ตำนานความเชื่อเรื่องการกินเจ ทางศาสนาพุทธ ( ฝ่ายมหายาน)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 28 กันยายน 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ตำนานความเชื่อเรื่องการกินเจ ทางศาสนาพุทธ ( ฝ่ายมหายาน)

    พิธีการกินเจนั้นจะเริ่มขึ้นในเดือนเก้า หรือ เทศกาลกินเจจะกำหนดเอาวันตามจันทรคติคือถือเป็นการเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติของจีนทุก ๆปี รวมเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน บางแห่งก็จัดขึ้นโดยถือเอาตั้งแต่วันสุดท้ายของเดือน 8 ซึ่งมีความเชื่อที่แตกต่างกันไปตามหลักของศาสนาต่าง ๆดังต่อไปนี้

    ความเชื่อทางศาสนาพุทธ ( ฝ่ายมหายาน)
    ในตำนานความเชื่อของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน มีอรรถาธิบายว่าเป็นการ ประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการบูชา พระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์

    หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่าเป็น ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 อันมีพระอาทิตย์ ( ไท้เอี้ยง),พระจันทร์ (ไท้อิม),ดาวพระอังคาร(ฮวยเต็ก),ดาวพระพุธ( จุยเต็ก),ดาวพระพฤหัสบดี (บั่กเต็ก),ดาวพระศุกร์ ( ไท้แปะ,กิมเต็ก),ดาวพระเสาร์( โทวเต็ก), พระราหู (ล่อโห้ว) และ พระเกตุ (โก้ยโต่ว บางทีก็เรียก เจ้าสมุทร)

    ในพิธีกรรมสักการบูชานั้น พระพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์ทั้ง 2 พระองค์นี้จะเสด็จมาโดยที่สาธุชนในพระพุทธศาสนาต่างพากันสละเวลาและสละกิจการทางโลกทุกอย่างมาเข้าเฝ้าทุกพระองค์ด้วยการบำเพ็ญศีล ตั้งปณิธานถือบริโภคผักและผลไม้ งดเว้นอาหารเนื้อสดและคาวโดยการสมาทานศีล 3 ข้อ คือ

    1. เว้นจากการเอาชีวิตสัตว์มาบำรุงชีวิตของตนเอง

    2. เว้นจากการเอาเลือดสัตว์มาเพิ่มเลือดของตน

    3. เว้นจากการเอาเนื้อของสัตว์มาเป็นเนื้อของตน

    การสมาทานศีลทั้ง 3 ประการนี้ก็เป็นไปเพื่อการซักฟอกมลทินต่าง ๆให้ออกจากร่างกาย วาจา และใจ โดยจะพากันสวมแต่งกายชุดขาวทั้งหมดพากันเดินเข้าสู่วัดวาอารามด้วยธูปเทียนดอกไม้ไปบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้าอีก 7 พระองค์

    พร้อมทั้งมีการจัดหาเครื่องกระดาษทำเป็นรูปเครื่องทรง,เสื้อผ้า,หมวก,รองเท้า,กระดาษเงิน,กระดาษทองต่าง ๆน้อมไปถวายเป็นเครื่องสักการะ

    หลังจากนั้นเหล่าชาวพุทธก็จะทำการสวดมนต์ทำสมาธิภาวนาแผ่เมตตาจิตให้ตนเองและผู้อื่น แล้วก็ขอพรเพื่อความเจริญสมบูรณ์ให้กับชีวิต

    ในอรรถาธิบายเบื้องต้นแห่งพิธีกรรมกินเจเดือนเก้านั้นมีกล่าวเอาไว้ว่า

    ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ สีวาลัยรัตนสยามอันมีบรรดาพระโพธิสัตว์, ท้าวมหาพรหม,ท้าวสักกะ (พระอินทร์),เทวดา, ยักษ์,นาค,คนธรรพ์,กินนร ฯลฯ ได้พากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ซึ่งในขณะนั้นมีพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์เข้าเฝ้าอยู่ด้วย ท่านได้ตรัสถามพระพุทธองค์ว่า

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อันพระเทพสัตตเคราะห์ทั้ง 7 พระองค์ ได้มีกุศลสะสมมาอย่างไร กับมีปัจจัยเหตุอย่างไรจึงทำให้ได้เสวยทิพย์ผลอันรุ่งเรืองเพียบพร้อมไปด้วยยศและอำนาจในเทวภพนี้”

    พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า

    “ดูกร มัญชุศรีฯ อันดาวเทพสัตตเคราะห์ทั้ง 7 นั้นแท้จริงแล้วเป็นพระอวตารภาพแห่งอดีตพระพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์ ทรงแบ่งภาคมาแสดงให้ปรากฏกับพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ ก็แบ่งภาคมาเป็น พระราหู และดาวพระเกตุ รวมเป็นดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ฉะนั้นท่านทั้งหลายจึงได้สมบูรณ์ด้วยอลังการแห่งยศและอำนาจอันไม่มีประมาณเห็นปานฉะนี้”

    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระพุทธเจ้าทั้ง 7 และพระมหาโพธิสัตว์ทั้ง 2 ทรงตั้งพระปณิธาน จักโปรดสัตว์โลกจึงได้แบ่งพระภาคมาเป็นเทพเจ้า 9 พระองค์ เทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีตบะอำนาจอันเรืองฤทธิ์และมีอำนาจบริหารธาตุทั้ง 5 ในจักรวาลคือ ธาตุดิน,ธาตุน้ำ,ธาตุไฟ,ธาตุลมและธาตุทอง

    เมื่อถึงเวลากำหนดในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน9 ไปจนถึงเวลา 9 ค่ำในเดือนเดียวกันเทพเจ้าประจำดาวนพเคราะห์ต่างองค์จะทรงผลัดเปลี่ยนกันลงมาตรวจโลกทั้งเวลากลางวันและกลางคืน

    หากบุคคลใดที่มีความประพฤติตั้งอยู่ในบุญหรือกุศลกรรมก็จะทรงประทานพรและความอุดมสมบูรณ์มาให้ และหากบุคคลใดตั้งประพฤติตนอยู่ในบาปหรืออกุศลกรรม ก็จะลงโทษไปตามโทษอันสมควรที่ผู้นั้นจะได้รับ

    ในคัมภีร์ของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานก็มีอรรถาธิบายเสริมกล่าวไว้ว่า

    “ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 นี้ต่างก็กระทำการในหน้าที่ที่หมุนเวียนธาตุทั้ง 5 ให้แก่โลกมนุษย์มานานหลายล้านปีโดยมิได้หยุดพักเลย ก็เนื่องด้วยพระองค์ทรงบัญชาบริรักษ์ควบคุมอยู่และทรงเล็งเห็นทิพยญาณว่า ถ้าหากดวงดาวนพเคราะห์จะหยุดพักแม้เพียงช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเพียงเล็กน้อย ก็จะเกิดมหันตภัยอย่างใหญ่หลวงอย่างสุดประมาณมิได้ โลกมนุษย์ก็จะถึงซึ่งความพินาศ สลายลง มนุษย์กับสัตว์โลกก็จะตายหมดจะไม่มีแต่ละอองธุลีของสังขารเหลือเลย”

    ด้วยความเชื่อตามพระคัมภีร์นี้ ชาวพุทธฝ่ายมหายานจึงต้องมีการทำพิธีกรรมบูชาดาวนพเคราะห์ขึ้น ในยามที่ต่างคนต่างก็มีจิตเบิกบานในช่วงเวลานี้ก็ให้ นุ่งขาวห่มขาว ถือศีลกินเจอันเป็นปัจจัยเพื่อเตือนตนเองให้สำนึกอยู่เสมอว่า

    ตนเองในขณะที่ถือศีลนั้นเป็นผู้ที่มีความบริสุทธิ์สะอาดทั้ง กาย วาจา และใจอยู่ในศีลธรรมและสามัคคีธรรมและพร้อมที่จะให้อภัยซึ่งกันและกัน

    การถือศีลกินเจในช่วงเวลานี้เรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติบูชาต่อเทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์เป็นการแสดงความเคารพในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงไว้ซึ่งธาตุทั้ง 5ให้แก่โลกทุกโลกได้ดำรงอยู่ตามจักรราศีอย่างยั่งยืน

    นอกจากนี้ยังถือว่าเป็น ปฐมเหตุให้ดวงจิตของผู้ที่ถือศีลนั้นได้ฝึกความเมตตาอันจะเป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้าสำหรับตัวผู้ถือปฏิบัติเองและเป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนาอีกด้วย

    ****ติดตามบทความปาฏิหาริย์แห่งบุญ ที่จะช่วยให้ทุกชีวิตได้ดี สุข รวย ได้ที่
    https://www.facebook.com/ธ-ธรรมรักษ์

    #พระพุทธเจ้า #ธรรม #หนังสือธรรมทาน #ธ.ธรรมรักษ์ #กินเจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...