"จับจิตที่เสียงความถี่ต่ำ"

ขอแนะนำตัวก่อนนะคับ
ผมรับราชการเป็นครูสอนดนตรีโรงเรียนประถม ปกติก็จะนั่งสมาธิกำหนดจิดพุทโธ อยู่ประจำ โดยนั่งก่อนนอนกับตอนหัวรุ่งบ้าง ปกติก็ไม่ค่อยสนใจว่าถึงญาณขั้นไหนหรอกคับก็แค่ปฏิบัติแล้วสบายใจ
เข้าเรื่องกันเลย
เวลาผมนั่งสมาธิ หูผมจะได้ยินเสียงเล็ก ๆ เล็กมาก เหมือนจิ่งหรีดร้อง ผมก็เลยจับเสียงนั่นในใจก็ร้อง"จี"ลากยาวในใจตามเสียงที่ได้ยิน ร้องในใจ ให้หมดลม แล้วก็หายใจใหม่อยู่แบบนั่นไปตลอดคับ ไม่ทราบผมทำผิดหรือถูกคับ ?
ผลที่ได้รับจากการทำก็คือรู้สึกจิตอยู่กับลมหายใจตลอดคับ จะรู้สึกลมหายใจลากยาวตลอด

 

ผมรับราชการเป็นครูสอนดนตรีโรงเรียนประถม ปกติก็จะนั่งสมาธิกำหนดจิดพุทโธ อยู่ประจำ โดยนั่งก่อนนอนกับตอนหัวรุ่งบ้าง ปกติก็ไม่ค่อยสนใจว่าถึงญาณขั้นไหนหรอกคับก็แค่ปฏิบัติแล้วสบายใจ
+++ตอบ อนุโมทนาบุญ ด้วยครับ

เวลาผมนั่งสมาธิ หูผมจะได้ยินเสียงเล็ก ๆ เล็กมาก เหมือนจิ่งหรีดร้อง ผมก็เลยจับเสียงนั่นในใจก็ร้อง"จี"ลากยาวในใจตามเสียงที่ได้ยิน ร้องในใจ ให้หมดลม แล้วก็หายใจใหม่อยู่แบบนั่นไปตลอดคับ ไม่ทราบผมทำผิดหรือถูกคับ ?
+++ตอบ เสียงที่ได้ยิน เหมือนจิิ่งหรีดร้อง หรือแม้แต่จั๊กจั่น เสียงนี้ถ้าดังมากขึ้น สังเกตดีดีแปลกมาก เพราะเสียงมันเป็นจังหวะ และเปลี่ยนเองได้ บางทีเหมือนกับว่ามันอีกมิติหนึ่ง คือ มิติเสียงเสียงนี้ต่อไป มันจะเปลี่ยนเป็นเสียงคำ ๆ ประโยค เหมือนคนพูด เป็นมิมิตเสียง ของคุณจะเป็นเช่นนี้โปรดสังเกตต่อไป เสียงมันจะยังไม่รบกวนชีวิตประจำวันของเราครับ ไม่ต้องซีเรียสอะไร ที่กล่าวมาทั้งหมด คือ ต่อไปจะได้ยินเสียงทิพย์นะครับ (หูทิพย์)

ผมก็เลยจับเสียงนั่นในใจก็ร้อง"จี"ลากยาวในใจตามเสียงที่ได้ยิน ร้องในใจ
+++ตอบ เป็นลักษณะของการฝึกครับ ลองสังเกตความแปลก ต่อไปนะครับ
๑. เสียง กับ จิต สื่อกัน บางทีเสียงไปตามจิตที่คิด บางทีจิตไปตามเสียงที่ได้ยินตามที่เป็น
๒. เสียงกับ จิต จะคุยกันโต้ตอบไปมาได้
๓. เสียงกับ จิต ต่างไม่สนใจ กัน
๔. เสียงที่ได้ยิน บางทีมันเกิดขึ้นเองได้ หายไปเองได้ เสียงดังแปลก ๆ ได้

ไม่ทราบผมทำผิดหรือถูกคับ ?
+++ตอบ เราจะสนใจมันก็ได้ ไม่สนใจมันก็ได้ครับ ทำสมาธิไปเรื่อยครับ ไม่มีอะไร

***อนุโมทนาบุญ ครับ ***

 

เสียงไม่ได้รบกวนคับถ้าเวลาเงียบ ๆ หรือตั้งใจฟังจะได้ยิน ขอบคุณคับ

 

ในหูชั้นในของมนุษย์ส่วนที่เปนวงก้นหอย
จะมีขนเล็กๆ คอยพัดโบกกระทบกันภายใน
เพื่อสร้างเสียง จี่ ขึ้นมา

ถ้ามันบกพร่อง จะมีเสี่ยง อึ่งๆ ทำให้เราหมาย
ไปว่า หูอื้อ

การพัดโบกของมัน อีกหน้าที่นึงคือ ขับของเสีย
ออกเปนนิจ

ดังนั้น

ถ้าได้ยินเสียง ถ้าจะเอาเปนวิหารธรรม ต้อง
กำหนดรู้สภาวะ กลัว ตกใจ ให้เปนปรมัตถ์ธรรม
คือ โทษะมูลจิต ข้างวิภวตัณหา

หู ของสัตว์มีขึ้นแระจำภพ เพื่อสร้าง หรือเปน
เหตุให้เกิด สภาพธรรมตื่น ตระหนก

หลายคนเวลาตื่นนอนมักเข้าใจว่า อายตนะแรกๆ
ที่ทำงาน คือ ตา

จริงๆ หู มันขึ้นวิถีก่อน ลิ้น จมูก มักยังอุเบกขา
กับของเน่า

ควรใส่ใจ บริกรรม แยกออกมา

ให้มีรส ระลึกถึงพระพุทธเจ้า

ไม่ใช่ขับไสพระองค์ท่าน แล้วไปเอา สังขารกลวงๆ

ไร้รส มาเปนที่พึ่ง

ผลจะตรงข้าม

ระหว่าง สงบ กับ ซ่านไปในเรื่องพยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก

เว้นแต่จะกำหนดรู้ ลงเปน ปรมัตถ์ ไร้สัตว์เปน

 

หลังๆผมก็เป็น ได้ยินเหมือนเสียงทีวีรุ่นเก่าๆที่มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณ ดัง จี้ดๆๆๆ อี้ดๆๆๆ
เเต่ผมไม่ได้สนใจถือว่าอาจจะเป็นไปตามสภาวะขั้นตอนของจิต เเต่ไม่ใช้หลักสำคัญ ปล่อยผ่านครับ ไม่เเน่อาจจะมีปัญหาร่างกายก็ได้ต้องระวังเช่นมิใช้วางเฉยแบบ ดื้อๆ เช่นปวดทอง ก็วางเฉย ไส้ติ่งเเตก 5555 ผมเองก็ต้องใช้ปัญญาประกอบ

 

จริงๆ การที่ จิตมันงอกลับ มารู้อยู่ใน กายนคร ไม่เกิน สกลกาย

ถ้าจะ อาศัยทางอ้อมเพื่อฝึกฝน ก็จัดว่าใช้ได้ เรียกว่า รู้กายรู้ใจ

คือ ให้สังเกต จิตขณะนั้น จะไม่สนใจ ธรรมภายนอก แต่จะ
อยู่กับ ธรรมภายใน

ทีนี้ การจะรู้กายแล้วเห็นจิต ก็ต้อง เห็นจิตที่มันงอกลับมารู้กาย

แล้วอย่า ให้พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก ชักชวนไปทาง ใครทำku
ใครกระซิบกับku ใครส่งคลื่นหาku

ให้พิจารณาไปเลย การมารู้กายได้แบบนี้ คนอื่นก็ทำได้ หาก
เขาไม่ส่งจิตไปในเรื่องโลกๆ คือ การผลิกให้ ธรรมภายในเป็นธรรมภายนอก

ผลิกแล้วได้อะไร

จะไม่เกิดการแบ่งโลกแห่งสัตว์ว่า นี่เรา นั่นเขา

เราสามารถ ผู้อื่นไม่รู้ (ทั้งๆที่ คนเข้าส้วมส่วนใหญ่ ก็ได้ยินเสียงพวกนี้
เพราะ คนเข้าส้วมส่วนใหญ่ตอนนั้น แม้นไม่ต้องฝึก จิตจะรู้อยู่ที่กายตน
มักจะคิดไปในกาม อุปทานอื่น ไม่ได้ เว้นแต่จะ เคยเกิดเป็นเปรตมาก่อน
ก็จะ จุกกรู้ได้แม้นกำลัง ปุ๋งๆ )

 

เคยฟังเสียงลำโพงดังๆ ตามงานต่างๆ รึเปล่า เกิน 80 db ไม่ก็น้ำเข้าหู หูชั้นในอักเสบ ผมก็ได้ยินเหมือนกันนึกว่ารับคลื่นไวไฟได้

 

เวลาได้ยิน อย่าไปวางเฉย

และ ก็อย่าไป คว้าเอามาสำคัญ เติมบัญญัติ

ให้ กำหนดรู้อย่างเดียว ว่า จิตตอนนั้นกำลังรู้อยู่ที่กาย

พอมันวิ้ง ก็ รับรู้เพียงว่า จิตมันเข้าฐาน คนอื่นบริกรรมแทบตาย
ก้นแตก แต่ จริงๆ แค่ นั่งขี้ ก็พอเห็นได้

ที่นี้ เราไม่ได้เอาแค่นั้น ให้ตามให้ทัน หลังจากนั้น มันจะเลือน

ยังไงก็ต้องเลือน ไม่ต้องรักษา

มันเลือนไปทาง หู ตา จมูก อายตนะอื่น

จิตเกิดทางหู ดับทางหู

จิตเกิดทางตา ดับทางตา

จิตเกิดทางจมูก ดับทางจมูก

แต่ส่วนใหญ่ จิตจะไหลไปคิด

ให้เห็น จิตมันทำงาน ไหลไปไหลมา

กำหนดรุ้แล้วได้อะไร ...ได้ฝึกสติ เพื่อเห็น สัมมาสมาธิบางประการ

พอทำได้บ่อยๆ ก็ขยายในอริยาบทอื่น ไม่ใช่แค่ นั่งขรี้อย่างเดียว

อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว เดินออกไปทำงาน ไปเล่นเกมส์
จิตมันจะไหลไปไหลมา ของมันได้ พอมันรู้เข้ามาที่กาย
ต่อให้เกมส์มันส์แค่ไหน ก็ รับรู้ได้ถึง วิ้งๆ อื้อๆ ไม่ต้องไปตบ
บ้องหูหละ

วิ้งแล้ว รู้สึก

วิ้งแล้ว ไหลไปคิด รู้สึก

ลืมวิ้งไปแล้ว เพราะ ไม่ นมสิการสิกขา ก็น้อมนึก วิ้ง
แล้วพอ วิ้งแล้วก็ไม่ต้องรักษา ไหลไปแล้ว รู้สึก

 

บอกได้ไหมว่าได้ยินทางด้านไหนครับ
ถ้าทางหูซ้ายได้ยินบนขึ้นไปวัดจากกลางหู
หรือถ้าทางหูขวาได้ยินทางด้านล่างวัดจากกลางหู
ถ้าไปประมานนี้ไปว่าหูซ้ายหรือหูขวา
แต่ต่ำหรือเหนือกลางหู
เป็นความผิดปกติของร่างกายได้
ซึ่งมักจะเป็นผลสืบเนื่อง
มาจากการใช้สายตาได้ครับ

ถ้าเสียงที่เกิดจากผลของสมาธิ
เสียงจะเป็นเส้นตรงและขนาน
กับกลางรูหูของเราทางด้านขวาครับ
จิตจดจ่อกับอะไรก็เป็นสมาธิได้หมด
เพียงแต่จะส่งผลอย่างไรเท่านั้นครับ

 

ทั้ง 2 ข้างคับ

 

คับผม

 

ขอบคุณคับ

 

คับผม

 

หู การพัดโบกของหู

พลวัตร ของระบบหุ ใช่ สัตว์ ตัวตน บุคคล เราเขาไหม?

ถ้าขาดการสดับ ก็จะบอกว่า เป็นสัตว์ก็ต้องมีหู และ ต้องคอย
ฟังเสียงสรรพสัตว์( จริง มันจะต้องเกิด อัตตวาทุปาทานก่อน แล้ว
จึงอ้างเลห์ แผ่เมตตาสรรพสัตว์ )

ชีวตินทรีย์ ไฟคือโมหะ ไฟคือโทษะ ไฟคือราคะ ชีวตินทรีย ไออุ่น
เป็น สิ่งที่เกิดจาก อุปทาน อุปทายรุป ก็เรียก ไม่ใช่สภาพสัตว์

ถ้าเรา สดับเสียงวิ้ง แล้ว เอา อัตตาวทุปาทานไปรองรับ เอาขันธ์5
ไปแสวงหาธรรมะ เอาจิตแสวงหาจิต หลวงปู่ดูลย์บอกว่า อีกกี่
แสนหมื่นกัปก็หาจิตไม่เจอ

จิต ไม่มีสี ไม่มีสัณฐาน ไม่มีไป ไม่มีมา ไม่มีที่ตั้ง ไม่ใช่พลังงาน
พลังงาน การหมุนวนของวัฏเป็น อุปทานธรรม ตัณหาธรรม

 

สาธุคับ

 

ถ้าจะแนะนำจะบอกว่า ให้เฉยๆไปเลยครับ
แล้วจะพัฒนาต่อได้ การเอาจิตไปจับที่ใดที่หนึ่ง
ในร่างกายก็เป็นวิธีการหนึ่ง
แต่กรณีนี้มันจะพัฒนาได้ช้าครับ
เพราะมันจะวกไปวนมาอยู่นั้นไม่ไปไหนครับ
ยกเว้นเปลี่ยนมาขึ้นรูปด้วยภาพแล้วมองผ่านระหว่างคิ้ว
หรือมาระลึกลมหายใจเข้าออกที่ปลายจมูกครับ

เพราะความสามารถทางเสียงจะเกิดจนถึง
ในระดับใช้งานได้ ต้องประมาณว่า เราได้ยิน
ผีคุยกันเหมือนกับคนคุยกันได้ก่อนครับ
ถ้ายังไม่ถึงขั้นนี้ ไม่ว่าจะเสียงแบบไหน
ให้เฉยๆทุกๆกรณีครับ..และมันจะมาพร้อมๆกับ
ความสามารถทางตา
ถ้ายังอยู่อย่างนี้ จะไม่เกิดอะไรเลยไม่ว่าทางตา
และทางหูครับ
เล่าให้ฟังไว้พิจารณานะครับ
ต้องทิ้งก่อน ถ้าจะวิปัสสนาอะไรก็ค่อยว่ากันครับ

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับ