ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช



กองทัพอิรัคขุดพบหลุมเก็บลูกกระสุนจำนวนมากซึ่งเป็นของพวกไอซิสในทะเลทรายระหว่างเมือง Tal Afar และเมือง Mosul รายงานข่าวบอกว่าพวกไอซิสใช้วิธีฝังกลบคลังกระสุนของตนเองไว้ใต้ดินเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและทำลายจากการโจมตีทางอากาศ (16 มี.ค.60)
-----------
https://www.almasdarnews.com/articl...-underground-isis-ammo-base-nineveh-province/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ตรรกะแบบตุรกี: ตุรกีพยายามปลุกระดมชาวมุสลิมทั่วโลกประกาศจะทำสงครามศาสนากับยุโรป เนื่องจากโกรธแค้นเยอรมันกับเนเธอร์แลดน์ไม่อนุญาตให้รัฐมนตรีของตุรกีเข้าไฮปาร์คในม็อบของชาวเติร์กในเยอรมันและเนเธอร์แลนด์ ปธน.แอร์โดเกรียนของเล่นลิ้นว่า พวกอียูเป็นฝ่ายเริ่ม "สงครามมครูเสด" ต่อต้านอิสลาม ที่ศาลยุติธรรมยุโรป (European Court of Justice - ECJ) ตัดสินให้นายจ้างในประเทศฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมไล่ออกพนักงานหญิงชาวมุสลิมที่ไม่ยอมถอดถ้าคลุมศรีษะออกในขณะปฏิบัติงาน ล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของตุรกีประกาศว่าจะส่งผู้อพยพเข้าไปในอียูเดือนละประมาณ 15,000 คน เพื่อตอบโต้อียู กลายเป็นว่า "ผู้อพยพคือเครื่องมือต่อรองอำนาจและผลประโยชน์ระหว่างตุรกีกับอียู" ไปซะแล้ว
----------
https://www.rt.com/news/381125-turkey-europe-refugee-deal/
https://www.rt.com/news/381028-erdogan-eu-islam-headscarves/
https://www.rt.com/news/380627-eu-ruling-religious-symbols/
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
คุณอเมริกาพูดอะไรหน่อยสิครับ อย่าเงียบสิ ใจคอไม่ค่อยดีเลยนะนี่: รัสเซียรอฟังคำแก้ตัวของสหรัฐเกี่ยวกับการโจมตีมัสยิดในจังหวัด Iblib ของซีเรีย ตุรกีบอกว่ามันคือ "การก่ออาชญากรรมสงคราม"
-------------

วันที่ 17 มี.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "กองทัพรัสเซียกำลังรอการแสดงความคิดเห็นของเพนตากอนเกี่ยวกับการโมตี (มัสยิด) ในซีเรียส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก" (Russian Military Awaits Pentagon's Comment on Deadly US Strike in Syria)

โฆษกกลาโหมของรัสเซียกล่าวเมื่อวันศุกร์นี้ว่า กรุงมอสโคกำลังรอการแสดงความคิดเห็นจกากระทรวงกลาโหมของสหรัฐเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัด Idlib ทางภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวมาก รวมทั้งพลเรือนด้วย

CENTCOM ของสหรัฐกล่่าวในตอนเย็นวันพฤหัสบดีบ่า การโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 16 มีนาคมนั้น มุ่งโจมตีไปที่สถานที่จัดการประชุมของพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าในจังหวัดอิดลิบ กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในกรุงลอนดอนกล่าวว่ามียอดการเสียชีวิตจำนวนมากจากการโจมตีที่หมู่บ้าน al-Jinah ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

พล.ท. Igor Konashenkov โฆษกกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า "ผมคิดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราควรจะคาดหวังถึงการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้จากเพื่อนๆชาวสหรัฐของพวกเรานะครับ ความผิดพลาดที่เป็นโศกนาฏกรรมซึ่งสามารถสังหารพลเรือนเกิดขึ้นในทุกสงคราม"

โฆษกกระทรวงฯ ได้พูดถึงภาพถ่ายขีปนาวุธอากาศสู่ภาคพื้น AGM-114 Hellfire (ของสหรัฐ) ซึ่งพบในสถานที่เกิดระเบิดว่า "ปิดโอกาสที่พวกพันธมิตรนานาชาติจะหลบหนีไปได้อย่างเงียบๆ"

"เหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่หมู่บ้าน al-Jinah ของซีเรียได้เปลี่ยนเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความเป็นจริงสำหรับกลไกลที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีของระบบโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัสเซียของพวกตะวันตกซึ่งมีส่วนร่วมในสื่อกระแสหลัก"

นาง Maria Zakharova โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้ว่า "กรุงมอสโคไม่มีความสงสัยเลยว่าโดยหลักการแล้ว ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนอกหมู่บ้าน al-Jinah ในจังหวัดอิดลิบของซีเรียนั้น กองทัพสหรัฐมีเป้าหมายที่พวกผู้ก่อการร้าย"

[แต่ผลก็คือผู้เสียชีวิตมีทั้งพวกที่สหรัฐเรียกว่าผู้ก่อการร้ายและพลเรือนทั่วไป และที่สำคัญมัสยิดแห่งหนึ่งซึ่งฝ่ายสหรัฐเรียกว่า "สถานที่ประชุมของพวกอัลเคด้า" ถูกถล่มยับ

พวกนี้ หมายถึงพวกที่ถูกสหรัฐโจมตีที่จังหวัด Idlib นี้มาจากไหน? มีอยู่หลายกลุ่ม บางกลุ่มเป็นพวกแก๊งอิทธิพลเจ้าถิ่น บางกลุ่มอพยพไปจากเมืองต่างๆหรือสนามรบต่างๆในซีเรียหลังแพ้ศึกให้กับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ก็ขออพยพครอบครัวและสมาชิกไปรวมตัวกันอยู่ที่จังหวัดอิดลิบ มีการขัดแข้งและต่อสู้กันอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนใหญ่พวกนี้จะอพยพไปจากอะเลปโปตะวันออก หลังพ่ายแพ้ให้กับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ตอนที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียพยายามปลดปล่อยอะเลเปโปตะวันออกเมื่อปลายปีที่แล้ว พวกนักการเมืองและสื่อฯกระแสหลักตะวันตกรวมทั้ง NGO ต่างๆ และยูเอ็นต่างก็เสนอหน้าออกมากล่าวหารัสเซียว่าโหดร้าย มุ่งโจมตีพลเรือน รัสเซียปฏิเสธ และบอกว่าพวกนั้นคือผู้ก่อการร้าย และมีแก๊งหมวกกันน็อกขาวของพวกกบฏและผู้ก่อการร้ายคอยป้อนข่าวใส่ร้ายรัสเซียและรัฐบาลอัสซาดอยู่ตลอดเวลา หลังพ่ายแพ้ศึกที่อะเลปโปตะวันออก แก๊งหมวกกันน็อกขาวก็อพยพตามพวกกบฏและผู้ก่อการร้ายไปอยู่ที่จังหวัดอิดลิบด้วย

พอไปถึงอิดลิบได้ไม่นาน สหรัฐและพรรคพวกก็ส่งอากาศยานไปบอมบ์พวกนั้นที่อิดลิบ แต่สหรัฐบอกว่าพวกนั้นเป็นพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า (/อัลนุสราฟรอนท์) ตอนอยู่ที่อะเลปโปตะวันออกสหรัฐเรียกพวกนี้ว่า "กบฏสายกลางซีเรีย" หรือ "นักรบประชาธิปไตยซีเรีย" หรือ "กบฏฝ่ายค้านซีเรีย" และเป็นพันธมิตรกับสหรัฐด้วย

พอไปถึงอิดลิบ สหรัฐกลับเรียกพวกนี้ว่า "ผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า" ลูกพี่ใหญ่อย่างสหรัฐก็นำ AGM-114 Hellfire ไปแจกจ่ายให้ลูกน้องในมัสยิดเป็นของฝากด้วย พวกที่เข้าไปเก็บศพและถ่ายคลิปในสถานที่เกิดเหตุหลังการโจมตีในครั้งนี้ก็คือแก๊งหมวกกันน็อกขาวนั่นแหละ ไม่รักกันไม่ทำแบบนี้นะนี่ - ผู้แปล]

ล่าสุดนาย Numan Kurtulmus รองนายกรัฐมนตรีของตุรกีออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การโจมตีมัสยิดที่จังหวัดอิดลิบเป็น "การก่ออาชญากรรมสงคราม" (war crime) และไม่อาจจะยอมรับได้

"นี่เป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ นี่เป็นอาชญากรรมสงคราม... การทิ้งระเบิดใส่พลเรือน ประชาชนในมัสยิด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้" นาย Kurtulmus กล่าว อ้างโดยสำนักข่าว Anadolu ของรัฐบาลตุรกี

[มีข้อน่าสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ ในขณะที่ตุรกีใช้พวกกบฏ FSA ของตนเองพยายามโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ดที่เมือง Manbij ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย สหรัฐก็ส่งอากาศยานไปบอมบ์พวกผู้ก่อการร้าย/กบฏสมุนของตุรกีที่อิดลิบซะเลย รัสเซียบอกว่า งานนี้ผมไม่เกี่ยวนะครับ พวกกบฏ ผู้ก่อการร้าย ตุรกี และสหรัฐไปเคลียร์กันเองนะ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
17/03/2560
----------
https://sputniknews.com/middleeast/201703171051685544-us-airstrike-idlib-russia/
https://sputniknews.com/middleeast/201703171051690589-airstrike-mosque-syria-idlib-aleppo/
https://sputniknews.com/middleeast/201703171051695686-us-aristrike-syria-village-russia/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ฮ.อาปาเช่พยายามจมเรือผู้อพยพชาวโซมาเลียที่ ช่องแคบ Bab el-Mandeb ซึ่งพยายามหนีภัยสงครามจากเยเมนไปยังซูดานฝั่งตรงข้าม ดับ 42 คน ซาอุดิอาระเบียปฏิเสธเสียงแข็ง
-------------

วันที่ 17 มี.ค.60 The Guardian ของอังกฤษพาดหัวข่าวว่า "ผู้ลี้ภัยชาวโซมาเลีย 40 กว่าคนถูกสังหารในการโจมตีจากเฮลิค็อปเตอร์นอกชายฝั่งเยเมน" (More than 40 Somali refugees killed in helicopter attack off Yemen coast)

รายงานข่าวบอกว่า มีผู้ลี้ภัยชาวโซมาเลียอย่างน้อยจำนวน 42 คนถูกสังหารนอกชายฝั่งเยเมนในตอนกลางคืนของวันพฤหัสบดี ตามรายงานข่าวบอกว่าเฮลิค็อปเตอร์ได้ทำการโจมตีเรือที่ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นใช้สำหรับเดินทาง

Mohamed al-Alay ยามฝั่งกล่าวว่า พวกผู้ลี้ภัยซึ่งมีเอกสารขององค์กรผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) อย่างเป็นทางการกำลังเดินทางจากเยเมนไปยังประเทศซูดาน และถูกโจมตีจากเฮลิค็อปเตอร์ Apache ใกล้ช่องแคบ Bab el-Mandeb

เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรผู้ลี้ภัยแห่งยูเอ็นยืนยันในเวลาต่อมาว่า ได้กู้ศพจำนวน 42 ศพหลังการโจมตีทางทหารใส่เรือบรรทุกผู้ลี้ภัยนอกชายฝั่งเยเมน

Mohammed Abdiker ผู้อำนวยการฉุกเฉินประจำองค์กรเพื่อผู้อพยพนานาชาติ (IOM) ในเจนีวากล่่าวว่า มีผู้ลอดชีวิตหลายคนให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันว่าการโจมตีดังกล่าวอาจจะมาจากเรือรบของทหารหรือจากการโจมตีทางเฮลิค็อปเตอร์ซึ่งขึ้นบินจากเรือรบ

นาย Mohammed Abdiker กล่าวว่าการโจมตีครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นประมาณตีสามเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ด้วยประการทั้งปวง และว่าและบรรดาผู้ที่รับผิดชอบ (/ผู้ก่อเหตุ) ก็ควรจะเช็กด้วยว่าใครอยู่บนเรือลำนั้น "ก่อนที่จะยิงใส่"

[เขาเช็กแล้ว และมั่นใจแล้ว งานนี้ไม่น่าจะใช่ฮูติหรอก ที่สำคัญ UNHCR ประสานงานกับเรือรบหรือกองทัพของฝ่ายที่มีฮ. Apache กันอย่างไรถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้ เป็นเหตุสุดวิสัยหรือว่าจงใจให้เกิดขึ้นกันแน่? - ผู้แปล]

หนึ่งในผู้รอดชีวิต ซึ่งเป็นนักลักลอบค้ามนุษย์ชาวเยเมน (a Yemeni people trafficker) กล่าวกับสำนักข่าว AP ของสหรัฐว่า เรือของเขาถูกโจมตีจากเฮลิค็อปเตอร์สำหรับจู่โจมลำหนึ่ง Al-Hassan Ghaleb Mohammed กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวแล่นออกจากชายฝั่งเยเมนไปได้ประมาณ 30 ไมล์ในขณะที่ถูกโจมตี

[สื่อของอังกฤษใช้คำว่า "people trafficker" ก่อนหน้านี้บอกว่าผู้ลี้ภัยเหล่านั้นมีเอกสารของ UNHCR ตกลงว่า UNHCR ก็ใช้บริการจากนักค้ามนุษย์ด้วยหรือนี่? เอ… หรือว่าจริงๆแล้ว UNHCR นั่นแหละคือองค์กรค้ามนุษย์ระดับโลก? - ผู้แปล]

นาย Al-Hassan Ghaleb Mohammed กล่าวอีกว่าเฮลิค็อปเตอร์ได้เปิดฉากยิงใส่เรือ พวกผู้ลี้ภัยต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจส่องไฟฉายไปเพื่อแสดงให้เฮลิค็อปเตอร์รู้ว่าพวกเขาเป็นผู้ลี้ภัย เฮลิค็อปเตอร์หยุดการโจมตี แต่ก็มีชาวโซมาเลียถูกสังหารไปแล้วถึง 40 กว่าคน

โฆษก IOM กล่าวว่าตนเองไม่สามารถยืนยันเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้ที่ว่าเฮลิค็อปเตอร์อาปาเช่ทำการโจมตีในครั้งนี้ แต่กล่าวว่า "การยืนยันของพวกเราก็คือว่ามีการเสียชีวิตหลายสิบคน และมีผู้รอดชีวิตหลายสิบคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล"

สำนักข่าว Saba ของฝ่ายกบฏฮูติแห่งเยเมนกล่่าวว่าพวกผู้ลี้ภัยเหล่านั้นถูกโจมตีทางอากาศจากฝ่ายพันธมิตรนำโดยซาอุดิอาระเบียที่กำลังสู้รบอยู่กับฝ่ายกบฏ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้

ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้นำพันธมิตรอาหรับในสงคราม (รุกราน) เยเมนมีเฮลิค็อปเตอร์โจมตี Apache A-64 Longbow ที่ผลิตโดยสหรัฐไว้ในครอบครอง

พล.ท. Ahmed Assiri โฆษกกองทัพฝ่ายพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ด้วยการกล่าวว่า กองทัพของตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการต่อสู้ที่ Hodeida [งั้นก็แสดงว่ามีแต่ฮ. Apache ของหมาหละมั๊งที่ก่อเหตุในครั้งนี้? - ผู้แปล]

"ไม่มีการยิงโดยฝ่ายพันธมิตรในเขตดังกล่าว เรือฟริเกตชั้น Al-Madinah ของราชอาณาจักร หนึ่งในเรือรบที่ได้รับความเสียหายจากพวกกบฏฮูติเมื่อเดือนมกราคม สามารถบรรทุกเฮลิค็อปเตอร์ได้เพียงแค่ลำเดียว กองทัพเรือของประเทศอื่นๆที่ปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าวก็บรรทุกเฮลิค็อปเตอร์ได้เช่นกัน ซึ่งรวมทั้งของกองทัพสหรัฐด้วย" พล.ท. Ahmed Assiri กล่าว

Adam Stump โฆษกเพนตากอนก็ปฏิเสธว่าสหรัฐไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้เช่นกัน โดยกล่าวว่าสหรัฐไม่ได้มีการโจมตีในประเทศเยเมนเลยตลอดช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

[พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ เพราะว่าเหตุมันเกิดขึ้นนอกชายฝั่งเยเมน อาจจะเป็นฝีมือของสหรัฐก็ได้ แต่สหรัฐก็ปฏิเสธไปแล้ว ซาอุดิอาระเบียก็ปฏิเสธไปแล้ว จะเป็นฝีมือใครหละนี่? นักรบฮูติ? พวกนี้มีฮ. Apache ด้วยรึ? เอ… หรือว่าจะใช้มุกเดิม "ปูติน/รัสเซีย" รัสเซียมีฮ. Apache ของสหรัฐตั้งแต่เมื่อไร?

หลังจากเกิดเหตุแล้วเรือลำดังกล่าวก็หันกลับเข้าฝั่งเยเมน และฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือนำผู้ลี้ภัยเหล่านั้นส่งโรงพยายาลก็คือพวกกบฏฮูติแห่งเยเมน ไม่ใช่หน่วยงานของยูเอ็น หรือสหรัฐ หรือซาอุดิอาระเบีย

ในวันเดียวกันนี้ฝ่ายฮูติกล่าวว่า ได้ยิงฮ. Apache ของฝ่ายซาอุดิอาระเบียตกหนึ่งลำแถวชายฝั่งริมทะเลแดงนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเป็นลำเดียวกับที่โจมตีเรือผู้ลี้ภัยในครั้งนี้หรือไม่ FNA รายงาน - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
18/03/2560
----------
https://www.theguardian.com/world/2...gees-killed-helicopter-attack-off-yemen-coast
http://www.independent.co.uk/news/w...rnment-houthi-rebel-unhcr-women-a7634751.html
https://sputniknews.com/middleeast/201703171051685279-helicopter-attack-boat-yemen-refugees/

 

ปอกเปลือก ทรราช



สำนักข่าว Al Jazeera สื่อ...ภาคภาษาอังกฤษของอาหรับพาดหัวข่าวว่า "สหรัฐโจมตีทางอากาศ กองทัพซีเรียและรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายครั้งในอิดลิบและอะเลปโประหว่างเกิดสงคราม" ต่อมาแก้พาดหัวข่าวว่า "โจมตีทางอากาศใส่มัสยิดใกล้อะเลปโป สังหารหลายสิบคน มัสยิดในจังหวัดอะเลปโปซึ่งเต็มไปด้วยศาสนิกชนที่รวมตัวกันในตอนเย็นถูกโจมตีด้วยเครื่องบินรบ" ฝ่ายเฝ้าระวังกล่าว ขนาดสหรัฐเป็นฝ่ายโจมตีแท้ๆ มันก็ยังพยายามโบ้ยให้รัสเซียกับซีเรียอีกนะ
-------------

http://www.aljazeera.com/news/2017/03/air-raids-mosque-aleppo-kill-dozens-170316195046804.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
สภาพมัสยิดที่หมู่บ้าน Al-Jinah ในจังหวัด Idlib ทางภาคเหนือของซีเรียหลังถูกโจมตีทางอากาศโดยพันธมิตรฝ่ายสหรัฐ ทางสหรัฐบอกว่าไม่ได้โจมตีมัสยิด แต่โจมตีสถานที่ประชุมของพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าที่อยู่อีกฟากหนึ่งของถนนฝั่งตรงข้ามกับมัสยิด แต่จากคลิปในที่เกิดเหตุและพยายานบอกว่า มัสยิดถูกถล่มเละเหลือแต่ซาก แน่นอนมีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก "ทรัมป์คือมิตรแท้ของมุสลิม" รองมกุฏราชกุมารซาอุดิอาระเบียกล่าว (17 มี.ค.60)
-------------

พวกที่ตายก็คือพวกกบฏและผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นศัตรูกับฝ่ายรัฐบาลซีเรีย รัสเซียและฝ่ายรัฐบาลซีเรียไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปคุ้มครองพวกกบฏเหล่าและผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นที่อพยพไปจากอะเลปโปและจากที่อื่นๆในซีเรีย ตอนอยู่ที่อะเลปโปสหรัฐเรียกพวกนี้ว่า "กบฏสายกลางซีเรีย" พอไปอยู่ที่อิดลิบ สหรัฐเรียกพวกนี้ว่า "อัลเคด้า" แล้วก็บอมบ์พวกที่สหรัฐและพรรคพวกเคยให้การสนับสนุนมาก่อน สรุปพวกนั้นล่อกันเอง เบาแรงฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซีย ส่วนเรื่องการบอมบ์มัสยิดนั้นก็เป็นการตัดสินใจของสหรัฐเอง ไม่เกี่ยวกับรัสเซีย เพราะว่าพบชิ้นส่วนของขีปนาวุธของสหรัฐในซากมัสยิดแห่งนั้นด้วย S-400 ของรัสเซียมีไว้เพื่อปกป้องกองทัพของรัสเซียในซีเรีย ไม่ใช่มีไว้เพื่อปกป้องพวกกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐหรือผู้ก่อการร้ายซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัสเซีย

...ตอนนี้จังหวัดอิดลิบ คือรังใหญ่แห่งหนึ่งของพวกผู้ก่อการร้ายสารพัดแก๊งนะครับ เขาพากันไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ไม่มีเหตุผลที่รัสเซียจะต้องไปต่อต้านสหรัฐเมื่อสหรัฐอ้างว่าต้องการโจมตีผู้ก่อการร้าย รัสเซียแค่จับตาดูพฤติกรรมของสหรัฐเท่านั้น ตราบใดที่เครื่องบินรบของสหรัฐไม่แสดงตนเป็นภัยคุกคามต่อกองทัพรัสเซียในพื้นที่ รัสเซียก็ปล่อยไป พวกที่ตายก็เป็นสมุนของสหรัฐนั่นแหละ แน่นอนมีพลเรือนรวมอยู่ด้วย จริงๆแล้วการโจมตีเกิดขึ้นระหว่างตีสองกว่าเกือบตีสาม ไม่น่าจะใช่เวลาละหมาดแล้วนะครับ

 

ปอกเปลือก ทรราช
หลังจากอิสราเอลส่งเครื่องบินรบ 4 ลำเข้าไปโจมตีในซีเรีย กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียก็เสริมกำลังพลเข้าไปยังเมือง Quneitra เขตที่ราบสูงโกลันเพื่อยันกับฝ่ายอิสราเอล (17 มี.ค.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
หลังจากอิสราเอลส่งเครื่องบินรบ 4 ลำเข้าไปโจมตีในซีเรีย กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียก็เสริมกำลังพลเข้าไปยังเมือง Quneitra เขตที่ราบสูงโกลันเพื่อยันกับฝ่ายอิสราเอล (17 มี.ค.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
*GRAPHIC* สภาพเรือผู้ลี้ภัยชาวโซมาเลียของยูเอ็นที่ถูกโจมตีในทะเลแดงนอกชายฝั่งเยเมนโดย ฮ. Apache ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กและผู้หญิง ผลงานของซาอุดิอาระเบียเขาหละ (17 มี.ค.60)
--------------

ยูเอ็นก็รู้ว่าพื้นที่ชายฝั่งเยเมนริมทะเลแดงมันเป็นสมรภูมิทางทะเล แต่ก็ยังพยายามแอบส่งเรือผู้ลี้ภัยจากฝั่งเยเมนข้ามไปยังซูดานท่ามกลางสนามรบอีก ทำอย่างนั้นเพื่ออะไร? (17 มี.ค.60)
------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ซาอุดิอาระเบียนี่สันดานไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ เน้นโจมตีรถบรรทุกขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ของชาวเยเมนเป็นหลัก (17 มี.ค.60)
--------------

.

 

บทวิเคราะห์สถานการณ์ โลก
จุดเปลี่ยนผ่านสำคัญของซีเรีย เมื่อกล้าสอยเครื่องบินรบอิสราเอลร่วง!
Published: Friday, 17 March 2017 18:11 | Written by Admin_taem | "



นี่เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลซีเรียกล้าตอบโต้เครื่องบินรบอิสราเอลด้วยมิสไซล์ โดยก่อนหน้านี้ ซีเรียไม่เคยตอบโต้ทางการทหาร แต่ตอบโต้ทางวาจาผ่านยูเอ็นมาโดยตลอด ซึ่งก็แน่นอนว่า...ไม่มีใครสนใจ

การที่ซีเรียกล้าตอบโต้ และมีรายงานว่าสอยร่วงไปหนึ่งลำนั้น ผมถือว่าเป็นยุคเปลี่ยนผ่านด้านบารมีทางการทหารครั้งสำคัญของซีเรีย โดยมีรัสเซียและพันธมิตรอิหร่าน อิรัก ให้การสนับสนุน เพื่อเผชิญหน้ากับพันธมิตรสหรัฐ อิสราเอล ตุรกี อียู และชาติอาหรับเศรษฐีน้ำมันอย่างซาอุฯ

ดุลอำนาจของอิสราเอลในตะวันออกกลางเปลี่ยนไปแล้วครับ!!

จากที่อิสราเอลเคยถือไพ่เหนือกว่าชาติอื่นๆ มาโดยตลอด โดยเฉพาะชาติอาหรับ อยากจะบินไปทิ้งระเบิดที่ใหนก็ไม่มีใครกล้าตอบโต้เพราะเส้นใหญ่ (กล่องดวงใจสหรัฐ)

วันดีคืนร้ายละเมิดน่านฟ้าเลบานอน ถล่มฉนวนกาซ่าเป็นซากปรักหักพัง ถล่มโครงการปรมาณูอิรัก บุกโจมตีฐานโครงการปรมาณูซีเรีย (แต่ตัวเองมีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 200 ลูก) โจมตีป้อมทหาร โจมตีพื้นที่ต่างๆ โดยอ้างว่าต้องการทำลายขบวนลำเลียงอาวุธที่อิหร่านส่งให้ฮิซบุลลอฮ์

ทั้งหมดนี้... ไม่เคยถูกสวนกลับ... จึงได้ใจ!!

ตอนนี้กลายเป็นว่าซีเรีย แดนมิคสัญญีที่รัฐบาลดูเหมือนจะอ่อนเปลี้ยปวกเปียก กลับฮึดสู้ด้วยการสวนยิงมิสไซล์ กระทั่งสื่อรัสเซียแจ้งว่าสามารถสอยได้หนึ่งลำ...!!

จับตาดูต่อไปว่าเด็กเกเรที่เอาแต่ใจอย่างอิสราเอลจะมีท่าทีอย่างไร? เพราะก่อนหน้านี้รัสเซียขู่ว่าจะนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้ไม่ได้นานนัก แต่อิสราเอลก็มิได้นำพา ยังโจมตีด้วยความเคยตัว นี่ถ้าเป็นสมัยก่อน หากอิสราเอลถูกตอบโต้เช่นนี้ จะก่อสงครามและทำลายจนป่นปี้ เสมือนที่ฮิซบุลลอฮ์แก้เผ็ดอิสราเอลด้วยการชิงตัวประกันทหารสองนาย อิสราเอลตอบโต้ด้วยการถล่มทางใต้เลบานอนจนกลายเป็นซากปรักหักพังในสงคราม 33 วันเลบานอน (แต่สุดท้ายก็ไม่อาจกำราบฮิซบุลลอฮ์หรือรุกคืบยึดดินแดนได้)

ยุคนี้เป็นยุคที่อิสราเอลเข้าตาจนจริงๆ ถึงกับไปคุกเข่าวอนขอเฮียปูตินให้ช่วยปรามอิหร่านไม่ให้ลำเลียงอาวุธเพื่อคุกคามอิสราเอล



การที่ซีเรียยิงมิสไซล์ตอบโต้ครั้งนี้ มีนัยยะสำคัญต่อไปนี้

1. รัสเซียไฟเขียวให้ซีเรียตอบโต้ ถ้าอิสราเอลจะก่อสงคราม คงต้องผ่านด่าน ตม.ระบบต่อต้านขีปนาวุธ S400 / S300 ให้ได้เสียก่อน ซึ่งคราวนี้รัสเซียคงไม่นิ่งเฉย และบ่งชี้ว่ารัสเซียไม่เป็นอุปสรรคต่อการที่อิหร่านจะลำเลียงอาวุธไปตุนไว้เพื่อเผชิญหน้ากับอิสราเอล
2. สื่อว่าอิหร่านพร้อมที่จะรับมือและซัดหมัดกับอิสราเอลในสงครามครั้งใหญ่ ซึ่งหากอิสราเอลประสงค์จะเริ่ม อิหร่านก็จัดให้ เพราะล่าสุดมีการประกาศจัดตั้งกองพันพิทักษ์โกลาน (ที่ราบสูงซีเรียที่อิสราเอลยึดครองอยู่) แล้ว โดยกลุ่มอันนุจะบาชาวอิรัก หนึ่งในภาคีเครือข่ายของอิหร่าน

ซึ่งเท่ากับว่าอิหร่านได้ประชิดพรมแดนอิสราเอลและพร้อมจะเปิดสองแนวรบ จากเดิมซึ่งมีแนวรบเดียวก็คือพรมแดนเลบานอน/อิสราเอล แต่ตอนนี้พร้อมเปิดแนวรบเพิ่ม ณ พรมแดนซีเรีย/อิสราเอลด้วย ซึ่งหากฮามาสจะลงสนามด้วยก็จะกลายเป็นสามแนวรบ เหนือ อีสาน ใต้ ทันที

1. ซีเรีย รัสเซีย อิหร่าน จีน มองว่าพันธมิตรมะกันเริ่มเสื่อมอิทธิพลลงเรื่อยๆ และคงไม่ตั้งหน้าตั้งตาสนับสนุนให้อิสราเอลก่อสงคราม สังเกตุจากการที่ว่าที่กษัตริย์ซาอุฯ ไปเจรจากับทรัมป์เพื่อหยุดอิทธิพลอิหร่าน แต่หลังเจรจา กลับไม่มีการแถลงข่าวใดๆ ซึ่งผิดแนวดั้งเดิมของทรัมป์ที่โผงผาง

ความเห็นส่วนตัวผมคือ ในเมื่อมะกันเริ่มเน้นการเผชิญหน้ากับจีนด้วยนโนยบาย Look East ย่อมต้องเผชิญหน้ากับจีนและเกาหลีเหนือ ช่วงนี้มีข่าวอิหร่านส่งมอบมิสไซล์ทำลายเรือรบแก่เกาหลีเหนือ หากเป็นจริงก็อาจทำให้มะกันสะอึกได้ เพราะมะกันต้องพึ่งพาเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นหลัก หากจะก่อสงครามแถบนั้น อีกอย่าง เกาหลีเหนือมีนิสัย... ชอบเซอร์ไพรส์ลุงแซมอยูเสมอ

ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทรัมป์สงบเสงี่ยมลงเป็นพิเศษช่วงนี้ ไม่จัดแถลงข่าวใดๆ กับฝ่ายซาอุฯ ที่ต้องการยืมมือมะกันคว่ำอิหร่าน

ต้องจับตาดูความเปลี่ยนแปลงกันต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ... ที่แปลกก็คือ ชาติอาหรับเศรษฐีน้ำมันบางประเทศเริ่มจับมือกับอิสราเอลลับๆ เพื่อหวังจะเป็นพันธมิตรต่อต้านอิหร่าน

ลืมไปแล้วเหรอครับว่าอิสราเอลคือผู้ยัดเยียดความอัปยศอดสูแก่ชาติอาหรับเมื่อครั้งสงคราม 6 วัน... มิไช่อิหร่าน!!

อิมามโคมัยนี อดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่านเคยกล่าวว่า "อิสราเอลคือมะเร็งร้ายในภูมิภาค" ดูเหมือนว่าภูมิภาคตะวันออกกลางพร้อมที่จะรับผลข้างเคียงจากการคีโมบำบัดครั้งนี้..!

บทวิเคราะห์โดย : อ.อนุชา เกียรติธารัย

http://www.islamicstudiesth.com/ind...alysis-of-world/936-syria-shoots-israel-plane

 

ไม่ใช่แค่นักการเมือง! บิ๊กนักธุรกิจโดน สตง.ไล่สอบภาษีด้วย-เก็บได้แล้วกว่าหมื่นล. เขียนวันที่ วันเสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2560 เวลา 16:00 น. เขียนโดย isranews

ผู้ว่าฯ สตง. เผยการสอบภาษีย้อนหลังนักการเมือง 60 ราย เน้นพวกมีรายได้กว่า 50 ล้านขึ้นไป ทำหนังสือแจ้งสรรพากรให้เรียกเก็บตั้งแต่ปี’58 แต่ตอนนี้ยังเงียบ ระบุเก็บพวกนักธุรกิจใหญ่-ผู้รับเหมา-เจ้าของห้าง-ชื่อพัวพันปานามาเปเปอร์โดนด้วย ตอนนี้เก็บได้แล้วกว่าหมื่นล้าน



เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2560 นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึงกรณีการจัดเก็บภาษีย้อนหลังนักการเมือง 60 ราย ว่า ประเด็นนี้ สตง. ต้องการสะท้อนให้เห็นความจริงอย่างหนึ่งว่า ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เนื่องจาก สตง. มีหน้าที่ในการตรวจสอบกรมสรรพากรว่า จัดเก็บภาษีได้ครบถ้วนหรือไม่ เนื่องจากคณะกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีนโยบายว่า การจัดเก็บภาษีต้องเป็นธรรม และ สตง. ไม่ได้ตรวจสอบแค่นักการเมือง แต่รวมถึงนักธุรกิจใหญ่ หรือบริษัทใหญ่ที่ห้างสรรพสินค้าเปิดเป็นแถว ๆ พวกที่อ้างว่ารวยติด 1 ใน 10 หรือที่มีชื่อตามเอกสารปานามาเปเปอร์ก่อนหน้านี้ ก็ตรวจสอบด้วย เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สตง. สุ่มตรวจสอบเรื่องการจัดเก็บภาษีตากฏหมายของกรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ประมาณกว่าหมื่นล้านบาทแล้ว

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีนักการเมือง 60 รายนั้น ไม่ได้ตั้งใจให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ถ้ารู้ตัวว่ายังเสียภาษีไม่ครบ ก็ไปเสีย เพราะถ้าถูกเรียกประเมินจะมีอัตราจัดเก็บแตกต่างกัน มีเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม โดยจากการตรวจสอบของ สตง. ที่ดูผ่านบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมืองในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เบื้องต้นพบว่ามีกว่า 100 ราย ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น หนี้สินลดลง หรือบางรายทรัพย์สินเท่าเดิม แต่หนี้สินลดลง ซึ่งหมายความว่า มีรายได้ อย่างไรก็ดี สตง. คัดเฉพาะนักการเมืองที่มีรายได้ค่อนข้างมากประเภทเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป และแจ้งให้กรมสรรพากรดำเนินการจัดเก็บย้อนหลังตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีคำตอบกลับมาว่า ดำเนินการแล้วหรือไม่ สตง. จึงทำหนังสือเตือนไปกรมสรรพากรให้ดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้กรมสรรพากรสามารถดำเนินการเก็บภาษีได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะทรัพย์สินเพิ่มขึ้นแบบปกติ หรือเพิ่มขึ้นผิดปกติก็ตาม เพราะถือว่ามีรายได้เข้ามา

“สตง. ตั้งสำนักตรวจสอบการเก็บรายได้ จะให้นั่งเฉย ๆ กินเงินเดือน สุดท้ายบอกว่าทำอะไรไม่ได้ จะกินเงินเดือนประชาชนทำไม ไม่อย่างนั้นจะเข้าใจผิดว่า สตง. ตรวจแค่เรื่องจัดซื้อจัดจ้าง ตรวจเรื่องการจัดเก็บรายได้ด้วย ถ้าไม่ตรวจ มันก็หลุดแล้วหลุดเลย เรื่องจัดซื้อจัดจ้างมันผิดต่อตำแหน่งหน้าที่อยู่แล้ว อายุความเยอะ ไม่สายเกินไป หลักฐานยังพอมี แต่รายได้ต้องตรวจคู่ขนานกับรายจ่ายไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร การสอบนักการเมืองที่เป็นอาชีพหนึ่ง ผู้รับเหมารายใหญ่ก็ตรวจ เอาสัญญาที่ทำกับราชการมาบวกกันว่า ปีหนึ่งเสียภาษีเท่าไหร่ ถ้าไม่ครบก็โดนประเมินเหมือนกัน ไม่ได้ผิดปกติ” นายพิศิษฐ์ กล่าว

https://www.isranews.org/isranews-news/54811-54811.html

 

“เอสโซ่-เชลล์-คาลเท็กซ์” เดือด! ถูกแก๊งใหญ่ลักลอบขนน้ำมันออกจากคลังร่วมที่สงขลาสูญนับล้านลิตร โดย MGR Online
18 มีนาคม 2560 14:21 น. (แก้ไขล่าสุด 18 มีนาคม 2560 14:59 น.)


แฟ้มภาพ


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บริหาร 3 บ.ยักษ์น้ำมันต่างชาติ “เอสโซ่-เชลล์-คาลเท็กซ์” เดือด! บินด่วนลงใต้ลุยสอบน้ำมันคลังร่วมที่สงขลา พบมีแก๊งใหญ่ลักลอบขนน้ำมันหายไปจากคลังแล้วนับล้านลิตร แฉมีคนในร่วมมือจ็อบเปอร์ เจ้าของปั๊ม และรถขนน้ำมัน และเชื่อมโยงถึงขบวนการใหญ่รับซื้อน้ำมันของโจรอย่างแนบสนิท แถมปฏิบัติการเย้ย นปม.และตำรวจท้องที่แบบจ่อปลายจมูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันต่างชาติรายใหญ่ เช่น เชลล์ เอสโซ่ และคาลเท็กซ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อตรวจสอบคลังน้ำมันที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งเป็นคลังร่วมของทั้ง 3 บริษัทยักษ์น้ำมันต่างชาติดังกล่าว เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีการขโมยน้ำมันในจากในคลังร่วมแห่งนี้สูญหายไปแล้วกว่า 1 ล้านลิตร

จากการตรวจสอบของผู้บริหาร 3 บริษัทน้ำมันต่างชาติครั้งนี้ พบว่า มีการขโมยน้ำมันจากคลังน้ำมันร่วมหายไปจริง และต้องเป็นการกระทำกันเป็นขบวนการใหญ่ โดยเชื่อว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่ภายในคลังร่วม ตั้งแต่ฝ่ายตรวจสอบ ฝ่ายจ่ายน้ำมัน และฝ่ายรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่ทำหน้าที่ตรวจรถบรรทุกน้ำมันเข้า-ออกร่วมมือด้วย และคาดว่าจะทำกันมานานนับปีแล้ว เพียงแต่มีการปกปิดจากเจ้าหน้าที่ภายใน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่คนไทยเพื่อไม่ให้ผู้บริหารที่เป็นฝรั่งรู้เรื่อง

สำหรับวิธีการขโมยน้ำมันออกจากคลังร่วมดังกล่าวไปนับล้านลิตรนั้น จากการพิจารณาเป็นที่ได้ที่จะเป็นการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ในคลังร่วมทั้งผู้จ่ายน้ำมัน และ รปภ.ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร และรถบรรทุกน้ำมัน โดยกระทำกันในขณะที่เข้าไปรับน้ำมันในคลัง และนำน้ำมันออกจากคลังร่วมดังกล่าว

“วิธีการคือ เจ้าของบริษัทน้ำมันที่สั่งซื้อน้ำมันจากจ็อบเปอร์จะทำการซื้อน้ำมันไม่เต็มคันรถ เช่น รถบรรทุกน้ำมันมีความจุ 16,000 ลิตร มีจำนวน 5 ช่องในการบรรจุ โดยบรรจุช่องละ 3,000 ลิตร แต่เจ้าของรถบรรทุก หรือบริษัทผู้สั่งซื้อ หรือเจ้าของปั๊มจะสั่งซื้อเพียง 10,000 ลิตร เพื่อเว้นช่องบรรจุน้ำมันไว้อย่างน้อย 2 ช่อง หรือ 1 ช่องแล้วแต่การติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในคลัง แม้สั่งซื้อไม่เต็มคัน แต่พอรับน้ำมันกลับออกมากลับมีน้ำมันเต็มคัน ซึ่งน้ำมันส่วนที่เกินมาคือ น้ำมันที่มีการขโมยออกมานั่นเอง” แหล่งข่าวระดับบริหารของบริษัทน้ำมันต่างชาติรายหนึ่งให้รายละเอียด ก่อนเพิ่มเติมว่า

การกระทำกันเป็นขบวนการแบบนี้มีเจ้าของปั๊ม หรือบริษัทค้าน้ำมันหลายแห่งที่เป็นเครือข่ายร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในคลังน้ำมันร่วม ทั้งผู้มีหน้าที่จ่ายน้ำมัน และมีหน้าที่ตรวจสอบ และเมื่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันต่างชาติได้ทำการตรวจพบจำนวนน้ำมันที่หายไปแล้ว แต่ผู้ร่วมขบวนการยังพยายามจะปกปิด หรือมีการทำบัญชีคงคลังเท็จเพื่อหลอกผู้บริหารที่เป็นฝรั่งอยู่แม้หลังการตรวจสอบ

หลังจากที่ผู้บริหารที่เป็นฝรั่งต่างชาติเจ้าของบริษัททราบเรื่อง จึงได้สั่งการให้สอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะตรวจสอบรถบรรทุกที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยของปั๊ม และบริษัทต่างๆ เพื่อที่จะแจ้งความดำเนินคดี และให้มีการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อให้รู้ว่าจำนวนน้ำมันที่หายไปมีจำนวนที่แน่นอนกี่ล้านลิตร ซึ่งประเมินค่าเสียหายเบื้องต้นตอนนี้ไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจสอบพบการทุจริต ในเบื้องต้น ได้มีการไล่ออกพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้แจ้งความเอาผิดทางกฎหมาย เนื่องจากยังต้องการหาหลักฐาน และพยานเพื่อใช้ดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคลังน้ำมันร่วมของ 3 บริษัทต่างชาติดังกล่าวดังกล่าวมี นายอมร แย้มปู่ เป็นนายคลัง หรือผู้จัดการคลัง ซึ่งถือเป็นนายคลังที่เคยได้รับรางวัลการบริหารดีเด่นของคลังในประเทศที่เป็นของบริษัทต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเปิดจากแหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากมีขบวนการขโมยน้ำมันจากคลังร่วมแห่งนี้แล้ว ยังมีขบวนการรับซื้อน้ำมันของโจรที่ลักลอบนำออกไปขายด้วย ซึ่งถือเป็นขบวนการใหญ่เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะมีบริษัทที่มีหน้าที่จัดการซื้อน้ำมันจากคลังน้ำมันแห่งนี้เพื่อไปส่งให้แก่เรือเดินทะเลที่ท่าเรือของเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา โดยการว่าจ้างให้บริษัทที่รับจ้างบรรทุกนำน้ำมันจากลังร่วมไปส่งยังท่าเรือ เมื่อนำน้ำไปถึงผู้มีหน้าที่รับน้ำมันก็จะดำเนินการทางเอกสารว่า ได้รับน้ำมันเป็นที่ถูกต้อง

“แต่น้ำมันไม่ได้ลงในแท็งก์เก็บน้ำมันแต่อย่างใด โดยมีการซื้อขายกันแบบรับซื้อของโจร ด้วยการขายน้ำมันเหล่านั้นให้แก่เจ้าของรถบรรทุกในราคาลิตรละ 15-17 บาทเท่านั้น ในขณะที่ราคาต้นทุนอยู่ที่ลิตรละ 25 บาทเศษ ซึ่งหากมีการสั่งน้ำมันวันละ 3 ล้านลิตร ก็จะมีการขายคืน 5 หมื่นลิตร สร้างกำไรให้แก่บริษัทที่รับจ้างบรรทุกเป็นอย่างยิ่ง สำหรับน้ำมันที่ใช้กับเรือ เป็นน้ำมันดีเซลที่ไม่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล ซึ่งหากนำไปจำหน่ายในปั๊ม ถ้าเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบก็จะรู้ว่าเป็นน้ำมันที่ไม่อนุญาตให้ขายในปั๊ม ซึ่งเป็นการผิดกฎหมาย”

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบน้ำมันเถื่อนภาค 9 (ปนม.ภ.9) ต่างทราบดีถึงการซื้อขายน้ำมันที่เป็นของโจรที่ท่าเรือเทศบาลนครสงขลา แต่ที่ไม่มีการจับกุมเป็นเพราะมีการให้ผลประโยชน์ หรือมีการส่งส่วยเป็นรายเที่ยว จึงทำให้ธุรกิจรับซื้อของโจรไม่เคยถูกจับกุม

“ที่น่าสนใจคือ ในซอยใกล้กับ สภ.สิงหนคร ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับคลังน้ำมัน ยังมีการเปิดคอก หรือจุดรับซื้อน้ำมันทุกประเภทที่คนขับรถบรรทุกน้ำมันที่ออกจากคลังขโมยน้ำมันของลูกค้ามาขายให้แก่เจ้าของคอกในราคาลิตรละ 15-20 บาท ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ลูกค้า และบริษัทผู้ค้าน้ำมันมาก เคยมีการร้องเรียนหลายครั้ง แต่ไม่มีการดำเนินการ” แหล่งข่าวกล่าวทิ้งท้าย

http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9600000027759

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐแถ: กลาโหมสหรัฐยอมรับว่าโจมตีทางอากาศในพื้นที่ทางเหนือของซีเรียโดยกำหนดเป้าหมายที่ผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า (ที่อยู่ในมัสยิด) ไม่ได้กำหนดเป้าหมายที่ตัวมัสยิด แต่มัสยิดพังราบไม่เหลือซาก



-------------
วันที่ 17 มี.ค.60 รอยเตอร์สพาดหัวข่าวว่า "เพนตากอนปฏิเสธการโจมตีมัสยิดในซีเรีย แต่กล่าวว่าได้สังหารพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า" (Pentagon denies striking mosque in Syria, says it killed al Qaeda militants) [พวกอัลเคด้าอยู่ที่ไหน? ก็อยู่ในมัสยิดที่ถูกทำลายจากการโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธของสหรัฐนั่นแหละ สรุปจากภาพถ่ายในที่เกิดเหตุและจากการวิเคราะห์หลายแห่ง - ผู้แปล]
ส่วน The Guardian ของอังกฤษพาดหัวข่าวว่า "สหรัฐยอมรับการโจมตีทางอากาศในซีเรียซึ่งได้สังหารผู้คนไป 46 ราย แต่ปฏิเสธการกำหนดเป้าหมายที่มัสยิด" (US admits Syria airstrike that killed 46 but denies targeting mosque )
Al Jazeera หนึ่งในกระบอกเสียงที่สำคัญของสหรัฐในโลกอาหรับพาดหัวข่าวว่า "สหรัฐยืนยันการโจมตีที่หมู่บ้าน al-Jinah โดยมีเป้าหมายที่พวกอัลเคด้า ไม่ใช่มัสยิด" (US insists al-Jinah raid targeted al-Qaeda, not mosque) หลังมีรายงานการเสียชีวิตของพลเรือนหลายสิบคน เพนตากอนเปิดเผยภาพสถานที่โจมตีของสหรัฐในจังหวัดอะเลปโป
[บางสำนักข่าวก็บอกว่าหมู่บ้าน al-Jinah ตั้งอยู่ในเขตของจังหวัดอะเลปโป บางแห่งก็บอกว่าอยู่ในเขตของจังหวัดอิดลิบ - ผู้แปล]
รอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันศุกร์นี้เพนตากอนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยกลุ่มกบฏซีเรียที่กล่าวว่าสหรัฐได้กำหนดเป้าหมายไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งในซีเรีย และในการเคลื่อนไหวที่หาได้ยาก ก็ได้แสดงภาพถ่ายทางอากาศเพื่อแสดงให้เห็นว่ามัสยิดยังคงอยู่ในสภาพเดิม ส่วนอาคารที่ถูกทำลายนั้นอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน (ภาพที่ 1)
[ในภาพที่1 นี้ อาคารที่วงกลมสีเขียวไว้นั้นคือมัสยิดเก่าขนาดเล็ก ไม่ได้ถูกทำลาย แต่ตัวอาคารที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง สหรัฐอ้างว่ามันคือสถานที่รวมพลของพวกผู้ก่อการร้าย แต่พยานในที่เกิดเหตุและนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า อาคารที่ถูกทำลายนั้นคือมัสยิดหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาไม่นานนี้ซึ่งขนาดใหญ่กว่าเดิมประมาณ 3-4 เท่า - ผู้แปล]
Captain Jeff Davis โฆษกเพนตากอนกล่าวในการแถลงข่าวของเพนตากอนว่า ตนเอง "เชื่อว่า" พวกนักรบอัลเคด้าหลายสิบคนถูกสังหารจากการโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ทั้งโดยอากาศยานมีคนขับและไร้คนขับของสหรัฐใส่สถานที่รวมพลขอพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าในหมู่บ้าน al-Jina จังหวัดอะเลปโป
โฆษกกลาโหมสหรัฐกล่าวอีกว่า กองทัพสหรัฐยังไม่เห็นการกล่าวหาใดๆที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการสูญเสียชีวิตของพลเรือน ซึ่งรวมทั้งในโซเชียลมีเดียเลย
[ก็อย่างที่เคยอธิบายไว้ในสองโพสต์ก่อนหน้านี้แล้วว่า ตอนที่แก๊งผู้ก่อการร้ายเหล่านี้อยู่ในอะเลปโปตะวันออก สหรัฐและพันธมิตรเรียกพวกนี้ว่า "กบฏสายกลางซีเรีย" (สมัยรัฐบาลโอบามา) หลังจากพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซีย พวกนี้ก็อพยพไปอยู่ที่จังหวัดอิดลิบซึ่งอยู่ติดกับอะเลปโปทางตะวันตก และหลังจากโอบามาตกเก้าอี้ ทรัมป์ขึ้นมาแทนและได้ให้อำนาจพิเศษแก่ซีไอเอให้การบอมบ์บรรดาผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อการร้ายในซีเรียได้เลย สหรัฐก็ส่่งทั้งเครื่องบินรบและโดรนสังหารไปถล่มกลุ่มที่เคยได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอาวุธจากสหรัฐมาก่อน และก็เรียกพวกนี้ว่า "อัลเคด้า" ซึ่งก็คือกลุ่ม "อัลนุสราฟรอนท์" สาขาของอัลเคด้าในซีเรียนั่นเอง
กลุ่มที่เข้าไปเก็บศพของพวกอัลเคด้าเหล่านี้ก็คือ "แก๊งหมวกกันน็อคขาว" (White Helmets) ซึ่งทำงานร่วมกับพวกอัลเคด้า/อัลนุสราฟรอนท์ และไอซิสเป็นอย่างดี มีอัลนุสราฟรอนท์ที่ไหนจะมี White Helmets ที่นั่น เพราะว่ามันคือแก๊งเดียวกัน เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งจะได้รับรางวัลออสก้าสาขาสารคดีตอแหลยอดเยี่ยม ในตอนแรกที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา พวกกบฏ/ผู้ก่อการร้าย และโซเชียลมีเดียรวมทั้งสื่อหลักของพวกโปรผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นต่างก็พากันกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของรัสเซียและฝ่ายรัฐบาลซีเรีย แต่สุดท้ายสหรัฐก็ออกมายอมรับเองว่า "ข้านี่แหละที่บอมบ์พวกเอ็ง! มีอะไรหรือเปล่า?"
จริงๆแล้ว ทั้งมัสยิดเก่าและใหม่ไม่ได้ตั้งอยู่คนละฟากถนนตามที่สหรัฐกล่าวอ้าง อยู่ฝั่งเดียวกัน แต่อยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดูภาพที่ 7 และ 8 ประกอบ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
18/03/2560
----------
http://www.reuters.com/article/us-mideast-crisis-syria-usa-idUSKBN16O26S
https://www.theguardian.com/world/2...rstrike-kills-dozens-of-civilians-near-aleppo
http://www.aljazeera.com/news/2017/03/syria-mosque-attack-170318010309757.html
https://www.bellingcat.com/news/men...recovered-from-site-of-aleppo-mosque-bombing/
https://maps.southfront.org/us-admi...-amid-reports-on-deadly-mosque-attack-nearby/
http://www.independent.co.uk/news/w...ry-missiles-idlib-al-jineh-west-a7634556.html
http://www.independent.co.uk/news/w...ry-missiles-idlib-al-jineh-west-a7634556.html
https://www.rt.com/news/381077-mosque-strike-aleppo-missile/

 

ปอกเปลือก ทรราช
อังกฤษส่งทหารล็อตแรกจำนวน 120 นายจากทั้งหมด 800 จากกองทัพที่ 5 (the Rifles) ไปถึงประเทศเอสโตเนีย และจะสร้างกองบัญชาการของตนเองในประเทศนี้ด้วย อ้างป้องการรุกรานจากรัสเซีย สุดท้ายอังกฤษก็เข้ายึดเอสโตเนียเรียบร้อยด้วยความเต็มใจของเจ้าบ้าน (17 มี.ค.60)
---------------

https://www.rt.com/news/381215-british-nato-troops-estonia/
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
อึ๊บเพื่อชาติ: ปธน.แอร์โดเกรียนเรียกร้องให้ชาวเติร์กในยุโรปมีลูก 5 คน อ้างว่า "คุณคืออนาคตของยุโรป" (You are the future of Europe) กับแผนการยึดครองยุโรประยะยาวโดยชาวเติร์ก "ไปใช้ชีวิตในเมืองที่ดีๆ ขับรถหรูๆ อยู่ในบ้านหรูๆ อย่ามีแค่สามคน แต่จงมีลูกให้ได้ถึงห้าคน เพราะว่าพวกคุณคืออนาคตของยุโรป นั่นจะเป็นการตอบโต้ที่ดีที่สุดต่อความอยุติธรรมที่มีต่อพวกคุณ" ปธน.แอร์โดกันกล่าวที่เมือง Eskisehir เมื่อวันศุกร์นี้ AP รายงาน ไม่รู้ว่าในอนาคตชาวเติร์กในอียูจะออกมาเรียกร้องการแบ่งแยกดินแดนหรือยึดครองประเทศเหล่านั้นเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นที่เกาะไซปรัสของกรีซหรือไม่
------------
https://www.rt.com/news/381166-erdogan-turks-five-children/
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
นางฮิลลารี่โผล่ในงานดินเนอร์ของสมาคมสตรีชาวไอริช ที่เมือง Scranton รัฐ Pennsylvania เนื่องในวัน St. Patrick และบอกว่าดิฉันยอมออกมาจากป่าแล้วค่ะ (17 มี.ค.60)
------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ชาวจอร์แดนแตกตื่นแห่ดูชิ้นส่วนของขีปนาวุธ S-200 ของรัสเซียที่ฝ่ายอิสราเอลอ้างว่ายิงสะกัดตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของจอร์แดนใกล้ที่ราบสูงโกลัน แต่ไม่มีหัวรบติดอยู่ด้วย ฝ่ายซีเรียบอกว่า สามารถยิงเครื่องบินรบของอิสราเอลตกหนึ่งลำในเขตที่ราบสูงโกลัน ได้รับความเสียหายหนึ่งลำ อิสราเอลปฏิเสธ (17 มี.ค.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ในสมัยรัฐบาลโอบามา สหรัฐเรียกพวกนี้ว่า "กบฏสายกลางซีเรีย" สมัยรัฐบาลทรัมป์ สหรัฐบอกว่า พวกนี้คือ "ผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า" หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้ารัสเซียบอมบ์พวกนี้ในอะเลปโปตะวันออก สหรัฐจะโวยวายว่า รัสเซียฆ่าพลเรือนและพวกกบฏไม่ได้กำหนดเป้าหมายไปที่ไอซิส พอพวกนี้ย้ายจากอะเลปโปตะวันออกไปยังอิดลิบ สหรัฐตามไปบอมบ์แม้จะอยู่ในมัสยิดก็ตาม และบอกว่า พวกนี้แหละคือผู้ก่อการร้าย ฮิ้วววว เคลียร์กันเองครัชระหว่างสหรัฐกับกบฏและผู้ก่อการร้าย (17 มี.ค.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
กองทัพรัสเซียแถลงว่าในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทหารรัสเซียสามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดที่สถานทีโบราณเมืองพัลไมร่าได้ถึง 120 ลูก ซึ่งพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสทิ้งเอาไว้ (18 มี.ค.60)
-------------

.