ความมหัศจรรย์ของจิตมนุษย์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 8 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ความมหัศจรรย์ของจิตมนุษย์

    ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุดเป็นที่รักใคร่หวงแหนของสัตว์โลกทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้จะมีวิชาใดอีกเล่าที่เราควรจะศึกษาให้รู้ลึกซึ้งไปกว่าวิชาที่ว่าด้วยชีวิต

    สัญชาติญาณนั้นย่อมติดตัวมาแต่กำเนิดของมนุษย์ สัตว์ รู้จัก กิน รู้จักนอน ตกใจ กลัว วิตก กังวล ทุกข์ร้อนเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องมีผู้ใดสั่งสอน มนุษย์มีสัญชาติญาณเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เราหาทราบไม่ เป็นที่เชื่อกันทั่วไปว่า ลูกของพ่อแม่ที่มีศีลธรรม ก็จะมีนิสัยใจคอดีงาม ถ้าลูกของพ่อแม่ที่เป็นคนโหดร้าย ลูกส่วนมาก็จะโหดร้ายไปด้วย เพราะเป็นการถ่ายทอดมาตามสายโลหิต

    แต่สายโลหิตเป็นตัวจิตใจหรือถ้าเช่นนั้นจิตใจก็จะต้องแบ่งภาคมาจากจิตใจของพ่อแม่ด้วยกระมัง เราพากันเชื่อเพียงพฤติกรรมที่แสดงออกมาเท่านั้น จะเข้าถึงความจริงแท้ของจิตใจไม่ได้ เหตุผลที่เร้นลับลึกซึ้งนี้ มนุษย์จะทราบเอง ไม่ได้ต้องอาศัยการค้นคว้าเรียนรู้ความจริงจากองค์ศาสดาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนมิให้มนุษย์เชื่ออะไรง่ายๆ โดยปราศจากเหตุผล ท่านให้เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม ซึ่งเป็นการกระทำในอดีตและปัจจุบัน ให้เชื่อเหตุ เชื่อผลอันยืนยงต่อการพิสูจน์

    จิตใจคืออะไร มีหน้าที่การงานอะไรบ้าง เกิดขึ้นมาอย่างไร มีอำนาจหรือพลังอย่างไรบ้าง จิตคือธรรมชาติที่มีลักษณะรับรู้อารมณ์ อันได้แก่คลื่นแสงมากระทบตาก็มองเห็น มีคลื่นเสียงมากระทบหูก็ได้ยิน จมูกกระทบกลิ่นก็ได้กลิ่น กระทบลิ้นก็รู้รส กายเนื้อถูกสัมผัสเย็น ร้อน อ่อน แข็ง รู้ว่าได้สัมผัส มีความคิดรับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่ดี ที่เลว ที่สุข ที่ทุกข์ เหล่านี้เรียกว่าธรรมชาติ คือ จิต มนุษย์เรานั้นพฤติกรรมที่แสดงออกมีจิตบังคับ ยกตัวอย่างเช่น คนที่คิดมากฟุ้งซ่าน เศร้าโศกเสียใจมากๆ ย่อมรับประทานอาหารไม่ลงก็เป็นโรคกระเพาะ ผู้ใดคิดการงานมากเกินไป หาเวลาพักผ่อนได้น้อย ก็จะเกิดโรคอาหารไม่ย่อย

    ขณะนี้วิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ยอมรับกันว่า โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นกับประชาชนในนครหลวงใหญ่ๆ จำนวน 5 ชนิด จะเป็นโรคเกี่ยวกับจิต ถึง 3 ชนิด โรคทางกายจริงๆ มีเพียง 3 ชนิดเท่านั้น แม้ว่าอาการของโรคได้แสดงออกทางกายเช่นเนื้องอก เป็นแผลในกระเพาะอาหาร โรคมะเร็ง โรคอัมพาต ก็มีสาเหตุจากจิตอารมณ์ของผู้ป่วยทั้งสิ้น

    สรีระร่างการของมนุษย์นั้นน่าพิศวง มีหัวใจสำหรับฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย ส่งไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ได้แก่ กล้ามเนื้อ ขน ผม เล็บ ฟัน ให้เจริญเติบโตมีกำลังแข็งแรง มีการหายใจเพื่อนำออกซิเจนเข้าสู่ปอดฟอกโลหิต เพื่อถ่ายเทของเสียออกจากเซลล์ทั้งหลายทั่วร่างกาย มีอวัยวะย่อยอาหารที่รับประทานเข้าไปคือกระเพาะ น้ำย่อยคือน้ำดีที่ไหลมารอการย่อยอาหารเพื่อส่งให้โลหิตแดงรับไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ถ้ามีอาหารมากเกินพอ เกินกำลังการย่อยในกระเพาะอาหาร อาหารก็จะไหลต่อไปตามลำไส้ซึ่งมีความยาวหลายสิบฟุต มีความยาวพอที่จะให้อาหารไหลต่อไปช้าๆ เพื่อย่อยส่วนที่มีประโยชน์จากอาหาร ให้มากที่สุดเท่าที่จะย่อยได้ จากลำไส้เล็กจนถึงลำไส้ใหญ่

    ร่างการมนุษย์มีเครื่องจักรที่วิเศษที่สุด ทนทานที่สุด ทำงานทุกเวลา ไม่เคยมีเวลาหยุดพัก มีเครื่องจักรทำน้ำดีเพื่อย่อยอาหาร มีเครื่องจักรทำโปรตีนสำหรับช่วยผสมอาหารไม่ให้บูดเน่าเร็วเกินไป มีเครื่องจักรสำหรับกลั่นกรองและขับของเสียออกจากร่างกาย มีเครื่องจักรผลิตพลังเชื้อเพลิงให้ความร้อน เกิดกระแสไฟฟ้าพลังงาน เครื่องจักรผลิตเม็ดเลือดขาว เพื่อขจัดตัวเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกาย เครื่องจักรนั้นมีอีกมากมายที่ทำงานให้กับร่างกายมนุษย์ เครื่องจักรเหล่านี้ ต่างทำงานตามหน้าที่ของตน เกี่ยวโยงสัมพันธ์กันอย่างเคร่งครัดแน่นอน ถ้าเครื่องจักรใดเครื่องจักรหนึ่งเกิดชำรุดเสียหายขึ้นเมื่อใด ร่างกายก็ย่อมเกิดการกระทบกระเทือน ทำให้พลังของการงานและการผลิต เกิดการผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปหมด ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ขึ้น

    ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ยังรับความรู้สึกได้อีก เช่น ร้อน หนาว ดีใจ เจ็บปวด จดจำ คิด โกรธแค้น ยืน เดิน นั่ง นอน พูด เจรจา ทำอะไรต่ออะไรได้มากมาย เหล่านี้มนุษย์เป็นสิ่งที่ประหลาดมหัศจรรย์เพียงใด เพียงแต่มีสมอง ประสาทเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ซึ่งประกอบด้วยเซลล์เป็นจำนวนมาก ทำไมมนุษย์มีการทำงานได้เช่นนี้ มันจะต้องมี ผู้ยิ่งใหญ่สำคัญอยู่เบื้องหลัง ที่มีความสามารถวิเศษจริงๆ ผู้ยิ่งใหญ่ที่สำคัญนั้นคือจิตมนุษย์นั่นเอง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสั่งสอนว่า ร่างกายของมนุษย์มีจิตเป็นใหญ่ มีจิตเป็นหัวหน้า มีจิตเป็นประธาน

    สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ สสารหรือพลังงาน ไม่ว่าเป็นมนุษย์ สัตว์ ไม่มีสิ่งใดเลยในโลกใบนี้ ที่จะเกิดขึ้นมาเองโดยปราศจากเหตุหรือจะมีผู้ใดมาเสกเป่าดลบันดาลให้เกิดขึ้นมาได้และนอกจากนี้ก็ยังไม่มีสิ่งใดเช่นกัน ที่เกิดขึ้นมาโดยอิสระแต่ลำพังตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยพึ่งพาสิ่งอื่นๆ เข้ามาสนับสนุนค้ำจุนเลย ร่างกายของมนุษย์ สัตว์มันจะต้องมีหลายสิ่งหลายอย่างมาประกอบประชุมร่วมกัน ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเปรียบเทียบกับจิตของมนุษย์จะเห็นได้ว่ามันเหมือนกัน คือจิตจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยเหตุหลายเหตุ จะต้องมีการร่วมประชุมกันหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งนี้เพราะจิตนั้นมิได้เกิดขึ้นโดยปราศจากเหตุปัจจัยและต้องรู้ว่าจิตนั้นเกิดดับรวดเร็วมาก แสงที่ว่าเดินเร็วถึง 186,000 ไมล์ต่อวินาที นั้นเมื่อเทียบกับความเร็วของจิตแล้ว จิตนั้นเดินทางรวดเร็วกว่าจนเทียบกันไม่ได้ ฉะนั้นจิตของมนุษย์ จึงเป็นเรื่องที่จำต้องดูแลรักษา

    จิตมี 2 ประเภทคือ

    1. จิตสำนึก คือ ความคิดเป็นไปตามภาวะแวดล้อมที่มาสัมผัส
    2. จิตใต้สำนึก คือ ความคิดจากภาวะแวดล้อมที่เข้ามาสัมผัสแล้วสะสมกันเข้าไว้และสามารถนำออกมาใช้ได้ตลอดเวลา สามารถนำออกมาแก้ปัญหาได้โดยตรง

    ธรรมชาติที่ควบคุมจิตให้มีสมาธินั้น เรียกว่า ความสำนึกรู้สึกตัว ถ้าความสำนึกรู้สึกตัวอ่อนแอลงเมื่อไร การควบคุมจะไม่มี จิตตั้งมั่นไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ นักเรียน นักคิด นักธุรกิจ นักปฏิบัติธรรมะที่ปราศจากความสงบจึงไม่มีสมาธิ จำต้องหาสถานที่เงียบสงัดไม่มีสิ่งรบกวนทั้งหลาย จิตจึงสามารถปฏิบัติงานไปได้

    ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยเครื่องจักรที่ทำงานในหน้าที่ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ที่คอยคุกคามเอาชีวิตอยู่ ฉะนั้นจิตของมนุษย์ คือ ตัวควบคุมสั่งการดูแลเครื่องจักรของร่างกายเหล่านั้น จิตคอยบงการสั่งการให้ผลิตโปรตีน(ฮอร์โมน)ที่ต้องการเพื่อทำหน้าที่สืบต่อกรรมพันธุ์ที่สืบทอดไปยังลูกหลาน ผลิตผลของโปรตีนที่จิตสั่งทำหน้าที่เฉพาะกิจ เช่น ผลิตฮอร์โมน น้ำย่อย แร่ธาตุ เคมี ทำหน้าที่สื่อสารของเส้นประสาทและสมอง การผลิตโปรตีนตามคำสั่งของจิต โดยส่งเป็นคำสั่งอย่างต่อเนื่องเป็นอัตโนมัติ ตามความประสงค์ของเซลล์ ที่จิตสั่งไปยังกองบัญชาการสูงสุดคือสมอง ให้สั่งการไปยังเครื่องจักรต่างๆ ทั่วร่างกาย

    ภายในร่างกายมนุษย์มีอย่างน้อย 3 ระบบที่สามารถสื่อสารกับจิต อารมณ์ ความรู้สึกของกายเนื้อ

    1. ระบบต่อมไร้ท่อ ซึ่งสื่อสารจากจิตผ่านฮอร์โมน
    2. ระบบประสาท ที่จิตเชื่อมโยงโดยตรง กับเซลล์และโลหิตขาว
    3. กลุ่มโมเลกุลสื่อสาร อันเป็นปัจจัยในการเจริญเติบโต ที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของเซลล์ เช่นเดียวกับ การมีผลต่อกลไกแบ่งแยกหน้าที่ของเซลล์ต่างๆ

    นักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลอง สามารถมองเห็นเส้นใยประสาทที่วิ่งไปบรรจบกันอยู่บนพื้นผิวหนังของเซลล์อวัยวะที่สร้างเม็ดโลหิตขาว พิสูจน์ให้เห็นว่าเซลล์ของอวัยวะที่สร้างเม็ดโลหิตขาวได้รับข่าวสารโดยตรงจากระบบประสาทที่จิตสั่งไปยังสมอง ให้ส่งข่าวสารที่มีแหล่งกำเนิดจากสมองนั้นเอง เซลล์โลหิตขาวคือองค์ประกอบสำคัญของระบบคุ้มกันของร่างกายทำหน้าที่ขจัดแบคทีเรียและเซลล์มะเร็ง สรุปได้ว่าการทำงานของร่างกายมนุษย์ ถูกควบคุมโดยจิตของมนุษย์เอง

    Credit : http://www.khunya.in.th/Menu6.asp?intTopicId=44

    FB_IMG_1486543802497.jpg
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    จะมาแนวไหน ล่ะวันนี้....ไอสตรายน์...งั้นเหรอ
    หรือ..แนว พลังจิต....อิอิ

    มันไม่มีอะไรซับซ้อน ขนาดนั้นหรอกครับ...แค่ สัตว์โลก...คนนึง
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ความรู้ ในสมอง ปัญญา...มันเป็นส่วนสะสม ในจิต ที่เรียกว่า สัญญาขันธ์...มันบันทึกมาหลายภพหลายชาติ หลายเจ็บหลายจำ เล่นละครมาหลายเรื่อง เป็นพระเอกบ้าง นางเอกบ้าง ตัวร้ายบ้าง ตัวประกอบบ้าง สัตว์เดรัจฉานบ้าง.....ความจำสัญญาเหล่านี้มัน เป็นวิวัฒนาการ มาในจิต...(ขันธ์)
    ส่วน...เทคโนโลยี ที่พัฒนา มันมาจาก จิตอื่นๆ ที่เขา...ไปค้น แสวงหา ความเป็น....อมตะ พระเจ้า เทพ...สร้างอาณาจักรของตน (ภพภูมิ)...มันมาจาก อนาคต...โน่น...จิตจากอนาคต คือตัว ....ป่วน..อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...