ณ ประเทศเอสโตเนีย

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย devotee57, 5 มกราคม 2017.

  1. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้นี้ตั้งมาจากกระทู้ผีพราย ด้วยมีข้อความของคุณพี่นพฯ ที่เอ่ยถึงฝั่งฝาหรั่ง แล้วตัวข้าพเจ้าเพิ่งมาอยู่ประเทศหรั่งที่ชื่อเอสโตเนียราวสองเดือนกว่าๆ(อย่าถามหนาวมั้ย ประเทศนี้อยู่ระหว่างอ่าวฟินแลนด์และรัสเซีย ความหนาวมิต้องพูดถึงวันนี้-9ถึง-12องสาเอ้ง) สาเหตุที่มาเพราะมาทำงานค่ะ( อีกสองปีเจอกันประเทศไทย:()

    ประเทศนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวค่ะ ขึ้นมรดกโลกด้วยเมืองหลวงทาลลิน ย่านท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งคือ โอลทาว์น ซึ่งเดินจากหอพักที่อยู่ประมาณสิบนาทีก็ถึงค่ะ บ้านเมืองก็เก่ากึ๊กกี่ร้อยปีไม่รู้ไม่ได้สนใจอิๆ อารมณ์เหมือนหลุดมาในหนังฝรั่งยุคโบราณล่าแม่มดอะไรเทือกนั้นเชียว แม้แต่อาคารใกล้ๆหอพักยังมีตึกไม้เก่าๆเพียบ และเริ่องมันก็เกิดขึ้น

    ตอนมาเหยียบแผ่นดินนี้ใหม่ๆแบบงงๆก็ไม่ได้คิดอะไรตามแบบพวกไม่คิดมาก(ซึ่งผิด:eek:) ไม่สนใจอะไร ไม่ไหว้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางอะไร ก็มาทำงานเฉยๆคิดไรมาก ก็ถ่ายรูปส่งให้คนที่ไทยดูนู้นนี้แต่ส่วนตัวไม่ได้ตื่นเต้นหรืออยากมาแต่อย่างใด บ้านเมืองนี้ไม่มีวัดพุทธ มีแต่โบสถ์ฝรั่งเต็มไปหมด พอวันพระไอเราเลยได้แต่สวดมนต์ไหว้พระ แต่สวดไปโงกไป ขาดๆเกินๆก็ไม่คิดอะไรอีก(แระ)ใหม่ก็คงเป็นอย่างนี้ไม่สวดมานานคงไม่คล่อง

    แต่เวลาแผ่เมตตาจะเห็น(หลับตา)เหมือนคนฝรั่งเดินไปมาแต่งตัวธรรมดาเดินตรงถนนทางสามแพร่งที่ตรงกับห้องนอนพอดี แต่ต้วขาวๆโปร่งๆ บางทีอาจคิดปรุงแต่งไปเอง:D

    แต่ที่เจออย่างจั๋งหนับมีอยู่ว่า วันนึงเมื่อธันวานี้เอง วันจันทร์ทำงานเกิดเหนื่อยมาก วันหยุดเป็นวันอังคารตรงกับวันโกนเลยไม่ออกไปไหน แม้แต่งานเลี้ยงเหมาสปาฉลองวันเกิดลูกเจ้าของร้านกับคนในร้านอีกสองคน เลยสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิเผื่อจะมีแรงมากขึ้น แต่พอนั่งสมาธิเสร็จรู้สึกหน้าตึงๆอุ่นๆ รู้สึกมีกำลังมากขึ้น

    วันรุ่งขึ้นไปทำงานตามปกติแต่ขากลับ ราวๆ2ทุ่มทำกระเป๋าตังค์หายมีเงินประมาณ20ยูโร แต่มันมีเอกสารต่างๆด้วย รู้สึกตัวว่ากระเป๋าหายเกือบๆ4ทุ่มเลยออกจากที่พักพร้อมพี่อีกคนหนึ่งมาเดินตามหากระเป๋า แต่ตอนนั้นถอดพระ และเหรียญต่างๆออกแล้ว ก่อนออกยังเหล่มองพระก่อนว่าจะต้องแขวนออกนออกบ้าน ไปๆมาๆลืม

    พอลงชั้นล่างเปิดประตูหอก้าวพ้นธรณีประตู
    โคร้ม!!! ลื่นล้มนอนหงายเก๋งเรียบร้อย ตอนนั้นหิมะเพิ่งลงเป็นปุยๆเกาะพื้นยังไม่ถึงกับเป็นลานน้ำแข็งแต่กลับลื่นอย่างแรงก้นกระแทก แต่กลับเจ็บกลางหน้าอกเหมือนโดนใครเหยียบอก ถ้าบอกว่าโดนกระโดดถีบใส่นี่เชื่อเลย เจ็บจุกแบบหายใจแทบไม่ออก จนเดินหาแล้วกลับห้องก็ยังหายใจแทบไม่ออก รูัเลยว่าแจ็คพ็อตโดนเล่นเข้าแล้ว วันนั้นเลยไม่ได้สวดมนต์เพราะเหนื่อยมาก ได้แต่ขอพรพระและครูบาอาจารย์ท่านๆให้ช่วยลูกด้วย เรอเอิ้ก หาวยาว น้ำตาพรู อาการดีขึ้น แต่คืนนั้นพี่ที่นอนด้วยบอกเรางึมงำแล้วเรอทั้งคืน

    คราวนี้ก็ได้คุยกับพี่คนนึงแกเป็นอิสลามอยู่เมืองไทย เขามีผู้คุ้มครองทางสายนั้น ก็เล่าให้เขาฟังและถ่ายรูปที่ใกล้จุดเกิดเหตุให้ดู พี่แกก็รวมสมัครพรรคพวกตั้งกลุ่มแล้วคุยประเด็นที่เกิดขึ้น รวมถึงรูป พวกพี่ๆเขาก็บอกให้เราขอขมาและบอกล่าวเขาเสีย เราคงไปทำอะไรให้เขาโกรธ เห็นว่าดุมากๆ ตอนนั้นเอ๋อเลย ไปทำอะไรหว่า?แล้วจะคุยกันรู้เรื่องมั้ย คนชาตินี้บางคนพูดอังกฤษยังไม่ได้ ไอเราก็อังกฤษแกนๆ จะสื่อกันได้มั้ย? พี่แกก็บอกให้ตั้งจิตคุยเอาไม่ต้องออกปาก แต่ก็ลองทำตามแบบที่เราเข้าใจเอง(ไม่รู้ถูกผิดยังไง) พอทำเสร็จเหมือนน้ำตาเกือบจะไหล(ไม่รู้ได้ผลแค่ไหนบอกแล้วว่าเอ๋อ)

    พี่ๆไทยเขาบอกว่าที่ๆเราอยู่มันเป็นพื้นที่ทับซ้อนสองมิติ(มันคือไร?) เขาว่าเป็นโลกวิญญาณ ในความคิดรู้สึกมันกำกวมไม่กระจ่างเท่าที่ควร:confused: แต่ถ้ามีกลุ่มวิญญาณก็ไม่แปลกใจหรอกค่ะ เดินไปมาในเมืองนี้บางทีเหมิอนเดินย้อนยุคหลุดไปโลกสมัยก่อนเลยอะไรก็เก่าไปหมด ของใหม่มันก็มีแต่ไม่โดดเด้ง ตึกเก่าๆยังใช้งานอยู่เลย

    งานนี้มีโดนพี่ๆเขาดุเอา หัดรู้อะไรบ้าง ชอบทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเลย(จะชิลเอ้าท์ไปไหน) เป็นพวกมีสัมผัสจะไปไหนมาไหนอย่าเที่ยวมองโน้นนี่ เขาจะหาว่าหาเรื่อง:((มองอะไรเห็นกะเขาที่ไหน) ไปอยู่ที่นั่นก็ถือว่าข้ามเขตแดน(?) ต้องบอกกล่าวเจ้าถิ่น ปัดโธ่ ไม่มีตาทิพย์อะไร ความสามารถแปลกๆอะไรที่ดูพิเศษยังไม่รู้เป็นเรื่องเป็นราวว่าคืออะไร ใครจะไปนึกว่ากลายเป็นตัวล่อเป้าซะงั้น?(ถ้าใครเจรจากับพวกเขาได้ช่วยบอกทีว่าไม่ต้องสนใจยัยคนนี้ มันโง่เกินไม่รู้ไม่มีอะไรหรอก:( อยากจิครายๆๆ)

    อยากลงรูปให้ดูจัง ไม่รู้จะโดนโกรธรึเปล่า เฮ้อ
     
  2. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    อันนี้รูปถ่ายจากห้องครัวบนห้องพักค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    อันนี้ทางสามแพ่งตรงกับห้องนอน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    อันนี้ภาพบางส่วนโอลทาวน์ ช่วงคริสมาสต์พอดี แต่ปีนี้หิมะปลายตุลาวันฮาโลวีนหน่อยนึงเเล้วเพิ่งตกวันวันที่2ม.ค.นี้เอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    :p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    อันนี้เพิ่งถ่ายตอนเช้าก่อนออกจากบ้านเป็นจุดเกิดล้มหงายเงิบ อันที่สองเป็นทางสามแพร่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ขำๆเด้อ พอนึกภาพกลุ่มบุคคลที่ใส่หมวกแบบใหญ่ๆหน่อย
    กว้างกว่าหมวกคาว์บอย ดูผ่านๆเหมือนใส่หมวกคาว์บอย
    ไซด์xxl ประมาณว่ากันฝนได้แบบตัวไม่เปียก ๕๕๕
    แล้วการแต่งกายเหมือนจะมีชุดคลุมนอก
    ที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้าคือแขนยาวถึงเกือบข้อศอก
    และปล่อยชุดลงมาตรงๆ คล้ายชุดครุยรับปริญญา
    แต่ว่าปลายจะยาวชุดรัปปริญญาหน่อย
    เค้าจะมีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่นับถือ
    เป็นรูป X อืมๆ ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม เค้าเชื่อว่า
    ทุกสิ่งหรือพลังที่เค้ามี ได้มาจากเครื่องหมาย X นี้
    เพื่อส่งถึงเข้าถึง ศาสดาที่เค้านับถือ......
    ถ้าเรารู้ว่า ศาสดา ที่เค้านับถือเป็นใคร
    และเราให้ความเคารพศาสดาเค้าเช่นกัน
    เรียกว่า เค้าเมืองเค้าเคารพผู้ใหญ่ ศาสดาเค้าไว้ก่อน
    เค้าก็จะมองเราเป็นมิตรโดยอัตโนมัตินั่นแล...
    ปล.หาเอาเองว่าเค้านับถือใคร
    (บอกตรงๆเด่วไม่สนุก จริงๆคือส่วนตัวไม่รู้เหมือนกัน
    ๕๕๕ อ้างเฉยๆมุขๆ)
    พอขำๆเน้อ
     
  8. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    พี่ค่ะ เหมือนจะขำ แต่จุกจริงอะไรจริงเจ็บแบบไม่มีแสตนอินเลย (ทักแรงมาก )ก่อนหน้านั้นตอนมาอยู่ใหม่ๆก็หิมะตก เด็กกะเหรี่ยงอย่างเราก็ไปเดินโต้ลมหนาวเล่นหิมะกะเขาสักกะหน่อย เดินมาขึ้นรถที่ป้ายรถเมล์จะเป็นโรงเรียน ตรงข้ามพอดีเป๊ะเป็นโบสถ์คริสต์พื้นเป็นน้ำแข็ง(ช้านเกรียดเธอหิมะๆๆๆ) เท้าซ้ายสไลด์เล็กน้อยออกด้านข้างไม่ถึงครึ่งคืบ แบบว่าน้อยของน้อยมากเจงๆ เราก็คิดว่าไม่เป็นไรไปเดินเที่ยวต่อ ที่ไหนได้เท้าบวมเจ็บไปเกือบสามสัปดาห์ วันนั้นก็ไม่ได้แขวนพระไปอีกนั่นแหละ ก็คิดแค่สนุกคงไม่มีอะไร ที่ไหนได้เกือบเดินไม่ได้

    บางคนอาจงงว่ามันแปลกตรงไหน พื้นลื่นๆเท้าเจ็บก็ธรรมดา จะบอกว่าก่อนหน้านั้นล้มแรงกว่านี้โครมใหญ่เข่ากระแทกก็ไม่เป็นไร ปกติเป็นคนที่เจออุบัติเหตุล้มลุกคลุกคลานทะเลาะกับขากับเท้าตัวเองบ่อยมาก แต่จะไม่เจ็บถึงเจ็บก็แป็บเดียวร่างกายก็ฟื้นเร็ว รอดตายก็เคยมาแล้ว แต่ทุกครั้งจะแขวนพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ติดตัวเสมอ เลยเชื่อเรื่องนี้คะ

    ตอนแรกมาก็ไม่คิดอะไร(คิดบ้างก็ได้)บ้านฝรั่่งแถมเคยตกอยู่ในปกครองของโซเวียตนานพอควร เรื่องซับซ้อนคงไม่มีม้างงงง(กรุณาอย่าซ้ำเติม) งานนี้ผมนี่ถึงกับเงิบ ที่อยู่ก็ยังอยู่เนอะแฮ่ๆ

    ที่พี่นพบอกนี่เหมือนลักษณะบาทหลวงคริสต์เลย เคยดูในสารคดีเขาแต่งตัวแบบนั้นบาทหลวงสมัย
    โบราณ ยิ่งสมัยที่โป๊บเป็นใหญ่เหนือการเมืองภาคพื้นยุโรป จะมีการนำทัพไปรบในสงครามครูเซตด้วย(ครูเซตมาจากครอสที่แปลว่าไม้กางเขน) มีกองทัพนักบวชที่เป็นนักรบด้วย จะมีรูปกางเขนชัดเจนที่ชุด โป๊บองค์หนึ่งที่ท่านดังมาก(ขออภัยจำชื่อไม่ได้)ท่านนำทัพออกรบเองก็มีชุดกางเขนเหมือนกัน เป็นที่รู้กันว่าไปรบเพื่อศาสนาประมาณว่าแลกด้วยชีวิตเพื่อเยรูซาเล็มที่เชื่อว่าเป็นบ้านของพระเจ้า จากการยึดครองของอิสลาม ทั้งยิว คริสต์อิสลามเห็นตรงกันว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ตนควรครอบครอง

    ถึงแม้ว่าจะมีคนจำนวนหนึ่งที่ไปรบในสงคราม200กว่าปีนี้มีผลประโยขน์อื่นแอบแฝง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนจำนวนมากไปแบบศรัทธาสุดโต่ง(มีครูเซตครั้งนึงชื่อครูเซตเยาวชน มีแต่เด็กๆวัยรุ่นไปรบแบบไม่เคยฝึกไม่มีประสบการณ์ เขาเชื่อว่าพระเจ้าจะปกป้องให้ปลอดภัย แต่เป็นครั้งที่เด็กเสียชีวิตเกือบหมดพ่ายแพ้กลับมา อันนี้ไม่ได้กล่าวก้าวล่วงอำนาจใดๆน่ะคะ ว่าตามตำราที่เคยเรียน)

    จากที่ร่ายยาวมานั้น ทำให้ข้าพเจ้านึกอนาถมาก ช้านกำลังเผชิญอารายยยยยย เจอตอแบบสุดลิ่มเข้าให้ไหมเนี่ย ขุ่นพี่นพค่ะ ถ้าเป็นจริงนี่อายุอานามท่านๆนี่ไม่น่าต่ำกว่ายุครัตนโกสินท์ เผลอๆอาจร่วมสมัยหรือก่อนลีโอนาโด ดาวินชี่ โอ้ว!!! อยุธยาตอนกลาง ไม่น้อยไม่มากแค่บวกลบสี่ร้อยกว่าปี :eek::confused: ถ้านับยุคมืดนี่มากกว่าอีก อยากจิเปนลม

    พี่ที่เป็นอิสลามคุยอยู่ด้วยกันทางไลน์ อยู่ๆก็เลือดกำเดาไหลโจ๊กซะงั้น เขาว่าไม่รู้เพราะคุยกันรึเปล่าแรงมากเลย ก็ตอบไปว่าไม่รู้ แต่คนที่นี่กำเดาไหลง่ายเพราะอากาศเย็นจัดจนเส้นเลือดแตก พี่แกก็ว่าบ้านช้านเมืองไทยไม่หนาวซักกะนิด คุนกับแกเนี่ยแหละช้านถึงเลือดไหล (ซวยอีกเรา)
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เฉพาะผู้นำศาสนาเค้าที่หลักๆจะสวมหมวกคล้ายมงกุฎนะ
    ถือไม้เท้าด้านมือขวาด้วยนะ เวลาสั่งหรือทำอะไร
    ก็จะยกไม้เท้า โดยเหยียดแขนขวาออกไปตรงๆ
    (เช่น ไปเก็บละมุดมาให้ข้า เห้ย!! ไม่ใช่แระ มั่วแระ อย่ามาตลก)
    ที่ฝรั่งเรียกว่าท่านสมเด็จพระสันปาๆอะไรหรือเปล่าไม่แน่ใจนะ
    แต่บางกลุ่มเค้าจะถือว่าเป็น กษัตริย์ด้วยนะ
    แต่จริงๆก็ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรนะ
    กลุ่มนั้นเนาะ ถ้าตายแล้วและ ถ้าเทียบการปฏิบัติทางบ้านเรา
    เรียกว่าสีจิตออกเด่นทางสีแดงเพียวๆเลย(ทางบ้านเราเรียกว่าเด่นฤิทธิ์)
    มีแต่ว่าจะแดงเข้มหรือแดงอ่อนจนออกคล้ายชมพูเป็นอีกเรื่อง
    (คือมีเมตตาร่วมด้วยถ้ามีอ่อนๆหน่อยนะ) พูดง่ายๆนิสัยคือ ไม่คือไม่
    ใช่คือใช่ ว่ากันแบบตรงๆ ความมุ่งมั่นมีเป็นปกติตามวัฒนธรรม
    แต่ศรัทธาเชื่อมั่นต่อสิ่งที่เคารพมีมากกว่าอื่นใด
    (เหตุที่จิตสีแดงเค้าได้จากตรงนี้หละ)ทำได้อย่างดีที่สุดคือ
    ให้เค้าเป็นมิตรกับเราแค่นั้นหละจะทำอย่างไรก็ได้แล้วแต่
    นอกจากเคารพนับถือที่เค้าเคารพเหมือนกัน


    การเข้าถึงตัวเราในระดับประชิดตัว ถูกตัวเราได้
    เหมือนกับมีคนมาจับสัมผัสตัวเราจริงๆแบบชัดเจน
    แม้ในขณะที่เราลืมตา เป็นความสามารถปกติเลย
    ที่เค้าทำได้ทั่วๆไป บ้านเรามีอยู่กลุ่มหนึ่ง
    คือภูมิพยานาคสีแดง

    โม้หน่อยนะ
    ส่วนตัวเคยเจอห้าหรือเจ็ดเศียร นี่หละ
    ที่วัดแห่งหนึ่ง พอดีนึกเปรี้ยวหน่อยครึ้มๆตีสองตีสาม
    แวะไปเยี่ยมชมสถานที่ๆเป็นเมืองเค้าหน่อยดีกว่า
    สงสัยเหตุเพราะวันนั้นกินยาแล้วลืมเขย่าขวดหรือเป่า


    ปรากฏว่ามาเพียบตั้งแต่ทางเข้ามาคล้ายคน
    มามองหน้าแบบงงๆ ประมานว่า
    เห้ยๆ ไอ้นี้ มะ แร่ง แม่ง เป็นใครว๋าาาาา
    หน้า มะ แร่ง แม่ง ไม่คุณเลยวะ(คุณได้วะ ก็ตรูพึ่งเคยมา)
    มากันป่านว่าไปเดินตลาดเปิดท้ายขายของ

    และทันใดนั่นเอง ในขณะที่กำลังเก๊กท่าถ่ายรูปอยู่นั้น
    มีท่านหนึ่ง แว๊บมาพันรอบตัว เริ่มจากที่ขา
    (ตอนแรกนึกว่าโดนงูเหลือมรัดเพราะว่ารู้สึกชัดมาก
    และขนาดเท่าต้นขาได้ เล่าแล้วยังนึกเสียวๆ ยึยยย)
    แล้วไปแผ่แม่เบี้ยอยู่ข้างบนศรีษะ
    มารัดแบบชนิดความเร็วสูงยังไม่ทันได้ขยับตัวเลย
    เล่นเอาเสียวลึกไปถึงทรวง ได้แต่อยู่นิ่งๆ
    แต่ว่าหัวใจเนี่ยย้ายไปอยู่ตาตุ่มซะแล้ว
    เข้าใจกิริยาเลยว่าหัวใจตกตาตุ่มเป็นยังไง

    ตายแน่ๆตรูงานนี้ ทีหลังจะไม่ลืม ว่าต้องเขย่าขวดก่อนกินยา ๕๕๕
    แต่ซักพักเหมือนว่าจะไม่เป็นไร
    เหมือนๆคล้ายๆว่าแวะมาทักทายฉันท์มิตร
    (หรือเป็นไปได้ว่า อาจจะเจอที่คล้ายกันบนศรีษะเราก็ไม่อาจทราบได้
    เลยนึกว่าเป็นพวกสายเลือดคล้ายคลึงกัน ๕๕๕)

    เลยคิดขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย
    เผื่อจะไปอัฟในเฟสบุค(ช่างคิดไปได้)
    แต่เค้าไม่ให้ถ่าย ให้เห็นเป็นดวงกลมๆ
    เรียงขนานเหนือศรีษะ ๕ วงแทน
    (มีรูปถ่ายปัจจุบันก็ยังอยู่)
    ปล ลักษณะแบบนี้ให้เค้าเห็นเราเป็นมิตรพอ
    เพราะถือว่าเป็นสายแข็ง ที่ควรผูกไมตรีไว้อย่างยิ่ง
    คือถ้าไปต่างแดน เค้าตอนรับด้วยการ
    ให้กินอะไร ก็กินๆไป อย่าไปขัด
    เพราะกลุ่มนี้แม้จิตมีเมตตา แต่เค้าจะมีบารมี
    ที่จะทำให้จิตเรารู้สึกยำเกรงสัมผัสได้ถึงฤิทธิ์ที่เค้า
    ได้เคยสะสมมาจากพฤิตกรรมตอนยังมีชีวิต
    ถ้าคิดจะไปเปรี้ยวด้วย(ตอนยังไม่ตายยังมีโอกาศเปรี้ยวได้)
    บอกได้เลยว่าแพ้ตั้งแต่คิด
    ต่อให้เหาะเหิรเดินอากาศได้ ยกเว้นท่านที่เป็นเลิศด้านฤิทธิ์
    ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ
    ก็แพ้เค้าล้านเปอร์ แพ้ที่ความเร็ว
    มีมิตรแบบนี้ชีวิตจะปลอดภัยดี
    ทางด้านนามธรรม(^_^)
    พอขำๆเด้อ
     
  10. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    กร๊าากกก ถ้าพี่ท่านป๋านบมีอะไรบนศรีษะแบบนั้น ทางมนุษย์มันจิเรียกว่า หัว...นาฮับ (แซวๆ) 5555+
     
  11. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ขอแอบร้องน้ำตาเล็ดแพร็บ โอ้ยประสบการณ์แบบสกายคิกที่ยอดอกลูกอยากจะร้องไห้ อยากบอกว่าลูกไม่มีความสามารถอะไรเป็นเรื่องเป็นราวทั้งสิ้น ไม่อยากเปรี้ยว อยากอยู่แบบคนไม่สำคัญ ไม่ต้องสนใจกันก็ได้ ท่านๆทั้งหลายอาจคิดว่าลูกรู้ เห็น เป็นนั่นนี่ ซึ่งมันไม่มีเลย อยู่แบบงงๆไปวันๆ พี่ๆคนอื่นกลับไม่ทัก กลับทักเด็กน้อยตัวดำๆซะงั้น อยากถาม เด็กขี้สองเหล่(เหล่เดียวไม่พอ)คนนี้มันน่าสนใจอะไร T.T ปล่อยลูกนกลูกกาไปเต๊อะ

    แต่ที่พี่นพบอกนี่ลักษณะเหมือนการแต่งตัวของโป๊ปหรือสันตะปาปามากค่ะ จะฉลองพระองค์แบบยาวคลุม มีหมวกทรงคล้ายกรวยแต่ชายยาว ทับด้วยมงกุฏและทรงคฑาด้วย จะมีแหวนวงใหญ่เป็นตราพระราชลัญจกร ไว้ปั้มประทับอนุมัติเอกสาร

    ตำแหน่งของโป๊บถือเป็นผู้สูงสุดของคริสตจักรสมัยโบราณก่อนมีการแยกเป็นโปรแตสแตนท์สาขาต่างๆ บางยุคสมัยโป๊ปท่านมีอำนาจมากเหนือกษัตริย์ทุกพระองค์ของยุโรป ชี้นกเป็นนก ทุกชีวิตกลัวบารมีของสำนักวาติกันมาก ทั้งการเมืองการปกครองหรือวิชาความรู้อะไร เรียกง่ายๆว่าทุกด้านขึ้นกับสันตะปาปาค่ะ ถ้าจะเรียกว่าเป็นกษัตริย์หรือเหนือกษัตริย์ก็ไม่แปลก บางองค์ท่านมีอำนาจในการเรียกระดมพลสั่งการ หรือตั้งกองทัพเองด้วยซ้ำ ในสมัยลีโอนาโด ก็มีองค์นึง(ที่บอกว่าดังมากๆ)บุคคลิกกร้าวแกร่งชัดเจน เป็นยุคที่วาติกันเรืองอำนาจมาก ท่านสร้างกองทัพ และเป็นแม่ทัพไปรบในสงคราครูเซตกลับมาด้วย ได้ฉายาว่าเป็นสันตะปาปานักรบหรือสันตะปาปาหัวใจสิงห์นี่จำไม่ถนัด ใครก็กลัวท่าน แม้แต่มิเกลันเจโลจอมปลิ้นปล้อนที่ไม่ค่อยกลัวใครยังต้องรีบปั่นงานถวาย ถ้าโดยตำแหน่งที่ทุกชีวิตอยู่ใต้อาณัติแบบนี้ จะเด่นเรื่องฤทธิ์หรือสายบู้นี่เข้าใจได้เลยค่ะ มายุคหลังๆที่ยุโรปแตกประเทศชัดเจน กษัตริย์เจ้าแคว้นต่างๆอยากปลดแอกจากวาติกันเลยสนับสนุนสายโปรเตสแตน(แปลว่าต่อต้าน)เป็นเครื่องมือ เลยแบ่งขัดเจนเป็นสองสายหลักคือโรมันคาทอลิกมีโป๊ปเป็นผู้นำ ส่วนโปรแตสแตนแล้วแต่สายว่าใครก่อตั้ง แต่เน้นพระคัมภีร์กับพระเจ้าเป็นหลักไม่นับถือเซนท์หรือนักบุญ อย่างพระแม่มารี ฯลฯทุกคนสามารถเข้าถึงไบเบิ้ลด้วยตัวเอง จึงไม่เน้นที่บาทหลวง

    แต่ก็มีอีกสายที่เป็นเอกเทศมานาน แยกการปกครองมาตั้งแต่ยุคเริ่มแรกที่ค่อยๆเป็นอิสระ น่าจะสมัยพระเจ้าคอนสแตนตินอาณาจักรโรมัน ที่ท่านแยกการปกครองมาอยู่กรุงคอนสแตนติโนเบิ้ล หรืออิสตันบูลในตุรกีปัจจุบัน สาขานี้เป็นสายตะวันออก คือ ออเธอดอก เช่น กรีกออเธอดอก รัสเซียนออเธอดอก ที่จะมีพิธีกรรมที่มากใกล้เคียงกับโรมันคาทอลิก แต่ผู้นำสูงสุดจะเป็นสังฆราชของประเทศนั้นๆ แต่เข้าจะสนิทชิดเชื้อและให้เกียรติโป๊ปมากกว่าโปรแตสแตนที่มองเป็นศัตรู ในพื้นที่รัสเซียและบริเวณใกล้เคียงรวมถึงเอสโตเนียนี้น่าจะเป็นรัสเซียนออเธอดอกค่ะ บาทหลวงผู้ใหญ่จะใส่หมวกทรงกรวยใบใหญ่ๆ ใส่สร้อยใหญ่ๆ เน้นเงินๆทองๆดูฟู่ฟ่าแบบน่าเกรงขาม ในงานพิธียังจุดกำยานแบบโบราณ เอิ่มคุยไปคุยมาออกทะเลวิชาประวัติศาสตร์ซะงั้น

    ส่วนเรื่องพญานาคไม่เคยสัมผัสแบบเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ มีแต่คนรอบข้างเจอ อย่างน้องชายลูกของน้าสาวนี่เจอตอนกลางวันแสกๆขึ้นมาหาเป็นตัวคน(หล่อซะด้วย)แต่ใส่ชุดไทยผ้าเตี่ยวผิวดำเป็นเกล็ด ยืนที่ถนนน้องมันมากับเพื่อนแดดเปรี้ยงๆแต่ตรงที่เขายืนเย็นเจี้ยบ น้องมันเห็นก็บอกเพื่อนให้ก้มหัว เพื่อนมันก็งง เลยตบกะโหลกกดหัวเพื่อน มึงก้มๆไปเถอะ แล้วบอกกับเขาว่า ขอไปหน่อยค้าบหวัดดีค้าบ

    แต่ก็รายเดิมนี่แหละที่ขั้นมาหาน้องชายคนนี้ แถมไหว้สาเด็กน้อย ว่านี่ท่านจำเราได้ไหม?(ถ้าเป็นเราคงบอกแล้ว จำมิได้T_T) น้องชายคนนี้เขาเรียนที่โรงเรียนวัดหาดฯ ติดริมแม่น้ำ ตรงนั้นมีคนเห็นงูยักษ์ใหญ่ตัวดำๆว่ายน้ำให้เห็นบ่อยๆน้องบอกตาสีแดง เจ้าอาวาสชาวบ้านแถวนั้นเห็นบ่อย วันพระ(ถ้าจำไม่ผิด)จะขึ้นมาเป็นคนตัวเป็นเกร็ด เขาว่าสวย ที่โรงเรียน(อยู่บริเวณวัด)จะมีรูปปั้นพญานาคสีดำ กับสีทอง น้องบอกว่าที่สีทองไปจ้องเขาเหมือนคุยกันได้ว่าเขาไม่อยากอยู่ตรงนี้ แบบกำลังร้องไห้ ส่วนสีดำน่ะเฉยๆไม่เดือดร้อนอะไร

    น้องชายคนนี้เป็นลูกหลง ตอนน้าสาวท้อง น้าเขยฝันว่ามีคนแก่ชุดขาวมาบีบปากกรอกงูขาวเป็นแก้วให้กลืนลงท้อง

    ส่วนน้องสาวเคยเจองูขาวตัวใหญ่บนเขาที่วัด ตอนนั้นน้องเด็กมาก น่าจะไม่เกินห้าขวบ อีท่าไหนไม่รู้ไปเดินเล่นในป่าคนเดียว เขาชูคอแผ่แม่เบี้ยสูงกว่าน้อง ทำนองว่ารำคาญ(เหมือนน้องไปเหยียบเขา) มาเดินอะไรแถวนี้เที่ยวเหยียบไปทั่วมันอันตราย ไล่ให้กลับไป น้องบอกว่าคุยกันรู้เรื่องแบบไม่ออกเสียง บริเวณย่านนั้นรวมถึงวัดบนเขาเป็นญาติๆเราเสียทั้งนั้น

    แต่ไอเรานี่กลัวงูอย่างแรง ตอนเด็กๆเคยโดนงูตัวใหญ่สีทองตาแดงไล่กวด วิ่งหนีป่าราบแซงพ่อแม่ พูดได้แค่ งูๆ แล้วโกยอย่างเดียว โคตรฝังใจเลย
     
  12. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432

    อุ๊ตะ!!!! งูรัด !!! + หัวใจตกไปอยู่ตาตุ่ม!!! = ?????? ( 555++) อย่างงี้เข้าธรรมเนียบเรียบร้อย คริคริ....^_^
    (แซวพอขำๆนะคะ)
     
  13. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    โม้บ้าง น้องชายข้าพเจ้าก็เคยเจอนะ ตัวจี๊ดเดี๋ยว 555 (มาโม้ทำไม) ใหญ่กว่างูเขียวหน่อยมั้ง โผล่หัวชูคอออกมาจากกอหญ้าริมถนน กำลังแผ่แม่เบี้ย เหมือนมองอะไรอยู่ น้องถึงกับเบรคจักรยาน หัวทิ่ม หันหัวปั่นกลับไปทาง รร. (น่าจะ ป.3-ป.4)
    แล้วมันพิเศษตรงไหน น้องบอกว่า งูที่กำลังแผ่แม่เบี้ยนั้นสีทองออกแดง เกล็ดสีทองกำลังสะท้อนแสงยามเย็นอยู่
    (จบค่ะ ^_^ )
    แอบมีน้อยใจ น้องว่า มันเคยเห็นงูสีทองด้วย (ไม่นับงูเหลือมนะ) ไอ้เรารึ แค่งูสีดำ สีน้ำตาล สีเขียว โม้ไม่ได้เลย 555( แหน็บตัวเอง)
     
  14. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    เมื่อคืนก่อนนอน พวกพี่ๆที่ทำงานด้วยกันคุยแล้วได้ยิน ตอนแรกเขาก็ไม่อยากให้เราได้ยิน พอเค้นถามก็ตอบว่าห้องของเราในที่ทำงานน่ะเขาไม่ชอบ นอนไม่หลับ คนนึงบอกโดนอำบ่อย มีแบบตัวดำใหญ่ๆมาจะปล้ำเขาทำเมียด้วย(โถ ๆคงกลั้นมานาน) อีกคนนึงก็ว่าพอสัปหงกก็โดนกระตุกขาโดนปลุกตลอด นอนไม่ได้ แล้วถามว่าเราเป็นมั้ย ก็ไม่นี่หลับได้จนต้องมีคนมาปลุก ไม่เคยโดนอำอะไร ไม่ฝันไรเลย(หรือจำไม่ไดัเอง555) พวกพี่ๆเขาบอกเจ้าที่แรง แต่ตัวข้าพเจ้าไม่เจอ (หรือเขาสื่อแล้วแต่บื้อเองไม้รู้เรื่อง?) จะมีแต่เหมือนอาการหูอื้อบ้าง หรือเสียงวี้ดคล้ายไมค์หอน แต่ไม่ดังมากถ้าไม่สังเกตุ(ปกติสนใจอะไรที่ไหน คึๆๆ) แต่อาจเป็นที่อากาศหนาวจัดความกดอากาศต่ำเลยทำให้หูอื้อ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    อ้อ มีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ ปีใหม่นี้กะเหรี่ยงน้อยไปเค้าท์ดาวน์บ้านพี่คนไทยที่ได้สามีบักสีดาประเทศนี้ พอนับถอยหลังจุดพลุลอยโคม(บ้านนี้โคมลอยแพงมว๊ากเมดอินไทยแลนด์อีก) ก็ถึงเรื่องซีเรียส พ่อใหญ่สามีพี่คนไทยแกก็ขรึมทันที แล้วแจกเกือกม้าอันจิ๋วขนาดไม่เกิน2นิ้วทำจากตะกั่วให้คนละอัน แกบอกให้อธิฐานแล้วเอาเกือกม้าลงกระบวยตั้งบนไฟจนละลาย

    ฟู่!!! สาดมันลงถังน้ำที่เตรียม พอเสร็จก็หยิบตะกั่วที่อยู่ในน้ำขึ้นมา แล้วเอาไปส่องกับแสงเทียน เพื่อทำนายอนาคตของเราในปีใหม่ แล้วพ่อใหญ่แกจะมองว่ามันออกแบบไหนแล้วพูดให้เราฟัง ถ้า ยิ่งยาวยิ่งสูงจะยิ่งดี

    ส่วนของน้องพ่อใหญ่ไม่บอกอะไรมาก(แล้วก็แปลไม่ค่อยออกด้วย5555) แต่ของน้องนี่พ่อใหญ่พูดจิ้ดเดียวเจงๆน่ะ บอกแต่โอ้ว ว้าว(ไรฟ่ะ?) บอกว่าน่าสนใจ(เค้าไม่รู้อ่ะ)มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นในปีใหม่ และคุณจะรู้ด้วยตัวคุณเองดีที่สุด(โดยประมาณสำหรับคำตอบที่กะโหลกน้อยๆจะแปลได้T~T)มีตบไหล่แปะๆบอกว่าดี แต่ไม่พูดไรมาก ทีคนอื่นพ่อใหญ่มากกว่าอีก

    ส่วนลูกชายพ่อใหญ่(หล่อ มีหนวด ลูกสองเมียหนึ่งคิๆ)บอกว่าคุณมีอะไรเก็บงำอยู่ข้างใน แต่ก็เปิดเผยมากกว่าพี่อีกคนนึงที่มีอะไรในใจเยอะ งึมๆๆๆ ก็ยังไม่เข้าใจง่ะ
     
  16. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    แต่ตะกั่วมันมัสิงชิ้น อันแรกนี่มั่นใจว่าของเรา อันที่สองไม่ชัว แต่พอใหญ่ว่าไม่เป็นไรให้ถือว่าอันไหนเป็นของเราก็พอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    สองชิ้นที่โชว์นี้ คือที่โยนลงไปในกองไฟ ใช่รึไม่คะ??
     
  18. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    จะเอาเกือกม้าใส่กระบวยแล้วตั้งบนไฟค่ะ พอละลายหมดก็สาดลงน้ำเลยค่ะ แล้วหยิบมาส่องแสงเทียนดูลักษณะและเงาบนกำแพง ก็ไม่เข้าใจวิธีการดูของเขาเหมือนกันค่ะ แต่คล่าวๆให้ดูว่าคล้ายอะไร เหมือนต้องอ่านตะกั่วนะค่ะ ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน

    เท่าที่รู้เกือกม้าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี เสี่ยงทายอะไรทำนองนั่นนะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2017
  19. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    เฮลโลๆ สองโหล24มีใครอยู่มั้ย?
    มาอัพกระทู้อีกแล้ว

    เมื่ิอคืนวันจันทร์เข้าวันอังคาร อันตูข้าเข้าที่นิทราราวตีสี่กว่า(มัวเล่นเน็ต อิคิๆๆ) วันหยุดเราเลยนอนดึก(ไม่ใช่ดึกเช้าแล้ว) เป็นคนหลับง่ายหลับดาย แม่บอกลูกแม่เป็นคนว่านอน(โดนว่าแล้วงอนไปนอน)สอนง่าย(แต่ทำมั้ยอีกเรื่อง) ถ้าได้หลับนี่ไม่ค่อยตื่น นอกจากโดนกวนมากๆจริง ปวดห้องน้ำ หรืออากาศร้อนหรือหนาวมากก็จะรู้สึกตัวแป็บเดียว ช้านก็หลับต่อ ใครเดินเตะเตียงนี่ไม่มีสะท้าน

    พอนอนหลับดีก็เกิดตื่นเพราะรำคาญเสียงเหมือนคนคุยกัน ได้ยินงุ้งงิ้งๆอยู่พักนึงก็เหมือนลุกขึ้นนั่งดูไปที่ต้นเสียง เรานอนตรงกลาง เสียงมาจากเตียงริมหน้าต่าง(ตรงทางสามแพร่ง) เป็นพี่อีกคนนึงนอนตะแคงหันหลังให้อยู่ รู้สึกเหมือนมีใครมานั่งตรงที่ระหว่างเตียงกับหน้าต่างห้อง ลักษณะเหมือนเขากำลังคุยโต้ตอบกับพี่คนนั้น เหมือนเขาก็หันมาทักทายเราแล้วกลับไปมองพี่เขาต่อ
    เรารู้สึกเหมือนเห็นแต่ตาของเขา (คือหน้าหนาวที่ี่เจ็ดแปดโมงนี่ยังมืดน่ะคะ แถมปิดม่านทึบอีก) เห็นสภาพทุกอย่างในห้องเหมือนที่เป็นจากแสงที่ลอดเข้าทางหน้าต่างนิดหน่อย เลยไม่ชัด

    เราก็อืม มาหาพี่เขาเป็นเพื่อนเขาเหรอ เออนอนต่อ คร้อก(คุยกันอยู่ได้ช้านจะนอน)

    พอตื่นขึ้นตอนสิบโมงก็นึกได้แล้วเล่าให้เขาฟัง พี่คุยกะใครอะเมื่อคืน พอเล่าจบพี่แกก็บอกว่าไม่มี

    ต่างคนต่างอยู่น้าค้าไม่ต้องมายุ่งกัน(แหมๆพี่แกรีบพูดเชียว)
    แต่เหมือนพี่คุยกะเขาเป็นเรื่องเป็นราวเลยน่ะ พี่ฝันรึเปล่า? หนูเหมือนตื่นขึ้นมาเลย(ก็คุยอยู่นั่นแหละคนหลับลึกยังตื่น)

    พี่แกบอกไม่มีไม่ได้ฝัน แต่เมื่อคืนพี่บอกว่าจะสวดมนต์แต่ก็ไม่ได้สวด นั่งสมาธิแป็บเดียวเองก็นอนเลย สงสัยอาจมาทวง พี่คนนี้แกนับถือปู่จินดามณี(เค้าไม่รู้จัก มีถวายไวน์แดงด้วยประเทศี้ไวน์ถูกมาก)แล้วบูชาบางอย่างเขาเรียกน้องดาว แกชอบฉีดน้ำหอมให้แล้วก็น้ำอัดลมสีดำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...