ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช
คลิปข่าวผู้ก่อการร้ายโจมตีผู้คนด้วยรถยนต์และอาวุธมีดที่สะพาน Westminster ใกล้รัฐสภาอังกฤษในกรุงลอนดอน มีการยิงกันด้วย มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ทั้งตำรวจและพลเรือน (22 มี.ค.60)
-----------

https://www.rt.com/uk/381771-gunfire-loud-bangs-parliament/
รถยนต์คันที่ผู้ก่อการร้ายใช้ก่อเหตุพุ่งชนและเหยียบฝูงชนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ไปจนถึงหน้ารัฐสภาอังกฤษ (22 มี.ค.60)
------------

เจ้าหน้าที่ตำรวจ Lockdown พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (อาคารรัฐสภาอังกฤษ) หลังเกิดเหตุการก่อการร้าย 22 มี.ค.60
-----------

.

 

Jeerachart Jongsomchai

... “เดวิด ร็อกกี้เฟลเลอร์ การจากไปที่อาจจะเปลี่ยนแปลงวงการการเงินโลก” ( ตอน 1 )

... “เดวิด ร็อกกี้เฟลเลอร์” จากไปเมื่อ 20 มีนาคม 2017 ที่ผ่านมา ในวัย 101 ปี ทำให้นักวิชาการบางสำนัก เช่นนาย Valentin Katasonov โปรเฟสเซอร์จาก MGIMO ของรัสเซีย ( Moscow State Institue for International Relation ) ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องต่างประเทศบอกว่า การเสียชีวิตของเขาอาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งในกลุ่มผู้ทรงอิทธพลทางการเงินของโลกได้

... “เดวิด ร็อกกี้เฟลเลอร์” เป็นบุคคลที่เล่นหลายตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลและสำคัญของโลก เช่น อุตสาหกรรมน้ำมัน ด้านทหาร และด้านการเงินในวอลล์สตรีท

... เขาเป็นหลายชายคนเดียวของปู่ “จอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์” ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของอเมริกา และเศรษฐีพันล้านดอลล่าร์คนแรกของอเมริกา และพ่อของเขา “จอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์ จูเนียร์” นั้นเป็นลูกชายคนเดียวของปู่ , เดวิด เกิดเมื่อ 12 มิถุนายน 1915 ที่นิวยอร์ค อเมริกา จบการศึกษาที่ฮาร์วาร์ดเกียรตินิยม จากนั้นก็ต่อทางด้านเศรษฐศาสตร์อีกปีที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ก่อนจะไปเรียนต่อที่ อังกฤษ ที่ LSE ( London School of Economics ) ด้านเศรษฐศาตร์เหมือนเดิมจนจบ ในระหว่างเรียนนั้นก็ได้เคยออกเดทกับ Kathleen น้องสาวของ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ อดีตประธานาธิบดีที่ถูกสังหารไป และกลับมาเรียนต่อปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์การเมืองต่อที่มหาวิทยาลัยชิคาโก้ในปี 1940

... หลังจากเรียนจบก็ทำงานเป็นผู้ช่วยของนาย Fiorello La Guardia ผู้ว่าเมืองนิวยอร์คเป็นเวลาแปดเดือน ในตำแหน่งงานที่ชื่อ "dollar a year" ( หรือหนึ่งในที่ปรึกษาสำคัญของประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรับเงินค่าจ้างทั้งปีแค่หนึ่งดอลล่าร์ ) และจากนั้นปี 1941-1942 ก็ขยายงานไปทำงานเป็นผู้ช่วยของผู้อำนวยการภาคพื้น ของหน่วยงานด้านการทหารและด้านสาธารณสุขและสวัสดิการสังคม ของอเมริกา จากนั้นก็เข้ามาเป็นสมาชิกของกองทัพอเมริกาในปี 1943 และได้รับการเลื่อนชั้นเป็นระดับกัปตันในปี 1945 ,ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเขาได้ทำงานในฝ่าย ”สายลับทางการทหาร” ในหน่วยงานเกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจ ไปประจำการในฝรั่งเศสและอาฟริกาเหนือ เพราะว่าเขาพูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องแคล่ว จากนั้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาก็ไปเป็นทูตด้านการทหารในสถานทูตฝรั่งเศสในกรุงปารีส เป็นเวลาเจ็ดเดือน และช่วงนี้เองที่เขาก็ไปเกี่ยวข้องกับการทำงานในระดับบริหารในบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ “สแตนดาร์ดออยล์” ด้วย

... นอกจากจะทำงานด้านการเมือง การทหาร การสายลับ การสาธารณสุข ธุรกิจด้านน้ำมันของครอบครัวแล้ว , ในปี 1946 เขาเข้าทำงานด้านการเงินกับบริษัท Chase National Bank ที่ตอนนั้นลุงฝ่ายแม่ของเขา Winthrop W. Aldrich เป็นประธานบริษัท อยู่ ที่ตอนนั้นบริษัทต้องติดต่องานกับสถาบันการเงินใหญ่ๆมากมาย รวมทั้งบริษัทใหญ่ๆอย่าง GE เจนเนอรัล อิเลกทริกด้วย ธนาคารนี้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบนิษัทด้านพลังงานน้ำมัน รวมทั้งบริษัทน้ำมันของตระกูลอย่าง สแตนดาร์ดออย ที่ต่อมาแตกแขนงเป็น Exxon Mobile , และในต่อมา Chase National Bank ก็รวมตัวกับ The Manhattan Company กลายเป็น Chase Manhattan Bank ในปี 1955 ก่อนจะย้ายงานมาทำงานธุรกิจด้าน Consumer bank ในนาม JP Morgan Chase ในที่สุด และในตอนนั้นเขาได้ติดต่องานกับ correspondent bank ( หรือธนาคารตัวแทน ในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศตัวเอง แต่มีตัวแทนรับดำเนินการแทนให้ ) มากมายเป็นพันกว่าสาขาทั่วโลก

... ในปี 1960 เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทของ Chase Manhattan Bank ระหว่างนั้น เขาเป็นผู้นำคนสำคัญ ที่มีแนวคิดที่จะทำให้เกิด “ระบบการเงินโลกแบบโลกาภิวัฒน์” มีครอบคลุมเครือข่ายทั่วถึงไปทั่วโลก โดยมีบริษัทของเขาเป็นผู้เล่นสำคัญ ในปี 1973 ก็เป็นผู้เล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกการเงิน จนมีธนาคารสาขาในกรุงมอสโกว์ ของ "โซเวียตรัสเซีย" ในขณะนั้น และที่ "จีน" การไปเยือนของเขาก่อให้เกิดธนาคารแห่งชาติของจีนในเวลาต่อมา และได้เปิดธนาคารสาขาในจีนแห่งแรกเช่นกัน

... ในเดือนพฤศจิกายนปี 1979 เขาและผู้ร่วมงานคนสนิทอย่าง “เฮนรี่ คิสซิงเจอร์” และ John J. McCloy รวมทั้งหลายๆคนได้ร่วมกันชักชวน “จิมมี่ คาร์เตอร์” ผู้เป็นประธานาธิบดีในเวลานั้น ให้ยอมรับพระเจ้าชาห์ ปาห์ลาวีแห่งอิหร่านมารักษาตัวที่อเมริกา ที่แท้จริงคือการลี้ภัยทางการเมือง จากการ “ปฏิวัติอิสลาม” ในอิหร่าน ที่อิหร่านไม่พอใจเพราะก่อนหน้านั้น ในปี 1953 ซีไอเอของอเมริกาและเอ็มไอ6 ของอังกฤษได้เข้ามาวางแผนการรัฐประหารเพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนายโมซาเด็ค แล้วยกพระเจ้าชาห์ ปาห์เลวี “หุ่นเชิดอเมริกา” ครอบอำนาจ เพื่อจะสูบน้ำมันไปขายในราคาถูกๆ เจ้าของประเทศได้ผลประโยชน์น้อยนิด จนถึงปี 1979 , ที่หลังจากการรัฐประหารที่นำโดย ซีไอเอ ของอเมริกา ในปี 1953 ในปีถัดมาก็มีการแบ่งเค็กในการรับสัมปทานจุดเจาะน้ำมันใน “อิหร่าน” ปรากฏว่า “อังกฤษ” ที่อ่อนแอหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ต้องถูกบีบจากทาง “อเมริกา” ให้เปิดทางให้บริษัทน้ำมันจากอเมริกาเข้ามาหากินสร้างรายได้เป็นหุ้นส่วนในบริษัทร่วมอย่าง IOP จากน้ำมันของอิหร่านมากมาย โดยเฉพาะบริษัทในเครือข่ายของ “สแตนดาร์ดออย” เช่น Standard Oil of California (SoCal, ตอนหลังคือ Chevron) - Standard Oil of New Jersey ( ตอนหลังคือ ExxonMobil) - Standard Oil Co. of New York ( ตอนหลังคือ ExxonMobil) - Texaco ( ตอนหลังคือ Chevron)

... ซึ่งแปลว่าบริษัทของตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ได้ประโยชน์จากการรัฐประหารโดย ซีไอเอ ในครั้งนั้นเต็มๆ กว่า 25 ปี จนถึงปี 1979 ที่ “อิหร่าน” ถูกรุมดูด “ปล้นน้ำมัน” โดยประเทศตะวันตก โดยไม่มีการอ้างประชาธิปไตยแต่อย่างใด

... และ เดวิด ร็อกกี้เฟลเลอร์นั้น มีความสนิทสนมกับ Allen Dulles ผู้อำนวยการ “ซีไอเอ” ในขณะนั้นมากและพี่ชายของเขา John Foster Dulles ที่เป็นเลขาของประธานาธิบดี ไอเซนฮาวร์, เขาได้รับการชักนำมารู้จักคนเหล่านี้จากอดีตผู้อำนวยการซีไอเอคนเก่า อย่าง Richard Helms และ Archibald Bulloch Roosevelt Jr. ลูกจ้างของ Chase Bank บริษัทของเขาเอง ที่เป็นอดีตสายลับ ซีไอเอ ที่คนนี้เองที่ญาติของ Archibald Bulloch Roosevelt Jr. อย่าง Kermit Roosevelt Jr. , และคนเหล่านี้ทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารปล้นน้ำมันของอิหร่านในครั้งนั้น

... ดังนั้นจึงมีผู้พยายามโยงใยว่า เขา เดวิด มีส่วนวางแผนและร่วมรู้เห็นในการรัฐประหารเพื่อ “ปล้นน้ำมัน” จาก “อิหร่าน” กว่า 25 ปีในครั้งนั้น

.
... https://www.theguardian.com/world/2013/aug/19/cia-admits-role-1953-iranian-coup
https://sputniknews.com/politics/201703211051817522-rockefeller-banking-clan/
https://en.wikipedia.org/wiki/David_Rockefeller

 

ปอกเปลือก ทรราช
กองทัพรัสเซียจะได้รับอาวุธไฮเปอร์โซนิก และระบบขีปนาวุธ S-500 ในเร็วๆนี้, รัสเซียไม่กลัวการขยาย S-400 ให้ตุรกี
----------

1.) วันที่ 23 มี.ค.60 Sputnik รายงานว่า กองทัพรัสเซียจะได้รับยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ตามหลักการด้านกายภาพ อาวุธประเภทไฮเปอร์โซนิก และระบบป้องกันภัยทางอากาศยุคใหม่ S-500 ในเร็วๆนี้ นาย Vladimir Kozhin ผู้ช่วยประธานองค์กร Military-Technical Cooperation ของรัสเซียกล่าว

ก่อนหน้านี้ นาย Yuri Borisov รมช.กลาโหมรัสเซียกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik ว่าการทดสอบระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-500 ครั้งสุดท้ายของรัสเซียจะพร้อมในปี 2020

S-500 Prometey ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า 55R6M Triumfator-M เป็นระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานและบอลลิสติกมิสไซล์ที่ล้ำสมัยของรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

"พวกเรากำลังทำงานเพื่อให้มั่นใจว่ากองทัพรัสเซียจะมีอาวุธที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด: ระบบ S-500 กำลังอยู่ในการพัฒนา รวมทั้งอาวุธต่างๆที่อยู่บนพื้นฐานตามหลักการด้านกายภาพแบบใหม่ ไฮเปอร์โซนิก เป็นต้น มันเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะโต้แย้งได้ มันเป็นของจริงในสมัยปัจจุบันนี้" Kozhin กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ Rossiya 24 ของรัสเซีย

S-500 ออกแบบโดยบริษัท Almaz Antei (ของรัฐบาลรัสเซีย) มีรัศมีทำการ 600 กิโลเมตร (ส่วนรัศมีของเรดาร์ในการตรวจจับเป้าหมายยังไม่มีการเปิดเผย) ระบบนี้มีความเร็วที่ 7 กิโลเมตรต่อวินาที และสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธทั้งแบบบอลลิสติกและไฮเปอร์โซนิกได้พร้อมกันถึง 10 เป้าหมาย

2.) วันที่ 23 มี.ค.60 สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานว่า "คนใกล้ชิดปูตินอธิบายว่าทำไมรัสเซียถึงไม่กลัวการจัดส่งระบบขีปนาวุธ S-400 ให้กับตุรกี"

รัสเซียไม่กลัวการจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของตนเองให้กับประเทศตุรกี แม้ว่าประเทศดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของ NATO ก็ตาม Vladimir Kozhin นายกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ในรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ Rossiya 24

นาย Vladimir Kozhin กล่าวอีกว่า ตอนนี้กำลังมีการเจรจาในเรื่องการจัดส่ง S-400 ไปให้ตุรกี "ใช่ครับ ตุรกีเป็นสมาชิกของนาโต้ มันเป็นความจริง แต่พวกเราก็ไม่กลัว (Yes, Turkey is a NATO member, it's true, but we are not afraid.) คุณอาจจะถามว่า 'ทำไม (ถึงไม่กลัว)?' เอ่อ… อย่างแรกเลยนะครับ พวกเราออกกฎข้อบังคับที่เข้มงวดมากกับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกิจกรรมด้านข่าวกรองก่อนที่จะจัดส่งอะไรไปที่ไหนๆ และแต่ละประเทศก็ยอมรับข้อผูกพันธ์เหล่านั้นว่าสามารถทำอะไรและไม่สามารถทำอะไรกับอาวุธ [ของรัสเซีย] ที่ซื้อไปได้บ้าง"

"ประการที่สอง สิ่งที่พวกเราขายในวันนี้ เป็นการผลิตในปัจจุบัน [ไม่ใช่สิ่งที่คาดการณ์ไว้]" นาย Vladimir Kozhin กล่าวในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว

ก่อนหน้านี้ นาย Fikri Isik รัฐมนตรีกลาโหมของตุรกีกล่าวว่า มีความก้าวหน้าในการจัดซื้อระบบ S-400 ของรัสเซีย และตุรกีก็ไม่มีความต้องการที่จะบูรณาการ S-400 เข้ากับระบบของ NATO ด้วย TV Channel Haber 7 และ TASS รายงาน

ป.ล. เดิมที ตุรกีแสดงท่าทีว่าต้องการจะซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ HQ-9 (FD-2000) ของจีน (2013) ซึ่งมีหน้าตาคล้าย S-300 ของรัสเซียไปใช้ รัศมีทำการ 200 กม. ความเร็วที่ 4.2 มัค ต่อมาตุรกีทะเลาะกับจีนเรื่องกบฏแบ่งแยกดินแดนอุยกูร์หัวรุนแรง และสหรัฐระงับเงินสนับสนุนให้ตุรกี เพื่อสกัดไม่ให้ระบบขีปนาวุธของจีนเข้าไปอยู่ในระบบของกลุ่มประเทศนาโต้

ต่อมาปลายปี 2015 ทางตุรกีประกาศว่าจะไม่จัดซื้อระบบ HQ-9 ของจีน ผ่านไปหนึ่งปีหลังเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับตุรกีกรณี Su-24 ได้แล้ว ตุรกีจึงเลือก S-400 ของรัสเซียแทน ท่ามกลางความขัดแยังภายในระหว่างตุรกีกับมหาอำนาจนาโต้ทั้งสหรัฐและเยอรมัน

ก่อนหน้านี้เยอรมันเข้าไปติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ในตุรกี ต่อมาถอนกลับ ปลายปี 2015 มีรายงานข่าวว่าสเปนเข้าไปติดตั้ง Patriot PAC-2 ในตุรกี เยอรมันถอย สเปนเข้าเสียบแทน แต่ Patriot ไม่ใช่ของตุรกี เป็นของกองทัพต่างชาติที่เข้าไปติดตั้งในตุรกีเท่านั้น ดังนั้นตุรกีจึงต้องระบบที่ตัวเองสามารถควบคุมได้ และเป็นอิสรจากนาโต้ ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ในปัจจุบันก็คือ "S-400" ของรัสเซีย

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
24/03/2560
------------
https://sputniknews.com/military/201703231051899811-russia-army-s500-hypersonic-weapons/
http://tass.com/politics/937168
http://tass.com/world/935981
https://en.wikipedia.org/wiki/HQ-9
http://www.defensenews.com/story/de...y-italy-could-deploy-sampt-missiles/77965082/
https://sputniknews.com/middleeast/201512161031802657-spain-turkey-sam-batteries/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ปธน.แอร์โดกันแห่งตุรกี "เซ็ง" กรณีทั้งสหรัฐและรัสเซียต่างก็พากันสนับสนุนเคิร์ด
----------

วันที่ 24 มี.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "แอร์โดกันกล่าวว่ารู้สึกเสียอารมณ์ที่กรุงมอสโคและกรุงวอชิงตันให้ความสนใจต่อชาวเคิร์ดในซีเรีย" (Erdogan Says Upset About Interest Moscow, Washington Showing to Syrian Kurds)

ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan แห่งตุรกีกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า กรุงอังการารู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับกรณีที่รัสเซียและสหรัฐให้ความสนใจต่อพรรคสหประชาธิปไตยชาวเคิร์ดในซีเรีย (Syrian Kurdish Democratic Union Party)

"เราเสียอารมณ์ที่รัสเซียและสหรัฐให้ความสนใจต่อพวก PYD องค์กรก่อการร้าย มัน (เคิร์ด PYD) ควรจะออกไปจากดินแดนที่ตนเองยึดครองได้แล้ว" ผู้นำตุรกีกล่าวโดยการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ CNN Turk

ตุรกีพิจารณาว่าเคิร์ด PYD เป็นส่วนขยายของพรรคคนงานชาวเคิร์ดชาตินิยม (PKK) ทางรัฐบาลตุรกีขึ้นบัญชีดำให้เป็น "กลุ่มก่อการร้าย"

พรรค PYD ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายระดับแนวหน้าของชาวเคิร์ดในพื้นที่ภาคเหนือของซีเรีย และประกาศเป็นเขตปกครองตนเอง Rojava ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2016 ท่ามกลางความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองภายในซีเรียที่ยาวนานถึง 6 ปี

สหรัฐ (และอียู) ได้ให้การสนับสนุนกองกำลังของพรรค PYD (กองกำลังเคิร์ด YPG) ซึ่งทำหน้าที่ในการต่อต้านพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับตุรกีเลวร้ายลง รัสเซียได้เรียกร้องให้เคิร์ดมีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพร่วมกับฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลซีเรีย กรุงอังการาคัดค้านการเคลื่อนไหวดังกล่าว

[จากการที่สหรัฐและอียูสนับสนุนเคิร์ดในทั้งในซีเรียและอิรัค บางครั้งกรุงอังการาถึงกับระเบิดออกมาว่า สหรัฐให้การสนับสนุนองค์กรก่อการร้าย เพราะว่ากรุงอังการามองว่าเคิร์ดเป็นพวกผู้ก่อการร้าย

แต่ในขณะเดียวกัน กรุงอังการาเองก็สนับสนุนชาวเคิร์ด Peshmerga ในอิรัค และอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งระหว่างเคิร์ด Peshmerga กับเคิร์ด Yazidis ในอิรัคด้วย และบ่อยครั้งที่ตุรกีเองก็ส่งเครื่องบินรบไปถล่มเคิร์ดทั้งในอิรัคและซีเรีย

ในขณะที่แอร์โดกันเรียกร้องให้เคิร์ดย้ายออกไปจากพื้นที่ยึดครองในซีเรีย ทั้งในพื้นที่เดิมของชาวเคิร์ดและในพื้นที่ใหม่ แต่กรุงอังการาก็ขยับกองทัพของตนเองและพวก FSA กลุ่มที่กรุงอังการาให้การสนับสนุนเข้ายึดครองดินแดนบางส่วนในภาคเหนือของซีเรีย กล่าวคือแอร์โดกันบอกให้เคิร์ดย้ายออกไป เพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าไปยึดที่ดินของซีเรียแทน - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
24/03/2560
------------
https://sputniknews.com/middleeast/201703241051905133-turkey-upset-kurds-attention/

 

ปอกเปลือก ทรราช
อินโดนีเซียเตรียมซื้อ Su-35 ของรัสเซีย, สหรัฐส่งมอบ F-16C/D มือสองให้อินโดนีเซีย, มาเลเซียเตรียมอัพเกรด MiG-29N ที่มีความทันสมัยมากขึ้น
----------

1.) วันที่ 22 มี.ค.60 TASS พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียกำลังวางแผนทำสัญญาด้านความมั่นคงหลายรายการกับอินโดนีเซียเกี่ยวกับเครื่องบินรบ Su-35" (Russia planning series of defense contracts with Indonesia on Su-35 fighter jets)

รายงานข่่าวบอกว่า การทำสัญญาส่งมอบเครื่องบินรบหลากบทบาท (multirole fighter jets) Su-35 ให้กับประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นข้อตกลงชุดแรกในหลายรายการตามที่ได้มีการวางแผนไว้กับประเทศนี้ ผู้อำนวยการหน่วยงานเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศและนโยบายภูมิภาคแห่งบริษัท Rostec ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมด้านความมั่นคงของรัสเซียกล่าว

"เมื่อข้อตกลงเกี่ยวกับ Su-35 เสร็จสิ้น เราวางแผนเอาไว้ว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการต่างๆเกี่ยวกับกองทัพเรือของอินโดนีเซีย" Viktor Kladov หัวหน้าคณะผู้แทนจาก Rostec และทีมส่งออกอาวุธจาก Rosoboronexport กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงาน Langkawi International Maritime & Aerospace Exhibition (LIMA) ที่ประเทศมาเลเซีย

สัญญาเกี่ยวกับเฮลิค็อปเตอร์อาจจะตามมาในภายหลัง เจ้าหน้าที่กล่าว โดยกล่าวเพิ่มเติมว่าอินโดนีเซียยังได้แสดงความสนใจในอากาศยานสะเทินน้ำสะเทินบก Be-200 ของรัสเซียสำหรับดับไฟป่าด้วย ทางอินโดยนีเซียต้องการจะซื้ออากาศยานประเภทนี้ประมาณ 2 หรือ 3 ลำ

Sputnik รายงานว่า กำลังมีการหารือกันในส่วนของเงื่อนไขข้อตกลงสำหรับการส่งมอบเครื่องบินรบหลากบทบาท Su-35 จำนวน 12-18 ลำซึ่งเป็นเครื่องบินรบยุคที่ 4++ รัสเซียได้ส่งมอบเครื่องบินรบรุ่นนี้ไปให้จีนแล้วหลายลำตั้งแต่ปี 2016 เวเนซูเอล่าและเวียตนามก็มีความสนใจใน Su-35 ด้วย

Sputnik รายงานต่ออีกว่า นอกจากนี้แล้วทางรัสเซียก็ยังได้หารือเกี่ยวกับการซื้อขายเรือดำน้ำ project 636 Varshavyanka กับทางอินโดนีเซียด้วย ปีที่แล้วรัสเซียได้ส่งมอบเรือดำน้ำรุ่นนี้ให้กับทางเวียตนามครบ 6 ลำ ส่วนพม่าได้สั่งซื้อเครื่องบินรบหลักบทบาทสำหรับฝึกซ้อม Yak-130 ไปแล้วหลายลำ

2.) ส่วนกรณีกองทัพอากาศส่งมอบเครื่องบินรบ F-16 Block-25 ไปให้อินโดนีเซียนั้น สื่อฯของสหรัฐและตะวันตกหลายสำนักก็ลงข่าวนี้ อินโดนีเซียได้ทำสัญญาซื้อ F-16 จากสหรัฐตั้งแต่ปี 2012 และทะยอยส่งมอบมาเรื่อยๆ โดยแบ่งส่งมอบเป็นชุดๆ ครั้งล่าสุดเป็นชุดที่ 5 จากทั้งหมด 6 ชุด/ครั้ง รวมทั้งหมด 24 ลำ

เว็บไซต์ IHS Jane's 360 ของสหรัฐรายงานว่าสหรัฐได้ทำสัญญาขายเครื่องบินรบ F-16C/D Block 25 จำนวน 24 ซึ่งปลดประจำการจากกองทัพอากาศสหรัฐแล้วให้กับประเทศนี้ (อินโดนีเซีย) มูลค่า USD700 ล้าน (ประมาณ 24,850,000,000 บาท) มีการอัพเกรตอุปกรณ์และเทคโนโลยีให้ด้วยก่อนส่งมอบ

3.) ว้นเดียวกันนี้ TASS และ Sputnik ของรัสเซียรายงานว่า รัสเซียจะอัพเกรด MiG-29N ของมาเลเซียแทนการปลดประจำการ รายงานข่าวบอกว่า รัสเซียและมาเลเซียกำลังหารือกันเกี่ยวกับอนาคตของการใช้งานเครื่องบินรบ MiG-29N โดยกองทัพมาเลเซีย ซึี่งซื้อมาจากกรุงมอสโค โดยทางรัสเซียเสนอที่จะอัพเกรด MiG-19N และซ้อมแซมแบบเต็มรูปแบบให้มีความทันสมัย เท่ากับ MiG-29SM แต่ฝ่ายมาเลเซียยังไม่ได้ตัดสินใจ ปัจจุบันนี้มาเลเซียมีเครื่องบินรบ MiG-29N จำนวน 18 ลำ ซึี่งซื้อมาจากรัสเซียตั้งแต่ปี 1994 กำลังจะปลดประจำการในเร็วๆนี้

[อัยย๊ะ! ทำไมอินโดนีเซียถึงไม่ยอมให้ประชาชนทั้งหมดในประเทศของตนเองหายยากจนก่อน ถึงหันไปซื้ออาวุธเหมือนกับเสียงโอดครวญของพวกโลกสวยและโปรอเมริกานาโต้ตอนที่ได้ยินข่าวกองทัพไทยมีความสนใจในเทคโนโลยีทางทหารของฝ่ายรัสเซียหละนี่?

สงสัยว่าพวกนี้ (โลกสวย) คงจะไม่ได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาหรือดูหนังเรื่อง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" หรือประวัติศาสตร์ ร.ศ.112 ตอนที่ฝรั่งเศสรุกรานไทยมั๊ง พวกนักล่าเขาคงจะรอให้คุณมีอาวุธที่ทันสมัยมีกองทัพที่แข็งแกร่งหลังจากประเทศไร้คนยากจนแล้วถึงจะยกกองทัพมาบุกมั๊ง แก๊งนาโต้นำโดยสหรัฐรอให้อัฟกานิสถาน อิรัค ลิเบีย ซีเรีย และเยเมนหายยากจนและมีกองทัพที่แข็งแกร่งก่อนหรือเปล่าถึงก่อสงครามในประเทศเหล่านั้น?

ปัจจุบันนี้ ในส่วนของเครื่องบินรบสมัยใหม่นั้น กองทัพอากาศของอินโดยนีเซียมี F-16A/C Fighting Falcon จากค่่ายสหรัฐ จำนวน 20 ลำ British Aerospace Hawk 209 ของอังกฤษ 15 ลำ Su-27SK/SKM และ Su-30MKK/MK2 ค่ายรัสเซีย 16 ลำ ส่วนรุ่นเก่าเป็น Northrop F-5E ของสหรัฐจำนวน 8 ลำ และคาดว่าอินโดนีเซียจะนำ Su-35 เข้าไปประจำการแทน

ปัจจุบันนี้ กองทัพอากาศของมาเลเซียมีเครื่องบินรบทั้งจากค่ายนาโต้และรัสเซียประจำการ เช่น Sukhoi Su-30MKM จากรัสเซีย 18 ลำ Boeing F/A-18D Hornet จากสหรัฐ 8 ลำ Mikoyan MiG-29N จากรัสเซีย 18 ลำ (บางแห่งบอกว่า 12 ลำ) BAE Hawk จากอังกฤษ 19 ลำ

กองทัพอากาศอินโดนีเซียและมาเลเซียไม่กังวลใจเรื่องที่ว่าเครื่องบินรบค่ายนาโต้จะเข้ากับค่ายรัสเซียได้หรือไม่ และไม่กังวลด้วยว่า นักบิน F-16 หรือ Hawk 209 จับขับเครื่องบินรบตระกูล Su ของรัสเซียได้หรือไม่ เหมือนกับที่ไม่กังวลว่าคนขับรถเมล์จะไปขับเรือด่วนเจ้าพระยาหรือขับรถไฟได้หรือไม่นั่นแหละ เพราะว่ามันเป็นงานคนละหน้าที่กัน อินโดนีเซียมีประชากรประมาณ 260 ล้านกว่าคน จะหาคนใหม่มาขับ Su-35 ซัก 12-18 คนไม่ได้เชียวหรือ? พวกโปรอเมริกา-นาโต้กังวลใจเรื่องนี้ หลังจากมีข่าวว่ากองทัพไทยสนใจ Su-30 ของรัสเซีย กรรม! - ผู้แปล]

ป.ล. ตัวท็อปล่าสุดของค่าย MiG ในปัจจุบันนี้ของรัสเซียก็คือ MiG-35 G4++ ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ เล็กกว่า MiG-29 แต่คล่องตัวตัว ทันสมัยกว่า

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
24/03/2560
------------
http://tass.com/defense/936765
https://sputniknews.com/military/201703231051885989-demand-for-russian-weapons-grows/
http://www.upi.com/Defense-News/201...refurbished-F-16s-to-Indonesia/2601490195604/
http://www.janes.com/article/68974/us-delivers-four-more-refurbished-f-16s-to-indonesia
http://www.hilltoptimes.com/content/hill-afb-regenerates-f-16s-indonesian-air-force
http://tass.com/defense/936764
https://sputniknews.com/military/201703231051878153-mig28n-russia-malaysia/
https://en.wikipedia.org/wiki/Indonesian_Air_Force
https://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Malaysian_Air_Force

 

ปอกเปลือก ทรราช
เมื่อ SU-35 ของรัสเซีย เจอกับ Eurofighter Typhoon ของยุโรป สองเครื่องยนต์เหมือนกัน ใครจะเจ๋งกว่ากัน? ต้องดูคลิปนี้ (จำลอง) ฮ่าๆๆ
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
จากอังกฤษก็ต่อที่ฝรั่งเศส เกิดเหตุการณ์ยิงกันใกล้สถานีรถไฟ Porte d’Arras เมือง Lille ทางภาคเหนือของประเทศฝรั่งเศส ใกล้ชายแดนเบลเยี่ยม มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนรวมทั้งเยาวชนด้วย มือปืนหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ เว็บไซต์ขององค์กร Teleport.org กล่าวว่า มีการเสียชีวิตจากอาวุธปืนที่เมืองนี้ทุก 26 วัน 22 ชั่วโมง 29 นาที 33 วินาทีโดยเฉลี่ย กำลังจะบอกว่า เหตุการณ์นี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติอะไรว่าอย่างนั้นเถอะ เจริญหละฝรั่งเศส! (24 มี.ค.60)
----------
https://www.rt.com/news/382246-france-lille-metro-shooting/
https://sputniknews.com/europe/201703251051945635-wounded-mass-shooting-in-france/
https://www.thesun.co.uk/news/31747...-people-outside-metro-station-in-french-city/
http://www.mirror.co.uk/news/world-news/terror-fears-lille-many-wounded-10094869
http://www.express.co.uk/news/world/783671/shooting-lille-porte-darras-france

 

จบแล้ว...อเมริกา!!!
เผยแพร่: 23 มี.ค. 2560 15:10:00


เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาฯ ที่ผ่านมา อดีตหัวหน้าคณะเสนาธิการประจำรัฐมนตรีกลาโหม “คอลิน พอเวลล์” (Colin Powell) ชื่อว่า “พันเอกลอว์เรนซ์ วิลเคอร์สัน” (Lawrence Wilkerson) ได้ไปให้สัมภาษณ์กับ “พอล เจย์” (Paul Jay) แห่งสำนักข่าว “Real News Network” ถึงแนวโน้มอนาคตของประเทศอภิมหาอำนาจสูงสุดอย่างอเมริกาไว้แบบน่าสนใจเอามากๆ ด้วยข้อสรุปที่ว่า “อเมริกานั้น...ไม่ใช่เป็นเพียงแค่จักรวรรดิที่กำลังเสื่อม แต่เป็นจักรวรรดิที่กำลังอยู่ริมขอบเหวแห่งการล่มสลาย...”




เหตุที่ “พันเอกวิลเคอร์สัน” แกกล้า “ฟันธง” เอาไว้ในรูปนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก คือมาจากมุมมองทางด้านการทหารอันเป็นสิ่งที่แกเชี่ยวชาญเป็นทุนเดิมนั่นเอง เพราะถึงแม้ “กองทัพสหรัฐฯ” นั้น จะยิ่งใหญ่เกรียงไกรเพียงใดก็ตาม ดำรงสถานะเป็น “พ่อค้าความตายแห่งโลก” (The Death Merchant of the World) ตามสำนวนที่แกให้คำนิยามเอาไว้ มีกองทัพประจำการถึง 2.1 ล้านคน 200,000 คนอยู่ในฐานทัพ 800 แห่งใน 177 ประเทศทั่วโลก แต่อดีตหัวหน้าคณะเสนาธิการรัฐมนตรีกลาโหมรายนี้กลับเห็นว่า ความแข็งแกร่งทางทหารของสหรัฐฯ นั้น ค่อยๆ กลายมาเป็น “จุดอ่อน” อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ นั่นเอง ที่ได้ก่อให้เกิด “ศัตรู” ในหลายๆ แนวรบ จนเกินกว่าที่กองทัพสหรัฐฯ จะสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้...

บัญชีรายชื่อของ “ศัตรู” ในแต่ละตัว ที่ฝ่ายการเมืองพยายามยัดเยียดให้กับกองทัพ ไม่ว่าไล่มาตั้งแต่จีน รัสเซีย อิหร่าน โยงไปถึงฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ในเลบานอน ตามด้วยเกาหลีเหนือ หรือแม้แต่ประเทศเล็กๆ อย่างซีเรีย เวเนซุเอลา ฯลฯ ก็ยังไม่มีข้อยกเว้น ภายใต้ภาวะเช่นนี้...ทำให้ในช่วงปีค.ศ. 2015 หน่วยงานด้านการคิดการประเมินสถานการณ์ของอเมริกา คือหน่วยงาน “Think-Thank Assessment” ถึงกับต้องสรุปเป็นเอกสารรายงานไปถึงคณะรัฐบาลว่า “กองทัพสหรัฐฯ ไม่มีความพร้อมเพียงพอที่จะเปิดศึกพร้อมกันทั้ง 2 แนวรบ” แต่โดยข้อเท็จจริง...เมื่อมาถึง ณ ขณะนี้ กองทัพสหรัฐฯ ต้องแบกรับภารกิจในการเผชิญหน้ากับศัตรูไม่รู้กี่แนวรบต่อแนวรบ ล่าสุด...ก็เพิ่งกาหัวเกาหลีเหนือ ที่มี “บ้องข้าวหลามยักษ์” อยู่ในมือไปอีกจนได้...

http://m.manager.co.th/Daily/detail/9600000029810

 

“พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ” รับ ไทยแลนค์ 4.0 “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”สั่ง เดินหน้าเต็มตัว
โดย ผู้จัดการรายวัน 25 มีนาคม 2560 06:35 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มีนาคม 2560 09:30 น.)



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - รอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาล คสช.มีแอกชั่นเกี่ยวกับ “พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ” หลายเรื่องนอกจาก คำสั่ง แต่งตั้ง ให้นายสมคิด จาตุรศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็น ประธานคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ คนใหม่ สดๆ ร้อน ๆ

วันก่อนคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ “ต่อทีท่าไทยและกรอบการเจรจาสำหรับการเจรจาตราสารห้ามอาวุธนิวเคลียร์” ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ สาระสำคัญของตราสารห้ามอาวุธนิวเคลียร์และท่าทีไทยและแนวทางในการเจรจา ประกอบด้วย

1. ครอบคลุมประเด็นสำคัญเช่นเดียวกันกับอนุสัญญาด้านการลดอาวุธส่วนใหญ่ เช่นอนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี และอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (ไทยเป็นรัฐภาคีทั้ง 3 ฉบับ) ซึ่งจะเน้นการห้ามใช้ ผลิต จัดหา พัฒนา และครอบครองอาวุธและวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อการสงคราม หรือในทางมุ่งร้ายเท่านั้น โดยไม่ปิดกั้นแต่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อประโยชน์ในทางสันติและให้มีหลักประกันว่า รัฐภาคีจะไม่นำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องไปใช้ในทางที่ขัดต่ออนุสัญญา

2. ท่าทีไทยและแนวทางในการเจรจา จะครอบคลุมสาระสำคัญในประเด็นตามข้อ 1 โดยอิงกับพันธกรณีภายใต้สนธิสัญญา NPT สนธิสัญญากรุงเทพฯ และสนธิสัญญาระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่ไทยเป็นภาคี รวมทั้งขีดความสามารถ บริบทและผลประโยชน์ของไทย บนพื้นฐานของบรรทัดฐานระหว่างประเทศและหลักการสากล ซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ขจัดภัยคุกคามจากอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ปิดกั้นช่องทางมิให้ผู้ไม่ประสงค์ดีและกลุ่มก่อการร้ายนำไปก่อเหตุในทางมิชอบ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติ รวมทั้งไม่ขัดต่อนโยบายของรัฐบาลไทย

ย้อนกลับไปสองสัปดาห์ก่อน ครม.เห็นชอบ เดินหน้า “นโยบายและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศ พ.ศ.2560-2569” ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เสนอ

มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคมนานาชาติสำหรับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในประเทศไทย เพื่อก่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยจากการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ในภาวะปกติและให้มีมาตรการเผชิญภาวะฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี รวมทั้งเพื่อสร้างความเข้มแข็งของระบบการผลิตและพัฒนากำลังคนและโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเพื่อส่งเสริมให้สังคมไทยมีองค์ความรู้และเชื่อมั่นในความปลอดภัยด้านการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ โดยมี 4 ยุทธศาสตร์หลัก ดังนี้ 1) ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านพลังงานนิวเคลียร์ 2) การกำกับดูแลความปลอดภัยจากพลังงานนิวเคลียร์ 3) การผลิตและพัฒนากำลังคนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานนิวเคลียร์ และ 4) การใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อการพัฒนาประเทศ

ฉบับสุดท้าย เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ “ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ”

ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงดังกล่าว และให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม

สาระสำคัญของเรื่องนี้ ก็เพื่อการพัฒนาความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติกับสาธารณรัฐประชาชนจีนจะก่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานในด้านองค์ความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์การใช้พลังงานนิวเคลียร์สำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าและเป็นโอกาสอันดีที่ทรัพยากรบุคคลจากประเทศไทยจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีและมีประสบการณ์จริงในการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากประเทศไทยมีความจำเป็นต้องสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ โดยการเลือกใช้เทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ประเภทและเทคโนโลยีภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ จึงจำเป็นต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติสากล รวมทั้งแนวปฏิบัติของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ซึ่งทั้งสองประเทศต่างเป็นสมาชิก ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงร่วมกันจัดทำร่างความ ตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (Agreement Between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the People’ s Republic of China for Cooperation in the Peaceful Uses of Nuclear Energy) ขึ้น เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อให้การดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้ความร่วมมือข้างต้นมีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศอย่างเป็นทางการ

ทั้งหมดเป็นแผนต่อเนื่องมาหลายรัฐบาล เนื่องจากมีการอนุมัติงบประมาณเพื่อพัฒนาในการนี้ โดยเฉพาะตาม “แผนจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (NPIEP)” จากรัฐบาลในปี 2550 เช่น กรอบวงเงินงบประมาณในช่วง 3 ปีแรก (พ.ศ. 2551 - 2553) จำนวน 1,800 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจัดตั้งสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (สพน.)

ในสมัยนั้น มีการจัดตั้ง อนุกรรมการ ของ กพช. 6 ชุด จัดทำรายละเอียดแผนการดำเนินงานและแผนงบประมาณในช่วง 3 ปีแรก (พ.ศ. 2551-2553) ใช้งบประมาณ 1,345 ล้านบาท

เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นชอบแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2558-2579 (PDP2015) โดยในแผนมีการกำหนดให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวน 2 โรง ในปี 2569 และ 2570 จำนวนโรงละ 1,000 เมกกะวัตต์

ปลายปี 2558 รัฐบาลจุดประกายพลังงานทางเลือกอนุมัติ ร่าง พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์ พ.ศ...ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสนอ ให้ตั้งกรรมการดู แลมีนายกฯเป็นประธาน เน้นใช้เพื่อสันติไม่เกี่ยวอาวุธทหาร

เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายสมคิด ได้เรียกประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (คกก.พนส.) ครั้งแรกภายหลังพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1กุมภาพันธ์ 2560 โดยที่ประชุม วันนั้นได้เห็นชอบร่างกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามความพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2560 จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่

ร่างกฎกระทรวงกำหนดอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเครื่องกำเนิดรังสีเป็นเครื่องกำเนิดรังสี พ.ศ. ... ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. ... ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. ... ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบอนุญาตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ พ.ศ. ...

โดยนาย สมคิดให้นโยบาย ว่า เป้าหมายหลักคือ เน้นให้การใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสีมีความปลอดภัย มิให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เชื่อว่า จากนี้ไปเมื่อความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติระหว่างไทยและนานาประเทศ ที่กำลังจะมีการร่างขึ้นพัฒนาไปทางที่ดี กฎหมายอีกหลายฉบับก็จะออกตามมา เมื่อ นายสมคิด จาตุรศรีพิทักษ์ สั่งเดินหน้า “พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ” เพื่อรองรับ ยุค ไทยแลนค์ 4.0 “แหล่งพลังงานทางธรรมชาติและพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ”

ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นก่อนที่จะมีคำสั่ง คสช. 2 ฉบับ เรื่อง การตั้งกรรมการ อนุกรรมการ ฟังความเห็นสถานการณ์ไฟฟ้าภาคใต้ ช่วง 31 มี.ค.-28 เม.ย.60 นี้ ที่หัวหน้า คสช.ลงนามเมื่อ 16 มีนาคม 2560

http://www.manager.co.th/Weekend/ViewNews.aspx?NewsID=9600000030027

 

• 
  ข้อควรรู้!! ขับรถเกิดอุบัติเหตุ “ไม่มีใบขับขี่” แต่ประกันรถกับซ่อมรถให้
  
  โพสเมื่อ 25/03/2017 14:27 น.
  
  
  หลายคนคิดว่าขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ เรียกประกันมา ใบขับขี่ไม่มีทำไงดี ใบขับขี่จำเป็นต้องมีในกรณีเดียวคือ เมื่อเกิดเหตุแล้วรถเจ้าของประกันภัยต้องการซ่อมรถตัวเอง นอกนั้นไม่ต้องใช้ อาจไม่เห็นภาพนะครับลองมาดูกันต่อ
  ..................................
  *** รถมีปะะกันชั้น 1 แล้ว ไปชนรถหรือทรัพย์สินคนอื่น ไม่ว่าอะไรก็ตาม ประกันจะต้องรับผิดชอบคู่กรณีแทนท่านทุกกรณี ไม่ว่าท่านจะชนรถ ชนรั้วบ้าน ชนคน ชนอะไรก็ได้ที่เป็นทรัพย์สินของคนอื่น ไม่ว่าท่านจะมีใบขับขี่หรือไม่ ประกันต้องจ่ายหมด สิ่งที่แตกต่างระหว่าง มี กับไม่มี ใบขับขี่คือ...
  .................................
  ถ้าท่านไม่มีใบขับขี่ประกันจะไม่ซ่อมรถให้ท่านแค่นั้น ถ้าท่านขับรถไปชนท้ายเค้า แล้วมีใบขับขี่ประกันจะซ่อมรถให้ทั้ง 2 คัน แต่ถ้าไม่มีประกันจะซ่อมแต่รถคู่กรณีไม่ซ่อมรถท่าน กรณีที่ท่านเปิดเคลมแห้ง (ไม่มีคู่กรณี) ท่านที่มีชั้น 1 อยู่ อย่าปล่อยสิทธิให้เสียไป หากรถมีรอยขีดข่วน สะเก็ดหิน อยากได้สีใหม่ เพียงแค่ใช้บุคคลที่มีใบขับขี่ โทรแจ้งขอเคลมสีของท่านได้
  
  Advertisement
  ...............................
  *** รถมีประกันชั้น 2 -3 ธรรมดา ไม่ต้องกังวลใดๆ ท่านจะขับชนอะไรก็ตาม ไม่ต้องมีใบขับขี่ประกันต้องรับผิดชอบหมด ยกเว้นชั้น 2 กรณีรถหายหรือไฟไหม้จำเป็นต้องมี*** รถที่มีประกันชั้น 2-3 พลัส หรือ ประเภท 5 ลักษณะเดียวกับประกันชั้น 1 แต่จะแตกต่างตรงที่จะต้องเป็นรถชนรถ รถที่มีป้ายทะเบียนเท่านั้น จักรยาน ซาเล้ง ไม่เกี่ยว รถชนรถ มีใบขับขี่ก็ซ่อมทั้งคู่ ไม่มีก็ซ่อมเฉพาะทรัพย์ที่เราชน
  .............................
  2. เมาสุรากับประกันภัย ไม่ต้องกังวลใดๆครับ เงื่อนไข ของประกันภัย จะไม่รับผิดชอบให้ท่านต่อเมื่อท่านเมาในระดับแอลกอออล์เกิน 150 เพราะฉนั้นท่าท่านเมาไม่มากสิ่งที่ระวังคือตำรวจ พยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นโรงพัก การเป่าอลกอฮอล์ เมื่อเกิดเหตุ รุนแรงขนาดเข้าโรงบาล อย่าให้พยาบาลเจาะเลือดท่าน ถ้าไม่มีหลักฐานการตรวจประกันต้องจ่ายสถานเดียว จำไว้ถ้าท่าน ไม่เมาจนเกินลิมิตประกันจ่ายคุณแน่แต่ระวังข้อหาเมาแล้วขับก็พอ (ผมเคยเมาแล้วโดนเป่า ออกมาได้ 187 เรียกว่าขับรถไม่ได้แล้วครับ) ใบขับขี่ไม่ต้องซีเรียส โดนจับก็แค่ปรับ
  ...............................
  3. โดนชนแล้วหนีท่านที่มีประกันชั้น 1 หรือ 2--3 พลัส หากโดนชนแล้วหนีท่านต้องจำทะเบียนรถคันนั้นให้ได้ แล้วเตรียมใบขับขี่ ถ้าไม่มี ให้หาคนมีใบขับขี่เอาไว้แล้วไปแจ้งความที่ สน ท้องที่นั้น นำใบแจ้งความมาแล้วโทรแจ้งประกัน ประกันจะส่งพนักงาน เครมมาเครมให้ ถ้าท่านไม่ทราบเลขทะเบียนของคนที่ชนท่าน สำหรับประกันชั้น 1 ให้แจ้งเป็นชนโน่นชนนี่ไม่มีคู่กรณี ตามสภาพบาดแผลที่น่าจะเป็น สำหรับ 2-3 พลัส .... อดไป
  ...............................
  4. เลขทะเบียน เลขเครื่อง สีรถ ภาษีขาด อธิบายสั้นๆง่ายๆว่าประกันยึดถือเลขตัวถังรถเป็นหลัก ไม่ว่าป้ายไม่ตรง เลขเครื่องไม่ตรง สีไม่ตรง ภาษีขาดต่อ ไม่เกี่ยวข้อง กับประกันภัย ไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องกลัวประกันไม่จ่าย หากเลขตัวรถท่านตรงเป็นอัน แฮปปี้ ยกเว้นกรณีที่ประกันหาเลข ตัวถังรถท่านไม่เจอ ประกันอาจขูดเลขเครื่องของท่านแทน
  .....................
  5. ใบขับขี่โดนยึด หมดอายุ หายหากใบขับขี่โดนยึดให้แสดงใบสั่งแทน ประกันยึดถือแค่ว่าจะไม่คุ้มครองผู้ที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาติ เท่านั้น หากหมดอายุก็แสดงไปใช้ได้ไม่มีปัญหา หากโดนยึดก็แสดงใบสั่ง หากหายถ้ามีสำเนาก็แสดงสำเนาหรือหากไม่มีในวันนั้นในวันที่เอารถเข้าซ่อมก็เตรียมไปด้วยไม่งั้นอดซ่อม และหากหายและไม่มีสำเนาก็ไปทำมาซะแต่ตอนเกิดเหตุต้องแจ้งว่ามีไว้ก่อน ไม่ได้เอามาหรืออะไรก็ว่าไปมีเวลาเรื่อยๆจนกว่าท่านเอารถเข้าซ่อม
  .......................
  6.เวลาเกิดเหตุกลางถนนหากตกลงกันได้ว่าใครผิดใครถูก คนผิดยอมรับผิด ให้เคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุทันที อย่าไปจอดเกะกะชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องรอประกันมาถึง หากไม่รู้ใครผิดให้ตำรวจตัดสินแล้วย้ายรถออกได้ หรือไม่มีตำรวจหากบังเอิญพกสีสเปร์มา ให้พ่นตำแหน่งที่ล้อทั้ง 2 คัน และบริเวณหน้า+ท้าย+ข้างของรถทั้ง 2 คัน ไม่จำเป็นต้องไปโรงพักหากคุยกันได้ ยกเว้นการชนที่มีคู่กรณีมากกว่า 2 คัน ถึงต้องไปโรงพัก และคนที่ผิดต้องโดนปรับข้อหาขับรถโดยประมาท
  ......................
  7. ช่วงล่างกระแทกพัง แมกซ์ดุ้ง ยางระเบิด และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ประกันชั้น 1 ต้องจ่ายให้ท่านทุกกรณีแต่ต้องมีใบขับขี่ หากท่านมีอุปกรณ์ตกแต่งราคาแพงต้องการคุ้มครองกรณีสูญหายให้ท่านเตรียมใบเสร็จจากที่ร้านที่ท่านติดตั้ง เช่น แมกซ์ เครื่องเสียง แล้วโทรสอบถามเงื่อนไขการประกันภัย ให้ประกันเพิ่มสลักหลังคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งนั้นๆ ประกันจะคิดเบี้ยท่านเพิ่มแต่ไม่มาก แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องหายก็ไม่ต้อง เพราะหากแค่เสียหายก็ยังเหลือซากให้เห็นอยู่แล้ว ยางที่ถูกกระแทกจนระเบิดประกันจะจ่ายครึ่งเดียวครับ พวกยางแพงๆขอบ 19-20 ก็จัดไปส่วนที่เป็น 2-3 พลัส อดครับ เว้นแต่ความเสียหายนั้นสืบเนื่องมากจากการชนกับของรถที่มีทะเบียน -เช่น รถท่านโดนปาดหน้าจนเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ ตกคลอง กระแทกฟุตบาต แบบนี้ประกันก็ต้องวซ่อมให้ท่านครับไม่ใช่แค่แผลที่เกิดจากการปะทะระหว่างรถกับรถ
  .......................Advertisement
  8.ชั้น1เคลมสีรถแล้วจะเปลี่ยนสีสามารถทำได้ครับโดยให้แจ้งประกันว่าจะเปลี่ยนสี ประกันยึดหลักการว่า เกิดเหตุจริง ซ่อมจริง หากคุณจะเปลี่ยนสีก็ไม่ใช่ปัญหา
  .......................
  9.เคลมอะไหล่แล้วอยากเปลี่ยนเป็นอะไหล่แต่งสามารถทำได้ครับ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย กันชน สเกิร์ต โดยการเพิ่มเงิน ส่วนต่าง ถ้าอู่นั้นโอเคกับท่าน หรือมีอู่ที่ใช้ประจำก็ให้อู่ทำใบเสนอราคาแล้วนำรถไปที่บริษัทเพื่อคุมราคา (ตกลงราคา) แล้วก็จัดซ่อมเอง ทีนี้จะเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนโลด เสร็จแล้วประกันจะโอนเงินค่าซ่อมคืนให้กับท่าน
  .....................
  10.ทุกครั้งที่รับใบแจ้งความเสียหาย หรือใบเคลม ท่านต้องตรวจสอบความเสียหายให้ตรงตามจำนวนชิ้นให้แน่นอนก่อนเซ็นรับ ผิดถูกให้แย้งและแก้ไขในรายการทันที ไม่งั้นส่วนที่ไม่ได้ลงท่านต้องซ่อมเองนะ ในกรณีที่ในชิ้นนั้นมีบาดแผลมาก่อนไม่เกี่ยวกับเหตุครั้งนั้น ประกันจะวงเล็บว่า (แผลเก่า) แปลว่าประกันจะให้ครึ่งราคาเพราะชิ้นส่วนนั้นไม่สมูรณ์ประกันจะไม่รับผิดชอบเต็มท่านต้องร่วมจ่ายด้วย
  
  
  ขอขอบคุณสำหรับเนื้อหาจาก : Jirarat Nuanmai

http://kaijeaw.com/ข้อควรรู้-ขับรถเกิดอุบ-2/

 

กฏหมายควรรู้ ที่ดินและการสร้างบ้าน ตอนที่ 1
การมีบ้านซักหลังถือเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของหลายๆ คน และผู้ที่จะทำให้ความฝันของเราเป็นจริงนั้นก็คือ สถาปนิก ซึ่งจะเข้ามาช่วยเราในการกลั่นกรองความคิด ประติดประต่อความต้องการจนเกิดพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว

อีกหน้าที่ของผู้ออกแบบคือทำให้บ้านของเราสร้างออกมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และใช่ว่าเมื่อเราวางใจให้สถาปนิกทำหน้าที่เหล่านั้นแล้วเราจะไม่ต้องทำอะไรเลยครับ เราในฐานะเจ้าของบ้านก็ควรที่จะหาความรู้เพื่อให้สามารถพูดคุยกับผู้ออกแบบได้อย่างเข้าใจ และมีส่วนช่วยในการตัดสินใจอย่างเหมาะสมกับความต้องการของเราอีกด้วย สิ่งนั้นคือกฏหมายที่เรียกว่า กฎหมายควบคุมอาคาร
แต่อย่าเพิ่งตกใจไปครับเพราะถึงแม้กฏหมายเหล่านี้จะมีมากมายหลายข้อชวนให้ปวดหัว วันนี้เราจึงคัดเฉพาะกฏหมายที่ควรรู้เพียงไม่กี่ข้อ ซึ่งล้วนมีความสำคัญมานำเสนอเพื่อให้ท่านเจ้าของบ้านทุกท่านได้ถึงบางอ้อกันอย่างง่ายๆ ครับ
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

สถานที่ : อารียา โคโม่ บางนา-วงแหวนฯ

ส่วนที่ว่าด้วยเรื่องลักษณะอาคาร
1. ห้องแถว ตึกแถว หรือบ้านแถวที่สร้างติดต่อกัน ให้มีผนังกันไฟทุกระยะไม่เกิน 5 คูหา ผนังกันไฟต้องสร้างต่อเนื่องจากพื้นดินจนถึงระดับดาดฟ้าที่สร้างด้วยวัสดุถาวรที่เป็นวัสดุทนไฟ กรณีที่เป็นหลังคาสร้างด้วยวัสดุไม่ทนไฟให้มีผนังกันไฟสูงเหนือหลังคาไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร ตามความลาดของหลังคา
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

2. ห้องแถวหรือตึกแถวที่ด้านหน้าไม่ติดถนนสาธารณะ ต้องมีที่ว่างด้านหน้าอาคารอย่างน้อย 6 เมตร และยังต้องมีที่ว่างด้านหลังอาคารกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร โดยไม่ให้มีส่วนใดของอาคารยื่นลํ้าเข้าไป เว้นแต่บันไดหนีไฟภายนอกอาคารที่ยื่นได้ไม่เกิน 1.40 เมตร
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

3. บ้านแฝดต้องมีที่ว่างด้านหน้าและด้านหลังระหว่างรั้วหรือแนวเขตที่ดินกับแนวผนังอาคารกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตรและ2 เมตรตามลำดับ และมีที่ว่างด้านข้างกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

4. รั้วหรือกำแพงที่สร้างขึ้นติดต่อหรือห่างจากถนนสาธารณะน้อยกว่าความสูงของรั้ว ให้ก่อสร้างได้สูงไม่เกิน 3 เมตร เหนือระดับทางเท้าหรือถนนสาธารณะ
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

5. ห้องพักอาศัยต้องมีความสูงพื้นถึงพื้นชั้นถัดไปอย่างน้อย 2.60 เมตร ห้องแถวหรือตึกแถวชั้นล่าง ความสูงพื้นถึงพื้นชั้นถัดไปอย่างน้อยต้อง 3.50 เมตร ส่วนชั้นถัดไปให้สูง 3.00 เมตร และถ้าตึกแถวของเรามีความสูงจากพื้นถึงพื้นชั้นบนอย่างน้อย 5 เมตร สามารถทำชั้นลอยได้แต่เนื้อที่ชั้นลอยต้องไม่เกิน 40% ของพื้นที่ห้องทั้งหมด ระยะดิ่งระหว่างพื้นชั้นลอยถึงพื้นอีกชั้นหนึ่งต้องไม่น้อยกว่า 2.40 เมตร และระยะดิ่งระหว่างพื้นห้องถึงพื้นชั้นลอยต้องไม่น้อยกว่า 2.40 เมตร ด้วย
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

6. บันไดพักอาศัย ต้องกว้างอย่างน้อย 80 ซม. และแต่ละช่วงสูงไม่เกิน 3 เมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 20 ซม. ลูกนอนสูงไม่เกิน 22 ซม.
7. หากบันไดพักอาศัยของเราสูงเกิน 3 เมตร ต้องทำชานพักบันไดขนาดกว้างยาวไม่น้อยกว่าความกว้างของบันได
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

8. ห้ามให้มีส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารไม่ว่าเหนือดินหรือใต้ดินยื่นล้ำเข้าไปในพื้นที่สาธารณะ
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

แบบนี้ถูกต้อง
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

แบบนี้ผิด
หมายเหตุ : อ้างอิงจาก กฏกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ.2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
สำหรับตอนที่ 1 นี้ ขอฝากไว้แค่นี้ก่อน เยอะไปเดียวจะมึนกัน ... เห็นไหมครับว่ากฏหมายต่างๆ กำหนดออกมานั้น ก็ล้วนเพื่อความปลอดภัยของเราๆ ท่านๆ นั่นแหละครับ และก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจได้ยากเย็นอะไรเลย จริงไหมครับ

http://www.forfur.com/แต่งบ้าน/กฏหมายควรรู้เรื่องที่ดินและการสร้างบ้าน-ตอนที่-1

 

กฏหมายควรรู้เรื่องที่ดินและการสร้างบ้าน ตอนที่ 2
วันนี้เรามาลองดูกันต่อในเรื่องของกฏหมายควรรู้สำหรับคนอยากมีบ้าน ครั้งก่อนเราว่ากันไปเรื่องลักษณะอาคาร และพื้นที่ว่าอย่างไหนทำได้อย่างไหนทำไม่ได้กันไปแล้ว ก็คงจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจข้อกำหนดต่างที่มีใช้บังคับในการสร้างบ้านหรืออาคารพักอาศัย ไปพอสมควร

อ่านบทความตอนที่ 1 ได้ที่นี่ กฏหมายควรรู้เรื่องที่ดินและการสร้างบ้าน ตอนที่ 1
ส่วนของเนื้อหาตอนนี้จะว่ากันเรื่องของระยะร่นของอาคาร แล้วระยะร่นมันคืออะไร ลองมาทำความเข้าใจคำนี้กันครับ ระยะร่นก็คือระยะทางจากแนวเขตที่ดินของเราไปจนถึงจุดที่เราจะก่อผนังบ้านได้นั่นเอง เมื่อเข้าใจแล้วก็ลองมาดูพร้อมๆกันเลยว่ากฏหมายในวันนี้จะสนุกซักแค่ไหน
ส่วนที่ว่าด้วยเรื่องระยะร่นอาคาร
1. อาคารพักอาศัยต้องมีพื้นที่ว่างรอบอาคารไม่น้อยกว่า 30% แต่ถ้าเป็นอาคารพาณิชย์ก็เว้นพื้นที่ว่างแค่ 10% ก็พอ
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

2. สามารถสร้างอาคารได้สูงไม่เกิน 2 เท่าของเขตทางสาธารณะ (ถนนรวมทางเท้า)
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

3. ในกรณีที่ทางสาธารณะกว้างน้อยกว่า 6 เมตร ต้องมีระยะร่นจากกึ่งกลางถนน อย่างน้อย 3 เมตร
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

4. ในกรณีที่ทางสาธารณะกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ต้องมีระยะร่นจากกึ่งกลางถนน อย่างน้อย 6 เมตร
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

5. ในกรณีที่ทางสาธารณะกว้าง 10 เมตร แต่ไม่เกิน 20 เมตร ต้องมีระยะร่นจากแนวถนนเป็น 1 ใน 10 ส่วนของความกว้างถนน
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

6. ในกรณีที่ทางสาธารณะกว้างกว่า 20 เมตร ขึ้นไปต้องมีระยะร่นจากแนวถนนอย่างน้อย 2 เมตร
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

7. กรณีที่ต้องการเจาะช่องเปิดให้อาคารเช่นหน้าต่างหรือประตูออกระเบียง
1) อาคารที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร ผนังหรือระเบียงของอาคารต้องอยู่ห่างจากผนังหรือระเบียงของอาคารอื่นที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร ไม่น้อยกว่า 4 เมตร
2) อาคารที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร ผนังหรือระเบียงของอาคารต้องอยู่ห่างจากผนังหรือระเบียงของอาคารอื่นที่มีความสูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ไม่น้อยกว่า 5 เมตร
3) อาคารที่มีความสูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ผนังหรือระเบียงของอาคารต้องอยู่ห่างจากผนังหรือระเบียงของอาคารอื่นที่มีความสูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ไม่น้อยกว่า 6 เมตร
4) หากผนังอาคารเป็นผนังทึบ
4.1- หากผนังอาคารก่อสร้างชิดเขตที่ดิน สามารถสร้างอาคารได้สูงไม่เกิน 15 เมตร หากอาคารมีดาดฟ้าต้องทำเป็นผนังทึบสูงจากพื้นดาดฟ้าไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นลายลักษ์อักษรจึงจะก่อสร้างได้
4.2- หากผนังห่างจากแนวเขตที่ดินอย่างน้อย 50 ซม.สามารถสร้างอาคารได้สูงไม่เกิน 23 เมตร หากอาคารมีดาดฟ้าต้องทำเป็นผนังทึบสูงจากพื้นดาดฟ้าไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร โดยสามารถสร้างอาคารได้เลยไม่ต้องมีหนังสือยินยอมจากที่ดินข้างเคียงครับ
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

8. กรณีสร้างอาคารใกล้แหล่งน้ำสาธารณะ เช่น คลอง ลำราง ถ้าแหล่งน้ำเหล่านั้นกว้างน้อยกว่า 10 เมตร อาคารต้องห่างจากแหล่งน้ำอย่างน้อย 3 เมตร แต่ถ้าแหล่งน้ำกว้างตั้งแต่ 10 เมตร ต้องมีระยะร่นจากแหล่งน้ำ 6 เมตร
แต่สำหรับแหล่งน้ำขนาดใหญ่เช่น ทะเลสาบ ทะเล หรือบึงน้ำ ต้องมีระยะร่นไม่น้อยกว่า 12 เมตร และต้องดูกฏหมายพิเศษเฉพาะของบริเวณนั้นประกอบด้วย
การสร้างบ้านขั้นตอนการสร้างบ้านกฎหมายควบคุมอาคาร

9. กรณีก่อสร้างอาคารไกล้อาคารอื่นในที่ดินเดียวกัน อาคารใหม่ที่สูงไม่เกิน 9 เมตร ต้องสร้างห่างอาคารอื่นอย่างน้อย 4 เมตร และถ้าอาคารใหม่สูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่เกิน 23 เมตรให้สร้างหากจากอาคารเดิม 6 เมตร
หมายเหตุ : อ้างอิงจาก กฏกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ.2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
เอาไว้แค่นี้ก็คงเพียงพอครับสำหรับกฏหมายที่เราๆควรรู้ก่อนจะเริ่มสร้างบ้านกัน ที่เหลือหากอ่านแล้วติดใจก็ลองเข้าไปอ่านได้ใน เว็บไซต์ ของสมาคมสถาปนิกสยาม ซึ่งจะมีข้อมูลให้เราศึกษาอย่างครบถ้วน

http://www.forfur.com/แต่งบ้าน/กฏหมายควรรู้เรื่องที่ดินและการสร้างบ้าน-ตอนที่-2

 

ปอกเปลือก ทรราช
ประชาธิปไตยแบบแอร์โดกัน: ตุรกีเรียกเอกอัครราชทูตสวีสไปต่อว่าหลังทางการสวีตเซอร์แลนด์อนุญาตให้ม็อบเคิร์ดเดินขบวนต่อต้านแอร์โดกันในกรุงเบิร์น
----------

กระทรวงต่างประเทศตุรกีได้เรียกเอกอัครราชทูตสวีสประจำกรุงอังการาเข้าไปต่อว่ากรณีมีการประท้วงในกรุง Bern โดยพุ่งเป้าหมายไปที่นาย Recep Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีของตุรกี การประท้วงครั้งนี้จัดขึ้นโดยกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเคิร์ดในสวิตเซอร์แลนด์

ทางการของตุรกีได้กล่าวกับนาย Walter Haffner เอกอัครราชทูตของสวีตเซอร์แลนด์ว่าหวังว่าทางการสวิสจะนำพวกแกนนำผู้ประท้วงเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเพื่อป้องกัน "เหตุการณ์" เช่นนั้นไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตอีก

"พวกเรากำลังทำการประท้องต่อการเดินขบวนในครั้งนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการโปรโมทความรุนแรงและขบวนการก่อการร้าย แต่ก็กลับได้รับอนุญาตให้จัดขึ้น และเราก็ให้สวิตเซอร์แลนด์ดำเนินการทางกฎหมายต่อการกระทำความผิดนี้ในทันที" กระทรวงต่างประเทศตุรกีออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 25 มีนาคม อ้างข่าวโดยหนังสือพิมพ์ Hürriyet Daily News ของตุรกี

มีประชาชนประมาณ 3,000-5,000 คนเข้าร่วมการเดินขบวในใจกลางกรุงเบิร์นเมื่อวันเสาร์นี้ สื่อสวีสรายงาน โดยอ้างข้อมูลจากแกนนำม็อบ กลุ่มผู้ประท้วงเดินขบวนผ่านกลางเมืองและไปหยุดที่หน้าอาคารรัฐสภา กลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้พากันตะโกนสโลแกนต่อต้านประธานาธิบดีแอร์โดกันหลายวลี และชูป้ายที่มีข้อความว่า "For Democracy in Turkey" (เพื่อประชาธิปไตยในตุรกี) และยังได้คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มอำนาจให้แอร์โดกันที่จะจัดขึ้นเดือนเมษายนนี้

ทางการตุรกียืนยันว่าม็อบที่จัดขึ้นหน้าอาคารรัฐสภาสวิตเซอร์แลนด์นั้น จัดโดยพวกแกนนำของพรรค Kurdistan Workers’ Party (PKK) และพรรค Revolutionary People’s Liberation Party/Front (DHKP-C)

สื่อสวิสรายงานว่า การเดินขบวนในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆราว 30 กว่าองค์กรซึ่งรวมทั้งพรรค Swiss Social Democratic และ Green Party และกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเคิร์ดด้วย

วันที่ 26 มี.ค.60 สำนักข่าว Sputnik รายงานว่า นางสาว Zehra Dogan ศิลปินชาวเคิร์ดถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 9 เดือนหลังจากวาดภาพล้อเลียนการทำลายล้างหมู่บ้านชาวเคิร์ดแห่งหนึ่งในประเทศตุรกี

วันที่ 26 มี.ค.60 RT รายงานว่า ประธานาธิบดีแอร์โดกันประกาศว่ากำลังวางแผนจะทำประชามติแบบเบรกซิต (Brexit-like) ว่ากรุงอังการาควรจะเดินหน้ากระบวนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปต่อไปอีกหรือไม่ ท่ามกลางความร้าวฉานกับกลุ่มประเทศหุ้นส่วนตะวันตก

ปธน.แอร์โดกันกล่าวว่า "พวกคุณ [อังกฤษ] ได้กระทำการตัดสินใจด้วย Brexit… พวกเราจะทำประชามติในวันที่ 16 เมษาชนนี้ หลังจากนี้พวกเราก็อาจจะทำประชามติเหมือนกับ Brexit ในการเจรจา (กับอียู) ก็ได้" อ้างคำพูดโดยสำนักข่าว Anadolu ของรัฐบาลตุรกี

[แหม… นี่ขนาดว่ายังไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ประชาธิปไตยของตุรกียังใหญ่คับฟ้าขนาดนี้ ถ้าอียูให้ตุรกีเข้าร่วมแก๊งด้วย ตุรกีจะเบ่งขนาดไหนหละนี่?

วันที่ 24 มี.ค.60 สุลต่านแอร์โดเกรียนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNN-Turk และ Kanal D ของตุรกีว่า "เอาแบบนี้เป็นไง พวกคุณมีสิทธิ์เรียก แอร์โดกันว่า 'จอมเผด็จการ' (dictator) แต่ แอร์โดกันกลับไม่มีสิทธิ์เรียกพวกคุณว่าเป็นพวกฟาสซิสต์และนาซีอย่างนั้นรึ?... พวกเขาพากันกล่าวหาผม จากนั้นพวกเขาก็เรียกแอร์โดกันว่าเป็นจอมเผด็จการ ดังนั้น ผมก็จะเดินหน้าตราหน้าพวกนั้นด้วยคำพูดเหล่านั้น (ฟาสซิสต์และนาซี) เช่นกัน" AFP ของฝรั่งเศสรายงาน - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
27/03/2560
------------
https://www.rt.com/news/382382-turkey-switzerland-ambassador-rally/
http://www.hurriyetdailynews.com/tu...ern-.aspx?pageID=238&nID=111250&NewsCatID=510
https://sputniknews.com/society/201703261051967452-kurdish-painter-jailedthree-years/
http://aa.com.tr/en/europe/erdogan-turkey-may-have-brexit-like-referendum-on-eu/779710
https://www.rt.com/news/382322-erdogan-turkey-eu-brexit-referendum/
https://www.rt.com/news/382127-erdogan-nazi-taunts-dictator/
https://www.yahoo.com/news/erdogan-ill-keep-nazi-taunts-im-called-dictator-221451768.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
อีกครั้งที่พวกกบฏฝ่ายค้านซีเรียและผู้ก่อการร้ายรบแพ้และขอย้ายไปอยู่ที่อื่นโดยไม่ยอมปลดอาวุธ
----------

ครอบครัวโจรต่างชาติ รับจ้างทำลายซีเรีย กลุ่มผู้ก่อการร้ายในนาม "กบฏฝ่ายค้านซีเรีย" ประมาณ 1,300 คนที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศชเช่นสหรัฐ อียู ซาอุดิอาระเบีย การ์ตา และอิสราเอล กำลังอพยพออกจากเมือง al-Waer จังหวัด Homs เมื่อวันจันทร์นี้ หลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับทางการซีเรีย โดยมีรัสเซียเป็นคนกลางและประสานงาน

แหล่งข่าวรายงานว่า มีผู้หญิง 387 คน และเด็กๆประมาณ 460 คน กลุ่มก่อการร้ายประมาณ 436 คนได้เดินทางออกจากเมือง al-Waer โดยนำอาวุธต่างเช่น ปืนไรเฟิลจู่โจม 50 กว่ากระบอก สไนเปอร์ 5 กระบอก ปืนพกสั้น 24 กระบอกติดตัวไปด้วย

วันที่ 13 มีนาคม 2560 ทางการซีเรียและกลุ่มผู้ก่อการร้ายในจังหวัด Homs ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันโดยมีรัสเซียเป็นผู้รับประกัน ซึ่งตามข้อตกลงในครั้งนี้ พวกผู้ก่อการร้ายและครอบครัวยินยอมที่จะทะยอยย้ายออกไปจากจังหวัด Homs โดยมีกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียรับประกันความปลอดภัยตลอดเส้นทาง

วันที่ 18 มีนาคม 2560 พวกผู้ก่อการร้าย 1,400 กว่าคนซึ่งรวมทั้งสมาชิกในครอบครัวด้วยได้ย้ายออกจากเมือง al-Waer ไปยังเมือง Jarablus ทางเหนือของจังหวัด Aleppo ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกองกำลัง FSA ภายใต้การสนับสนุนของตุรกี

[จากนั้นบางส่วนก็จะเดินทางกลับเข้าไปในตุรกี และกลับประเทศของตนเอง ส่วนมากแล้วพวกที่อ้างว่าตนเองเป็น "กบฏฝ่ายค้านสายกลาง" เหล่านี้ แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่คนซีเรีย เป็นชาวต่างชาติที่รับจ้างเข้าไปก่อสงครามในซีเรียและยึดบ้านเรือนที่ทำมาหากินของประชาชนชาวซีเรีย

หลังจากตุรกีและสหรัฐขัดแย้งกันมากขึ้นในพื้นที่ทางเหนือของอะเลปโป และสหรัฐก็ร่วมถล่มพวกผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ที่จังหวัด Idlib ด้วย พวกนี้ไม่กล้าอพยพครอบครัวของตัวเองไปที่จังหวัด Idlib เหมือนครั้งก่อนๆอีก แต่เบนเข็มไปที่เมือง Jarablus เขตอิทธิพลของตุรกีแทน อาจจะไปเสริมทัพให้กับฝ่ายตุรกีที่กำลังรบกับพวกเคิร์ดซึ่งมีสหรัฐสนับสนุนในพื้นที่ดังกล่าวก็ได้

ข้อสังเกต: ตอนที่รบกันพวกนี้และครอบครัวสามารถอยู่ในเมือง al-Waer นี้ได้ แต่พอยุติการสู้รบและรัฐบาลซีเรียก็พร้อมจะนิรโทษกรรมให้ กลับไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ ไม่ใช่เพราะว่าถูกทางการซีเรียและรัสเซียขับไล่ออกจากพื้นที่ แต่เพราะว่าพวกนี้ไม่มีความชอบธรรมที่จะเข้าไปอยู่อาศัยในอาคารบ้านเรือนที่ไม่ใช่ของตัวเอง จึงต้องรีบพากันย้ายออกไป แต่ในขณะเดียกวันก็ยังมีประชาชนชาวซีเรียในพื้นที่จำนวนมาก ไม่ยอมย้ายออกไปตามพวกผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นด้วย และยินดีร่วมมือกับฝ่ายรัฐบาลซีเรีย

ดูซิว่าอาชีพรับจ้างก่อการร้าย รับจ้างเป็นกบฏซีเรีย มันสร้างรายได้ดีขนาดไหน ถึงกับพากันทำกันเป็นครอบครัวเลย - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
27/03/2560
------------
https://sputniknews.com/middleeast/201703271052002946-al-waer-militants-leaving-homs/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ฝีมือสหรัฐอีกแล้ว! เอกอัครราชทูตสหรัฐเรียกร้องให้ทางการเบลารุสปล่อยตัวแกนนำม็อบเติมเงินขี้ข้าอเมริการับจ้างป่วนชาติ
----------

วันที่ 26 มี.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐต้องการให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมชาวเบลารุสซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐที่ถูกคุมขังในทันที" (US Demands Immediate Release of Detained Belarusian Activists It Helped Fund)

เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประจำเบลารุสกำลังเรียกร้องให้ทางการเบลารุสปล่อยตัวบรรดาผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมเนื่องจากรวมตัวกันเดินขบวนประท้วงในกรุงมินส์กโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันลังได้มีการเปิดเผยว่า องค์กรให้ความช่วยเหลือของสหรัฐ (USAID) ได้เพิ่มงบประมาณค่าใช้จ่าย "การสนับสนุนประชาธิปไตย" ในประเทศเบลารุสหลายพันล้านเหรียญ

[จะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ หรือมากน้อยแค่ไหน เขาวัดกันที่เงินนะครัช! นางฮิลลารี่ คลินตัน พรรคเดโมแครทของสหรัฐพ่ายแพ้ให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุด สหรัฐโวยวายว่าเกิดจากการที่แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐโดยรัสเซีย สื่อรัสเซียนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการประท้วงและการเลือกตั้งในสหรัฐ สหรัฐบอกว่าสื่อรัสเซียแทรกแซงการเมืองสหรัฐ

แต่ในขณะเดียวกันสหรัฐเดินหน้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น โดยการทุ่มเงินไม่อั้น แต่อ้างว่าเพื่อ "สนับสนุนประชาธิปไตย" ตรรกะที่บิดเบี้ยวลักษณะนี้ต้องยกให้เขาหละ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันเสาร์นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเบลารุสได้จับกุมกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคน (คล้ายกับที่รัสเซีย) หลังจากพวกนักกิจกรรมฝ่่ายค้านพยายามจัดการเดินขบวนประท้วงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการในใจกลางกรุงมินส์ก เมืองหลวงของเบลารุส

กลุ่มองค์กรด้านสิทธิ์มนุษยชน (เติมเงิน) กล่าวว่ามีประชาชนประมาณ 700 คน (พวกขี้ข้าอเมริกา?) ถูกจับกุม และยังไม่ได้รับการปล่อยตัวในวันอาทิตย์ประมาณ 100 คน ส่วนพวกที่ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว บางคนถูกดำเนินคดีในข้อหามีส่วนร่วมในการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาต บางคนถูกปล่อยตัวโดยไม่ได้มีการดำเนินคดี

ในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์นี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐกล่าวว่า "รู้สึกมีความเป็นกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง" (deep concern) กับการที่รัฐบาลเบลารุสไม่อนุญาตให้มีการประท้วงโดยสันติในกรุงมินส์กเนื่องในการรำลึกถึง "วันเสรีภาพ" (Freedom Day) ประจำปี

รายงานข่าวกล่าวต่ออีกว่า การแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ (ของเอกอัครราชทูตสหรัฐ) เกิดขึ้นหลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการใช้กำลังต่อผู้คุมขัง แถลงการณ์ของสหรัฐเน้นย้ำว่า "ทางการได้จับกุมกลุ่มผู้ประท้วงโดยสันติเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน และและบรรดาผู้สื่อข่าว ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดคุณค่าพื้นฐานของประชาธิปไตย"

"สหรัฐจะเดินหน้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และขอเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศเบลารุสปล่อยตัวผู้ประท้วงโดยสันติ นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน และนักข่าว ทั้งหมดในทันที เพื่อรับประกันสิทธิต่างๆของพลเมืองในการชุมนุมอย่างสันติเสรีภาพในการพูด และเพื่อรักษาพันธกรณีระหว่างประเทศ" แถลงการณ์จากสถานทูตสหรัฐกล่าว

["สหรัฐจะเดินหน้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป" นั่นคือ "ภาษาทางการทูต" ส่วนภาษาชาวบ้านทั่วไปแปลว่า "เราจะเดนหน้าแทรกแซงประเทศของคุณต่อไป"

วันที่ 27 มี.ค. 60 Sputnik รายงานว่า "ตำรวจรัฐแคลิฟอร์เนียจับกุมประชาชน 6 คนหลังเกิดเหตุการปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีทรัมป์" (California Police Arrest 6 After Clashes Between Trump Supporters, Opponents) สื่อท้องถิ่นรายงาน สถานีโทรทัศน์ NBC รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงที่โยนกำปั้นใส่กัน และมีการใช้สเปรย์พริกไทยโดยผิดกฎหมายด้วย ตำรวจคาดว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ประมาณ 2,000 คน

อ้าวเอ้ยยยย! ทูตอเมริกาประจำกรุงมินส์กครับ ท่านไม่คิดจะร้องขอหรือสั่งให้รัฐบาลสหรัฐ "ปล่อยตัวผู้ประท้วง" ในประเทศสหรัฐอเมริกาในทันทีบ้างรึ? ไม่คิดจะประณามรัฐบาลของตนเองที่จับกุมกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยบ้างรึ?

มีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจระหว่าง เบลารุสกับรัสเซียก็คือ มีการชุมนุมประท้วงโดยนักการเมืองฝ่ายค้านในหลายเมืองทั่วรัสเซีย และก็กลุ่มผู้ประท้วงและพวกนักกิจกรรมถูกจับกุมหลายร้อยคน การประท้วงครั้งนี้อ้างเพื่อต่อต้านการคอรัปชั่นของนายกรัฐมนตรีดิมิทรี เมทเวเดฟ ของรัสเซีย สหรัฐก็รีบเสนอหน้าออกมาเรียกร้องแบบเดียวกับที่กระทำในเบลารุสนั่แหละ

เจ้าหน้าที่ตำรวจรัสเซียตรวจค้นร่างกายของผู้ประท้วงบางคนที่สวมชุดลายพรางเหมือนทหาร พบอาวุธปกพกด้วย แล้วก็ยึดอาวุธ และลากตัวออกไปจากกลุ่มผู้ชุมนุม ถ้าตำรวจจับไม่ได้ และเกิดเหตุการณ์โป้งป้างขึ้นมา ก็อาจจะมีบางคนรีกออกมาชี้นิ้วไปทางฝ่ายรัฐบาลว่า เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ พฤติกรรมแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศ รวมทั้งที่ยูเครนด้วย จนเหตุการณ์บานปลายลุกลามไปสู่การเผาบ้านเผาเมืองและยึดอำนาจในที่สุด

รายงานข่าวล่าสุดบอกว่านาย Alekesei Navalny ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายค้านที่ปลุกระดมการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศรัสเซียในครั้งนี้ถูกปรับและถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 15 วัน RT รายงาน สาเหตุที่ตำรวจจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงบางคนก็เพราะว่า การประท้วงในหลายจุดเกิดขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ มีการยื่นขอการจัดการชุมนุมประท้วงต่อทางการ แต่ทางการรัสเซียปฏิเสธ และแนะนำให้ไปจัดชุมนุมยังจุดอื่น แต่กลุ่มผู้ประท้วงไม่ยินยอม ตำรวจจึงรวบตัวแกนนำ โดยส่วนตัวเชื่อว่านี่เป็น "เกมการเมือง" ของพวกฝ่ายค้านรัสเซีย ส่วนจะได้รับการสนับสนุนทางเงินจากสหรัฐและอียูเหมือนในเบลารุสหรือไม่นั้น ยังไม่มีรายละเอียด - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
28/03/2560
------------
https://sputniknews.com/politics/201703261051981691-belarus-protests-us-demands-release/
https://sputniknews.com/us/201703271051986832-cali-police-arrest-rally-clashes/
https://sputniknews.com/europe/201703221051836310-us-belarus-activists/
https://www.rt.com/usa/382377-trump-rally-violence-california/
https://www.rt.com/news/382342-opposition-protest-russia-police/

 

ปอกเปลือก ทรราช
กรุงปักกิ่งเรียกร้องให้ฝรั่งเศสรับประกันความปลอดภัยให้กับชาวจีนในฝรั่งเศสหลังตำรวจฝรั่งเศสยิงชายสูงวัยชาวจีนเสียชีวิตหนึ่งคน จนนำไปสู่การลุกฮือจากชุมชนชาวจีนเพื่อต่อต้านความรุนแรงของตำรวจในกรุงปารีส
----------

วันที่ 27 มี.ค.60 RT พาดหัวข่าวว่า "เกิดการประท้วงและจัดเวรยามเฝ้าระวังต่อต้านความโหดร้ายป่าเถื่อน หลังชายคนหนึ่งถูกสังหารโดยตำรวจในกรุงปารีสจนนำไปสู่ความรุนแรง" (Anti-brutality protest & vigil for man killed by Paris cops turns violent (VIDEOS))

วันเดียวกันนี้ RT รายงานการตอบโต้จากทางการจีีนโดยพาดหัวข่าวว่า "กรุงปักกิ่งเรียกร้องการักษาความปลอดภัยให้กับชาวจีนในฝรั่งเศสหลังการเสียชีวิตของชาวจีนคนหนึ่งจนนำไปสู่การก่อจลาจลในกรุงปารีส" (Beijing demands safety for nationals in France after Chinese man's death sparks Paris riot)

กระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่าได้เรียกเจ้าหน้าที่ทางการทูตของฝรั่งเศสเข้าไปพบ หลังชายเชื้อสายจีนคนหนึ่งถูกฆ่าโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงปารีส เหตุการณ์ดังกล่าวได้จุดชนวนการรวมตัวกันประท้วงด้วยความรุนแรง ซึ่งผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นชาวเอเซีย และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

นาง Hua Chunying โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศของจีนประกาศว่า เจ้าหน้าที่ทางการทูตของฝรั่งเศสได้ถูกเรียกตัวเข้าไปพบในขณะที่กำลังมีการแถลงข่าวประจำวัน สื่อจีนและรอยเตอร์สรายงาน

นาง Hua Chunying ได้ขอให้ทางการฝรั่งเศสทำการสืบสวนเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างละเอียด และรับประกันความปลอดภัยให้กับคนเชื้อสายจีนบนแผ่นดินฝรั่งเศสด้วย

ต่อมา ในวันอังคารรอยเตอร์สรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสได้เปิดเผยการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ และได้รับการยืนยันจากแห่งข่าวในสถานทูตของจีนในกรุงปารีสต่อสำนักข่าวซินหัวของจีนด้วย

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สถานทูตจีนเปิดเผยแถลงการณ์ที่มีการเรียกร้องให้ตำรวจฝรั่งเศสทำความเข้าใจกับสถานการณ์ และให้ทำความจริงให้กระจ่างโดยเร็ว สถานทูตกล่าวเพิ่มเติมว่า กำลังเตรียมการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับฝ่ายฝรั่งเศสเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ คณะทูตของจีนได้ส่งคณะผู้แทนไปพบกับครอบครัวของเหยื่อเพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซื้ง

นาย Shaoyo Liu อายุ 56 ปี เป็นคนเชื้อสายจีน ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์โดยตำรวจหน่วย BAC (Anti-Crime Brigade) ซึ่งเดินทางไปถึงบ่้านของผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับเรื่อง "การทะเลาะกันในครอบครัว" (family dispute) ในตอนเย็นวันอาทิตย์

ตำรวจฝรั่งเศสกล่าวว่า เจัาหน้าที่คนหนึ่งได้ยิงนาย Liu เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง (self defense) โดยกล่าวว่านาย Liu ถือกรรไกรในมือ อย่างไรก็ตามฝ่ายครอบครัวของผู้ตายกล่าวว่า นาย Liu กำลังชำแหละปลาอยู่ในขณะที่ตำรวจมาถึง

"น้องสาวคนเล็กของฉันได้ยินเสียงเคาะประตู: เธอมองผ่านรูที่ประตูและเห็นชายสองคนและผู้หญิงหนึ่งคนพร้อมอาวุธ" Isabelle Liu ลูกสาวของเหยื่อกลาวกับสำนักข่าว Le Parisien "พ่อของฉันเดินมาที่ประตูพร้อมกับกรรไกรที่เขาใช้ชำแหละปลาเพื่อทำอาหาร... [จากนั้น] ตำรวจก็พังประตูเข้ามาและก็ยิงเขา"

ในตอนเย็นวันจันทร์ มีประชาชนราว 150-200 คน ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนจากชุมชนชาวเอเซีย ได้รวมตัวกันที่ท้องถนนในเขต 19 ของกรุงปารีสเพื่อร่วมแสดงความเสียใจกับนาย Shaoyo Liu ซึ่งตามรายงานข่าวบอกว่ามีลูกห้าคน

จากนั้นก็เกิดการปะทะกันขึ้นมาระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วง ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นายจากการปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วง มีผู้ถูกจับกุม 35 คน ตำรวจกล่าว อ้างข่าวโดยสำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส รถยนต์คันหนึ่งของตำรวจ และรถยนต์ส่วนบุคคลอีก 3 คันถูกเผา AFP รายงาน

[คนจีนทะเลาะกันในครอบครัว อาจจะเป็นเพื่อนบ้านโทรเรียกตำรวจมา หัวหน้าครอบครัวที่มีปากมีเสียงกันกำลังทำอาหารเลี้ยงครอบครัวโดยใช้กรรไกร ฟังดูก็แปลกๆอยู่นะกับการใช้กรรไกรแล่ปลา มีเสียงเคาะที่ประตู ตำรวจพร้อมอาวุธพังประตูเข้าไป ชายสูงวัยที่กำลังทำครัวอยู่ถือกรรไกรเดินออกมาดู ตำรวจเห็นว่าเขาพกอาวุธอยู่ในมือ (กรรไกร) จึงยิงเขาทันทีด้วยความตกใจเมื่อเห็นกรรไกร กรรม! ปารีสปลอดภัย ไว้ใจตำรวจฝรั่งเศสดิ! - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
29/03/2560
------------
https://www.rt.com/news/382557-china-summons-france-citizen-death/
https://www.rt.com/news/382498-paris-police-vigil-clashes/
http://www.reuters.com/article/us-china-france-idUSKBN16Z0VP
http://www.reuters.com/article/us-china-france-idUSKBN16Z0VP?il=0
http://news.xinhuanet.com/english/2017-03/28/c_136162399.htm

 

ปอกเปลือก ทรราช
แม่เจ้าโว้ยยยยย! ประชาธิปไตยแบบอเมริกันขนานแท้... ม็อบต่อต้านทรัมป์พากันควงปืนไรเฟิลประหนึ่งว่ากำลังจะเข้าสู่สนามรบในตะวันออกกลาง ในรัฐ Arizona ประเทศไหนจะเป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพมากกว่ากันเขาวัดกันที่อาวุธของกลุ่มผู้ประท้วงนะครัช... มีสันติภาพ เสรีภาพ และประชาธิปไตยแบบอเมริกันมาแจก เอาซักเม็ดไหมพี่น้อง? นายทรัมป์! คืนประชาธิปไตยของพวกเรามาซะโดยดี.... (28 มี.ค.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ประชาชนชาวเยเมนนับล้านรวมพลังต่อต้านการรุกรานจากชาติอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียซึี่งมีสหรัฐและอังกฤษหนุนหลัง แต่สื่อกระแสหลักของตะวันตกเงียบกริ๊บ (27 มี.ค.60)
--------------

ทหารคุณหนูซาอุดิอาระเบียเจอของจริงจากนักรบฮูติอีกแล้ว รอบนี้ฮูติยิงจรวดต่อต้านรถถังทำลายพาหนะทางทหารของฝ่ายซาอุดิอาระเบียในจังหวัด Asir ประเทศซาอุดิอาระเบียได้อีกสองคัน (27 มี.ค.60)
------------

เมื่อนักรบฮูติบุกรังของกองทัพซาอุดิอาระเบียในจังหวัด Jizan ประเทศซาอุดิอาระเบีย แม้ว่าจะไม่มีเครื่องบินรบสำหรับโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของทหารฝ่ายซาอุดิอาระเบีย แต่การรบภาคพื้นดินของเหล่านักรบฮูติและกองทัพเยเมนก็มีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าการโจมตีทางอากาศจากฝ่ายข้าศึกเลย (27 มี.ค.60)
-------------

.

 

ปอกเปลือก ทรราช
คลิปข่าว การจลาจลตำรวจฝรั่งเศสปะทะกับม็อบชาวจีนและเอเซียในกรุงปารีส หลังตำรวจยิงชายสูงวัยชาวจีนเสียชีวิตในบ้านของเขาเพราะว่าเขาถูกกรรไกรอยู่ในมือในขณะที่ตำรวจพังประตูเข้าไป (27 มี.ค.60)
------------

เขาใช้กรรไกรกับปลาเพื่อทำอาหารจริงๆด้วย ตำรวจฝรั่งเศสเห็นคนจีนถือกรรไกรทำครัว คงนึกว่าเป็น "อั้งยี่" มั๊ง ก็เลยทำปืนลั่นใส่ ตายคาที่เลย กรรม!

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข่าว

 

ปอกเปลือก ทรราช
เจ้าหน้าที่ตำรวจรัสเซียกำลังใช้มาตรฐานเดียวกันกับตำรวจสหรัฐในการจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงที่กระทำผิดกฎหมาย (26 มี.ค.60)
-----------------

.