จุด นัดพบ ของ นักปฏิบัติภาวนา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปราบเทวดา, 28 เมษายน 2017.

  1. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เกร็ดธรรม

    หลวงปู่พุธ ฐานิโย

    วัดป่าสาละวัน อ.เมือง จ. นครราชสีมา


    *************************

    การภาวนานี่ เรามีจุดนัดพบ อารมณ์สมถะกรรมฐาน 40 ประการ
    อนุสติ 10
    กสิณ 10
    อสุภะ 10
    พรหมวิหาร 4
    อาหาเรปฏิกูลสัญญา
    ธาตุววัฏฐาน

    ทั้ง 40 อย่างนี้ ใครภาวนา อย่างใด อย่างหนึ่ง
    เมื่อจิต สงบลงเป็น สมาธิแล้ว
    เราจะไปพบกันที่จุด จุดหนึ่ง จุดนั้นคือ ปฐมฌาน

    จิตที่ มี วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกกัคตา จิตทรงฌานที่ 1
    ซึ่งเรียกว่า ปฐมฌาน

    การภาวนาที่จะดำเนินจิต ให้ไปสู่ มรรคผล นิพพานได้
    ต้องประกอบไปด้วยองค์ฌาน

    องค์ฌาน 1 วิตก
    จิตนึกถึงอารมณ์เองโดยอัตโนมัติ
    ถ้าเวลาภาวนาอยู่ บริกรรมอยู่
    ก็บริกรรมเอง พุทโธ พุทโธ พุทโธ โดยไม่ได้ตั้งใจ
    นั่นเรียกว่า วิตก

    ถ้ายังตั้งใจนึกพุทโธ จิตจึงนึก
    ไม่ตั้งใจ จิตไม่นึก ไม่บริกรรมภาวนา นั่น ยังไม่ได้วิตก


    เมื่อได้วิตก จิตจะต้องภาวนาเอง พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธเอง
    แหล่ะก็มีสติรู้พร้อมอยู่ที่ตรงนั้น


    แหล่ะ บางครั้ง จิตอาจจะทิ้ง พุทโธ พุทโธ พุทโธ ไม่นึกพุทโธแล้ว
    ก็ปรากฎว่า มีสติรู้อยู่ที่จิต แล้วก็มีความคิดอย่างอื่นเกิดขึ้น
    แต่มีสติรู้พร้อมในขณะจิตนั้นทุกขณะจิต จิตจะคิดอะไร สติรู้พร้อม
    อันนี้เรียกว่า จิตได้ วิตก วิจาร เป็นองค์ฌานที่ 1 กับ องค์ฌานที่ 2

    เมื่อจิต มีวิตก วิจาร ปิติแหล่ะความสุข ความเป็นหนึ่งของจิต
    คือจิตจดจ่ออยู่ในหน้าที่ ที่ภาวนาอยู่ในขณะนั้นโดยไม่มีเปลี่ยนแปลง

    มีความมั่นคงรู้อยู่ที่ความสุขมีความเป็นหนึ่ง
    หนึ่งต่อหน้าที่ ที่ำทำอยู่ในปัจจุบันนั้น
    ซึ่งทุึกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปเองโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ
    ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นไปเองพร้อม

    เรียกว่า เป็นอัตโนมัติ

    ครูบาอาจารย์ของเราเรียกว่า
    ภาวนาให้ถึงจุด แห่งความเป็นเอง

    ความเป็นเองนั้น มีอยู่ 2 อย่าง
    ความเป็นเอง จิตบริกรรมภาวนาพุทโธเอง
    แล้วก็มี วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกกัคตา นี่อย่างหนึ่ง

    ความเป็นเองอีกอย่างหนึ่ง จิตไม่บริกรรมภาวนา
    แต่มีความคิด มีสติรู้พร้อมอยู่ในขณะจิตนั้น
    แล้วก็มี วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกกัคตา
    ทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ

    อันนี้เรียกว่า ภาวนาถึงจุดนัดพบกัน

    ใครภาวนาอะไรแบบไหน
    ถ้าสมาธิประกอบด้วยองค์ ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น
    จะต้องมาเจอกันที่ตรงนี้ อันนี้ คือ วิถีทางที่จิตเป็นสมาธิที่เป็นไปเองโดยอัตโนมัติ
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ดีใจครับ ที่ได้รู้ว่าจุดนัดพบอยู่ตรงไหน
    ยังไม่เคยพบที่ไหนที่ชี้จุดนี้มาก่อน
    ถึงกับ อ้อ...เลยฮะ
     
  3. pitra

    pitra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2017
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +31
    ขณะที่นั่งสมาธิ เมื่อจิตเราไปถึงฌาน 3 ฉีดฌานสี่ ที่ว่าเฉียด เพราะรูปกับนามยังไม่แยก น่าจะกำลังจะแยก (ตามประสบการณ์ที่เกิดขึ้น) ลมหายใจ กับภาวนาหายไป เหลือแต่ปีติ สมาธินิ่งแล้ว คำอธิฐานมาเอง แบบช้าชัด เน้น และหนักแน่น
    เมื่อวาน อธิฐาน ยกลูกให้หลวงปู่ดู่กับหลวงปู่ทวด
    เมื่อเช้า อธิฐานขอสร้างบารมีเพื่อมุ่งสู่จุดหมายเดียวคือนิพพาน
    หลังอธิฐานจบ มันมีความสว่างไสวไปหมด สีของแสงที่ไม่เคยเห็นก็เห็น
    พออกจากสมาธิ ความวอกแวกไม่มี ชีวิตเรามีเป้าหมายเดียว คือที่นั่น นิพพาน
    คิดว่าไม่ฟุ้งฟ่าน เพราะ สมาธินิ่งมาตั้งแต่สวดมนต์แล้ว ซึ่งปกติ ก็จะ อธิฐานไปนิพพานตลอด แต่ไม่เคยเกิดขึ้นตอนที่มีสมาธินิ่งขนาดนี้
    ขอถามท่านรู้ คำอธิฐาน ณ ขณะนั้น มีผลหรือไม่ อย่างไรคะ
    สองวันมานี่ มองอะไรเป็นสามมิติหมดกระจก หลังคา ถนน
    แม้แต่หู ก็ดี้ ๆ สายตาก็ดีขึ้น ปกติต้องใส่แว่น ตอนนี้ไม่ตเองแล้วสวดมนต์ได้
     
  4. pitra

    pitra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2017
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +31
    สาธุ
     
  5. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ไม่อยากจะขัดหรอกครับ แต่จำเป็น

    จิตยังไม่ได้เดินฌาน แต่อย่างใด
    เพียงแต่ จะเริ่มเข้าสู่ อุปจาระสมาธิ ก่อนจะถึง อัปนาสมาธิ มีปฐมฌานเป็นต้น


    ฉะนั้น อะไรที่เกิดสงสัย ให้กำหนดรู้สงสัยไว้เฉยๆพอ
    ข่มนิวรณ์ ไปก่อน อย่าเพิ่งไปหาคำตอบ กรรมฐานจะเสีย

    ให้มั่น คงกับ กรรมฐานที่ตั้งไว้ให้มั่งคง ต่อเนื่องไปก่อน

    แสงสว่าง โอภาส ต่างๆ เป็นแต่เพียงทางผ่าน อย่าเพิ่งให้ค่าใดๆ
    หากฝึกอย่างต่อเนื่อง เข้าเดือนที่สามที่สี่ คำตอบที่ค้างไว้ในใจ
    จิตคุณจะเป็นผู้ตอบคำถามเอง อย่าเพิ่งไปถามเอาจากใคร

    ฝึกไปเรื่อยๆ ให้ต่อเนื่องครับ
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    หลวงพ่อพุธ จะเน้นเสมอว่า " สมถะ เริ่ม เมื่อหมดเจตนา "

    ซึ่ง สมถะ ที่หลวงพ่อพุธ ให้คำอธิบายไว้ หากไป ถามพวก สมาธินอกศาสนา ก็จะหา
    ว่า หลวงพ่อพุธ ภาวนาไม่เป็น ทำสมาธิไม่เป็น

    มีครั้งหนึ่ง หลวงพ่อพุธ ได้รับเชิญไปงานปลุกเสกของคลัง อะไรด้วย ท่านก็รับนิมนต์ไป

    แต่พอไปถึง เจ้าภาพ ก็ต่อว่า คนไป เชิญว่า เชิญพระรูปนี้มาทำไม พระรูปนี้ภาวนา
    ไม่เป็น ไม่รู้จักสมาธิ

    หลวงพ่อพุธไม่ได้ยินด้วยหู แต่กำหนดรู้ด้วยใจ วันนั้นก็เลย อธิษฐานว่า จะ เข้าสมาบัติ
    จนกว่าจะถึงเช้า

    พองานเลิก ปรากฏว่า หลวงพ่อพุธยังคงอยู่ใน สมาบัติ จะปลุกอย่างไรก็ไม่ลืมตา

    ก็เลย ด่า คนไปเชิญมาอีกรอบว่า "เห็นไหม ไปเชิญมาทำไม ตายไปแล้ว !!!"

    ดังนั้น

    พิจารณา มุขนัยของหลวงพ่อพุธ ดูหลายๆรอบ ว่า " สมถะ เริ่มเมื่อหมด เจตนา "
    มีรสยังไง

    ส่วน สมถะ ที่เจือเจตนามาตลอด มีรสอย่างไร

    พอทำความรู้สึก รับรู้รสแล้ว

    คำอธิฐาน ไม่ได้ไปเกี่ยว หลวงปู่ หลวงตา อะไร พระพุทธเจ้า ก็ไม่เกี่ยว เพราะ
    ศาสนาพุทธ ไม่ใช่ศาสนา ผี !!!

    คำอธิษฐาน คุณ pitra พิจารณาดูดีๆ มันจะมี " รสยอมจำนน "

    รสยอมจำนน คือ หมดเจตนา หลังจากนั้น จะเหมือน โอนลอยออกไปให้
    สิ่งอื่นเป็นผู้บันดาล

    ถ้า โอนลอยให้มีผู้อื่นเป็นผู้บันดาล หนักแน่น ก็จะกลายเป็น ศาสนาผี
    มีการประทับทรง มีการบันดาล

    ถ้า แค่ ทำความรู้สึกแค่จะ แต่ก็รับรู้อยู่ว่า ไม่ใช่ ศาสนาผี(เกิดจากการสดับหลวงพ่อพุธบ่อยๆ)

    จิตมันจะพอดี

    ไม่ส่งใน ไม่ส่งนอก หมดเจตนา แต่ก็ไม่หลงไปในโลกียธรรม

    พอมันพอดี มันก็มีเหตุใกล้ให้เกิด สมาธิธรรม

    ทีนี้

    เวลาเกิด สมาธิแบบนี้ แล้วจิตออกจาก สมาธิตามรูปแบบ มาใช้ชีวิต
    ประจำวัน จิตมันจะเด่นดวงแยกออกจากโลก เหมือน คนนั่งดูนักเล่น
    บอลบนอัฒจรรย์ เหมือนเรา พาลูกขี่จักรยาน เราได้แต่ สอดส่อง
    ห่างๆ ส่งเสียงพาให้กำลังใจเขาบ้าง เวลาล้ม ไม่กระโจนเข้าไปร่วม
    อุ้มเขาเกินความจำเป็น

    จิตเขาจะ อบรมตัวเขาได้ รู้ว่าอะไรควรแล อะไรควรระลึก อะไรที่
    เป็นการสิ้นไปของกิเลส ตัณหา อุปทาน จะมีการ วิจัย " ต้องมีการพิจารณา "

    ไม่ใช่ เอาการเด่นดวง แล้ว จบแค่นั้น

    จนกว่าจะ ละวาง การยึดมั่น จิตเด่นดวงตัวนี้ได้ เห็น แม้นธรรมนี้ก็เกิดดับ

    คราวนี้ จะมี อาการตั้งมั่น ที่เหนือคำบรรยาย ไม่มีใครแสดงได้มาก่อน
    ไม่มีทางที่ใครจะกล่าวมาถึง มีแต่ ตน เท่านั้น ที่แจ้ง โดยไร้ความเห็น
    ว่าเป็นสัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา จึงจะเรียกว่า เห็น สัมมาสมาธิ

    แล้วค่อย เอา จิตที่ถึงฐานนี้ เจริญปัญญาต่อไป
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    หรือ

    ถ้าตอนนี สภาวะเด่น ห่างออกมาจากโลก ( รูปนาม ) หรือ ห่างจาก กายและใจ
    ไม่เห็นความเป็นสัตว์ ตัวตน บุคคล เราเขา

    และ จิตยังไม่เสีย สัญญาไม่เสีย ไป คว้าเอา อาการเด่นดวง มาเป็น ตน เสียก่อน

    ให้พิจารณา จิตที่มันห่างออกมา มันไม่ได้เกิดจาก เจตนา เข้ามาเลย

    มันเป็น วิบาก ที่ได้จาก การทำเหตุ ซึ่ง วิบากบางอย่าง ให้ผลยาวนานนนนน

    วิบากพวก "รูปสังโยชน์" "อรูปสังโยชน์" ให้ผลยาวนานเกิน ภัทรกัปป คือ
    พระพุทธเจ้าประกาศศาสนา5พระองค์ จิตก็ยัง ค้างเติ่ง คิดว่าตน นิพพาน
    แบบ เดรัจฉานที่ชื่อ พยานาคมัจจุริน ที่เห็นถาดทองคำ ล่วงมาสี่ใบ ก็ยัง
    มีจิตจมดิ่งแยกอยู่

    พอกำหนดรู้ สภาวะที่แยกๆอยู่ว่า ไม่มีเจตนา สิ่งที่ควรกำหนดรู้
    คือ เดี๋ยวมันก็เสื่อม

    ถ้าไม่กำหนดรู้ว่า เดี๋ยวมันก็เสื่อม ดับไปเป็นธรรมดา จะเกิด อุปาธิสำคัญว่า
    สภาวะเด่นดวงนี้คือตน มีตนเที่ยง พอใครมาทำผัสสะ ให้หายไป ก็เอา
    ปืนยิงเปรี้ยงไปเลย โกรธ มาทำลาย สมถะ กรรมฐานตน มาตัดตนเข้านิพพาน

    ทีนี้ ถ้ากำหนดรู้ว่า เป็นธรรม ไม่ได้เกิดจาก เจตนา และ กำหนดรู้ว่า เดี๋ยว
    มันก็เสื่อม คนที่มีปัญญาดี ไม่ใช่ปัญญาทราม จะ ย้อนกลับไป เริ่มใหม่
    แต่ต้น แล้ว ไม่สนว่า มันจะจบลงอย่างไร ตอนไหน

    พอชำนาญแบบนี้ จากที่เคยค้างเติ่งนานสามเดือน สามวัน จะเห็นเลย

    หายใจคายเดียว มันเจริญ แล้วเสื่อม แสนโกฏิขณะ(อุปมา อปุมัย กำลังสาวก
    เห็นแค่ สองสาม ขณะจิต พอแล้ว)

    เห็นได้แบบนี้ ค่อยมาว่ากันเรื่อง ปฐมฌาณ จุดนัดภพนักภาวนา(ที่มีปัญญาดี
    ไม่ใช่ปัญญาทราม สุกเอา เผากิน เสกของได้สารพัด แต่จะส่ง หลวงพ่อพุธ ไปเผา)
     
  8. pitra

    pitra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2017
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +31
    สาธุ อนุโมทนา ค่ะ
    จะเดินทาง ตามคำชี้แนะค่ะ
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    มองเป็นเรื่องของเหตุปัจจัยครับ คำอธิษฐานมั่นๆ มันเป็นกำลังใจ เป็นตัวตัดความกังวลอื่นๆ ออกไปได้ (ชั่วคราว) อย่างหนึ่ง ทีนี้ความได้อะไรมาบางทีมันก็เป็นตัวถ่วงไปเสียเฉยๆ ได้เหมือนกัน ถ้ามองไม่ขาด เมื่อไหร่ที่มีการพยายามถือเอา ครอบครอง เป็นเจ้าของไว้ มันก็เป็นเหตุแห่งทุกข์ได้เสมอ โฟกัสกิจในอริยสัจให้ตรงครับ มันถึงจะสิ้นตัณหา พ้นทุกข์ได้จริงๆ ครับ
     
  10. pitra

    pitra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2017
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +31
    สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...