง นำผังสุวัณณภูมิกลับไปยังบ้านเมือง ในพุทธพัสสาที่ 44 คือ ก่อนพระองค์ท่านปรินิพพานหนึ่งปี และพุทธศักราชที่ 100 องค์พระอวโลกิเตศวร ได้นำเสนอต่อธรรมสภาว่า ศาสนาพุทธของพระพุทธโคดม จะอยู่ในแผ่นดินมัธยมประเทศ (อินเดีย) ได้เพียงพันปีเท่านั้น แล้วจะเสื่อมหมดไปจากแผ่นดินแม่นี้ สมควรที่เหล่าทวยเทพจะหาแผ่นดินที่รองรับสืบอายุ พระพุทธศาสนา ที่ประชุมธรรมสภาต่างเสนอแผ่นดินศรีลังกา และแผ่นดินสุวัณณภูมิ องค์พระอวโลกิเตศวร และพระเมตไตรยทรงเล็งเห็นว่าจิตใจผู้คนในแผ่นดินสุวัณณภูมิละเอียดอ่อนกว่า เหมาะด้วยภูมิประเทศและผู้คน สมควรเป็นแผ่นดินที่จะสืบอายุศาสนาได้จวบจนสิ้นพุทธกาล

    ที่ธรรมสภา สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก่อนพุทธศักราช 2500 องค์อินทราธิราชเจ้า พร้อมเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้ทราบว่า ถึงกาลที่พระพุทธศาสนาจะผันเปลี่ยนเวียนลงต่ำ ทรามเสื่อม ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น พระพุทธศาสนาก็จะอยู่ไม่ครบพุทธกาล จึงพร้อมเพรียงกันมาประชุมหาผู้ที่มีบารมีมากที่สุด ที่จะช่วยพระพุทธศาสนาได้แล้วเหล่าทวยเทพน้อยใหญ่ทั้งหลายเห็นว่า บารมีของพระเมตไตรยมหาโพธิสัตว์ องค์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระศรีอาริยเมตไตรยในภายหน้านั้น บารมีมากล้นสุดพอที่จะมาต่อชะตาเมือง ประสานศีลธรรม และสืบอายุพุทธกาลไว้ได้

    องค์อินทราธิราชเจ้าพร้อมทั้งเหล่าทวยเทพน้อยใหญ่ทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันไปอาราธนาอัญเชิญ พระเมตไตรยมหาโพธิสัตว์ ยังดุสิตเทวโลก ขออาราธนาอัญเชิญพระองค์ท่านมาช่วยสืบอายุพระพุทธศาสนา ด้วยเถิดพระเจ้าข้า...พวกเกล้ากระหม่อมขอธุลีการ ฝ่าพระบาท โปรดลงไปช่วยต่อชะตาชาวพุทธ ต่อชะตาบ้านเมืองและศีลธรรม สืบอายุอาณาจักรและพุทธจักรให้ครบพุทธกาล ขอได้ทรงพระเมตตาไปช่วยชาวโลก โปรดโลก เปิดธรรม ตัดเวร และอโหสิกรรม สะสางธาตุธรรม ชี้ทางที่ถูกต้องเที่ยงตรง และเที่ยงธรรม ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว แก่เหล่ามนุษย์ด้วยพระเจ้าข้า...ขอธุลีการฝ่าพระบาท...โปรดประทานพระมหาเมตตามหากรุณาชาวโลกเถิดพระเจ้าข้า...

    ดาวสงคราม-ดาวสันติ
    พระมาลัยได้กล่าวขี้น ท่ามกลางธรรมสภาว่า บัดนี้ใกล้วาระที่จะถึงกึ่งพุทธกาล ปรากฏว่าดาวเทพเจ้าสงคราม ได้ลงจุติยังโลกมนุษย์แล้ว เพื่อดับดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ทั้งนี้เป็นการดับดาวศาสนา ดาวสงครามจึงครองอำนาจ ก่อเหตุให้เกิดความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ผู้ปกครองแว่นแคว้นทั้งหลายจิตใจมากด้วยอำนาจ โลภะ โทสะ และโมหะ ต้องการชิงความเป็นใหญ่ ต้องการเป็นจ้าวโลก โยนบาปสับเปลี่ยนให้ดาวศาสนาใช้กรรมวิบากของตน คนดีจะถูกเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเป็นซีกโลก ก่อเกิดเป็นสงครามโลกประหัตประหารชีวิตผู้คนด้วยอาวุธร้ายแรง สงครามโลกครั้งที่หนึ่งจะเกิดขึ้นในเมืองคนขาว สงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้น เมืองคนขาวลุกลามไปถึงเมืองคนเหลือง และในครั้งที่สามจะเกิดขึ้นในเมืองคนเหลือง เทพเจ้าดาวสงครามต้องการทำลายความเจริญของแผ่นดินของพระศาสนา ดับดาวศาสนาอย่างสิ้นเชิง แล้ว "พระ" จะปกครองสัตว์โลกได้อย่างไรพระเจ้าข้า.......

    พระเมตไตรยทรงพิจารณาเยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายว่า กาลเวลานี้อายุสัตว์โลกน้อยต่ำกว่า 100 ปี ด้วยเหตุที่อายุสั้นนัก ชาวโลกก็จักมีกิเลสตัณหา ราคะมาก เพราะเกรงว่าจักตายเร็ว จึงแสวงหากามคุณหนุนเนื่องความอยาก รับศีลแต่ปาก แต่ใจรวนเรมากด้วยเล่ห์กล ปากกับใจไม่ตรงกัน แม้เพียงศีล 5 คือ นิจศีลก็พากันรักษาไม่ได้ จึงเป็นเหตุที่ยังไม่สมควรจะจุติเพื่อดับทุกข์เข็ญ และเมื่อกาลถึงกึ่งพุทธกาล ก็หมดเขตสาวกภูมิของพระศาสดาพุทธโคดม พระสงฆ์ถึงแม้จะเรียนรู้จนจบพระไตรปิฎกสักร้อยครั้งพันครั้ง แต่ไม่อาจบรรลุธรรมไปได้ เหล่าพุทธบริษัทที่เหลืออยู่ ก็ต้องภายใต้อำนาจยักษ์มารที่มาครองรักษาตามที่ได้ขอไว้กับพระศาสดา เมื่อขอต่อแล้วเอาไปปฏิบัติรักษาไม่ได้ เพราะว่าพวกเหล่านี้บารมีไม่เพียงพอ จึงไม่รู้แจ้งในข้อวัตรปฏิบัติ คุณของพระศาสนาก็เลยถูกปกปิด และเสื่อมไปเหลือเพียงค่า ซึ่งนับว่าเป็นอัครวิบัติของศาสนา ทำให้เกิดภัยพิบัติกวาดล้างผู้คน คนดีจะถูกเข่นฆ่า เหมือนหยกกับหินที่อยู่ปะปนกัน เมื่อภัยพิบัติมาย่อมต้องถูกภัยไปด้วยเช่นกัน

    เมื่อเป็นเช่นนี้ พระพุทธศาสนาก็จะอยู่ไม่ครบพุทธกาล กรรมของพระโคดม กับพระศรีอาริย์ก็จะไม่ขาดจากกัน ฉะนั้น พระบรมนิตยโพธิสัตว์ เห็นสมควรที่จะอาราธนาพระอริยะสาวก ที่มีหน้าที่สืบอายุพุทธศาสนาเสมือนหนึ่งพุทธกาล เอาพระศาสนามาคืนเจ้าของเดิม กรรมที่พระโคดมได้เปลี่ยนเอาดอกบัวพระศรีอาริย์ถึงจะขาดจากกัน นี้คือกรรมของพระศาสนา ต่อจากนั้นพระองค์ก็จะได้มาฟื้นฟูให้ใหม่ เปิดนิมิติออก ตัดเวรแก้กรรม แล้วนำสร้างบารมีขึ้นมาใหม่ให้ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว

    แหล่งที่มา : www.palungjit.org โดย brushed
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2005
  3. แพรว

    แพรว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +166
    [bw-cry]
     
  4. อนัตตา

    อนัตตา บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อภิ__า ได้เกิดขึ้นเป็นสาธารณะแล้วจริง ๆ ครับ คุณเกษมก็รู้ ใคร ๆ ก็รู้ แต่ไม่มีใครจำได้เท่านั้นเอง คือรู้แล้วลืม เหมือนหนังสือเรื่องฌาณ ของทมยันตี ลองอ่านเอาเอง หรือลองสอบถามจากอาจารย์ที่นั่งสมาธิได้จริง ๆ
     
  5. แอนเจ้ล

    แอนเจ้ล บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ตอบสิ่งที่คิดกัน

    เหอ ๆ ๆ เอางั้นกันเลยเหรอ ท่านมาตั้งนานแล้ว ไม่ได้มาจุติ ท่านกำลังกำหนดการยึดติดอะไรกันอีกเล่า ท่านไม่ลงมาหรอก ต้องขึ้นไปหาเอง ท่านก็ไม่เห็นจะไปไหนไกลเราเลย อยู่กับพวกเราทุกคนนะแหละ คิดมาก นึกถึงท่าน ๆ ก็รับรู้แล้วแต่ต้องด้วยใจที่บริสุทธ ใจที่ไม่หลังขอขอขอ ขอให้รวย ขอต่าง ๆ นานา ขอได้แค่ ปั__าบารมี ขอได้แค่บางเรื่องเช่น ขอมอบดวงจิตนี้แด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และ ........ อะนะ ใครนะเป็นคนเผยแพร่เรื่องเหล่านี้ ถ้าท่านมาท่านคงไม่แจ้งให้ทราบหรอก ไม่งั้นจะทดสอบใครได้ จะสอนใครได้เล่า ใจเย็น ๆ เยอะไป
     
  6. lotte

    lotte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +4,545
    (b-wow) (ping-love
     
  7. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ด้านมืดของพลัง จาก star war www.newsworks.org(f)
     
  8. artty

    artty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    662
    ค่าพลัง:
    +2,386
    We will see ja
     
  9. นาคราช

    นาคราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +187
  10. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ทำไมเหล่าคนแอบอ้างมากันเยอะแยะมากมายขนาดนี้? ...
    ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเล้ย....มนุษย์หนอมนุษย์.... เห็นแล้วอนาจใจเหลือเกิน....

    จะมีใครมาประกาศตัวอีกหรือเปล่าน๊อ? .... เฮ้อ....
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คัดลอกมาจากhttp://www.prathum.com/forum_posts.asp?TID=89&PN=1

    สวัสดีครับ
    ผมจะขอขยายความเรื่อง " พระศรีอาริยเมตไตร " อีกนิดครับ
    พระอุบาลีคุณูปมาจารย ์ สิริจนฺโท จันทร์ กับ หลวงปู่มั่น ท่านบอกเรื่อง พระมหาโพธิสัตว์องค์ นี้ไว้ในหนังสือ ทิพย์อำนาจ หน้า 328-329

    นอสตราดามุส ในหนังสือของ ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน เรื่อง ศรัทธาใหม่ของมนุษย์โลก หน้า 391
    ตามความเชื่อศาสนาคริสต์ ใน ศาสนาคริสต์ ปี ค.ศ 2000 (พ.ศ 2543) เป็นวันที่พระเยซู จะเสด็จลงมาในโลกนี้
    ตามความเชื่อชาวมุสลิม พระมาซีอา นบีอีซา ตามความเชื่อชอง มุสลิมว่าจะเสด็จมาในวันพิพากษาโลก
    แต่คำภาษาอังกฤษ Sacred Friend ของ นอสตราดามุส แปลเป็นไทยว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " ซึ่งศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน บอกว่าเป็นพระนามของ " พระศรีอาริยเมตไตร " ของชาวพุทธ
    นอสตราดามุส กล่าวอีกว่า ท่านผู้นี้จะ ลอยผ่านแม่น้ำ ผ่านเทือกเขา..........

    ท่านที่ปฏิบัติสมาธิดีแล้ว......ก็จะทราบเรื่องนี้เหมือนกันครั บ อย่างผมเองเทวดาท่านยังมาบอก ทั้งที่ผมไม่ได้ถามนะครับ ผมถึงบอกว่า ไม่เกินปลายปี 2549 เทวดาบอกว่าได้เห็นแน่
    การที่ผมบอกเรื่องที่หลายๆ คนไม่ทราบนั้น บางครั้งอาจเป็นข้อเสียกับผมเอง เพราะบางท่านก็บอกว่าไม่จริง " พระศรีอาริยเมตไตร " ยังอยู่บนสวรรค์ ที่บอกมานั้น ไม่เป็นความจริง
    บางท่านก็อาจคิดว่าผมเป็น พระศรีอาริยเมตไตร เข้าไปอีก ซึ่งจะไปกันใหญ่ และ เรื่องนี้ผมทราบจากเทวดามา ก็เอามาบอกให้ทราบ นี้แค่ผมพูดเรื่อง " พระศรีอาริยเมตไตร " ที่รู้จากเทวดาอย่างเดียวนะ
    ถ้าบอกอีกหลายๆเรื่อง......ที่ไปเห็นมา อ่านแล้วจะ " งง " กันกว่านี้อีก
    อย่าง " พระยายมราช " นั้น มีที่เป็น ผู้หญิงด้วย มีใครเคยรู้บ้างไหม อย่างคนที่สอน " มโนมยิทธิ " มีใครเคยพูดถึงไหม ถ้าเราทำไม่ได้จริงอย่าไปสอนเลยครับ เป็นกรรมเปล่าๆ

    " พระศรีอาริยเมตไตร " นั้น ถ้าผมจำเดือนไม่ผิดนะครับ เพราะ เทวดา ท่านมาบอกนานแล้ว เดือน กรกฏาคม พ.ศ 2549 ท่านผู้อ่านได้เห็นแน่ครับ
    เรื่อง พระศรีอาริยเมตไตร นั้น ที่รู้เองมีมาก คิดว่า ถ้าบอกไปมากก็มากเรื่อง ไม่ใช่ ทางแห่งความดับทุกข์ แม้แต่ผู้ที่บอกเอง ก็จะซวยไปด้วย
    ใครก็ตามบอกเรื่องราว " พระศรีอาริยเมตไตร " ก็ดี หรือ อ้างเป็น " พระศรีอาริยเมตไตร " ก็ดีจะซวยกันหมด จะถูกคนอื่นเขาด่าเอา ถึงเวลาจึงจะรู้เอง อย่าไปรู้ก่อนเป็นดี

    ถ้าท่านผู้อ่านไป นรก-สวรรค์-พระนิพพาน ได้ คุยกับเทวดาได้ คุยกับพระพุทธเจ้าได้จะทราบทันทีว่า " พระศรีอาริยเมตไตร "อยู่ที่ไหน
    ผมเองจึงบอกว่า ตำหนิของ" พระศรีอาริยเมตไตร " ตามพุทธทำนายนั้น ตรงตามความจริงทั้งหมด
    พอบอกแบบนี้บางท่านก็ไปเข้าใจว่าเป็น Admin อีก ......เซ็ง เลย ถึงไม่อยากจะเล่าเรื่องอะไรมากก็เพราะแบบนี้ล่ะครับ
    ยิ่งเรื่องที่ไม่มีใครรู้คนเล่าถูกด่าฟรี......ปล่อยให้รู้เอง หรือ ไม่รู้ไปเลยดีกว่า จะได้ไม่เป็นบาปแก่คนที่ด่านะครับ
    พระอรหันต์ ส่วนใหญ่จะไม่เล่าเรื่องแบบนี้กับใคร หรือจะเล่าเฉพาะลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น ก็เพราะเหตุนี้ล่ะครับ

    ระยะเวลา ถ้าเป็นจริงตามที่ผมทราบมาก็อีกประมาณ 1 ปี กับอีก 8 เดือน ถึงเวลาก็ได้เห็นเอง อยากทราบอะไรก็ไปถาม ท่านเองเลยไม่ต้องผ่านใคร

    ขอบคุณครับ

    มรรคผลการปฏิบัติ ขึ้นอยู่กับ " จิต " ผู้ปฏิบัติเอง มิใช่ผู้ใดมากำหนด
     
  12. tdelphi

    tdelphi บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
  13. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    สรุปแล้ว มีแต่พวกแอบอ้างเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่เห็นมีใครเขียนธรรมะของตัวเองขึ้นมาสักคน แล้วจะประกาศตัวเองเป็นพระพุทธวงศ์ได้อย่างไร?

    แล้วยังมีหน้ามาบอกว่า "ตรัสรู้" อีก ... ทุเรศเหลือหลาย

    ไอ้พวกที่ประกาศตัวเองทั้งหลาย .. มันก็คัดลอกคำสั่งสอนขององค์สมเด็จฯ ปัจจุบันทั้งนั้น โดยไม่มีความคิดของตัวเองที่เป็นชิ้นเป็นอันสักข้อ ...แถมมีบางตัวยังมีการยำใหญ่ใส่สารพัด .. แม่งเล่นทั้งไทย จีน ฝรั่ง อินเดีย ฯลฯ มันส์เขาหล่ะ... ในที่สุดพวกมันก็ยังยึดพระธรรมคำสั่งสอนของท่านฯ จอมไตรฯ องค์ปัจจุบันเหมือนกันหมด ... แล้วมันจะเหลืออารายยยยยยย....

    เฮ้อ!!!! .....น่าเบื่อจริงๆ ... เมื่อไหร่ไอ้พวกจังรายนี้ มันจะสูญพันธุ์ซะทีว่ะ.....
    (b-no)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2005
  14. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    .... อย่าไปสนมากเลยครับ ..... ถ้าท่านมาก็จะเจอเอง

    ......... แต่ทำไมผมไปเจอท่านที่ดุสิต ... เป็นท่านทุกครั้ง พระพุทธเจ้าท่านพาไปเองเลยนะ... ก็อย่าคิดมาก ...ปฏิบัติธรรมกันไปแล้วกันครับ
     
  15. ทูน

    ทูน บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เรื่อง ...บวชๆสึกๆอยู่ 7 ครั้ง

    ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ อยู่ในกรุงพาราณสี.

    พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลคนปลูกผัก ถึงความเป็นผู้รู้เดียงสาแล้ว ได้นามว่า
     
  16. khordsanth

    khordsanth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +98
    ไม่ต้องตามหากันหรอกครับ เพราะท่านก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช นั่นเองครับ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ !

    มีท่านผู้รู้ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า ปลายปี พ.ศ.2548 นี้ จะเริ่มเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะส่งผลให้มีคนตายจำนวนมหาศาล ส่วนผู้ที่รักษาศีล 5 ขึ้นไปจะรอด และอีก 5 ปีถัดไปน้ำจะท่วมภาคใต้ และจะร้ายแรงมากกว่าซึนามิหลายเท่า ผู้คนที่รอดชีวิตจำต้องเดินทางขึ้นทางเหนือเพื่อให้พ้นภัย โดยระหว่างทางจะพบกับคนนอนตายเกลื่อนกลาดจำนวนมาก นี่ไม่ได้แช่งนะ!

    หากท่านไม่เชื่อ คอยดูปลายปี พ.ศ.2548 นี้ให้ดี

    ใครที่ไม่เคยเข้าวัดก็รีบซะตอนนี้ยังทัน รีบหาของดี วัตถุมงคลติดตัวไว้ แต่ถ้าเป็นคนมีศีลดีอยู่แล้วก็ยิ่งดี และสุดท้ายให้ฝึกนั่งสมาธิ เพราะไม่มีสิ่งใดจะช่วยเราได้นอกจากสมาธิ และผู้ปฏิบัติสมาธิที่ได้อภิญญา เรียกว่าให้อยู่ใกล้คนดีเข้าไว้

    และปีหน้า (พ.ศ.2549) พระศรีอารย์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิตในตอนนี้ จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ (ท่านลงมาเกิดคราวนี้ ไม่ใช่จะมาเป็นพระพุทธเจ้่า เพราะยังไม่ถึงวาระนั้น แต่ครั้งนี้ท่านจะมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากเหตุการณ์อันเหลือที่มนุษย์จะรับมือได้ไหวครั้งนี้ เพื่อช่วยให้พ้นจากภัยสงครามครั้งมหึมาที่จะทำให้มีคนตายมหาศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น)

    นี่ผมก็ได้เปิดเผยคำพูดของท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง ซึ่งความจริงลูกศิษย์ท่านคนหนึ่งบอกว่า อย่าไปบอกใครนะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราบ้า แต่กระผมก็อดที่จะบอกท่านไม่ได้
    ผมยอมเป็นคนบ้า ถ้าหากว่าความบ้าของผม มันจะสามารถช่วยชีวิตของคนจำนวนมากได้

    หากท่านไม่แน่ใจว่าตัวท่านมีความดีพอที่จะรอดพ้นจากมหาภัยพิบัติครั้งนี้ละก็ ขอให้หาของดีติดตัวไว้เป็นดี หรือถ้าหาของดีไม่ได้จริง ๆ ก็จงทำตัวท่านเองให้เป็นคนดี เพื่อความดีจะได้รักษาตัวของท่านเอง

    หากท่านไม่เชื่อ ก็จงอย่าเพิ่งปฏิเสธ เช่น เชื้อโรคที่ตาเปล่าของเรามองไม่เห็น แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันไม่มี เพราะเรามีเครื่องมือคือกล้องจุลทรรศน์ที่จะส่องเห็นแล้ว ส่วนเรื่องอย่างเช่นสิ่งที่ผมกล่าวไปก่อนหน้า เครื่องมือที่จะเห็นก็มีแล้วคือการปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ แต่อยู่ที่ท่านจะใช้เครื่องมือ หรือรู้วิธีใช้เครื่องมือนั้นอย่างถูกต้องหรือไม่เท่านั้นเอง

    ผมเคยอ่านหนังสือที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเขียนไว้ว่าอีกไม่กี่ร้อยปีจะมีพระมหากษัตริย์ท่านหนึ่งเดินทางจากทางเหนือมาบูรณะวัดท่าซุง ซึ่งตอนที่ท่านบอกให้ และขณะนี้ก็ตาม วัดท่าซุงก็ยังเป็นปกติดี ประเทศไทยก็ยังปกติดี

    แสดงว่าหลังจากนี้ไม่นานมันต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้วัดท่าซุงร้าง ซึ่งปัจจุบันวัดท่าซุึงยังมีคนไปทำบุญ ถือศีล ปฏิบัติธรรม อยู่ไม่ขาดสาย แต่จะมีเหตุใดเล่าที่ทำให้เป็นวัดร้างได้ นอกจาก..... (อาจจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างชาติอาหรับและอเมริกา ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดอภิมหาสงครามครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ก็เป็นได้)


    ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ จงหมั่นทำดี เพื่อรักษาชีวิตรอดเทอญ

    จาก พระโพธิสัตว์ท่านหนึ่ง
    5 ก.พ. 2548

    แหล่งที่มาhttp://beautifulman.freehomepage.com/
     
  18. ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม

    ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เป็นอจินไต

    เรื่องราวของบุคคลผู้ที่มีบารมีมากถึงขนาดกำลังจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป มันเหลือวิสัยที่มนุษย์ผู้มีปัญญาน้อยอย่างพวกเราจะจินตนาการได้ถูก

    ก็เคยมีผู้ถามคำถามนี้เหมือนกัน แม้แต่มีคนถามท่านผู้รู้ ท่านยังไม่ยอมตอบ ท่านก็พูดทำนองว่าท่านก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

    แต่ถึงมาปั๊บโตเป็นมนุษย์เลยก็ไม่แปลกอะไร สำหรับวิสัยของผู้มีบารมีมาก

    ท่านผู้รู้บอกแต่เพียงว่า พระศรีอารย์ท่านจะมากเกิดเป็นฆารวาส (ไม่เป็นพระ) และคราวนี้เห็นว่าท่านจะมาแสดงฤทธิ์ให้เหล่ามนุษย์ได้ประจักษ์ตาด้วย โดยเฉพาะพวกที่พอจะมีความเชื่ออยู่เดิมแล้ว เช่นชาวอเมริกัน ชาวยุโรปบางประเทศที่มีคนนับถือพุทธ จะยิ่งมีคนมาเชื่อและนับถือมากขึ้นไปอีก

    เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง บรรดาบริวารของพระศรีอารย์คงจะรวมตัวช่วยท่านปฏิบัติภารกิจ พระโพธิสัตว์หลายท่านได้ลงมาเกิดก่อนหน้าพระศรีอารย์แล้ว และจะตามลงมาอีก บางท่านเหลือเพียงชาติสุดท้าย บารมี 10 ทัศ ก็จะเต็ม บริวารของท่าน อย่างเลวที่สุด เหลือไม่เกิด 5 ชาติ บารมีจะเต็ม แต่หลายท่านก็ยอมจุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก่อนที่จะถึงวาระ (ที่จริงบารมีเต็มบนสวรรค์ก็ได้) เพื่อช่วยพระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรปฏิบัติภารกิจ

    ที่จริงผู้ปฏิบัติสมาธิที่ได้อภิญญามีอยู่ไม่น้อยเลยในประเทศไทย แต่ท่านเหล่านั้นไม่แสดงตัว เมื่อถึงเวลาท่านเหล่านี้แหละที่จะเป็นกำลังช่วยให้มนุษย์ได้อยู่รอดต่อไป


    สุดท้ายนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นปลายปีนี้ ขอให้ท่านผู้มีความดีอยู่ในตัวเอง ผู้มีจิตใจอันเจริญถึงระดับแล้ว ได้รวมตัวกันเพื่อช่วยมวลมนุษย์เทอญ ภารกิจนี้ยิ่งใหญ่นัก บุญก็เยอะด้วย

    ส่วนกระผมเอง ผู้มีปัญญาน้อย ก็ต้องไปแอบอยู่ข้างหลังท่านผู้มีฤทธิ์เหล่านั้น (อาจจะไปขอแอบข้างหลังท่าน Web snow ก็เป็นได้นะครับ!) ขอหลบด้วยคนครับ

    ที่จริงก็ไม่มีอะไรน่าวิตกหรอกครับ ผู้ที่ปฏิบัติดี รักษาศีลดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรครับ

    ที่กระผมพิมพ์บอกท่านอยู่นี้ ผมก็เชื่อว่า ท่านผู้รู้ที่บอกพวกผมมา ท่านก็ทราบ แต่ท่านก็คงรู้ว่าผมต้องมากระจายข่าวแน่ แต่ถึงอย่างนั้น คนที่รู้เรื่องก่อนจะเกิดเหตุการณ์ก็คงมีน้อยเต็มที และเมื่อบางส่วนเมื่อรู้แล้ว ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเชื่อดีหรือไม่

    ถึงแม้เหตุการณ์ดังว่าจะไม่เกิด แต่ก็ขอให้รักษาศีล 5 ขึ้นไป ให้ดีแล้วกันครับ

    กระผมเล่ามาแค่นี้ บางคนอาจจะว่าผมบ้าแล้ว ถ้าเล่ามากไปกว่านี้ อย่างที่ท่าน Admin บอกนั่นแหละครับ จะยิ่งโดนเขาด่าเขาว่าบ้ามากไปกว่านี้ และก็จะเป็นบาปติดตัวกับคนว่าเอง เลยขอยุติเรื่องเล่าเช้านี้ไปว้แต่เพียงเท่านี้เทอญ

    ขอความเจริญในธรรม ความมีจิตใจดี ความมีเมตตา ความไม่เห็นแก่ตัว ฯลฯ จงมีแด่ท่านสาธุชน ทุกเมื่อ

    สา....ธุ..

    ป.ปั้น ตลิ่งชัน
     
  19. ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม

    ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ช่วงนี้พบพระโพธิสัตว์เยอะเลย!

    มีเพื่อนของผมคนหนึ่ง ปรารถนาพุทธภูมิ เขาบอกว่าช่วงนี้เจอพระโพธิสัตว์เยอะเหลือเกิด เจอในชีวิตประจำวันนี่แหละ และก็ได้ไปถามท่านผู้รู้ ซึ่งผมก็อยู่ด้วย ท่านผู้รู้บอกว่า ที่เจอเยอะอย่างนั้น เพราะมารวมกันเพื่อเตรียมรับพระศรีอารย์ในปี 2549 นี้
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คิดว่าท่านคงจะลงมาเกิดนานแล้วครับ เพราะถ้าสงครามใหญ่เกิดปลายปี 2548 จริงดังว่าแล้ว ถ้าท่านยังเป็นเด็กทารกอยู่คงจะช่วยเหลืออะไรชาวโลกไม่ได้แน่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...