จักรวาลอื่นมีพระพุทธเจ้าหรือไม่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย spyderco, 16 ธันวาคม 2013.

  1. spyderco

    spyderco เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +201
    อยากรู้ว่า จักรวาลอื่นๆ มีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยเจ้า พระโพธิสัตว์ หรือไม่ครับ
    หรือว่ามีแต่จักรวาลนี้ โลกนี้เท่านั้นที่มีพระพุทธเจ้า มีศาสนาพุทธ เข้าสู่พระนิพพานโลกนี้เท่านั้น
    ถ้าไม่มี กว่าเราจะวนเวียนไปเกิดจักรวาลอื่น แล้วกว่าจะได้มาเกิดจักรวาลนี้โลกนี้ พบพระพุทธศาสนา บรรลุธรรม ก็นานโขเลยสิครับ
    ขอบคุณครับ
     
  2. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    ธรรมชาตินี้กำหนดไว้ว่า ในวงเขตหมื่นจักรวาลจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นได้เพียงครั้งละหนึ่งพระองค์เท่านั้น
    ในวงเขตหมื่นจักรวาลนี้จะไม่มีพระพุทธเจ้าสองพระองค์อุบัติขึ้นพร้อมกันเด็ดขาด

    และสำหรับวงหมื่นจักรวาลในพุทธเขตของพระพุทธเจ้าสมณโคดมในปัจจุบันนี้
    ก็มีจักรวาลของพวกเรานี้เป็นศูนย์กลาง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่อุบัติขึ้นในวงหมื่นจักรวาลนี้
    จะต้องอุบัติที่จักรวาลแห่งนี้เท่านั้น และจะอุบัติขึ้นที่โลกตรงนี้แหละ

    แต่เมื่อกล่าวถึงจักรวาล พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า จักรวาลนั้นไม่มีที่สุดคือนับไม่ได้ว่ามีจำนวนเท่าใด
    เมื่อจักรวาลนั้นประมาณไม่ได้เช่นนี้และเมื่อแบ่งจักรวาลออกเป็นวงละหมื่นๆ ก็นับไม่ได้อีกเหมือนกันว่าจะมีจำนวนเท่าใด
    และในวงหมื่นจักรวาลอื่นๆนั้นก็ไม่ได้ห้ามการเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆที่นอกจากพระพุทธเจ้าสมณโคดมของเรานี้

    เพราะฉะนั้น เมื่อดูจากคำสอนของพระพุทธเจ้าในส่วนนี้แล้วก็ประมาณได้ว่า
    ในขณะนี้จะต้องมีพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆที่ยังดำรงพระชนม์อยู่ในวงหมื่นจักรวาลอื่นอันไกลโพ้นโน้นแน่นอน
    แต่พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นจะอยู่ตรงไหนและมีพระนามว่าอย่างไรนั้น อันนี้ไม่ทราบ
     
  3. prainirath

    prainirath สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +13
    ไม่มีนะครับ เท่าที่ทราบจากการอ่านเรื่องราวต่างๆ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เห็นเล่าไว้ว่า
    ทั้งจักวาลมีพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน แต่มีนักบวชนำธรรมะของท่านไปสั่งสอนที่ดาวต่าง ๆ
    เพราะในพระไตรปิฎก พระพุทธดำรัสของพระองค์ก็เคยบอกไว้ว่า เราเป็นเอกบุรุษ จะมีผู้ใดเสมอเหมือนเรานั้นหาไม่มีในแสนโลกธาตุ ซึ่งก็น่าจะหมายความว่า มีเกิดขึ้นองค์เดียวกันทั่วทุกจักรวาล ผิดพลาด ยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ อาจปนความคิดของตัวเเองด้วย
     
  4. prainirath

    prainirath สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +13
    ผมว่าคงต้องฝึกให้เห็นจึงจะรู้ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าจะเป็นยังไง อาทิตย์นี้ว่าจะไปฝึกมโนมยิทธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่โคราช ดูเผื่ออาจจะมีเศษบารมีเก่าพอให้ได้พบได้เห็น บ้าง
     
  5. แสงรัก

    แสงรัก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +14
    พระพุทธเจ้าจักรวาลอื่น

    ทางฝ่าย มหายาน กว่าพระพุทธเจ้าจักรวาลอื่น ไว้มากพอสมควรครับ

    แต่มหายานจะใช้ศัพท์ คำว่า พุทธเกษตร ในเรื่องนี้ นะครับ

    พุทธเกษตร - วิกิพีเดีย


    พุทธเกษตร หากกล่าวตามความคิดของคนทั่วไปง่ายๆ คือ

    1 เป็นดินแดนที่พระโพธิสัตว์สร้างขึ้นจากอำนาจบารมีแห่งตน
    2 เป็นดินแดนร่วมในการเกิดเพื่อตรัสรู้ธรรม
    3 เป็นอาณาจักรธรรมที่สร้างมาด้วยบุญ
    4 ความคิดแง่หนึ่ง คือ หมื่นจักรวาล ที่ว่าไว้เกิดโดยบุญของพระโพธิสัตว์ เพื่อหล่อเลี้ยงพุทธเกษตรเอาไว้

    อำนาจที่เกิดพุทธเกษตร แต่ล่ะเกษตร ความหมายที่ว่าไว้ คือ เกิดมาโดยอำนาจ ปณิธาน แห่งพระโพธิสัตว์ ในการช่วยเหลือสรรพสัตว์

    ดินแดน จักรวาลอื่นที่มีพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ในฝ่ายพระสูตรมหายาน คือ

    1 สุขาวดีพุทธเกษตร ในโลกธาตุนั้น มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระอมิตาภะตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
    GONGHOOG ก่งฮุก 供佛 - สุขาวดียูหสูตร

    2 พหุสุคันธพุทธเกษตร ในโลกธาตุนั้น มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า สุคันโธปจิตตถาคต
    GONGHOOG ก่งฮุก 供佛 - วิมลเกียรตินิเทศสูตร

    เป็นต้น
     
  6. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    สำหรับผม คิดว่าในเมื่อโลกเรายังมีแบบนี้ได้ โลกอื่น จักวาลอื่น ที่มีมากมาย
    มองไปบนฟ้ายังนับไม่ถ้วน ก็น่าจะมีเหมือนกัน
    พระพุทธเจ้า ก็คือผู้ที่สอนธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ไม่ใช่ธรรมทั่วไปที่ให้ไปสวรรค์
    การอุบัติขึ้นในโลกของพระพุทธเจ้านั้น ยากมาก
    ไม่ใช่ง่ายๆที่จะมีใครตรัสรู้ถึงเรื่องของอริยสัจได้
    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีไม่ได้ ถ้าว่ากันด้วยหลักเหตุและผล
    โลกนี้ดาวนี้มีได้ โลกอื่นดาวอื่นย่อมมีได้
    เพียงแต่ ณ เวลานี้ โลกนี้ดาวนี้ยังมีคำสอนอยู่
    แต่โลกอื่นดาวอื่น เราก็บอกไม่ได้ว่ามีหรือไม่มี
    โดยเฉพาะพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นมีทุกดาวทุกโลก
    ครั้งจะพิสูจน์ด้วยจิต ก็เกรงว่าจะเจอแต่ความปรุงแต่ง
    อีกทั้งยังไม่เห็นถึงประโยชน์ในการเข้าไปรู้อีกด้วย
     
  7. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ในหมื่นโลกธาตุนี้...ชมพูทวีปนี้แลพึงมีพระพุทธเจ้า.....พระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในชมพูทวีปนี้เท่านั้น....แต่ธรรมของพระพุทธองค์จะทรงแผ่ไปทั่วหมื่นโลกธาตุ....อันหาขอบเขตประมาณไม่ได้....สวัสดี
     
  8. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ... ผมจำได้ว่า ตามพระบาลี พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า "จักรวาล"(น่าจะหมายถึงกาแลกซี่) มีอย่างเล็ก อย่างกลาง และอย่างใหญ่ รวมกันแล้วมีประมาณไม่ได้ และท่านตรัสไว้ว่า ในจักรวาลทั้งหลายเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นอัปมงคลจักรวาล คือ ไม่มีพระพุทธเจ้า ไม่มีพระปัจเจกพุทธเจ้า ไม่มีพระเจ้าจักรพรรดิ์(ธรรมมิกราช)อุบัติขึ้น ไม่มีพระอริยะสงฆ์ มีเพียงจักรวาลนี้เท่านั้นที่เป็นมงคลจักรวาล ซึ่งทั้งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และครูบาอาจารย์ทั้งหลายต่างก็กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้นมาแล้วในอดีตมีจำนวนมากยิ่งกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทรทั้งสี่รวมกันเสียอีกครับ

    หากจะกล่าวว่าจักรวาลอื่นมี ก็จะเป็นเพียงพระสูตรหนึ่งในบางนิกายของฝ่ายมหายานที่เขาเชื่อกันมาอย่างนั้น

    ท่านเจ้าของกระทู้เข้าใจได้ถูกแล้วครับ ว่าเป็นโชคดีอย่างมหาศาลที่ได้เิกิดมาพบพระพุทธศาสนา.... อย่าให้พลาดท่าไปเสีย
     
  9. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,515
    คุณก็สร้างบุญสร้างบารมีในโลกนี้ จักรวาลนี้ แล้วจะหลงไปจักรวาลอื่นโลกอื่นทำไม แล้วจะมีสุขคติเป็นที่ไปหรือ
     
  10. ผู้เฝ้าดู

    ผู้เฝ้าดู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +184
    พระพุทธอีกจักรวาลที่พระโมคคัลลานะพบเจอ
    ครั้งหนึ่งขณะที่พระตถาคตเจ้ากำลังอยู่ในที่ประชุมสงฆ์ พระน้านางปชาบดีโคตมี ได้น้อมนำเอาผ้าจีวรใหม่เข้ามาเพื่อถวายแก่องค์พระศาสดาเจ้า แต่องค์พระตถาคตเจ้าทรงนิ่งเฉยอยู่มิได้ทรงรับไว้ ผ้านั้นจึงถูกส่งต่อไปตามลำดับจนตกไปถึงพระผู้น้อยบวชใหม่องค์ท้ายที่สุด...ที่มีชื่อว่า..*พระอชิตะ* จึงได้รับการอนุโมทนาในที่สุดพระน้านางก็ทำท่าทางแสดงความเสียพระทัย องค์พระตถาคตเจ้าทรงหยั่งรู้ได้และต้องการให้ไทยทานครั้งนี้สมบูรณ์ จึงกล่าวแก่พระนางว่าไม่ต้องเสียพระทัยไป แล้วจึงตรัสให้นำบาตรของพระพุทธองค์มาวางไว้เบื้องพระพักตร์ แล้วอธิษฐานให้บาตรนั้นลอยหายไปในนภากาศ หลังจากนั้นพระตถาคตเจ้าก็ทรงใช้ให้พระสาวกทั้งหลายผู้ทรงฤทธิ์ ไปหาบาตรนั้นมาคืนพระองค์ทีละองค์ๆ แต่ก็ไม่มีองค์ใดสามารถทำได้ จนมาถึงองค์พระโมคคัลลาน์อัครสาวก ท่านก็เหาะหายไปในนภากาศตามหาบาตรจนทั่วก็หาพบไม่ จนไกลออกไปเรื่อยๆนอกเขตของจักรวาล แม้ว่าองค์พระศาสดาจะทรงพระดำรัสเตือนแล้วมิให้ไปไกลจนเกินขอบเขตแห่งจักรวาล จนในที่สุดพระโมคคัลลาน์ท่านก็หลงไปจนถึงโลกแห่งใหม่และได้ลงไปยังสมาคมแห่งพระสัมมาสัมพุทธพระองค์หนึ่งท่ามกลางหมู่สงฆ์สาวก ขณะกำลังแสดงธรรมอยู่ พระสัมมาสัมพุทธพระองค์นั้นท่านจึงได้แสดงธรรมแนะนำถึงองค์พระโมคคัลลาน์ผู้เป็น ถึงอัครสาวกของพระสมณโคดมต่อมหาสมาคมนั้น(แต่ไม่ทราบว่ารูปลักษณะเหมือนกับพระสมณโคดมเราหรือไม่) และได้หลงทางเข้ามา หลังจากจบพระธรรมเทศนาแล้วพระสัมมาสัมพุทธพระองค์นั้นจึงทรงพระดำรัสต่อพระโมคคัลลาน์ ว่าหากจะกลับไปยังโลกเดิมให้เหาะตามพระฉัพพรรณรังสีพุทธบารมีของพระองค์ท่านไปจนถึงขอบเขตแห่งจักรวาล แล้วจะพบกับพระฉัพพรรณรังสีพุทธบารมีขององค์พระสมณโคดมนำทางต่อจนกลับมายังโลกได้ พระโมคคัลลาน์จึงกราบลาและกระทำตามนั้นจนกลับมาเล่าความให้องค์พระตถาคตเจ้าได้รับทราบ พระโมคคัลลาน์ก็ยังหาบาตรมาไม่ได้ จนถึงพระอชิตะองค์ท้ายที่สุด ท่านเพียงแต่อธิษฐานแล้ววางมือไปเบื้องหน้าเท่านั้นบาตรแห่งพระตถาคตเจ้า ก็ลอยกลับลงมาวางไว้ณ.เบื้องหน้านั้นเอง ท่านจึงได้น้อมนำกลับไปถวายคืนแด่องค์พระตถาคตเจ้า พระน้านางปชาบดีโคตมี เห็นดังนั้นก็ทรงพอพระทัยยิ่งในผลทานครั้งนั้น องค์พระตถาคตเจ้าจึงได้แสดงธรรมพุทธทำนายต่อว่าพระอชิตะองค์นี้มิใช่อื่นไกลแต่เป็นหน่อเนื้อพุทธางกูรจะมาตรัสเป็น...พระเมตไตยพุทธเจ้าในกาลถัดไปนั้นเอง และว่าในมหาอนันตจักรวาลนี้นั้นยังมีอีกเป็นแสนจักรวาลล้านโลกธาตุที่ยังนับไม่ถ้วน ยังมีสัมมาสัมพุทธอื่นๆ และเป็นอจินไตยอันมนุษย์ธรรมดามิอาจคาดเดาได้

    ที่มา ทำดีไม่จำเป็นต้องมีใครเห็น: พระพุทธอีกจักรวาลที่พระโมคคัลลานะพบเจอ
     
  11. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    ไม่มีพระพุทธเจ้าองค์อื่นในอนัตจักรวาลทั้งหลาย. จักวาลของเราเป็นจักวาลหลักของจักวาลทั้งหลาย

    หากมีผู้ปราถนาจะรื้อถอนสัตว์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โพธิสัตว์นั้นจะต้องย้ายมาเกิดในจักวาลนี้ของเรา

    ปล. น่าสะพรึ่งและน่าทึ่งอย่างมาก เมื่อคิดถึงจำนวนสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในจักวาลต่างๆ ขนาดแค่ในโลกของเราจำนวนสัตว์ก็มีมากมายนับไม่ได้ เอาแค่มดอย่างเดียวก็มีมากกว่าคนไม่รู้เท่าไร. และเมื่อรวมกับอนันตจักรวาลทั้งหลายจำนวนสิ่งมีชีวิตจะมีมากมายขนาดไหน. แต่ในจำนวนสัตว์ที่เป็นจำนวนอนันต์นั้นกลับมีพระพุทธเจ้าที่เกิดขึ้นเพียงครั้งละ 1 พระองค์ ทำให้ระลึกถึงพุทธคุณว่าพระองค์มีคุณนับประมาณไม่ได้จริงๆ
     
  12. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,515
    หลวงพ่อฤาษีเคยบอกว่า พระพุทธเจ้าทุกองค์จะอุบัติขึ้นที่ชมพูทวีปเท่านั้น เอ..ชมพูทวีปอยู่จักวาลไหนละหว่า ต้องตามหาพระพุทธเจ้ากันละงานนี้...
     
  13. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ชมพูทวีป หมายถึง โลกมนุษย์ทั้งหมด ไม่ใช่อินเดีย-เนปาล อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ เพราะทวีปนี้มีไม้หว้าเป็นพญาไม้ประจำทวีป (ต้นชมพู แปลว่าต้นหว้า) ไม้หว้าต้นนี้อยู่ในป่าหิมพานต์

    พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่นี่ที่เดียว ไม่มีในที่อื่นอีกสมกับคำว่า ผู้เป็นเลิศไม่มีผู้ใดเทียบ
    เกิดมาในช่วงยังมีพุทธศาสนานับว่าพวกเรามีบุญมากนักแล้ว

    พุทธเกษตรไม่ใช่นิพพาน แต่มีลักษณะคล้ายสวรรค์
     
  14. *พอส*

    *พอส* Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +98
    อจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่พึงคิด คือไม่อาจรู้ได้ด้วยการคิด แลถ้าขืนคิดให้รู้ให้ได้
    ก็จะกลายเป็นผู้มีส่วนแห่งความเครียดเป็นบ้าเสียสติไป
    แต่ที่ว่านี้ไม่ได้หมายความว่าพระพุทธเจ้าห้ามหรอกนะ
    ท่านเพียงแต่บอกความจริงว่ามันเป็นอย่างนั้น

    ตามหลักของพระพุทธศาสนานี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้าไปห้ามใคร
    เป็นแต่เพียงบอกว่า ไม่ควรคิด ถ้าคิดแล้วมันจะทำให้ มี

    ส่วนแห่งความวิปริตของจิตเกิดขึ้น คือเมื่อคิดไม่ออก ก็เลยฟุ้งเพ้อไปเลย
    ฉะนั้นท่านจึงบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด คือ ไม่

    อาจรู้เข้าใจได้ด้วยการคิด ต้องรู้ประจักษ์ด้วยประสบการณ์ของตนเอง
    โดยพัฒนาปัญญาให้เกิดขึ้น อจินไตยมี 4 อย่างคือ

    (องฺ.จตกฺก.21/76/104)


    1. พุทธวิสัยคือ เรื่องปัญญาความสามารถของพระพุทธเจ้าว่าเป็นอย่างไร
    รู้ได้อย่างไร ทำได้อย่างไร เรื่องนี้ก็เป็นธรรมดา

    อยู่แล้ว ปัญญาของเราไม่ถึงใคร แล้วให้หยั่งรู้ถึงทันเท่าคนนั้น
    ย่อมคิดไม่ได้ คิดไม่ออก เป็นที่เรื่องที่เห็นๆ กันอยู่เพราะ

    ฉะนั้น ปุถุชนจะเข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้ารู้ หรือ
    คิดเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าออกได้อย่างไร ก็ต้องพัฒนาตัวไปจน

    กว่าจะมีปัญญาอย่างนั้น


    2. ฌานวิสัย คือ วิสัยของฌาน
    จิตนั้นมนุษย์ก็มีอยู่ด้วยกันทุกๆ คน แต่มนุษย์ปุถุชนก็ไม่เคยรู้จัก
    ไม่เคยเข้าใจธรรมชาติของ

    จิต และการทำงานของจิตของตนเองเลย แม้แต่ความฝัน ตัวเองก็ฝันอยู่
    แต่ก็ไม่เข้าใจความฝันนั้น ความรู้เรื่องจิตที่มีอยู่

    ในตัวเองหรือที่เป็นตัวเองนี้ มีน้อยอย่างยิ่ง ทีนี้ สภาพจิตที่เป็นฌานนั้น
    เกิดจากสมาธิที่แน่วแน่ถึงขั้นที่เรียกว่า อัปปนา เป็น

    ประสบการณ์ที่เกิดจากการฝึกฝนพัฒนาจิต
    ยิ่งรู้เข้าใจยากกว่าสภาพจิตสามัญ คนทั่วไปจึงไม่อาจคิดให้รู้เข้าใจได้ เป็น

    เรื่องที่ต้องฝึกฝนพัฒนาขึ้นมา
    แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนอาจรู้เข้าใจได้ มิใช่ด้วยการคิด แต่ด้วยการทำเอา


    3. เรื่องการให้ผลของกรรม เรื่องนี้มนุษย์ปุถุชนคิดอย่างไร
    ก็ไม่สามารถมองเห็นชัดเจนจนถึงที่สุด เราก็รู้เข้าใจในแง่หลัก

    ของความเป็นไป ตามเหตุปัจจัยแล้วก็คิดไปได้ระดับหนึ่ง
    แต่จะให้คิดมองเห็นโล่งตลอดไปก็ไม่ไหว


    4. เรื่องโลกจินตา คือ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องของโลกจักรวาล
    จักรภพ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร จะมีการสิ้นสุดหรือไม่ มีขอบเขต

    ถึงไหน เรื่องนี้
    philosophers คือ นักปรัชญาทั้งหลายชอบคิด แต่ให้คิดไปเถิด
    ก็ข้องอยู่นั้นจะคิดให้ออก ก็ไม่ออกหรอก

    จากพระสูตร อจินติตสูตร

    [๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้ อันบุคคลไม่ควรคิด
    เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน อจินไตย ๔ ประการ
    เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑ ฌานวิสัย
    ของผู้ได้ฌาน ๑ วิบากแห่งกรรม ๑ ความคิดเรื่องโลก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    อจินไตย ๔ ประการนี้แล ไม่ควรคิด เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความ
    เป็นบ้า เดือดร้อน ฯ


    จบสูตรที่ ๗

    ที่มา http://www.tteen.net/view.php?time=20041016113523
     
  15. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ธรรมศึกษาไม่มีวันจบ แต่อะไรๆก็ไปจบที่อจินไตย ศาสนาพุทธ555+
     
  16. Middle Earth

    Middle Earth Middle Earth

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +799
    มีพระพุทธเจ้าทุกกาแล็กซี่ (จักวาล ประกอบด้วยกาแลคซีจำนวนมากมายมหาศาล)
    กาแล็กซี่ของเราคือ ทางช้างเผือก
    พระพุทธเจ้าจะอยู่ที่ชมภูทีปที่เดียวเทานั้นของแต่ละกาแล็กซี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...