จิตใต้สำนึก จิตสำนึก จิตเหนือสำนึก : สนทนากับพระเจ้า

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย bluebaby2, 29 กุมภาพันธ์ 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    การภาวนาในชีวิตประจำวันเพื่อการรู้ตัวทั่วพร้อม : สนทนากับพระเจ้าเล่ม 3

    อย่างไรล่ะ? อย่างไรล่ะ? มันจะต้องมีเครื่องมืออะไรบางอย่างที่ท่านสามารถจะมอบให้ผม

    การภาวนาในแต่ละวันก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดที่ซึ่งจะสร้าง ประสบการณ์นี้ขึ้นมา ด้วยการทำแบบนี้ เธอจะสามารถยกพลังงานชีวิตไปยังจักระที่สูงที่สุด... และแม้แต่ออกจากร่างกายของเธอระหว่างที่เธอกำลัง "ตื่น"

    ในการภาวนาเธอตั้งตัวเองไว้ในสภาวะที่พร้อมที่จะมีประสบสบการณ์ถึงการรู้ตัวทั่วพร้อมระหว่างที่ร่างกายอยู่ในส<wbr>ภาวะ การตื่น สภาวะแห่งการเตรียมพร้อมนี้ถูกเรียกว่าการตื่นขึ้นอย่างแท้จริง เธอไม่จำต้องกำลังนั่งสมาธิเพื่อมีประสบการณ์ถึงมัน การภาวนาเป็นเพียงอุปกรณ์ "เครื่องมือ" หนึ่ง ที่เธอตั้งไว้ แต่เธอไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเพื่อที่จะมีประสบการณ์ถึงมัน
    เธอควรที่จะรู้ด้วยว่าการนั่งสมาธิไม่ได้เป็นการภาวนาเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ นอกเหนือไปจากนั้นยังมีการหยุด- ภาวนา การเดินภาวนา การทำ-ภาวนา เพศ-ภาวนา
    นี่คือสภาวะของการตื่นขึ้นอย่างแท้จริง
    เมื่อเธอหยุดในสภาวะนี้ เพียงหยุดอยู่ที่ทางเดินของเธอ หยุดไปในที่ที่เธอกำลังจะไป หยุดทำในสิ่งที่เธอกำลังทำ เพียงแค่หยุดชั่วขณะหนึ่ง และเพียงแค่ "เป็นไป" ตรงที่เธออยู่นั้น เธอกลายเป็นที่ที่เธออยู่อย่างไม่มีผิดเพี้ยน การหยุดแม้เพียงแค่ชั่วขณะเดียว สามารถจะเป็นความศักดิ์สิทธิ์ เธอมองไปรอบๆ อย่างช้าๆ และเธอเริ่มที่จะสังเกตสิ่งที่เธอไม่ได้สังเกตระหว่างที่เธอเดินผ่านมันไป การหายใจดมกลิ่นลึกๆ ของโลกหลังจากฝนตกไม่นาน ผมที่ดัดเป็นวงบนหูซ้ายของคนที่เธอรัก มันรู้สึกดีอย่างแท้จริงอย่างไรเมื่อเห็นเด็กกำลังเล่นกัน
    เธอไม่จำเป็นต้องออกจากร่างกายเพื่อที่จะมีประสบการณ์แบบนี้ นี่คือสภาวะแห่งการตื่นขึ้นอย่างแท้จริง

    เมื่อเธอเดินในสภานะนี้ เธอหายใจเอาดอกไม้ทุกดอกเข้าไป เธอโบยบินไปกับนกทุกตัว เธอรู้สึกได้ถึงเสียงดังจากการบดข้างใต้เท้าของเธอ เธอพบความสวยงามและปัญญา ด้วยเหตุที่ปัญญาถูกพบได้ที่ไหนก็ตามที่ความสวยงามก่อตัวขึ้น และความสวยงามก็ก่อตัวขึ้นในทุกที่ ออกมาจากทุกสิ่งของชีวิต เธอไม่จำเป็นที่จะต้องแสวงหามัน มันจะมาหาเธอ

    และเธอไม่จำเป็นต้องออกจากร่างกายของเธอเพื่อมีประสบการณ์ถึงสิ่งนี้ นี่คือสภาวะของการตื่นขึ้นอย่างแท้จริง

    เมื่อเธอ "ทำ" ในสภาวะนี้ เธอได้เปลี่ยนสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ไปเป็นการภาวนา และดังนั้น ไปเป็นของขวัญ ของที่ใช้บูชา จากตัวของเธอถึงวิญญาณของเธอ และจากวิญญาณของเธอถึงทุกสรรพสิ่ง เมื่อล้างจาน เธอเพลิดเพลินกับความรู้สึกอบอุ่นของน้ำที่สัมผัสมือของเธอด้วยความรักใคร่ และพิศวงไปกับความมหัศจรรย์ของทั้งน้ำและความอบอุ่น เมื่อทำงานกับคอมพิวเตอร์ เธอเห็นคำปรากฏอยู่บนหน้าจอตรงหน้าของเธอซึ่งตอบสนองกับการสั่งการของนิ้ว มือเธอ และเบิกบานไปกับอำนาจของจิตและกาย เมื่อขณะที่เธอสามารถควบคุมการประมูล เมื่อเตรียมอาหารค่ำ เธอรู้สึกถึงความรักของจักรวาลที่นำพาการบำรุงร่างกายมาให้กับเธอ และเมื่อเธอให้ของขวัญกลับไป เติมลงไปในการทำอาหารมื้อนี้ด้วยความรักทั้งหมดที่เธอมีอยู่ มันไม่สำคัญว่ามื้อนั้นฟุ่มเฟือยมากขนาดไหนหรือเรียบง่ายเพียงใด ซุปสามารถจะถูกรักเข้าไปในความเอร็ดอร่อย

    เธอไม่จำเป็นต้องออกจากร่างกายของเธอเพื่อมีประสบการณ์ถึงสิ่งนี้ นี่คือสภาวะของการตื่นขึ้นอย่างแท้จริง

    เมื่อเธอมีประสบการณ์ถึงพลังงานทางเพศที่เกิดการแลกเปลี่ยนกันใน สภาวะนี้ เธอได้รู้ความจริงสูงสุดว่าเธอคือใคร หัวใจของคนรักของเธอกลายเป็นบ้านของเธอ ร่างกายของคนรักของเธอกลายร่างกายของเธอ วิญญาณของเธอไม่จินตนาการว่ามันแบ่งแยกกับสิ่งใดเลยอีกต่อไป

    เธอไม่จำเป็นต้องออกจากร่างกายของเธอเพื่อมีประสบการณ์ถึงสิ่งนี้ นี่คือสภาวะของการตื่นขึ้นอย่างแท้จริง

    เมื่อเธออยู่ในสถานะเตรียมพร้อม เธอกำลังอยูในสภาวะตื่นตัว รอยยิ้มเดียวสามารถที่จะนำพาเธอไปได้ แค่เพียงรอยยิ้มเดียว เพียงหยุดทุกอย่างไว้ขณะหนึ่งและยิ้ม ให้กับความว่างเปล่า แค่เพียงเพราะว่ามันรู้สึกดี เพียงเพราะหัวใจของคุณรู้ความลับอย่างหนึ่ง และเพราะว่าวิญญาณของเธอรู้ว่าความลับนั้นคืออะไร ยิ้มให้มัน ยิ้มให้มาก มันจะรักษาอะไรก็ตามที่ทำให้เธอป่วย

    เธอกำลังถามฉันถึงเครื่องมือ และฉันกำลังให้มันกับเธอ

    การหายใจ สิ่งนี้เป็นอีกเครื่องมือหนึ่ง หายใจให้ยาวและลึก หายใจอย่างช้าๆ และอ่อนโยน หายใจเอาความนุ่มนวล ความหวานของความว่างแห่งชีวิตเข้าไป ช่างเต็มไปด้วยพลังงาน ช่างเต็มไปด้วยความรัก มันเป็นความรักของพระเจ้าที่เธอกำลังหายใจเข้าไป หายใจให้ลึกๆ และเธอจะรู้สึกถึงมันได้ หายใจให้ลึกมากๆ ลึกมากๆ และความรักจะทำให้เธอร้องไห้
    ให้กับปลาบปลื้มยินดี

    ด้วยเหตุที่เธอได้พบกับพระเจ้า และพระเจ้าของเธอได้แนะนำให้เธอรู้จักกับวิญญาณของเธอ
    เมื่อไหร่ที่ประสบการณ์นี้ได้เกิดขึ้น ชีวิตจะไม่มีวันเหมือนเดิม คนพูดถึงการ "ไปยังยอดสุดของภูเขา" หรือการลื่นไถลไปสู่ความปลาบปลื้มยินดีอย่างละเอียด การเป็นอยู่ของเขาได้เปลี่ยนไปตลอดกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2012
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ผมสามารถที่จะได้มาซึ่งจิตที่เปิดผ่านการทำบางสิ่งกับร่างกายขอ<wbr>งผมหรือ?

    ถูกแล้ว ร่างกายและจิตนั้นโยงใยถึงกันแล<wbr>ะเชื่องต่อกัน พวกมันไม่ได้แบ่งแยกจากกันและกั<wbr>น สมองของเธอเป็นส่วนหนึ่งของร่าง<wbr>กายเธอ จิตของเธอไม่ใช่สมองของเธอ แต่เธอสามารถเปิดจิตของเธอโดยใช้สมองของเธอ ทุกการอบรมเกี่ยวกับศรัทธาและกา<wbr>รสอนเรื่องจิตวิญญาณกล่าวถึงเรื่องนี้ แต่ละที่สอนในแนวทางตัวเอง อวตารและคุรุของทุกวัฒนธรรมได้ป<wbr>ระกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้

    ผมจะต้องทำอย่างไร?
    เพียงแค่หายใจเอาชีวิตที่อยู่รา<wbr>ยล้อมตัวเธอเข้าไป หายใจให้ลึก ไปพร้อมกับจังหวะธรรมชาติของชีวิต ทำต่อเนื่องไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง<wbr> นั่งหรือนอนลงอย่างสงบเมื่อเธอกำลังทำมัน

    โอ้! ครับ ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในการอบรบบางที่สิ่งนี้ถูกเรียก<wbr>ว่า "การฝึกหายใจ"

    ถูกแล้ว ตอนนี้เมื่อเธอหายใจเข้า รู้สึกว่าตัวเธอได้นำเอาพลังงาน<wbr>แห่งชีวิตเข้าไป หลังจากหายใจอย่างลึกๆ ไปซักพัก จินตนาการถึงพลังงานชีวิตอันนี้<wbr>ผ่านเข้าไปสู่ช่องว่างที่บนสุดข<wbr>องศีรษะของเธอ มองมันผ่านตาในของเธอเมื่อมันวิ่งผ่านร่างกายของเธอ เมื่อเธอหายใจออก ให้มันผ่านออกไปทางเท้าของเธอ ทำอย่างนี้หลายๆ ครั้ง ตรวจทานร่างกายของเธอโดยใช้จิต

    ตอนนี้ จินตนาการว่าเธอเติมสมองของเธอจ<wbr>นเต็มด้วยพลังงานนี้ รู้สึกถึงออกซิเจนเติมเต็มสมองข<wbr>องเธอ ให้อาหารและบำรุงเซลล์ของเธอ รู้สึกว่าเซลล์สมองของเธอขยายออ<wbr>ก ทำอย่างนี้อย่างตั้งใจประมาณเจ็<wbr>ดนาที

    เธออาจจะรู้สึกว่าศีรษะเบา (light-headed) ไปเล็กน้อยหลังจากทำอย่างนี้ อย่าได้เป็นห่วงเรื่องนั้น เธออาจรู้สึกว่าศีรษะเบา (light-headed) เพราะศีรษะของเธอจะกลายเป็นศีรษ<wbr>ะที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง (light-headed) เธอได้ส่งแสงสว่างสีขาวทองของชี<wbr>วิ ตไปยังสมองของเธอ เธอได้ส่งมันตรงไปที่นั่น อย่างตั้งใจ สิ่งนี้ทำให้สมองของเธอสว่าง (lighten) เธออาจรู้สึกได้ถึงการรู้แจ้ง (enlightenment) ผ่านความรู้สึกทางกายนั้นจะนำสู่การเพิ่มขึ้นของการตระหนักรู้แ<wbr>ห่งชีวิต ของทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเธอ อย่าได้แปลกใจถ้าสิ่งนี้ได้เกิด<wbr>ขึ้น เธอได้เปิดจิตของเธอ เปิดออกไปสู่สายลมโอนโยนที่พัดเ<wbr>บาๆ ของการรู้สำนึกที่ขยายออกไป
    ตอนนี้เธออาจกลับไปแล้วอ่านสิ่ง<wbr>ที่เธอพึ่งได้อ่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2012
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    รู้พร้อมกันทั้งภายในและภายนอก

    เมื่อเธออยู่ท่ามกลางโลกภายนอก เมื่อเธอกำลังเคลื่อนที่อยู่ในมันและเคลื่อนผ่านมัน รักษาความกระตือรือร้นในการตื่น<wbr>รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเธอ<wbr> มองสิ่งต่างๆ ราวกับว่าเธอไม่เคยมองมันมาก่อน<wbr> ทำทุกขณะให้เป็นการภาวนา เห็นรอยแตกบนทางเดินเท้า ใบไม้บนต้นไม้ กลีบดอกไม้บนดอกไม้ ใบหน้าของคนในฝูงชน ฝึกการมองเห็นทั้งหมดว่าเป็นตัว<wbr>เธอ

    เพียงแค่เห็นตัวของเธอในที่ตรงนั้น อย่าถามตัวเองว่าเธอกำลังทำอะไร<wbr>อยู่หรือเธอไปอยู่ตรงนั้นได้อย่<wbr>างไรหรือ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะอ<wbr>ยู่ตรงนั้น เพียงแค่มองเห็นตัวเธออยู่ตรงนั้น เรียกตัวเองเป็นสิ่งนั้น อย่าได้บอกว่า "ตรงนั้น ,แต่เป็นเพราะคุณงามความดีของพร<wbr>ะเจ้า, ฉันจึงอยู่ตรงนั้น" ถ้าจะให้ถูก พูดว่า "ตรงนั้น,เพราะคุณงามความดีของพ<wbr>ระเจ้า,ฉันอยู่ตรงนั้น"

    "นั่นฉันเอาอีกแล้ว เป็นคนจรจัดที่ไม่มีเงิน นั่นฉันเอาอีกแล้ว เป็นดอกไม้ในทุ่งหญ้า นั่นฉันเอาอีกแล้ว เป็นคู่สมรสที่พยายามมีอำนาจเหนืออีกฝ่าย นั่นฉันเอาอีกแล้ว เป็นผู้กดขี่ในดินแดนของต่างชาติกำลังกดขี่คนของตัวเอง นั่นฉันเอาอีกแล้วเป็น คมของต้นหญ้า"

    เพียงแค่เห็นตัวเธอเองในทุกที่ และยิ้มเมื่อเธอเห็นตัวเองที่นั่น รู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น และสิ่งที่อยู่ตรงนั้นก็อยู่ในตัวเธอ

    ตอนนี้นอกเหนือจากนั้นแล้ว สำรองเวลาในแต่ละวันเพื่อที่จะเ<wbr>ข้าสู้โลกภายใน เมื่อเธอเคลื่อนผ่านโลกภายใน กำจัดความคิดและภาพของโลกภายนอก<wbr> ปล่อยให้ความคิดของเธอว่างเปล่า<wbr> หายใจลึกๆ เพียงแค่เพ่งความสนใจไปยังเสียง<wbr>ของลมหายใจ ทำการหายใจของเธอให้เป็นมนตราขอ<wbr>งเธอ-เสียงที่นำเธอเข้าสู่ภายใน

    ตอนนี้โฟกัสการตื่นรู้ของเธอไปที่จุดหนึ่งที่อยู่กึ่งกลางหน้าผ<wbr>ากของเธอ เพียงแค่เหนือตาของเธอขึ้นไป ดำเนิน "การมอง" ตรงนั้นด้วยตาในของเธออย่างต่อเ<wbr>นื่อง เพ่งมองเข้าไปในช่องว่างดำสนิทข<wbr>องความว่างเปล่านั้นจนกระทั่งเธ<wbr>อ "เห็น" อะไรบางอย่าง โฟกัสไปที่ลมหายใจของเธอและมองสิ่งที่เธอเห็น มองให้ลึกๆ อย่าได้ "วาง" อะไรบางอย่างตรงนั้น แต่รอจนกระทั่งสิ่งที่อยู่ตรงนั้นอยู่แล้วเปิดขึ้นมาสู้จิตสำนึ<wbr>กของเธอ

    บางอย่างจะปรากฏขึ้นกับเธอในฉับ<wbr>พลัน สำหรับหลายคน มันจะดูเหมือนเปลวไฟสีฟ้าที่เต้<wbr>นไปมา เธอไม่เพียงแต่จะเห็นเปลวไฟนี้ เธอจะรู้สึกถึงมันได้ ความรู้สึกของมันจะชะล้างทั่วตั<wbr>วเธอ เธอจะเรียกความรู้สึกนี่ว่าความ<wbr>รัก มันอาจจะนำพาน้ำตาที่เบาๆ ที่ออนโยนมาให้เธอ ปล่อยให้มันเกิดขึ้น และ...
    ...บอกสวัสดีกับวิญญาณของเธอ
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ฝึกใช้ความรู้สึก : Friendship with God

    ครับ ครับ มันเป็นเช่นนั้น แต่ในบางเวลาผมรู้สึกโดดเดี่ยว แม้ว่าผมจะยอมรับ
    ความจริงว่าผมไม่เคยที่จะอยู่เพียงลำพังเลย ผมสงสัยว่าการรู้นี้จะเปลี่ยนแปลง
    สิ่งต่างๆ ได้อย่างไรเมื่อผมรู้สึกโดดเดี่ยว? ถ้าผลกำลัง
    รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดาย
    และผมไม่ได้กำลังรู้สึกมีความสุขเท่าใดนัก ผมต้องทำอะไร?

    สิ่งที่เธอสามารถจะทำได้เมื่อเธอจินตนาการว่าเธอกำลังโดดเดี่ยวคือการมาหา
    ฉัน มาหาฉันในความลึกของจิตวิญญาณเธอ พูดคุยกับฉันจากใจของเธอ เป็น
    เพื่อนร่วมทางไปกับฉันในความคิดของเธอ ฉันจะอยู่กับเธอ และเธอจะรู้ถึงมัน

    ถ้าเธอได้เคยมีการติดต่อรายวันกับฉันมาก่อน อย่างนี้ก็จะง่ายยิ่งกว่า อย่างไรก็
    ตามถึงเธอจะไม่เคยมาก่อน ฉันจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง แต่จะอยู่กับเธอในขณะที่
    เธอเรียกหาฉัน เพราะว่านี่คือสัญญาจากฉัน :แม้ก่อนที่เธอจะเรียกหาฉัน ฉันก็จะ
    อยู่ตรงนั้นแล้ว

    นั่นเป็นเพราะว่าฉันอยู่ตรงนั้นอยู่แล้วมาโดยตลอด และการตัดสินใจของเธอใน
    การเรียกชื่อฉันเพียงแค่ยกระดับความตื่นรู้ของเธอต่อฉัน

    เมื่อไหร่ที่เธอรตระหนักถึงฉัน ความเศร้าของเธอจะจากเธอไป เพราะว่าความ
    เศร้าโศกกับพระเจ้าไม่สามารถจะมีอยู่พร้อมกันในสถานที่เดียวกัน ได้ เพราะว่า
    พระเจ้าก็คือพลังแห่งชีวิต พลิกขึ้นสูงที่สุดที่มันจะเคลื่อนไป และความเศร้าโศกก็
    คือพลังงานแห่งชีวิตเคลื่อนลง (turned down)

    ดังนั้น เมื่อฉันมาหาเธอ อย่าได้ปฏิเสธฉัน (do not turn Me down!)

    โอ้ ว้าว นั่นน่าทึ่งจริงๆ! นั่นท่านเอาอีกแล้ว ร้อยเรียงสิ่งต่างๆ โดยวิธีการที่น่าทึ่ง
    เพื่อให้พวกเราสามารถจะ "เข้าใจ" มัน แต่ผมไม่คิดว่าผู้คนจะทำอย่างนั้น เขา
    ทำหรือ? ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะปฏิเสธท่านจริงๆ หรอก

    ทุกครั้งที่เธอมีลางสังหรณ์เกี่ยวกับบางสิ่งและเพิกเฉยต่อมัน เธอได้ปฏิเสธฉัน
    ทุกครั้งที่เธอได้รับข้อเสนอให้ ทำอารมณ์ที่ไม่ดีสิ้นสุดลง,หรือหยุดความขัดแย้ง
    แล้วเธอเพิกเฉยต่อมัน เธอได้ปฏิเสธฉัน ทุกครั้งที่เธอไม่ได้ ยิ้มตอบให้กับคน
    แปลกหน้าที่ยิ้มให้, เดินอยู่ใต้ความพิศวงที่ยอดเยี่ยมของท้องฟ้าในยามราตรี
    แล้วไม่ได้มองขึ้นไป, เดินผ่านแปลงดอกไม้โดยไม่ได้หยุดเพื่อที่จะแลเห็นความ
    งามของมัน เธอได้ปฏิเสธฉัน

    ทุกครั้งที่เธอได้ยินเสียงของฉัน หรือรู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของคนรักที่จากไป
    แล้วบอกว่ามันเป็นเพียงแค่จินตนาการของเธอ เธอได้ปฏิเสธฉัน ทุกครั้งที่เธอ
    รู้สึกถึงความรักให้กับคนอื่นๆ ภายในจิตวิญญาณของเธอ หรือรู้สึกถึงเพลงใน
    หัวใจของเธอ หรือมีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ในความคิดของเธอ แล้วไม่ได้ทำอะไรกับ
    มันเลย เธอได้ปฏิเสธฉัน

    ทุกครั้งที่เธอพบว่าตัวเองกำลังอ่านหนังสือที่ตรงใจ หรือกำลังฟังการเทศนาที่
    ตรงใจ หรือกำลังดูหนังที่ตรงใจ หรือกำลังไปเจอกับเพื่อนที่ตรงใจ ในเวลาที่
    เหมาะเจาะในชีวิตของเธอ และตระหนักว่ามันเป็นความบังเอิญหรือการค้นพบ
    เข้าโดยบังเอิญ หรือเพราะ "โชคชะตา" เธอได้ปฏิเสธฉัน

    และฉันบอกเธอว่าก่อนไก่จะขันสามครั้ง บางคนในพวกเธอจะปฏิเสธฉัน

     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ระดับการทำงานของจิตทั้งสาม : Home with God

    ผมไม่เข้าใจเลย ท่านหมายความว่าอย่างไรเมื่อท่านกล่าวว่าบิดาของ
    เธออาจจะไม่รู้โดยสำนึกถึงสิ่งที่เขาต้องการ ผมคิดว่าที่ผ่านมาท่าน
    บอกกับผมว่าทุกคนเป็นสาเหตุของการตายของตัวเขาเอง และไม่มี
    ใครตายโดยฝืนกับความประสงค์ของเขาเอง

    บางทีมันอาจจะส่งเสริมให้เธอสามารถเข้าใจว่ามนุษย์นั้นสร้าง และยัง
    "รู้ในสิ่งที่เขารู้" ในประสบการณ์สามระดับ-จิตใต้สำนึก, จิตสำนึก, จิต
    เหนือสำนึกจำสิ่งที่ฉันบอกเธอว่า เมื่อเธอตาย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ
    ไม่สำเร็จลุล่วง แต่มันเป็นไปได้ที่จะไม่รู้โดยสำนึกถึงมัน

    วิญญาณสามารถจะรู้ในระดับของจิตเหนือสำนึกว่ามันได้สำเร็จลุล่วงสำ
    หรับชาตินี้ แต่ไม่ "รู้" ถึงมันในระดับจิตใต้สำนึกหรือจิตสำนึก

    ระดับของประสบการณ์ทั้งสามนี้ได้เคยถูกกล่าวถึงในบทสนทนาที่เรา
    เคยทีก่อนหน้านี้ ซึ่งได้กลายมาเป็นหนังสือ Friendship with God
    ผมพบว่ามันจับใจอย่างที่สุด

    ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้นั้นเกินกว่าคำว่าจับใจ มันมีความสำคัญที่จะต้อง
    ทำความเข้าใจ เพื่อที่คำถามของเธอจะได้รับคำตอบ

    ถ้าอย่างนั้นเราทบทวนถึงมันอีกครั้งเถอะครับ อะไรคือระดับของประสบ
    การณ์ทั้งสาม

    จิตใต้สำนึกเป็นที่ของประสบการณ์ซึ่งเธอไม่ รู้ถึงความจริงของเธอ,หรือ
    สร้างความจริงของเธออย่างสำนึกรู้ เธอทำอย่าง "ไร้สำนึก"- นั่นคือ
    ด้วยความตื่นรู้ที่น้อยมากๆ ว่าเธอกำลังทำมัน ที่น้อยไปกว่านั้นคือทำไป
    ทำไม นี่ไม่ใช่ระดับของประสบการณ์ที่ "ไม่ดี" ดังนั้นอย่าได้ตัดสินมัน
    มันเป็นความสามารถพิเศษ เพราะว่ามันยอมให้เธอทำสิ่งต่างๆ ด้วยความ
    เป็นอัตโนมัติ

    แบบไหนครับ? ท่านหมายความว่าอย่างไร "ทำสิ่งต่างๆ ด้วยความเป็น
    อัตโนมัติ"?

    การทำงานอย่างเช่นการงอกของผมของเธอ การกระพริบของดวงตาของ
    เธอ การเต้นของหัวใจของเธอเป็นตัวอย่างของสิ่งที่เธอทำด้วยความเป็น
    อัตโนมัติ เธอไม่ได้นั่งลงแล้วคิดว่า "ฉันจะต้องกระพริบตาของฉัน ฉันจะ
    ต้องทำให้เล็บมือของฉันงอกออกมา" สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น -ระบบร่างกายทั้ง
    หมดของเธอดำเนินการของมันเอง- โดยปราศจาคคำแนะนำที่จำเพาะด้วย
    ความรู้สำนึกจากเธอ

    จิตใต้สำนึกยังสร้างทางออกของปัญหาอย่างทันทีทันใดเมื่อเกิดปัญหา มัน
    ตรวจทานข้อมูลป้อนเข้า จากนั้นเข้าไปสู่ที่เก็บความจำของมัน และออกมา
    พร้อมกับการตอบสนองที่รวดเร็วเหมือนไฟ ต่อสถานการณ์จำนวนมากมาย
    มหาศาล และอีกครั้งด้วยความเป็นอัตโนมัติ ถ้าเธอสัมผัสถูกกระทะร้อน เธอ
    ไม่ต้องคิดถึงการเคลื่อนมือออกไป เธอสะบัดมันออกไปในเสี้ยววินาที นี่คือ
    การตอบสนองอย่างเป็นอัตโนมัติบนฐานของข้อมูลก่อนหน้านี้

    จิตใต้สำนึกสามารถจะช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ได้ ถึงกระนั้นถ้าเธอไม่รู้ว่าส่วน
    ไหนในชีวิตที่ซึ่งเธอเลือกที่จะสร้างด้วยความเป็นอัตโนมัติ เธออาจจินตนา
    การว่าตัวเธอเป็น "ผลที่ตามมา" ของชีวิต แทนที่จะเป็นเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น
    ในเรื่องนั้น เธอสามารถที่จะสร้างให้ตัวเองเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ดังนั้นมัน
    ถึงมีความจำเป็นที่จะรู้ถึงสิ่งที่เธอได้เลือกที่จะ ไม่รู้ถึงมัน

    ระดับของจิตสำนึกเป็นที่ของประสบการณ์ที่เธอรู้เกี่ยวกับความจริงของเธอ
    และสร้างความจริงของเธอด้วยความตื่นรู้ถึงสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่บ้าง เธอรู้
    เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับ "ระดับของจิตรู้สำนึก" นี่เป็นระดับทางร่างกาย
    เมื่อเธอเข้าสู่หนทางทางจิตวิญญาณ เธอเคลื่อนไปสู่ชีวิตที่แสวงหา "การ
    ยกระดับจิตรู้สำนึก" หรือเพื่อขยายประสบการณ์ของความจริงทางกายภาพ
    เพื่อที่จะรวมถึงและรวมเข้ากับสิ่งที่เธอรู้,ในอีกระดับ,ที่เป็นจริงเกี่ยวกับเธอ


    ระดับจิตเหนือสำนึกเป็นที่ของประสบการณ์ที่เธอรู้เกี่ยวกับความจริงของเธอ
    และสร้างความจริงของเธอด้วยความตื่นรู้ถึงสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่อย่างเต็ม
    บริบูรณ์ นี่คือระดับของวิญญาณ พวกเธอส่วนมากไม่รู้ในระดับของจิตสำนึก
    ถึงความตั้งใจของเธอในระดับจิตเหนือสำนึก-เว้นแต่ว่าเธอจะรู้

    จิตเหนือสำนึกเป็นส่วนหนึ่งของเธอที่ถือเอาระเบียบวาระที่ใหญ่ขึ้นไปของ
    วิญญาณของเธอ-ซึ่งคือการเข้าไปสู่ความสมบูรณ์ลุล่วงถึงสิ่งที่เธอได้เข้า
    สู่ร่างกายของเธอเพื่อที่จะมีประสบการณ์และมีความรู้สึกถึง จิตเหนือสำนึก
    ได้นำทางเธออย่างต่อเนืองไปสู่ประสบการณ์แห่งการเติบโตขั้นต่อไปที่เธอ
    ปรารถนามากที่สุด นำมามาสู่เธอในสิ่งที่เหมาะเจาะ,ถูกต้อง,คนที่เหมาะสม
    ,สถานที่,และเหตุการณ์ที่จะนำมาสู่สิ่งเหล่านี้ เพื่อที่เธอจะได้บรรลุถึงการรวม
    กันของความรู้และประสบการณ์ซึ่งจะให้กำเนิดความรู้สึก-สร้างความตื่นรู้ถึง
    ตัวตนแก่นแท้ของเธอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2012
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...